« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มีนาคม 03, 2009, 12:14:40 »
อยากจะชี้แจงให้ทราบเป็นเบื้องต้นนะครับ
1. การถามคำถามว่า รบกวนคุณจิมมี่ หรือทุกท่าน ช่วยฟันธง ให้หน่อย
เอิ่ม...คือ ผมและทีมThe Coup ทุกคน ไม่ใช่ หมอลักษณ์ เรชานิเทศ นะครับ
เรามิได้มี ธงแดง ขนาดเดียวกับ ธงฟ้าที่เอาไว้ปักหน้ารถเข็นขายข้าวแกงลดราคา เอาไว้ฟันใครต่อใครฉับๆๆ
ดังนั้น ขอความกรุณาอย่าให้เราฟันธงเลยครับ
ธง มีไว้โบก ครับ ไมไ่ด้มีไว้ฟัน
ถ้าอยากฟัน
เชิญได้ครับ กอหญ้า หรือต้นไม้่ที่ขึ้นรกในสวนหน้าบ้านของคุณผู้อ่านดีกว่า อิอิ
ที่ไม่ฟันธง เพราะว่า การเลือกรถของแต่ละคน ให้เหมาะสมกับความต้องการที่แตกต่างกันเฉพาะตัวของคุณผู้อ่านนั้น
มันควรจะเป็นวิจารณญาณของ ผู้ซื้อรถ รายนั้นๆเป็นหลักครับ
เรา ในฐานะของสื่อมวลชน ทำได้เพียงแค่ ให้คำแนะนำ ว่า รุ่นไหน ดีตรงไหน ด้อยตรงไหน
ระวังอะไรบ้าง เด่นด้านใดบ้าง แต่ท้ายที่สุด คนที่จะตัดสินใจ "เคาะ" ว่าจะซื้อหรือไม่ ก็คือคุณผู้เป็นเจ้าของเงินครับ
2. และเช่นเดียวกัน เรื่องของคำถามที่ว่า คุ้ม ไหมคะ คุ้มไหมครับ
คุ้มหรือไม่ ไม่อาจทราบความต้องการในใจท่านได้จริงๆ
ต่อให้คุ้มมือปืนดังๆที่ไหน ก็ไม่เห็นจะยิงเ้ข้าเป้าในใจคุณได้ ถ้าคุณไม่ตัดสินใจเองครับ
ถ้าไม่รู้ว่าจะคุ้มหรือไม่ ต่อไปนี้คือคำแนะนำเบื้องต้นที่จะตอบโจทย์ของคุณว่า คุ้มหรือไม่
1. ดูว่าเงินที่จะจ่าย หนะ มีอยู่เท่าไหร่ หรือถ้าต้องผ่อน คิดว่า ผ่อนเดือนละเท่าไหร่ ดอกเบี้ยเท่าไหร่ ตัวคุณถึงจะไม่ต้องกินมาม่าประทังลำไส้ในแต่ละเดือน
2. ดูตัวรถ เทียบกับราคา เทียบกับคู่แข่ง
3. แม้จะไม่อยากบอกให้ ดูว่า ออพชัน กับราคาที่ต้องจ่าย สมดูลย์กันดีไหม เพียงอย่างเดียว เพราะ ถ้าซื้อรถด้วยวิธีคิดเช่นนั้น จะมีแต่รถตลาดเท่านั้น
ที่จะตอบโจทย์คุณได้ และมีกำลังเงินมากพอที่จะอัดออพชัน มายั่วใจคุณ แต่ตั้งราคาขาย แพงบ้าง ถูกบ้าง ตามใจเขาได้
ขณะที่ค่ายเล็กๆ ที่ทำรถดีๆ แต่ไม่มีเงินมากพอจะอัีดออพชันแล้วได้กำไรเหลือพอจะอยู่รอดระยะยาว ก็จะเหลือที่ยืนในตลาดน้อยลง
แต่ความจริง ก็คือความจริงของโลก ผู้คนยังต้องการแต่สิ่งที่ตนจ่ายแล้วคุ้มที่สุดอยู่ดี
ดังนั้น จะมองเรื่องออพชัน มองไปเถอะครับ แต่อย่าลืมมองความสบาย และความเหมาะสมกับสรีระของคุณในขณะขับขี่ด้วย
เพราะคุณต้องอยู่กับรถไปอีกอย่างน้อยๆก็ 2-3 ปี ไมไ่ด้เปลี่ยนรถป้ายแดงเกือบทุกสัปดาห์อย่างที่ผมทำ (เพื่อเอามาทดลองขับ ทำรีวิว แหะๆ)
อย่าให้เราเลือกให้เลยครับ เพราะถ้าออกมาแล้ว ไม่ตรงกับใจที่คุณต้องการ คุณก็อาจจะหลุดรั่งพลั้งเผลอ บ่นออกมาว่า
"ทำไมตูต้องเชื่อไอ้จิมมี่ กะพรรคพวกของมันด้วยวะ แม่ม ไม่เห็นจะแม่น ไม่เห็นจะเก่งตรงไหนเลยนี่หว่า
เลือกรถอะไรมาก็ไม่รู้ ซื้อมาแล้ว มีแต่ปัยหาจุกจิกวุ่นวายใจเหลือเกิน"
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ จะตอบไปว่า "ผมบอกแล้วววว ครับพี่ ว่า พี่เลือกรถ ขอให้เลือก โดยใช้
1. ข้อมูลจากเรา และหลายๆสื่อ รอบด้าน
2. ใช้ใจตนเองหรือคนจ่ายเงิน ซื้อให้ เป็นคนตัดสินครับ
เรียนมาเพื่อทราบในเบื้องต้นครับ
ขอบคุณครับ
ผมอยากแนะนำให้เน้น review "เพิ่ม" เรื่องเกี่ยวกับ
ความสะดวกสบายในการนั่ง(ผู้โดยสาร)และการขับขี่ ของเก้าอี้ทั้งหน้าและหลัง
การเก็บเสียงของห้องโดยสาร
การเก็บงาน รวมทั้ง วัสดุที่ใช้ของรถ (ถ้าเป็นไปได้ เพราะเรื่องนี้น่าจะยาก)
... คือว่า บางครั้ง คุณ jimmy ก็มี บางครั้งก็ไม่มีอ่ะครับ
คือว่า หลายๆคนที่ซื้อรถ ก็ไม่ได้ต้องการ หรือไม่ได้สนใจเรื่อง performance ของรถยนต์เท่าไรอ่ะครับ
ก็อยากได้รถที่ ขับสบาย นั่งสบาย เพราะวันๆต้องนั่งอยู่ในรถนานมากๆ
อยากให้ คุณพ่อ/แม่ ที่นั่งข้างหลัง นั่งสบายเพราะท่านแก่แล้ว เป็นต้น. อ่ะครับ
คือแบบว่า มีหมวด หมู่ แบบชัดเจนไปเลย แบบ what car อ่ะครับ