ผู้เขียน หัวข้อ: ระหว่าง jazz ge mt กับ mazda 2 mt ด้าน performance ของเครื่องยนต์คันไหนดีกว่ากันครับ  (อ่าน 27012 ครั้ง)

ออฟไลน์ mn_lotus

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • อีเมล์
อยากทราบความแตกต่างกันว่า มาก - น้อย แค่ไหน อย่างไรครับ

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,120
  • เอี๊ยดแอ๊ด

แจ็ส เครื่องยนต์เรี่ยวแรงดีกว่า ม้ามากกว่า ระยะเกียร์ ระยะแป้นคลัชต์ อยู่ในเกณฑ์ดี

มาสด้า 2 ส่วนตัวไม่เคยขับ จึงขอแปะโป้งไว้ก่อนกว่าเครื่องอาจจะสู้แจ็สไม่ได้
แต่ความคล่องตัวและช่วงล่างน่าจะดีกว่า

ออฟไลน์ TIK_TIK

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 23
    • อีเมล์
jazz แรงและเร็วกว่าคับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
คนขับรถแนวนี้ ถามคำถามแนวนี้คงไม่ขับเดิมๆแน่นอน
ช่วงล่างดีจากโรงงาน ไม่มีค่าครับ มันไม่พอ
ถ้าจะมาทางนี้ มองหากูรูเรื่องช่วงล่างและเบรคก่อนเลยครับ

แจ๊ส MT เรียกว่าสมรรถนะสุดยอดแล้วครับ
ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน

ส่วนมาสด้า2 การสับเกียร ระยะคลัช ลงตัว หัวเกียรวางไว้เหมาะมือ
รถบ้านๆทั่วๆไปมาสด้า2 MT ขึ้นได้หมดครับ แต่คู่แข่งดันเป็นแจ๊ส MT ตัวจี๊ด
ถ้ารถเดิมๆ ยังไงๆก็ไล่แจ๊สไม่ทัน

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,152
Jazz ของตายเลยครับ
เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
    • อีเมล์
ถ้าเอาแค่เครื่อง ผมว่าแจ๊สกินแน่นอน

แต่ถ้าเอาช่วงล่าง  การทรงตัวดีๆ  ผมให้มาสด้า 2

ถ้าให้เลือก 2 คันนี้ ผมเลือกมาสด้า 2 นะ เพราะเครื่องอ่ะ ทำให้แรงได้  ไม่ยากเท่าไร

แต่ช่วงล่างนี่สิ  จะไปเปลี่ยนระบบมันคงเปลี่ยนได้แค่นิดหน่อย โช๊ค ยาง แม๊ค อะไรประมาณนี้เป็นต้น

ปล. ส่วนตัวผมชอบทำช่วงล่างให้แน่นก่อน แล้วลองอัดสุดๆ ถ้าช่วงล่างยังไหว ค่อยเพิ่มแรงม้าทีหลังก็ยังทัน

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,967
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
บอกตรงๆอยู่ที่สับเกียร์   :o

พวกนี้เชื่อเถอะแพ้กันไม่ถึงครึง่วินาที  แต่สับเกียร์ใครเร็วกว่าแค่นั้น

และให้ผมบอกผมก็ไม่แน่ใจ เพราะมาสด้าก็ตัวเบาใช่เล่น  เครื่องก็ไม่ได้กระจอก ไม่งั้น AT ทำไมมาสด้า2 กินแจ้ซต้นๆ ได้
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
บอกตรงๆอยู่ที่สับเกียร์   :o

พวกนี้เชื่อเถอะแพ้กันไม่ถึงครึง่วินาที  แต่สับเกียร์ใครเร็วกว่าแค่นั้น

และให้ผมบอกผมก็ไม่แน่ใจ เพราะมาสด้าก็ตัวเบาใช่เล่น  เครื่องก็ไม่ได้กระจอก ไม่งั้น AT ทำไมมาสด้า2 กินแจ้ซต้นๆ ได้

ผมว่ากินได้เพราะรถเบากว่าเยอะนะครับ และส่วนนึงอาจจะมาจากอัตตราทดเฟืองท้าย เพราะความเร็วสูงสุดค่อนข้างต่ำ รอบสูง

M2 พอปลาย(140up)นี่หาย หด หมด จริงๆ


ส่วนสองคันนี้ ถ้าคนขับคนเดียวกัน Jazz กินแน่ๆ


ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
Jazz +1
สั้นๆ ง่ายๆ ไม่ต้องคิดมากครับ
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ HYDE--

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,643
    • อีเมล์
Mazda 2 ช่วงล่างแน่น หนึบ ทรงตัวดีกว่า กว่า Jazz แน่นอนครับ จากที่ลองขับสั้นๆ

ส่วนเรื่องความแรง Jazz แรงกว่าครับ

ออฟไลน์ isnut

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 9
    • อีเมล์
เนื่องด้วย  ผมขับแจสใหม่  ส่วนพี่สาวขับมาสด้าสองอยู่
จึงได้ขับสลับกัน บ่อยๆ


ยังไง เรี่ยวแรงแจสก็มากกว่าครับ ทั้งในเมืองนอกเมือง  ทั้งการประหยัดน้ำมันในเมือง นอกเมือง

แต่เรื่องคันเร่ง มาสด้ามัน รู้สึก เหยียบสม่ำเสมอกว่า(ง่ายๆถ้าคนขับรถไม่เป็นผมว่าฝึกขับสองง่ายกว่า)


ส่วน เรื่องช่วงล่าง ผมขับในเมือง ตลอด ไม่แตกต่างขนาดรู้สึกได้มาก(ถ้าไม่ตั้งใจปิดวิทยุ เปิดหูกว้างๆตั้งสติฟังตอน จ้ำคอสะพานจริงๆ)   ก็แยกไม่ค่อยออกหรอกครับ

แต่ขับต่างจังหวัดต้องยอมรับว่า  ขับสองมันรู้สึกสบายกว่านิดๆ เหมือนรถนิ่งกว่า (ปรดติผมไปกลับบ้านต่างจังหวัด 600 กิโลเมตร) ทุกสองอาทิตครับ 

จึงได้เปรียบเที่ยบ รถทั้งสองคันอยู่บ่อยๆทุกสภาวะอากาศ และถนน


ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ตอบตามคำถามของเจ้าของกระทู้ เครื่องยนต์อย่างเดียว ไป Jazz MT ครับ

แต่ถ้าพูดถึงด้านอื่นอื่นด้วย ที่เป็นเรื่องสมรรถนะและการต่อยอดต่อ ผมเลือก Mazda 2
ปัญหาของ Jazz อย่างนึงคือทรงที่ใหญ่และสูง และเซ็ทติ้งของช่วงล่างด้านหลังที่ทำมาดีดๆ ตามสไตล์ฮอนด้า
ตำแหน่งการขับ ระยะแป้นคลัทช์ การเข้าเกียร์ ไม่ได้ทำออกมาเพื่อ Serious driver แต่ยังอยู่กลางกลางระหว่าง
รถบ้านให้คนทั่วไปใช้งาน กับรถที่พอเอาสนุกได้จากพละกำลังเครื่องยนต์ และพวงมาลัยที่คมใช้ได้
จริงอยู่ว่า Jazz เครื่องยนต์ทุนเดิมนั้นมาดี เดิมเดิม MT ก็วิ่งไล่สวนพวก C-Segment 1.8 ได้หมดทั้งตลาดแล้ว

แต่ถ้าโจทย์คือ จะนำทั้งสองคันไปโมดิฟายทั้งคู่ ผลคือ ไม่มีความแตกต่างครับ
Jazz GE ผูกโบลูกโตไม่ทำไส้ แปะกล่องจูน ผมเห็น 211 ม้าที่ล้อมาแล้ว
ในขณะที่ Mazda 2 ผูกโบ ไม่ทำไส้ ใส่ชุดคิทเต็ม แปะกล่องจูน ก็มี 222 ม้าที่ล้อเหมือนกัน
แล้ว 2 เป็นรถที่ทำให้สนุกมาจากโรงงาน ระยะ Overhang สั้น แป้นคลัทช์และคันเกียร์กระชับ
Position การนั่งเหมาะสุดสำหรับที่จะมุดไปมุดมา สำหรับรถในไซส์ B-Segment ตอนนี้

ดังนั้น ถ้าคิดว่าออกรถมาแล้วไม่จบ จะไปต่อ ก็เลือก Mazda 2 จะตอบโจทย์ได้ครอบคลุมกว่า
แต่ถ้าซื้อมาแล้วจบ มีแค่จะลงช่วงล่าง และล้อใหม่สักชุด หันไปทาง Jazz ครับ

ออฟไลน์ RUKTOOKKHON

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 382


ผมว่ากินได้เพราะรถเบากว่าเยอะนะครับ และส่วนนึงอาจจะมาจากอัตตราทดเฟืองท้าย เพราะความเร็วสูงสุดค่อนข้างต่ำ รอบสูง

M2 พอปลาย(140up)นี่หาย หด หมด จริงๆ


ส่วนสองคันนี้ ถ้าคนขับคนเดียวกัน Jazz กินแน่ๆ


]ถ้าM2 พอปลาย(140up)นี่หาย หด หมด จริงๆ แนะนำให้เอารถไปเช็คด่วนๆเลยครับ

อคติกับ มาสด้ามากไปป่าววววววว เห็นหลายกระทู้แล้วนะเนี่ย ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2012, 22:17:04 โดย RUKTOOKKHON »

ออฟไลน์ Deaw

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,073
    • อีเมล์
คนขับรถแนวนี้ ถามคำถามแนวนี้คงไม่ขับเดิมๆแน่นอน
ช่วงล่างดีจากโรงงาน ไม่มีค่าครับ มันไม่พอ
ถ้าจะมาทางนี้ มองหากูรูเรื่องช่วงล่างและเบรคก่อนเลยครับ

แจ๊ส MT เรียกว่าสมรรถนะสุดยอดแล้วครับ
ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน

ส่วนมาสด้า2 การสับเกียร ระยะคลัช ลงตัว หัวเกียรวางไว้เหมาะมือ
รถบ้านๆทั่วๆไปมาสด้า2 MT ขึ้นได้หมดครับ แต่คู่แข่งดันเป็นแจ๊ส MT ตัวจี๊ด
ถ้ารถเดิมๆ ยังไงๆก็ไล่แจ๊สไม่ทัน

เวอร์ไปนิดนะครับ ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน
ผมขับ civic 1.8MT อยู่ยังไงผมก็ว่าผมกินตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดี

ออฟไลน์ Starter

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 175
ถ้าเป็น mt  2 ตัวนี้ผมเลือก mazda

ถ้า at คงเอา jazz

ออฟไลน์ MoLee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,191
คนขับรถแนวนี้ ถามคำถามแนวนี้คงไม่ขับเดิมๆแน่นอน
ช่วงล่างดีจากโรงงาน ไม่มีค่าครับ มันไม่พอ
ถ้าจะมาทางนี้ มองหากูรูเรื่องช่วงล่างและเบรคก่อนเลยครับ

แจ๊ส MT เรียกว่าสมรรถนะสุดยอดแล้วครับ
ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน

ส่วนมาสด้า2 การสับเกียร ระยะคลัช ลงตัว หัวเกียรวางไว้เหมาะมือ
รถบ้านๆทั่วๆไปมาสด้า2 MT ขึ้นได้หมดครับ แต่คู่แข่งดันเป็นแจ๊ส MT ตัวจี๊ด
ถ้ารถเดิมๆ ยังไงๆก็ไล่แจ๊สไม่ทัน

เวอร์ไปนิดนะครับ ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน
ผมขับ civic 1.8MT อยู่ยังไงผมก็ว่าผมกินตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดี
55+ อันนี้มันก็แน่อยู่แล้วครับ ;D ;D

ออฟไลน์ Weetting

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,967
  • ช่วงล่าง+เครื่องยนต์
ลองหาอัตราทดเปรียบครับ  

แจ็ซ
เกียร์ 1..........................3.461
เกียร์ 2..........................1.869
เกียร์ 3..........................1.303
เกียร์ 4..........................1.054
เกียร์ 5..........................0.853
อัตราทดเฟืองท้าย..........4.294
น้ำหนัก    1,050

มาสด้า 2

เกียร์ 1   ......................3.416   
เกียร์ 2.......................1.842   
เกียร์ 3.......................1.290   
เกียร์ 4   ......................0.972   
เกียร์ 5   ......................0.775
อัตราทดเฟืองท้าย.......4.105
น้ำหนัก 1,016


หลายคนบอกว่า แจ็ซจะกินแน่ๆ  ผมไม่รู้ว่าจะเป็นไงเพราะแจ็ซทดจัดกว่า  แต่น้ำหนักและแรงม้าก็มากกว่า

ใครบอกมาสด้า2 ปลายหมดคงต้องคิดใหม่ เพราะทดต่ำกว่าแจ็ซอีกสำหรับตัว MT   ::)


THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
คนขับรถแนวนี้ ถามคำถามแนวนี้คงไม่ขับเดิมๆแน่นอน
ช่วงล่างดีจากโรงงาน ไม่มีค่าครับ มันไม่พอ
ถ้าจะมาทางนี้ มองหากูรูเรื่องช่วงล่างและเบรคก่อนเลยครับ

แจ๊ส MT เรียกว่าสมรรถนะสุดยอดแล้วครับ
ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน

ส่วนมาสด้า2 การสับเกียร ระยะคลัช ลงตัว หัวเกียรวางไว้เหมาะมือ
รถบ้านๆทั่วๆไปมาสด้า2 MT ขึ้นได้หมดครับ แต่คู่แข่งดันเป็นแจ๊ส MT ตัวจี๊ด
ถ้ารถเดิมๆ ยังไงๆก็ไล่แจ๊สไม่ทัน

เวอร์ไปนิดนะครับ ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน
ผมขับ civic 1.8MT อยู่ยังไงผมก็ว่าผมกินตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดี

คุณ YenChar เค้าหมายถึงรถใหญ่กว่าที่เป็น AT ครับ
ลองคิดดูว่ารถเก๋งที่เครื่องโตกว่า 1.5 แล้วเป็น MT ในตลาด มีกี่คันกัน

จริงจริง Jazz 1.5 MT จะขึ้นรถเครื่องใหญ่ AT พวกนั้นจนถึง 160 ก็ไม่แปลกครับ
ผมทดสอบ มาสด้า 2 MT ด้วยตัวเอง อ่านจากบทความคุณจิมมี่ก็ได้ 0-100 มี 10.7 วินาที
ถ้าลองกางตารางอัตราเร่งของรถรุ่นอื่นอื่นที่วางขายในท้องตลาดตอนนี้ ก็มีน้อยคันที่จะต่ำกว่านี้
แล้ว Jazz เครื่องแรงกว่า 2 อีก ดังนั้นอัตราเร่งก็น่าจะอยู่ระดับ 10 ต้น ถึง 10 กลาง น่าจะได้อยู่

อันนี้พูดถึงรถญี่ปุ่นในท้องตลาดนะครับ อย่าไปพูดถึง Mini Turbo, S60, หรือกระบะทั้งหลาย
ถ้าเป็นพวกนั้นก็ไม่ต้องพูดกันมากครับ Jazz โดนหมดแน่นอน

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
ลองหาอัตราทดเปรียบครับ  

แจ็ซ
เกียร์ 1..........................3.461
เกียร์ 2..........................1.869
เกียร์ 3..........................1.303
เกียร์ 4..........................1.054
เกียร์ 5..........................0.853
อัตราทดเฟืองท้าย..........4.294
น้ำหนัก    1,050

มาสด้า 2

เกียร์ 1   ......................3.416   
เกียร์ 2.......................1.842   
เกียร์ 3.......................1.290   
เกียร์ 4   ......................0.972   
เกียร์ 5   ......................0.775
อัตราทดเฟืองท้าย.......4.105
น้ำหนัก 1,016


หลายคนบอกว่า แจ็ซจะกินแน่ๆ  ผมไม่รู้ว่าจะเป็นไงเพราะแจ็ซทดจัดกว่า  แต่น้ำหนักและแรงม้าก็มากกว่า

ใครบอกมาสด้า2 ปลายหมดคงต้องคิดใหม่ เพราะทดต่ำกว่าแจ็ซอีกสำหรับตัว MT   ::)




โอ้วว เพิ่งรู้ว่า Jazz MT นี่มันเบาขนาดนี้ ตอนแรกผมนึกว่า 1100+

แต่ jazz ทดจัดกว่าแบบนี้ แถมเครื่องแรงกว่า และน้ำหนักก็มากกว่าแค่สามสิบกว่าโล ดูแล้ว mazda 2 สู้ไม่ได้แน่ๆ

ส่วนความเร็วปลาย ถึง jazz จะทดจัดกว่า ก็น่าจะให้ให้เร่งดีกว่าที่ความเร็วสูง ส่วนความเร็วสูงสุดไม่น่าใช่ปัญหาสำหรับ jazz เพราะรอบจัดกว่า และที่รอบสูงๆเครื่อง honda ก็เหมือนจะมาต่อเนื่องกว่า mazda มากๆ

jazz red line มันอยู่ที่ 7000 ส่วน mazda อยู่ที่ 6x00
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2012, 23:11:36 โดย pongisra »

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
    • อีเมล์
ตอบตามคำถามของเจ้าของกระทู้ เครื่องยนต์อย่างเดียว ไป Jazz MT ครับ

แต่ถ้าพูดถึงด้านอื่นอื่นด้วย ที่เป็นเรื่องสมรรถนะและการต่อยอดต่อ ผมเลือก Mazda 2
ปัญหาของ Jazz อย่างนึงคือทรงที่ใหญ่และสูง และเซ็ทติ้งของช่วงล่างด้านหลังที่ทำมาดีดๆ ตามสไตล์ฮอนด้า
ตำแหน่งการขับ ระยะแป้นคลัทช์ การเข้าเกียร์ ไม่ได้ทำออกมาเพื่อ Serious driver แต่ยังอยู่กลางกลางระหว่าง
รถบ้านให้คนทั่วไปใช้งาน กับรถที่พอเอาสนุกได้จากพละกำลังเครื่องยนต์ และพวงมาลัยที่คมใช้ได้
จริงอยู่ว่า Jazz เครื่องยนต์ทุนเดิมนั้นมาดี เดิมเดิม MT ก็วิ่งไล่สวนพวก C-Segment 1.8 ได้หมดทั้งตลาดแล้ว

แต่ถ้าโจทย์คือ จะนำทั้งสองคันไปโมดิฟายทั้งคู่ ผลคือ ไม่มีความแตกต่างครับ
Jazz GE ผูกโบลูกโตไม่ทำไส้ แปะกล่องจูน ผมเห็น 211 ม้าที่ล้อมาแล้ว
ในขณะที่ Mazda 2 ผูกโบ ไม่ทำไส้ ใส่ชุดคิทเต็ม แปะกล่องจูน ก็มี 222 ม้าที่ล้อเหมือนกัน
แล้ว 2 เป็นรถที่ทำให้สนุกมาจากโรงงาน ระยะ Overhang สั้น แป้นคลัทช์และคันเกียร์กระชับ
Position การนั่งเหมาะสุดสำหรับที่จะมุดไปมุดมา สำหรับรถในไซส์ B-Segment ตอนนี้

ดังนั้น ถ้าคิดว่าออกรถมาแล้วไม่จบ จะไปต่อ ก็เลือก Mazda 2 จะตอบโจทย์ได้ครอบคลุมกว่า
แต่ถ้าซื้อมาแล้วจบ มีแค่จะลงช่วงล่าง และล้อใหม่สักชุด หันไปทาง Jazz ครับ

เครื่อง na เดิมๆ ม้าออกโรงงานในระดับ 100 + -  ผมเชื่อว่าอีกไม่นานทั้ง 2 คันนี้  ต้องไส้ไหลแน่ๆ

ถ้าอยากให้คงทนใช้งานกันนานๆ  ควรลดระดับแรงม้ากับเครื่องเดิมๆ  แรงม้าควรปวนเปี้ยนแถว 150 + - ที่ล้อก็เกินพอแล้ว
ถ้าในระดับ 200+ สำหรับรถเครื่องระดับนี้ ถ้าอยากให้ทนยังไงก็ทำ ทำทั้งตัวด้วยซ้ำเช่น ลูก ก้าน ข้อ ตีปลอก อีกมากมายที่ต้องทำ
สารพัดของแต่ง  แทบจะประเคนลงไปให้หมด  คาดว่าคงจบเกิน 250K แน่นอน  สำหรับของเบิกใหม่ทั้งหมด
ผมเดาว่าน่าใกล้เคียง 300K  พอได้เครื่องทนๆเสร็จ  คราวนี้มาถึงช่วงล่างเริ่มที่โช๊ค  ควรเป็น 2 way เป็นอย่างน้อย
กับล้อแท้เบาๆ ขอบ 16 ก็พอ ยางเทพๆสักชุด ค้ำต่างๆนาๆเพื่อให้บอดี้แข็งขึ้น หรือไม่ก็สปอตตัวถังเพิ่ม สเตปนี้คงอยู่ในระดับ 150K+ - (ถ้าสปอต 200k+)

นี่ยังขาดมาตรวัดต่างๆ  ที่จำเป็น  เบาะสักคู่  เบลล์  พวงมาลัย  คงมีค่าตัว 100 k + -
อุปกรณ์ทั้งหมด  ผมแนะนำเป็นของแท้  เพราะเมื่อแรงม้ามากขึ้น  มันหมายถึง  การเสี่ยงเพิ่มขึ้นในชีวิตด้วย

สรุป.....กลับมาสเตปแรกดีกว่า  เซตโบ  เลือกขนาดเทอร์โบ  อินเตอร์  ให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์  ปรับบูสน้อยๆ
           เปลี่ยนโช๊คสักชุด ยาง+แม๊ก เทพๆหน่อย  รวมทั้งหมดน่าจะจำกัดงบได้ไม่เกิน 150k   แรงม้ามีพอให้ใช้ได้สนุกๆ  น่าจะ 150 ตัว+ -  
           แถมไม่ต้องเค้นม้า  ให้เกินลิมิตข้อจำกัดของตัวถังรถและเครื่องยนต์ด้วย   แค่นี้...คุณก็ไม่อายใครในรุ่นแล้ว
           แล้วคุณจะได้ใช้รถของคุณไปอีกนาน.........แสนนานนนน........
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 01, 2012, 23:20:52 โดย chean »

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
ถูกครับ แต่ที่ผมพูดถึงคือ Potential ของการโมดิฟายเครื่องทั้งสองคันนั้นมีพอพอกัน
ถ้าย้อนกลับไปสมัยสักสิบปีที่แล้ว ผมถอยโปรทีเจ 2.0 มา จะทำแรงแต่ละที มืดมนเหมือนเดินคลำหาเข็มอยู่ในถ้ำ
ส่วนคนถอย Civic 1.7VTi มา ไปได้ทั้งเซ็ทเทอร์โบ จูนกล่อง แคม ของแต่งมีให้ชี้นิ้วเลือกมากกว่ามันฝรั่งเลย์อีก

จริงจริงก็มี Jazz บนท้องถนนหลายคัน ที่เซ็ทเทอร์โบแต่ไม่ทำไส้ อาศัยแฮ๊ดดดสั้นสั้น
ไม่แช่ ไม่ลาก ไม่เค้นนาน เพราะก้านสูบอะไรต่อมิอะไรอันจิ๋ว มันทนแรงเครียดนานนานไม่ไหว
ประเภทกดปรู๊ดปร๊าด เร่งแซง ไล่ความเร็วสูงสุดเป็นครั้งครั้งไปพอทำได้ แต่ต้องรีบยก
เมื่อไหร่ที่คิดจะไปไล่ฟัดพวก Evo, STi ทำเต็ม แล้วไล่แช่ตามเค้ายาวตลอดโทลเวย์ แบบนั้นโอกาสกระจายสูงครับ
แต่จริงจริงเท่าที่ฟังมา L15A ไม่กระจอก ทนบูสท์ได้ดีระดับนึงเลยทีเดียว อย่างน้อยน้อยก็ทนกว่า FS-ZE ของมาสด้าล่ะ

ช่วงล่างกับล้อ ผมว่าถ้าสั่งช่วงล่างใหม่หมด แต่ใช้ล้อเซียงกงสภาพดี ต่ำกว่าแสนบาทก็อยู่ครับ
ถ้าเราเลือกใช้ของที่ไม่ต้องแบรนด์เนมอย่าง Tein ซึ่งประสิทธิภาพก็ดีระดับนึง แต่ราคาถูกปั่นจน "เว่อร์" ไม่รู้ไปถึงไหนถึงไหน
ส่วนล้อและยาง หาเซียงกงสภาพดีชุดนึง 3 หมื่น ใส่ยางดีดีอีก 2 หมื่น แค่นี้ก็จบได้สบายแล้ว

ออฟไลน์ chean

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 293
    • อีเมล์
จริงครับ....ถ้ามองในมุมคนทำรถเป็น   การเดินเชียงกงทำให้เราได้ของดีราคาถูกมากมาย  แต่คงน่ากลัวสำหรับมือใหม่

พอพูดถึงเชียงกง  ผมก็นึกขึ้นได้  ถ้าแจ๊สไส้จะไหลเราจะกลัวทำไม  ในขณะที่เชียงกงมีท่อนตรง L15A ราคาถูกๆมากมาย
ผมว่าเรื่องทนบูสของ L15A นั้นไม่ใช่ประเด็นเท่าไรหรอก  มันขึ้นอยู่กับเท้าของคนขับมากกว่า  กับอุปกรณ์ช่วยชีวิตอีกนิดหน่อย

สมัยก่อนผมเล่นพวกตระกูล B-serie ทั้งหลาย  ส่วนประกอบหลักๆเป็นเหล็กด้วยซ้ำ  หลายๆเซียนบอกทนบูสสุดยอด   
แต่สุดท้ายก็ไส้ไหลคาเท้าทั้งนั้น  จนสุดท้ายผมพบทางสว่าง  จริงๆแล้ว honda เก่งเครื่อง na จะตาย
เราจะไปฝื่นมันทำไม  ทำตัวสุดท้าย B16B+B18CR  ทำทั้งตัวจริงๆ  ยัดลูกโต ได้ความจุเกือบ 2000 cc. ลากรอบระดับเฉียดๆหมื่นไม่มีพัง
หายใจสด  ไม่ต้องพึ่งเทอร์โบ แคม toda c2 กล่อง motec m4 pro  ของบ้าอะไรอีกสารพัด  ทำม้าลงล้อที่ 256 ตัว (test car)
อยู่ในตัวถัง 3D พึ่งวิชาตัวเบา ถอดออกให้หมด  หนักประมาณ 1 ตัน  ช่วงล่างจัดเต็ม   ทุกวันนี้เอาไปออกกำลังกายบ้างนิดหน่อย
เจอ Evo หรือ im  ถ้าทำไม่เต็ม  โดนหมดทุกคัน..... ( ผมนะโดนเค้า   ;D ;D ;D )

K20A 220ม้า เดิมๆ  อย่าเอามาใส่แจ๊สเลยครับ  มันหนักหน้า  บาลานซ์เสียหมด  ลองมาหมดล่ะ  ขับเร็วๆมุดๆ  ไปไม่เป็นเลย  ถ้าทางตรงก็พอได้
จะโช๊คโครตเทพระดับโมตุล  ก็เอาไม่อยู่  ทำหมดทุกอย่างที่ทำได้  ก็เอาไม่อยู่  หมดกับมันไปเยอะจริงๆ  เพราะบอดี้มันออกแบบมาจ่ายกับข้าว 

ปล. tein เคยยืมเพื่อนมาใส่ แล้วก็คืนไปเรียบร้อย เอาเงินซื้อ 1way tein ไปซื้อ 2way ยี่ห้ออื่นได้สบายๆ  ส่วนตัวชอบ Ohlins dfv มาก....หรือ pcv ก็ได้
 

ออฟไลน์ LimitedEdition

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,410
คุณ chean ถ่อมตัวเกินไปรึเปล่าาา ;D

มี 256 ตัวที่ล้อในร่าง 3D  ผมว่าถ้า Im หรือ Evo ไม่มาสเตปเทพ สมบูรณ์จริง น่าจะโดนหมดนะครับ
ส่วนรถผมมี 1xx ตัวที่ล้อ ขอตีไฟเลี้ยวซ้ายปล่อยให้ขึ้นยาวไปเลยครับ

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
คนขับรถแนวนี้ ถามคำถามแนวนี้คงไม่ขับเดิมๆแน่นอน
ช่วงล่างดีจากโรงงาน ไม่มีค่าครับ มันไม่พอ
ถ้าจะมาทางนี้ มองหากูรูเรื่องช่วงล่างและเบรคก่อนเลยครับ

แจ๊ส MT เรียกว่าสมรรถนะสุดยอดแล้วครับ
ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน

ส่วนมาสด้า2 การสับเกียร ระยะคลัช ลงตัว หัวเกียรวางไว้เหมาะมือ
รถบ้านๆทั่วๆไปมาสด้า2 MT ขึ้นได้หมดครับ แต่คู่แข่งดันเป็นแจ๊ส MT ตัวจี๊ด
ถ้ารถเดิมๆ ยังไงๆก็ไล่แจ๊สไม่ทัน

เวอร์ไปนิดนะครับ ช่วงต้นถึงกลาง 0-160 รถเครื่องใหญ่ๆก็ไล่ไม่ทัน
ผมขับ civic 1.8MT อยู่ยังไงผมก็ว่าผมกินตั้งแต่ต้นจนจบอยู่ดี

คุณ YenChar เค้าหมายถึงรถใหญ่กว่าที่เป็น AT ครับ
ลองคิดดูว่ารถเก๋งที่เครื่องโตกว่า 1.5 แล้วเป็น MT ในตลาด มีกี่คันกัน

จริงจริง Jazz 1.5 MT จะขึ้นรถเครื่องใหญ่ AT พวกนั้นจนถึง 160 ก็ไม่แปลกครับ
ผมทดสอบ มาสด้า 2 MT ด้วยตัวเอง อ่านจากบทความคุณจิมมี่ก็ได้ 0-100 มี 10.7 วินาที
ถ้าลองกางตารางอัตราเร่งของรถรุ่นอื่นอื่นที่วางขายในท้องตลาดตอนนี้ ก็มีน้อยคันที่จะต่ำกว่านี้
แล้ว Jazz เครื่องแรงกว่า 2 อีก ดังนั้นอัตราเร่งก็น่าจะอยู่ระดับ 10 ต้น ถึง 10 กลาง น่าจะได้อยู่

อันนี้พูดถึงรถญี่ปุ่นในท้องตลาดนะครับ อย่าไปพูดถึง Mini Turbo, S60, หรือกระบะทั้งหลาย
ถ้าเป็นพวกนั้นก็ไม่ต้องพูดกันมากครับ Jazz โดนหมดแน่นอน

ขอโทษครับ ผมหมายถึงรถบ้านๆที่เป็นเกียรออโต้ทั่วๆไปน่ะครับ

เห็นด้วยกับคุณ Chean นะครับ สาย NA ดูมีสเน่ห์กว่า
ทำสเตปพื้นฐาน ไม่ต้องทำอะไรมากก็วิ่งฉิ่วแล้วครับ ไม่ต้องกลัวไส้ไหล ใช้ได้ยาวๆ

ออฟไลน์ 2k

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,755
โช๊ค1wayกับ2wayมันเป็นยังไงน่ะครับ?
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com


ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
เจ้าของกระทู้ถามถึง Performance ของเครื่องยนต์ ก็จะตอบเฉพาะหัวข้อนี้แล้วกัน

เครื่องยนต์มาแบบเดิมๆ Honda จับม้าลงถึงพื้นเยอะกว่า
ไม่ต้องเถียงกันนะว่าม้าใครโม้ ม้าใครไม่โม้ เอาเป็นว่าลงถึงพื้นแล้ว
Jazz มี 100 ตัวหรือต่ำกว่านั้นนิดหน่อย Mazda มี 88-92 ตัว

Mazda ที่จริงแรงเครื่องไม่กระจอกนะ แต่หลายคนจะพูดออกมาว่าปลายขึ้นช้า
และบางคนบอกว่าไม่เห็นช้าเลย เร็วชิบ แตะหน่อยๆก็ไปละ
มันเป็นเพราะว่าตอนที่คุณกดคันเร่ง 7ใน10 น่ะ คันเร่งลิ้นมันเปิดไปแล้ว 10
แล้วพอช่วงความเร็ว 160 ขึ้นไป ลิ้นไฟฟ้าจะเริ่มหรี่ลงนิดๆ และพอ 181
ปุ๊บลิ้นจะเลื่อนเกือบปิด ล็อคความเร็วตัวเองไว้เท่านั้นเสร็จสรรพ

อันนี้ถือว่าเคลียร์นะ เอาคอมช่างจูนเสียบดูตำแหน่งคันเร่งตอนจูนก็รู้หมดแล้ว
ไม่เชื่อไปลองดูเองได้ จะได้ไม่มีข้อกังขากัน

แต่ถ้าสมมติว่าวัดกันจริงๆ 0-100, 80-120 และทำความเร็วให้อยู่ไปใต้140เสมอ
เช่นในสนามแข่งปิดในไทยส่วนมาก โอกาสที่จะแตะ 160 นั่นปล่อยให้มืออาชีพเขาไป
คนอย่างเราที่ต้องใช้รถ 1 คันทั้งในสนามในชีวิต คงไม่ได้ใช้มากหรอกหลัง 160
ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้วมันก็ใกล้เคียงกัน 0-100 มันก็อยู่ราว 10วิต้นๆเหมือนกัน
ความคล่องของเครื่องในช่วงต่อเกียร์ก็พอๆกัน

อันนี้มันคนละเคสกับเกียร์ออโต้นะ เพราะถ้าออโต้ Honda จะเร็วกว่าค่อนข้างชัดเจน

ส่วนเรื่องการต่อยอดไปในทางเทอร์โบ พิสูจน์แล้วว่า 2 ก็เทอร์โบได้
ฉะนั้นไม่ต้องสืบ แต่ถ้าจะหาทางไปให้ทะลุ 160 โดยลิ้นคันเร่งไม่หรี่ ก็มาว่ากันอีกที
แต่ถ้าเอาไว้ drag และขับเล่นสนุกๆ ไม่คะนองมิดเท้าเกินเหตุ ก็ช่างมันเถอะ

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ mn_lotus

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
    • อีเมล์
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกความเห็น ขอถามเพิ่มเติมเรื่องช่วงล่างครับ ถ้า jazz เปลี่ยนโช๊คสตรัท + ล้อ,ยางดีๆ จะช่วยให้หนึบแบบ mazda2 ได้หรือไม่ครับ

ออฟไลน์ !note!

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 137
M2 ไม่รู้ แต่เคยแข่งกับ Jazz โดยใช้ E46 325i กดเต็มๆ 6-7 พันรอบตลอด
แต่พี่ Jazz เค้าอัดจี้ติดตูดผมสบายแทบไม่มีช่วงทิ้งห่างเลย
ขนาดจังหวะเร่งแซงคันอื่นที่ช่วง 160 นะครับ
แม่จะแซงผมไม่ได้ แต่ก็ทำผมช็อคมาถึงทุกวันนี้
กว่าจะทิ้งไปได้มองเข็มตัวเองอีกทีแตะ 200 แล้วครับ
ต้องยอมรับครับว่ารถเล็กสมัยนี้ไม่ธรรมดาครับ

ออฟไลน์ pongisra

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,459
ขอบคุณมากครับสำหรับทุกความเห็น ขอถามเพิ่มเติมเรื่องช่วงล่างครับ ถ้า jazz เปลี่ยนโช๊คสตรัท + ล้อ,ยางดีๆ จะช่วยให้หนึบแบบ mazda2 ได้หรือไม่ครับ

ปัจใจมันไม่ได้อยู่แค่โช้ค สปริงครับ

เรื่องพื้นฐานการออกแบบมันมาเปลี่ยนทีหลังไม่ได้ มันติดมากับรถ ถ้าจับทั้งคู่เปลี่ยนยังไง M2 ก็น่าจะเหนือกว่า