ผู้เขียน หัวข้อ: นอกจากประเทศไทยแล้ว มีประเทศไหนในโลกบ้างที่สนับสนุนให้ประชาชนซื้อรถยนต์ ?  (อ่าน 12308 ครั้ง)

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ก็ว่ากันไปครับ จริงอยู่ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ ตามความตั้งใจของรัฐมันก็มี ตามที่บางท่านว่า

แต่ประเด็นที่อีกหลายๆๆท่าน จะสื่อมากกว่าคือ จำนวนนั้นมัน "น้อย" ครับ ไม่คุ้มกับเม็ดเงินที่ต้องเสียไป เทียบกับการนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ
อย่างที่โน๊ต เดี่ยว9 พูดไว้ในเรื่องของ คำขวัญกทม. เกี่ยวกับเรื่องขนส่งครับ ลองไปฟังดู ยูทูบก็มี จะรอแผ่นแท้ออกก็ยิ่งดี  สนุกดีครับ อย่าเครียดครับ ^^

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
ญาติทางฝั่งแฟนผมเป็นคนต่างจังหวัดครับแล้วก็พากันพูดว่าไม่ได้ให้ประโยชน์กับพวกเค้าเลย ชีวิตต่างจังหวัดไม่ได้ต้องเร่งรีบและต้องมีรถยนต์ส่วนตัวเหมือนอย่างในกรุงเทพ เค้ามีรถสองแถว แท็กซี่ รถเมล์ในเมืองพร้อมใช้ ถ้ามีมอเตอไซคันเดียวก็เพียงพอแล้ว คนจำนวนมากตามต่างจังหวัออกรถใหม่มาได้ไม่นานสุดท้าก็จอดไว้บ้านเฉยๆขี่มอเตอไซหรือปั่นจักรยานเอา เพราะไม่รู้จะใช้ไปทำไมระยะทางใก้ๆและที่สำคัญรถไม่ติดด้วย ตามจังหวัดใหญ่ๆที่มีรถติดนั้นลองชะโงกดูใกล้ๆสิครับกรุงเทพมหานครทั้งนั้น รถต่างจังหวัดน้อยมากที่จะติดถ้าไม่ใช่เมืองใหญ่ๆอย่างเชียงใหม่ อยุธยา

รากฐานของระบบคมนาคมที่มีคุณภาพต้องเริ่มต้นมาจากการบริการสาธารณะครับไม่ใช่ที่ตัวคนใดคนหนึ่ง นโยบายนี้ผมให้เต็มที่ไม่เกิน5ปีคนเกือบครึ่งก็ขายรถทิ้งหาซื้อคันใหม่กันหมดแล้ว แต่ถ้าเอามาลงทุนกับรถเมล์เราสามารถใช้งานมันได้อย่างน้อยๆสิบปีหรือมากกว่านั้นตามที่เราเห็นๆกันอยู่ตั้งแต่สมัยรุ่นปู่เราแล้วที่แล่นๆกันน่ะ ส่วนในกรณีที่ว่ากลางคืนมีคนเจบป่วยนั้นไม่ต้องกลัวเลย ถ้ามีรถสาธารณะจริงไปได้อยู่แล้ว แต่ไม่ต้องมองการไกลขนาดนั้นครับในตอนนี้ชาวบ้านเค้าก็มีเงินเพียงพอที่จะซื้อรถมือสองสภาพดีๆกันแล้ว ไม่จำเป็นต้องง้อรถใหม่แต่อย่่างใด และตามพื้นที่นั้นๆก็ไม่ได้มีรถติดมีมลภาวะสูงชนิดที่ต้องเอาเรื่องลดมลพิษมาใช้ด้วย
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ pon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 34
เห็นด้วยกับหลายๆท่านครับ ประเทศไทยไม่ใช่แค่กรุงเทพ
ดังนั้นเลิกนโยบายนี้แล้วเอาไปสร้างรถไฟฟ้า ออกจะเป็นความคิดที่ไม่ค่อยคิดถึงหัวอกคนที่อยู่ตจว.ห่างไกล
ไม่มีระบบขนส่งมวลชน หรือจะทำก็ทำยากมากเพราะความหนาแน่นประชากรต่ำเกินไป ไม่คุ้ม
ดังนั้นที่เหมาะสมที่สุดก็คือ นโยบายนี้ เพื่อช่วยให้คนที่จำเป็นและรายได้ไม่มากพอ(แม้จะไม่จนจนไม่มีเงินซื้อรถ)
ก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้

พ่อแม่ที่อยู่ตจว.สามารถขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียนที่อยู่ห่างออกไป20-30กม.ได้
โดยไม่ต้องทนขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนกันไป ฝนตกก็เปียก อันตราย ขนของได้นิดเดียว ฯลฯ

ดึกดื่นจำเป็นต้องเดินทางขึ้นมา เช่น มีคนป่วย แต่มีแค่มอเตอร์ไซค์ต้องวิ่งไปเรียกเพื่อนบ้านที่ห่างออกไปเป็นกิโลๆ
จะอยู่หรือเปล่าก็ไม่รู้
คนจะค้าขายก็สามารถใช้ในการพาณิชย์ได้ อย่างน้อยก็ทำให้เพิ่มขอบเขตที่สามารถเดินทางได้มากขึ้น
เข้าใกล้ตลาดได้มากขึ้น ขนได้ทีละมากขึ้น สินค้าปลอดภัยไม่เสียหายจากน้ำฝน ฯลฯ

และขอทีเหอะครับที่กลัวคนไทย "คนอื่น" จะโง่จนไม่ประมาณตัวเองว่าซื้อได้หรือไม่ได้
คนเหมือนกันก็ต้องเคารพในวิจารณญาณของคนอื่นด้วยครับ เราไม่ได้คิดเป็นตัดสินใจเป็นอยู่กลุ่มเดียว
ใครๆก็ไม่อยากเดือดร้อนเพราะซื้อของเกินตัวทั้งนั้น หรือมีก็คงเปอร์เซนต์น้อยจนหักล้างข้อเสียของนโยบายได้มากกว่า

สำหรับผมแล้วการเป็นหนี้ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแม้แต่น้อย
อย่างที่เคยเขียนไปกระทู้อื่นว่า ผมเชื่อในทุนนิยม บริโภคนิยม และเสรีนิยม
ไม่เห็นด้วยกับความพอเพียงที่มากเกินไปและการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย

นักธุรกิจที่ร่ำรวยตอนนี้ก็ล้วนแต่เคยเป็นหนี้กันมาแล้วและตอนหนี้ก็คงเป็นหนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
มากน้อยต่างกันไป การเป็นหนี้คือโอกาสในการพัฒนาครับ
อย่างน้อยนโยบายนี้ก็ทำให้ราคารถที่แพงเว่อร์ในเมืองไทย ลดดีกรีลงไปได้บ้าง
แม้จะลดได้ไม่เยอะก็ตามเมื่อเทียบกับรายได้โดยรวมของประชาชน



ออฟไลน์ H.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,896
    • อีเมล์
ที่บ่นกัน เรื่องของเรื่องคือ ตัวเองมีรถ เเล้วเลย ไม่ได้ผลประโยชน์ใช่ไหม?

เเล้วที่บ่นว่า ทำให้คนเป็นหนี้เป็นสิน  
ไม่มีใครบังคับ ให้คุณไปซื้อรถหรอก
คุณต้องประมาณตัวคุณเองว่ามีกำลังซื้อ พอหรือไม่

จี้ดดด แต่ตรงใจ  :o


การเป็นหนี้ หากเป็นเพราะลงทุน คุ้มครับ ถึงจะล้มละลายแต่ก็ได้ประสบการณ์ ฮา  :D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2011, 20:09:05 โดย Codename - H »
H.

ออฟไลน์ PuM

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 144
    • iPum
    • อีเมล์
ผมสงสัยจริงๆ ว่าใครบ้าง ที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ นอกจากค่ายรถยนต์???

ออฟไลน์ gttle

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 222
    • อีเมล์
ดีไม่ดียังไม่รู้เหมือนกันครับแต่เชื่อไหมจังหวัดผมไม่มีรถเมล์ครับกี่รัฐบาลก็ไม่มีปัญญาทำได้ ไม่ว่านะ ปชป หรือ พท นั่งรถไฟไปกรุงเทพรถด่วนพิเศษด้วย 13 ชัวโมงครับดังนั้นคนบ้านผมถ้าทำงานพอมีเงินเดือนทุกคนต้องคิดจะซื้อรถยนต์ครับเพราะมันสะดวกและคนส่วนใหญ่ไม่เชื่อว่าภายใน 10 ปีนี้จะแก้ปัญหานี้ได้ไม่ว่าจะพรรคไหนก็เถอะตอนค้านน่ะเก่งกันจังพอขึ้มาเหมือนกันหมด ดังนั้นถ้ามุมมองคนคนบ้านผมก็ถือว่ายังดีกว่าไม่มีนโยบายอะไรมาช่วยครับ

เรื่องที่หลายท่านบอกว่าให้เอางบไปพัฒนาขนส่งมวลชนนี่ขอโทษครับผมไม่คิดว่าจะทำได้ใน 5-10ปีนี้ครับ ไม่รู้รัฐบาลจะคิดงี้รึเปล่าเลยออกนโยบายนี้มาครับ

ออฟไลน์ Cross MPV

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 325
อคติกันเกินไปหรือเปล่า

ตัวเองขับรถ แต่ไม่อยากให้คนอื่นๆ(ที่งบน้อย) อยากมีรถขับบ้าง?
Find a vacuum and fill it.

ออฟไลน์ Happy

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 15
ใครชอบฝั่งไหนก็เชียร์ฝั่งนั้นหละ กระทู้อุปโลกความคิดตัวเองรึเปล่า?

ออฟไลน์ balliblue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
ก็มีแต่นักการเมืองเลวๆ ที่คิดแต่จะเอาใจรากหญ้าให้มาเป็นหนี้ซื้อรถแหละ นับวันรากหญ้าก็จะกลายเป็นรากเน่า เพราะรัฐบาลแดงนี่แหละ


สรุป เจตนาต้องการซื้อเสียงแต่หาคำพูดสวยหรูมากลบเกลื่อนว่าแบ่งเบาภาระ ถ้างั้นไมไม่ลดภาษีสรรพสามิตไปเลยละ สมแล้วที่เค้าตั้งฉายาว่า ดีแต่โม้

ออฟไลน์ Oslan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
ถ้าบอกว่านโยบายนี้ไม่ดี งบควรเอาไปทำอย่างอื่นน่ะ ผมเห็นด้วยนะครับ แต่ถ้าคิดว่านโยบายนี้ซื้อเสียง แจกตังไม่หนักกว่าเหรอครับ = =''

นโยบายนี้คนได้ประโยชน์ก็เฮกันไป คนไม่ได้ก็ด่ากันไป แต่ช่วยอธิบายเหตุผลให้ดีหน่อยเถอะครับ ของบางคนผมอ่านแล้ว บอกเลยว่า "ไม่ไหว"

ผมว่าพอเถอะ นี่บอร์ดรถยนต์นะครับ ไม่ใช่บอร์ดการเมือง และที่สำคัญ ไม่เบื่อประเด็นนี้กันบ้างเหรอครับ หรือสะใจที่ได้ด่า ??

หรือถ้าจะถก Discuss กันจริงๆ ช่วยยกเหตุผลให้ดีกว่า คำว่า "ไม่พอใจ" เถอะครับ

ออฟไลน์ TorTy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,992
ก็มีแต่นักการเมืองเลวๆ ที่คิดแต่จะเอาใจรากหญ้าให้มาเป็นหนี้ซื้อรถแหละ นับวันรากหญ้าก็จะกลายเป็นรากเน่า เพราะรัฐบาลแดงนี่แหละ


สรุป เจตนาต้องการซื้อเสียงแต่หาคำพูดสวยหรูมากลบเกลื่อนว่าแบ่งเบาภาระ ถ้างั้นไมไม่ลดภาษีสรรพสามิตไปเลยละ สมแล้วที่เค้าตั้งฉายาว่า ดีแต่โม้
ตลกดีนะครับดีแต่โม้นี่รู้สึกจะเป็นเจ้าเก่านะไม่ใช้เจ้าใหม่ที่เค้าแซวกันนะอย่าพิมพ์เยอะซิครับเดี่ยวเค้ารู้กันหมดเชียร์ใคร
ต้องแจกเงินใช้ไม๊ถึงโดนใจแทบจะกด Like นะครับ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ

1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ

แต่

2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง

ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ

รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า

เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย

แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กันยายน 14, 2011, 23:01:19 โดย YIM »
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ 5thAvenue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,434
  • Hi!!!!
    • อีเมล์
มาแอบแปลคำย่อ....คนไทยส่วนใหญ่หิวกระต่าย อิอิ

Blue 229

  • บุคคลทั่วไป
ตามคำถามของ จขกท.
เท่าที่ผมทราบ ผมยังไม่เคยเห็นรัฐบาลประเทศใดรวมทั้งรัฐบาลไทย มีนโยบายสาธารณะ
สนับสนุนให้ประชากรซื้อรถยนต์โดยตรงครับ เพราะรถยนต์เองก็เป็นสินค้าประเภทหนึ่งครับ
และไม่มีนโยบายใด มีศักยภาพขนาดบังคับการซื้อ การขายได้ครับ
จะทำได้ก็แค่จูงใจเท่านั้นครับ และนโยบายนั้นต้องมีผลประโยชน์ที่ชัดเจนจริงๆครับ

ส่วนนโยบายลดภาษีรถคันแรก ผมมองว่านโยบายนี้ไม่เกี่ยวข้องกับจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้นหรือน้อยลงครับ
นโยบายนี้มีชื่อเกี่ยวกับรถก็จริง แต่มันไม่ได้หมายถึงการจะทำให้คนมีรถได้ง่ายขึ้นครับ
นโยบายนี้ไม่ใช่ลักษณะของการแจกเงินให้เอาไปซื้อนะครับ
ตัวนโยบายมันเป็นเรื่องของการลดภาระค่าใช้จ่ายประชาชนในส่วนของภาษีครับ
หรือ มันเป็นการลดภาษีทางหนึ่งเท่านั้นครับ และเป็นเรื่องนโยบายที่ส่งผลเฉพาะกลุ่ม
แต่การเป็นเรื่องเฉพาะกลุ่ม นั้นไม่ได้หมายความว่าคนที่ไม่ได้สิทธิจะเสียผลประโยชน์ครับ

และการที่นโยบายนี้จะต้องใช้เม็ดเงินมาเพื่ออุดหนุนยอดที่ลดภาษี
ก็ไม่ได้หมายความว่า โครงการระบบขนส่งมวลชน จะไม่มีเงินเหลือเพื่อนำไปสร้างให้ครบเส้นทางแต่อย่างใด
การนำไปเชื่อมโยง ว่านำเงินตรงนี้ไปใช้ที่ตรงนั้นจะมีประโยชน์กว่า
ผมมองว่ามันไ่ม่เกี่ยวข้องกันครับ คนละหน่วยงาน  คนละบริบทกันครับ

ออฟไลน์ nicsjerry

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 497
    • อีเมล์
มีทั้งข้อดี และข้อเสีย  ทำใจยอมรับกันไป ไม่งั้น มี ผอ  เอา ...

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ

1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ

แต่

2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง

ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ

รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า

เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย

แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ

อ้าวคุณยิ้ม จบจากม.อุบลเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ที่เดียวกันเลย นึกถึงสมัยนั่งรถแดงแฮะหวานเย็นดีทำให้กลายเป็นคนสใจเย็นไปได้เลย
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ neung23

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,661
นโยบายจะมีก็มีไปบ่นไปก็เหนื่อย

แต่เก็บภาษีรถวิ่งในกรุงให้เยอะขึ้น ดีกว่า

ผมใช้ในกรุงทุกวัน ยังเบื่อเลย ไม่รู้มันจะติดไปไหน
2013 W204 C250 AMG Plus
2011 Prius
2010 X5 xDrive 4.8i
2003 E39 523i Sport

ออฟไลน์ lokastanfa

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
ผมไม่แสดง ความ คีดอะไรหรอก ครับ แต่อยากถาม ว่า ถ้า ผ่อนไม่ไหวแล้ว ขายไม่ใด้ทำไง ครับ ใครรับ ผีดชอบ

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,332
 ;D ;D ;D.........อเมริกาครับ  ที่สนับสนุนให้คนช่วยมาซื้อรถใหม่กันเยอะๆ  และชักชวนให้ซื้อรถที่ผลิตในอเมริกาด้วย  เพื่อให้เงินหมุนเวียนกับอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับคนอเมริกันด้วยกัน
                                                                                                              yogibear

ออฟไลน์ Blanco

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 124
ใจเย็นๆกันครับอย่าหลุดไปไกลแด๋วโดนเตือนยกกระทู้ :P
บางคนว่าพวกที่ก็ดูถูกคนอื่น ทั้งๆที่ตนเองก็ดูถูกคนอื่นอย่างโง่ๆ น่าสมเพชเวทนาครับ

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ต้องแยกเป็น 2 ประเด็นครับ

1. ทำไมไม่เอาภาษีที่ลดหย่อน ไปพัฒนาขนส่งมวลชน
อันนี้แน่นอนครับ ผมก็อยากจะเห็นเมืองไทยมีระบบ Metro ที่ดีๆ แบบ New York ใช้ ผมจะได้ไม่ต้องนั่ง taxi เวลาไม่มีรถขับ

แต่

2. การส่งเสริมให้คนมีรถยนต์ ผิดหรือ??
ไม่ผิดครับ ในประเทศที่ระบบขนส่งมวลชนห่วยแตก แล้วมีการผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างอเมริกัน เมื่อ 80-90 ปีที่แล้ว จนถึงช่วงปี 70 ก็แบบนี้เหมือนกันครับ (จริงๆ เกิดจาก GM ทำลายระบบขนส่งมวลชน เพื่อขายรถ) สำหรับผม ชีวิตโดยเฉพาะต่างจังหวัด การมีรถสักคัน มันก็ดีกว่าไม่มีครับ ยิ่งถ้าอยู่ห่างจากตัวเมือง

ตอนผมเรียน ม. อุบล มันอยู่ไกลจากเมือง 17 โล ถ้าไม่มีเจ้า Galant ผมคงได้แต่คุดคู้อยู่แถวมหาลัย ไปไหนไม่ได้แหงๆ

รถสองแถว ใช้ได้แค่ในเมืองระยะทางสั้นๆ ครับ ถ้านั่งยาวๆ นั่งกันอ้วกแน่ เพราะช้ามาก ผมเคยนั่ง 17 โล ราวๆ 2 ชม. กว่าได้มั้ง ผมว่าขับรถดีกว่า

เหตุผลเดียวที่ผมไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้คือ ในเมื่อมี Eco Car ที่เป็นนโยบายส่งเสริมการมีรถแล้ว จะออกนโยบายซ้ำซ้อนกันอีกทำไม คือผมว่าพอมีนโยบายที่มีจุดประสงค์เดียวกัน 2 อย่าง ผมว่ามันเกินไปหน่อย

แล้วก็
ตอนนี้เราวิจารณ์นโยบาย ไม่ใช่วิจารณ์รัฐบาล แยกประเด็นด้วยครับ

อ้าวคุณยิ้ม จบจากม.อุบลเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นก็ที่เดียวกันเลย นึกถึงสมัยนั่งรถแดงแฮะหวานเย็นดีทำให้กลายเป็นคนสใจเย็นไปได้เลย

อ้าว งั้นขอเรียกพี่เลยละกัน ไม่ทราบคณะไหน รหัสอะไรครับ

ผมจบเภสัช รหัส 48 ครับ

คิดถึง ม. เหมือนกันครับ ตอนนี้ 7-11 7 อันได้แล้วมั้ง ตอนไปเรียนใหม่ๆ แทบจะไม่มีอะไรเลย นอกจาก 7-11 หน้าหอดีจริง

ยินดีที่ได้รู้จักครับ
JDM เท่านั้น จะครองโลก!