ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)  (อ่าน 29869 ครั้ง)

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,717
  • Blue. Just BLUE.
เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 16:27:41 »
ผมมีปัญหาเรื่องหนูกัดสายไฟรถอีกแล้วครับ - -"

เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนได้ขึ้นเหนือไปเยี่ยมคุณย่าที่เชียงใหม่ 3 วัน
ซึ่งปกติตอนอยู่บ้านผมมักจะฉีดยาฆ่าแมลงไว้ที่ห้องเครื่องไว้ทุกคืน
มันก็กันหนูได้ดีทีเดียวเลยล่ะ

แต่ทีนี้ ตอนที่ผมไม่อยู่ ใจก็ตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะต้องทิ้งรถไว้ที่บ้าน
ผมเลยจัดเต็ม อัดยาฆ่าแมงไว้ที่ห้องเครื่องเต็มที่ก่อนไป
พร้อมวางกับดักหนูไว้ใต้ห้องเครื่องตรงที่คิดว่าหนูมันน่าจะปีนขึ้นไปได้
(ตอนแรกว่าจะซื้อกาวดักหนูที่เซเว่นใกล้บ้าน แต่ของหมด แล้วเขาก็ไม่สั่งมาทดแทนอีก ฮึ่ม!!!)

ปล่อยไว้ให้หลัง 3 วันแล้วกลับมาถึงบ้าน.....
เปิดประตูรถ บิดกุญแจไปที่ ON ให้ระบบพร้อมทำงาน.....
เอาล่ะสิ ไฟ D ที่เกียร์กระพริบ แต่ไฟเครื่องยนต์ดับปกติ
ลองบิด START ดูแล้วกัน ชึ่ง!!! (เสียงเครื่องยนตร์สตาร์ท)
เครื่องทำงานปกติหมด แต่ D ก็ยังกระพริบอยู่ งานเข้าแล้วไง = =
ผมเลยเรียกป๋าให้มาดู พอป๋าเห็น ป๋าก็มานั่งตำแหน่งคนขับแทน แล้วโยกเกียร์ขึ้นลงเมามัน
ทำยังไงรถก็ไม่เคลื่อนซักที ผมจึงจัดแจงให้ป๋าดับเครื่องแล้วเปิดฝากระโปรงรถขึ้นมาดู
โอ้โห....กลิ่นฉี่หนู ขี้หนู แรงมากกกกกกกกก
ส่องไปๆ มาๆ เอ๊ะ สายไฟใต้กล่องกรองอากาศมันขาด
จับๆ ดึงๆ ดูแล้วมันก็หลุดปึ้ด!!!! Shift หายแล้วไง!!!!
ผมกับป๋าเลยจัดแจงถอดกรองอากาศออกมาดูว่าสายไฟที่มันขาดนั้นเสียหายมากแค่ไหน
แล้วก็ดังที่เห็นในภาพที่ผมแนบไว้ข้างล่างครับ กุดหมด ไม่เหลือซาก
ที่เหลือซากจริงๆ ก็คงเป็นสายที่ผมจับแล้วมันหลุดคามือนั่นล่ะ - -"

จะให้ช่างต่อสายไฟใหม่ก็ไม่ได้ เพราะมันกุดซะขนาดนั้น ถึงซ่อมได้ก็คงไม่คุ้มที่จะเสี่ยง
ผมเลยโทรเรียกบริการรถลากของฮอนด้าลากไปที่ศูนย์
คิดว่าเปลี่ยนแค่สายไฟเกียร์ตรงนั้นก็ไม่เท่าไรมั้ง อย่างมากคงพันกว่าๆ

ระหว่างเดินทางไปที่ศูนย์ ผมก็มีโอกาสได้คุยกับเจ้าหน้าที่รถลากระหว่างทาง
เจ้าหน้าที่เขาบอกว่าสายไฟของ Jazz และ City ตรงนั้นเป็นจุดยอดนิยมของหนูเลยทีเดียว
มีลูกค้าหลายรายโดนมากันเยอะแล้ว ยี่ห้ออื่น รุ่นอื่น ก็ไม่เว้น
เพียงแต่ตำแหน่งหนูกัดจะต่างกันตามรุ่นรถเท่านั้นเอง
เช่น Fiesta มักจะโดนที่สายหัวฉีด เป็นต้น (โอ...แรงกว่าเราอีกนะนั่น - -")

เมื่อถึงศูนย์ เจ้าหน้าที่รถลากก็เอารถผมลง แล้วเรียกช่างมาดู
ช่างบอกว่าแบบนี้ต้องเปลี่ยนสายไฟชุดใหม่อย่างเดียว เหมือนคันข้างๆ พร้อมกับชี้ไปยังรถข้างๆ
รถคันข้างๆ ผมใช้รุ่นเดียวกันเด๊ะ หนูกัดที่เดียวกันเป๊ะ แต่ของเขายังพอขับมาได้ ต้องเปลี่ยนเหมือนกัน
หลังจากคุยกับช่างเสร็จ ช่างก็ส่งเรื่องต่อให้กับเจ้าหน้าที่รับบริการ
เจ้าหน้าที่บริการรับเรื่องเรียบร้อย พร้อมกับพิมพ์ใบประมาณราคาให้ดูพร้อมแผนผังสายไฟนี่ผมลมแทบจับ
ค่าอะไหล่+ค่าแรง รวมทั้งสิ้น 6667 บาท!!!!!!! แม่เจ้า!!!!!!!!!!!!!
ไอที่หนูมันกัดน่ะ สายไฟที่ต่อมาจากสายหลักของเครื่องเลยทีเดียว = =

ไม่ไหวละ แบบนี้จ่ายเองไม่ไหว ผมจึงโทรเรียกประกันให้มาทำใบเคลมซ่อมรถแทน
และตอนนี้ก็รอประกันอนุมัติซ่อมอย่างเดียวแล้วครับ

ตอนนี้ผมมีคำถามทิ้งท้ายครับว่า...
ระหว่างที่รถผมกำลังซ่อมอยู่นั้น มีวิธีใดบ้างที่จะกำจัดหนูได้อย่างถาวร เพราะ....
1. กับดักหนูไม่ได้ผล
2. กาวดักหนูพอให้หนูเลี่ยงได้บ้างนิดหน่อย แต่ใช้ได้ไม่กี่วัน
3. สเปร์ยยาฆ่าแมลงใช้ได้แบบวันต่อวันเท่านั้น
4. ใช้ยาเบื่อหนูนั้นเสี่ยงเกินไป เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาไว้
5. ส่วนใหญ่หนูมันมาจากบ้านตรงข้าม ซึ่งผมไม่อยากรบกวนเขาเท่าไร เดี๋ยวจะทะเลาะกันซะเปล่า - -"

ช่วยผมด้วย ผมจนปัญญาแล้วจริงๆ T-T
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,717
  • Blue. Just BLUE.
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 16:39:47 »
1. ใบประเมินราคาอะไหล่ + ราคารวมค่าบริการ
2. แผนผังสายไฟเครื่องยนต์ และตำแหน่งที่ชำรุด
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ Arado_kung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,070
    • อีเมล์
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 17:04:15 »
accord ผมโดนแค่เส้นเดียว เข้าศูนย์รัตนาธิเบศน์ตอนแรกจะบอกเหมือนกันว่าสงสัยต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่ทั้งชุด ผมก็เรียกประกันมาพอทำเรื่องเสร็จ ที่รถผมช่างมารุมกันเพียบเลยแล้วคนที่เป็นหัวหน้าช่างก็บอกว่าปลั๊กยังไม่แตกต่อได้ลองดู เค้ามาถามผมว่าโอเคไหมถ้าต่อได้ชั่วโมงเดียวเสร็จกลับบ้านได้เลย ผมก็ตกลงครับ เอาเข้าจริงๆประมาณ2-3ชม.กว่ารถจะเสร็จเรียกไปเช็คบิลผมช็อคไปเลยครับ "ค่าบริการทั้งหมด 120บาทค่ะ" เฮ้ย ทำไมมันถูกขนาดนี้ฟระ แถมล้างรถทั้งข้างนอกข้างในให้ซะเอี่ยมอีก

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 17:13:51 »
เฮ้ยยยเพื่อนร่วมชะตากรรมเดียวกัน  :o

ของผมโดนเมื่อสองเดือนที่แล้วโฟกัสหนูกัดสายไฟขาดไปหลายเส้นระบบไฟรวนกระจาย!!!!  >:(

บ้านผมก็เลี้ยงหมาเลยใช้ยาเบื่อไม่ได้ผมเลยค้นๆๆวิธีไล่หนูมาบ้องได้วิธีมาเยอะแยะเลย ลองเอาไปใช้ดูนะครับ บางคนใช้ได้ผลบางคนก้ใช้ไม่ได้ผลต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธต่างกันไป

1. เอาไม้ยี่โถมาป่นให้แห้งแล้วโรยรอบๆรถไล่หนู
2. เปิดฝากระโปรงรถไม่ให้ภายในอมความร้อนให้หนูหนีหนาวอาศัย เปิดไฟที่โรงรถทิ้งไว้ หรือถ้าทำเป็นไปซื้อหลอด LED ต่อไฟแล้ววางให้ทั่วห้องเครื่องตอนกลางคืน องค์ประกอบที่หนูชอบมาคือ อุ่น มืด แคบ เราจะใช้วิธีอะไรก็ได้เพื่อลบองค์พวกนี้
3.ไปโฮมโปรซื้อลีโอแรทมาฉีด
4.ผสมน้ำมันระกำ1ส่วนกับน้ำมันสาระแหน่9ส่วนให้เข้ากันแล้วทาไม้ปักไล่หนู
5.วางมะกรูด
6.น้ำมันสนหรือน้ำส้มสายชูชุบสำลีวางให้ทั่วห้องเครื่อง
7.วางหนามแหลมๆให้ทิ่มแทงหนู
8.การบูรใส่ถุงพลาสติกเจาะรูห้อยในห้องเครื่อง
9.ซื้อฟิวเตอร์บอร์ดหรือวัสดุแข็งๆผิวลื่นๆสูงๆมาหลายๆแผ่นแล้วต่อเรียงกันมาล้อมรอบรถ เน้นเอาผิวลื่นๆหนูจะได้ปีนไม่ได้
10.ขอฉี่แมวเพื่นบ้านมาทาๆๆรอบๆรถ

เสริมด้วยวิธีการสร้างกับดักจับหนูง่ายๆแบบประยุกต์ที่เราทำได้เอง ยกตัวอย่างเช่นดังลิงค์ด้านล่างนี้

Home Made Mouse Trap..... Bowl O' Oil












หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ eaowpj

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 610
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 17:41:06 »
พวก pest free ในโฆษณา เห็นว่าใช้ได้ผล (คุณลองดูก็แล้วกันครับ)  :)

ออฟไลน์ iKrit

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,717
  • Blue. Just BLUE.
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 17:48:44 »
ตอบคุณ Arado_kung
ฮือ....ผมอิจฉาที่เขาต่อได้ T-T

ตอบคุณ 2k
vdo clip ที่ส่งให้ดูนี่ผมชอบมากเลยครับ เดี๋ยวผมลองเอาไปทำดูบ้าง ขอบคุณครับ :D
"การไม่มีดราม่าเป็นลาภอันประเสริฐ"
แต่มนุษย์มาม่าบางคนก็ชอบเปิดประเด็นทุกที เอ้อ...แปลก

ออฟไลน์ pca

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 17:50:10 »
ของผม คัมรี่ ไฮบริด ถูกหมากระเป๋าที่เลี้ยงไว้ กัดสายไฟที่ควบคุม auto leveling head lamp ขาด ศูนย์แจ้งราคา 14000 บาท แพงเว่อร์ แพงแบบไม่มีเหตุผล

เดี๋ยวนี้อะไหล่ที่ไม่ใช่อะไหล่สิ้นเปลืองของ โตโยต้า รู้สึกราคาจะแพงเว่อร์มากๆ

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 18:29:03 »
ผมล่ะท้อเลยเรื่องนี้ โดนหมดทุกคัน สายไฟหรี่หน้ารถขาด สายไฟใหญ่ๆยางเปลือยเลย จิตตก ทั้งพ่นไบก้อน ฉีดน้ำ ก็ไม่หาย หลังๆรถไม่ได้จอดดีเอาไปรวมจอดโรงรถชายคาบ้านแล้วเอาหมาผูกไว้ใกล้ๆรถ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,353
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 19:15:57 »
ที่บ้านผมเลี้ยงแมว หนูนี้ไม่มีให้เห็นเลย แต่มีปัญหาอื่นตามแทน แมวขึ้นไปนอนบนหลังคารถมีแต่รอยเล็บเต็มไปหมดโชคดีหรือโชคร้ายดีละงานนี้ :'( :'(

ออฟไลน์ MC Stradale

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,520
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: ธันวาคม 20, 2011, 19:39:03 »
ที่บ้านผมเวลากลับบ้านหลังเลิกงานหรือไปไหนมาแล้วกลับบ้านมาดับเครื่องแล้วก้จะเปิดฝากระโปรงหน้าเอาไว้อ่าครับ เพราะที่มืดหนูมันชอบเข้าไปอยู่ เมื่อก่อนผมก้มีปัญหานี้ครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเข้ามาในห้องเครื่องเลยครับ ลองใช้วิธีนี้ดูครับ

ออฟไลน์ banch

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,214
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 08:07:21 »
เอาจาระบีไล้สายไฟบางๆ น่าจะช่วยได้

แต่อาจจะสกปรกเลอะเทอะนะ


ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 09:53:19 »
ลืมบอกไปว่าวิธีการต่างๆที่ว่ามานี้ให้ใช้ทีละอย่างนะครับไม่เกิน3วันให้ลองวิธีใหม่ น่าเจ็บใจมากที่หนูมันเรียนรู้เร็วจริงๆ วิธีที่เคยได้ผลวันนึงอาจไม่ได้ผลในอีกวัน เมื่อไหร่ที่จับหนูในกรงหรือดักหนูในกาวได้ให้เอากรงไปล้างเอากาวไปทิ้งแล้วล้างบริเวณนั้นๆให้สะอาดทันที เหตุผลเพราะว่าเวลาหนูมันติดกับแล้วมันจะฉี่ส่งกลิ่นออกมาเพื่อเตือนหนูตัวอื่นๆว่าสิ่งนี้มีอันตรายให้เลี่ยงไปซะ เมื่อเช้าผลเพิ่งดักหนูติดกาวได้อีกตัวละฮ่าๆๆๆๆ เขวี้ยงลงถังทันที  8)
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,052
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 10:22:11 »
โห แย่จังครับ คงเจอแก๊งหนูที่เลวไม่น้อยเลยล่ะ
ที่บ้านผมเวลากลับบ้านหลังเลิกงานหรือไปไหนมาแล้วกลับบ้านมาดับเครื่องแล้วก้จะเปิดฝากระโปรงหน้าเอาไว้อ่าครับ เพราะที่มืดหนูมันชอบเข้าไปอยู่ เมื่อก่อนผมก้มีปัญหานี้ครับ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีเข้ามาในห้องเครื่องเลยครับ ลองใช้วิธีนี้ดูครับ
แต่บางทีผมก็เจอแบบนี้อยู่ดีนะครับ ไม่รู้หนูมันโดดลงไปง่ายขึ้นหรือเปล่า -*-

ลืมบอกไปว่าวิธีการต่างๆที่ว่ามานี้ให้ใช้ทีละอย่างนะครับไม่เกิน3วันให้ลองวิธีใหม่ น่าเจ็บใจมากที่หนูมันเรียนรู้เร็วจริงๆ วิธีที่เคยได้ผลวันนึงอาจไม่ได้ผลในอีกวัน เมื่อไหร่ที่จับหนูในกรงหรือดักหนูในกาวได้ให้เอากรงไปล้างเอากาวไปทิ้งแล้วล้างบริเวณนั้นๆให้สะอาดทันที เหตุผลเพราะว่าเวลาหนูมันติดกับแล้วมันจะฉี่ส่งกลิ่นออกมาเพื่อเตือนหนูตัวอื่นๆว่าสิ่งนี้มีอันตรายให้เลี่ยงไปซะ เมื่อเช้าผลเพิ่งดักหนูติดกาวได้อีกตัวละฮ่าๆๆๆๆ เขวี้ยงลงถังทันที  8)
จริงครับ พอใช้กาวดักได้ ทั้งฉี่ทั้งขี้ เรี่ยราดเลย 55555+ แล้วมันยังมาทำตัวน่าสงสาร แต่ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนการให้สมควรกับทีพวกมันกระทำครับ

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 14:47:40 »
วางยาเบื่อ เป็นทางออกที่ดีนะครับ แต่ต้องระวังสัตว์เลี้ยงเราเองให้มากๆ เลย บ้านผมก็วาง แต่วางตอนกลางคืนอย่างเดียวตอนเช้ามาขังหมาไว้ก่อนมาเก็บซากหนูซากยาเบื่อ
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: ธันวาคม 21, 2011, 16:20:28 »
สำหรับท่านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงอื่นๆและคิดจะใช้วิธีวางยาเบื่อขอแนะนำให้จัดหาแหล่งน้ำไว้ใกล้ๆจุดที่หนูกินอาหารคลุกยาเบื่อ เพราะว่ายาเบื่อจะทำให้หนูเกิดอาการร้อนในท้องอยากกินน้ำเป็นอย่างมาก สังเกตุมันมักจะตายใกล้ๆแหล่งน้ำ แต่หากว่ามันไปตายในที่ๆไม่สมควรเช่นใต้หลังคา อีกด้านของภายในกำแพง ท่อน้ำทิ้ง ท่อระบายอากาศหรือซวยสุดๆในช่องแอร์รถยนต์ท่านจะต้องลำบากอย่างแสนสาหัสที่จะเอาซากมันออกมาหรืออาจต้องรอจนเน่าแล้วเน่าอีกเหลือแต่กระดูกไม่มีกลิ่นนั่นล่ะ  :P
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
Re: เรื่องของหนูกัดสายไฟรถ (อีกแล้ว)
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: ธันวาคม 22, 2011, 05:18:24 »
คิดในแง่ดีก็ฟาดเคราะห์ไปครับ

บ้านป้าผม Volkswagen Vento ปี 1997
(จะว่าไป ทีมงาน Headlightmag นี่มี Vento กันเกือบทุกคนเลยแฮะ
Commander Cheng, Toyd, และบ้านผม)

หนูกัดสายน้ำมันเบนซินครับ แล้วเนื่องจากเป็นเครื่องแบบเก่า
ไม่ใช่ Cross Flow เลยเป็นไอเสียออกจากด้านหลังเครื่อง

ขับออกไปบนถนนสุขุมวิท ช่วงใต้สถานีรถไฟฟ้าเพลินจิต
น้ำมันฉีดลงไปบนท่อไอเสีย ไฟไหม้หมดทั้งคัน
สรุปว่า ไม่ใช่แค่หลักพันหรือหมื่นบาท แต่หมดเป็นแสนเลยทีเดียว

T_T