เช่นเคยนะครับ
สีเหลือง คือข้อความผม
สีขาว คือข้อความพี่ต้น
สีชมพู คือรายงานข่าว และข้อความจากชาว Facebook ท่านอื่นๆ
สีเขียวอมเหลือง คือ ข้อความสำคัญ เน้นย้ำเลยว่า ต้องอ่าน
-------------------------------
ก่อนอื่น มาดูทางกรมชลประทาน สรุปเอาไว้เมื่อวานนี้ก่อนดีกว่าครับพี่ต้น ".....ต้องท่องจำ ให้ขึ้นใจ...(พูดๆ พร่ำบอก ว่า น้ำจะค้างทุ่งอีกเยอะๆ) แหมมแม่ม.งเอ่ย 5555+
จากปริมาณน้ำทั้งหมด 11,390 ล้านลูกบาศก์เมตร
มีปริมาณน้ำที่ต้องบริหารจัดการ 1 ใน 3 -คือประมาณ 3796 ล้านลูกบาศก์เมตร
อีกสองส่วน ที่เหลือจะค้างอยู่ในทุ่งและจะไหลลงสู่แม่น้ำตามธรรมชาติต่อไป..(ปลาไหลยังตะแบง)"
สรุปสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนบนและล่าง
11 พฤศจิกายน 2011 เวลา 15:50 น..ส่วนอุทกวิทยา สำนักอุทกวิทยาและบริหารจัดการน้ำ กรมชลประทาน
จัดทำแผนที่ประสบอุทกภัยที่ราบลุ่มภาคกลาง พ.ศ. 2554 โดยใช้ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม RADARSAT
จาก GISTDA ประจำวันที่ 9 พ.ย. 2554 มีปริมาณน้ำค้างทุ่งทั้งหมด 11,390 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยกระจาย
อยู่ในทุ่งดังรายละเอียดต่อไปนี้
- มีปริมาณน้ำในทุ่งทางตอนบนเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ประมาณ 1800 ล้านลูกบาศก์เมตร
-ปริมาณน้ำในทุ่งด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัด ชัยนาท รวม 9,590 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นพื้นที่
ด้านฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยา 2,750 ล้านลูกบาศก์เมตร และพื้นที่ด้านฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ
เจ้าพระยา 6,840 ล้านลูกบาศก์เมตร
อย่างไรก็ตาม จากปริมาณน้ำทั้งหมด 11,390 ล้านลูกบาศก์เมตร มีปริมาณน้ำที่ต้องบริหารจัดการ 1 ใน 3
คือประมาณ 3796 ล้านลูกบาศก์เมตร อีกสองส่วนที่เหลือจะค้างอยู่ในทุ่งและจะไหลลงสู่แม่น้ำตามธรรมชาติต่อไป
11 พฤศจิกายน 2554http://www.picza.net/show.php?id=vPlvIIlIxFเข้าไปดูรูปแผนที่ได้นะครับ
เมื่ออ่านข้อมูลเสร็จแล้ว อาจตระหนกว่า เฮ้ย ยังเหลืออีกตั้ง 11.3xx ล้าน ลบ.ม. เลยเหรอ?
เปล่านะครับ จะบอกว่า น้ำทุ่ง ถึง 2 ใน 3 ซึ่ง น้ำทุ่ง เดี๋ยวมันก็จะกอดคอดูดปาก กับน้ำใต้ดิน
ไปด้วยส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนหนึ่ง ก็จะค้างตัวเองไว้ในทุ่งอยู่อย่างนั้น แต่จะค่อยๆลดระดับ
ลงเรื่อยๆ รอการทำนา ของเกษตรกร ในช่วง นาปรัง (ซึ่งจริงๆ ก็ควรจะเริ่มทำได้แล้ว ถ้าไม่
มาเกิดเหตุน้องน้ำในครั้งนี้เสียก่อน)
น้ำที่เหลือให้เราต้องจัดการ พาไปปล่อยลงทะเล ก็เหลือแค่ 3,796 ล้าน ลูกบาศก์เมตร เท่านั้น
ถ้าลุยกันเต็มที่ สิ้นเดือนนี้ ฝั่งตะวันออกน่าจะจบข่าว ส่วนฝั่งตะวันตก อาจต้องเลยเถิด
ไปถึงกลางเดือนธันวาคม ก็น่าจะจบ ทุกอย่าง น่าจะจบลงก่อนปีใหม่ค่อนข้างแน่นอน-----------------------
อ่านสรุป กรมชลฯ แล้ว มาอ่านของพี่ต้นกันต่อดีกว่า
วันนี้พี่ต้นมาถึง จัดเต็มแต่เช้า ทำให้การเรียบเรียงรายงานสรุป ง่ายดายขึ้น"วันเสาร์แสนสบาย...เช้าวันนี้...เพื่อนๆ ในเขตเมือง จะออกไปไหนมาไหนได้ตามสบายๆ....
ก่อนหน้านี้ จริงแล้ว น้ำไม่ควรเข้ามาในเขตเมืองได้เลย ถ้าไม่เกิดอุบัติเหตุ ที่ คันกั้นน้ำหลักหก
และกลุ่มชายฉกรรจ์ แอบเข้ารื้อกระสอบทราย ที่ประตูน้ำจุฬาฯ...วันวาน น้ำคลองสอง กำลังถูกผัน
ให้ระบายมาลงคลองเปรม...ดอนเมืองเอาอยู่ พอเกิด 2 กรณีดังกล่าว จึงทำให้น้ำทะลักล้นเข้ามา
อย่างต่อเนื่อง เส้นทางน้ำ จากสะพานใหม่ บางบัว เสนา-วังหิน วัดลาดพร้าว คลองบางซื่อโรงแรม
เจ้าพระยาปาร์ค สะพานควาย ตลาด อตก. ก็คือเส้นทางน้ำที่คาดการณ์ล่วงหน้า และแล้วก็น้ำมาจริงๆ
ตามนั้น...
น้ำกำลังถูกผลักให้ไปทางคลองสามเสน บางซื่อ เพื่อให้ไปออกแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเดียว แต่
เนื่องจากปริมาณน้ำมากเกินไป จึงจำต้องเปลี่ยนทิศทาง ต้องปล่อยน้ำพร่องไหลเข้าตามคลองย่อย
เพื่อส่งต่อให้สถานีดินแดง พักน้ำที่บึงมักกะสัน บึงพระราม 9 ก่อนสูบผ่านไปออกปากคลองพระโขนง...
วันนี้จะดีกว่า วันวานครับ..
พื้นที่น้ำทุ่ง เข้ามาทักทาย...คือ ตลอดแนวคลองประเวศ คลองพระโขนง
เนื่องจากปริมาณน้ำทุ่ง ที่กำลังไหลผ่าน ตลาดมีนบุรีขณะนี้..ดึงน้ำยุบหายมา 2 พื้นที่ คือจาก แนวคลอง
หกวาสายล่าง นอกรั้ว บ้านสายไหม และน้ำ จาก คลอง 7,8,9 บ้านมีนบุรี มีระดับน้ำสองแบบ ในคันกั้น
ท่วมนิดๆ ในตลาดก็ยัง เดินย่ำน้ำ ไปทำงาน ปรับชีวิตให้อยู่กับสายน้ำให้ได้ และบ้านอีกแบบนึ่งที่อยู่
นอกคันกั้นน้ำ คือมิดหลังคาไปเลย..ไม่ใช่แค่เพียงเป็น บ้านกลางน้ำ แต่เป็นบ้าน น้ำมิดหลังคา..(ลำบาก
ครับ เพลียหัวใจแบบไม่มีเงื่อนไข)
วันนี้ พรุ่งนี้....น้ำในคลองพระโขนง ระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นและไหลเชี่ยว
หลังมีการระบายน้ำผ่านคลองแสนแสบเพิ่มขึ้น จึงทำให้เพื่อนๆ ที่รัก เป็นกังวลว่า อาจทำให้เกิดน้ำท่วม
บริเวณใกล้ๆ คลองพระโขนง....ไม่ต้องกลัวครับ น้ำมาแบบมีการบริหารน้ำครับ.. ระดับน้ำในคลองพระโขนง
ที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ยังคงมีพื้นที่ห่างจากขอบคันกั้นน้ำมากกว่า 1 ฟุต (ไม้บรรทัดนักเรียน)
ฝั่ง ธน...น้ำแห้ง ที่บางพลัด...คนปิ่นเกล้า พรุ่งนี้ผ่อนคลาย ไปดูหนังได้แล้ว...บางแค น้ำก็ยุบเร็วครับ..
น้ำหลากฝั่งตะวันตก..ที่คลุบคลุมตามแนว ถนนวงแหวนตะวันตก น้ำกางปีก ใหญ่มากๆ ปลายปีก กินพื้นที่มาถึง
เดอะมอลล์บางแค..วันนี้นะ พื้นที่เขตบางแค ระดับน้ำได้เข้าท่วมทุกพื้นที่เฉลี่ยอยู่ที่ระดับประมาณ 85 ซม.
ระดับน้ำสูงสุดอยู่ที่บริเวณชุมชนแถวหมู่บ้านเศรษฐกิจ ประมาณ 1.30 เมตร ส่วนบริเวณถนนเพชรเกษมฝั่งขาเข้า
ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 85-90 ซม. ส่วนเพชรเกษมขาออก อยู่ที่ประมาณ 80 ซม. น้ำหลากข้ามถนนไม่ได้จริงๆ ครับ
เพราะว่าเป็นปีกน้ำ ไม่มีแรงดัน
โดยภาพรวม ของน้ำในขณะนี้เริ่มลดลงทุกพื้นที่ บางแค ประมาณ 5-10 ซม. เพราะน้ำเปลี่ยนทิศทาง ไหลคู่ขนาน
กับถนนพระราม 2 มุ่งหน้า ทะเลมหาชัย ....ไม่ใช่ มุ่งหน้าทะเล บางขุนเทียน ตามที่อ่านๆ กันในแผ่นที่...
ย้อนกลับมาฉายภาพชัดๆ ใน กทม.ตะวันออก เพิ่มอีกหน่อย..
นิคมบางชัน...รอดครับ..ไม่เหมือนนิคมอื่นๆ ที่ถูกน้ำล้อม แบบหลังพิงฝา..ถูกน้ำขบวนหลังๆ ตามมากระแทก
จนคันกันพังทลาย..การผันน้ำที บริเวณ ถนนเสรีไทย วันนี้มี เจ้าหน้าทีทหารและกทม.เดินเครื่องสูบน้ำ 50 เครื่อง
และเรือผันน้ำ 24 เครื่องที่ตั้งกระจายอยู่รอบนิคมพร้อมกัน (แต่ไม่ค่อยมีข่าว เพราะนิคมไม่พัง เสนอข่าวไม่สนุก
พาดหัวข่าวแบบเซ็งๆ)
น้ำที่เอ่อล้นมาจากรามอินทรา ผ่านบึงกระเทียม มาด้านหลังของโรงงาน ได้ถูก เปลี่ยนทิศทางเพื่อ จับให้ลงคลอง
บางชันและคลองย่อยของบึงกระเทียม เลยมาล้นที่คลองแสนแสบ นิดหน่อย และผันลงสู่อุโมงค์ยักษ์ของกทม.
ที่คลองตัน ต่อไป
น้ำที่นิคมบางชัน....ในข้อมูล online เห็นชัดๆว่า ระดับน้ำฝั่งบึงกระเทียม ช่วง 5 โมงเย็นวานนี้ ลดลง 3 ซม.อยู่ที่
109 ซม. และระดับน้ำในคลองแสนแสบยังทรงตัวที่ 100-101 ซม. แม้ว่าจะมีน้ำจากคลองสามวาและพระยาสุเรนทร์
ไหลมารวม
แปลกมั้ยล่ะ..คลองแสนแสบ มหัศจรรย์จริงๆ ที่ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นไม่มาก (แต่ตลาดบางกะปิ กลายเป็นตลาดร้าง
ไปเรียบร้อย
และวันนี้ น้ำทุ่งกำลัง ผ่านสนามบิน สุวรรรภูมิ..
ระดับน้ำที่นิคมลาดกระบัง ขณะนี้ระดับน้ำจากทางทิศเหนือที่ทยอยไหลมา จับมือสร้างสัมพันธ์ แบบม่วนซื่น กับ
แนวคันกั้นน้ำของนิคม เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 2 ซม. แบบค่อยๆมา และรีบๆไป เพราะอะไร คำตอบคือ นิคม ลงคาถา
อาคมด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำจำนวน 54 เครื่อง มาดักทางน้ำ....(น้ำทุ่ง กลัวๆ ป๊อดๆ) ปัญหาอยู่ที่ชาวบ้าน ที่อยู่
นอกแนวคันกั้นน้ำ ที่อาจได้รับผลกระทบ ได้ต้องพูดคุย ต้องรีบทำความเข้าใจ และต้องให้รีบๆ จัดพื้นที่ให้ชาวบ้าน
ได้เข้ามาพักในนิคม....เร่งอพยพชาวบ้านก่อนน้ำจะท่วม (ทำงานแบบเชิงรุก บ้าง....แบบตั้งรับน่ะ เห็นมาบ่อยๆ แล้ว
...อิอิ มีเหน็บ)
ย้ำนะครับ โรงงานบางแห่ง ที่หยุดการผลิต อย่าง ap Honda นั้น....เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ไม่ใช่ถูกน้ำท่วม
แต่อย่างใด..............เนื้อข่าวครับ น้องๆ นักข่าวพิจารณา ก่อนนำเสนอด้วย นะจ้ะ..
พี่ต้น....สุขใจ เป็นวันๆ ไป....5555++++
------------------------------------------------
ความเห็นจาก อ.อานนท์ ครับ
ดร.อานนท์ คาด กทม.ชั้นใน จะกลับสู่ภาวะปกติภายใน 2 สัปดาห์
สั่งกดบานประตูน้ำลงอีกจาก 1เมตร เหลือ 60 ซม.ไม่ให้น้ำล้นท่วม สะพานสูง/บางกะปิ
นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ที่ปรึกษาศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) กล่าวว่า
แม้ว่าจะมีน้ำท่วมเข้ามาในกรุงเทพฯ อีก 3,000-4,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ไม่น่าตื่นตระหนก เพราะ
อัตราการไหลเข้ายังอยู่ที่ระดับต่ำกว่ากระสอบทรายยักษ์ คาดว่า 2 สัปดาห์กรุงเทพฯ ชั้นในน่าจะกลับ
เข้าสู่ภาวะปกติ
โดยจะมีน้ำเอ่อตามท่ออยู่บ้าง และฝั่งหนองจอก มีนบุรีอาจต้องใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ด้วยกัน โดยสถานการณ์
น้ำท่วมที่นิคมอุตสาหกรรมบางชันวันนี้ ถนนเสรีไทยน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ได้มีการนำ
บิ๊กแบคเสริมริมฟุตบาธป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าไปท่วม รวมถึงใช้เครื่องสูบน้ำเตรียมพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว
จากการสำรวจระดับน้ำในช่วงเช้า แม้ว่าเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา จะลดลงไปได้ 9 เซนติเมตร แต่
วันนี้มีน้ำเพิ่มขึ้นมาในคลองเสนแสบอีก 2 เซนติเมตร ซึ่งจะมีการขอความร่วมมือจากสำนักการระบายน้ำ
ให้ลดระดับการเปิดประตูระบายน้ำคลองสามวาลง จาก 1 เมตรเป็น 60 เซนติเมตร------------------------------------------------
พี่ต้น : ไปดู ช่อง 9 สำนักข่าวไทย บ้าง...มีแต่ข่าวน้ำลด.....
(โอ๊ยๆๆ อนุสาวรีย์ ไม่มีโอกาศได้เห็นน้ำแล้ว)
ของดีที่ ไม่ค่อยมีใครช่วย pr ....อุโมงค์ยักษ์พระโขนง ช่วยลาดพร้าวน้ำแห้ง
11 พ.ย.54 นายบพิธ แสงแก้ว ผอ.เขตลาดพร้าวกล่าวว่า ล่าสุดระดับน้ำในคลองลาดพร้าวเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง
ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยลดลงแล้วกว่า 4-5 ซ.ม. เนื่องจากมีอุโมงค์ยักษ์พระโขนงคอยดึงน้ำออกจากพื้นที่
ทำให้กระแสน้ำในคลองลาดพร้าวไหลค่อนข้างแรงมาก
ขณะเดียวกันชุมชนต่างๆ กว่า10 แห่งแจ้งว่า น้ำที่ท่วมขังในชุมชนเริ่มลดระดับลงแล้วเช่นกัน
สำหรับพื้นที่ที่ประสบปัญหารุนแรง ได้แก่ ริมคลองลาดพร้าว หมู่บ้านเสนานิเวศน์ 1 และ 2 ล่าสุดมีผู้อพยพแล้ว
ทั้งสิ้น 246 คน ซึ่งเขตได้พยายามดูแลอย่างดีที่สุด
ส่วนการเดินทางในพื้นที่ ทางเขตได้ประสานรถบริการประชนร่วมกับทหาร ตำรวจ และการไฟฟ้าฯ คอยให้บริการ
ประชาชนตลอดทั้งวันทั่วทั้งพื้นที่ จากการประเมินผู้ที่ได้ผลกระทบจากน้ำท่วมในพื้นที่เขตลาดพร้าวคาดว่า
มีไม่น้อยกว่า 20,000 คน------------------------------------------------
ฝั่งสายไหม เรือรับจ้าง ขูดรีดบรรลัย จบสิ้นไปเสียทีพี่ต้น : "เรือรับจ้าง จบชีวิต...ตำรวจสายไหม...ตัดตอน ฝึกขับเรือเอง รับส่งฟรี"
11 พย. 2554 20:43 น.
ตำรวจสน.สายไหม หลายนายเร่งฝึกหัดขับเรือหางยาว เพื่อรับ - ส่งชาวบ้านเข้าหมู่บ้านต่าง ๆ ชาวบ้านย่านสายไหม
ที่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 2 อาทิตย์ ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำได้ลดลงประมาณ 5-10 เซนติเมตรแล้ว แต่บางพื้นที่ในเขตสายไหม
น้ำยังคงมีระดับสูงอยู่ ซึ่งเป็นปัญหาในการเข้าไปช่วยเหลือ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.สายไหมจำนวนหลายนาย
ต้องฝึกหัดขับเรือหางยาว เพื่อขับรับ-ส่งชาวบ้านตามหมู่บ้านต่าง ๆ
ดาบตำรวจกิตติเดช อันยะโพธิ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สน.สายไหม กล่าวว่า ชาวบ้านหลายๆครัวเรือนในย่านสายไหม
ยังคงได้รับความเดือดร้อนจำนวนมากเพราะน้ำได้ท่วมแทบจะทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ย่านออเงินและเพิ่มสินนั้น
น้ำยังคงมีระดับสูงอยู่ต่างจากพื้นที่อื่น ๆ
ที่น้ำเริ่มลดระดับลงมาประมาณ 5-10 เซนติเมตรแล้ว ซึ่งก็ยอมรับว่าหมู่บ้านที่อยู่ลึก ๆ เข้าไปด้านใน ในการให้ความ
ช่วยเหลือยังเข้าไปไม่ถึง จึงอยากให้หน่วยงานภาครัฐเข้ามาช่วยดูแลไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มหรือถุงยังชีพ เจ้าหน้าที่ตำรวจ
ได้ตั้งเต๊นท์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในย่านสายไหม ในบริเวณใต้ทางด่วนสุขาภิบาล 5 ไปวัชรพล
ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ก็ยอมรับว่าในการช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสบอุทกภัยค่อนข้างทำได้ด้วยความยากลำบาก
ไม่ว่าจะเป็นในด้านการนำของเข้าไปบริจาคในพื้นที่ลึกๆ เนื่องจากน้ำท่วมสูง จึงเข้าไปให้ความช่วยเหลือไม่ได้ ทำให้
ชาวบ้านได้รับความลำบากเป็นอย่างมาก ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่สายไหมแทบทุกราย ต้องฝึกหัดขับเรือหางยาว เพื่อช่วยเหลือ
นำประชาชนเข้าไปส่งตามหมู่บ้าน ต่าง ๆ-------------------------------------------------------
และ มาถึง ถนนพระราม 2พี่ต้น : "รอร้อ..รอ ปลายปีกน้ำ..อีกนานมั้ย กว่าจะถึงถนนพระราม 2 (อีกนาน)
11 พ.ย.54 รายงานสถานการณ์น้ำท่วมฝั่งธนบุรี ช่วงถนนพระราม 2 ทั้งขาเข้าและขาออก ว่า ตั้งแต่แยกธนบุรีปากท่อ
ถึงใต้สะพานต่างระดับพระราม 2 มุ่งหน้าจังหวัดสมุทรสาคร พบว่า รถยังสัญจรได้อย่างคล่องตัว ไม่มีระดับน้ำเอ่อขึ้น
ท่วมบนผิวการจราจร แต่พื้นถนนในซอยทั้ง 2 ฝั่ง ขาเข้าและขาออกเริ่มได้รับผลกระทบถูกน้ำจากคลองมหาชัย คลอง
วัดสีสุก และคลองลัดเช็ดหน้า ล้นแนวกั้นออกมาสร้างความเสียหายบ้าง
โดยมีระดับน้ำสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร อาทิ ซอยพระราม 2 ที่ 43 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบังคับการตำรวจนครบาล 9
(บก.น.9) น้ำได้เอ่อเข้าไปขังบนถนนด้านหน้าสำนักงาน อีกทั้งยังเป็นพื้นที่แฟลตข้าราชการตำรวจ บก.น.9 และศูนย์
วิทยุกรุงธน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วงกันขนเสบียงและเรือที่มีอยู่ทั้งหมด ขึ้นรถบรรทุก 10 ล้อ เพื่อนำไปช่วยเหลือ
ประชาชนท่ามกลางสภาพน้ำที่ท่วมขังกว่า 20 เซนติเมตร อย่างทุลักทุเล
ขณะที่บรรยากาศภายในซอยพระราม 2 ที่ 28 ซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบังคับการตำรวจนครบาล 8 (บก.น. พบว่า ถนนช่วง
หน้าวัดสีสุก บริเวณปากซอยมีน้ำจากลำคลองล้นคันกั้นขึ้นมาท่วมผิวการจราจร ห่างถนนพระราม 2 ประมาณ 100 เมตร
ระดับน้ำสูงประมาณ 30 เซนติเมตร เป็นช่วงยาวกว่า 300 เมตร รถทุกชนิดยังสามารถสัญจรเข้า-ออกถนนพระราม 2 และ
ถนนจอมทอง ได้ตามปกติ แต่ต้องชะลอความเร็ว เพื่อไม่ให้คลื่นน้ำสาดกระเซ็นเข้าบ้านเรือนทั้ง 2 ข้าง"เมื่อหัวค่ำ คืนที่ผ่านมา...พี่ต้น : "น้ำมาแร้วววว...ติดตาม น้ำจะลอดใต้ถนน หรือ จะปีนข้ามถนน พระราม 2 ดึกๆ วันนี้.."
FM. 91 Trafficpro
20.02น. ชาวบ้านรวมตัวกันประมาณ 500คน ปิดถนนประท้วง "เกี่ยวกับเรื่องการวางกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วม" บน
ถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ช่วงปากซอย 60 (ซอยการไฟฟ้าบางขุนเทียน) ปิดช่องทางคู่ขนาน และเหลือช่องทางด่วน
ให้วิ่งแค่ 1 เลน การจราจรติดมากแสดงว่า วันนี้เราคงต้องมาดูพระราม 2 กันอีกทีแล้วละ--------------------------------------------------------
วันนี้ ถ้ามีอัพเดทอะไร จะอัพในกระทู้นี้ จนถึงช่วง หัวค่ำนะครับ
อ่านอย่างมีวิจารณญาณ และไม่ตื่นตระหนกเกินไปนะครับ