ถาม 4 เรื่องครับ ล้อ,น้ำมันเครื่อง, ผ้าเบรก, รถโมเดล

[lonely]

1. ล้อ Enkai ที่ TS Thai นำมาขาย
ซึ่งเป็นล้อนำเข้าจากญี่ปุ่นนั้น ขอบ 15 นิ้ว วงละ
ประมาณ 7,800 บาท
เป็นล้อ Forced หรือเปล่าครับ หรือเป็นแค่ล้อ Cast ครับ
ถ้าไม่ใช่ล้อ Forced แล้ว มีล้อ Forced ขอบ 15 นิ้ว
ขนาด 4 รู 100 ออฟเซ็ตประมาณ 38 ใส่กับ city zx ที่ราคาน่าคบบ้างครับ
สนใน Buddy Club P1-QF แต่มันสีขาวอ่ะครับ
รถผมสีเงิน มันเข้ากันไม่ได้เลย

2. น้ำมันเครื่องเบอร์ 5W30 ยี่ห้อไหนประสิทธิภาพดีสุดครับ
ตอนนี้ใช้ Valvoline 5W30 รอบต้นถึงกลาง (ไม่เกิน 4,000 รอบ)
ก็ลื่นดีครับ แต่พอเกินกว่านั้น เหมือนเครื่องไม่มีกำลัง
Valvoline 5W30 + V-Power Sohol 95 เหยียบบนบูรพาวิถีได้แค่ 140 กม. (ตอนเร่งแซง)
น้ำมันเครื่องศูนย์ Honda 10W30+เบนซิน 95 ของเชลล์ ก่อนเปลี่ยนมาเป็น V-Power เบนซิน
เหยียบบนบูรพาวิถีได้ 150 กม. (ตอนเร่งแซง)
ที่ผมเห็นมีขายก็
2.1 Valvoline
2.2 Total
2.3 Caltex Havoline Energy
2.4 Castrol EDGE
2.5 Shell Rimula Ultra (แต่ดูค่า VI แล้ว ก็มันจะข้นไป เหมือนตอนใช้ Mobil 1 0W40)
2.6 ELF 0W30 (แต่ไม่รู้มีขายหรือเปล่า)
2.7 ZIC น้ำมันเครื่องจากเกาหลี ยังไม่น่าสนใจ
2.8 Mobil 1
2.9 ปตท.

มีท่านใดเคยใช้น้ำมันเครื่องเบอร์ 5w30 ยี่ห้อต่างๆ เหล่านี้บ้างครับ ช่วยแบ่งปันประสบการณ์ด้วยครับ ยิ่งถ้าใช้กับ City ZX ยิ่งดีเลยครับ

2.10 นั่งดูคลิปทดสอบน้ำมันเครื่องเบอร์ 5w30  5 ยี่ห้อ จาก youtube
กับ mitsu evo 6 (ถ้าจำไม่ผิด)
น้ำมันเครื่องยี่ห้อ Nulon จากออสเตรเลีย
ให้แรงม้าสูงสุด (ทดสอบบนไดโน โดยน้ำมันเครื่อง 1 ยี่ห้อ ทดสอบ 2 ครั้ง)

ก็เลยสนใจยี่ห้อ Nulon ครับ ไม่ทราบว่าในไทยมีขายไหมครับ

3. ผ้าเบรก nsport U spec มีท่านใดเคยใช้บ้างครับ
เพราะเท่าที่คุยกับทาง nbrake คือ นำสารเคมีจาก project U
มาผลิตในไทย เพื่อทำราคาให้ถูกลง
(เดิมใช้ na-p แต่มันเข้ากับสไตล์การขับรถของผม เลยเปลี่ยนกลับ
เป็น Si-Tech แต่ก็ยังเบรกแล้วลื่นๆ อยู่ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะจากเบรก
ที่เปลี่ยนมาลุยน้ำท่วมตั้งแต่วันแรกเลยหรือเปล่า (จานเทียบยี่ห้อ
AXIOM ซื้อจากร้านกิจเจริญชัย) หนนี้เลยกะว่าจะเปลี่ยนจานเบรก
เป็นของ TRW แต่ก็หนาเพียง 21 มม. เหมือนกัน จานเบรกของติดรถ
หลังจากเจียร์ ผมเอาเวอร์เนียวัดได้ 21 มม. แปลว่าจานโรงงานเดิมๆ
หนา 23 มม. ใช่ไหมครับ

และมีท่านใดเคยใช้จานเบรกของ TRW บ้างครับ เห็นว่า TRW ทำจาน
OEM ส่งให้โรงงาน

4. ถามเรื่องรถโมเดลครับ
เห็นในเซ็นทรัล ยี่ห้ออะไรจำไม่ได้
เป็น ลัมโบกินี่  made in italy อัตราส่วน 1:16 หรือ 1:24 นี่แหล่ะครับ
คันละ 790 บาท
ผมอยากได้อยู่ 4 รุ่นครับ อัตราส่วน 1:16 หรือ 1:24
4.1 Honda City ZX
4.2 Mitsu Lancer EX
4.3 Alfa Romeo 156
4.4 Aston Martin DB9

มีท่านใดพอทราบบ้างครับ ว่ารถโมเดลยี่ห้อไหน งานดี ราคาไม่แพงมาก (ไม่เกิน 1,000 บาทต่อคัน)

ขอบคุณครับ

[YenChar]

ขอตอบเป็นบางข้อนะครับ

ข้อแรก

ผมว่าไม่ใช่ล้อแท้ครับ
เพื่อนผมใส่ล้อแท้ ขอบ 15 หนังแค่ 4 กิโลนิดๆ
ราคาตกวงล่ะ หมื่นกว่าบาท

ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่แท้ไม่แท้ครับ
แต่การวัดประสิทธิภาพของล้อ อยู่ที่น้ำหนักล้อ และความทนทาน
ล้อขอบ 15 ที่หนักราวๆ 4-5 กิโล สำหรับผมถือว่าเบามากมายแล้วครับ
ไม่จำเป็นต้องหาล้อแท้ๆ  เพราะอย่างผมใส่ Lenso S-2 ล้อไทยทำ
หนักราวๆ 5.4 กิโล ก็ถือว่าเบามากมายแล้ว

แต่จะมี Ultra Light ไม่แน่ใจของ Advanti หรือเปล่า อันนี้ 4.9 กิโล
ผมว่ามันพอแล้วล่ะครับ ถ้าไม่ได้ไปแข่งในสนามแบบจับเวลาเป็นวินาทีจริงๆจังๆ

ถ้าล้อเบา แต่ไปหนักจานเบรค มันก็เท่านั้นครับ อยู่ที่ความสมดุลด้วย
ล้อเบา เบรคเบา ช่วงล่างรถขยับได้เร็ว คล่องตัว+ช่วงล่างทำงานเต็มประสิทธิภาพครับ


ข้อ 2
ผมมองว่าคุณใช้ Valvoline เบอร์ 30 ก็เรียกว่าแทบจะท๊อปสุดๆแล้วนะครับ
ถ้าจะเหนือกว่านี้ ผมว่าคงไล่เลี่ยกันหมด

ส่วนตัวผม ผมว่า 3 ยี่ห้อที่ผมและเพื่อนๆชอบคือ Mobil1 Valvoline และ Castrol ครับ

กรณีรอบสูง หรือเล่นกับเครื่องที่หมุนราวๆ 7 พันรอบขึ้นไป
ผมคิดว่าเบอร์ 40 เหมาะกว่าครับ

แต่ส่วนตัวผม ผมใช้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้ จากศูนย์ พอแล้วครับ
ผมลาก 5-6 พันรอบบ่อยๆ ใช้เบอร์ 40 แท้มาตลอด วิ่งมา 8 หมื่นแล้ว เครื่องยังฟิตครับ



ตอบได้แค่นี้แหละครับ รอท่านอื่นมาต่อ

[AnubisTT]

ตอบแค่ 2 ข้อพอ
1. ไม่ได้เป็นล้อ Forged แต่เป็น Cast แบบพิเศษ โดยการบวนการ Flow forming ซึ่งทาง Enkei ใช้เรียกเฉพาะของเขาว่า M.A.T. (Most Advanced Technology) http://www.enkei.co.jp/en/technology/mat/ แม้จะไม่ใช่ forged แต่เรื่องน้ำหนักถือว่าเบากว่าล้อ casting ทั่วไปมาก เบาในระดับที่ใกล้เคียงกับล้อ forged เลย ซึ่งพวกล้อญี่ปุ่นเบรนด์ดังราคาแพง อย่างล้อตระกูล Advan racing  (RG, RS, RZ) ก็เป็นล้อ casting แต่ก็ยังเบาหวิวพอๆกับ forged ถ้าเดาไม่ผิดคุณ จขกท. คงถามถึงรุ่น RPF1 อยู่หรือเปล่า รุ่นนี้ขอบ 15 หนักแค่ 4.3 kg ล้อ Enkei Japan ขอบ 15 ราคาปรมาณนี้แหละ ขอบ 17 ประมาณหนึ่งหมื่นบวกลบพันต่อลูก ไม่ได้แพงมากอย่าง Rays, BBS, Advan ถ้าอยากได้ในราคาถูกลงไปอีก Advanti ก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะแบรนด์นี้ใช้เทคโนโลยีและการควบคุมคุณภาพของ Enkei ในการผลิต แต่ต้องดูด้วยว่ารุ่นไหนเป็น MAT บ้าง
2. เบอร์ 30 เท่าที่เคยใช้มาประทับใจ mobil1 กับ sunoco ที่สุด

[LimitedEdition]

ข้อ 1
Enkei ถ้าราคานั้น น่าจะของแท้ครับ
แต่ไม่ใช่ล้อ Forged ไม่งั้นจะมีบอกไว้ชัดเจน

จริงจริงต้องถามก่อนว่า ราคาน่าคบนี่เท่าไหร่ครับ
เพราะล้อ 4 รู 100 ออฟเซ็ท 38 นี่มีเยอะที่สุดในตลาดแล้ว
ล้อ Enkei Racing จากโรงงานในไทยราคาก็วงละ 4-6 พันบาทเท่านั้น
แต่ถ้าต้องการล้อเบาก็ควรมองข้ามไปครับ Buddy Club จะเบาเสียกว่า
หรือไม่ก็ต้องไปหาล้อมือสองญี่ปุ่นสภาพดี ชุดนึงเดี๋ยวนี้ก็แพงเอาเรื่องเหมือนกัน

จะว่าไป เราก็ไม่ได้ต้องการความแข็งแรงระดับล้อ Forged ขนาดนั้น
เพราะถ้าห่วงเรื่องดุ้ง ใส่ล้อ 15 ยางก็หนา ซับแรงกระแทกไปได้เยอะแล้วครับ
แต่ถ้าอยากได้เบาและแกร่ง อันนั้นก็เลี่ยงกันไม่ได้ ต้องถามว่า City ZX
มีเรี่ยวแรง 110 แรงม้า มันจะดึงประสิทธิภาพออกมาได้ขนาดนั้นหรือไม่
อันนี้แล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ ต้องตอบตัวเองเอง

ข้อ 2
ผมแปลกใจว่าเอาอะไรวัด ถึงบอกว่าเหยียบเร่งแซงแล้วได้เท่านั้นเท่านี้
ตอนแซงกดคันเร่งเท่าไหร่ครับ กดนานเท่าไหร่ รอบอยู่ที่เท่าไหร่ ความเร็วก่อนแซงเท่าไหร่
เพราะผมขับ Jazz i-DSi ของแฟนบนบูรพาวิถีและมอเตอร์เวย์ ในวันที่ต้องรีบมากมาก
ผมก็ส่งมันขึ้นไป 160-170 ได้ อาจจะไปถึงช้าหน่อย แต่ก็ไปถึงได้แบบไม่ต้องลุ้นมาก

จริงจริง น้ำมันเครื่อง Valvoline ก็ดีอยู่แล้วครับ ยิ่งเบอร์ใสขนาดนี้ยิ่งไม่น่าเป็นประเด็น
มันก็กลับไปที่ประเด็นเดิมอีกแหละครับ ว่าเครื่องเดิม 110 แรงม้า (หรือ 88 แรงม้า?)
น้ำมันเครื่องเบอร์ต่างกันนิดเดียว มันไม่ได้ให้ผลแรงม้าต่างกันมากหรอกครับ
พวกรถเทอร์โบ หรือโมดิฟายมาแรงม้ามากมาก เวลาเปลี่ยนชนิดน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเชื้อเพลิง หรือ Configuration นิดหน่อยก็มักจะเห็นผลมากกว่า ซึ่งก็ไม่แปลก
สมมติว่า เปลี่ยนน้ำมันเครื่องมีผล 3% บนแรงม้า รถ Evo มี 280 แรงม้า 3% ก็ปาเข้าไป 8.5 ตัว
ในขณะที่รถเราเรา มี 110 แรงม้า มันก็ขึ้นมาแค่ 3 ตัว เจอเกียร์ออโต้สูญเสียแรงไปอีก ก็หดไปอีก

ถ้าอยากรู้ว่าอันไหนดีไม่ดี ไปหาเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่องมาติดเลยครับ
อะไรที่รักษาแรงดันได้คงที่กว่า อันนั้นก็ให้ประสิทธิภาพการหล่อลื่นที่ดีกว่า
ส่วนเจ้าไหนทำแล้วได้แรงม้ามากกว่า ผมว่าคงต้องไปขึ้น DynoTest วัดกันสถานเดียวครับ

[iiuuiisj]

Hks
ไม่เคยใช้ อันอื่นเลย ใช้มาตลอด หกหมื่นแล้ว

คิดว่าจะลองอันอื่นนะ เเต่ไม่รู้จะเอาอันไหนดี

30 40สลับกัน

[lonely]

ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยตอบครับ

---คุณ YenChar ครับ ผมก็ใช้ Lenso รุ่น Light S2 กับ ที่ล้อ
จะมีสติกเกอร์แปะไว้ว่า Lenso Super Light Weight Racing Wheel
ที่ล้อพิมพ์น้ำหนักไว้ที่ 5.8 KG รองรับน้ำหนักได้ 500 KG

-- คุณ AnubisTT ครับ ตอนแรกผมกะว่าถ้าผ่อนรถหมดปลายปีนี้
ก็จะเก็บตังค์เปลี่ยนล้อใหม่ครับ อยากได้ล้อฟอร์ช ตอนแรกคิดว่า ถ้า Enkai ญี่ปุ่น
ขอบ 15 วงละประมาณ 7,800 บาท ก็ถูกกว่า Buddy Club หน่อย ก็ประหยัดตังค์ได้หน่อยนึง
แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ล้อ Buddy Club น่าสนใจกว่าครับ (ถ้าจำไม่ผิด ล้อ Buddy Club
P1-QF ที่เจ้านายเก่าใส่กับ Jazz รุ่นที่แล้ว หนัก 4.9 kg ครับ)

-- คุณ Nuay@Protege ครับ ล้อ Buddy Club
P1-QF ที่เจ้านายเก่าใส่กับ Jazz รุ่นที่แล้ว (เครื่อง I-DSI 88 แรงม้า)
ก็ดุ้งได้ครับ เขาขับบนถนนพระราม 2 กับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช
กลับมา ยังมาเล่าให้ผมฟังเลยครับ ว่าตกหลุมตรงไหนไม่ตก
ไปตกหลุมหน้าศูนย์ Toyota เขายังขำเลยครับ
เป็นล้อหลังซ้าย ขอบล้อเบี้ยวไปหน่อย แต่ยางเสียหายเยอะ
ยางขนาด 195/50/15 ของ Yokohama รุ่นAdvance AD-07 เขาเลยเปลี่ยนเอา
MY-01 ของ Bridgestone มาใส่แทนเพื่อประหยัดเงิน (ลายคล้ายๆ กัน)

ข้อน้ำมันเครื่อง  ผมขออธิบายจากการที่ผมขับไม่ได้อิงทฤษฎีอะไรนะครับ
-- ประมาณเดือน ก.ค. ปี 2552
รถ Honda City ZX ปี 2007 เครื่อง VTEC (110 แรงม้า)
น้ำมันเครื่องศูนย์ 10W30 + เบนซิน 95 ของ เชลล์ ขับบนบูรพาวิถีมุ่งหน้าชลบุรี
ช่วงล่างเดิมๆ มีแต่ล้อ Lenso 15 นิ้ว+ยาง RE001
ความเร็วตอนนั้นประมาณ 110 กม./ชม. รอบเครื่องประมาณ 2,500 รอบ
วิ่งอยู่เลนกลาง ด้านหน้าห่างออกไปประมาณ 6-7 ช่วงคันรถ
มีรถกระบะวิ่งอยู่ ประมาณการความเร็วรถกระบะประมาณ 90 – 100 กม./ชม.
ซึ่งผมน่าจะไปจ่อท้ายรถกระบะใน 10 วินาที
มองกระจกรถเลนขวาว่าง ผมหักออกขวาสุด kick down แล้วนับถอยหลัง
จาก 10 – 0 รอบเครื่องกวาดจาก 2500 ไปที่ 5000 รอบต่อนาที ที่ความเร็ว 150 กม./ชม.
พอนับถึง 0 ผมก็แซงกระบะคันนั้นพ้น เหยียบแช่ต่ออีกประมาณ 5 วินาที
แล้วค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง หักกลับเข้าเลนกลางในระยะปลอดภัย
กลับมาที่ความเร็วเดินทางเดิมคือ 110 กม./ชม.

-- 12 – 13  ก.พ. 2554
น้ำมันเครื่อง Valvoline 5W30+V Power Sohol 95 ของเชลล์
(ช่วงล่างใหม่ โช้ค Monroe รุ่น Original+สปริงโหลด Tanabe NF210+ผ้าเบรก na-p+ ยางมิชลิน
Pilot Sport 3 ที่พึ่งเปลี่ยนมาเมื่อ 8 ก.พ. 2554 ใช้งานมาแค่ 200 กม. ก่อนจะไปทริปนี้กับเพื่อน)

เหตุการณ์คล้ายด้านบน บนเส้นทางบูรพาวิถีมุ่งหน้าชลบุรีเหมือนกัน
เพียงแต่เหยียบแซงแล้ว มันได้แค่ประมาณ 140 กม./ชม. รอบเครื่องก็ประมาณ 5000 รอบต่อนาทีเหมือนกันครับ

ก็เลยแปลกใจว่า Valvoline มันลื่นจริง ในรอบต้นและรอบกลาง แต่พอรอบสูง เหมือนมันใสไปนิดหรือเปล่าอันนี้ผมเดาเอา

จากที่เคยอ่านกระทู้ใน pantip มีคนนึงใช้ Civic FD 1.8 แล้วใช้ Valvoline 5W30
เขาบอกว่าเครื่องลื่นดี แต่เหมือนเครื่องไม่มีกำลัง พอเปลี่ยนมาเป็น Mobil 1 0W40 รู้สึกได้ว่าเครื่องมีกำลังให้เรียกใช้ตลอดเวลา ซึ่งผมก็เคยลองใช้ Mobil 1 0W40 ช่วง ก.ย. 2552- เม.ย. 2553
รู้ได้เลยว่า รอบต้นรถอืดไปเยอะ อาจเป็นเพราะน้ำมันเครื่องข้นมากเกินไป+เครื่องผมเล็กเกินไป

ส่วนเรื่องติดเกจ์วัดแรงดันน้ำมันเครื่อง ก็อยากติดครับ เพียงแต่ขี้เกียจฟังทางบ้านบ่น
ก็เลยไม่ได้ติดครับ

แต่อย่างไรก็ตามต้องขอบคุณคุณเนยมากๆ สำหรับความคิดเห็นครับ

-- ส่วนผ้าเบรก NSport U Spec กับรถโมเดล มีท่านใดพอทราบบ้างครับ ขอบคุณครับ

[roadshow123]

ตอบข้อ2ค่ะ น้ำมันเครื่องของปตท.ก็ดีค่ะ ราคาไม่แพง คุณภาพก็โอเคนะค่ะ เพราะว่าใช้อยู่ค่ะ

(หลายคนอาจความเห็นไม่ตรงกัน แต่อันนี้คือความเห็นส่วนตัว อย่าว่ากันนะคะ)

[WinniE]

^^^^  Reply ข้างบนนี้ลองเช็กประวัติกระทู้แล้ว หึๆ

[[J]e[w]]

^
^
^


..แฝงตลอดเรยนะ หุหุ