ผู้เขียน หัวข้อ: dtac 3G Expo นี่คือประเทศไทย ความเจ็บปวดของคน dtac และชัยชนะของความชั่วช้า  (อ่าน 22326 ครั้ง)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ก่อนอื่น เนื่องจากว่า
บทความนี้ เป็นสิ่งที่ Zipboy น้องของผมคนหนึ่ง ประสบมากับตัวเอง
และผมคิดว่า เป็นบันทึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง จากมุมมองของคนที่ทำถูกต้องตามกฎกติกาของสังคม
คือการเข้าคิว แต่กลับได้รับผลตอบแทน อันน่าทุเรศ จากพวกสถุลที่ชอบใช้กฎหมู่
แล้วอ้างว่าเป็นประชาธิปไตย ด่าคนที่ทำถูกต้องว่าเป็นพวก สองมาตรฐาน

ผมเลยขออนุญาตเจ้าตัว เอามาโพสต์ให้อ่านกันที่นี่ ในห้อง Relax นี้
แม้มันจะเป็นเรื่องไม่ Relax เท่าไหร่ แต่อยากให้อ่านกัน แล้วหวังว่าจะไม่เกิดเรื่องบ้าๆ
ทุเรศๆ ที่สุดแบบนี้ขึ้นอีกในประเทศนี้

ผมได้แต่หวัง เพราะเชื่อว่า เดี๋ยวมันก็จะเกิดขึ้นอีกอยู่ดี...

-----------------------------------------------------------

by Zipboy Donlakul on Monday, September 12, 2011 at 2:24am

ผมยังจำได้ว่า ตอนผมสี่ขวบ ณ โรงเรียนประถมแถวบ้านผม ผมเคยถูกคุณครูตี
เพราะผมแซงแถวเพื่อนซื้อเยลลี่ คุณครูสอนผมตอนนั้นว่า "มารยาทที่ดีในการรอ
คือการต่อคิวตามลำดับก่อน หลัง"

 

20 กว่าปีหลังจากนั้น

 

ผมได้ทำตามสิ่งที่คุณครูตอนเด็กสอนเรื่องการต่อแถว นั้นคือการซื้อโทรศัพท์ลดครึ่งราคาพิเศษ กับงาน dtac 3G expo ณ. Royal Paragon Hall Siam Paragon

 

โปรโมชั่นดังกล่าว ให้กับลูกค้า 100 ท่านแรกของแต่ล่ะวัน โดยงานมีในวันที่ 3 และ 4 กันยายน พร้อมกับให้กับเฉพาะลูกค้า dtac รายเดือน ที่ใช้มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป สำหรับลูกค้าแบบเติมเงิน Happy ต้องเป็นซิมการ์ดที่เปิดใช้งานไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน และลงทะเบียนซิมการ์ดเป็นชื่อเจ้าของคนที่ซื้อก่อนอยู่แล้ว สำหรับโทรศัพท์ที่นำมาลดราคา มีทั้ง iPhone 4 / BlackBerry / Nokia /HTC / Samsung

 

แน่นอนว่า โปรโมชั่นดี ล่อใจขนาดนี้ มีคนอยาก(มาก)แน่นอน การต่อคิว จึงเป็นกติกาสากลที่ยังคงใช้ได้กับทุกงาน คนมาก่อน ควรได้สิทธิก่อน การต่อคิวรอแบบข้ามคืนจึงเกิดขึ้น โดย dtac แจ้งว่า จะแจกบัตรคิวต้องลานจอดรถทางเข้าลิฟท์ฝั่ง South คิวแรกที่มาต่อ มาตอนสองทุ่มของวันพฤ และ 100 คนที่มาต่อก่อน เต็มตอนประมาณ 10 โมงเช้าวันศุกร์ หลังจากนั้น คิวที่ 101 ถึง 200 เพื่อยอมนอนข้ามคืนวันศุกร์ วันเสาร์ เพื่อไปซื้อวันอาทิตย์ ก็มาต่อคิวรอกัน และเต็มครบ 200 ในช่วงบ่ายโมงนิดๆ โดยแถวคิวทั้งหมด ต่อที่ทางเดินเลียบกับห้างตรงฝั่งเดียวกับวัดปทุมฯ

 

การต่อติวของทั้ง 200 คน มีการทำบัตรคิวเก็บไว้กันเอง เพื่อให้เป็นเครื่องระบุตำแหน่งคิวได้ แต่มีเงื่อนไขว่า ห้ามไปจากคิว นานเกิน 15 นาที รวมถึงห้ามหาคนนั่งแทนนานเกินไปเช่นกัน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ หลังจาก 200 ไปแล้ว dtac ยังไม่มารับคิวที่มีการต่อ รวมถึงดูแลคิว ในขณะเดียวกันหลัง 200 คนไป แสดงความไม่พอใจที่ต่อคิวไม่ทัน มีความรุนแรงย่อมๆ เกิดขึ้น เพราะไม่พอใจ และการต่อคิวคือ การยืนรวมกันเป็นกลุ่มก้อน เพื่อจดจ้องว่า จะทำให้ได้สิทธิในคิวตรงนั้นบ้าง

 

บ่ายสาม 200 คนแรก เป็นไปอย่างสงบ แต่ระหว่างเวลา ก็มีบรรดาพวกพยายามเกาะรั้วด้านนอกที่พยายามเล็งว่า คนที่อยู่ในคิว ออกไปแล้วพอเสียบได้ จะเข้าไป แต่ก็ไม่สามารถทำได้ เพราะส่วนใหญ่ คนที่มาต่อคิว มีเพื่อนมาส่งเสบียง รวมถึงอาสานั่งแทนให้เพื่อไปเข้าห้องน้ำ

 

การเกาะรั้ว มีทั้งการมองด้วยสายตาดูถูก มีทั้งคนที่พยายามโวยวาย แต่ทุกอย่างในคิวก็มั่นคงกันต่อไป จนถึงช่วงหกโมงเย็น จุดพลิกผันจึงเกิดขึ้น

 

Siam Paragon ทำการย้ายคนที่ต่อติวตรงทางเดินทั้งหมด พามานั่งที่ฟุตบาทหน้าห้างตรงโซนทางลง BTS ที่ติดหน้าธนาคารกรุงเทพฯ โดย Paragon พาคนนั่ง พร้อมกับล้อมรั้วให้แค่พอกั้นให้รู้เฉยๆ แต่ด้านหลังไม่มีรั้วมาปิด และทางลงบันได BTS ก็ไม่มีคนมาปิด ผลที่เกิดขึ้น คนที่มา พยายามไปกองรวมกันให้ใกล้กับคิว 200 คนแรกที่ต่อคิวอยู่

 

สี่ทุ่ม ห้างปิด รั้วถูกยกมากั้นไว้หน้าทางออกของรถที่หน้าห้าง พร้อมกับจำนวนผู้มาสมทบที่รั้วด้านหน้าทางออกของรถ ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ บางคนเลือกที่จะไปอ้อมมาเนียนต่อด้านหลังของคิว 200 คนแรก เพื่อให้พอหาโอกาสแทรกไปได้ รวมถึงหลัง BTS ปิด ก็ไม่มีการนำรั้วมากั้นทางลงบันไดของ BTS ทำให้นอกจากกองคนที่เป็นกลุ่มฝูงชน ยังมีกลุ่มที่มานั่งรวมกับคิว 200 คนแรก

 

สถานการณ์ตอนหลังเที่ยงคืนไป ทาง dtac จัดห้องน้ำเคลื่อนที่มาให้สองคัน ตรงลานจอด Taxi หน้าห้าง การแบ่งรั้วออกเป็นสองกลุ่ม Paragon เอาสลิงเหล็กมาคล้องรั้วเอาไว้ให้แน่นหนาขึ้น พร้อมกับแจกเอกสารขอเปลี่ยนจุดรับบัตรคิว ในขณะที่กลุ่มที่อยู่อีกรั้ว ก็มาเพื่อสมทบเรื่อยๆ

 

กลุ่ม 200 คนแรก มีการให้กำลังใจกัน ปรมมือเข้าจังหวะแก้เครียด แต่เหมือนเป็นการยั่วยุให้อีกรั้วโมโห โดยมีการโห่กลับ ด่าคิว 200 คนแรกว่าโกง ว่าสองมาตราฐานบ้าง รวมถึงเขย่ารั้วที่กั้น ทำให้ยามของ Siam Paragon ต้องนำเชือกสลิงโลหะมาทำการคล้องรั้วทั้งหมดให้แน่นหนาขึ้น สร้างความไม่พอใจกับกลุ่มที่อยู่รั้วด้านนอก หลังจากนั้น มีการแกะสลิงออก ทำให้ยามต้องมาพันสลิงใหม่ แบบเอาให้แน่นหนาขึ้น ยิ่งสร้างเสียงโห่+อาฆาตให้กับกลุ่มที่รอมากขึ้น

 

หลังตีสองไป มีตัวแทนจากยาม ลงมาแจ้งว่า ทาง dtac กำลังประชุมหาข้อตกลงในการจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้า เพราะเนื่องจากเห็นว่ามารอกันเยอะ ซึ่งทั้งสองฝั่ง ไม่มีปฎิกริยาอะไร และดูจะรอว่า dtac จะเอาอย่างไรต่อ

 

ตลอดช่วงหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีสี่ ในรั้วของ 200 คนแรก บางคนไม่นอน รอเวลาไปเรื่อยๆ บางคนก็หลับนอนกับเสื่อที่พกมา หรือบางคนก็เลือกที่จะไปหาอาหารรับประทานรอเวลา ในขณะที่อีกฝั่ง จะนั่งอัดๆ รวมกัน พร้อมกับรอเวลาเป็นหลัก

 

ข่วงตีห้า คนเริ่มสมทบในรั้วด้านนอก มากพอที่จะเป็นการจลาจลได้ ในขณะที่การกั้นรั่วที่ไม่เรียบร้อยแต่แรก ทำให้คนลงมาปนกับกลุ่ม 200 คนแรก เยอะขึ้นเรื่อยๆ เยอะพอให้ทุกอย่างดูกลมกลืนกันเรียบร้อย ยิ่งเมื่อมีการตั้งป้ายบอกถึงเวลารับบัตรติว ยิ่งทำให้ฝ่ายที่มาทีหลัง เหมือนเตรียมถล่มเมื่อถึงเวลา

 

ในขณะเดียวกัน ช่วงตั้งแต่ที่ออกมารอที่รั้ว ไปจนถึงตีห้า แกนนำของ 200 คนแรก แกนนำก็พลาดที่หละหลวมในการเช็คชื่อ ในการเช็คจำนวนคนเรื่อยๆ เพราะต่างคนต่างล้า จนแถวแปรสภาพเป็นกองหมู่เอง เพราะตามที่แกนนำเล็งไว้ ว่าจะเช็คชื่อตอนเช้าอีกรอบ ดูจะไม่ทันการณ์อันเนื่องมาจากรั้วที่ไม่มีการกั้นด้านหลัง กับกั้นด้านบันไดทางลง BTS คิวของ 200 จึงเละตามที่กล่าวไปในย่อหน้าก่อนหน้าทันที

 

หกโมงเช้า ความตึงเครียดกลับมาชัดเจน เพราะเมื่อข้างในมีการเคลื่อนไหว ฟ้าเริ่มสว่าง ทุกคนต่างยืนขึ้นเพื่อรอดู และการจัดคิวของ 200 คนแรก เริ่มไม่สามารถทำได้ เพราะด้วยจำนวนคนที่มากขึ้นแล้ว พอแกนนำจะจัดคิวจริงๆ แถว 100 คนแรก ยังพอได้ แต่ 100 คนหลัง ที่อยู่ด้านเดียวกับบันไดรถไฟฟ้า ที่รองรับคนมาทีหลังเต็มๆ ไม่สามารถแยกแยะได้ว่า 101-200 คือคนไหน อย่างไรกันแน่

 

เมื่อทุกอย่างเคลื่อนไหว การไหลอัดรวมกัน จนทั้งสองรั้ว ดูไม่ออกแล้วว่า ไหนคือแถวมาก่อน ไหนคือแถวมาหลัง ทุกอย่างถูกรวมแล้ว ถึง 100 คนแรก จะประกาศเช็คลำดับก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถต่อแถวได้ แถมถูกคนดันเข้าไปเรื่อยๆ จนคนที่อยู่หน้า Siam Paragon กลายเป็นก้อนๆ เดียวกันทั้งหมด

 

เจ็ดโมงเช้า คุณชัยยศ จิรบวรกุล ตัวแทนจาก dtac ออกมาเป็นคนรับหน้า ด้วยการให้เงื่อนไขเพิ่มส่วนลดค่ารายเดือน 2,000 บาทกับ 101 ถึง 1,000 คนถัดมา โดยคุณชัยยศกล่าวด้วยว่า คนมาก่อน 100 คนแรก ควรได้สิทธิก่อน สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มที่มารอทีหลัง โห่ไล่ ด่าทอ พร้อมขว้างปาทุกอย่างที่อยู่ในมือใส่คุณขัยยศ

 

คุณขัยยศหลบไปตั้งหลักสักครู่ เพื่อให้เหตุการณ์สงบขึ้น จึงออกมาประกาศว่า จะให้สิทธิ 50% จาก 100 เครื่อง เป็น 1,000 เครื่อง และส่งไม้ต่อให้พี่แอน ผู้ดูแล Event ประจำ dtac เป็นไม้ต่อในการพาคนเข้าไป แต่ทุกครั้งที่เปิดรั้วให้คนเข้า กลุ่มคนที่อยู่รั้วใกล้กับฝั่งทางออกรถของ Siam Parago จะดันตัวเองเข้ามาก่อนทั้งหมด ทำให้ฝั่ง 200 คนแแรก ไม่สามารถเข้าไปได้ รวมถึงเมื่อมีการดันกัน พี่แอนจะสั่งปิดประตูเป็นระยะๆ

 

คนที่มารอชุดแรก 200 คน เข้าไปได้หมด ผสมกับคนที่ดันไปดันมาที่อยู่แนวหน้ารั้ว ก็ครบ 1,000 คน ตามที่จัดเงื่อนไขไว้ ผู้ที่ต่อติว จะค่อยๆทยอยเข้าไปโดยหางแถมเริ่มจากกำแพงข้าง Siam Paragon ฝั่งเดียวกับที่เริ่มตั้งคิวเมื่อวานนี้ ทุกคนได้รับแจกขนมปัง น้ำดื่มจาก dtac และทยอยเดินเข้าไปที่คิว

 

ในขณะที่เข้าคิวอยู่ เมื่อหันมองกลับไปด้านหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เสียงโห่เล็กๆ รวมถึงผู้คนที่พยายามเบียดเข้าไปให้ตัวเองมีสิทธิเข้าไปซื้อ ก็ยังคงดำเนินต่อไป ในขณะที่พี่แอน ยังคงปล่อยคิว สลับกับปิดรั้ว และระหว่างนี้ มีคนเป็นลมจากการเบียด ทำให้ต้องช่วยออกมาจากกลุ่มฝูงชน

 

เมื่อใกล้ครบ 1,000 คนผู้คนยิ่งดันกันมากขึ้น เมื่อ dtac ประกาศครบ 1,000 คนแล้ว เกิดควาไม่พอใจอีก ด้วยคนที่ยังไม่ได้เข้าไปในคิว ยังไม่พอใจ ต่างต้องการให้ตัวเองได้สิทธิซื้อเช่นกัน แต่ด้วยในวันอาทิตย์ สิทธิ 100 เครื่องที่มีอยู่ หากให้เป็นการต่อคิว คงสร้างความไม่พอใจแน่นอน ทำให้ dtac ถามกับฝูงชน ว่าจะให้ทำไง ซึ่งผลที่ได้คือ ให้จับฉลากสิทธิซื้อ 50% จำนวน 100 สิทธิ และสิทธิส่วนลด 10% จำนวน 1,000 สิทธิ แต่ก็ยังสร้างความไม่พอใจกับคนบางกลุ่ม ในขณะที่เวลาการเปิดห้าง ก้ใกล้เข้ามาแล้ว

 

ตำรวจ เลยขอรับช่วงจัดการต่อ โดยประกาศให้ผู้ชุมนุมถอยออก เพื่อเปิดห้าง ไม่งั้นจะใช้การสลายด้วยมาตราการเดียวกับที่ตำรวจใช้ ทาง Siam Paragon เริ่มคลายความแน่นของรั้ว โดยกลุ่มฝูงชนเริ่มวิ่งไปตามทางของคิว 1,000 คนแรกบ้าง สลับกับวิ่งเข้าห้างเพื่อขึ้นไปตรง Royal Paragon Hall เพื่อหวังว่าไปเอาบัตรคิว ณ จุดนั้น

 

กลับมาที่คนเข้าไปรอรับคิว บรรยากาศที่เกิดขึ้น เต็มไปด้วยคนที่ต่อก่อนหน้าเยอะมาก มากจนคนที่มา 200 คนแรก กลายเป็นคิวท้ายๆ โดยส่วนมาก จะได้แถวๆ 500-800 กัน ในขณะพวกที่มาเขย่ารั้วเอาสิทธิ 50% กลับสามารถเป็นคิวที่ 300 คิวแรกสำเร็จ

 

พื้นที่ๆ ต่อคิว เป็นพื้นที่ ที่ทาง dtac ตั้งใจไว้ตอนแรกว่าจะเอาไว้ให้คนที่มาต่อคิวก่อน ได้พักไว้ กลายเป็นจุดยืนต่อแถวที่เริ่มจากเนินทางลงของรถในชั้นจอดรถขั้น G เมื่อเดินขึ้นไปตามคิว แถวคิวจะขดเป็นงูประมาณสามชั้น ในขณะที่ต่อคิว มีคนวิ่งสวนจากอีกด้าน โดยวิ่งสวนกับรถที่กำลังลงจากลานจอดรถ โดยไม่กลัวรถจะชน เพื่อเข้ามาแทรกแถว โดยที่แทรกขณะที่ทุกคนเข้าอยู่ในแถวที่มีเชือกกั้นไว้แล้ว

 

ทุกคนในแถวจึงเกาะแขนกันให้แน่นหนา เพื่อป้องกันการแทรก แต่ทุกคน ก็ยังพยายามแทรก โดยอาศัยทำเป็นยิ้ม ส่งสายตากวาน หรือทำหน้าประมาณว่าเป็นมิตร และแทรกทันที ส่วนคนในแถว ก็มีการด่าทอ โห่ไล่ พร้อมกับผลักผู้ไม่ได้ต่อแถวออกไป ในขณะเดียวกัน ผู้มาแซงคิว ก็ต่อว่าคนในคิวว่าไม่มีน้ำใจ ไม่ยอมแบ่งปัน พร้อมกับออกไปเกาะรั้วด้านนอกแบบมองหาความหวังอยู่

 

การเคลียร์คิวที่ต่อ เจ้าหน้าที่ dtac จะคอยประชาสัมพันธ์เงื่อนไขต่างๆ และระหว่างที่รอการรับบัตรคิวตรงหน้าโต๊ะ หากต้องการออกจากแถว เพื่อไปห้องน้ำ ต้องฝากบัตรประชาชน เพื่อไม่ให้ไปนานจนเกินไป ซึ่งในโซนนี้ ก็มีคนเกาะรั้ว พยายามรอจังหวะเพื่อแทรกแถวเช่นกัน

 

บัตรคิวที่ได้รับ ได้ที่ 740 บอกตรงๆ เสียความรู้สึกกับสิ่งที่เห็น เพราะนี่เท่ากับ การมานอนรอหนึ่งวัน หนึ่งคืนเต็มๆ ไม่ได้ช่วยให้ได้ก่อนตามกติกา แถมการทนต่อคิวรอ ที่สะสมความล้ามาก่อนนั้น ส่วนตัวแล้ว ผิดหวัง+เสียความรู้สึกอย่างที่สุด เพราะนั้นหมายความว่า คนที่มารอข้ามวันข้ามคืน (ไม่นับพวกมาแล้วฝากคิว กลับหายไปแล้วค่อยมาใหม่) ได้คิวที่ 600 ขึ้นไปทุกคน

 

สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น หลังจากที่ทุกสิ่งผ่านไปแล้ว บัตรคิวที่ 740 ที่ผมได้รับ ผมเดินพบคนที่ได้บัตรคิวก่อนหน้า ทุกคนยิ้มแย้ม ปกติ เหมือนไม่รู้สึกรู้สากับสิ่งที่ทำไปก่อนหน้า

 

คนเหล่านั้น มีเสื้อผ้าดีๆ มีบัตรเครดิต มีการศึกษา มีการงานดี มีรถดีๆ มีทุกสิ่งที่ดูแล้ว ไม่น่าจะใช้สันดานกติกาหมู่

 

พวกเเค้าเหล่านี้ ได้ซื้อของก่อน ได้ใช้กติกาหมู่ ไม่สนคิว ไม่สนอะไรมากไปกว่า "กูต้องได้" และพวกเค้าก็ได้อย่างภูมิใจ โดยไม่ได้สนใจว่า คนที่มาก่อน นอนรอ (ไม่นับพวกมาจองคิวแลัวหายตัว พวกนี้ก็น่าด่าอยู่ ต่อให้อยู่ใน 200 คนที่มาต่อก็ตาม) อดทน ลำบาก เพื่อทำตามกติกา แต่เค้าสนใจแค่ตัวเค้า

 

สิ่งที่น่าผิดหวังอย่างต่อมา นั้นคือ Siam Paragon ผมไม่เห็นว่า ยามของห้างนี้ จะสามารถจัดการฝูงชน หรือจัดระเบียบช่วยเหลือลูกค้าที่มาเช่าห้างของคุณในการจัดงานครั้งนี้ได้เลย ทุกอย่างเละเทะอย่างที่สุด ตั้งแต่การกั้นรั้ว การหวงที่ รวมถึงการไม่เป็นไปตามสัญญากับ dtac ที่จะให้จัดคิวในลานจอดรถ เพียงเพราะอ้างว่าคนมารอ แล้วไม่สงบ

 

ทั้งที่การจัดคิวในอาคาร ปิดมิดชิด มีระบบปิดในการจัดคิว มีเจ้าหน้าที่ dtac ช่วยจัดการอยู่ข้างใน ไม่ได้ทำให้ห้างคุณ เวลาถ่ายรูปตอนตีสอง ตีสาม แล้วดูไม่สวยสักนิด การย้ายคนออกไปนั่งหน้าห้าง คือจุดเริ่มต้นของการสร้างความหายนะในยามเช้า ที่ยามที่เก่งนักหนาของ Siam Paragon ได้สร้างขึ้น

 

คนที่น่าสงสารที่สุด สำหรับผมแล้ว นั้นคือ dtac เพราะไม่ว่าแผนจะดียังไง แต่ก็ถูกห้างดังกลางเมือง บิดพลิ้วเสียรูปทั้งหมด เมื่อทุกอย่างพัง เหตุจลาจลก็เกิด คนเสียคือ dtac ห้างไม่เสียอะไรเลย ในขณะเดียวกัน เงิน 12 ล้านที่ต้องมาจ่ายให้กับความไร้มารยาท dtac ไม่จำเป็นต้องให้กับพวกไร้มารยาทเหล่านี้ด้วยซ้ำ แต่ dtac มีจุดที่ผิดสำหรับผมอย่างเดียว นั้นคือการไม่ส่ง Staff มาดูแลแบบผลัดเวร ต่อให้โดนไล่ไปนอกห้าง ก็ควรมีเจ้าหน้าที่จาก dtac มาอำนวยความสะดวก และสร้างความเป็นทางการให้กับคนที่มาต่อคิว 200 คนแรกได้ชัดเจนกว่านี้

 

สุดท้ายนี้ ผมขอยินดี กับคนที่ได้ซื้อ โดยไม่ต้องเหนื่อยต่อคิว หรือมาแล้ว แต่อาศัยการรวมกลุ่ม กดดัน และด่าทอคนที่ต่อคิวถูกต้อง พวกคุณทำให้ผมรู้ว่า พวกคุณควรเอาหลักฐานการศึกษาทุกระดับชั้น ไปคืนสถานศึกษาเถอะ คุณได้ทำลายเกียรติของคุณ ทำลายศักดิ์ศรีคุณแล้ว ภูมิใจกับวัตถุเทคโนโลยีในมือ ที่อาศัยสันดานซื้อกันไหมครับ

 

ผมเชื่อว่าพวกคุณภูมิใจมากๆ เพราะถ้าไม่ คุณคงไม่ทำกันแบบนี้

 

อีกเรื่องที่ขอประนาม นั้นคือพวกมาต่อคิว 200 คนแรก ที่อยู่แบบ มาต่อไว้ ฝากเพื่อน แล้วหายต๋อม ค่อยกลับมา คิว ไม่ใช่ใบจอง จะได้ไปๆมาๆได้ ถ้าจะต่อคิว สิ่งที่หยวนได้มากสุด คือการไปหาของกิน ไปทำธุระส่วนตัว ทุกคนลำบาก นั่งรอ แต่คุณหลายคน มาๆ ไปๆ ให้คนที่มันอยู่ที่หลังด่าได้ ว่าโกงเค้า นี่ก็ถือเป็นความเห็นแก่ตัวที่คนต่อคิวรอจริงๆหลายคน ถูกคนบางพวก กินแรงในแถวเช่นกัน

 

 

เรามีสิ่งที่เห็นได้ด้วยตา จับได้ รับจากประสาทสัมผัสทั้งหกได้ แต่เราขาดสิ่งที่มองไม่เห็นทุกสิ่ง เราใช้เปลือกว่าประเสริฐ แต่แท้จริงแล้ว ก็ไม่ต่างกับเดรัจฉานดีๆ นั้นเอง

 

ตระกูลผมเป็นคนจีนอพยพ ถูกสอนให้รักประเทศไทย และผมก็รักประเทศไทยจากใจ ทำตามกติกา ทำตามกฎหมาย แต่สิ่งที่ผมได้รับมา ทำให้ผมรู้สึกแล้วว่า

 

"ผมเกลียดคนไทย"

 
ขอให้ประเทศนี้ติดกับคำว่า "กำลังพัฒนา" จนกว่าโลกนี้ดับสูญนะครับ


เสียงเล็กๆของผม การทำให้ถูกระเบียบของคนหยิบมือ สู้ไรกับ "กติกาหมู่ชั่วๆ" ไม่ได้หรอกครับ บางที คนเหล่านี้ ลองสลับตำแหน่งกัน แล้วผมทำเลวๆแบบนั้นใส่คุณบ้าง คุณไม่ด่า ก็แปลกแล้ว

 

แล้วทำไมด่าล่ะ ในเมื่อคุณก็ทำกับคนถูกระเบียบแบบนั้นด้วยกติกาหมู่

 

ขอไว้อาลัยให้กับคนไทย ประเทศไทย ผมจะจำเรื่องนี้ไว้สอนลูกหลานผม ให้เป็น"คน" ไม่ใช่ "สัตว์" ในร่างคน

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11,654
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 657
เห็นด้วยอย่างที่สุดครับ ประเทศเราไม่มีทางพัฒนาไปไหนได้เลย ตราบเท่าที่คนในสังคมเรายังไร้จิตสำนึกอยู่ เช่นนี้

ผมติดตามเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น กะแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ พอยิ่งมาเห็นภาพ เห็นคลิปเหตุการณ์ก็ยิ่งสลดใจ ว่านี่หรือคือสังคมที่เราอยู่ นี่หรือคือสังคมที่ลูกหลาน เราต้องเผชิญในอนาคต แนวโน้มมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่ามันจะดีขึ้น

คนใหญ่คนโต คนดัง คนรวย คนการศึกษาสูง คนที่ได้ออกสื่อ คนที่ทำดีแล้วได้ดี คนที่ทำชั่วแล้วได้ดี  ตัวอย่างดีๆ อยู่ที่ไหนหมด ?

ถึงตอนนี้ก็ได้แต่ปลอบใจตัวเอง แล้วคงต้องปล่อยวาง ใช้ชีวิตให้มีความสุข รู้ตัวเองว่าอะไรควร ไม่ควร ไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น และรักษาสิทธิตนเองให้ดี อย่าให้ไอ้พวกนี้มาละเมิดได้

"ถ้าคนอื่นเห็นคนทำเลวได้ดีแถมยังไม่มีความผิด แน่นอนใครๆ ก็อยากได้ดีกันทั้งนั้น สังคมก็จะเต็มไปด้วยเรื่องเลวๆ"
บางคนอาจคิดว่า "กุเลวครั้งเดียวเพื่อให้ได้มา แต่กุก็รู้ว่ามันเลว ต่อไปจะไม่ทำอีก" แต่คนอื่นที่เห็น เขาก็อยากได้ดีเหมือนกัน แล้วยอมทำเลวครั้งเดียวบ้าง
สรุปสุดท้าย ก็คงไม่พ้น เลว เลว เลว เลว เลว ต่อไปไม่รู้จบ จนถึงวันที่เรื่อง "เลว" ทำกันจน "ชิน" และกลายเป็นเรื่อง "ธรรมดา" ต่อไป

ทุกวันนี้พวกโตๆ คงสอนกันไม่ได้แล้ว ถ้าใครอ่านของผมแล้วคิดเหมือนผมบ้าง ผมอยากให้เริ่มกันที่ตัวเอง และช่วยกันปลูกจิตสำนึกให้เด็กๆ โดยเฉพาะลูกๆ ของพวกเรา เผื่อว่าสักวันนึง มันจะเปลี่ยนแปลงสังคมอันน่าขยะแขยงอย่างทุกวันนี้ให้ดีขึ้นได้บ้าง

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,154
 :'( มันเกิดขึ้นกับทุกระดับทุกวงการ เดี่ยวกับรถผมก็เจอช่างไทยแย่ๆมาไม่ใช่น้อย และรู้ว่าราคาคุยมันเป็นยังไงและมันยังห่างไกลคำว่าพัฒนาแล้วไปอีกมาก

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
จะอะไรกันนักหนา กับสิทธิซื้อของ เห้อ :'(

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,451
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
เห็นแล้วสลดใจ...

มันน่าจะถล่มด้วย M79 เลยนะเนี่ย
แค่คิวมือถือยัังขนาดนี้
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,850
  • MT Mania!!
ผมเห็นข่าวนี้ได้แต่อนาถใจ กับคนบางคนที่คลั่งวัตถุจนเกินไป

ลืมนึกถึงกฎระเบียบเพื่อให้ได้สิ่งที่ใจตนเองนึก

ลืมนึกถึงใจผู้อื่นที่ถูกตัวเองกระทำการบางสิ่งบางอย่าง

ผมว่าพวกเขาเหล่านั้นลืมนึกถึงอะไรหลายๆอย่างไป

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,702
  • Nine & Knight
ตอนแรกที่ผมดูข่าวนี้ ผมบอกกับแฟนว่าถ้าบ้านเราเกิดสึนามิแบบญี่ปุ่นก็คงฆ่ากันตายเพื่อแย่งอาหาร ที่อยู่รอดได้ก็คงเหลือแต่พวกเห็นแก่ตัว

บ้านเราเข้าใจประชาธิปไตยแบบผิดๆมาตลอดเข้าใจว่ามันคือการเห็นแก่ตัว ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย คำว่าสองมาตรฐาน ประชาธิปไตยเป็นเพียงคำอ้างในการทำเรื่องเห็นแก่ตัวทั้งนั้น เฮ้อ สังคมอ่อนแอลงไปทุกวัน
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

keanetona

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆแล้ว น่าจะมีประสปการณ์จากการต่อคิวซื้อไอโฟน4ในงาน TME เมื่อต้นปีแล้วนะครับ

แต่คนไทยลืมง่าย

มหากาพย์ยังมีภาคต่อไปที่วัันอาทิตย์ หลังจากที่คิวของวันเสาร์เต็มแล้ว ดีแทคให้ผู้ไม่ได้สิทธิ์มาลงชื่อเพื่อลุ้นจับฉลาก และ จับฉลากไปตั้งแต่19.00น.ของวันนั้น และ ส่ง SMS ไปประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ 100 เครื่องให้มาซื้อกันในวันอาทิตย์

แต่

วันอาทิตย์ก็ยังมีคนมาต่อคิวกัน อ้างว่าไม่รู้เรื่องว่าสิทธิ์100เครื่องเต็มหมดแล้ว และ เริ่มโวยวายจะเอาสิทธิ์ บ้างก็โวยจะเลิกใช้ดีแทค

...................


ขณะที่งาน Truemove H กลับเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย (เท่าที่ผมเห็นในตอนเย็นนะ)



ส่วนตัวผม คงจะไม่ไปคอยอะไรนานๆแบบนี้แล้วล่ะครับ หลังจากที่ตอนนั้นต้องไปต่อคิวซื้อPCTที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ซึ่งเสียเวลาไปวันนึงเต็มๆกับการรอคิว

ออฟไลน์ Yojinboh!!

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 150
ตอนแรกที่ผมดูข่าวนี้ ผมบอกกับแฟนว่าถ้าบ้านเราเกิดสึนามิแบบญี่ปุ่นก็คงฆ่ากันตายเพื่อแย่งอาหาร ที่อยู่รอดได้ก็คงเหลือแต่พวกเห็นแก่ตัว

บ้านเราเข้าใจประชาธิปไตยแบบผิดๆมาตลอดเข้าใจว่ามันคือการเห็นแก่ตัว ที่จริงแล้วไม่ใช่เลย คำว่าสองมาตรฐาน ประชาธิปไตยเป็นเพียงคำอ้างในการทำเรื่องเห็นแก่ตัวทั้งนั้น เฮ้อ สังคมอ่อนแอลงไปทุกวัน

+100 ผมเห็นด้วยกับพี่ Ninenoi นะ ทุกวันนี้คนไทยเห็นเเก่ตัวกันมากขึ้น ไม่อยากให้วันนึงมีคนต่างชาติมาบอกว่า

" เมืองไทยดีทุกอย่าง เสียอย่างเดียวที่มีคนไทยอาศัยอยู่ " :-[

zipboy

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆแล้ว น่าจะมีประสปการณ์จากการต่อคิวซื้อไอโฟน4ในงาน TME เมื่อต้นปีแล้วนะครับ

แต่คนไทยลืมง่าย

มหากาพย์ยังมีภาคต่อไปที่วัันอาทิตย์ หลังจากที่คิวของวันเสาร์เต็มแล้ว ดีแทคให้ผู้ไม่ได้สิทธิ์มาลงชื่อเพื่อลุ้นจับฉลาก และ จับฉลากไปตั้งแต่19.00น.ของวันนั้น และ ส่ง SMS ไปประกาศรายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ 100 เครื่องให้มาซื้อกันในวันอาทิตย์

แต่

วันอาทิตย์ก็ยังมีคนมาต่อคิวกัน อ้างว่าไม่รู้เรื่องว่าสิทธิ์100เครื่องเต็มหมดแล้ว และ เริ่มโวยวายจะเอาสิทธิ์ บ้างก็โวยจะเลิกใช้ดีแทค

...................


ขณะที่งาน Truemove H กลับเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย (เท่าที่ผมเห็นในตอนเย็นนะ)



ส่วนตัวผม คงจะไม่ไปคอยอะไรนานๆแบบนี้แล้วล่ะครับ หลังจากที่ตอนนั้นต้องไปต่อคิวซื้อPCTที่เดอะมอลล์งามวงศ์วาน ซึ่งเสียเวลาไปวันนึงเต็มๆกับการรอคิว

งาน true H โปรโมทแค่ 24 ชั่วโมงในวันเปิดตัวที่ผ่านมา จึงไม่แปลกที่คนจะน้อยกว่า แถมหลายคนรู้ ก็ยิ่งตั้งตารอ dtac 3G expo เพราะเหมือนพลาดโอกาสจาก true ไปแล้วด้วยครับ

true H ก็มีความเละไม่แพ้ dtac 3G expo อยู่เหมือนกันครับ ไว้จะเขียนมาเล่าให้ฟังนะครับ เพราะได้ไปต่อคิวมาเช่นกัน

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,049
    • อีเมล์
เรื่องนี้ ตั้งแต่แรกๆที่มีข่าวว่าจะขาย iphone ในราคา 50% แต่รายละเอียดไม่ชัดเจน ผมก็ตงิดในใจแล้วครับว่ามันต้องไม่ธรรมดา ..

จนวันที่ Dtac ประกาศเป็นทางการ เพื่อนผมโทรมาถามว่า เฮ่ยไปซื้อดิ (แต่ผมมี iphone4 ใช้อยู่แล้วนะ แต่พอดีเป็นคนบ้าสินค้าแบรน์นี้เพื่อนเลยชอบยุ) ผมบอกเพื่อนว่า "จะบ้าหรอ ...อย่าไปปัญญาอ่อนตามมัน" ....  ถามว่าทำไม ..

ผมเดาออกอยู่แล้วว่า ด้วยเงื่อนไขที่  dtac ประกาศออกมานั้น ... คนตรึมแน่ และผมก็ไม่อดทนพอที่จะไปต่อคิวอะไรกับใครด้วย ....

แต่ผมก็ได้เห็น คนที่คิดไม่ได้ ... กับแค่โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อหนึงที่ขายครึ่งราคากับการต้องมาต่อคิวซื้อ 3วัน 2 คืน เพื่อ..... ???

และก็เรื่องระเบียบต่อแถว ..... คนไทย ไม่มีวัฒนะธรรมการต่อแถวมาแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ จะมีต่อแถวก็ต่อเมื่อ อยู่ในโรงเรียน (ครูบังคับ) เท่านั้นแหละ

ตั้งแต่เด็ก  ..ผมขึ้นรถเมล์ ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่คนไหน หลบให้เด็กอย่างผมขึ้นก่อน หรือ คนแก่ขึ้นก่อนเลย ... มีแต่ เบียด กับแย่ง กันเสมอ ....

โตมา ขับรถ ก็จะเจอพวกไม่ต่อคิว วิ่งลัดมาเบียดตรงทางเข้าทุกที ไม่ว่าจะแยกไหน ไฟแดงไหน ..

การต่อคิวของคนไทย มันเป็นอะไรที่เป็นไปไม่ได้ พอๆกับที่คุณเฉลิมบอก จะไม่คอรับชั่น นั่นล่ะครับ ....อิอิ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 12, 2011, 14:28:37 โดย apinui »

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
เมื่อวานผมไป CTW เห็นคนต่อคิวรอซื้อเสื้อผ้าร้านนึงอยุ่

ไม่ทราบว่าร้านนี้ของเค้ามีอะไรดีครับ คนต่อคิวเหมือนแจกฟรีเลยครับ

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,049
    • อีเมล์
^
^

อ๋อ ..ร้าน Uniqlo เบรนท์ใหม่ จากญี่ปุ่นครับ เปิดตัวที่แรกที่ CTW

PKS8

  • บุคคลทั่วไป
^
^

อ๋อ ..ร้าน Uniqlo เบรนท์ใหม่ จากญี่ปุ่นครับ เปิดตัวที่แรกที่ CTW

ไม่ทราบว่าแบรด์นนี้มีดีตรงไหนครับ หรือว่าแค่เค้าลดราคาคนเลยไปต่อคิวแค่นั้นครับ

xtreme

  • บุคคลทั่วไป
เนื่องด้วยบทความของคุณ jimmy มีบางข้อความที่ กระโดดถีบ ความรู้สึกอย่างแรง
ตรงที่ความไม่พอใจอะไรบางอย่างของคุณ ทำให้ข้อความ เกลียดคนไทย ปรากฎขึ้นมา
และมีอุปมาอุปมัยเหมือนคน บางกลุ่ม เปรียบเสมือน สัตว์ ซึ่งผมได้พยายามตีความอย่าง
เบาบางที่สุดแล้ว

เนื่องจากบ้านเกิดของผมอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพ และหากนับย้อนหลังไป 100 ปี
เชื่อได้ว่าในสายเลือดของผมไม่มีเชื้อชาติอื่นปะปนอยู่แน่ หากเกินกว่านั้นก็ต้องอ่านที่มา
ของคนไทยในปัจจุบันในรอบ 600 ปี จากหนังสือประวัติศาสตร์ที่เป็นกลาง
ซึ่งจะนอกประเด็นเกินไปหน่อย

ตอนสมัยที่ผมเรียนอยู่ในกรุงเทพ กว่าครึ่งในห้องของผม คือคมไทยเชื้อสายจีนหรือครึ่งจีน
ในโรงเรียนมัธยมชายย่านยานนาวา ซึ่งน่าจะแสดงนัยยะอะไรบางอย่างได้
การที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง ได้แสดงพฤติกรรมบางอย่างที่ น่าสมเพทเวทนา และน่ารังเกียจ
ในแนวคิดแบบอารยะชน

กลับทำให้ถูกเปรียบเทียบกับ สัตว์ และเหมารวมไปในความเป็น คนไทย ด้วยนั้น
มันทำให้ผมอยากบอกกับคุณว่า กรุงเทพมหานคร ไม่ใช่ประเทศไทย
การที่คุณนำบรรพบุรุษมากล่าวอ้าง เป็นสิ่งที่ไม่สมควร หากคุณยังคิดว่าคุณคือ คนไทย
ไม่ใช่คนกรุงเทพ ซึ่งจะทำให้ บุคคลที่รู้สึกไม่ดี นำไปคิดต่อได้อย่างมากมาย

ผมอยากให้การแสดงความคิดเห็น ของคุณและสมาชิกหลายๆท่าน ได้แสดงออกมาโดยเป็นกลาง
และคิดว่า คุณอยู่ในประเทศไทย ไม่ใช่นำเสนอในฐานะคนท้องถิ่นและเหมารวมว่า
คนท้องถิ่นอื่นจะมี แนวคิด ความจำเป็น และข้อจำกัดเหมือนๆกัน

ด้วยความนับถือ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
จริงๆแล้วคนเขียนเหมารวมทุกคนนะครับ ไม่ได้ว่าๆ คนไทยเชื้อสายไหนเลย
แต่คือคนที่มีสัญชาติไทยทุกคน ที่อยู่ตรงนั้น ซึ่งผมว่าใช้คำนี้ OK นะครับ

เตือนสติกันดี ว่า เราบ้าวัตถุกันเกินไปหรือเปล่า  ;)

maxxim

  • บุคคลทั่วไป
คนที่ใช้กฏหมู่่ที่นั่นก็สมควรโดนด่าแล้วครับ

แต่ถ้าจะเอาเราไปเปรียบเทียบกับญี่ปุ่น  มันก็คงไม่ถึงกับจะถูกต้องมากนัก  อะไรหลายๆอย่างยังห่างไกลกันมาก

ประเทศที่พัฒนาแล้วหลายๆประเทศก็ยังมีปัญหาอยู่เลยครับ  แม้แต่ประเทศจีนที่คุณจากมาก็มีปัญหาจราจลเวลาต่อคิวเช่นกัน

และดูรูปสิครับ ปัจจัยมันหลายอย่าง
สนามบอลมันกว้างครับ  แล้วดูหน้าห้าง มันนิดเดียวเอง  และทั้งเจ้าหน้าที่ที่ไม่มาใส่ใจดูแล  และยังมาเจอวินัยของคนอีก


สิ่งที่คุณพูดมาทั้งหมด เกี่ยวกับความน่ารังเกียจกับคนกลุ่มที่ใช้กฏหมู่ที่นั่น ผมว่ามันถูกต้องทั้งหมด แต่ไม่อยากให้เกลียดคนไทยทั้งหมดหรอกครับ  คนดีๆยังมีอีกมากมายครับผม :D

บางทีลองคิดถึงสิ่งดีๆในสังคมไทยที่เกิดขึ้นในบางเหตุการณ์  การรวมตัวกัน (ในเรื่องดีๆ) สามัคคี เห็นอกเห็นใจ ช่วยเหลือเพื่อนมนุยษ์ด้วยกันเอง  

แม้แต่ล่าสุดร่วมกันบริจาคให้ไปดูแลสุนัขที่ชายแดน ซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉาน จำนวนเงินตั้งมากมาย ก็คนไทยไม่ใช่หรือ

คุณรักและอยากอยู่ที่นี่ คุณถึงมาตั้งรกรากที่นี่ หายโกรธแล้วมารักคนไทยเหมือนเดิมดีกว่าน่ะครับ :D

ออฟไลน์ apinui

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,049
    • อีเมล์
^
^

อ๋อ ..ร้าน Uniqlo เบรนท์ใหม่ จากญี่ปุ่นครับ เปิดตัวที่แรกที่ CTW

ไม่ทราบว่าแบรด์นนี้มีดีตรงไหนครับ หรือว่าแค่เค้าลดราคาคนเลยไปต่อคิวแค่นั้นครับ

ก็ร้านเสื้อผ้านี่แหละครับ แต่ว่าราคาขายจริงของเค้าค่อนข้างแรง ตอนเปิดร้านใหม่เค้าก็เลยลดราคา 50% เหมือนกัน คนเลยแห่ไปซื้อกันเหมือน iphone นี่แหละ

แค่เป็นแบรน์ดังจากญี่ปุ่นเท่านั้นเองครับ คนก็แห่ไปซื้อกันขนาดนี้แล้ว

ป.ล.เรื่องที่เปรียบเทียบ อย่างที่คุณ xtreme ว่ามามันก็ถูกครับ แต่ผมไม่ใส่ใจเพราะผมคิดว่าสิ่งที่เค้าว่ามานั้นไม่ใช่เรา ก็อย่าไปรับมันครับ อารมณ์คนที่เกรี่ยวกลาดระบายออกมาเช่นนี้ มันเป็นเรื่องปรกติครับ 

ออฟไลน์ AVANTGARDe'

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,069
  • AWDiesel
คิดไว้แล้วว่าต้องเป็นเหมือน iPhone4 ตอน TME แล้วก็เป็นไปตามคาด

ออฟไลน์ Lertvarit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,193
อีแค่มือถือเครื่องละ 2 หมื่น ยังแย่งกันซื้อเอาเป็นเอาตาย

ผ่านไปซัก 5 ปี ลองหันมาย้อนดูตัวเอง " nูทำอะไรลงไป!!?  "

5 ปีข้างหน้า มือถือเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับ " ขยะ "

FD 1.8 + ACV40 Hybrid + E90 LCI 320d sport 
And My new stuff  E60 LCI 520D sport

ออฟไลน์ vellcap

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,972
I-Phone 4 มันมีดีอะไรนักหนาถึงต้องไปแย่งกันขนาดนั้น ผมรู้ข่าวนี้ผมก็เฉยๆนะครับ ไม่มี I-Phone ก็ไม่ได้ตาย
ผมอยากรู้ว่าหลักๆ คุณเอา I-Phone ไปทำอะไร
ที่แน่ๆถ้าจะให้ผมไปแย่งเพื่อซื้อของนะครับ อย่าหวังเลย ผมไม่ชอบไปที่ที่มีคนเยอะๆ

ปล.ความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะครับ ถ้ายังไงก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ

ออฟไลน์ Sman

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 536
เห็นด้วยกับคุณ Vellcap ครับ

เครื่องมือถือ Iphone 4 จะไปอะไรกันหนักหนา ต้องไปต่อคิว ข้ามวันข้ามคืน เพื่อซื้อ เดี๋ยว Iphone 5 ออกมา ก็ขายทิ้งกันไปซื้อของใหม่อีก เมื่อไรจะจบ

แล้วส่วนเรื่องคนที่เขียนที่คุณ Jimmy มาโพสท์ไว้ ผมอ่านแล้ว บางอย่างก็เห็นด้วย แต่ไม่เห็นด้วยตรง เกลียดคนไทย นี่ล่ะ เพราะคุณคนเขียนก็คงมีเชื้อสายไทย อาศัยใต้ร่มบรมโพธิสมภาร ไม่ใช่หรือครับ หรือเปรียบเทียบกับสัตว์ ผมว่าแรงเกินไป

จริงๆ ผมก็แค่ขับรถผ่านตอนเขาต่อแถวกัน

แต่จากที่ผมประมวลเรื่องราวมาจากหลายที่ ผมไม่เห็นว่าผิดตรงต่อคิวน่ะ แต่ผมว่าไม่ถูกตรงตั้งคิวเอง แจกบัตรคิวเองนี่ล่ะ ถ้ามีคนไปตั้งแถวกันเอง แล้วบอกว่านี่คือคิว ถ้ามีคนไปตั้งแถวข้างๆ แถวที่บอกเป็นคิวในเวลาเดียวกัน จะทำอย่างไร ในเมื่อทางดีแทค ไม่เคยออกมาบอกเลยว่าตรงไหนเป็นที่ตั้งคิว

กรณีดังกล่าว ต่างจากการต่อคิวซื้อของในต่างประเทศ ที่ตั้งกันเป็นแคมป์ปิ้งเลย เพราะเขาจะกำหนดไว้เลยว่าตรงไหนเป็นจุดต่อคิว

แต่กรณีนี้ไม่ค่อยชัดเจน เท่าที่ทราบไม่เคยมีบอก แน่นอนย่อมทำให้เกิดความไม่พอใจกับคนที่มาทีหลังได้ เพราะอยู่ๆ บอกนี่คือคิว ต้องต่อตามเขา ถ้าเขาไม่ยอมรับคิว แล้วตั้งคิวใหม่ทำอย่างไร กรณีนี้ ดีแทคก็ไม่ชัดเจนด้วยน่ะสิ

อย่างที่บอกความเห็นส่วนตัวน่ะ ผมว่าปัญหามันอยู่ที่ความชัดเจนของการจัดงาน และจัดคิวมากกว่าครับ

ออฟไลน์ off_033

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,262
    • อีเมล์
ส่วนนึงอาจจะเป็นพ่อค้า  แม่ค้านี่แหละ  ซื้อครึ่งราคาเอามาขายต่อกำไรเห็นๆ

ส่วนนึงก็คนที่อยากได้จริง  บางคนอาจจะอยากมีส่วนร่วมประมาณครั้งหนึ่งในชีวิต

ส่วนที่คนเขียนเกลียดคนไทย ไม่เห็นด้วยครับ อย่าตัดสินคนด้วยคนเห็นแก่ตัวแค่คนกลุ่มเดียวเลยคนดีๆก็มีอีกเยอะ

Saranyu

  • บุคคลทั่วไป
ทุเรศจริงๆ

ผมเป็นคนนึงที่ใช้ iPhone อยู่ และมันก็คือโทรศัพท์เครื่องนึง ที่สักวันนึงมันก็ต้องเสื่อมค่า เสื่อมราคาไป

แต่น่าเสียดายตรงที่ นอกจากคุณค่าของวัตถุที่เสียไป มันยังจูงมือพาเอาคุณค่าทางจิตใจของมนุษย์ หายตามกันไปด้วย


ผมนั่งอ่านแล้ว พยายามไม่จิตนาการไปถึงสัตว์บางชนิด แต่มันก็ยาก

ยิ่งถ้าคนพวกนี้ ไม่ห่วงภาพพจณ์ที่ปลอมแปลงและฉาบบังด้วยเสื้อผ้า เครื่องปรุงแต่งอันสวยหรู

กริยาถ่อยแบบนั้น มันแทบจะไม่ต่างอะไรจากสุนัขเลย เพลอๆจะแย่กว่าด้วย

เพราะสุนัขที่ดี ที่ถูกฝึกมา แม้จะมีอาหารล่อใจอยู่ตรงหน้า ก็ยอมที่จะระงับอารมณ์เพื่อปฏิบัติตามคำสั่ง

แล้วคนกลุ่มนี้ล่ะ เขาไม่อายหมาบ้างหรอ

ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,226
ขอแสดงความคิดเห็นตามส่วนตัวก่อน   

"คำว่า  ผมเกลียดคนไทย  จากที่จะได้อ่านข้างล่างนี้  อยากบอกตรงๆว่ารู้สึกแบบนี้เหมือนกัน"



ทั้งจากที่พบเจอมากับตัว   ทั้งจากการที่รู้จักคนต่างชาติมาบ้าง แม้ไม่เยอะ   แต่ก็รู้ว่าเค้า อย่างน้อย ก็มีหลายๆส่วน ที่ดีกว่าคนไทย

   ไม่อยากเหมารวมคนไทยทุกคนว่าไม่ดี  แต่เพราะคนเหล่านี้จากเดิมที่เป็นคนส่วนน้อย   เริ่มขยายตัว และกลายเป็นคนส่วนใหญ่  ทั้งบรรดา  คนที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่เงิน  บางทีการศึกษาก็ไม่ได้ช่วยอะไรพวกเขา เพราะมันเกิดจาก สิ่งที่เป็นพื้นฐานของจิตใจ(ถ้าเข้าใจยากไป  สันดาน นั้นละครับ )  ซึ่งไม่มีทางแก้ไขได้   

   ยิ่งกับโลกปัจจุบัน  ทำให้ยึดติดกับสิ่งของต่างๆ หรือเงิน   สิ่งยั่วยวนใจ    และทำทุกสิ่งทุกอย่างมาเพื่อจะได้มา ไม่ว่าจะได้มันมาด้วยทางไหน    หรือจะรู้ว่าเป็นการกระทำไม่ดี  แต่ก็ทำ  เพราะมีตัวอย่างมากมาย ที่ทำไม่ดี แต่ได้ดี เลยกลายเป็นแบบอย่างต่อๆมาเรื่อยๆ ทำให้เพิ่มจำนวนคนเหล่านี้ไม่จบไม่สิ้น  จนสุดท้าย จะหาคนดีๆจริงๆ  มันก็ยากเต็มทน 

   เบื้องหน้า  ทั้งมีการศึกษา แต่งตัวดี  แต่สุดท้าย  มันสิ่งที่อยู่ในใจ แล้วสุดท้ายก็แสดงออก นิสัยความเป็นตัวตนจริงๆ ทั้งเห็นแก่ตัว หรือความโลภมาก ทั้งหลาย สุดท้ายมันก็ต้องแสดงออกมา  อย่างในงาน DTAC EXPO

   เพราะค่านิยม  ทุนนิยม  ที่เริ่มเพิ่มขึ้นมากในเมืองไทยนั่นแหละ ที่เป็นตัวก่อเริ่มสร้างปํญหาทั้งหมด
-ทั้งค่านิยมที่ว่า  คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิด   
-คนรวยใครๆก็มองว่าดี   

   ทำให้คน ทำทุกวิถีทาง เพื่อไขว่ขว้า  ถึงเงิน  อำนาจ   ไม่ว่าจะได้มาด้วยทางไหน 

   ถามว่าเกี่ยวกันอย่างไร   งาน DTAC EXPO มันเป็นงานขายโทรศัพท์  ราคาแพง ซึ่งคนไทย ต้องการ "มัน"  เพราะการใช้โทรศัพท์ดีๆ ก็เหมือนเป็นเครื่องแสดงฐานะว่าตัวเองรวย  หรือมีฐานะ   


   ฝรั่ง เคยชื่นชมเมืองไทย  ว่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม  แต่ปัจจุบัน   มันเป็นอดีตไปแล้ว



   แล้วก็ขอสรุปสั้นๆ

   "ประเทศพัฒนาแล้ว  ไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ ฐานะ  ความเป็นอยู่  ที่เขาดีกว่าเรา  คือ การศึกษา  นิสัย ระเบียบวินัย  ความเห็นแก่ตัว  ซึ่งตอนนี้ คนไทย ไม่มีทางเทียบกับคนในประเทศที่พัฒนาแล้วได้เลย " 

   เพราะแบบนี้ ขอสนับสนุนกับบทความของคุณคนนี้    ตอนแรกผมก็จะไปแต่วันศุกร์กับเขาเหมือนกัน กะไปสนุกๆว่าจะทันไหม   
   แต่พอมาฉุกคิดได้ทัน  ก็เลยไม่ไป  คิดว่ามันน่าจะต้องเกิดอะไรขึ้นแน่นอน  เพราะมันจัดขึ้นที่ไหน 

ประเทศไทย  !!!!!


  สุดท้ายมันก็.......


เป็นไป  ตามคาด  .......

ออฟไลน์ gankstardra

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 95
    • อีเมล์
การ์ตูนล้อเลียนงานนี้ ขำๆครับ












































Credit Pantip.com   จากคุณ : pinepeace



ออฟไลน์ SP

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,715
มันก็แค่โทรศัพท์เครื่องนึงที่มีความสามารถมากมายแค่นั้นเอง ไม่มีใช้ก็ไม่ตาย

apple นี่ก็เก่งเนาะ ทำสินค้าออกมาก็สามารถทำให้คนแห่มาซื้อกันได้มากมายขนาดนี้

ออฟไลน์ deaw2011

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,867
    • http://metrosystems-des.com/
ผมรอ iphone 5 อย่างเดียว
แต่ที่แน่ๆผมไม่ไปยืนแย่งซื้อแบบนั่นแน่นอน ;D

ออฟไลน์ Newhang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,154
ผมเห็นด้วยกับคุณ Butterzai อย่างมากๆ
ผมเองก็แปลกใจที่หลายๆคนนำไปตีความตรงๆกันเกินไปแบบศรีธนญชัย เพราะมันจะไปรวมเป็นทุกคนไม่ได้อยู่แล้ว แต่มันก็เห็นกันอยู่ว่าส่วนใหญ่เป็นแบบนั้นจริง

ส่วนคำเปรียบเทียบสัตว์ หรือคำว่าเกลียดคนไทย(มันไม่ได้หมายถึงทุกคน แต่สังคมมันเป็นแบบนั้นจริงคนไทยเรา) ผมว่า2คำนี้ไม่แรงเกินไปเพราะคนที่ไม่เคยเจอไม่มีวันรู้หรอกครับ และต้องบอกกลับอย่างรุนแรงสักหน่อยว่า อย่าผู้ดีไปหน่อยเลยครับ สิ่งที่เจอมันคือความจริงของคนส่วนใหญ่ไม่ใช่จะแย่กันทุกคน



ผมเองเกิดมาโดนสั่งสอนในแบบเดียวกันคือเข้าคิว และสังคมไทยมันก็เดินมาได้ดีพอสมควร จนกระทั่งปัจจุบันไม่รู้เกิดอะไรขึ้นคนเห็นแก่ตัวเต็มเมือง คนเห็นแก่ตัวมองคนดีเป็นไอ้โง่ซะอย่างนั้น


ในมุมผมสำหรับประเทศไทย สังคมไทย มันคือยุคมืดของประเทศไทยจริงๆ