ผู้เขียน หัวข้อ: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง  (อ่าน 17188 ครั้ง)

ออฟไลน์ getready

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 14:50:19 »
ขอสอบถามเกี่ยวกับการใช้น้ำมันเครื่องนะครับ สำหรับรถเก๋งทั่วไป
เพราะเห็นในนี้มีคนเก่ง ๆ เยอะ ปรกติไม่ได้ตั้งกระทู้ แต่อ่านอย่างเดียว

เกรดน้ำมันเครื่องทั้งหลาย มันบอกอะไรบ้าง
เท่าที่ผมเข้าใจ ตัวเลขหน้าหมายถึง Index ที่ใช้สำหรับใช้ในอุณหภูมิต่ำ
เลขตัวหลังหมายถึงความหนืด

เช่น 5W-30 กับ 5W-40 น้ำมัน 5W-40 จะหนืดกว่า

ผมเข้าใจถูกไหม

เพราะ เห็นบางคนบอกว่า น้ำมันเครื่อง 10W-50 ดีกว่า 10W-40 เพราะช่วงกว้างกว่า
บางคนบอก 50 เหมาะสำหรับ รถเก่า 30-40 เหมาะสำหรับรถใหม่

ทำเอาผมสับสนเหลือเกิน ว่าการเลือกน้ำมันเครื่อง ควรเลือกอย่างไร

ออฟไลน์ getready

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 3
    • อีเมล์
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 15:06:09 »
และยิ่งได้อ่านข้อมูลจากเว็บบอร์ดรถยนต์แห่งหนึ่ง เขียนไว้แบบนี้
(ขออนุญาต ไม่บอกที่มา เพราะไม่อยากให้พาดพิง)

อุณหภูมิอากาศ ต่ำ >26 C ,สูง >43 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 100 C Ideal SAE =60
อุณหภูมิอากาศ ต่ำ >16 C ,สูง >43 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 93 C Ideal SAE = 50
อุณหภูมิอากาศ ต่ำ >10 C ,สูง <43 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 87 C Ideal SAE = 40
อุณหภูมิอากาศ ต่ำ >4 C ,สูง <36 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 77 C Ideal SAE = 30
อุณหภูมิอากาศ ต่ำ >-7 C ,สูง <29 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 77 C Ideal SAE = 10W-30
อุณหภูมิอากาศ ต่ำ <-7 C ,สูง <21 C อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ 77 C Ideal SAE = 5W30

ในขณะนี้น้ำมันเครื่องที่กล่าวกันว่าดีที่สุดอันดับ 1 คือน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ NASA SynLube SAE 0W-60 ที่มีราคาแพงมาก ราคาขายที่ต่างประเทศตกลิตรละประมาณ 3,600 บาท 
ดีที่สุดอันดับ 2 ที่หาซื้อได้ทั่วไปคือน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 5W-50
ดีที่สุดอันดับ 3 คือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์หรือกึ่งสังเคราะห์ 0W-40 ,10W-40 ,20W-50
พอใช้ได้ปานกลางคือ น้ำมันเครื่องสังเคราะห์หรือกึ่งสังเคราะห์ 10W-30
ทั้งนี้คงต้องแล้วแต่ยี่ห้อด้วยเพราะคุณสมบัติอาจแตก ต่างกันออกไปบ้าง


แปลว่า นำมันที่เหมาะกับบ้านเรา คือ เกรด  5W-50 อย่างนั้นหรือ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,628
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 15:56:01 »
เรื่องน้ำมันเครื่องนี่ ยังเป็นเรื่องวุ่นๆ กันจริงๆครับ

วิธีการเลือกใช้น้ำมันเครื่อง ที่ผมจะขอสรุปให้ในเบื้องต้น ก่อนจะทำเป็นบทความให้ได้อ่านกันยาวๆนั้น

1. เข้าใจถูกแล้วครับ เบอร์ 40 จะหนืดกว่า

2. ในคู่มือ เขียนว่าให้ใช้น้ำมันเครืองเบอร์อะไร ให้ใช้ตามนั้น ไม่ต้องไปเปลี่ยนเบอร์ให้มันสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นครับ
อย่าไปฟังคำแนะนำที่ไม่ถูกต้องแบบอื่นนอกเหนือจากนี้

3. จะรถเก่า หรือรถใหม่ คู่มือว่าอย่างไร ว่าตามนั้นไปเลยครับ ไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์ให้มันสูงขึ้นเมื่อรถเริ่มเก่าหรอกครับ ไม่จำเป็นเลย

ออฟไลน์ penalty

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 272
  • Ingenieur
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 18:33:50 »
ตัวเลขคือดัชนีความหนืด (ไม่ใช่ความหนืด) วัดที่อุณหภูมิมาตรฐาน
ที่ต้องวัดที่อุณหภูมิมาตรฐาน เพราะความหนืดจะแปรผกผันกับอุณหภูมิ
น้ำมันเครื่องที่มีดัชนีความหนืดคงที่ใดๆ (Single grade) เมื่ออุณหภูมิเพิ่ม ความหนืดที่วัดได้มีค่าลดลง

สมัยก่อนจะใช้น้ำมันเครื่อง Single grade แต่มีปัญหาตรงที่ว่า อุณหภูมิขณะเครื่องเย็นกับร้อนต่างกันมาก
ซึ่งค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องขณะเพิ่งติดเครื่องยนต์ กับที่อุณหภูมิทำงานก็ต่างกันมากด้วย

ต่อมาจึงได้พัฒนาน้ำมันเครื่องแบบ Multi grade เช่น SAE 10W-40 โดย W ย่อมาจาก Winter
เมื่ออุณหภูมิต่ำ น้ำมันเครื่องจะมีค่าดัชนีความหนืดเทียบเท่า SAE 10
เมื่ออุณหภูมิสูง น้ำมันเครื่องจะมีค่าดัชนีความหนืดเทียบเท่า SAE 40
เมื่อน้ำมันเครื่องเสียความหนืดไปกับความร้อน จึงทำให้ SAE 40 ที่อุณหภูมิสูง หนืดใกล้เคียง SAE 10 ที่อุณหภูมิต่ำกว่า
สรุปคือ Multi grade จึงช่วยลดค่าความแตกต่างของความหนืดเมื่อเครื่องเย็นกับเครื่องร้อน

การเลือกน้ำมันเครื่องให้เหมาะสม พิจารณาจากอุณหภูมิทำงาน ค่า Clearance ต่างๆในเครื่องยนต์ ฯลฯ
ดังนั้น อย่าไปเลือกเบอร์เองเลยครับ ใช้ตามคู่มือไปเลยดีกว่า
If God did not build it, an Engineer did.

ออฟไลน์ Cool Runner

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 590
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 19:55:37 »
เบอร์น้ำมันเครื่องใช้ตามคู่มือของรถแต่ละรุ่นที่ระบุไว้น่ะดีที่สุดแล้ว
คนใช้เลือกแค่ประเภทของน้ำมันก็พอ
ใช้ธรรมดาทั่วไปใช้แค่แบบธรรมดาหรือย่างมากก็แค่กึ่งสังเคราะห์ก็พอ
ยกเว้นเป็นพวกเท้าหนักชอบลากรอบสูงๆเป็นประจำและมีงบพอก็ค่อยใช้สังเคราะห์

ออฟไลน์ youngbear

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,333
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 20:36:20 »
 ;D ;D ;D.............just a general practical tips like these:-
-  SAE 5w-30 and SAE 30 (mono grade) for new benzene engine
-  SAE 10w-40 or SAE 40 may service in benzene engine which run
   over 100,000 kms.
-  SAE 20w-50 may service in benzene engine aging over 200,000 kms.
-  single weight like a SAE 50 or SAE 60 would recommend only
   commercial vehicles service.
*** please try to get the highest API of benzene/gasoline as you could
   such as API : SJ, SL and etc.

                                                                yogibear

ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 22:10:44 »
วิธีการเลือกน้ำมันเครื่องของผมไม่มีอะไรมาก ใช้ดูตามคู่มือเช่นกัน
ตัวเลขที่อยู่ก่อน W ผมไม่เคยดู มันวัดที่ -18เซลเซียส

ตัวเลขหลัง - เป็นดัชนีความหนืดตามที่ทุกท่านว่ามา ซึ่งเดี๋ยวนี้ถ้าเป็นรถใหม่มักจะใช้ตัว 30 กับ 40 เป็นหลัก
รถญี่ปุ่นใหม่ๆมักใช้ 30 ซึ่งรวมถึงฮอนด้า และนิสสัน และคุณก็สามารถใช้ความหนืดนี้ไปได้เรื่อยๆ
จนกว่าจะทะลุ 200,000 ถึงจะมาลองดูกันว่าขยับไปใช้ 40 ดีไหม

รถสมัยใหม่ ฮอนด้า 4 สูบ วิ่ง 200,000โล ลองใช้หนืด 30 ดูแล้ว น้ำมันเครื่องมีหายนะ วิ่งไป 10,000โล ขยับลงจากตรงกลางมาเหลือแตะก้าน พอขยับไปใช้เบอร์ 40 ผ่านไป 10,000โล ขยับลงเหมือนกัน แต่ยังไม่แตะปลายก้าน

ถ้าไม่รู้จะใช้อะไร พระท่านบอกเดินสายกลาง เอาประมาณ 40 ไว้ก่อน แต่นี่คือในกรณีที่ไม่รู้จะใช้อะไรจริงๆ ทางที่ดีที่สุด ใช้ดูจากคู่มือ + คำนวณจากอายุการใช้งานเครื่อง + อัตราการหายของน้ำมันเครื่อง

ถ้าเครื่องเก่า แต่ใช้หนืด 30 แล้วน้ำมันไม่หาย ก็ไม่ต้องเปลี่ยนครับ
- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ liveshow

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,751
  • รถไม่แรงแต่แซงยาก
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: สิงหาคม 10, 2009, 23:31:52 »
เรื่องน้ำมันเครื่องผม ปัญหาเช่นกัน แต่ของผมออกแนวบ้านิดๆ

เรื่องเกิดจากว่า รถผม 900000โล ++ แล้ว ใช้ 15-w40 (ดีเซล) ของหยดไฟ แล้วมันเริ่มกิน นมค. เข้าใจว่ามันเก่า
เครื่องเลยกิน ครานี้ก็เลยหันมามองว่าควรใช้ นมค. เกรดไหนดี เท่าที่ศึกษามา ณ. ตอนนี้พอจะสรุปคราวๆว่า
ไม่ว่าจะกี่แสน โลก็ตาม จะเลยสามแสนโลหรือห้าแสนโล จะแปดแสนโล แล้วรถยังไม่กิน นมค.
ท่านจงใช้เบอร์ STD. ไปเถอะครับ

ถ้ารถท่านเริ่มกิน นมค. เมื่อไร เช่นวิ่งทางไกลๆซัก 600โล แล้วตอนเช้ามาวัด นมค.หายไปเกินปลายวัดไม้
ท่านจงลองเปลี่ยนมาใช้เบอร์ ที่หนืดขึ้นซักเบอร์ เถอะครับ แล้วที่สำคัญ ติด นมค. ไว้ในรถด้วยก็ดี ซักลิตรกันแคมละลาย

ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้

ออฟไลน์ MyName

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 8,143
  • I'm............................
Re: เรื่องยุ่ง ๆ ของน้ำมันเครื่อง
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: สิงหาคม 11, 2009, 22:18:23 »
มาเก็บข้อมูลครับ ปกติใช้ 10W-30 ประจำเลย ;D
Cars
2022 - Nissan Almera 1.0 Turbo VL
2016 - Mazda 2 1.5XD High Plus L
2008 - Mitsubishi Space Wagon 2.4 GLS Ltd. !User'Review Click here!
1997 - Daihatsu Mira

Motorcycles
2023 - Vespa Sprint S 150 i
2012 - Yamaha Mio 125 GTX