« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กันยายน 30, 2011, 17:09:15 »
คือผมไม่ได้ชวนทะเราะนะครับ ขออภัยด้วยที่ความเห็นอาจดูไม่เข้าท่า ....
คือจริงๆผมไม่เห็นด้วยที่จะลอยตัว แต่ก็ไม่เห็นด้วยที่จะอุ้ม น่ะครับ
ราคาที่จะบอกว่าขายตามกลไกลตลาด หรือ ขายในราคาตามตลาดโลก หรืออะไรก็แล้วแต่เนี่ย ราคาที่จะขายกันที่หัวจ่ายเนี่ย เป็นราคาจำนวนหนึ่ง ยกตัวเลขกลมๆเลยคือ 37 บาทละกัน
ทีนี้ ถามว่าทำไมเป็นราคานี้ มีค่าขนส่ง ค่าการกลั่น ค่าโน่นค่านี่ อื่นๆมากมาย แต่ค่าใช้จ่ายพวกนี้อยู่ในส่วน fixed cost ซึ่งไม่มีผลในการขึ้นลงของราคาขาย .... (มีก็น้อยมาก และไม่แปลผันบ่อยๆ)
สิ่งที่เป็นตัวแปลจริงๆคือ ราคาน้ำมันดิบ ที่เค้าซื้อมา โดยอ้างอิงค์ราคาตลาดต่างประเทศ น้ำมันดิบที่เราดูใน TV มันก็ราคาหนึ่ง แต่ถามว่าโรงกลั่นซื้อมาราคาไหน
ไม่มีใครรู้ครับ อะไรที่ทำให้มันขายที่ 37 บาท
กลั่นไปกลั่นมา วันดีคืนดี ข่าวออก ราคาน้ำมันตลาดโลกขยับขึ้น จำนวนหนึ่ง หลังจากนั้น ไม่กี่วัน ในประเทศประกาสขยับตาม ....ถามว่าถูกต้องเปล่า ... เอาสต๊อกเก่ามาขาย ราคาสต๊อกใหม่หรือเปล่า ....
และในทางกลับกัน ราคาน้ำมันดิบลง แทนที่ 3-5วันให้หลังจะปรับลดลง กับกลายเป็นอ้างว่า ราคาน้ำมันสำเร็จรูปสิงค์โปร ยังทรงตัว หรือบอกว่าขอดูแนวโน้มต่ออีก 2-3 วัน ... ดูสิ ....
ตราบใดที่ ต้นทุนของราคาน้ำมันที่ขายในประเทศไม่ชัดเจน ผันผวนบ่อยๆ เดียวขึ้นเดียวลง การคุมราคา ให้เหมาะสมดีที่สุด แต่ไม่ใช่อุ้มนะ ....
ถ้าประกาศว่าลอยตัว ก็ไร้การควบคุม ปั่นราคากัน อยากให้แพง ก็หาข้ออ้างต่างๆนานากันได้ตลอด เพื่อให้ราคาสูงขึ้น อย่างที่กลุ่ม Opec ทำ ... เราอยากให้ในประเทศเป็นแบบนั้นหรอครับ ...
นี่โรงกลั่น ESSO ที่สิงคโปรไฟไหม้ รอดูละกันว่า รายใหญ่จะอ้างอะไร ทั้งๆที่มีโรงกลั่นเป็นของตัวเองถึง 7 แห่ง
ป.ล.ถ้าค.ห.ผมมันรุนแรง ก็ขออภัยคุณ IncarRus ด้วยครับ
