ตั้งแต่ได้ใบขับขี่มานี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปขับรถ test drive ขอเล่าประสบการณ์หน่อย
วันนี้ผมไปลอง Ford Fiesta 1.6 Sport 4dr กับ Mazda 2 5dr Maxx มา เนื่องจากศูนย์สองยี่ห้อนี้อยู่ข้างๆ กันเลยได้ลองติดๆ กันเลย
เริ่มแรกผมขับ Fiesta ก่อน ขอบอกว่าประสบการณ์ผมกับรถ B-segment นั้นค่อนข้างน้อยครับ ไม่ค่อยได้นั่ง ไม่เคยได้ขับจริงจัง
ก่อนหน้าที่จะมาขับเองเคยนั่ง Fietsa คันเดียวกันนี้ โดยมีพ่อผมเป็นคนขับมาก่อนแล้ว ความรู้่สึกตอนนั้นคือประทับใจในความเงียบ นุ่มนวลกำลังดี
ไ้ด้มาขับเองก็เหมือนเดิมครับ เงียบใช้ได้ และนุ่มนวลแบบแน่นๆ คล้ายรถใหญ่กว่าที่คิดไว้ ขับทางตรง 80-110 ไม่มีปัญหา พวงมาลัยนิ่ง แต่ถ้าขยับพวงมาลัยฉับพลันที่ความเร็วเท่านั้น รู้สึกได้ว่าท้ายเหวี่ยงๆ หน่อย และกระโดดคอสะพานที่ 130 ผมว่าก็มีหวิวนิดๆ น่าจะเป็นธรรมชาติของรถน้ำหนักเบา พอให้อภัยได้
ผมลองสาดโค้งตรงที่กลับรถใต้สะพานถนนราชพฤกษ์ที่ความเร็ว 45 จากนั้นก็กดประมาณครึ่งคันเร่งออกจากโค้งตัว U ไป รู้สึกได้ว่าหน้าแถนิดๆ เหมือน traction control ยังไม่ทำงาน แต่ช่วงล่างเอาอยู่ดีทีเดียว ไม่มีท้ายออก (หรืออาจจะเป็นเพราะมีคนนั่งหลัง 2 คน) มีโยนตัวนิดหน่อย แต่เบาะทรงสปอร์ตก็รั้งตัวไว้ได้ดี พวงมาลัยสื่อสารมาให้รับรู้ว่าล้อหน้ากำลังไถลอยู่ ซึ่งรถใหญ่ๆ อย่าง Teana ไม่มีฟีลลิ่งจากพวงมาลัยแบบนี้เลย
อัตราเร่งจากเครื่อง 1.6 + เกียร์ Powershift ใช้ได้เลยครับ ไม่เร็ว แต่ก็ไม่อืด แต่ที่น่าหงุดหงิดคือเกียร์ เวลากดคันเร่งเต็มเท้าเรียกกำลังมาใช้ เกียร์ดันมีอาการสะอึก เหมือนเลือกเกียร์ไม่ถูก จากนั้นก็ค่อยเปลี่ยนเกียร์ลง ผลที่ตามมาคือความว่างเปล่าประมาณ 2 วินาที ก่อนที่รถจะเริ่มพุ่งไป ผมมองว่าถ้าในสถานการณ์ฉุกเฉิน อาการแบบนี้ไม่ดีเลย
ตรงกันข้าม ถ้าหากกดคันเร่งแค่ครึ่งๆ หรือค่อนๆ เกียร์กลับเปลี่ยนลงได้นุ่มนวลและไวดี กลายเป็นว่าคิกดาวน์เต็มเท้าอาจจะไม่เร็วเท่ากดครึ่งๆ ซะอย่างนั้น
________________________________________________________________________________
ลงมาจาก Fiesta ก็เดินเข้ามาสด้าไปลอง Mazda 2 Maxx รุ่นท็อปต่อ
สัมผัสแรกเลยคือทัศนวิสัยด้านหน้าโปร่งกว่า Fiesta เพราะเสา A บางกว่า ไม่มีกระจกหูช้างมาบดบังทัศนวิสัย
กระจกมองข้างทรงธรรมดาๆ แต่มุมมองดีกว่าของ Fiesta และพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำหนักกว่านิดหน่อย
พอเดินทางด้วยความเร็ว น้ำหนักพวงมาลัยก็มั่นใจพอกันกับ Fiesta แต่เหมือนจะหนักกว่านิดๆ และไวกว่าหน่อย
ช่วงล่างที่ความเร็วระดับนี้แข็งกว่า Fiesta แต่ไม่มากนัก จะแตกต่างมากกว่าตรงความเร็วต่ำ เวลารูดผ่านฝาท่อหรือรอยต่อถนน รู้สึกได้ว่ากระแทกกว่า Fiesta
ส่วนกระโดดคอสะพานเดียวกัน ฟิลลิ่งก็คล้ายๆ กัน ผมคิดว่า Mazda 2 หวิวน้อยกว่า แต่คนนั่งหลังดันบอกว่า Fiesta นิ่งกว่า
สาดโค้งที่จุดกลับรถเดียวกัน เติมคันเร่งตอนออกจากโค้งเหมือนกัน ผลคือ 2 ออกจะหน้าแถเหมือนกัน แต่โยนตัวน้อยกว่า และให้ความรู้สึกคล่องแคล่วกว่า Fiesta sedan หรือเพราะว่ามันเป็น hatchback ท้ายสั้นก็ไม่ทราบ
เครื่อง 1.5 + เกียร์ออโต้ 4 สปีดโบราณๆ กลับตอบสนองอัตราเร่งได้ถูกใจผมมากกว่า เพราะถึงเกียร์จะน้อย แต่กระฉับกระเฉง เดาใจได้ง่าย
อัตราเร่งหลังเข้าเกียร์ 3 ไปแล้วเหี่ยวลงชัดเจน และที่ความเร็วเดินทางรอบสูงไปหน่อย (100 รอบ 2,800) เหตุเพราะเกียร์น้อย ก็ต้องทำใจ
เบรก Mazda ให้ฟีลแบบรถญี่ปุ่นคือแตะปุ๊บหน่วงปั๊บ ส่วน Fiesta มีระยะฟรีนิดหน่อย
เสียงรบกวนจากยางเยอะกว่า Fiesta แน่นอน แต่เสียงลมน้อยพอกัน
_______________________________________________________________________________
สรุป ถ้าให้ผมเลือกจากประสบการณ์การขับคงเลือกยาก
ในมุมมองผม
Fiesta เด่นเรื่องฟีลใกล้เคียงรถใหญ่มากกว่า คือนุ่มนวลแต่เกาะถนนดี มั่นคงกว่า อัตราเร่งดีกว่า แต่เกียร์ powershift ต้องใช้ความเคยชิน
Mazda 2 ขับสนุกกว่า พวงมาลัยคม เข้าโค้งมันส์กว่า ทัศนวิสัยดีกว่า เบรกดีกว่า แต่ขับทางไกลๆ คงไม่สบายเท่า
แต่ถ้าเอาเรื่องราคา ออพชั่น หน้าตา มารวมด้วย ผมคงเลือก Fiesta เพราะแพ็กเกจดีกว่า ราคาคุ้มกว่า
จบแล้วครับ เล่าประสบการณ์ test drive ครั้งแรกในชีวิืตผม
แต่ละท่านมีความเห็นยังไงกับรถสองรุ่นนี้ เห็นด้วยไม่เห็นด้วย มา discuss กันได้ครับ ผมอยากรู้มุมมองหลายๆ คน
ปล. ตอนลองผมรีเซ็ตอัตราสิ้่นเปลืองบน trip computer ทั้งสองคัน พอขับเสร็จปรากฏว่าอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 7-7.5 L/100 km ทั้งสองคันเลย