ผู้เขียน หัวข้อ: // สถานการณ์น้ำประจำวัน จากพี่ต้น สรุป วันที่ 14 พ.ย. + คาดการณ์วันนี้ 15 พ.ย.//  (อ่าน 7884 ครั้ง)

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
เหมือนเคยนะครับ
สีเหลือง คือข้อความของผม
สีขาว ข้อความพี่ต้น
สีชมพู รายงานข่าว และเสียงจากชาว Facebook
สีเขียวอมเหลือง คือข้อความสำคัญ ต้องอ่าน!

---------------------------------------

สถานการณ์น้ำในช่วงเมื่อวานนี้ มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอยู่บ้าง
จุดที่ท่วมอยู่แล้ว ท่วมต่อไป จุดที่น้ำลด มีลดทั้งแบบ ลดจนหายแห้ง กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
กับลดแบบนิดๆ ชวนให้เซ็งจิต

ดูสถานการณ์ภาพรวมกันก่อนนะครับ

พี่ต้น : ".....รอดได้ ด้วยเครื่องสูบน้ำ เท่านั้น..
กรมชลฯ ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 660 เครื่อง
เร่งระบายน้ำ ออกสู่ทะเล 123 ล้าน ลบ.ม./วัน"

(รายงานข่าว)
นายชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวถึง สถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวม
ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะพื้นที่ทางตอนบนเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชลประทานนำเครื่องสูบน้ำช่วยประชาชนในพื้นที่ ที่ยังมี
น้ำท่วมขังอย่างเช่นที่จังหวัดนครสวรรค์และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแล้ว ในขณะ
เดียวกันได้นำเครื่องสูบน้ำจากพื้นที่ที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วมมาติดตั้งในพื้นที่ด้าน
ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มเติมแล้ว ทำให้การสูบน้ำออกสู่
ทะเลมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น


ทำให้ขณะนี้กรมชลประทานมีเครื่องสูบน้ำถาวรและเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ทางด้าน
ฝั่งตะวันออกและตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วรวม 660 เครื่อง สามารถสูบน้ำ
ออกสู่ทะเลได้วันละประมาณ 123 ล้านลูกบาศก์เมตร ทั้งนี้ปริมาณการสูบน้ำใน
แต่ละวันจะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าสู่ระบบระบายน้ำและ
สถานีสูบน้ำ รวมถึงการขึ้นลงของน้ำทะเลด้วย

สำหรับพื้นที่ตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยามีเครื่องสูบน้ำรวม 336 เครื่อง เป็น
เครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งอยู่ที่สถานีสูบน้ำถาวร จำนวน 171 เครื่อง และเครื่องสูบน้ำ
เคลื่อนที่อีก 165 เครื่อง สูบน้ำได้วันละประมาณ 80 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนด้าน
ตะวันออกมี 324 เครื่อง เป็นเครื่องสูบน้ำที่ติดตั้งอยู่ที่สถานีสูบน้ำถาวร 216 เครื่อง
และเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่อีก 108 เครื่อง สูบน้ำได้วันละประมาณ 43 ล้านลูกบาศก์เมตร

การสูบน้ำออกสู่ทะเลนั้นกรมชลประทานได้พิจารณา ความเหมาะสมโดยคำนึงถึง
ความสัมพันธ์กับปริมาณน้ำ อิทธิพลน้ำทะเลหนุนรวมถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับ
พื้นที่ด้านท้ายน้ำ รวมถึงจะต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนการทำงานของเครื่อง
สูบน้ำเพื่อให้สามารถดำเนินการสูบน้ำได้ตลอด 24 ชั่วโมงในแต่ละวันด้วย

กรมชลประทาน
14 พฤศจิกายน 2554


----------------------

ส่วนพื้นที่ชั้นใน ของ กทม รวมไปถึง นิคมฯบางชัน และลาดกระบัง ฟังทางนี้ครับ

พี่ต้น : "....บอกแล้วไง....น้ำไม่ท่วมนิคมฯ บางชัน-ลาดกระบัง (สามารถบริหารน้ำ ได้จริงๆนะ)
ต่อให้ ไม่มีบิ๊กแบคดอนเมือง / น้ำก็ไม่ถึงอนุสาวรีย์ชัย....บึงมักกะสันรับน้ำได้ทั้งหมด..."

นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์ความรู้เฉพาะด้าน
ศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ และ คณะทำงาน
ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย(ศปภ.) เปิดเผยถึงการ
ควบคุมสถานการณ์น้ำบริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางชันว่า ณ วันนี้
สถานการณ์น้ำยังอยู่ในจุดที่ควบคุมได้ กรณีบางชัน ลาดกระบัง
ต่างกับนิคมฯในพื้นที่พระนครศรีอยุธยาที่เป็นน้ำหลากควบคุมไม่ได้
ระบบการควบคุมน้ำไม่มีเลย แต่กรณีบางชัน ลาดกระบัง อยู่ในพื้นที่
ควบคุมได้ในระดับที่ค่อนข้างมาก

"นิคมฯ 2 พื้นที่มีเงื่อนไขข้างนอกต่างกัน น้ำที่มาจากบางชัน ลาดกระบัง
ควบคุมได้ ถ้าไม่ได้ป่านนี้สูงกว่า อยุธยาเยอะ บางชันควบคุมได้ 1.5 เมตร
ต่ำกว่าจุดวิกฤตที่ทางนิคมฯขอไว้ 1.6 เมตร ถ้าไม่ควบคุมระดับน้ำจะสูง
ไปนานแล้ว

.....แนวกระสอบทรายบิ๊กแบคที่ถูกรื้อบริเวณดอนเมือง ไม่ทำให้น้ำทะลุ
ถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่จะทำให้น้ำทางเหนือ เช่น ดอนเมือง หลักสี่
ลดได้ช้าลง แต่ถ้าไม่มีการรื้อบิ๊กแบค เพิ่มอีก อย่างไรพื้นที่ กทม.ชั้นใน
ก็ปลอดภัยแล้ว"

คุณ Kitiya Sophonpanich รายงานว่า
"ปากซอยกรุงเทพกรีฑา 8 ด้านติดมอเตอร์เวย์ หลังจากสูบน้ำมาได้ 3 วัน
กทม.ก็เก็บของขนเครื่องสูบน้ำออก บอกว่าสูบวนไปวนมา (ท่อ-คลอง-ซอย-ท่อ)
จากประสบการณ์คิดว่าแถวนี้ไม่น่าเป็นไรมาก ขอย้ายไปที่อื่นก่อน วันนี้ระดับน้ำ
ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัด จากเกือบเข่ามาหน้าแข้งแล้วจ้า หวังว่าถนนกรุงเทพ
กรีฑาจะลดตามในเร็ววัน ส่วนมอเตอร์เวย์เสริมบิ๊คแบคเต็มกำลังทีเดียว
โดยไม่เป็นข่าว"


พี่ต้น : "ชั้นกลาง อย่างบ้านผม วัชรพล คือทางผ่านน้ำ....รังสิตแห้ง วัชรพล ก็แห้งตามอ่ะจะ"
"...พอ บางกะปิ น้ำไม่ท่วมจริงๆ แล้ว...นักข่าวก็เผ่นหายหมด แทนที่จะช่วยเรียก คนกลับมา
....ธุรกิจ จะได้กลับมาเร็วๆ ก้เงียบหายไป...ดู ดูเขาทำ.."

"....เคยบอกไปแล้ว..เปลี่ยนถ่ายน้ำเน่า ให้ไหลผ่านไป ....
ชาวบ้าน นอกคันกั้นก็อยู่ได้ และต้องรักษาน้ำไม่ให้ต่างกัน....(จนรู้สึก ถูกเอาเปรียบ)"

(รายงานข่าว)
ข้อสรุปของ ศปภ. และ กทม. คือ เห็นความจำเป็นและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่
จึงสมควรปรับสภาพแนวกระสอบทรายยักษ์บริเวณดังกล่าว ให้เป็นจุดฝายน้ำล้น โดยให้มี
ช่องทางสัญจรทางเรือด้วย ซึ่งการทำฝายน้ำล้นจะทำให้น้ำใหม่ชะลอลง และทำให้น้ำไม่ขัง
เน่าเหม็น ซึ่งถือเป็นข้อสรุปที่ยอมรับของทุกฝ่ายร่วมกันในการหาทางออก

พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ฝายน้ำล้นดังกล่าวจะมีความกว้างประมาณ 10 เมตร และเป็น
จุดเดียวกับที่มีการเปิดแนวบิ๊กแบคอยู่แล้วโดยฝายน้ำล้นต้องให้เรือผ่านเข้าออกได้
ซึ่งฝ่ายเทคนิคลงไปพูดคุยกับประชาชนและทำความเข้าใจตลอดเวลา รวมทั้งจะ
บรรเทาทุกข์ให้ประชาชนอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ ก็น่าจะมี
ข่าวดีแม่น้ำเจ้าพระยาอาจลดลงบ้าง ทำให้การระบายน้ำทำได้ดีขึ้น"


ส่วนชาวบางกะปิ ไม่ต้องกลัวนะครับ น้ำไม่เข้า.....แล้วละ เนาะ


กรมแผนที่ทหาร อัพเดท 14/11/2554 คาดมวลน้ำจะมุ่งสู่ถ.บางนา-ตราด!!...
ส่วน16เขตยังเซฟ ได้แก่ บางซื่อ ดุสิต วังทองหลาง ห้วยขวาง ราชเทวี ปทุมวัน บางรัก
สาธร ห้วยขว้าง วัฒนา คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา คลองสาน พระโขนง บางนา..
จากภาพสีฟ้าคือน้ำ ลูกศรคือทิศทางมวลน้ำ





มิน่าละ ทำไมถึงได้มีการกั้น บิ๊กแบ็ค กันที่ ริมมอเตอรืเวย์ ช่วงพระราม 9 กันย๊าวยาว แบบนี้นี่เอง


พี่ต้น : "ดีนะ...ที่เราเข้าใจ และอ่านแผนที่เป้น...หากเป้นชาวบ้าน หรือ ใครๆ ที่ไม่รู้นะ...มาดู มาเห็นนะ..เก็บของเผ่น เปิดตรูดไปแล้ว...."

พี่ต้นก็ยังยืนยันว่า บางนา น้ำไม่น่าท่วมอีกอยู่ดี

ส่วนสภาพเส้นทางที่สามารถเปิดให้ใช้งานได้บ้างแล้วนั้น พี่ต้นสนุปไว้ จากทางราชการ มีดังนี้ครับ

....ความลำบาก...ค่อยๆ ถอยหลัง...
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) แจ้ง เริ่มเปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการดังนี้
เส้นทางที่มีระดับน้ำลดลง ( เปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการ )

1) ถ.จรัญสนิทวงศ์
1.1) ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่สะพานพระราม 7 ถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 90 (รพ.ยันฮี )
และ ถ.จรัญสนิทวงศ์ ตั้งแต่ ซอย จรัญสนิทวงศ์ 77 - แยกบางพลัด – แยกบรมราชชนนี
1.2) ถ.ราชวิถี ตั้งแต่เชิงสะพานกรุงธน ถึงแยกบางพลัด
2) ถ.บรมราชชนนี
2.1)ถ.บรมราชชนนี ตั้งแต่แยกบรมราชชนนี ถึงหน้าเซ็นทรัลปิ่นเกล้า
3) ถ.ราชพฤกษ์ ตลอดสาย
4) ถ.รามอินทรา ตั้งแต่ กม.2 ถึง กม.8 ระดับน้ำ 10-20 ซม.
5) ถ.วิภาวดีรังสิต ตั้งแต่แยกสุทธิสาร ถึง ซ.วิภาวดี 9 (เฉยพ่วง)
6) ถ.พหลโยธิน ตั้งแต่แยกกำแพงเพชร ถึงห้าแยกลาดพร้าว



ส่วนฝั่งเมืองเอก ก็ยังเป็นปัญหากันต่อไป

พี่ต้น : "เมืองเอกหลังคามิดน้ำ... 2 เมตร โวย รัฐวางบิ๊กแบค...ขวางทางน้ำ
(บ้าน อจ.ก็อยู่ในนี้ครับ) ความพอดี......ที่ยังหาไม่เจอ...."

(รายงานข่าว)
รศ.เสรี ศุภราทิตย์ ผอ.ศูนย์พลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร
และผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า
หมู่บ้านเมืองเอกมี 2,000 ครัวเรือน 7 โครงการ 4,500 ไร่ 7.2 ตารางกิโลเมตร มีระดับน้ำ
สูงเฉลี่ย 2 เมตรในพื้นที่ของหมู่บ้าน เท่ากับมีปริมาณน้ำในหมู่บ้านเมืองเอก 14,200,000
ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) จะต้องสูบออกวันละ 1 ล้านลบ.ม. ใช้เวลา 2 เดือนปริมาณน้ำถึงจะ
แห้งสนิท หากรัฐบาลยังวางบิ๊กแบคขวางทางน้ำอยู่เช่นนี้

ทั้งนี้ปัจจุบันน้ำท่วมขังสูงในพื้นที่ฝั่งเมือง รังสิต มีมวลน้ำจากด้านเหนือตอนบนประมาณ
3,000 ล้านลบ.ม. หากปล่อยด้านตะวันออก ของ กทม.ให้ไหลวันละ 15 ล้านลบ.ม.ต่อวัน
ด้านตะวันตก 30 ล้านลบ.ม. โดยปล่อยให้ไหลข้ามคลองรังสิตโดยไม่ต้องไปขวาง ถ้า
ปล่อยไปตามธรรมชาติเดือนเศษๆ ก็จะหมด แต่พอไปขวาง น้ำก็ชะลอตัว ยกระดับสูงขึ้นถึง
1.30 เมตร ชาวบ้านอยู่กันไม่ได้ ทางด้านใต้บิ๊กแบค ก็ใช่ว่าจะไม่ท่วม มีผลเพียงลดระดับลง
10 เซนติเมตร เท่านั้น

ส่วนด้านเหนือบิ๊กแบค กลับยกตัวสูงขึ้นอีก 20 ซม. ซึ่งเป็นการชะลอตัวเท่านั้น

ด้วยเหตุดังกล่าว ทางตัวแทน 20 ชุมชนเขตดอนเมือง จึงขอให้เปิดบิ๊กแบค ตามที่มีการ
ต่อรองกับ ภาครัฐ ส่งผลให้ประชาชนเหนือคลองรังสิต กลับต้องอยู่ในสภาพจมอยู่กับน้ำเน่า
โดยเฉพาะที่หมู่บ้านเมืองเอก น้ำก็ไม่ยอมลดลง

นายศักดิ์ชัย ทองวัฒนา ประธานชมรมคนรักเมืองเอก กล่าวว่า ปัจจุบันนี้ชาวบ้านต้องอยู่กับ
น้ำเน่าไปเรื่อยๆก็ไม่ไหว ส่วนคนที่ต้องจำใจอยู่ก็เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน บางรายอยู่ไม่ไหว
ก็อพยพไปอยู่ที่สูง ที่แห้งหน่อยตาม ศูนย์อพยพ ตามทางรถไฟ ภายในหมู่บ้านไฟฟ้าก็ไม่มี
เรือก็ไม่มี เจ้าหน้าที่ทหารมีไม่เพียงพอบริการ ผู้ใช้บริการมีจำนวนมาก องค์กรท้องถิ่นก็ไม่มี
บทบาทอะไร โดยเฉพาะการย้ายผู้ว่า ที่กำลังทำงานออกไป ทำให้ความเดือดร้อนมาตกอยู่ที่
ประชาชนทั้งหมด ผู้ประสบภัย ปัจจุบันด้านสาธารณะสุข ผู้สูงอายุ อยู่ในศูนย์อพยพต่างๆ
ไม่มีทางการเข้ามาดูแลอย่างสิ้นเชิง"


ขณะเดียวกัน มีอีกเสียงหนึ่งจากคุณผู้อ่าน Facebook มา ในความเห็นจากข่าวนี้
ซึ่งก็ต้องพูดตรงๆละว่า น่าสนใจ


Kanta Kansopon : "ไม่เข้าใจจริงๆว่า.. ระดับน้ำท่วมสูงขนาดนั้น
และถูกประกาศเปนเขตอพยพทำไมยังอยู่ในพื้นที่อีก น้ำไฟก็ไม่มี สมบัติทั้งหลาย
ก็จมน้ำไปหมดแล้วยังจะห่วงอะไร ศูนย์อพยพก็มีให้อยู่ ปัจจัย4มีครบหมด หลัง
น้ำลดรัฐก็เยียวยาให้อย่างแน่นอนและคนในศูนย์อพยพจะได้รับการเยียวยา
ก่อนเพื่อนเลย เพราะประสพภัยจริง ทำไมรัฐฯไม่ใช้กฏหมายเข้าจัดการในเรื่องนี้
เหมือนชาติอื่นๆเค้าทำกันนะ

ในต่างประเทศการประกาศเปนเขตอพยพมีนัย 2 ประการ คือ
1. อันตรายถึงอาจเสียชีวิตได้ ออกไปจากพื้นที่ซะและต้องออกด้วย
2. เพื่อเคลียร์พื้นที่ให้เจ้าหน้าที่ทำงานบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
เพื่อคืนภาวะปกติกลับมาสู่ประชาชนโดยไว เศรษฐกิจกาวฟื้นฟูก็จะทำได้ง่าย และรวดเร็ว
กลับมาใช้ชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว เศรษฐกิจชาติก็ฟื้นได้เร็วตามไปด้วย หากยังดื้ออยู่ใน
พื้นก็ต้องยอมรับชะตากรรมที่จะติดตามมาจากการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ ดังนั้นเราจะ
เห็นฝรั่งที่ประสบภัยพิบัติเค้าจะปฏิบัติตามกฏอย่างเคร่งครัด ถือเปนการให้ความร่วมมือ
ที่สำคัญกับภาครัฐฯ

ถ้าคิดจะวิ่งตามฝรั่งก็ต้องทำตามทั้งหมด และวิ่งตามกันแบบถูกหลักวิชาเค้าหน่อย
เบื่ออะไรครึ่งๆกลางๆ หรือรับแต่เรื่องแย่ๆของเค้ามา !!!!!"


อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากพี่ต้น ถึงพื้นที่ถัดลงมาจากนั้น ก็คือ

พี่ต้น : "น้ำที่สนามธูปเตมีย์ ยังเชื่อมเป็น น้ำเดียวกับสายไหม ครับ...น้ำที่ถนนวิภาวดี
ใต้คันกั้น...มีปริมาณน้ำไหลซึม มาน้อยกว่ากำลังเครื่องสูบน้ำครับ..

น้ำที่ไหลจากคันกั้นถนนวิภาวดี จะไหลมาทางสายไหม คู้บอน นวมินทร์ บางชัน
อ้อมไปทางโน้นครับ...อาจจะมีซึมๆ ไปทางหลักสี่บ้าง แต่ไม่เยอะครับ.."
---------------------------------

ฝั่งธนบุรี..และนครปฐม...

พี่ต้น : "เจ้าหน้าที่จากเทศบาลนครสมุทรสาคร ลงพื้นที่ โครงการแก้มลิงคลองสนามชัย-คลองมหาชัย
เพื่อทำการเก็บเศษขยะวัชพืชที่ติดค้างบริเวณประตูระบายน้ำ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำต่อไป"



----------------------------------------

ถึงตอนนี้ หนึ่งในพระเอก ที่ช่วยในการระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยได้เร็วแบบนี้
น้ำเริ่มลดลงแล้วในหลายพื้นที่ ก็คือ โครงการในพระราชดำริที่ชื่อว่า แก้มลิง
เลยอยากให้ความรู้เรื่อง แก้มลิง กับคุณผู้อ่านสักหน่อยครับ


พี่ต้น : "...ในภาพ ลายฝีพระหัตถ์แบบร่าง...ที่พระองค์ทรงให้ความสำคัญ
ของพื้นที่เก็บน้ำฝั่งตะวันตก ของแม่น้ำเจ้าพระยา.."



(...ตามปกติ เวลาเราให้กล้วยกับลิง ลิงจะเคี้ยวแล้วเก็บไว้ในแก้มลิง...
เขาเคี้ยวแล้วเอาไปเก็บในแก้ม น้ำท่วมลงมา ถ้าไม่ทำ
"โครงการแก้มลิง" น้ำท่วมนี้จะเปรอะไปหมด อย่างที่เปรอะปีนี้
เปรอะไปทั่วภาคกลาง จะต้องทำ "แก้มลิง" เพื่อที่จะเอาน้ำปีนี้ไปเก็บไว้...)

พระราชดำรัส ๔ ธันวาคม ๒๔๓๘




ข้างล่างนี้เป็นพระราชดำรัสของในหลวงครับ

"...จะกล่าวถึงโครงการแก้มลิง (จุดที่ ๓๗). จะทำทำนบกั้น ๒ ข้างคลองสรรพสามิต
และจะให้น้ำที่ลงมาจากที่นี่ (จุดที่ ๓๘) ไหลผ่านประตูน้ำให้น้ำลงไปได้ทางเดียว
ไม่ให้ไหลขึ้น. แต่เพื่อการนี้ จะต้องทำให้มีบริเวณที่จะเก็บกักน้ำได้มากๆ (จุดที่ ๓๙).
ต้องทำโครงการกั้นน้ำ. ตรงนี้อาจจะทำเป็นคันลงมา แล้วตรงนี้ก็เท่ากับเป็นคันเพื่อ
เก็บกักน้ำ. เวลาน้ำในทะเลสูง เราก็ปิดและสูบน้ำออก. เวลาน้ำลงก็เปิด ให้น้ำออกได้.

อันนี้เป็นหลักการ. แต่ว่าโดยที่มีประชาชนอยู่บ้าง เราก็จะต้องไม่ให้ประชาชนเหล่านี้
เดือดร้อน.* จึงทำอย่างนี้. ทำคล้ายๆ เป็นแท่นที่ (จุดที่ ๔๐) เดี๋ยวนี้ ที่นี่เป็นนาเกลือ
เดิม แต่ว่าทำนาเกลือไม่ได้แล้ว แล้วเป็นทำนากุ้ง แต่นากุ้งก็ทำไม่ได้แล้ว. น้ำโสโครก
มันลงมา กุ้งก็อยู่ไม่ได้. เดี๋ยวนี้ทำนาปู. ไม่ใช่นาปูแท้ แต่เอาปูจากที่อื่นมา มาปล่อยไว้
ที่นี่ เป็นธนาคารปู. คือไม่ใช่เลี้ยงปู เลี้ยงปูไม่ได้ เพราะว่าน้ำมันเสีย ถึงอันตรายมาก.
 ปูที่อยู่ที่นี่กินน้ำโสโครก คนรับประทานปูแล้วก็ปวดท้อง. อันนี้มีชื่อเสียงมานานแล้ว
 ปูสมุทรสาครนี่ ทำให้คนเป็นโรคทางเดินอาหารไปมาก.

ฉะนั้นถ้าทำอย่างนี้ เป็นแท่นขึ้นมา. ในแท่นนี้มีที่พอสำหรับให้ประชาชนที่อยู่แถวนี้
มาอยู่เป็นหมู่บ้านจัดสรร. และ ในที่แท่นนี้ (จุดที่ ๔๑) เราก็ทำทฤษฎีใหม่. มีสระน้ำ
มีเขตของบ้าน. เวลาปรับปรุงดินพอสมควรแล้ว ซึ่งทำไม่ยากนักภายใน ๒ ปี โดย
เอาดินนี่ขึ้นมาแล้วทำให้แห้ง หรืออาจจะเอาดินมาจากที่อื่น มาถมไว้บ้าง ล้างความ
เค็มของดิน พวกที่อยู่ที่นี่จะปลูกต้นไม้ได้ เช่นมะพร้าวหรือชมพู่ หรือปลูกผัก หรือ
เลี้ยงปศุสัตว์. ในสระน้ำก็เลี้ยงปลาได้.

ส่วนในที่ที่เป็นแก้มลิงนี่ ที่น้ำลงมา ถ้าทำนานๆ ไป น้ำนี้ก็จะกลายเป็นน้ำที่สะอาด
สามารถที่จะเลี้ยงสัตว์น้ำได้. เวลาน้ำลงมาก็มากักไว้ที่นี่ เวลาน้ำทะเลขึ้นก็ปิด.
เวลาน้ำทะเลลงก็เปิด น้ำจะออกไปโดยใช้ Gravity ใช้ความชันของพื้นที่ได้. ใน
บริเวณนี้มีที่กว้าง เหมาะสำหรับทำโครงการแก้มลิง และมีหมู่บ้านน้อย สามารถที่จะ
จัดสรรที่ดิน. ไม่ใช่ว่าจะทำหมู่บ้านจัดสรรแบบเอากำไร แต่เป็นหมู่บ้านจัดสรรสำหรับ
ประชาชนที่อยู่แถวนี้. และต่อไปก็อาจจะมีที่พอสำหรับโยกย้าย คนที่จะต้องโยกย้าย
มาจากบริเวณที่จะขยายคลองให้น้ำผ่านได้ดี.

ทางด้านนี้ (จุด ๒๘, ด้านตะวันออก) ก็น่าจะทำโครงการได้เหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ศึกษา.
ก็น่าจะทำได้ มีที่คล้ายๆ กับด้านนี้ (จุด ๒๙, ด้านตะวันตก) อันนี้ก็เป็นโครงการแก้มลิง.
โครงการแก้มลิง ต้องทำตามคติพจน์ที่มีเขียนไว้ข้างใต้ตรงนี้ (ทรงชี้ที่กระเป๋าฉลองพระองค์)
เหมือนที่เคยเล่าให้ฟังเมื่อประมาณ ๓ ปี ภาษาไทยพูดยาก แต่ภาษาอังกฤษก็คือ
"Our Loss Is Our Gain."  Our Loss คือสิ่งที่เราเสีย; Is คือเป็น, Our Gain กำไรของเรา
Our Loss ความเสียหายของเรา Is Our Gain กลายเป็นกำไรของเรา. ต้องทำตามคติพจน์
ของสำนักงาน ฝล. ก็จะสามารถทำโครงการนี้ได้.

แต่ถ้าถือว่า Our Loss Is Our Loss คือ ไม่ยอมเสียเงิน ก็ทำโครงการนี้ไม่ได้. ต้องยอมเสียเงิน.
แต่ในที่สุดก็กลายเป็นกำไรของเรา. เพราะว่าคนพวกที่อยู่ที่นี้ จะร่วมมือ จะทำให้โครงการนี้
ราคาถูกลง และ ประชาชนที่อยู่ที่นี่ก็จะได้กำไรเหมือนกัน. ทางราชการก็จะได้กำไร.

อยากให้เข้าใจว่าทำไมเรียกว่า แก้มลิง ก็เพราะว่าน้ำที่เข้ามาที่นี่ (จุดที่ ๒๕) มันออกไปไม่ได้
ก็ต้องเคี้ยว เคี้ยว เคี้ยว แล้วเก็บไว้ในที่นี้ (จุดที่ ๓๙). ตรงนี้ (จุดที่ ๔๒) มีคลองหลายคลอง
คลองหนึ่งชื่อคลองสำเหร่ แล้วอีกคลองชื่อคลองโรงภาษี. ที่ตรงนี้เวลาน้ำขึ้น น้ำพุ่งเข้าไปเลย
จากที่นี่ (จุดที่ ๔๒) ไปลงคลองบางกอกใหญ่. แต่ถ้าเราทำทางที่จะให้ไหลตรงมาที่นี่ คลอง
สนามชัย (จุดที่ ๔๓) นี่คลองสนามชัย (จุดที่ ๔๓) มาลงที่นี่ คลองมหาชัย (จุดที่ ๔๔) ถ้าเอา
คลองสำเหร่และคลองโรงภาษี มาเชื่อมต่อกับคลองสนามชัย หรือคลองบางมด (จุดที่ ๓๘)
ก็ได้ ก็จะสามารถระบายน้ำออกจากบริเวณน้ำท่วมฝั่งธนฯ (จุดที่ ๒๕). ซึ่งทำได้ เป็นถนนคลอง.
หรือจะเรียกว่าคลองถนนก็ได้ เพราะว่าข้างบนเป็นถนน ข้างล่างเป็นคลอง."


By: โครงการชลประทาน สมุทรสาคร

ดังนั้น อย่าคิดว่า ฝั่งตะวันตก ไม่มีตัวช่วยนะครับ ในหลวงท่านทำโครงการไว้อยู่แล้ว


-----------------------------------------

พี่ต้น : น้ำท่วมแบบประชาธิปไตย...(ทุกคนมีสิทธิ อยากทำอะไร ก็ทำ)

...หลายๆพื้นที่ มีประชาชนไม่ยินยอม ให้กั้นน้ำ เพราะกลัวว่าจะทำให้เกิดน้ำท่วมขังนาน
ทางเจ้าหน้าที่รัฐ ได้พยายามเจรจาทำความเข้าใจถึงเหตุผลในการป้องกัน แม้ว่าจะได้
จัดเตรียมสิ่งของให้ความช่วยเหลือ อาทิ เงินชดเชย สุขาลอยน้ำ กระสอบทรายและถุงยังชีพ
.....แต่ก็ไม่เป็นผล

....ปัญหาน้ำท่วมยาวนาน จะยิ่งเพิ่มระดับความขัดแย้งจากชาวบ้านด้วยกันเอง ของคน
ทั้งสองฝั่ง คันกั้น แรงกดดัน จึงทำให้ช่วงกลางคืน มีกลุ่มวัยรุ่นเข้ามารื้อกระสอบทราย.....
(กทม.คนเยอะ เลยต้องรับภาระมวลชนหนัก กว่า นครสวรรค์ /อยุธยา) ท่วมมิดเหมือนๆ กัน
ก็จบ แต่ พอน้ำแห้ง....ก็เพราะ คันกั้น...บ้านเหนือคันกั้น...ก็บอก ฉันรับไม่ได้..................."

สิ่งที่อยากฝากทุกท่านไว้ คือข้อความของคุณ Apiradi Poshya ครับ

"คุณต้นคะ น้ำท่วมครั้งนี้มันให้อะไรกับโอ๋มากเลยคะ มันทำให้โอ๋ได้มิตรภาพ
จากคนที่เราไม่เคยเห็นหน้ากัน การเห็นใจ เข้าใจ และรับรู้ถึงน้ำใจจากเพื่อนๆ
โอ๋ว่า โอ๋ต้องขอบคุณน้องน้ำนะคะ ที่ทำให้เรามีความรู้สึกแบบนี้ แล้วใครๆที่
โทษน้องน้ำว่าทำให้เดือดร้อน ลองคิดใหม่นะคะ คนเราต่างหากที่ทำให้เรา
เดือดร้อน คนที่ทำให้เราจิตตก แล้วตัวเราเองที่ไม่ตั้งมั่นในสติ น้องน้ำให้เรา
มากกว่าที่เราจะรู้ตัวคะ ลองมองดูนะคะว่าคุณได้อะไร"


------------------------------------------

ถ้ามีอัพเดทอะไร เจอกันอีกที คืนนี้ ในกระทู้ใหม่นะครับ อาจจะเข้ามาตอบกระทู้นี้เป็นระยะๆ
เพราะจะได้เร่ง รีวิว WRX STi ให้เสร็จเสียที เหลือ เขียนสรุปส่งท้ายแล้ว ก็เอาขึ้นให้อ่านกันได้แล้ว
ในช่วงดึกคืนนี้

ออฟไลน์ PJ"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,722
  • Fake Forester
    • อีเมล์
ขอบคุณครับผม

ออนไลน์ Stp

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,537
อ้างถึง
ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) แจ้ง เริ่มเปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการดังนี้
เส้นทางที่มีระดับน้ำลดลง ( เปิดการจราจรอย่างไม่เป็นทางการ )

3) ถ.ราชพฤกษ์ ตลอดสาย

น่าจะแค่ฝั่งธนบุรีนะ เพราะฝั่งมาทางนนทบุรี ยังจมอยู่ประมาณ 50 ซม. เลย รอเจ้าพระยาลดระดับอย่างเดียว
:D ;D ร่วมรณรงค์รักการอ่านหนังสือ แทนการถามตลอดเวลา ;D :D

ออฟไลน์ templeboy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,280
ดีใจ ราชพฤกษ์กลับมาใช้งานได้ตามปกติ...ใกล้จะได้กลับบ้านแล้วครับ  ;D
ถ้าทำอะไรดีๆ แล้วคนมองว่าสร้างภาพ...ก็ช่างเขา อย่างน้อยเราก็ยังได้ทำดี ไม่เหมือนเขา...ที่แค่ "คิดดี" ยังทำไม่ได้
ว.วชิรเมธี

ออฟไลน์ 370Z

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 170
ขอบคุณ คุณJimmyครับ
แล้วน้ำก็มุดลอดถนนพระราม2 ตามที่คุณต้นบอกไว้จริงๆ
คุณจิมมี่น้ำก้อนนี้แถวโลตัสพระราม 2 จะระบายไปได้อย่างงัยครับ ดูแผนที่แล้วไม่มีแม่น้ำใกล้เลย 
ตอนนี้นักข่าว ก็ยกขบวนมาทำข่าวที่หน้าโลตัสพระราม2 แทน หลังจากที่รอคอยที่แยกถนนบางขุนเทียน แล้วน้ำไม่ยอมเข้าถนนพระราม2 สักที
สถานีต่อไปที่นักข่าวจะมาที่บางน้ำจืด ตรง กม18 -1 9 

คุณจิมมี่ผมเอารถกลับบ้านได้หรือยังครับ อยู่แถวสนามกอลฟ์เบลส์ โอเชี่ยนอ่ะครับ  ;D

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ความเห็นส่วนตัว...จอดไว้ตรงนั้นก่อนเป็นการดีครับ

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
ได้เห็นพระอัจฉริยภาพโครงการแก้มลิง ก็พอเข้าใจขึ้นมาอีกหน่อยครับ ขอบคุณที่เผยแพร่
ตอนนี้ถนนลาดพร้าว ส่วนที่ท่วม อย่างแย่ก็เลยทางเท้าขึ้นมา 1-2 เซนติเมตรเท่านั้นครับ
และเท่าที่เห็น ทีด้า แคมรี่ แท็กซี่โคโรลล่า ก็วิ่งกันฝ่าสี่แยกตัดรัชดาเลยนะครับ แต่ก็รู้สึกสงสารรถแทน

ออฟไลน์ YIM

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,015
  • ไม่น่ารัก เราไม่มอง!!
    • อีเมล์
ขอบคุณมากครับ

ฝั่งตะวันตกสู้ๆ

ที่อื่นๆ ก็สู้ต่อไปครับ

แต่ ม. รังสิต  :'(
JDM เท่านั้น จะครองโลก!

ออฟไลน์ Bavaria_m3

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 24
ติดตามคุณต้นมาตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมใหม่ ๆ สังเกตว่านักวิชาการพูดเหมือนที่คุณต้นบอกไว้เกือบ 100% แต่คุณต้นบอกไว้เป็นอาทิตย์ ๆ แล้ว

โดยเฉพาะถนนพระราม 2 ที่ทุกคนฟันธงว่าท่วมแน่นอน สุดท้ายเริ่มเสียงอ่อย ๆ ว่าอาจจะท่วมนิดหน่อยหรือไม่ท่วมเลย ไม่ต้องห่วงครับ ผม save ชื่อไว้หมดแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์อะไรอีก ผมจะไม่เชื่อพวกคุณอีก

ความเห็นส่วนตัว ผมว่าฝั่งตะวันตกน้ำจะไหลลงมาตามธรรมชาติมากกว่า เพราะไม่มีอะไรกั้นมากเหมือนฝั่งตะวันออก ที่มีทั้ง big bag หรือคันต่าง ๆ ทำให้น้ำไหลลงมาช้ากว่า

ออฟไลน์ Ntouchpong

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
ขอบพระคุณครับพี่จิมมี่ พี่ต้น และพี่ ๆ นะครับ วันนี้ผมขับมอเตอร์ไซค์กลับไปดูบ้านที่จรัญสนิทวงศ์ 76 น้ำลดลงมากอย่างที่บอกเลยครับ  ตั้งแต่ซอย 77 ถึง ซอย 89 เท่านั้ที่น้ำท่วมสูง แต่รถกระบะยกสูงยังผ่านได้ ชาวบ้านแถวนั้นเริ่มเก็บกวาดบ้านเรือนกันแล้วครับ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ยินดีกับชาวจรัลสนิทวงศ์ ด้วยนะครับ จากใจจริง

ณ วันนี้ ผมว่า ไม่ต้องไปหวังพึ่ง หรือรอ 5,000 บาท จากภาครัฐหรอกครับ
เราช่วยเหลือตัวเองกันในชุมชนนี่แหละ ถ้าชุมชนเราแข็งแกร่งมากๆสักอย่าง
ใครก็ทำอะไรเราไม่ได้ครับ

ออฟไลน์ nonp

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 948
    • อีเมล์
ช่วยอัพเดตสถานะการณ์ของชาวจรัญสนิทวงศ์ จาก FB ครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อัพเดต!!!~ รอบสุดท้าย วันที่ 15/11/54 จากพี่น้องชาวจรัญฯค่ะ
-จรัญ8 - วัดเจ้ามูล ถนนแห้งสนิท น้ำในท่อระบายน้ำลดลงต่อเนื่อง
-จรัญ12 - แถวหน้าวัดดีดวด ตอนนี้ น้ำเหลือแค่ปริ่มๆ ลึกสุดไม่เกิน 10 ซม.แล้ว หมู่บ้านศิวาลัยน้ำลดลงมากแล้วเช่นกันค่ะ แต่ก็ยังท่วมอยู่ค่ะ
-จรัญ13 - ระดับน้ำลดลงวันละเฉลี่ยประมาณ 5-10 ซม. ส่วนพานิชการธนฯ21 ระดับน้ำยังอยู่ที่ 40-60 ซม. แล้วแต่พื้นที่ในซอย ระดับน้ำโดยเฉลี่ยยังสูงอยู่
มีรถสองแถววิ่งถึงแค่แยกวัดฉิมค่ะ ส่วนซอยพาณิชยการธนบุรี 9 (จรัญฯ 13) น้ำลดลงประมาณ 10 นิ้ว แต่ยังท่วมสูงอยู่ระดับเอว มีแต่เรือที่วิ่งได้
-จรัญ18 - หน้า รร.วัดโพธิ์เรียง และเข้าไปในซอยหลังการไฟฟ้าคลองมอญ น้ำแห้งหมดแล้ว
-จรัญ19 - ระดับน้ำในคูคลองลดลง
-จรัญ23 - ท้ายซอยติดคลองมอญ..น้ำขังระดับตาตุ่ม
-จรัญ29 - น้ำเริ่มลดลงบ้างแล้ว ยกเว้นตรงศาลพระพรหมที่ยังท่วมเยอะอยู่
-จรัญ35 - ตอนนี้สองแถววิ่งส่งถึงคอนโดแล้ว แต่ต้องเปลี่ยนรถที่สะพานวัดแก้ว ข้อมูลจากลุงคนคุมคิว เขาบอกว่าเพราะสองแถวมีแบบรถใช้น้ำมันและรถใช้แก๊ส
พวกรถใช้แก๊สลุยน้ำไม่ได้ เลยใช้วิ่งเฉพาะช่วงวัดแก้วถึงปากซอย ส่วนพวกรถใช้น้ำมันลุยน้ำไหวแต่มีน้อย เลยใช้วิ่งช่วงที่ต้องลุยน้ำแถววัดแก้วถึงวัดเงิน
ซึ่งน้ำยังท่วมระดับฟุตบาท บริเวณซอยแก้วเงินทอง 2 น้ำลดลงเหลือหัวเข่า แต่วันนี้น้ำทรงตัวคะ ประมาณ 35 ซ.ม. คะ ช่วงท้ายซอยจากสาธรเข้ามายังถนนราชพฤกษ์
บนถนนหลักแห้งสนิท
-จรัญ37 - ช่วงหน้าวัดมะลิลดลงมากแล้ว รถทุกชนิดผ่านได้แล้ว ส่วนกลางซอยและแยกประชากรไทยร่วมพัฒนายังแห้ง
-จรัญ40 - น้ำแห้งสนิท
-จรัญ41 - วินมอเตอร์ไซค์วิ่งแล้วนะคะ ส่วนแยก9น้ำสูงประมาณต้นขาหรือสูงประมาณ2ฟุตในธารารมณ์น้ำด้านในแห้งแล้วค่ะ แต่ทางที่พักทำทางเดินไม้จากปากซอยแยก9เข้าไปถึงที่พักเลยค่ะ ส่วนแยก 12 น้ำยังคงท่วมอยู่ที่ ประมาณ 80 cm คะ จะมีเรือจ้างอยู่ที่ปากซอยแยก 12 อยู่คะ
-จรัญ43 - แถวSony ระดับน้ำประมาณเกือบเข่า น้ำลดลงมากจากระดับคราบรอยน้ำเก่า
-จรัญ44 - แห้งคะทางทะลุลุมพินี พระราม8 ออกได้ปกติ
-จรัญ45 - ถนนในซอย ไม่มีน้ำแต่ บ้าน ข้านถนนมีน้ำบ้าง ในซอย ร้านผัดไทย ใบตอง ที่ ออก รายการ VIP ขาย แล้ว
-จรัญ46 - ต้นซอยน้ำแห้งหมดแล้วค่ะ ท้ายซอยไม่ทราบค่ะ
-จรัญ47 - แห้ง แต่มี น้ำ กลางถนนกลางซอย สูง 5ซม. ประมาน20 เมตร
-จรัญ49 - น้ำแห้งแล้วค่ะ
-จรัญ63 - แยก 11 ท้ายซอยแห้งแล้วคะ
-จรัญ65 - ท้ายซอย ใกล้คลองบางบำหรุ หลังสะพานข้ามคลองไปน้ำลดลงจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถึงระดับหน้าแข้ง
แต่ยิ่งเดินมาก็จะถึงประมาณหัวเข่าค่ะ ช่วงทางออกสิรินธร 5 ตั้งฮั้วเส็ง น้ำยังลึกอยู่ถึงระดับเลยหัวเข่าประมาณต้นขา
-จรัญ68 - ระดับน้ำก็เริ่มลดแล้วค่ะ เมื่อช่วงเย็นเหลือแค่ระดับหลังเท้า
-จรัญ70/3 - น้ำเริ่มแห้งแล้วค่ะ แต่หน้าปากซอยยังมีน้ำขังอยู่ต่อเนื่องมาจากโลตัส อัพเดทเพิ่มแถว รร.โพธิสารฯน้ำยังระดับเข่า รถยกสูงวิ่งได้
ส่วนในหมู่บ้านมหาดไทย 1 น้ำยังระดับเอวค่ะ
-จรัญ71 - แห้งจากต้นซอยถึงกลางซอย จากนั้นน้ำระดับแข้งถึงสยามฟาร์มระดับเกือบเอว
-จรัญ75 - ปากซอยถึงแยก 11 แห้ง จากนั้นเริ่มมีน้ำ แยก 13 ระดับตาตุ่ม (โดยรวมระดับน้ำลดลงเล็กน้อย)
ส่วนในซอยจรัญฯ 75 ถึง ส.น.บางพลัด วินมอร์ไซค์เข้าไปส่งได้ถึงส.น. จะแห้งตลอดทางจนถึงสกุลชัยซอย 4 เริ่มมีน้ำ
ระดับน้ำลึกสุดประมาณครึ่งน่อง ช่วงสกุลชัยซอย 7 จนถึงส.น. (พ้นท่อมอร์ไซค์บางคัน) เริ่มมีรถยกสูงเข้า-ออก

ออฟไลน์ anuch

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 18
ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล

ออฟไลน์ wsu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 140
    • อีเมล์
แล้วถนนบรมราชนนี จะได้ใช้ตลอดสายเมื่อไรครับ

ออฟไลน์ ichok

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 791
    • อีเมล์
ติดตามคุณต้นมาตั้งแต่น้ำเริ่มท่วมใหม่ ๆ สังเกตว่านักวิชาการพูดเหมือนที่คุณต้นบอกไว้เกือบ 100% แต่คุณต้นบอกไว้เป็นอาทิตย์ ๆ แล้ว

โดยเฉพาะถนนพระราม 2 ที่ทุกคนฟันธงว่าท่วมแน่นอน สุดท้ายเริ่มเสียงอ่อย ๆ ว่าอาจจะท่วมนิดหน่อยหรือไม่ท่วมเลย ไม่ต้องห่วงครับ ผม save ชื่อไว้หมดแล้ว ถ้ามีเหตุการณ์อะไรอีก ผมจะไม่เชื่อพวกคุณอีก

ความเห็นส่วนตัว ผมว่าฝั่งตะวันตกน้ำจะไหลลงมาตามธรรมชาติมากกว่า เพราะไม่มีอะไรกั้นมากเหมือนฝั่งตะวันออก ที่มีทั้ง big bag หรือคันต่าง ๆ ทำให้น้ำไหลลงมาช้ากว่า

อย่าไปคิดมากครับ การรับข้อมูลเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องใช้วิจารณญาณ การที่คุณต้นออกมาให้ข้อมูลที่วิเคราะห์จากหลักวิชาการผมถือว่าเป็นประโยชน์มากกว่าโทษถึงแม้จะมีผิดพลาดบ้างแต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือความตั้งใจ ส่วนความคิดเห็นก็คือความคิดเห็น มองแบบบ้านๆอาจมีผิดถูกปนกันไป ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าการที่น้ำจะท่วมผมก็มองแบบบ้านๆ ผมก็ไม่รู้ว่าใครจะไปกั้นอะไรตรงไหน ถ้าถามว่าหากไม่มีการกั้นบิ๊กแบ๊กก็ไม่มีใครรู้100เปอเซ็นว่าอนุสาวรีย์จะท่วมหรือปล่าว หรือมีใครจะฟันธงว่าปากเกร็ดถึงนนท์น้ำจะไม่ท่วมซึ่งรอดมาได้จากการกั้นกระสอบทราย ขนาดบ้านน้าผมที่นครสวรรค์ท่วมเค้าบอกปีนี้น้ำมากกว่าทุกปีเค้าบอกให้ขนของขึ้นชั้นสอง เตือนแบบชาวบ้านๆไม่ได้มีหลักวิชาการอะไรแต่มันก็ช่วยให้เราเอารถออกมาก่อนไม่งั้นจมไปแล้ว(บ้านผมอยู่บางบัวทอง ปี38ที่บ้านไม่ท่วมแต่ข้างนอกท่วม)

popdemonic

  • บุคคลทั่วไป
ไปกู้รถโรงงานมาคันนึงเมื่อวาน ผมไม่เคยเห็นน้ำจริงๆ เมื่อวานครั้งแรก และต้องสัมผัสน้ำครั้งแรกในคราวเดียวกัน
บอกตรงๆโคตรน่ากลัว แถมไปเพราะมีเหตุอีก ลงไปยืนเอาวีโก้ถอยไปลากกลางถนนยังกลัววีโก้จะดับอีกคัน น้ำสุดลูกหูลูกตา
น้ำลงไปยืนกลางถนนจ่อระดับฮ๋ำเลย ด้วยความฟายของคนขับ สรุปก้านคด สูบแตก มันยังไม่รู้เลย
รู้แต่ขึ้นรถขับได้ เบรคอยู่ บางครั้งผมก็อดสมเพศคนพวกนี้ไม่ได้จริงๆ แล้วชอบมานั่งขอฟ้าขอฝนขอเทวดาอารักษ์
ทำไมฉันไม่มีเหมือนคนอื่นเขา ไม่แปลกเลยเพราะระดับความสูงของจิตใตยังอยู่ต่ำนักแล ชีวิตนี้ไม่แปลกที่โดน
สาปมาให้ชีวิตมีแค่นี้เอง ขนาดผมไปกู้รถมันยังเฉยๆ มันยังไม่รู้สึกว่ามันผิดเลย ยังยืนดูเฉยๆ เปิดเครื่องออกมา
ผมจะเอาก้านที่มันคดตบกบาลมัน