ผู้เขียน หัวข้อ: ถามเรื่องS280 W140ครับ  (อ่าน 33327 ครั้ง)

ออฟไลน์ HaMz

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 41
    • อีเมล์
ถามเรื่องS280 W140ครับ
« เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 16:39:10 »
1)S280 option500นี่มันต่างยังไงกับOptionธรรมดาเหรอครับ?

2)เสาถอยหลังคืออะไรและมีการทำงานอย่างไรมั่งเหรอครับ?

3)เครื่องยนต์กับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นอย่างไรมั่งครับ?

4)ค่าบำรุงรักษาเป็นอย่างไรมั่งครับ?

5)ตัวMCกับตัวก่อนMC มีความแตกต่างตรงไหนมั่งครับ

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ !+! Bomb !+!

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 811
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 18:38:48 »
เอาเท่าที่ตอบได้นะครับ เพราะเคยใช้อยู่เหมือนกัน เป็น 1994 S280 W140
1. อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไหร่ว่ามีอะไรบ้าง แต่น่าจะมีกุญแจรีโมทกับเซนเซอร์จอดมาให้ (คันผมไม่มีทั้ง 2 อย่าง)
2. เสาถอยหลังจะอยู่มุมท้ายรถทั้ง 2 ด้าน จะโผล่ขึ้นมาเมื่อเข้าเกียร์ถอยหลังครับ จะสามารถมองเห็นมันได้จากกระจกมองข้าง ไว้ใช้กะระยะเวลาถอย
3. เครื่องบนต์เรี่ยวแรงดีใช้ได้ แต่พอเก่าแล้วแรงเริ่มตกครับ บางทีปีนขึ้นทางชันจะเหนื่อยหน่อย ส่วนอัตราสิ้นเปลืองประมาณ 5 km/l โหดใช้ได้เลย
4. บำรุงรักษาทั่วไปไม่มากครับ แต่ที่เสียบ่อยๆคือประตูดูดกับฝาท้ายดูดครับ
5. อันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ ผมยังงงๆกับตัวเองอยู่เลยว่ารุ่นผมมันเป็นรุ่นไหนกันแน่ 555+

ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 18:44:10 »
ขอก๊อปข้อมูลที่เขียนโดย ป๋าเสก แห่ง benzowner มาให้อ่านแล้วกันนะครับ


เมื่อก่อนมักจะมีกระทู้เปรียบมวยระหว่าง ซีคลาส กะ 124 มาเป็นพักๆ เนื่องจากตอนนั้นมีอยู่ที่บ้านทั้งคู่เลยมีโอกาสได้แ ชร์ประสบการณ์ไปตามมุมมองของตัวเองไป ผลการเปรียบมวยส่วนมาก 124 จะถูกตัดสินโดย(เมีย)เจ้าของกระทู้ให้แพ้ซีคลาสด้วยล ุ๊คที่หมดจดสดใสหน้าตาทันสมัยกว่า..เรียกว่า มองปุ๊บ ปิ๊งปั๊บ เหมือนน้องแพท หรือ น้องพีค ไม่ต้องคิดมาก ขณะที่ 124 ต้องดูไปนานๆ ยิ่งได้ทดลองใช้..จะยิ่งมองยิ่งสวยขึ้นทุกวันๆ เหมือนมาช่า หรือ แอน ทองประสม..แต่ตัวอย่างที่เปรียบเทียบนี่ผมไม่เคยทดลอ งใช้นะคับ..เด๋วจะเข้าใจผิด..อิ..อิ..

หลังๆมักเห็นกระทู้ทำนองเดียวกันอีก แต่เป็นการเปรียบมวยระหว่าง ปลาวาฬกะตา-กลม .. บังเอิญว่าตอนปล่อยซีคลาสออกไป ก็ดันมีโจทย์ที่ต้องขบคิดเป็นโจทย์นี้เลย อย่างที่รู้ๆกันว่าหวยมันออกเป็นปลาวาฬ..เลยขอแชร์ ข้อมูล และแนวคิดตามคิดประสบการณ์ที่ได้เคยทำการบ้านมาตอนจะ ซื้อ..เผื่อจะเป็นประโยชน์กับพี่น้องที่กำลังตกที่นั ่งที่ผมเคยตกมาง่ะ

ออกตัวก่อนเช่นเคยว่า เป็นมุมมองและความเห็นส่วนบุคคล แบบสองคนยลตามช่อง ห้ามโต้แย้งหรือถกเถียงชวนทะเลาะ เพราะทะเลาะยังไงก็คงไม่ขายปลาวาฬไปซื้อตา-กลม..เพราะยังต้องผ่อนอีกหลายแสน...ฮ่า....

ด้วยขนาดที่(มองเห็นด้วยตาเปล่าว่า)ใหญ่ยักษ์ เต็มถนน อ้วนๆ คางทูมๆ มั้ง..เค้าเลยเรียกมันว่าปลาวาฬ แต่คนที่บ้าน(เคย)เรียกมันว่า เบนซ์ควาย เพราะมันใหญ่..คงจะอารมณ์เดียวกะหม้อลมควายนั่นแหละ
ภายในก็ไม่ต้องเซดว่ามันจะใหญ่โตกว้างขวางแบบเหลือเฟ ือ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นตัวถังยาว..ลงท้ายด้วย L หรือ SEL ทั้งหลายแหล่ พนักพิงปรับเอนได้..มันเหมือนกับนั่งโซฟาที่บ้านดีๆน ี่เอง
เฮดรูมก็เหลือเฟือแบบไม่ต้องลุ้น ไม่ต้องถาม

เบาะหน้าไฟฟ้าแน่นอน ใหญ่โตตามขนาดของรถ นั่งเต็มก้นดีแท้ ไม่พอยังมีพิเศษกว่าที่คุ้นเคยคือ มันปรับความสั้นยาวของเบาะนั่งให้ยืดหดได้ตามความยาว ของขาใครขามัน ไม่นับปรับดันหลังตรงบั้นเอวได้อีกต่างหาก (อันนี้เป็นระบบลม คันที่ได้มามันเจ๊งไปแล้ว ยังไม่ได้บุรณะ) เรียกว่าปรับให้เข้าได้กับท่านั่งแขนสั้นขายาวอย่างไ รก็ได้ เต็มหลังเต็มก้นดีจิง

ช่วงล่างคงไม่ต้องเซดอีก ว่ามันต้องนุ่มนวลชวนฝัน ..คันที่ได้มายังต้องปรับปรุง(อีกน่ะแหละ)..เคยนั่ง S500 (มีไฮดรอลิคบาลานซ์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน) โดยเกาะไปกับช่างศักดิ์ตอนแกไปลองรถ รู้สึกเหมือนล่องลอยไปกับเรือใหญ่บนผิวน้ำนิ่งๆ..ปาน นั้น..แทบจะไม่มีอะไรมากระแทก(ตูด)ได้ ..เรื่อยๆ..เอื่อยๆ..เรื่อยๆ..เอื่อยๆ...นิ่มโคดดดดด ดด

ตัวถังมีสองเวอร์ชั่น ตัวแรกเรียกกันว่า กาบเรียบ เพราะกาบข้างมันเรียบไง..อิ..อิ.. บางคันก็มีเสาถอย(เข้าเกียร์ถอยแล้วยืดขึ้นมาเหมือนเ สาอากาศสั้นๆ ไว้ช่วยกะระยะ) บางคันไม่มี ได้แก่พวกที่ลงท้ายด้วย SE หรือ SEL เช่น 300SE 500SEL
ตัวหลังปี 95 เป็นต้นมาก็ไมเนอร์เชนจ์เป็นรุ่นกาบร่อง ..ต้องบอกอีกมั้ยว่า กาบมันเป็นร่องรอบคันรวมทั้งกันชน..
พวกนี้ต้องขึ้นต้นด้วย S แล้วตามด้วยเลขบอกขนาดเคื่องยนต์

เคื่องมีให้เลือกหลายตัว เก่าๆก็เป็น 104 หัวโหนก พวก 300SEL พอเป็นรุ่น S หน้ามาก็เป็น S280 S320 ก็เป็น 104 ตัว HFM เหมือน E280 หรือ E320 ส่วน S500 ก็เป็นวีแปดห้าพันซีซี ระบบจ่ายน้ำมันเป็น LH-jetronic ส่วน 500SEL เข้าใจว่าเป็นฝักบัวเคเจ็ท..รุ่นที่อิกนิชั่นโมดูลตั วละแสนหรือเซียงกงขายตัวละสี่หมื่นน่ะ..ไม่ยืนยันนะ

แนวคิดในการเลือกตอนนั้นมันเอนไปทางปลาวาฬนิดๆอยู่แล ้ว เพราะมันใหญ่โคตรและมีบุคลิคของมันเองที่ไม่เหมือนใค ร ไปลองนั่งลองขับตา-กลมอยู่สองสามคันก็ยิ่งแน่ใจว่า มันต้องอ้ายอ้วนนี่แหละ ..เพราะจากการทดลองขับ ตากลม(แบบสั้นๆ วนๆ คือแค่ทดลองหาฟิลลิ่งเฉยๆ ไม่ได้แช่บนทางด่วนหรืออัดยาวแบบจริงจัง) ไม่ได้ความแตกต่างจาก 124 (ซึงมีอยู่ที่บ้านและคงต้องอยู่กันไปจนตายไปข้างนึง) ..แบบขาดๆ นอกจากความใหม่สด และภายในที่นุ่มนวลสบายตาเพราะความใหม่กว่าแล้ว ทั้งขนาดห้องโดยสาร และทัศนวิสัยในการขับขี่ ไม่รุสึกต่างมากอ่ะ..

ความจริงก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะมันอยู่ในคลาสอีเหมือนกัน
แล้วก็เป็นเจนเนอเรชั่นติดกันน่ะแหละ..เหมือนนั่ง แคมรี่ตัวเก่ากับตัวใหม่

..แต่ไปนั่งเอสคลาสมันเหมือนโดดไปนั่งเล็กซัก LS400..ประมาณนี้

อีกอย่างในงบประมาณที่จะซื้อทั้งสองคันได้ จะได้ตากลมแค่ตัวแรกๆซึ่งเป็นเคือง ตองหนึ่ง 2.3L เท่านั้น ถ้าจะโดดไปหาตัวที่เป็นเคื่อง 104 หรือ เคือง V ต้องปีนไปแถวๆล้านนึงนู่นแน่ะ

พอมาดูงบเผื่อเหลือไว้ซ่อมบำรุงบุรณะแล้ว พบว่าปลาวาฬมันลงตัวมั่กๆ เจ็ดแปดแสน เคื่องตัวเล็กสุดก็ 104-2.8L ขยับอีกหน่อยก็ 3.2L หรือจะโดดไป ห้าร้อยเคื่องวีแปด มีซันรูฟ ออฟชั่นเจียรนัยไม่หมด ก็ยังไหว เพราะคนขายทิ้งกันมากกว่าหา ไม่ไหวทั้งซ่อมบำรุงและเติมน้ำมัน ราคาเลยตกเอาๆ ..เอามาใส่หัวฉีดไฟฟ้ากลอ่งเอฟค่อนแค่นี้ก็จะเลอเลิศ ประเสริฐศรีเกินคำบรรยายแล้ว เติมน้ำมันไม่ไหวก็ติดแก็สโลด แบบไม่งอแงแน่นอนเพราะกล่องเอฟคอ่นมันไม่เรือ่งมากเห มือนกล่องเบนซ์..

พูดถึงออฟชั่นของตัวถังนี้แล้ว มันเยอะแยะเกินบรรยาย ล้วนแล้วแต่เป็นแนวของเล่นแล้วก็เปราะ เกเรเกตุงดีนักทั้งนั้น เช่น นั่งหลังแล้วกดปุ่มให้เบาะหน้าซ้ายเลื่อนหลบ ตู้เย็น เข้าเกียร์ถอยแล้วกระจกมองข้างก้มลงมองฟุตบาท อารัยแบบเนี้ย มาถึงตอนนี้มันก็รอซ่อมกันทั้งนั้น มิดเตอเอ็กบอกว่า ถ้าได้ตัวห้าร้อยออฟชันเต็มมา แล้วเอามาเก็บงานให้หมดอาจมีถึงหลักสองแสน.... เช็คๆดูแล้ว ไม่น่าจะผิดไปจากนั้น บางอย่างอาจจะไม่ได้ใช้เลย ซ่อมเสร็จ ก็รอวันมันเสียอีกทีก็ซ่อมใหม่...รักปลาวาฬอย่าไปยึด ติดกับออฟชั่น เด๋วจะเป็นทุกข์ซะเปล่า

..พอแค่นี้ก่อน..เด๋วหาเวลามาต่อประสบการณ์การใช้งาน จริง และการซ่อมบำรุง ช่วงล่าง ประตูดูด ระบบแอร์ และจุดอ่อนอื่นๆ..

แต่บอกไว้ก่อนว่า ใครคิดว่า มันคันใหญ่ เกะกะ อุ้ยอ้าย ละก้อ...ผิดคับ
ค่าซ่อมปราบเสี่ย จริงหรือไม่..โปรดติดตามตอนต่อไป...อิ..อิ..  ..

ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 18:46:32 »
กลับไปอ่านโพสท์ของเมื่อวานแล้ว ให้วิตกกังวลยิ่งนัก เกรงจะเข้าใจผิดว่าไปว่า ตาเสกบอกว่า ตา-กลม เขาไม่ดี..จะไม่ดีได้ยังไงล่ะคับ ออกใหม่ป้ายแดง ตั้งไม่รุกี่ล้าน มันดีอยู่แล้ว เหตุที่ผมตัดออกไปได้ง่ายเพราะถ้าจะเอาให้ได้ดังใจแบ บเคื่องใหญ่หรือใหม่ๆ มันต้องใช้เงินเกินล้าน ซึ่งผมไม่ปัญญาซื้อต่างหาก..ฮ่า..หวยเลยออกปลาวาฬ

แต่ก็นั่นแหละ ความชอบพอก็ของใครของมันน่ะคับ เมียใคร ใครก็ว่าสวย ..เที่ยวได้ไปติเมียชาวบ้าน จะถูกถอนฟันเอาง่ายๆ..ขออภัยท่านเจ้าของตากลมทุกท่าน มา ณ ที่นี้ด้วยนะคับ

ข้างบนเป็นความเห็น ความรู้สึก นึกคิดส่วนบุคคลของผมเอง ไม่ได้ผิดถูก เหมาะสมหรือไม่ประการใดทั้งสิ้น..ห้ามนำไปใช้อ้างอิง ในศาล หรือเตนท์รถที่ใดทั้งนั้น

ขอบคุณมิดเตอเอ๊ก ที่มาต่อยอดเรื่องออพชั่น..

มาว่ากันต่อ..

ไปดูอยู่สามสี่คัน หารถมันเหนื่อยไม่ใช่น้อย หลายท่านคงทราบดีอยู่ ตั้งใจจะเอา ห้าร้อยอ่ะแหละ แต่จังหวะนั้นหาที่ถูกใจถูกราคาไม่ได้
เลยไปโดน S320 เข้าคันนึง ..มันเหมือนเนื้อคู่..เจอปุ๊บ ปิ้งปั๊บ เดินวนสามรอบ ติดเคื่องเปิดแอร์ ทดสอบประตูดูด สองสามที ควักเงินมัดจำ เรียกไฟแนนซ์มารับเอกสารเสร็จสรรพ วันรุ่งขึ้นไฟแนนซ์โทรมาแจ้งว่าเรียบร้อยแล้วพี่(ทำไ มมันเป็นหนี้ง่ายจังฟระ) ก็นัดรับรถเลย

ตามสูตรการทำรถของผมเอง ต้องเริ่มที่ช่วงล่าง ต้องให้ขับดีก่อน ขับดีแล้วค่อยขับไปทำอย่างอื่นต่อ
แต่กว่าจะได้คิวฮอยสท์ช่างศักด์ก็อีกหลายวันอยู่ ได้คิวก็ขับเข้าไป
บอกช่างศักดิ์ว่า ห้าหมื่นไม่รวมโช๊คอัพ ลุยให้เกลี้ยงเลยเพ่ แล้วก็ทิ้งรถไว้ ในใจคิดว่ายกช่วงล่าง 124 ไม่รวมโช๊ค สองสามหมื่น ปลาวาฬห้าหกหมื่น ตีว่าแพงเป็นสองเท่าก็น่าจะโอเคแล้ว

ที่ไหนได้..ห้าหมื่น ช่างศักดิ์ลุยมาจากข้างหลัง แบบเปลี่ยนทุกชิ้นที่มองเห็น รวมยางเต้าคาน มาต่อข้างหน้า ได้มาถึงแค่คันชักคันส่งระบบพวงมาลัย...หมดงบแล้ว..อ ่ะ..จ๊ากกกกก.. 
วันหลังมาต่ออีกหน่อย พวกบู๊ชปีกนกหน้า กะลูกหมากปีกนกล่าง

โช๊คอัพสี่ตัว แสตนดาร์ด หมื่นเศษ

สรุปจ่ายไปเจ็ดหมื่นฝ่าๆ กะช่วงล่าง รวมโช๊คอัพ ..ยังเหลือยางเต้าคานหน้ากะปีกนกบนอีกคู่เดียว (คู่นึงหมื่นฝ่า)..ก็จะได้ช่วงล่างเป็นรถป้ายแดงทั้ง หมดแล้ว เอาไว้ก่อน..ยังไม่มีอาการเจใดๆ..เหลือเงินไปทำอย่าง อื่นมั่ง

อันต่อไปที่ต้องจัดการคือ ระบบแอร์ ..ไม่ใช่เรื่องแอร์ไม่เย็น แต่เป็นเรื่องระบบประตูลมที่บังคับลมเย็นไปออกรูนุ่น นี่ นั่น ..อันอื่นไม่เป็นไร..แต่อันทีเป่ากระจกหน้าดันปิดไม่ ลง ตอนเช้าหรือกลางคืนหรือมีฝนหน่อย กระจกขึ้นฝ้าพรึ่บ..ขับลำบากและอันตรายมั่กๆ..
ไปหาอู่ประจำ จัดการรื้อหน้าปัทม์ลงมาทั้งอันเหมือน 124 น่ะแหละ เอาลวดผูกปิดไว้ให้หมดเลย..อ้ายประตูลมเนี่ย เหลือให้ลมออกแค่สามจุดบนหน้าปัทม์ กะท่อที่เป่าไปข้างหลังพอ ไม่ต้องปรับอะไรทั้งนั้น ..เด๋วงอแงขึ้นมาปวดหัวอีก .. แค่นี้ก็ใช้ได้แล้ว..ตัดไฟแต่ต้นลมทังหมด
ผลปรากฏว่าแอร์เย็นค่อดๆ (ทิศทางลมไม่ต้องไปยุ่งกะมัน) แบบว่าเบาสุดแล้วมันก็ยังหนาว..กลางวันแดดร้อนเปรี้ย งนี่เจ๋งมั่กๆ ขนาดไม่ติดฟิลม์ยังไม่เป็นปัญหา แต่กลางคืนนี่ต้องห่มผ้านวมคับ....ยังเป็นการบ้านอยู ่ถึงตอนนี้..แอร์เย็นเกินไป..บ้ามั้ยล่ะ

ขับมาอีสองอาทิตย์ ประตูไม่ดูดอีก ..อันนี้เป็นความสุขเล็กๆในการใช้ปลาวาฬ เวลาปิดประตู..แกร่บบบ..เบาๆแล้วมันดูดเข้า..กรึ่บบบ ...จะมีความสุขมาก
ไม่ดูดใช่มั้ย..ไปหาช่างทวน ช่างทวนจัดการปรับกล่องคอนโทรลของมันแบบว่านิดเดียวอ ่ะ แป๊บเดียวเสร็จ
ผลที่ได้...ทีนี้ดูดทุกเม็ดคับ..ทั้งสี่ประตูกะฝาหลั ง..ยะ..ฮู้...

งานแทบจะหมดแล้วล่ะคับ สรุป บุรณะไปประมาณ เฉียดๆแสน ได้เอสคลาสที่เกือบสมบูรณ์แล้ว
เหลืองาน นู่น นี่ นั่น อีกนิดหน่อยๆ ใช้ไปทำไปตามประสา ไมมีอะไรให้หนักใจ

ไม่ได้พูดถึงเคื่อง เพราะเป็นเคื่อง 104-3.2 ที่เดินดี วิ่งดี ปกติ เลยไม่ได้จ่ายซักกะบาทเดียวกับเคื่อง กินน้ำมันในเมือง แถวๆเจ็ด วิ่งไกลไปเชียงใหม่ ประมาณแปดเก้ากิโลลิตร กับน้ำหนักเกือบสองตันก็ไม่ได้ทารุณอะไร

เสียดายไม่ได้ตัวห้าร้อยมา .. จะได้เอาไปทำหัวฉีดไฟฟ้าเป็นตัวอย่าง ติดแก๊สซะ จะเจ๋งมั่กๆ

ระบบเบรคก็ไปหาหม้อลมควายกะเบรคหลังห้าร้อยมาใส่ ก็ไม่หวาดเสียวแล้ว เบรคดีกว่า 124 และ ซีคลาสมั่กๆ แสตนดาร์ดก็ไม่เดือดร้อน
หม้อลมกะเบรคหลังเดิมถอดขายกินได้อีกต่างหาก

เคืองไม่มีปัญหา ช่วงล่างจบ เบรคดี แอร์ก็ดี ประตูก็ดูด..การบุรณะแทบจะปิดโปรเจคแล้ว โดยเฉพาะช่วงล่าง น่าจะใช้ไปได้อีกซักห้าปีเป็นอย่างน้อยค่อยมาว่ากันอ ีกที ของแปลกก็มีอยู่แค่นี้ พื้นฐานอื่นๆก็ไม่ได้แตกต่างจากเบนซ์รุ่นอื่นๆแต่ประ การใด

มาว่าเรื่องขนาดใหญ่เป็นควายของมันต่อ..ใหม่ๆจะรู้สึ กมันใหญ่จิงๆ เพราะไม่คุ้น จะตีโค้งทีต้องชะโงกแล้วชะโงกอีก กัวไม่พ้น
ขับไปขับมา ซักอาทิตย์ก็เริ่มคุ้นเคย
ขับมาขับไป เดือนนึงก็เฉยๆแล้ว
วัดความกว้างความยาวของมัน มันก็ไอ้เท่ากะปิ๊กอัพวีโก้ ดีโฟดี ที่ขับกันเต็มบ้านเต็มเมืองนี่เอง
ตอนนี้ก็รู้สึกธรรมดามั่กๆ ดูรูปคนขับสูง 158 ข้างบนละกัน..ถูกอกถูกใจเค้าโค่ดๆ
วันไหนเจ้านายมาตรวจงานขอยืมไปรับเจ้านายหน่อย บ่นอุบเป็นหมี มาขับ 124 รถแรงของเรา..บอกว่าเหมือนขี่เกียนน..หนอยแน่ะ

สะระตะ..รถซื้อมาเจ็ดแสนห้า ทำไปรวมๆ เซย์ว่าแสนนึง รวมแปดแสนห้า ก็ถือว่าได้รถที่คุ้มค่ามั่กๆแล้ว ความจริงมันหนักที่ช่วงล่างง่ะ นอกนั้นไม่ได้มีอะไรเหลือบ่ากว่าแรง
ประตูดูดที่กลัวๆกัน ช่างทวนก็เอาอยู่เหมือนขนมนมเนย..ถ้ากล่องมันเดี้ยงจ ริงๆ..ในอีเบย์มีขายเพียบ ไม่กี่พันบาท
หรือลองไปเสิร์ชอีเบย์ด้วยคำว่า mercedes w140 ดู จะเอาอะไรก็มีทั้งนั้น
ระบบแอร์ก็จัดการให้มันไม่เรือ่งมากอย่างที่ว่ามาซะ
เคื่องมันก็ 104 ธรรมดาๆ แตนๆ หมูๆ
ออพชั่นคันนี้ก็มีแค่ม่านไฟฟ้าหลัง กะครู๊สคอนโทรล ไม่มีอะไรให้ต้องปวดหัว

สุดท้ายจะบอกว่า มันไม่น่ากลัวอย่างที่ฟังๆต่อๆกันมา(ในมุมมองของผมเอ ง) เข้าให้ถูกอู่ มีฟามรู้พื้นฐานกับรถมั่ง ไม่ได้เป็นรถต้องห้ามอย่างที่รู้สึกันหรอกมั้ง..ผมว่ างั้นนะ
เมื่อก่อนเป็นรถปราบเสีย เพราะมันมีแต่เสี่ย หรือเศรษฐ๊มีกะตังใช้กัน เค้าก็เข้ากันแต่ศูนย์เบนซ์ อ้ายศูนย์เบนซ์น่ะ ทุกวันนี้ อะไหล่ 124 ยังฟังไม่ได้เลย แล้วราคาอะไหล่เอสคลาสจะไปเหลืออะไรล่ะ ไอ้นู่นก็หมื่น ไอ้นี่ก็สองหมื่น สี่ห้าชิ้นก็ปาเข้าไปแสนนึงแล้ว ..

อะไหล่ตัวถังปัจจุบันที่เช็คๆมา
ไฟหน้าคู่ละหมื่นต้น พอๆกะชุดไฟท้ายทั้งชุด
กันชนหน้าหลัง ฝาโปงหน้าหลัง เซียงกง ชิ้นละหมื่นต้น
หวังว่าคงไม่ต้องใช่อ่ะนะ...อิ..อิ..   

โปรดสังเกตุว่า ผมไม่พูดถึง ลุ๊คในสายตาคนมอง เพราะไม่สนใจจิงๆ
ใครจะมองว่ามีคลาส มีภาพพจน์ ดูดี เป็นป๋า เป็นเสีย ..ก็ดี..ไม่ได้ว่าอะไร
ใครจะมองว่าเป็นคนขับรถ..ก็เรื่องของเมริง..
ขับปลาวาฬแล้วใครจะมองอย่างไรก็เรื่องของเขาคับ
ผมรู้แต่ว่า มันใหญ่ แล้วก็นุ่มตูดบ้านนอกสากๆของผมอย่างยิ่งยวด .. รถตรู เงินตรู ความพอใจของตรู ...
อย่าไปใส่ใจเลยคับ

หวังว่าท่านที่กำลังเล็งๆปลาวาฬอยู่จะพอได้ข้อมูลที่ เป็นประโยชน์
สงสัยประเด็นไหน ก็ถามมา ถ้ามีข้อมูลอยู่ ยินดีมาเล่าให้ฟังคับ
แต่อย่าเชื่อผมมากล่ะ

ถ้าไปถอยมาแล้ว..ไม่ถูกใจ นู่น นี่ นั่น ก็ตัวใครตัวมันนะ

พวกอาร์มด้านหลังเกือบทั้งหมดมันเป็นมิเนียมน่ะ..มัน เลยแพงง่ะ


Credit "เสก" benzowner

ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 18:52:53 »
ลืมเล่าให้ฟังตอนถามความเห็นคนใกล้ตัวหลายๆท่าน

ถามช่างศักดิ์ว่าเอาไรดี ตากลมหรือปลาวาฬ ...โอ้ยยยย...มันคนละช้านนน..เทียบไม่ได้หรอก..เอสคล าสนะคุณเสกกกกกกกกกกก..

ถามลุงสี่ซื้อปลาวาฬดีมั้ย..ลุงชอบอกชอบใจ เพราะเคยขับไปให้สมาชิกท่านนึงที่ขอนแก่นนู่น..แกบอก สบายยยย..

ถามช่างประจำมือโมดิฟาย 3.6 .. น่ากัวมั้ยเฮีย...แกบอก ไม่เห็นมีไร ..หารถดีๆละกัน

ถามอาจารย์แคสมั่ง...เฮ้ยยยย...จาเอาทามมายยยย...ใหญ ่โตเต็มบ้านเต็มเมือง..สรุป อาจารย์ไม่ชอบ

ถามตาคิวมั่ง...เอาแน่รื้ออออออ....น้ำเสียงไม่เชียร ์ แต่ก็ไม่ค้าน

ถามตาปิ๊ก..เฮ้ย..ลุยโลด อย่าไปฟังใคร..เวลาจะซื้อไร ถามอีตานี่เค้าไม่เคยห้ามเลย ..ซักอย่างเดียว..พี่แกเชียร์โลดทุกไอเท็ม..

สุดท้ายคนที่บ้านน่ะแหละมันตัวดี..จาเอา..จาเอา...


เสียงลือ เสียงเล่าอ้าง ที่โด่งดังในทางลบมั่กๆของปลาวาฬคือ ประตูดูด
กล่องพังเมื่อไร ลูกละแสนมั่ง
กลไกที่ประตูบานละสามหมื่นมั่ง สองหมื่นมั่ง..
คงจะจริงเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
วันนี้มันไม่ใช่แล้วคับ
ทุกคนฉลาดขึ้น
ข้อมูลข่าวสารเข้าถึงได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว
ช่างก็เรียนรู้ มีประสบการณ์กับมันหมดแล้ว
ปลาวาฬขยับลงมาอยู่ในความครอบครองของชนชั้นกลาง ช่างก็พอรู้กันว่าจะคิดตังกันเหมือนคิดตังเสี่ยเหมือ นเมื่อก่อนไม่ได้แล้ว

ถ้ามันไม่ดูด แล้วไม่อยากหรือไม่มีเวลาซ่อม
ก็ปิดมันเข้าไปเฉยๆน่ะแหละ มันไม่ว่าอะไรหรอก
รถโมเดลอื่นๆอีกเป็นหมื่นเป็นแสนโมเดล..คนขับเค้าก็ป ิดประตูกันเองกันทั้งนั้น..ไม่เห็นมีใครตายเพราะประต ูไม่ดูด

เมริงไม่ดูด กรูปิดเองก็ได้(วะ)...อิ..อิ..

พอเอาไปเดินทางไกลนี่ กลับมาบอกได้คำเดียว..สุดยอดดดดดดดดดดดด..

ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง ทางโค้ง ทางตรง น้ำเจิ่งบนถนน ลมพายุ แซงรถบัส ขึ้นเขา (ไม่ลงห้วยนะ) ถนนเรียบ ถนนขรุขระ..
ด้วยความเร็วเฉลี่ยในการเดินทาง แถวๆ 130-160
พี่แกไม่มีว่อกแว่กเลยแม้แต่น้อย
ทั้งนิ่ม ทั้งนิ่ง ไปดุ่ยๆๆๆๆๆ ไม่สนโลกภายนอกเอาซะเลย

บา...มันดีจริงๆ...ขอสรรเสริญความดีมา ณ ที่นี้
ซ่อมช่วงล่างไปหลายหมื่น พอได้ใช้งานจริงๆอย่างนี้ ไม่มีอะไรต้องเสียดายเลย
..you get what you pay for คับ

ผมแทบจะเรียกมันว่าเป็นรางวัลของชีวิตลูกจ้างอย่างผม นั่นเลย..มันดีจริงๆคับ



Credit "เสก"  Benzowner

ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 19:00:55 »
ห้าร้อยคงไม่ต้องสาธยายมาก

ตัวแรกกาบเรียบ เคื่องหัวฉีดไฟฟ้า แบบมีสวิทชิ่ง และจานจ่าย
เสื้อสูบตันทั้งตัว มักมีปัญหาเรื่องความร้อนเกาะแถวๆร้อย..(เด๋วใช้ๆไปก ็ชินไปเอง..
สวิทชิ่งเจ๊งมะไร ก็จบกัน ไปทำเอฟค่อน สะแตนอะโลนได้เลย เพราะมันหายาก
แต่ก็ไม่แน่อ่านะ แล้วแต่จังหวะ และวันเวลา
เมื่อก่อนสวิชชิ่งสามร้อยอี ตัวละเป็นหมื่น เด๋วนี้ตัวละสามพันกลาดเกลื่อน
แต่ไม่ต้องกังวลไป ถึงเวลามันเดี้ยงจิงๆ มีทางออกเยอะคับ
รถมีเยอะแยะ สวยๆเจ็ดแสนฝ่า ผมว่าไม่แพงร๊อก

ตัวหลัง กาบร่อง เคื่องหัวฉีดไฟฟ้าแบบที่เค้าเรียกกันว่า ME
สวิชชิ่ง จานจ่ายไม่มีแระ ไดเร็คคอยล์ แปดตัว
เสื้อสูบเป็นแบบกลวง มีน้ำห่อรอบทุกสูบ ความร้อนไม่มี

ดูยังไงตัวหลังก็น่าใช้กว่า แต่พี่จะหาเจอ แล้วมันจะอยู่ในงบรึป่าว

สุดยอดของสุดยอด ของห้าร้อยคือ ตัวสุดท้าย
เคื่อง ME เกียร์จุดหก ประกอบนอก มีมูนรูฟ พร้อมบาลานซ์สี่ล้อ
ถ้าเจอแบบนี้ สภาพสวยๆ เท่าไรก็ต้องซื้อคับ

ว่าด้วยเรื่องเครื่องบ้าง


ออกแนวว่าจะซื้อ แต่จะเอา สองแปด สามสอง หรือห้าร้อยดี
คงจะรู้กันอยู่แร้น ว่าถ้ามาถามผมจะได้คำตอบเีดียวคือ ห้า้ร้อยเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม ความแรงและความพอใจของแต่ละคนไม่เท่ากัน
ผ้มจาเเชร์ให้ฟัง ตามที่ได้สัมผัสมา ทั้งเคื่องสองแปด ใน 124
เคื่องสามสองใน(อดึต) รถตัวเอง เคื่อง ห้าพัน หลายๆคันของคนแถวนี้
ทั้งเคื่องหกพัน วีสิบสอง รถตัวเองใน 124 และรถคนแถวนี้อีกสองคัน
ว่าห้าร้อยมันดีก่า สองแปด สามสองอย่างไร
ด้วยมุมมองของกราผ้มเอง

เจ้าของสองแปดสามสองได้โปรดอย่ามาเคือง หรือกระแนะกระแหนใดๆ
เพราะนี่จาเป็นมุมมองส่วนบุคคล ไม่มีถูกหรือผิด
โปรดเลือกใช้ข้อมูล ตามวิจารณญาณของท่านเอง

เคือ่งสองแปดน่ะ อยู่ใน 124 ลุงยังบ่นทุกวันว่ามันไม่พอใช้ อยู่ใน ปลาวาฬมันก็ตามนั้น แถมด้วยน้ำหนักรถที่เพิ่มขึ้นอีกสี่ห้าร้อยกิโล แค่นี้ก็ไม่อยากได้แระ
ยังไม่นับว่ามันเป็นตัวสั้น เบาะหลังปรับเอนบ่ได้ หลายคันเบาะไม่มีเมมโมรี พวงมาลัยปรับแมนน่วล
อย่างที่บอก ของพวกนี้ ดูเหมือนไม่มีก็ไม่เป็นไร
แต่มีแล้วชิวิตสุขสบายขึ้นเยอะ .. จิงๆ

ยังไม่พอ ราคาก็แรงกว่า ห้าร้อย เพราะมันเป็นรุ่นหลัง ปีใหม่กว่า คน(ทีี่่ไม่มีข้อมูลอย่างที่พวกเรามี)ก็คิดว่า เคือ่งมันเล็กดี กินน้ำมันน้อย หกสูบ ฟังดูไม่น่ากัวเท่า วีแปดห้าพันซีซี

ฟามจิงแล้วมันก็ใหม่กว่ากันอยู่ไม่กี่ปี ยังไงมันก็ไอ้สิบกว่าปีเหมือนกันน่ะแหละ
ดูสภาพเอาดีฝ่า มันไม่ต่างอารัยกันมากมายหรอกคับ
คันที่เน่าก็อย่าไปเอามาเด่ะ

เคืองเล็กดูแลง่าย อันนี้น่าจะจิง
แต่กินน้ำมันน้อยก่ารึป่าว ชักไม่แน่ใจ
ในเมืองอาจจะใช่ แต่ทางยาว อาจแทบไม่ต่างหรือเคือ่งเล็กอาจจะกินน้อยกว่าด้วยซ้ำ

ด้วยขนาดเฟืองท้ายที่ีทดน้อยก่าเยอะ ห้าร้อย เบอร์ 2.65 สองแปด เบอร์สามกว่าๆ (สี่เกียร์)
วิ่งยาวด้วยความเร็วเท่ากัน ใช้รอบเคืองต่างกันเยอะ
เสียงเคืองไม่ครวญครางให้เครียด ไปเรื่อยๆ ไปเอื่อยๆ ฟรื่อออออออ..แต่ฟามจิงซัดเข้าไปร้อยสี่ร้อยห้านู่นแ ร้ว

ตัวอย่าง..วันนี้เพิ่งเอา W126 560SEL เคื่องฝักบัววีแปด เฟืองท้ายเบอร์ 2.24 ไปนอกเมืองมาประมาณสองร้อยกิโล
คันนี้วิ่งในเมือง แดร๊กสุดๆ ประมาณไม่เกิน สี่กิโลลิตร
แต่วันนี้วิ่งยาว แถวๆ ร้อยสามร้อยสี่ ใช้รอบเคือ่งสองพันนิ๊ดๆ ฟังเสียงเคื่องแรงกว่าเดินเบาหน่อยเดียวเอง..
กลับมาเติมเต็มถัง ใหม่ต้องตกใจกับอัตราการแดร๊ก
ออกมาถึง 7 กิโลลิตรเศษๆ
เห็นฤทธิ์เฟืองท้ายทดน้อยๆรึยังล่า ต่างกันเกือบเท่าตัว ขนาดเคื่องฝักบัวตัวโบราณนะเนี่ย

คันเอ๊ดแอว ก็ห้าร้อยฝักบัว ไปกลับเชียงใหม่ ยังออกมาได้ 7 เศษๆ เหมือนกันเล้ยยยย

ถ้าเป็นแก๊ดก็โลละไม่ถึงสองบาทคับพี่น้อง
กินน้อยกว่า สองแปดสามสอง ใน 124 หลายคันแถวนี้อีก

ขยับมาเป็นสามสองมั่ง..อา..เริ่มเข้าเค้าหน่อย
พูดถึง S320 นะ.. 300SEL เคื่องหัวโหนก อย่าไปยุ่ง นอกจากเจอจ๊่าบจิงๆ หรือมีพื้นฐานการซ่อมอยู่บ้าง
ควรจะเป็นตัวยาว เบาะหลังปรับได้ มีเมมเบาะ พวง และกระจกมองหลังแร้ว
ใช้ได้ล่ะ

เคืองสามสองใน 140 ไม่ขี้เหร่แล้ว
ถ้าไม่บ้าพลังมาก ก็ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกัน ไปวัดไปว่าได้ล่ะ

ยังดูแลง่าย เพราะเป็นเคื่อง 104 ที่คนแถวนี้รุจักดียิ่งกว่า ลายมือตัวเองซะอีก
บางท่านถึงขั้น เปิดฝาสูบ ซ่อมเกียร์เอง ได้ด้วยซ้ำไป

ถือว่าผ่าน

ปัญหาคือ หายาก และราคาแร้งส์ืืืสสสส..

เพราะอารัย
ก็เพราะมันพอดีๆงัยพี่น้อง
ตอนป้ายแดง คนก็ไม่ค่อยมอง ทั่วๆไปไม่คิดมาก็ออก S280
ป๋าหรือเสียมา ก็ต้องชี้นิ้วเอาตัวสุดๆ ..ห้าร้อยไปเร้ยยยย
ไม่มาสามสองให้มันกั๊กๆกึ่งๆ

สามสองมันเลยมีไม่เยอะเท่า สองแปด หรือห้าร้อย

สรุป ถ้าหาเจอรถสวย ก็เอามาได้ แต่หาให้เจอดีๆให้ไ้ด้ล่า
ระวังพวก 300SEL มาแปลงกาบแล้วเรียกเป็น S320 ให้ดีละกัน

ต่อมาที่ห้าร้อย..
จาบรรยายยังไงดี ก็มันสุดแล้วนิเพ่
ออพชั่นทุกอย่างมาครบหมด
โชคดี อาจได้ ช่วงล่างไฮดรอลิคบาลานซ์ มา้ด้วยอีกต่างหาก

เคือ่งห้าร้อยตอนนี้ก็เล่นกันเต้มมมมม..หน้าบอร์ด ในหลายๆบอดี้ ทั้ง 124 140 129
มีเพื่อเยอะแยะ เร็วๆนี้ลุงก็จาเข้าร่วมขบวนนี้แร้ว
ไม่มีอาัรัยต้องกัว

โดยเฉพาะถ้าคิดว่าจาเอามาติดแก๊ดอยู่แร้นนี่ยิ่งต้อง ห้าร้อยเรย
ยังไงก็แก๊ดลิตรละสิบเอ็ดบาท อย่าไปคิดอารัยมากมาย บาทเจ็ดสิบ บาทแปดสิบ กันอยู่นั่นแหละ
ไม่งั้นพี่น้องไปเติม โซฮอลลิตรนึงจาสี่สิบบาทอยู่รอมมะร่อ กันเด่ะ
ใช้แก็ดถูกว่ามากกว่าสามเท่า ไม่รุจากำไรยังไงแล้ว
ต่างกัน ยี่สิบตัง ไปกลับเชียงใหม่พันห้าร้อยโล เพ่ิงจาต่างกันสามร้อยบาทเอ้งงงงง....เอาน่า..

ตอนขับฟีลลิ่งมันต่างกันเยอะ หกสูบกะแปดสูบ ตัวยาวกับตัวสั้น..

ห้าร้อยเท่านั้นพี่น้อง..



Cradit "เสก" Benzowner


ออฟไลน์ =TUM=

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 631
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มิถุนายน 29, 2011, 19:02:44 »
ว่าด้วยเรื่อง S หน้า s หลังกันบ้าง

กันชนและกาบรอบคัน
..กาบเรียบ..มันก็เรียบ ไม่มีร่อง
กาบร่อง รุ่นหลัง..มันก็มีร่องต่อเนื่องกันรอบคันไงพี่น้อง.. เข้าใจแมะ..

ไฟหน้า
มองเข้าไปบนเลนส์ กาบเรียบจาเห็นเป็นสองช่อง ไฟใหญ่กะไฟตัดหมอก ชัดเจน
ส่วนกาบร่อง ไฟหน้าจากลมกลืน มองเห็นแทบจะเป็นดวงเดียว

ไฟเลี้ยวมุม
กาบร่องจาเป็นสีส้ม กาบเรียบจาเป็นสีขาวแล้วจ้า ..แต่อันนี้มันเปลีย่นกันง่าย คงไม่มีประโยชน์จาดู

ไฟท้าย
รุ่นแรกจาเป็นสามสีแบบเป็นขั้นบันได แถบเล็ก ส้ม เเดงสลับกัน
ไฟถอยอยู่บนแผงทับทิมข้างล่าง แผงทับทิมเป็นแถบยาวสองชิ้น ซ้ายขวา
รุ่นหลังไฟถอยจาเป็นแถบใหญ่ มองเห็นเป็นสามสีเรียง ส้ม แดง ขาว
ไฟถอย อยู่ในแผงทับทิมเหมือนกัน แต่แผงทับทิม เป็นสามชิ้น ซ้า้ย ขวา กลาง โดยอันกลางมีรูกุญแจฝาท้ายอยู่ตรงกลาง

กระโปรงหลัง
รุ่นแรก ชายล่างตรงมุมจาเป็นเหลี่ยมตามไฟเลี้ยว
รุ่นหลัง ชายล่างตรงมุมจาโค้งมน ตามไฟเลี้ยวเหมือนกัน

ภายใน นอกจากตัวเลขไมล์เป็นวงล้อหมุนแล้ว รุ่นเก่า ยังมีฝาเปิดเก็บของได้บนท้าวแขนบนแผงประตูด้วย

ต่างกันแค่นี้แหละมั้ง
ล้วนแต่ไม่สำคัญคับ เป็นเรื่องของลุคล้วนๆ
ถ้าลิฟท์มาให้แล้วก็ดีอ่ะสิ ..ค่าลิฟท์น่ะไม่ต่ำกว่าห้าหมื่นคับ

ถ้าเค้าไม่บอกว่าลิฟท์มา เป็นห้าร้อยทำมาเนียนอาจจะดูยาก
แต่ถ้า สามร้อยหัวโหนก ละก้อ ยังไงเคืองมันก็ฟ้องอยู่แล้วคับ



เคือ่งห้าร้อยมั่ง มีสองเวอร์ชั่นคึ่ง

เวอร์ชั่นหนึ่ง ห้าร้อยตัวแรก เสื้อสูบตัน หัวฉีดไฟฟ้า LH ฝาครอบวาล์วจาเป็นแบบ ตะกั่วๆ เหมือนเคือง 104 อาจจะเห็นสีถลอกๆ ร่อนๆ รุ่นนี้มักจาร้อนร้อยเป็นพื้น

เวอร์ชั่นหนึ่งคึ่ง ในเอสหลังตัวแรกๆ เสื้อสูบกลวง หัวฉีดไฟฟ้า LH เหมือนกัน ฝาครอบวาล์วจาเป็นเหมือน สแตนเลส แบบเคือง 111 รุ่นนี้ไม่ร้อนแระ เพราะเสื้อมันกลวงแร้ว

สองตัวนี่ เปิดฝาพลาสติกดำๆหน้าเคืองออกทั้งสองข้าง ก็จะเห็นจานจ่ายมีสายหัวเทียนยั๊วเยี๊ย เปิดฝาพลาสติค หลังไฟหน้าซ้ายก็จาเห็นสวิทชิ่งโมดุล

เวอร์ชั่นสอง ห้าร้อยตัวสุดท้าย เสื้อสูบกลวง หัวฉีดไฟ้ฟ้า ME ไดเรคคอยล์ ไม่มีจานจ่าย ไม่มีโมดุล มีคอยล์แปดตัว สูบใครสูบมัน

ME มักจาเห็นบ่อยกว่าว่ามากับเกียร์จุดหก มี S กะ W อยู่บนแป้นเกียร์
แต่ มากับเกียร์จุดสาม มี S กะ E อยุ่บนแป้นเกียร์ ..ก็มี..เพราะอารัยรู้แมะ...



เพราะ..เบนซ์ไม่มีสะแตนดาร์ดดดดดดดดดดดดดดดดด.....



Cradit "เสก" Benzowner

ออฟไลน์ V221

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,810
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 07:01:27 »
สมาชิกHLMข้อมูลแน่นและเก่งมากครับ ถ้าสนใจW140ที่มีรูปประกอบสามารถไปดูได้ใน http://www.sklasseclub.com/webboard/index.php?topic=8949.0 ที่ผมแปลไว้ให้แล้วครับ เพิ่มเติมสำหรับเสาถอยกะระยะทำงานด้วยระบบลมร่วมกับปั๊มCentral lockครับ ถ้าเล่นS280แนะนำเครื่องMEจะได้5เกียร์ไฟฟ้าก็จะไม่ค่อยอืดเหมือน4เกียร์ครับ
BMW 750E M SPORT

ออฟไลน์ Jimbo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 121
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 13:46:13 »
เพิ่งได้มาเหมือนกันครับแต่ของผมเป็น 1997 s280ME ได้มาจากเจ้าของ 7 ปลายๆสภาพดี
ขอตอบเป็นข้อๆครับจากผู้ใช้จริง
1.)S280 option500นี่มันต่างยังไงกับOptionธรรมดาเหรอครับ?
-----เอาแบบเห็นง่ายๆเลยนะครับ เบาะหน้าตรงที่ปรับเบาะมีเมม 3 ตำแหน่ง เบาะหลังปรับได้ไฟฟ้า พวงมาลัยปรับไฟฟ้า ส่วนออพชั่นอื่นแล้วแต่คันจริงๆครับ
ที่ผมบอกคือส่วนที่เห็นง่ายที่สุด

2)เสาถอยหลังคืออะไรและมีการทำงานอย่างไรมั่งเหรอครับ?
------เสาถอยจะมีในรุ่นแรกๆคิดว่าใช้ระบบ ลม ร่วมกับ ฝากระโปรงท้ายกะเซ็นทรัลล๊อกครับ ถ้ารั่วก็จะใช้ไม่ได้ คันของผมตอนนี้ก็รั่วครับแต่โชคดีไม่มีเสาถอย เป็นรุ่นสุดท้ายเป็น parktronic แล้วครับ ซ่อมปั้มลม 6000 บาท
3)เครื่องยนต์กับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เป็นอย่างไรมั่งครับ?
----ถังล่าสุด caltex gassohal 95 เกียร์ไฟฟ้า 5 สปีด วิ่ง 120-140 cruise control ตลอด รอบประมาณ 2700 รอบ ไปกลับพัทยาเส้นมอเตอร์เวย์ ได้มาประมาณ 7.4km/l ครับ น้ำมันเต็มถังมี 100 ลิตรขีดแดงที่ 20 ลิตร เติมจากไฟโชว์ถึงเต็มถังประมาณ 2900 บาทวิ่งได้ 600 กิโลประมาณนั้น กิโลละ 5 บาทครับ เดี๋ยวผมรอเครื่องดีเข้าที่เรียบร้อยจะจับติดแกสแล้วครับ
ปล.ไม่ได้โฆษณาแต่จากการลองขับคุณจะพบกับช่วงล่างและพวงมาลัยที่สมกับเป็นรถระดับ top class ของเบนซ์รุ่นนึงครับ ผมว่าขับดีกว่า d-segment ในปัจจุบันที่ลองมาแล้วทุกตัว  ต้องลองครับ

4)ค่าบำรุงรักษาเป็นอย่างไรมั่งครับ?
ตอนนี้ของผมกำลังจะทำช่วงล่างใหม่เปลี่ยนเฉพาะพวกลูกยางกะลูกหมากทั้งหลาย จานเบรคใหม่ก็ต้องมี 7-8 หมื่น อู่นอกช่างเบนซ์เก่านะครับ แต่จะได้เหมือนกลับมาใกล้เคียงกะตอนป้ายแดงครับ อะไรทุกชิ้นมีเบิกหมดทั้งมือ 1 มือ 2 ไม่ว่าจะรถนำเข้า รถธนบุรีฝาก 0 สั่งได้หมด ของผมเป็นรถนำเข้าเมื่อวานก็ยังสามารถสั่งตัวกรองแสงของซันรูฟจากเยอรมันใช้เวลาผลิตใหม่และส่งทางเครื่องบิน 15 วันครับ โดย 0 จะ key เลขตัวถังลงไปแล้วจะบอกหมดว่ารถคันนี้มีอะไรบ้าง แต่บางรายการอาจจะสูงเช่น แอบเห็นผ้าบุหลังคาใหม่หมดก็ต้องมี 60,000 บาทเป็นต้นครับ

5)ตัวMCกับตัวก่อนMC มีความแตกต่างตรงไหนมั่งครับ
ต่ามท่านข้างบนเลยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 30, 2011, 13:52:10 โดย Jimbo »
300-320-330-340-380 now 339

ออฟไลน์ k.seng

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 442
  • C230 AV V6 2.5
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 16:53:52 »
ที่บ้านมีคันนึงครับ .. เป็นปี 1995
Option เยอะที่สุด เพราะตอนนั้นนำเข้ามาขาย เป็นยุคแรกๆ ของ Grey
ตอนนั้นที่บ้านขายคันละ 4.4-4.8 ล้านบาท แล้วแต่ Option

ในรถไม่แตกต่างจาก CKD เท่าไร..


Air เป็นดิจิตอล พร้อม Option ที่เพิ่มมาคือ ม่านไฟฟ้าหลัง กระจกหุบ และ เกียร์ 5 speed



อันนี้รูป จขกท.และ น้องชาย สมัยเรียน อัสสัมชัญศรีราชา ที่ผู้ปกครองติดไว้ดูยามคิดถึง.. (เป็นไง ละอ่อนป่าว)


พวงมาลัย ไม้+หนัง Option สี่สั่งเพิ่มเติม ให้เหมือน S500


ออฟไลน์ k.seng

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 442
  • C230 AV V6 2.5
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 16:57:56 »
Moon Roof และ ช่วงล่างแบบสปอตท์ + ไฟเลี้ยวที่แก้มข้าง .. (ตอนนั้น CKD ไม่มี)


เบาะนวด (พองขึ้น .. แค่นั้น!)


เบาะหลังเอนนอนได้ .. พร้อมโต๊ะเขียนหนังสือ


สวิทซ์ปรับเบาะหลัง และ คอลโทลเบาะหน้า




ออฟไลน์ k.seng

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 442
  • C230 AV V6 2.5
    • อีเมล์
Re: ถามเรื่องS280 W140ครับ
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มิถุนายน 30, 2011, 17:03:46 »
กางออกมา แล้วเป็นแบบนี้ .. (ปัจจุบันเป็นรถโรงเรียนของลูกสาวผม ได้ใช้งานจริงแล้ว .. อิอิ)


ไมล์ ที่เชย แต่ คลาสสิก! .. เลขไมล์จริง (วิ่งปีละ 11,xxx km เองนะ)


headlight wiper


เสากะระยะ ตอนจอด .. เอาเข้าจริงๆ มองไม่เห็น


เครื่องเดิมๆ ปัจจุบันกิน Gas แต่ยังทะลุ 240 km/h อยู่ครับ



*/* สรุป ... เป็น MB ที่ดีคันนึง วางใจได้ อ้วนไปนิด แต่ น่ารัก */*
*/* Future plan อีก 10-15 ปี .. จะลอกฟิล์ม ใส่ล้อเดิม .. วิ่งแบบเดิมๆ เหมือนวันแรก */*