ผู้เขียน หัวข้อ: รื้อฟื้นคอลัมน์ "แฉให้ฟัง... หลังเข้าศูนย์":โตโยต้า ชัยรัชการ ถ.บางนา-ตราด กม.16  (อ่าน 82736 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 675
    • อีเมล์
เบื้องหลัง

          ในรีวิวที่ผ่านมา ผมเปิดตัวไว้ค่อนข้างชัดเจนว่า รถคันที่ผมรักที่สุด คือรถของคุณตา Toyota Corona AT171 หน้ายักษ์ 1.6GL
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,15478.0.html

          การเสื่อมสภาพตามกาลเวลาเป็นเรื่องปกติ แต่การปล่อยให้ความเสื่อมสภาพกลืนกินรถที่ผมรักไปทีละน้อยผมรักเป็นอะไรที่ผมรับไม่ได้ ดังนั้นผมจึงมีโครงการฟื้นสภาพรถคันนี้
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,18081.msg265252.html

          แต่ก่อนจะมีโปรเจกต์ฟื้นสภาพนี้ราวปีครึ่ง ผมเคยเอางานช้างๆ นี้ไปฝากความหวังการฟื้นสภาพกับศูนย์บริการโตโยต้าแห่งหนึ่ง เพราะขี้เกียจตระเวนเทียวไปเทียวมามากๆ (เป็นคนละศูนย์กับศูนย์ที่ท่านกำลังจะได้อ่านนี้) อยู่ใกล้บ้านผมมาก ขับไปไม่กี่กิโลเมตรก็ถึง ซึ่งหลังจากที่กระบวนการเช็ครถเสร็จสิ้น และผมได้สัมผัสระบบการบริหารงานภายใน และความสามารถในงานซ่อมของศูนย์แล้ว...

นี่คือสภาพภายนอกของผมขณะกำลังขับออกจากศูนย์:




















































แต่นี่คือสภาพจิตภายในของผม:




          ผมแทบสิ้นศรัทธาจากโตโยต้าไปอย่างสิ้นเชิงหลังจากพบกับศูนย์นี้ ในช่วงก่อนที่ผมจะเข้ามาเป็นหนึ่งในสมาชิกที่นี่ ผมกลายเป็นนักเลงคีย์บอร์ดที่เที่ยวด่าโตโยต้าไปทุกแห่ง โฆษณาทุกตัว ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้น โครงการทุกอย่าง ข่าวสารทุกอย่างของโตโยต้าจะสร้างความรำคาญและหงุดหงิด ทุกคอมเมนต์ที่ด่าโตโยต้า หรือว่าโตโยต้าไม่ดีจะสร้างความสุขให้ผมอย่างล้นพ้น ถ้าท่านเข้าไปดูในรีวิวแรกที่ผมส่งขึ้นเว็บ คือ Civic EF แม้จุดประสงค์หลักของผมเป็นการติและชมรถฮอนด้าของผม แต่ถ้าอ่านดีๆ ผมยังมีวลีแห่งความเคียดแค้นสุมฝังเต็มแน่นอกที่มีต่อโตโยต้าอยู่ไม่น้อย (หรือคลิกที่ชื่อผม ย้อนไปดูเม้นแรกๆ ก็ได้ครับ มีอยู่เยอะ) แต่เมื่อเวลาผ่านไป ใจผมเย็นลงและเปิดกว้างขึ้น ลองไปดูอัธยาศัย การบริการ ความสามรถของเจ้าหน้าที่ศูนย์อื่น จึงได้พบความจริงว่ามาตรฐานของศูนย์แต่ละที่นั้นไม่เท่ากัน แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกันก็ตาม การไปพบศูนย์แห่งหนึ่งซึ่งผมไม่ประทับใจไม่ได้แปลว่าทุกศูนย์ต้องเป็นเช่นนั้น ดังนั้นอคติต่อผลิตภัณฑ์ โครงการดีๆ ข่าวสารต่างๆ และต่อศูนย์บริการ ปัจจุบันผมว่าหมดไปแล้ว เรื่องเดียวที่ผมยังอคติมากๆ คือเรื่องการบริหารของโตโยต้าประเทศไทย (สำนักงานใหญ่) ผมรู้สึกได้ถึงการลอยแพ ทอดทิ้งลูกค้ารถเก่าได้อย่างต่อเนื่องไม่เปลี่ยนแปลงทุกครั้ง(ประมาณว่ายอดขายสูงจึงไม่ง้อ อยากให้ง้อต้องซื้อรถมันใหม่ 0.0" )

          อันที่จริง โดยปกติผมก็เป็นเหมือนลูกค้าส่วนใหญ่ของโตโยต้า ที่พอรถเก่าๆ ไปแล้วจะไม่เข้าศูนย์ แต่ยกเว้นของเหลวและอะไหล่สำคัญๆ ที่ผมจะใช้ของแท้อยู่ เพราะฉะนั้นท่านผู้อ่านที่จะคิดว่า "รถเก่าขนาดนี้ ยังจะเข้าศูนย์ให้มันฟันอีกทำไมวะ?" ก็ต้องขอให้เข้าใจไว้ด้วยครับ อู่นอกเป็นสิบๆ อู่ที่ผมเข้าไป ผมก็ได้แชร์ให้ดูไปแล้วในรีพอร์ตการฟื้นสภาพ วันนี้มาทำเรื่องศูนย์บริการให้เห็นอีกมุมหนึ่งบ้างเท่านั้นครับ... แต่ว่าจะให้ไปเสี่ยงดวงกับศูนย์เดิมที่เคยไปพบเจอเมื่อ 2 ปีที่แล้วนั้น...



          เอ่อ... ยังทำใจไม่ได้อ่ะ ขอเปลี่ยนศูนย์ละกันนะครับ ซึ่งศูนย์ที่ผมไปเมื่อครั้งล่าสุด ยอมขับรถออกไปไกลกว่าศูนย์บริการเดิมไปประมาณ 10 กิโลเมตรได้ คือศูนย์ซึ่งผมจะมาพูดให้ฟังในวันนี้ครับ "โตโยต้า ชัยรัชการ บางนา"



          ทีนี้ถามว่า ผมเป็นกลางพอหรือยังที่จะวิจารณ์ศูนย์นี้ เพราะล้อของ Corona AT171 คันนี้กลิ้งเข้าศูนย์พร้อมผู้ดูแลที่มีความหลังเป็นอคติอย่างรุนแรง ถึงแม้วันนี้ความคิดของผมจะเปลี่ยนไปมาก แต่ก็ต้องยอมรับตามตรงว่ายังไม่เชิงเสียทีเดียว เพราะแผลในใจเป็นอะไรที่ยากจะลบ ก็อาจจะมีความไม่เป็นกลางบ้าง แต่เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อนผมมาปรึกษาว่าอย่ากซื้อซิตี้ ผมถามลักษณะการใช้งาน แผนการใช้ และเทสต์เพื่อนไป 2-3 ข้อ รถที่ผมแนะนำเพื่อนกลับข้ามยี่ห้อ ข้ามเซกเมนต์ ไปเป็น ALTIS ทั้งที่ผมมีอคติกับยี่ห้อนี้มาก่อนอย่างแรง ผมจึงคิดว่าน่าจะถึงเวลาแล้วที่ผมจะให้คะแนนในฐานะผู้บริโภคได้อย่างเป็นกลางในระดับที่ผู้คนทั่วไปยอมรับได้ (ถึงจะไม่กลางเป๊ะ)

          ศูนย์ชัยรัชการตั้งอยู่ริมถนนบางนา-ตราด ขาออก กม.16 ถ้าไม่รีบอะไร ผมอยากจะให้วิ่งบนทางคู่ขนานของถนนบางนา-ตราดไปเรื่อยๆ เพราะถ้าวิ่งทางหลักเดี๋ยวจะออกไม่ทัน ต้องกลับรถกันวุ่นวาย ในการไปถึงศูนย์ ป้ายของศูนย์ก็สูงเด่นดี แต่ป้ายของปั๊มป์น้ำมัน ตึกรอบข้าง พุ่มไม้ ก็บังไปซะเยอะ ฉะนั้นจงวิ่งบนทางคู่ขนานเถอะ ไม่เสียหายอะไรครับ ถนนบางนา-ตราด เป็นไฮเวย์ซึ่งจะไม่ติดบ่อยๆ จะติดเฉพาะบริเวณใกล้ห้างค้าปลีกใหญ่ๆ เท่านั้น



ประวัติศูนย์ชัยรัชการ

          ผมไม่เคยนำรถเข้าศูนย์นี้แบบจริงจัง แต่ถ้าท่านลองไป Search Google จะพบว่ามีกระแสตอบรับในระดับห่วยถึงห่วยมาก แต่ถ้าอ่านไปมากกว่านั้น เกือบทุกคอมเมนต์ที่โพสต์ถูกโพสต์ขึ้นในช่วงปี 2004-2008 เป็นส่วนใหญ่ การติหรือด่าประจานมีน้อยมากที่ถูกโพสต์ขึ้นในปี 2009 เป็นต้นมา แต่อันที่จริงก็มี แต่เท่าที่ผมอ่านนั้นในช่วงหลังมีแค่ 2 กรณี อย่างแรกคือกรณีของฝ่ายขาย ปัญหาอมตะอย่างเซลล์เปลี่ยนไปหลังจากจองรถไป ซึ่งอันนี้ก็ปล่อยให้เขาจัดการกันไป (ท่านที่พบปัญหากับเซลล์เรื่องการจองรถ โปรดเข้าใจนะครับ รีวิวนี้ เป็นรีวิวที่จะวิจารณ์ระบบหลังการขาย ไม่ใช่วิจารณ์ฝ่ายขายครับ) อย่างที่สอง เรื่องของการซ่อมบำรุง ก็มีคนบนเรื่อยๆ ประปราย (ซึ่งดูเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่ผมเจอจากศูนย์โตโยต้าอีกศูนย์ที่ผมเข้าครั้งก่อน) เป็นเหมือนคนที่หวังการบริการสมบูรณ์แบบเอาเรื่องเล็กน้อยมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่เสียมากกว่า บางคนก็ออกมาในลักษณะบ่นลอยๆ แล้วก็หายไป

          และจากการที่ผมเข้าไปตรวจสอบในเว็บโตโยต้า พบว่าในปี 2010 ศูนย์นี้ได้รับรางวัล Best of the Best CS Dealer Award หรือรางวัลโชว์รูมและศูนย์บริการดีเด่น จากโตโยต้าสำนักงานใหญ่ โดยศูนย์โตโยต้าทั่วประเทศราว 300 แห่งในปีนั้น มีศูนย์ที่ได้รางวัลนี้ 23 แห่งเท่านั้น!!! (http://www.toyota.co.th/aftersale.php?page=promotion_detail&cont_id=295)

          ดังนั้น มันมีความเป็นไปได้ 2 อย่าง ถ้าคิดในแง่ร้าย ก็จะมองว่าศูนย์ไปบีบให้ลูกค้าให้คะแนนดีๆ โดยเอาของประเภทตั๋วหนังหรือสารพัดบัตรกำนัลติดสินบนลูกค้า หรืออาจมีสายคอนเนกชั่นที่ไม่ธรรมดากับคนในสำนักงานใหญ่ แต่ถ้าความคิดในแง่ร้ายทั้งหลายนี้ไม่เป็นความจริง แสดงว่าศูนย์นี้มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและรวดเร็ว จากกระแสตอบรับแบบถล่มจมดินในปี 2008 กลายเป็นศูนย์โตโยต้าอันดับต้นๆ ของสารขัณฑ์ประเทศไทยในปี 2010 (ปี 2011 น่าแปลกที่ผมไม่พบข้อมูลของรางวัลนี้แม้แต่น้อย คิดว่าไม่น่าจะมีแจก แม้ในเว็บใหญ่ของโตโยต้าก็ยังระบุข้อมูลล่าสุดเป็นรางวัลปี 2010)

          ช้าอยู่ใย ไปอุดหนุนดีกว่า

การให้คะแนน

          ในช่วงการโมเดลเชนจ์เว็บ คอลัมน์ "แฉให้ฟัง หลังเข้าศูนย์" เป็นออปชั่นซึ่งถูกตัดออก ไม่ใช่แค่ตัดออกเฉพาะคอลัมน์ แต่หายไปทั้งบทความเลยทีเดียว URLแอดเดรสที่เคยเข้าได้ก็เข้าไม่ได้ซะแล้ว ด้วยเหตุผลกลใดผมก็ไม่ทราบ (จึงขอใช้พื้นที่นี้ถามทีมงานนะครับ มันหายไปไหนอ่า... ขอบคุณครับ)

          แต่... แม้ต้นฉบับจะหายไปแล้ว แต่ฉบับสำเนายังอยู่ ;D ;D เพราะคอลัมน์นี้ถูกก๊อปปี้ไปลงตามคลับของรถรุ่นนั้นรุ่นนี้เต็มไปหมด ผมเปิดกูเกิลนิดเดียวก็พบแล้ว แต่หลังจากศึกษาการให้คะแนนของพี่ J!MMY และพี่แพน Commander Cheng โดยละเอียด ตรงนี้ต้องกราบขออภัยทีมงานทุกท่านด้วยครับ ผมคิดว่าการเข้ารับบริการจากศูนย์ มีจุดประสงค์หลัก และจุดประสงค์รอง บางข้อเป็นสิ่งที่เราควรคาดหวังเป็นอันดับแรก กลับมีร้อยละการถ่วงคะแนนเท่ากับสิ่งที่ผมมองว่าเป็นเรื่องเล็กมากๆ จึงต้องขออนุญาตทีมงาน ในการปรับร้อยละการถ่วงคะแนนใหม่ ให้ตรงใจกับสิ่งที่ผมคิด ซึ่งเป็นดังนี้ครับ (หากทำให้ทีมงานไม่พอใจ ขอกราบอภัยอย่างสูง มา ณ ที่นี้ครับ)


                                                                           J!MMY's                     Ji.Cl.'s
- ความสะดวกในการนำรถเข้าจอดยังจุดรับรถ                     10                            2.5
- การต้อนรับ                                                              10                             5
- การเชิญไปนั่ง แจ้งรายละเอียด ประเมินราคา                    10                            10
- สิ่งอำนวยความสะดวก                                                10                             5
- การซ่อมบำรุง หรือทำตามความต้องการที่ลูกค้าแจ้งไว้        10                            40
- ระยะเวลาในการรอรับบริการ                                         10                            2.5
- การจัดเตรียมรถหลังรับบริการเสร็จสิ้น                             10                             5
- การแจ้งรายการชำระเงิน และการจัดการด้านการเงิน           10                           12.5
- การส่งมอบรถคืนให้ลูกค้า                                            10                            7.5
- มารยาทของเจ้าหน้าที่ในภาพรวม                                  10                            10
          รวม                                                               100                          100

          จริงๆ แล้วผมอยากให้มีอีกข้อหนึ่ง คือ ความสมเหตุสมผลของราคาและค่าแรง แต่ว่าคิดดูอีกที การกำหนดราคาเนี่ย ศูนย์กำหนดเองไม่ได้ ต้องยึดตามราคากลางที่ TMT (โตโยต้าสำนักงานใหญ่) กำหนด แต่นี่เราจะวิจารณ์ศูนย์ ไม่ใช่วิจารณ์ TMT เพราะฉะนั้น เรื่องราคาก็ขอตัดออก

          การให้คะแนนในแต่ละหัวข้อ ผมจะเทียบกับเกณฑ์ที่พี่ๆ แอดมินตั้งไว้ คือ
-หัวข้อไหนทำได้โคตรห่วย คะแนนจะต่ำกว่าครึ่ง
-หัวข้อไหนห่วย จะให้คะแนนจะอยู่ที่ร้อยละ 50-59 ของคะแนนเต็มในแต่ละหัวข้อ
-ไม่ห่วย แต่อย่าคาดหวังความดีงาม ให้ร้อยละ 60-69
-ปานกลาง ให้ร้อยละ 70-79
-ดี ให้ร้อยละ 80-89
-โคตรเยี่ยม... เอาใจผมไปเลย 90-100

          การให้คะแนนนี้ ให้ในฐานะลูกค้าที่ใช้ความรู้สึกผสมด้วย มิได้ให้คะแนนในฐานะกูรู หรือสื่อมวลชน ดังนั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

          เอาล่ะครับ มาเริ่มกันเลย

1. ความสะดวกในการนำรถเข้าจอดยังจุดรับรถ

          หลังจากเลี้ยวรถเข้ามาแล้ว สิ่งแรกที่ผมสงสัยคือ "กูควรจะไปทางไหน?"



          เพราะมีทางแยกให้วิ่งไป 4 ทาง คือ เลี้ยวซ้าย, ชิดซ้าย แล้วตรงไปขึ้นทางลาด, ตรงไป, และเลี้ยวขวา ป้ายบอกทางที่ติดไว้นี่ตัวอักษรก็จะเล็กไปไหน แถมลูกศรก็ชี้เหมือนกำปั้นทุบดิน ดูแล้วไม่รู้เรื่องเลยว่าควรไปทางไหน

          แต่ความงุนงงนี้อยู่เพียงเสี้ยววินาที ยังไม่ทันได้คิดอะไรเกินไปกว่านี้ยามก็โผล่ออกมาอย่างรวดเร็ว ทำความเคารพเรา เดินเข้ามาหา เมื่อผมลดกระจกลง บอกว่านำรถมาเช็คระยะ ยามก็ถามมาข้อหนึ่งซึ่งผมไม่เข้าใจ (ถ้าจำไม่ผิดเขาถามว่า CB หรือ CN มั้ง? อันนี้ผมไม่เคยทราบมาก่อนครับ) ผมบอกซ้ำไปว่ามาเช็คระยะ 3 แสนกิโลเมตร นัดหมายไว้แล้ว ยามก็เข้าใจจุดประสงค์ผม และบอกจุดรับรถอย่างชัดถ้อยชัดคำ ผายมืออย่างสุภาพไปยังจุดรับรถ ซึ่งเข้าใจได้ในทันที ผมจึงนำรถเข้าไปจอดยังจุดรับรถ ซึ่งมีพื้นที่สำหรับรถ 3 คัน (จริงๆ มี 4 ซอง แต่ซองนึงที่ในภาพมีวีออสจอดอยู่นั้นไม่ใช่จุดรับรถครับ ไม่มีการตีเส้นซองไว้ น่าจะเป็นจุดที่ใช้ในกรณีอื่นมากกว่า) อืม... ความรู้สึกแรก แน่นอนผมว่าน้อยไป แต่อยู่ๆ ไปกลับไม่น้อยแฮะ วันที่ผมไปเป็นวันหยุด รถน่าจะนัดมาซ่อมเยอะ ผมเฝ้าดูก็ไม่พบปัญหาว่าจุดรับรถไม่พอ แล้วลูกค้าต้องมาจอดปะหน้ากันแต่อย่างใด (ตรงกันข้าม ทั้งๆ ที่มีช่องรับแค่ 3 ช่อง แต่ยังมีช่วงเวลาที่ทั้ง 3 ช่องว่างสนิทให้ผมถ่ายรูปมาให้คุณดูได้ในวันหยุดราชการตอนเกือบเที่ยง) เจ้าหน้าที่มีความฉับไว รถแต่ละคันจอดที่จุดรับรถนานสุดแทบจะไม่เกิน 7-10 นาที เจ้าหน้าที่ก็จะขับรถออกไป ดังนั้นการที่ผมรู้สึกว่ามีน้อย อาจเป็นเพราะผมชินกับศูนย์ฮอนด้า บางพลี ซึ่งมีจุดรับรถรองรับได้เป็นโหลๆ ก็ได้



          จากถนนในศูนย์ ต้องเลี้ยวขวา 60 องศาเพื่อเข้าซอง ซึ่งแม้จะไม่ยาก ตรงจุดนี้ผมเห็นจุดๆ หนึ่งซึ่งชอบมาก คือ



          เสาครับ เสาที่ตั้งตระหง่านทั้งแท่งหุ้มด้วยโลหะสะท้อนภาพคล้ายกระจก เห็นภาพสะท้อนชัดเจน ช่วยในการกะระยะเลี้ยว ถ้าวันนี้คุณไม่เห็นประโยชน์ของมัน คุณจะเห็นประโยชน์ถ้ารถที่คุณขับเป็นรถใหม่ หรือรถเพื่อนซึ่งคุณยังไม่คุ้นกับมัน เอาใจผมไปเต็มๆ

          ดังนั้นในภาพรวม ความซับซ้อนของเส้นทางในศูนย์ถูกชดเชยด้วยยามที่ขยัน การเข้าซองที่ไม่ยากอยู่แล้วง่ายขึ้นอีกด้วยเสากระจก และจำนวนที่จอดซึ่งมีน้อยชดเชยด้วยความฉับไวของช่าง ถึงแม้ว่าจะเสียเปรียบด้านกายภาพเยอะ แต่การทำงานอย่างประสานกันเป็นระบบทำให้ผมแทบจะลืมเรื่องกายภาพไปได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม ถ้าวันใดมีรถเข้ามากระทันหันเป็นจำนวนมากในระดับหนึ่ง คงจะไม่สามารถรองรับได้อยู่ดี ในวันที่ผมไป ถึงผมจะไม่พบภาพการจอดปะหน้า หรือให้ลูกค้าส่งรถที่อื่นเลย แต่ภาพที่มีรถจอดเต็ม 3 คันเกิดหลายครั้งมาก จึงขอหักเก็บไว้บ้าง ในฐานระที่กายภาพยังไม่เอื้ออำนวยเท่าที่ควร

          คะแนนเต็ม 2.5 ผมให้ 2.25 ครับ (ให้เยอะเพราะเจ้าหน้าที่ แต่ถูกหักเพราะกายภาพ)

2. การต้อนรับและรับรถ

          สิ่งที่ผมเคยชินในช่วงที่ทำภารกิจฟื้นสภาพรถ (ลิงก์ด้านบน) คืออาเฮีย หรืออาเจ๊แนวช่างๆ ซึ่งคงไม่ต้องอธิบายว่าเป็นอย่างไร คุณชายบ้านจันทร์ คุณหญิงบ้านหล้า คงรับไม่ได้เท่าไหร่ ดังนั้นโดยปกติผมจึงไม่ค่อยตั้งความหวังไว้สูงกับการบริการนัก แต่นี่เรามาเลือกสิ่งที่แพงกว่าให้รถเรา ก็อยากได้ระดับการบริการที่สมกับราคา (ถึงรถเราจะเก่าก็ตามที)

          ทันทีที่เปิดประตูลงจากรถ เจ้าหน้าที่ต้อนรับผู้หญิงก็ลงมาหาเราในทันที ในการทักทายผมไม่แน่ใจว่าภาษาที่ใช้นั้นถือว่าสุภาพพอกับมาตรฐานของศูนย์บริการหรือไม่ แต่ผมถือว่าสุภาพใช้ได้ ไม่ใช่การพูดแบบท่องบท และจุดสำคัญคือผมไม่รู้สึกเหมือนคุยกับระบบ Voice Control ในรถบางรุ่น (คือใช้เวลานานในการคุยให้รู้เรื่อง) พูดครั้งเดียวเข้าใจ แล้วพนักงานก็ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอน ขอกุญแจ สำรวจรอบรถ จดรายละเอียด

          แต่ผมแอบแปลกใจอยู่ลึกๆ เพราะที่ผ่านมาศูนย์ทั่วไปที่ผมเคนเข้ามาพนักงานต้อนรับมีหน้าที่ต้อนรับอย่างเดียว เปิดประตูลงมาก็เชิญเราเข้าไปข้างใน ไปเจอพนักงานอีกชุดมีหน้าที่รับรถ ตรวจรายละเอียดเอกสารกันข้างใน บางศูนย์ที่ละเอียดๆ ก็จะเชิญลูกค้าออกมาดูรถ และดูอาการรถอีกรอบ แต่ที่นี่ไม่เป็นอย่างนั้น พนักงานต้อนรับมีหน้าที่ตั้งแต่ต้อนรับทักทาย รับกุญแจ จดรายละเอียด จดอาการ(ถ้ามี) พอเสร็จหมดแล้วค่อยเชิญเราเข้าศูนย์ (แต่ถ้าเราจะเดินเข้าไปเองก็ได้ ประตูอยู่ห่างจากจุดรับรถแค่ไม่กี่ก้าว ไม่ต้องเชิญก็เห็น ใกล้จนจะทิ่มหน้าอยู่แล้ว ถ้าจะให้ต้องเชิญอีกก็ไม่ไหวนะ) เป็นอะไรที่ประหลาดพอสมควร แต่ก็ไม่ใช่จะไร้เหตุผล เพราะว่าในช่วงที่เธอจดรายละเอียดนั้นมีอุปสรรคที่ต้องเชิญผมกลับไปดู (จะกล่าวถึงอีกทีหลังจบข้อ 10) ถ้าเกิดเหตุการณ์ลักษณะประมาณนี้ขึ้นกับใครคนอื่นแล้วต้องเชิญเข้าเชิญออกกันจะพาลให้หงุดหงิดมากกว่าการให้รอแล้วเข้าไปครั้งเดียว



          ถึงแม้กระบวนการรับรถจะพิลึกๆ แต่ยังไม่ทันที่หัวผมจะเริ่มมีความคิดหงุดหงิดจากการไม่ถูกชวน ผมเดินวนรอบๆ รถแค่รอบเดียว พนักงานต้อนรับเธอก็หันมาเชิญเราเข้าศูนย์ ผมหันไปดูก็พบว่าทุกอย่างดำเนินการเสร็จเรียบร้อย รอนายช่างมาเอารถเข้าไป ทั้งหมดนี้เธอทำเสร็จในเวลาแค่ราวๆ 1-2 นาที แป๊ปเดียวจริงๆ เมื่อผมเหล่ๆ ดูกระดาษก็มีรายละเอียดครบถ้วนไม่ต่างจากที่ศูนย์อื่น ทั้งข้อมูลพื้นฐาน รายละเอียดรถที่สำคัญๆ จุดประสงค์ของการนำรถเข้าถูกจดอย่างครบถ้วน ผมสรุปได้เต็มปากว่า ศูนย์นี้รับรถเสร็จ และพร้อมให้เราเข้าไปพักผ่อนในศูนย์ในเวลาที่สั้นกว่าเวลาที่พนักงานต้อนรับของบางศูนย์จะเดินถึงตัวลูกค้าด้วยซ้ำ O_O''



          การรอการเชิญ 1-2 นาทีถือว่าเป็นการเสียเวลาอย่างคุ้มค่า หลังจากที่เข้าไปในห้องรับรองแล้วมีอีกขั้นตอนเดียวคือการรับแจ้งการประเมินราคา ขั้นตอนเดียวเท่านั้นครับ ซึ่งผมชอบแบบนี้ ส่วนตัวต้องการให้รักษาวิธีปฏิบัตินี้ไว้

          ส่วนสีหน้า ผมไม่อยากจริงจังนัก การที่จะให้คนมายิ้มรับลูกค้าทั้งวัน ทุกวัน แถมต้องรับหน้าที่รับรถอีก ถ้าไม่ใช่ความไม่จริงใจก็จะเป็นไปไม่ได้เลย ความพึงพอใจผมคือไม่ทำหน้าตูดใส่ผมก็โอเคแล้ว ซึ่งพนักงานต้อนรับที่นี่ผ่านความคาดหวังของผมได้ฉลุย สีหน้าธรรมชาติ อารมณ์แบบคนทำงาน นี่แหละสิ่งที่ผมหวัง

          แต่จุดที่ผมขอหักไว้ติ่งหนึ่งคือ การที่ไม่บอกว่าจะให้ทำอะไรต่อ คือต้องทำให้เสร็จทีละขั้นแล้วถึงบอกว่าขั้นต่อไปคืออะไร อยากให้รอก็บอก อยากให้ไปไหนก็บอก เพราะภาพที่ผมเห็นในทีแรกที่มา คือพอรับกุญแจไปแล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาจด ปล่อยให้ลูกค้ารออย่างงงๆว่า "กูต้องทำอะไรต่อ? ที่ไหน?" ซึ่งแม้จะไม่ร้ายแรง และลูกค้าสามารถใช้ “ประสาทสัมผัส” คาดเดาจากสถานการณ์ได้ไม่ยาก แต่ขอหักค่างง 0.2 คะแนนครับ

          คะแนนเต็ม 5 ผมให้ 4.8 ครับ

3. การเชิญไปนั่ง แจ้งรายละเอียด ประเมินราคา

          การประเมินราคาแหวกแนวอีกเหมือนกัน คือศูนย์ปกติจะมีการประเมินราคาทันทีที่รับรถ แล้วพอตรวจๆ ไป เจออะไรเพิ่มก็จดๆๆๆๆ ไว้ แล้วไปแจ้งลูกค้าอีกที อาจด้วยโทรศัพท์ หรือถ้าลูกค้ารอรับเลยก็ไปดึงมาจากห้องรับรอง แต่ที่นี่ไม่ ในเมื่อเราเอารถเข้ามาถึงนี่แล้วคงหนีค่าแรงไม่พ้น เพราะฉะนั้นจะนำรถไปเช็คก่อน แล้วแจ้งรายการมาทีเดียวว่ามีรายการอะไรบ้าง ปล่อยให้ลูกค้าไปพักก่อน เรียกมาประเมินราคาทีเดียว ไม่ต้องแจ้งซ้ำโดยไม่จำเป็น

          ผมออกไปเดินเล่นรอบๆ ศูนย์สักพัก ราวๆ 15-20 นาที ก็มีโทรศัพท์มาถึงผม เป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์ ถามว่าผมยังอยู่ที่ศูนย์หรือไม่ เมื่อผมตอบว่ายังอยู่ ก็เชิญผมไปที่เคาท์เตอร์ ผมก็เดินกลับมา และก็เพิ่งนึกได้ว่า "แล้วเคาท์เตอร์ไหนอ่ะ?" ยุ่บยั่บไปหมด ให้กรูนั่งตรงหนายยยยยยยย



          จังหวะที่ผมกำลังงงว่าต้องไปนั่งช่องไหน เป็นจังหวะที่ผมกำลังจะวางสายโทรศัพท์จากพนักงานคนที่ว่านั้น ผมต้องใช้วิทยายุทธ์ "ดวงตาสามโลก" ค้นหาอย่างรวดเร็วว่าพนักงานเคาท์เตอร์ใดกำลังวางสายโทรศัพท์ ซึ่งก็พบพอดี ผมกับแม่ซึ่งไปด้วยกันจึงไปดูราคากัน การประเมินราคา ก็จะมีค่าแรงเช็คระยะ+น้ำมันเครื่อง+ประเก็น+ทำความสะอาดผ้าเบรก(ค่าน้ำยา)+กรอง รวมทั้งหมด 2,918.96 บาท ซึ่งมีการแจกแจงอย่างชัดเจนว่าค่าอะไรเท่าไหร่ แต่ผมจะกล่าวถึงครั้งเดียวในหัวข้อ "การจัดการด้านการเงิน" นะครับ

          จังหวะนี้ผมถามไปว่าน้ำมันเครื่องที่จะใช้เป็นเบอร์อะไร พนักงานตอบว่าเป็นกึ่งสังเคราะห์ ผมถามต่อว่าเบอร์อะไร เขาพบว่าไม่มีระบุในหน้าจอคอมพิวเตอร์ จึงพยายามนึกก่อน นึกไปนึกมานึกไม่ออก เขาก็ถึงกับเดินเข้าโกดังไปหยิบขวดตัวอย่างมาให้ผมดู ผมก็ดูจนหนำใจครับ เป็นกึ่งสังเคราะห์ เกรด SM 10W-30 อายุการเปลี่ยนถ่าย 5,000 กิโลเมตร อืม... เบอร์ 30 เหรอ?? ส่วนตัวผมว่ามันใสไปไหม อันที่จริงอยากได้หนือดกว่านี้สักเบอร์ 40 แต่ก็ไม่เป็นไรมั้ง จะได้ใช้เครื่องลื่นๆ กันบ้าง เบอร์ 30 ก็ไม่ได้ใสโจ๋งอะไรมากมาย เป็นเบอร์มาตรฐานทั่วไป ที่สำคัญคืออย่างไรมันก็เป็นน้ำมันเครื่องศูนย์ น่าจะเข้ากันได้กับเครื่องยนต์ได้ดีกว่าน้ำมันเครื่องอื่นๆ นะ

          อันที่จริงผมลังเลว่าอยากได้น้ำมันเครื่องสังเคราะห์แท้มากกว่า และน้ำมันสังเคราะห์มีอายุ 10,000 กิโล แต่ปัจจุบันรถคันนี้วิ่งน้อยลงมาก มันคงล่อไปหลายปีกว่าจะครบระยะหมื่นกิโลเมตรอีกครั้ง กาลเวลาคงทำให้น้ำมันเครื่องคงดำเป็นถ่านตั้งแต่ 3,000 กิโลเมตรแล้ว ผมจึงตัดสินใจเลือกน้ำมันกึ่งสังเคราะห์ไป

          คิดไปคิดมา เป็นอีกครั้งที่กายภาพของระบบคอมพิวเตอร์ในศูนย์ทำให้พนักงานทำงานยากขึ้น ข้อมูลคร่าวๆ อย่างเบอร์น้ำมันเครื่องควรจะมีให้พนักงานตรวจสอบได้ทันทีในคอมพิวเตอร์ ไม่ใช่ต้องเดินเข้าโกดังในการหาคำตอบของลูกค้า การระบุข้อมูลในระบบเพียงแค่ว่าเป็นกึ่งสังเคราะห์ และเกรด SM ยังถือว่าละเอียดไม่พอ

          อีกประเด็นคือ ตอนไปอ่านบทความแฉศูนย์นิสสันของพี่แพน Commander Cheng พี่แพนติติงศูนย์นิสสันตรงที่การที่ไม่มีใครมาถามว่าต้องการน้ำหรือไม่ ซึ่งศูนย์นี้ก็ไม่มีเช่นกันครับ ถึงจะมีจุดบริการน้ำตั้งอยู่ทนโท่ และการแจ้งการประเมินราคาเกิดขึ้นหลังจากตรวจรถเสร็จ ซึ่งลูกค้าแต่ละคนก็คงจะซัดกันเต็มคราบเรียบร้อย (รวมทั้งผม) แต่การมีน้ำมาเสิร์ฟไว้ในช่วงการประเมินราคาด้วยจะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกมากขึ้นอีกเยอะ แต่เรื่องนี้ ในใจผม ไม่มีผลในการหักคะแนนครับ คะแนนส่วนที่หายไปผมไม่ได้หักจากเรื่องนี้แต่อย่างใด

          คะแนนเต็ม 10 ผมให้ 8.25 ครับผม

4. สิ่งอำนวยความสะดวก

          ตั้งแต่ข้อแรก ศูนย์นี้ผมหักคะแนนเพราะกายภาพ ถึงแม้จะสะอาด โปร่ง หอม แต่ตำแหน่งของสิ่งต่างๆ ทำให้ชีวิตลูกค้าและเจ้าหน้าที่ตกระกำลำบาก ซึ่งเรื่องการอำนวยความสะดวกข้อนี้ เป็นเรื่องกายภาพเต็มๆ เพราะฉะนั้น จงทำใจไว้ หลังจากให้คะแนนแบบใจดีมาแล้ว 3 ข้อ ข้อนี้ท่านจงเตรียมใจไว้เถิด...

          อย่างแรก อยากให้ทุกท่านดูภาพนี้


ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 675
    • อีเมล์
          ท่านจงมองดูแล้วจะพบว่า นั่นคือหน้าหลัก(Desktop) ของคอมพิวเตอร์!!! มันเป็นอะไรที่ผมรู้สึกลายตามากๆ กว่าจะหาไอคอนเจอสักอัน ช่วยไปทำภาพหน้าจอมาใหม่ ยังไงก็ได้ให้หน้าจอมันลายตาน้อยลงกว่านี้ คอมพิวเตอร์ที่เสียบปลั๊กรอลูกค้ามี 3 เครื่อง อินเตอร์เน็ตที่ใช้ใน 3 เครื่องนั้นเป็น WiFi ไม่ใช่สายแลน กว่าจะคลำหาไอคอนอินเตอร์เน็ตเจอก็ลำบากแล้ว พอเปิดเข้าไปได้เจือกเจอเน็ตอืดๆ ราวกับว่าไวไฟตัวเดียวใช้ทั้งศูนย์ อืดราวกับทั้งพนักงาน ลูกค้าใช้ไวไฟจากตัวจ่ายตัวเดียวยังไงอย่างงั้น พอเล่นๆไปสักพักหนึ่ง อินเตอร์เน็ตก็หายไป แล้วไม่กลับมาอีกเลย ผมเปิดเล่นเกมที่มากับ Windows อย่างอนาถาอยู่สักพักก็ลุกไป ทนไม่ไหว ไม่แน่ใจว่าวันที่ไปนั้นมีปัญหาของระบบอินเตอร์เน็ตหรือไม่ แต่จากสิ่งที่ผมได้สัมผัส ก่อนรับรถออกจากศูนย์ผมก็แวะมาลองอีกที อินเตอร์เน็ตก็ยังไม่มาเช่นเดิม



          ผมลุกไปกดน้ำกิน พอจะหาที่นั่งก็พบปัญหาอีก เบาะนั่งในห้องรับรองส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นม้านั่งยาว โต๊ะวางแก้วตั้งอยู่ข้างหน้า โทรทัศน์แขวนอยู่หน้าสุด ซึ่งก่อความไม่สะดวกหลายอย่าง ไม่มีที่เท้าแขนทั้งซ้ายขวา ไม่มีที่วางแก้วด้านข้าง ต้องเอื้อมตัวไปและละสายตาจากสิ่งอื่นทุกครั้งที่จะวางหรือหยิบแก้ว และความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวถูกทำลายหมดสิ้นเมื่อไม่มีที่วางแขนกั้นอาณาเขตระหว่างกัน ในการนั่งพักผ่อนผมรู้สึกตัวเองลีบเล็ก สักพักก็อึดอัด (แถมเบาะก็ไม่นุ่มเท่าไหร่) แล้วก็ลุกออกไป



          มุมอาหารและเครื่องดื่ม มีเครื่องดื่มตามมาตรฐานศูนย์บริการทั่วไป คือน้ำ แฟนต้า กาแฟผง (อยากมีโอวัลตินกับน้ำหวานเฮลส์บลูบอยหรือน้ำผลไม้ด้วยจะดีกว่านี้มาก) อาหารมีมาม่า และแคร็กเกอร์ แต่ไม่มีขนมปัง ไม่มีขนมกรุบ ไม่มีไข่ต้ม ไม่มีเค้กยูโร่ ไม่มีอะไรเลยนอกจากมาม่ากับแคร็กเกอร์



          คือแบบว่า... ผมไม่ได้อยากได้มาม่า ผมอยากได้พวกขนมปัง แยม เนย เยลลี่ โอวัลติน เฮลส์บลูบอย ไม่ใช่มาม่าอ้ะ มันเหมือนไม่ตรงความต้องการยังไงไม่รู้ อยากให้ปรับเมนูอาหารสักหน่อยนะครับ จะดีกว่า

          ในเมื่อผมหาความบันเทิงใส่ตัวไม่ได้ในบริเวณของการรับรองลูกค้า ผมก็ต้องไปหาความบันเทิงโดยการดูรถใหม่ๆ แล้วชีวิตผมก็ต้องลำบากอีกครั้ง เพราะโชว์รูมรถกับศูนย์บริการแยกกันอยู่คนละตึก แยกกันอย่างเดียวไม่พอ ไม่มีหลังคาคุ้มหัวอีก ผมต้องเดินตากแดดออกไปร่วมๆ ร้อยเมตรเพื่อไปดูโชว์รูม (มีแต่พวกบ้ารถกับพวกอยู่ไม่สุขที่จะยอมเดินไปไกลลิบเพื่อดูรถ ซึ่งผมเป็นหนึ่งในนั้น) ทำไมรู้สึกว่าชีวิตคนชอบรถมันลำบ๊ากกกก.... ลำบากจัง

          พอเข้าไปแล้ว ก็พบความแตกต่างของเซลล์ที่นี่ทันที ผมมักจะชอบใส่เสื้อยืด+ยีนส์+แตะ เน้นให้ดูโทรมๆ เพราะบางทีเราแค่สนใจรถอย่างเดียว โอกาสที่จะซื้อจริงๆ มี แต่น้อย ก็ไม่อยากให้เซลล์เข้ามาสนใจเรามาก เอาเวลาไปดูลูกค้าคนอื่นน่าจะดีกว่า ถ้าผมสงสัยอะไรผมจะเรียกถามเอง ซึ่งก็ได้ผล ปกติที่โชว์รูมอื่นผมต้องเดินสำรจรถวนไปวนมาสักพัก จึงจะมีเซลล์เดินเข้ามา หรือบางที่คุณท่านก็ปล่อยให้ผมเดินสำรวจรถจนหนำใจและเดินออกจากศูนย์ไปโดยไม่มาไต่ถามซักคำ แต่ไม่ใช่ที่นี่ ผมเปิดประตูไป เซลล์ก็รีบต้อนรับอย่างที่ผมไม่เคยได้รับจากที่อื่น เข้ามาซักถามความต้องการ ผมก็ถามจนหนำใจ แล้วก็ขอเซลล์เลยว่าเราขอปลีกตัวออกมาดูรถคนเดียว (ไม่รู้ว่าเขาจะนึกว่าเราไล่รึเปล่า แต่ถ้าอ่านอยู่นี่โปรดเข้าใจว่าไม่ได้ไล่ ผมอยากได้ความเป็นส่วนตัวและอยากให้คุณไปจับลูกค้าคนอื่นมากกว่าเนาะ รถที่ผมสนจริงๆ ตอนนั้นไม่มีโชว์ จะให้คุณเดินต้อยๆ ตามไปตอบคำถามผมเกี่ยวกับรถที่ผมแค่สนใจ แต่ไม่ได้คิดจะซื้อมันก็ไม่ถูก)

          สิ่งที่ตำหนิเกี่ยวกับเซลล์ คือ ช่วยเปลี่ยนชุดฟอร์มหน่อยเถอะนะ ขอร้องงงงงงง ผมไม่ได้ถ่ายรูปมา ไม่รู้ว่าถ้าแต่ละท่านเห็นภาพนี้จะคิดอย่างไร แต่สำหรับผม มันดูตลกอ่ะ เปิดประตูเข้าไปทีแรกนี่อึ้งเลย ชุดมันดูเป็นทางการ แต่มันเหมือน... เอ่อ... เหมือนมิสเตอร์บีนใส่สูทแบบกลับเอาข้างในออกมาอ่ะครับ



          รถที่โชว์ในโชว์รูมมีเยอะ โชว์รูมกว้างขวางมี 2 ชั้น ผมก็เริ่มไล่ดูไปเรื่อยๆ แต่... เฮ้ย...



          ฮ่วย... ถึงแม้ตัวอักษร VIOS ของตัวเก่ากับใหม่จะใกล้กัน ลูกค้าส่วนใหญ่ดูไม่ออก แต่ว่าป้ายใหม่นี่ไม่มีเรอะ? วีออสตัวนี้ก็ออกมาจนจะเลิกขายอยู่แล้ว ยังเอาป้ายวีออสตัวโน้นมาแปะ ก็... บ๊ะ ไม่เป็นไร ผมก็เดินไปดู VIGO Champ หยิบโบร์ชัวร์เก็บกลับบ้าน พอเดินดูรถชั้นล่างจนหนำใจก็เดินไปดูรถที่โชว์อยู่ข้างบนชั้น 2 ทันได้นั้น พอเดินไปได้ครึ่งบันได ผมก็ร้อนวูบวาบ!!!!!!! ไม่ใช่เพราะโดนของ แต่เพราะข้างบนไม่เปิดแอร์ อาห์ห์ห์ห์ห์ห์ห์ห์ห์....... อะไรกันเนี่ย... ร้อนฉิบ มีแต่คนบ้ารถกับคนที่อยู่นิ่งไม่เป็นเท่านั้นที่จะขึ้นมาดู (แต่ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นเดิม) ผมเดินไปดูรถทีละคันๆๆ แต่คงจะไม่วิจารณ์รถทุกคันนะครับ แต่จุดสำคัญคือผมเพิ่งจะทราบบางอย่างเกี่ยวกับ VIOS เพราะโดยทั่วไปวีออสที่เห็นตามท้องถนน ตัวไมเนอร์เชนจ์ให้ยาง Dunlop SP Sport 2030 มา แต่เพิ่งรู้หลังจากมาดูโชว์รูมนี้ว่า วีออส G กับ G Limited ไม่ได้ให้ดันลอป แต่ให้ยางตระกูลสูงกว่า คือ Bridgestone Potenza RE080 185/60R15 ดังรูปข้างล่าง เป็นตัว G-Limited รุ่นรมดำครับ



          ไหนๆ ก็พูดถึงกายภาพกันไปแล้ว พูดให้หมดเลยละกัน พอผมดูรถใหม่ ลูบ คลำ ปีน ขี่ จนสำเร็จ... เอ้ย! จนพอใจ ผมไปดูรถเก่าๆ บ้าง เพราะเลยจากศูนย์บริการไปก็จะพบ "โตโยต้า ชัวร์" ซึ่งเป็นเต๊นท์รถมือสองของโตโยต้าเอง มีรั้วกั้น แต่รั้วเปิดทะลุถึงกัน รถเยอะพอสมควรเลยครับ



          ความแอคทีฟของพนักงานสู้ศูนย์บริการและในโชว์รูมหลักไม่ได้นัก แต่ก็ถือว่าแอคทีฟดีพอใช้ ผมก็เดินดูรถคันนั้นคันนี้ไปทั่วล่ะครับ

          กลับมาที่ศูนย์บริการ มันยังมีส่วนดีที่ผมชอบมาก ถ้าไม่มีของพวกนี้ตั้งอยู่ คะแนนให้หัวข้อสิ่งอำนวยความสะดวกนี้คงจะเป็น 0.1 อย่างแน่แท้ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า



          เครื่องนวดครบวงจร!!!!!!! จุดนี้ชอบมาก ถึงผมจะไม่ได้นั่ง แต่มันเป็นที่ซึ่งคนวัยพ่อแม่ผมขึ้นไปจะได้นั่งพักอย่างสบายอารมณ์ เก้าอี้นวดหลัง เครื่องนวดเท้า เครื่องนวดน่อง รองรับได้ 3 คน เป็นจุดที่ดีมากครับ มุมเล็กๆ นี่ลงทุนไปหลายหมื่นเกือบเหยียบแสน เป็นการลงทุนที่ใจป้ำอย่างที่ศูนย์อื่นไม่เคยให้!!! อย่างไรก็ตาม คนที่จะใช้เครื่องนวดนี้มีได้ทีละ 3 คนเท่านั้น สูงสุด เทียบกับจำนวนคนที่เข้ามากันร่วมๆ 50 คน

          นอกจากนี้ยังมีจุดที่น่าชมเชยอีกจุด คือศูนย์บริการใช้กระจกบานใหญ่แทนกำแพง สามารถมองทะลุไปยังอู่ข้างใน เห็นรถคันต่างๆ และเห็นว่าช่างกำลังทำอะไรอยู่ เสร็จหรือยัง



          มันช่วยดึงคะแนนในใจผมได้บ้าง แต่อย่างไรก็ตาม คะแนนในหัวข้อนี้คงจะต่ำเรี่ยดินอย่างเลี่ยงไม่ได้ วันที่ผมไป อินเตอร์เน็ตเจ๊ง จอคอมลายตา โอวัลตินไม่มีกิน เก้าอี้แข็ง ที่เท้าแขนไม่มี ความส่วนตัวบนเก้าอี้ไม่มี ความสะดวกในการไปดูรถใหม่ไม่มี โชว์รูมชั้นสองแอร์ไม่เปิด จะไปไหนชีวิตข้าพเจ้าก็ลำบากไปหมดอย่างงี้จะเอาสักเท่าไหร่... ฮึ

          คะแนนความสะดวก เต็ม 5 ให้ 0.75 ครับ (ไม่ผิดครับ ศูนย์ จุด เจ็ด ห้า ย้ำอีกทีก็เหมือนเดิม ศูนย์ จุด เจ็ด ห้า) เพราะเป็นเรื่องของกายภาพล้วนๆ พนักงานแม้มีความแอคทีฟแต่หัวข้อนี้ไม่ได้ให้คะแนนพนักงาน จริงไหมครับ??

5. การซ่อมบำรุง

          หัวข้อนี้เป็นหัวข้อสำคัญ ผมถ่วงเป็นคะแนนถึง 40 คะแนน เพราะผมมองว่านี่เป็นสิ่งแรกที่เราคาดหวังจากศูนย์บริการ อันที่จริงผมอยากถ่วงเป็น 50 คะแนนด้วยซ้ำ แต่มันยังมีข้ออื่นๆ ที่ไม่ใช่ตัวประกอบ เบียดเข้ามาจึงต้องถ่วงให้เป็น 40 คะแนนแทน และเนื่องจากเป็นหัวข้อใหญ่ ในการเขียนร่างนี้ขึ้นมา หัวข้อนี้เป็นข้อ 5 แต่ผมเขียนหัวข้อนี้เป็นรายการสุดท้าย โดยต้องการทดสอบคุณภาพงานซ่อมไปจนกว่าจะสามารถตัดสินได้อย่างถูกต้องเป็นกลาง แต่นั่นก็ยังยากอยู่ดี การไปครั้งนี้เป็นการเช็คระยะตามปกติ ไม่ใช่การซ่อม ไม่ใช่งานที่จะดูกันได้ง่ายๆ ว่าจบหรือไม่จบ แต่นั่นคือการจับความรู้สึก จับอารมณ์ของรถว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปทางใด แต่เนื่องจากมันไม่ได้มีอะไรเสียอยู่แล้ว จะจับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปจากการบำรุงรักษานิดหน่อยตามระยะเนี่ย เป็นการยากมาก แถมยังเป็นหัวข้อที่คะแนนเยอะที่สุด ยิ่งเป็นการน่าลำบากใจ

          งั้นเอางี้ ผมเริ่มจากความซื่อสัตย์ของช่างก็แล้วกัน ตรวจแล้วจะเปลี่ยนอะไหล่แม่งทุกอย่างเลยเหมือนบางศูนย์รึเปล่า? งั้นไล่เลย รายการเช็คระยะสามแสนกิโลเมตรมีอะไรบ้าง?
-ค่าแรงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไอ้นี่ไม่มีปัญหา ถ่อเข้ามาที่นี่ก็เพราะอย่างนี้แหละเป็นหลัก
-ตรวจเช็คระบบเครื่องยนต์ ตอนไปฟื้นสภาพรถคันนี้ครั้งใหญ่ (ลิงก์ด้านบน) ผมทำเครื่องไปหมดแล้ว ทำจานจ่าย เปลี่ยนหัวเทียน ท่อยางต่างๆ เมื่อไม่กี่เดือนที่แล้วนี้เอง สภาพยังดี ซึ่งพอตรวจมาแล้วก็ไม่มีรายการซ่อม
-ตรวจเช็คระบบเบรก ใน Report ภารกิจฟื้นสภาพ ผมไม่ได้ยุ่งอะไรกับระบบเบรก ตอนนั้นผมเริ่มสังเกตได้ว่าเบรกเริ่มมีฟีลลิ่งที่เปลี่ยนไปแปลกๆ หลังจากขับต่อเนื่องได้ระยะหนึ่ง ตอนนั้นก็เอาไปให้ร้านเบรกดูแล้ว แต่ก็พบว่าอุปกรณ์เบรกไม่มีอะไรผิดปกติ ผ้าเบรกเต็ม น้ำมันเบรกเต็ม สายเบรกไม่รั่ว หม้อลมไม่มีปัญหา จึงใช้ต่อโดยไม่ทำอะไร แต่อาการแปลกเล็กๆ ของผ้าเบรกก็ยังคงอยู่ตลอดมา แต่หลังจากศูนย์ตรวจเช็คก็มีรายการซ่อม โดยใช้น้ำยาแท้มา “ทำความสะอาดเบรก” อื้ม...
-ตรวจเช็คระบบบังคับเลี้ยว ในช่วงฟื้นสภาพ ผมแทบจะยกระบบบังคับเลี้ยวใหม่ บู๊ชแร็ค ยางกันโคลง ฯลฯ สภาพใช้ได้ ผลการตรวจ ไม่มีการซ่อม OK!
-ตรวจเช็คระบบช่วงล่าง ในช่วงฟื้นสภาพ ผมจัดการซ่อมโช๊คทั้ง 4 ต้น และสภาพช่วงล่างแม็คเฟอร์สันสตรัท 4 ล้อยังใช้ได้ ผลการตรวจ... ไม่มีรายการซ่อม
-ตรวจเช็คระบบไฟและใบปัดน้ำฝน ทุกอย่างยังใช้ได้ดี ก็ไม่มีรายการเปลี่ยน
-ตรวจระบบเครื่องปรับอากาศ ในช่วงฟื้นสภาพผมก็เปลี่ยนรีซิสแต๊นซ์และเช็คระบบแอร์เป็นที่เรียบร้อย ผลการตรวจ... ไม่มีรายการซ่อม

          ผมเอารายการมาแจกแจงให้ดูเพราะอะไร? คุณผู้หญิงทั้งหลายเคยเจออารมณ์แบบนี้หรือไม่ แบบว่า... “ดั๊นจำได้ว่าไอ้นี่ดั๊นเพิ่งซ่อมไม่ใช่เหรอคะ? ต้องเปลี่ยนอีกเหรอ?” แล้วคุณท่านก็ตอบชุ่ยๆ ให้เรางงๆ แล้วก็พูดตีอ้อมมัดมือให้เรายอมเปลี่ยนแต่โดยดี ซึ่งผมก็เจอมาแล้วเหมือนท่านทั้งหลาย แต่ไม่ใช่กับศูนย์โตโยต้า ชัยรัชการ ที่ศูนย์นี้ “อะไรไม่เสีย... ก็คือไม่เสีย” ครับ

          แต่ในขณะเดียวกัน “อะไรเสีย... ผมรู้นะ” ไม่ใช่ว่ามาถึงเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างเดียว ตีหน้าซื่อเก็บค่าแรงเต็มจำนวน แล้วให้เราออกไปผจญถนนกับรถที่ยังไม่ได้ตรวจห่าอะไรเลย อะไรที่ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ก็ได้รับการแจ้งรายการ อย่างเบรกเนี่ย ผมแค่รู้สึกว่าฟีลลิ่งแป้นเบรกมันแปลกๆ เขาก็รู้ว่ามีปัญหาทั้งที่ผมไม่ได้บอกเจาะจงลงไปว่าให้ไปเช็คเบรก และที่สำคัญกว่านั้น การแก้ไขเป็นการแก้ไขตามสภาพของมัน คือ “ทำความสะอาดเบรก” ไม่ใช่ “เปลี่ยนเบรก” ซึ่งเป็นอะไรที่ถูกต้อง ถ้าการแก้ไขนี้ทำให้ฟีลลิ่งเบรกกลับมาเป็นอะไรที่ถูกต้อง จะเป็นอะไรที่ดีมาก เป็นการจบปัญหาในราคาที่ต่ำ แต่ถ้าไม่ ก็คงต้องด่ากันไปตามตรง แต่อย่างน้อยมันยังเป็นการแก้ไขที่ถูกต้อง เพราะไล่จากเรื่องเล็กไปเรื่องใหญ่

          สองย่อหน้าบนเป็นความซื่อสัตย์และเถรตรงของช่างที่นี่ ทีนี้มาดูการขับขี่กันบ้างครับ อืม... มันยากที่จะจับความรู้สึกถึงความแตกต่างนะครับ แต่ที่ผมรู้สึกได้คือความรู้สึกเวลาเหยียบแป้นเบรก ที่มีความรู้สึกเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น อธิบายไม่ค่อยถูกแฮะ แต่ว่าเบรกมีความมั่นใจมากกว่าเดิมหน่อยๆ คือก่อนที่จะเข้า ฟีลลิ่งของแป้นเบรกตอนเพิ่งสตาร์ต กับตอนที่หลังจากขับต่อเนื่องนานๆ จะต่างกันพอสมควร แต่ตอนนี้ผมมีความรู้สึกว่าฟีลลิ่งของมันไปอยู่ตรงกลางๆ ระหว่างฟีลลิ่งเก่า 2 แบบนั้น แต่มันเป็นความรู้สึกที่กำลังดีครับ เป็นแป้นเบรกที่ลิเนียร์ และมีความชันของกราฟที่ให้ความมั่นใจและนุ่มนวลดีกว่าครั้งเก่า ในวันที่รีวิวนี้ถูกโพสต์ขึ้นไปนั้น ผมวิ่งรถออกจากศูนย์มาประมาณ 90 กิโลเมตรยังไม่พบอาการฟีลลิ่งแป้นเบรกเปลี่ยนเลย แต่กรณีนี้ผมยังไม่มั่นใจเท่าไหร่นะครับ ขอเวลาลองหลายๆ เดือนหน่อย แปะโป้งไว้ก่อนนะครับ (ไอ้นี่ถ้าไม่หายนี่ยาวครับ ผ้าเบรกยังเต็ม หม้อลมปกติ น้ำมันเบรกเต็ม จานเบรกปกติ ถ้ามีอาการมานี่จะหาต้นตอต้องไล่ยาว)

          น้ำมันเครื่อง เปลี่ยนออกมาถือว่าลื่นและแรงขึ้นพอตัวตามประสาน้ำมันเครื่องใหม่ และผมรู้สึกว่ามีการปรับตั้งไฟ (องศาการจุดระเบิด)ใหม่จนอาการเขก ซึ่งเกิดได้ง่ายในเครื่องคาร์บูเรเตอร์ หายไป โดยที่เครื่องไม่อืดด้วย ทุกอย่างนี้เมื่อรวมกับฟีลลิ่งของแป้นเบรกที่ดีขึ้นทำให้ผมกล้าจะออกบทแนวกึ่งบู๊มากขึ้นกับรถคันนี้ จากเดิมที่รถคันนี้ผมเอาไว้ขับแบบเรื่อยๆ รื่นรมย์ ถือว่าเป็นพัฒนาการในทางที่ดีครับ

          ถึงแม้ผมจะยังไม่มีโอกาสทดลองรถในเงื่อนไขสุดขั้วที่จะดึงสิ่งผิดปกติออกมาให้เห็นชัด แต่ผมถือว่าทำได้ตามความคาดหมายของผมในการมาเช็คระยะ เพราะเราไม่ได้บอกเลยว่าเรารู้สึกว่าไอ้นี่แปลกๆ แต่ก็มีรายการที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราสงสัยขึ้นมาแจ้ง และอะไรที่เราเพิ่งทำ เพิ่งได้ครึ่งปี ก็ไม่มีรายการเปลี่ยนมั่วให้เราประสาทเล่นๆ เพียงเท่านี้ก็โกยคะแนนกำใหญ่ๆ ได้ไม่ยาก ถ้าผมบอกให้เช็คจุดใดจุดหนึ่งเป็นพิเศษคงจะจบปัญหาได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ครั้นจะให้คะแนนเต็มตอนนี้คงจะยังไม่ใช่เช่นกัน เพราะการเช็คระยะต้องเป็นอะไรที่คนที่ดูแลรถไม่เป็นทั้งหลายจะไว้วางใจได้ว่ารถเขาต้องปลอดภัยและสมบูรณ์แบบให้ได้มากที่สุดโดยที่เขาไม่ต้องสังเกตอะไรในตัวรถของเขามากนัก ฟีลลิ่งแป้นเบรกดีขึ้น แต่ผมคาดหวังไว้มากกว่านี้ และปัญหารำคาญเล็กๆ ในบางจุดไม่ได้รับการแก้ไข (ปัญหารำคาญ ผมหมายถึง ปัญหาที่ผมมั่นใจแน่นอนว่าไม่มีผลกับความปลอดภัย ไม่สำคัญ ไม่เร่งด่วน ซึ่งในรถที่ผ่านศึกมาขนาดนี้ก็ต้องมีบ้าง) ดังนั้นต้องหักเก็บไว้ด้วยครับ

          คะแนนเต็ม 40 ผมให้ 34 ครับ

6. ระยะเวลาในการรอรับบริการ

          ข้อนี้จริงๆ ถ้าไม่ใช่ศูนย์บริการระดับนี้ผมจะตัดหัวข้อนี้ทิ้งไปจากการประเมินคุณภาพ เพราะการบีบให้ทำเสร็จเร็วๆ ไม่เป็นผลดีนัก อยากให้ช่างซ่อมแบบไม่ถูกกดดัน ให้งานออกมาดีๆ จะโอเคกว่า ถึงนั้นจะหมายถึงการเสียเวลาชีวิตไป นั่นเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบที่เลี่ยงไม่ได้ของคนมีรถ จะมีรถคุณต้องมีความรับผิดชอบเสียก่อน แต่นี่เป็นระดับศูนย์บริการ ซึ่งควรมีการบริหารที่เป็นระบบ เอามาคิดหน่อยก็แล้วกัน โดยถ่วงคิดเป็นคะแนน 2.5

          ผมไปถึงศูนย์ ดำเนินการรับรถเมื่อก่อน 9 โมงเช้าหน่อยๆ รอการตรวจสอบรถราวๆ 20 นาที รับแจ้งการประเมินราคาและตกลงกันเสร็จก็เริ่มดำเนินการตอน 9 โมง 15 นาที (รึ 20 หรืออาจ 30 ก็ไม่แน่ใจ) ในตอนนั้นผมถามว่าใช้เวลาประมาณเท่าไร ก็ได้รับคำตอบว่าประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งตรงกับคำตอบที่ผมได้รับจากโอเปอเรเตอร์ทางโทรศัพท์ตอนที่นัดหมายจองคิว แสดงถึงการทำงานเป็นระบบของพนักงาน พนักงานไม่บอกเป็นเวลาชัดเจน แต่ก็พอจะนับได้ว่าควรจะเป็น 10โมงปลายๆ ก็ควรจะเสร็จ ปรากฎว่ารถไปเสร็จเอา 11 โมงนิดๆ (ผมนับตอนที่เห็นรถผมออกมาจอดที่ซองจอดรถข้างนอกอู่) ถือว่าไม่ทัน แต่ไม่น่าเกลียดนักครับ 10 กว่านาที สำหรับผมถือว่าไม่เป็นไรมาก แต่ประเด็นอยู่ที่หลังจากนั้น เพราะผมเห็นรถจอดอยู่ที่ช่องข้างนอก จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีใครมาเรียกเราไป 5 นาทีก็แล้ว 10 นาทีก็แล้ว ก็แล้วยังไม่มีใครเรียกเราไป แม้จะยังมีการเรียกลูกค้าที่รถเสร็จแล้วอย่างต่อเนื่อง แต่ผมไปถามพนักงานกี่คนๆ ก็มีแต่บอกให้รอ ให้รอ ให้รอ แล้วก็ให้รอ ผมต้องรอหลังจากที่เห็นรถตัวเองออกมาจอดราวๆ 15-20 นาที จึงจะเรียกเรา เป็นจุดบกพร่องในระบบการบริการไม่กี่จุดที่ผมเจอในการรับบริการครั้งนี้ จุดนี้ทำให้ผมหงุดหงิดไม่น้อย ถ้าจะเพิ่มความรวดเร็วในเรื่องเอกสารสักหน่อยก็จะดีมากครับ

          คะแนนเต็ม 2.5 ผมให้ไป 1.85 ครับ

7. การจัดเตรียมรถหลังรับบริการ

          หลังจากเช็คระยะเสร็จสิ้น ก็มีการล้างรถ ดูดฝุ่นภายในให้ และมีการเช็คระบบต่างๆ ของรถซ้ำอีกครั้งว่ายังสามารถใช้ได้ดีหรือไม่ ซึ่งตรงจุดนี้ก็มีเรื่องมาเล่าอีกแล้ว แต่จะเล่าหลังจบข้อ 10 ครับ ฝีมือการทำความสะอาดโดยรวมถือว่าดีครับ สะอาดเงางาม แต่ก็มีหลุดๆ ในลักษณะของการเก็บงานไม่หมด เช่น



          ไอ้ส่วนที่สะอาดมันก็สะอาดจริงๆ แต่เหมือนกับทำงานไม่ละเอียดทำให้ความสะอาดไม่ทั่วถึง สภาพแบบนี้พบได้หลายจุด ตามซุ้มล้อ บังโคลน นอกจากนี้คราบหยดของเหลวที่ติดอยู่บนตัวถังก็ออกไม่หมด (ของเหลวที่ว่าติดมาจากที่อู่อื่นนะครับ ไม่ใช่มาจากการถ่ายน้ำมันเครื่องที่นี่ เพราะถ้าคราบพวกนี้มาจากศูนย์ล่ะมึง!!!!) คือคราบของเหลวออกไปแต่ก็ทิ้งร่องรอยจางๆ เอาไว้ แต่เหมือนว่าพอน้ำฉีดไม่ออกคุณท่านก็ไม่ทำอะไร ปล่อยออกมาทั้งอย่างนั้น แต่ส่วนที่ได้ล้างจริงๆ นั้นล้างได้ดี ไม่มีรอยคราบหยดน้ำ ไม่มีคราบน้ำยา ไม่มีรอยอะไรหลงเหลือ ถือว่าสวยเนียนตามมาตรฐาน

          ตราประจำตระกูล Corona ที่แปะอยู่หน้ารถ ดูใสเปล่งปลั่งมากกว่าตอนก่อนเข้าไป รวมทั้งกันชน สะอาดเงางามขึ้นชัดเจน รอยคราบที่เห็นจางๆ นั้นเป็นคราบของเหลวที่ออกไปแล้วเหลือรอยทิ้งไว้ครับ



          ส่วนตัวถัง สะอาดเงาตามมาตรฐาน



          ผมแทบจะลืมไปแล้วว่ารอบกระจกข้างของผมมีการเดินโครเมียมไว้รอบกระจก เพราะคราบต่างๆ บดบัง แต่วันนี้โครเมียมพวกนี้เปล่งปลั่งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง



          ภายใน ชิ้นส่วนที่เป็นพลาสติกได้รับการทำความสะอาด ทั้งคอนโซล พวงมาลัย โคนเกียร์ แผงประตู สะอาดเงางาม แต่กลับยังมีคราบไคลหลงเหลืออยู่ในจุดที่ฝังแน่น



          แต่ว่า ด้วยความที่รถคันนี้เป็นเบาะกำมะหยี่ ซึ่งอมฝุ่น การดูดฝุ่นจึงทำได้ไม่เยอะ เบาะยังมีฝุ่นอยู่ชัดเจน แต่เมื่อผมเริ่มพูดว่าเบาะยังฝุ่นเยอะ เจ้าหน้าที่ก็นำรถกลับไปให้ข้างในดูดฝุ่นใหม่ ผลคือเข้าไปครู่เดียว ก็กลับออกมาบอกว่าดูดไม่ออกแล้ว ได้เท่านี้ครับ เอิ่ม... ผมว่าคนดูดข้างในขี้เกียจละ เข้าใจว่ากำมะหยี่มันอมฝุ่น แต่นี่ตบเบาะทีฝุ่นคลุ้งเลย เหลือเยอะไปไหม? ถ้าจะยอมเสียเวลาดูดมากกว่านี้อีกสักไม่กี่นาทีจะซื้อใจผมได้มากกว่านี้ไปโข



          เปิดฝาห้องเครื่อง ก็พบว่าศูนย์เป่าห้องเครื่องให้ ก็สะอาดขึ้นหน่อย แต่ไม่ได้เคลือบแว็กซ์ ซึ่งการเคลือบแว็กซ์นี้ ศูนย์ฮอนด้า บางพลี ที่ผมใช้บริการประจำสามารถให้ได้ทุกครั้งที่ผมใช้บริการ



          แต่ผนังห้องเครื่อง รู้สึกเหมือนไม่ได้ทำอะไรเลย คราบน้ำยังเลอะเทอะเต็มผนังห้องเครื่องทุกด้านเหมือนตอนก่อนเข้าศูนย์ไม่มีผิด



          แต่เรื่องห้องเครื่องไม่ขอเอามาคิดคะแนนนะครับ มันไม่ใช่ส่วนที่เราจะคาดหวังความสะอาดอยู่แล้ว ดังนั้นโดยภาพรวม ภายนอกภายในผมถือว่าสะอาดขึ้นพอสมควร แต่ยังไม่สะอาดเท่าการเข้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติ คราบบางอย่างที่ควรออกก็ไม่ออก (ตอนเช็ครถนี่ไม่เห็นหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ) แต่มันสะอาดพอจะให้ผมไปออกงานตามที่ต่างๆ อย่างภูมิใจและผูกพัน ร่อยรอยของคราบที่เหลืออยู่ก็เป็นร่องรอยจางๆ ที่ไม่ได้เห็นกันง่ายๆ จะติก็คือเบาะอย่างเดียวที่ฝุ่นยังวนเวียนอยู่ที่เบาะผมเยอะ ผมเข้าใจว่ามันเป็นเบาะกำมะหยี่ ถ้าไม่ซักเบาะไม่มีทางจะให้ฝุ่นออกได้หมด แต่นี่มันเหลือเยอะเกินไป มองยังไงๆ ก็ควรจะดูดออกได้มากกว่านี้

          คะแนนหัวข้อนี้ เต็ม 5 ผมให้ 3.25 ครับ

8. การแจ้งรายการชำระเงิน และการจัดการด้านการเงิน

          การชำระเงิน ผมได้เห็นข้อดีจากระบบการประเมินราคาแบบนี้ เพราะตอนประเมินราคา ราคาที่ได้รับแจ้งก่อนที่จะเริ่มซ่อมคือ 2918.96 บาท เงินที่จ่ายจริงก็ 2918.96 บาท ตรงกันทุกบาททุกสตางค์!!!!


ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 675
    • อีเมล์
          รายละเอียดค่าใช้จ่ายก็คือ ค่าแรง 1470 บาท+ค่าน้ำมันเครื่อง 800 บาท+ค่าประเก็น 18 บาท+ตัวกรองน้ำมันเครื่อง 220 บาท+ค่าน้ำยาทำความสะอาดผ้าเบรก 220 บาท=2728 บาท+ภาษีมูลค่าเพิ่ม 190.98 บาท รวม 2918.96

          นี่คือจุดสำคัญที่ผมชอบว่าการประเมินราคาของศูนย์นี้มีความน่าเชื่อถือได้ อันที่จริงนี่เป็นงานเล็กๆ ที่ เป็นการง่ายที่จะควบคุมงบค่าซ่อมให้คงที่ แต่ในกรณีอื่นเช่นชนหนักไม่ขายซาก หรือชนเบามาทำสี ถ้าไม่มีประกันมา งบประมาณที่ประเมินออกมาก็คงจะน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ต่างจากบางศูนย์ที่เชื่อถือการประเมินราคาไม่ได้ ประเมินเท่าไหร่ต้องกำเงินไป 3 เท่าของที่ประเมิน บางทีถ้าดูเป็นชิ้นๆ ไอ้ชิ้นนี้ตอนประเมิน 200 ตอนจะจ่ายดันเป็น 250 ได้ไง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกค้าประสาทปรี๊ดไปเยอะ แต่ทั้งหมดนี้ไม่เกิดกับศูนย์ชัยรัชการเลย ตรวจทีเดียว แจ้งทีเดียว ซ่อมตามรายการที่แจ้งเราเป๊ะ และราคาของทุกชิ้นเป็นตามที่แจ้ง ไม่พบการตุกติกใดๆ ทั้งสิ้นในการชำระเงิน จะมีข้อติ คือไม่มีส่วนลดให้ลูกค้านัดหมาย ไม่ว่าคุณจะนัดล่วงหน้าเป็นเดือน หรือจู่ๆ วกรถเข้าไปเลย คุณไม่ได้ส่วนลดอะไรทั้งสิ้นครับ

          แต่ว่า... มีจุดที่ผมถึงกับกลุ้ม หลังจากอ่านใบเสร็จ อ่านไปอ่านมาก็พบว่า



          ระบบคอมพิวเตอร์ที่นี่ต้องการการปรับปรุงอย่างเร่งด่วน!!!! แต่อย่างไรก็ตามมันไม่มีผลครับ เป็นส่วนประกอบเล็กๆ ที่ทำให้ผมขำ แต่จุดสำคัญคือไม่มีรายการตุกติก ข้อนี้ศูนย์เอาใจผมไปครับ เต็ม 12.5 ให้ 12.5

9. การส่งมอบรถคืนให้ลูกค้า

          ตรงนี้อีกนั่งแหละต่างจากศูนย์ฮอนด้า บางพลี ที่ผมเข้าประจำ คือ พนักงานมาส่งเราอย่างเดียว รายงานการซ่อมไม่มีอธิบายเลยครับ น้ำยาทำความสะอาดเบรกเอามาทำอะไรไม่รู้ ไม่บอก ส่งเรา สวัสดีอย่างเดียว จุดรับรถที่เป็นตัวเป็นตนก็ไม่ค่อยมีเท่าไรนัก แต่จุดที่ผมไปรับรถนั้นเดินออกมาจากห้องรับรองไม่กี่ก้าว ถือว่าใกล้และสะดวก แต่หัวใจหลักอีกดวงหนึ่งของคะแนนในหัวข้อนี้คือการรายงานการซ่อมให้ลูกค้าฟัง แต่สำหรับที่นี่ไม่มี อันที่จริงอาจเป็นเพราะแม่ผมเริ่มมีท่าทีเร่งรีบเพราะต้องการไปที่อื่นต่อแล้วก็ได้ แต่ว่าเท่าที่ผมดูๆ ตามเน็ต มีคนบ่นเรื่องการไม่อธิบายการซ่อมอยู่เนืองๆ จนถึงปัจจุบันทีเดียว นอกจากนี้ คนที่มาส่งผมน่ะคนเดียวกับคนที่รับรถผมเลย เธอยืนรับรถอยู่ตรงนั้นตลอดไม่ใช่คนซ่อม ไม่ใช่ช่าง ไม่ใช่แม้แต่เจ้าหน้าที่เทคนิค จะอธิบายผมได้รึ? มายืนสวัสดี ขอบคุณส่งเราผมว่ามันยังไม่พอนะครับ ทำแบบนี้ผมรู้สึกเหมือนกับศูนย์กำลังพูดกับผมว่า "มึงจ่ายตังค์เสร็จแล้วก็รีบๆ ออกไปซะ"

          คะแนนเต็มข้อนี้ 7.5 ให้ 4.5 ครับ

10. มารยาทของเจ้าหน้าที่ในภาพรวม

          ข้อเสียของศูนย์นี้คือกายภาพ และระบบระเบียบบางอย่างที่ทำให้ชีวิตลูกค้าลำบาก ไม่ใช่พนักงาน พนักงานทุกคนมีความสุภาพตามสถานะของตน ไม่มีเวอร์ๆ ไม่มีหน้าตูด คือเป็นความสุภาพแบบจริงใจ เป็นตัวของตัวเอง ถ้าจะสุภาพแบบที่ไปเดินตามเคาท์เตอร์ในห้าง ที่สุภาพม๊ากกก จีบปากจีบคอพูดศัพท์หรูๆ ดูหวังเงินไม่จริงใจแบบนั้นผมก็ไม่เอา (เช่น "ผลิตภัณฑ์ รีไฟน์อิ้งเคล็นเซอร์ ผลิตจากนิวตริโนธรรมชาติและสารสกัดจากพืชขั้วโลก ช่วยขัดเซลล์ผิว ฯลฯ เพียง 10,000 บาทเท่านั้นค่ะ") คือเหมือนกับพนักงานทุกคนสุภาพแบบไม่ได้ฝืน ไม่ท่องสคริปต์ รู้สึกเหมือนหนึ่งว่าตั้งใจทำงานสายบริการ และไม่ถูกเจ้านายบังคับให้ท่องสคริปต์ขนมจีบซาลาเปา ทั้งเซลล์และพนักงานศูนย์บริการมีความ ธรรมชาติ และไฟแรงอย่างรู้สึกได้

          ข้อนี้เต็ม 10 ให้เต็มเลยครับ 10

รวมคะแนน

          ทีนี้มาดูคะแนนรวมกันครับ คะแนนรวม = 82.15 จัดอยู่ในกลุ่ม 4 ดาวครับผม เกณฑ์การตัดเกรด ผมก็อปปี้มาจากบทความของแอดมินทั้งสองคร๊าบ

“90 - 100 คะแนน = 5 ดาว ควรรีบบึ่งไปอุดหนุนโดยเร็วพลัน!! ไม่ว่าศูนย์ฯ จะตั้งอยู่ไกลปืนเที่ยงแค่ไหนก็ตาม

80 - 89 คะแนน = 4 ดาว ใช้บริการได้เลย อย่าคิดมาก ยิ่งถ้าใกล้บ้าน ยิ่งดี

70 - 79 คะแนน = 3 ดาว จัดอยู่ในเกณฑ์ดี พอจะเสี่ยงดวงเข้าไปฝากผีฝากไข้ได้บ้าง

60 - 69 คะแนน = 2 ดาว คิดให้ดีๆ ก่อนเลี้ยวเข้าไป งานง่ายๆ พอไหว แต่งานใหญ่ๆ คิดให้จงหนัก!

50 - 59 คะแนน = 1 ดาว มันอะไรกัน ศูนย์บริการรถยนต์ หรือค่ายจอมยุทธ ซามูไร นักดาบ?

ต่ำกว่า 50 คะแนน = ศูนย์เฮงซวย โคตรห่วยแตก! อย่าได้เอาชีวิตเฉียดกรายเข้าไปใกล้ ถ้าไม่อยากเดือดร้อน!!”

          ก็ตามนั้นล่ะครับ เป็นศูนย์โตโยต้าซึ่งผมถือว่าดีกว่ามากๆ เมื่อเทียบกับศูนย์ที่ผมเคยไปเข้าก่อนหน้านี้ ผมคงไม่ต้องคิดมากที่จะบอกใครต่อใครว่า “เฮ้ย โตโยต้าศูนย์นี้ใช้ได้นะ” การเทรนพนักงานถือว่าดีครับ บริการดีใช้ได้ แต่ก็อย่างที่พูดมาตลอด กายภาพ และระบบระเบียบที่วางเอาไว้ทำให้ชีวิตผมได้รับความลำบากแสนสาหัส กรุณารวบรวมทุนปรับปรุงโดยด่วนถึงด่วนที่สุด

          เอาล่ะ ทีนี้ผมจะทำอีกอย่างหนึ่ง คือ ถ้าให้คะแนนถ่วงน้ำหนักแบบผม ศูนย์นี้อยู่ในกลุ่ม 4 ดาว ถ้าให้คะแนนถ่วงน้ำหนักแบบต้นฉบับของแอดมินทั้งสองล่ะ จะเป็นอย่างไร มาดูกันครับ
หัวข้อการรับรถ 2.25/2.5 = 9/10
หัวข้อการต้อนรับ 4.8/5 = 9.6/10
หัวข้อการประเมินราคา 8.25/10 = 8.25/10
หัวข้อสิ่งอำนวยความสะดวก 0.75/5 = 1.5/10
หัวข้อการซ่อม 34/40 = 8.5/10
หัวข้อระยะเวลารอ 1.85/2.5 = 7.4/10
หัวข้อการจัดเตรียมรถ 3.25/5 = 6.5/10
หัวข้อการจ่ายตังค์ 12.5/12.5 = 10/10
หัวข้อการส่งรถคืน 4.5/7.5 = 6/10
หัวข้อมารยาท 10/10 = 10/10

          รวมคะแนนได้ 76.75 จะตกลงไปในกลุ่ม 3 ดาว แบบนี้แปลว่า ศูนย์นี้สามารถทำหน้าที่หัวใจหลักของการเป็นศูนย์บริการได้ดี แต่ในฐานระลูกค้าขอบอกว่าต้องการการปรับปรุงในเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย เพราะเมื่อคิดคะแนนในองค์ประกอบที่ถ่วงแต่ละหัวข้ออย่างเท่าๆ กัน จะได้คะแนนน้อยกว่าการคิดคะแนนแบบถ่วงตามอันดับความคาดหวัง แต่อย่างไรก็ตาม ศูนย์นี้ในใจผม ผมให้เป็นศูนย์ 4 ดาวครับ คุณภาพระดับนี้ 3 ดาวน้อยไปจริงๆ ในความคิดผมนะ

แฉ!!!!!

          เอาล่ะ ทีนี้มีรายการแฉจริงๆ ครับ ย้อนไปที่ข้อ 2 การต้อนรับ และจดรายละเอียด ผมลงจากรถได้ไม่เท่าไรนัก พนักงานต้อนรับพอเปิดประตูไปก็ทำหน้างง แล้วหันมาถามผมว่า “ลดกระจกยังไงคะ”

<--- ผม

          คือแบบนี้ครับ ทุกๆ คนที่ใช้รถใหม่ๆ หลายคน คงจะคุ้นเคยกับกระจกไฟฟ้าแบบ กดลง กับงัดขึ้น



          แต่สำหรับรถผม Corona AT171 1.6GL ใช้วิธี ลดกระจกโดยกดหลัง แล้วขึ้นกระจกโดยกดหน้า



          แค่นี่ก็งงแล้วเรอะ? อืม...

--------------------------------------------------------------------------------------

          แล้วนอกจากนี้ยังมีวีรกรรมครั้งที่สองขึ้นในศูนย์ หลังจากการเช็คระยะเสร็จสรรพ เจ้าหน้าที่ตรวจระบบพื้นฐานใกล้คนขับอีกรอบก่อนส่งถึงมือลูกค้า ถือเป็นเรื่องดี (ถึงแม้จะมีการปล่อยไก่ แต่ผมชอบและยินดีมากที่คุณตรวจให้ผมได้ละเอียดขนาดนี้ ชอบมากครับ) สักพักก็มีการแจ้งผมมาว่าระบบฉีดน้ำกระจกไม่ทำงาน ขออนุญาตนำกลับไปตรวจอีกครั้ง?? หือ... ตอนเข้ามามันยังใช้ได้ปกติ รึข้าพเจ้าจะงานเข้า??

          ผมจึงขอเดินลงไปดู จังหวะนั้นผมก็เจอคนตรวจเป็นช่างหนุ่มๆ และมีช่างที่ดูอาวุโสกว่าเดินเข้ามาดูอีกคน ก็มาเช็กด้วยกัน เช็คไปเช็คมา ผลคือ ระบบฉีดกระจกใช้ได้ปกติ แต่ที่ฉีดไม่ออกเพราะ... ช่างกดฉีดกระจกผิดปุ่ม

<---ผม

          สาเหตุเพราะว่า ระบบฉีดกระจกของรถปกติจะใช้วิธีดึงก้านที่ควบคุมใบปัดน้ำฝนเข้าหาตัว



          แต่ Corona ของผม! จะใช้วิธีกดปุ่มที่ปลายก้าน



          พอนายช่างดึงคันชักหาตัว น้ำมันก็ไม่ขึ้น เพราะมันไม่ใช่สวิตช์ แล้วคุณท่านก็มาบอกเราว่าน้ำฉีดกระจกไม่ยอมพุ่ง เฮ้อ...

          อันที่จริง เพื่อนผมที่เคยนั่งรถก็มีไม่น้อยที่งงกับรถผม บางคนขึ้นรถผมมาก็จัดแจงเตรียมงัดหน้าขึ้นแทนที่จะกดท้ายลงก็มี (อย่าว่าแต่เพื่อนผมอ่ะ หลายๆ ท่านที่อ่านอยู่ก็คงจะเพิ่งรู้ว่ากาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มันเคยมีปุ่มกดกระจกไฟฟ้าหน้ากับที่ฉีดกระจกตาแบบนี้อยู่บนโลก) แต่ไม่ควรเกิดกับเจ้าหน้าที่ของโตโยต้า ถ้านี่เป็นประสบการณ์เข้าศูนย์ครั้งแรกของผมนั้นผมคงจะหักคะแนนไปพอสมควรเลยทีเดียว แต่ประเด็นคือนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าหน้าที่โตโยต้าทำท่าเก้ๆ กังๆ กับรถยี่ห้อตัวเอง ตั้งแต่จับรถคันนี้มาผมเข้าไปดูงานตามศูนย์ต่างๆ มาแล้ว 4 ศูนย์ ปรากฎว่าทุกศูนย์มีทีท่าคล้ายๆ กันหมด คือดูเหมือนไม่มีความคุ้นเคยกับรถ จนปล่อยไก่ออกมามากมาย ผมชักจะสงสัยแล้วว่าโตโยต้าสำนักงานใหญ่ เทรนเจ้าหน้าที่ของเขาให้รู้จักรถเก่าๆ บ้างรึเปล่า ช่างเขามีใจตรวจให้เราแต่เขาปล่อยไก่เพราะไม่ได้รับการฝึกในรถรุ่นเก่าๆ มารึเปล่า??

--------------------------------------------------------------------------------------

          หลังจากรับบริการเป็นที่เรียบร้อย 3 วัน ฝ่ายติดตามผลก็โทรศัพท์มาหาแม่ผมครับ (ไปกับแม่อ่ะครับ แล้วให้เบอร์แม่ไปก่อน พี่โตแกเลยโทรมาเบอร์นั้น) แม่ก็มาเล่าให้ฟัง โทรศัพท์มา แนะนำตัวเสร็จในไม่กี่วินาที คำถามมี 3 ข้อ (พิมพ์ไม่ผิดครับ สาม ข้อ) แต่ละข้อ ลูกค้าตอบได้ 2 อย่างเท่านั้น คือ "ดี" กับ "ไม่ดี" แม่ตอบไปว่า "พอใช้" โอเปอร์เรเตอร์มีการบอกให้ตอบใหม่ด้วย เพราะมีปุ่มให้แกเลือกแค่ ดี กับ ไม่ดี แค่นั้น แถมยังไม่มีการรับข้อคิดเห็นเพิ่มเติมอีกต่างหาก และแล้วการเก็บความเห็นของช่วงเวลา 3 ชั่วโมงของการใช้บริการก็เสร็จในเวลาไม่ถึง 60 วินาที...

<---ผม

<---ศูนย์เก็บข้อมูล

          ไม่รู้ว่าฝ่ายรับความคิดเห็นนี่มาจากโตโยต้าใหญ่ หรือจากศูนย์เอง แต่ไม่ว่ามาจากใคร มันเป็นอะไรที่ห่วยสิ้นดีเลยค๊าบ ข้าพเจ้าคนนะครับไม่ใช่คอมพิวเตอร์ ที่จะให้มีแต่ 0 กับ 1 ถามกันแบบนี้ผลการเก็บข้อมูลจะเที่ยงตรงน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่กันหือ? แล้วคำถาม 3 ข้อน่ะนะ แม่ผมจำไม่ได้ว่าถามอะไร แต่ไม่ต้องรู้ก็แทบจะบอกได้ว่าน้อยไปไหนเนี่ย?

--------------------------------------------------------------------------------------

          จริงๆ แล้ว ขนาดศูนย์ใหญ่ของโตโยต้ารู้จักรถรุ่นนี้ดีหรือเปล่าก็ไม่รู้นะครับ ไม่นานก่อนที่รีวิวศูนย์นี้จะออกเนี่ย โตโยต้าออกเพลงพิเศษฉลองครบรอบ 50 ปีของโตโยต้าในประเทศไทย ชื่อเพลง “ยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ” ร้องโดย ดา เอนโดรฟิน ผมขอชมตรงๆ ว่า เป็นมิวสิกที่ดูแล้วประทับใจกว่าเวอร์ชันหลักที่เผยแพร่ ไอเดียคนทำถือว่าดีมากในการนำรถเก่าๆ มาฟื้นความหลังกันอีกครั้ง ลองดูกันได้ครับ



          ทุกคนคงเห็นว่าที่ 0.27 มีรถสีเขียว เป็น Corona รุ่นเดียวกับผมนะครับ



          ดูจากลายเบาะกำมะหยี่ ผมเดาว่ารุ่นที่เอามาโฆษณาเป็นรุ่นท็อป 2.0GLi แต่ถ้าดูๆ ไป คุณจะพบฉากหนึ่งนะครับ



          แต่ว่า จะเป็นอะไรไหมถ้าผมบอกว่าในรถจริงๆ น่ะ



          ไม่เชื่อคุณลองดูตามเว็บขายรถมือสองครับ ไฟฉุกเฉินอยู่ข้างบนจริงๆ แต่ในโฆษณาฉลองของโตโยต้า ที่ทำมาจากสนญ. โตโยต้าวางสวิตช์ผิด!!! อันนี้แหละที่ผมเริ่มจะสงสัยหนักเข้าไปอีกว่าคุณท่านรู้จักรถเก่าๆ ของคุณท่านดีแค่ไหน ฝึกช่างให้รู้จักรถเก่าๆ บ้างหรือเปล่า (ที่จริงแล้ววิทยุก็เปลี่ยนนะครับ ถึงที่เห็นจะเป็นวิทยุเทป แต่ไม่ใช่วิทยุเดิมติดโรงงานครับ 2.0GLi ตัวท็อปได้วิทยุดิจิตอล ตัวรองท็อปลงไปได้วิทยุอนาล็อก แต่วิทยุเปลี่ยนกันได้ ไม่ถือครับ)

          เอ้า พอแล้วคร๊าบ จบรีวิวแต่เพียงเท่านี้ครับผม (อันที่จริง ยังไม่จบ ตอนร่างรีวิวนี้ผมมีอีกหัวข้อหนึ่ง แต่ผมตัดสินใจตัดมันออกทั้งหัวข้อ ใครอยากเห็นกรุณาติดต่อผมทาง PM หรือ E-Mail ครับ)

ออฟไลน์ chatcharwarn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 488
  • เหยียบคลัช ยัดเกียร์ โว้วววววววว.......
ยังอ่านไม่จบนะครับ แต่ จขกท.

ใช้meme's เหมาะมากกกก... สงสัยส่งแก๊กไป9Gagบ่อย

ที่บ้านกำลังคิดว่าจะจัดรุ่นนี้มือ2อีกซักคันพอดีเลย แต่เป็นตัว 2.0

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,059
ขอบคุณมากครับ อ่านสนุกดี และจขกท.ขยันมาก เป็นประโยชน์สำหรับผมมากครับ
กำลังคิดอยากลองเอา Mighty-X เข้าศูนย์เหมือนกัน เพราะเพิ่งบูรณะครั้งใหญ่ว่า
แต่ค่าแรงศูนย์เกือบพันห้า ทำเอาคิดหนัก เพราะอู่ที่เข้าประจำ ถ้าทำแบบจขกท. (ไม่รวมล้างรถ) คงจะอยู่ประมาณเต็มที่ 500 *-*

ป.ล.1 สงสัยผมจะเคยนั่งรถรุ่นเดียวกับของจขกท.นะครับ เพราะผมเคยใช้สวิทย์กระจกแบบนั้นเลย
ป.ล.2 ระบบฉีดน้ำฝน เหมือน Mighty-X ผมแฮะ  แปลกดี ช่างไม่รู้จัก แสดงว่า คงไม่รู้จัก Mighty ด้วยมั้ง >_<

ออฟไลน์ TIN13

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 70
สาระดีมีประโยชน์มากๆ อย่าลืม หาสิ่งเหล่านี้มาแบ่งปันกันอีกบ่อยๆนะคับ  เป็นกำลังใจให้และจะคอยติดตามเสมอ ;D

ออฟไลน์ Iwata Kana Σ4

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,451
  • Archievement in Control
    • อีเมล์
ความมีระดับ มาพร้อมศักดิ์ศรีที่เหนือใคร
มีเป้าหมาย ที่อะไรก็ไม่อาจขวาง
มีอำนาจ ที่เลือกใช้ได้ตามใจ
มีชีวิต อย่างที่ใคร ก็ไม่อาจปฎิเสธ

ออฟไลน์ balliblue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,358
โอ้โห้ จขกท สุดยอดขยันและระเอียด จริงๆ น่านับถือ ขนาดตำแหน่งสวิสซ์สลับกันยังดูออกเลย อีกอย่างที่ผมชอบคือ รีวิว ศูนย์บริการและขั้นตอนละเีอียดมากจริงๆครับ และผมก็ได้ความรู้อีกว่า รถเก่าเมื่อก่อนนี้สวิสซ์ฉีดกระจกมันเป็นแบบปุ่มกด

dodo love lexus

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณครับ ท่านสุดยอดมาก ท่านมีสาระดีๆไม่มีวันจบเลย น่ายกย่อง

ออฟไลน์ Headman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,148
เคยเป็นเหมือนกันครับ รู้สึกแน่กว่า จขกท อีกครับ ของพี่แค่ ที่ฉีดน้ำ ของผม มันหาเกียร์ไม่เจอเลย 55555555+
ไทยยนต์ ชลบุรี เอา toyota hiace ตาหวานไปเช็คระยะ 300 000 โลครับ (เช็คครั้งสุดท้าย เพราะรักกันมาก แต่หลังๆ มานี่ สนิทกับร้านข้างนอกมากกว่า เลยเข้าข้างนอกตลอดครับ ศูนย์ไม่ไปมันแล้ว )
รถคันนี้เข้าศูนย์ เจริญยนต์มาโดยตลอด แต่ วันนั้น เจริญยนต์บอกว่า รถที่ศูนย์ เต็ม ถ้าจะรับบริการวันนี้ ให้ไปที่ ไทยยนต์
ไปถึงไทยยนต์ก้เอารถเข้าเอง เตรียมมอบรถกันเป็นปกติ ก็มีช่าง 2 คนมาเดินดูรอบๆ แต่ไม่ขึ้นไปดูบนรถ ไอ้ผมกับพ่อก็เริ่มแปลกใจ
สิ่งที่ต้องการให้ทำคือ เช็คระยะตามปกติ เปลี่ยนถ่าย น้ำมันเครื่อง เกียร์ เฟืองท้าย จัดการซีลเพลากลาง ผ้าเบรคหน้าและหลัง ทางศูนย์บอกว่า ให้เวลาประมาณ 3 ชมในการทำ ผมกลับพ่อก้กลับมาเดินเล่น central ไปพลางๆ พอครบ 3 ชมก็กลับไปที่ศุนย์บริการ พบว่า รถยังจอดอยู่ที่เดิม ผมก้ถามพนังงานว่า เสร็จแล้วหรอพี่
เค้าก็เดินไปตามช่างมา ว่าเสร็จแล้วหรอ ช่างบอกยังไม่ได้ทำเลย อ้าวว แล้วมึงทำเห้อะไรอยู่ตั้ง 3 ชม
ช่างให้เหตุผลว่า เค้าสตาดรถผมไม่ติด แล้วไม่สามารถเลื่อนรถได้

มันจะไม่ติดยังไง ผมขึ้นไปบนรถ เหยียบครัช เปิดกุญแจ เผาหัว สตาด ชึ่งเดียวติด........แล้วช่างทำอะไรอยู่ เป็นช่างบ้าอะไร ติดเครื่องแค่นี้ก็ทำไม่ได้ หลังจากติดเครื่องแล้ว ก็มีช่างอีกคนขึ้นไป เพื่อเลื่อนรถขึ้นแท่นตรวจสอบ (ช่างอายุประมาณ 30 กว่าๆ)  ช่างขึ้นไปก็ มองซ้าย มองขวา ปลดเบรคมือ และทำท่าพยายามหาอะไรซักอย่าง ซักพัก เค้าก็เรียกช่างใหญ่เข้าไปหาใกล้ๆ ผม ซึ่งยืนอยู่หน้ารถ ได้ยินเค้ากระซิบกันว่า
ช่างที่อยู่บนที่นั่งคนขับ (ก) - พี่ มาหาผมหน่อย
ช่างใหญ่ที่เดินไปหา(ข) - มีอะไร
 ก - เกียร์รถคันนี้มันอยู่ตรงไหน
 ข - อยู่ตรงนี้ไง
 ก - แล้วเกียร์ 1 มันเข้ายังไง
 ข - แบบนี้ไง

ในใจผมคิดแล้ว ไอ้......เอ๋ย แค่เกียร์ ยังหากันไม่เจอเลย แล้วอย่างงี้ มันจะไปซ่อมอะไรได้ว่ะเนี่ย

(เกียร์ของ รถผมมันอยู่ที่คอ มันเป็น เกียร์มือ ถ้าจะเข้าเกียร์ 1 ต้องดึงเข้ามาหาตัวแล้วดันขึ้นข้างบน ถ้าจะถอยหลังต้องผลักออกจากตัวแล้วกดลงข้างล่าง )

สรุป กว่าจะเอารถออกจาก จุดรับรถได้ ปาเข้าไปครึ่ง ชม กว่าจะซ่อมเสร็จ รออีก 3 ชม หลังจากทำเสร็จ ผม และพ่อ ที่อดทนรอมาตั้งแต่เที่ยง รถเสร็จ เกือบ 4 ทุ่ม ตอนรถเสร็จออกไปลองเรียบร้อย กลับมาจ่างตังค์ จ่ายแล้วเลยต่อว่า กันไปแบบฟังแล้วหูชาทีเดียว สุดท้าย ไอ้ช่าง 2 คนนั้นมาพูดขอโทษอะไรกันก็ไม่รู้ ผุ้จัดการก็เดินออกมาดู ผมก็ถามกลับไปว่า ถ้ไม่รู้ก้ถามได้ นี่ครับ ไม่ควรปล่อยให้มารอนานแบบนี้ ผู้จัดการเดินออกมาแล้วมาหาว่า ก็รถที่คุณเอามามันเก่าเกินกว่าที่ศูนย์จะรับซ่อมแล้ว อ้าวว พูดแบบนี้หรอ ผมกับพ่อเลยแจก นิ้วกลางไป กลับจากศูนย์นั้น ไปเจริญยนต์ เล่าให้ คนรับรถที่เจริญยนต์ฟัง เค้าก็ขำ แล้วก็ตอบมาว่า ศูนย์นั้น มันเป็นเรื่องปกติ ครับ

พี่พี่คนไหนที่ใช้พี่โตแล้วเป็นรถเก่า จะเอาไปเข้าศูนย์ ที่ชลบุรี ขอให้เลี่ยง ไทยยนต์ชลบุรีนะครับ เว้นแต่ว่า ไอ้ ผจก คนนั้นมันลาออกไปแล้ว ค่อยไปใช้บริการมันครับ  
(เรื่องเกินมาประมาณ 3 ปีแล้วล่ะครับ ต้อนนี้รถตู้ผม ซ่อมร้านข้างถนนแล้วครับ สบายใจกว่าเยอะ)
เรารักจ่าโท :))))

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
รู้ไหมว่า  ตั้งแต่ทำคอลัมน์  แฉให้ฟัง หลังเข้าศูนย์มาเนี่ย รีวิวขิองคุณ
สะใจที่สุด
มันส์ที่สุด
ฮาที่สุด
เรื่องมากที่สุดในเรื่องที่ไม่ควรจะเรื่องมาก (โอวัลติน ม่ายมี ฮ่าๆ)
ใช้เวลาอ่านจนจบทุกตัวอักษรนานที่สุด
และ ผมชอบรีวิวนี้ที่สุดครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ
อ้อ เรื่องรถในโฆษณานั้น
เขาควานหามาเท่าที่พอจะทำได้หนะครับ
และรถคันในฉากนั้น น่าจะมีการดัดแปลงไปพอสมควรแล้ว
ตำแหน่งสวิชต์จึงไม่ตรงกับสเป็กดั้งเดิมครับ
ดูดีๆ วิทยุยังเป็นของ  Altis  2005 เลยด้วยซ้ำ
ดังนั้น อย่าซีเรียสมากครับ
แค่เขาหา  Starlet EP71 แท้ๆ เดิมๆ ขนาดนั้นมาได้ ผมก็กรี๊ดแล้วละครับ
การทำหนังแบบนั้นให้ได้ขนาดนี้ ลำบากมากสำหรับคนทำงานตอนหาพร็อพประกอบฉากครับ
บางคันสภาพดีกว่านี้ เจ้าของคุยไม่จบ ไใ่ปล่อยมาเข้าฉากก็มี ดังนั้น ทำใจครับ

แต่บางเรื่องนี่ เช่น ขนมปัง แซนด์วิช เนี่ย
คือผมมองว่า ถ้าผมเป็นเจ้าของศูนย์
ผมก็คงเตรียมมาม่่ให้แค่นั้นพอครับ
เพราะเชื่อว่า ถ้าเจ้าของรถต้องรอนานขนาดนั้น
ผมคงหารถตู้รับส่งยังห้างใกล้ๆ ดีกว่า

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 675
    • อีเมล์
พี่ J!MMY แล้วคอลัมน์แฉฯ ที่พี่ทำไว้หายไปไหนหมดอ่าครับ??

ไม่ใช่แค่คอลัมน์หายนะ ตัวบทความก็หายเรียบเลยครับ ลิงก์ที่เคยเข้าดูได้ก็เข้าไม่ได้เลย...

อ้อ... แล้วก็รบกวนพี่ J!MMY เช็คกล่อง PM ด้วยครับ ขอบคุณครับผม :)






ยังอ่านไม่จบนะครับ แต่ จขกท.

ใช้meme's เหมาะมากกกก... สงสัยส่งแก๊กไป9Gagบ่อย

ที่บ้านกำลังคิดว่าจะจัดรุ่นนี้มือ2อีกซักคันพอดีเลย แต่เป็นตัว 2.0
ไม่เคยส่งเลยครับ อ่านอย่างเดียว ส่วน Corona ตัวนี้

แต่ถ้าเป็นคนชอบอะไหล่ตรงรุ่นไม่แนะนำครับ อะไหล่ตรงรุ่นอันนี้เริ่มหายากแล้ว ตามเชียงกงยังพอมี แต่ไม่ใช่มีทุกร้านให้เดินเลือกสภาพได้เหมือน AE100 แล้ว

ยกเว้นว่ายอมรับได้ในการเอาอะไหล่ของ AE90 AE100 มาลงใน ST171 ได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าอยากได้อะไหล่ตรงรุ่นเวลาซ่อมแนะนำเอารุ่นใหม่กว่านี้จะดีกว่าครับ

พวก Exsior 2.0SE.G อะไรงี้ครับ

sweetcrab

  • บุคคลทั่วไป
            ปกติไม่เคยไปศูนย์นี้หรอกครับ แต่บังเอิญว่าศูนย์นี้ออกฟอร์จูนเนอร์ได้เร็วสุด 2 เดือน (ตอนแรกบอกว่าเดือนเดียว แต่เอาน่าก็เร็วกว่าที่อื่นละนะ) เลยให้คุณพ่อไปออกกับศูนย์นี้ทั้งที่ไม่เคยไปมาก่อน (บ้านคุณพ่ออยู่อยุธยา ผมอยู่สมุทรปราการ)  พอรถมาก็โทรจิ๊กให้เรารีบไปเอา ทางเราก็ถามของตกแต่ง ที่สั่งเพิ่มได้ครบหรือยัง(เพราะของแถมไม่มีสักอย่างซื้อสด) ทางเซลล์ก็บอกว่าครบแล้ว ก็เลยไปรับรถ ผมไปถึงก่อนคุณพ่อเพราะอยู่ใกล้กว่า แต่ก็ไม่เห็นรถสักทีเซลล์บอกว่ารถอยู่ข้างบน รอลงลิฟท์ลงมาทีเดียว ต้องจนคุณพ่อผมมาถึง ถึงจะได้เห็นรถพร้อมกัน พอเห็นเท่านั้นคุณพ่อผมบอก ของยังไม่ครบนี้ (เกือบจะไม่จ่ายเงินแล้ว เพราะเช็คมันร่วมค่าอุปกรณ์มาหมดรวมค่ารถค่าประกันทุกอย่าง) ฟิมล์ก็เป็นสีปรอท ตอนที่จองบอกสีดำ แต่ผมก็กล่อมแกให้รับรถไป โดยขอของแถมเพิ่มนิดหน่อย พรมแท้ของโตโยต้า โดยที่ของตกแต่งที่ขาดไป เซลล์ก็อ้างน้ำท่วม ของก็มีหลักๆ กาบตกแต่งข้าง แผงบังแดดข้าง สคลับเพลท ที่ล็อคยางอะไหล่  สรุปผมเพิ่งจะไปเอารถคุณพ่อมาติดเมื่อวัน พุธ ที่แล้วนี้เอง รถรับมาตั้งแต่ 16 มีนาคม รออุปกรณ์ 2 เดือน แต่ก็ยังมีของขาดอีก คือพรม ที่เขาเพิ่มเป็นของแถมให้ มันจะช้าอะไรขนาดนี้ แต่คงไม่โทษศูนย์หรอกนะ น่าจะเป็นที่บุคคลมากกว่า

   ขอบคุณที่แฉให้ฟังครับ สะใจดี ศูนย์นี้ ผมไปแค่ 2 ครั้ง ก็ไปนั่งนวดตลอดละ อิอิ

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,452
    • อีเมล์
ผมว่าศูนย์โตโยต้า ตรวจเช็ครถให้ดีมากๆเลยนะครับ

ตรวจแม้กระทั่งน้ำฉีดกระจกปัดน้ำฝน
ส่วนใหญ่ศูนย์ยี่ห้ออื่น ขึ้นรายการตรวจนู่นนี่นั่น
แต่เอาเข้าจริง ไม่ได้ตรวจอะไรเลย
นอกจากแค่ถ่ายน้ำมันเครื่อง
(จากที่ไปเจอหลายศูนย์หลายยี่ห้อนะครับ)

ผมก็เคยเอารถตู้ toyota เก่าแล้วล่ะ
ไปเข้าศูนย์ทีนึง เค้าก็บริการดีมากๆเลยครับ

ขอบคุณสำหรับรีวิวมากๆเลยครับ

pny212

  • บุคคลทั่วไป
รีวิวสะใจโครต มันมากศูนย์เจ้าตลาดพอเอามาแฉมันเป็นอะไรที่สะใจกว่าศูนย์ยี่ห้ออื่นมาก สนุกด้วย

ออฟไลน์ Shyn Von Einzbern

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
    • อีเมล์
ขอบคุณมากครับ กำลังตามหาหัวข้อแบบนี้พอดีแต่หาไม่เจอ
แฉได้มันส์มาก  ;D ;D ;D

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
ผมเองก็เพิ่งเข้าศูนย์นี้ครับ และก็เจออะไรที่เสียความรู้สึกเหมือนกัน แต่ด้านการต้อนรับและสถานที่ผมว่าค่อนข้างดีทีเดียว
รถผมสายไฟขาดก็เลยต้องเอาไปเปลี่ยนเนื่องจากว่ามีไฟโชว์เต็มไปหมดและระบบหลายอย่างไม่ทำงาน ทุกครั้งที่ขับรถเข้าไปศูนย์นี้
ยามจะเป็นคนถามครับว่ามาติดต่อเรื่องอะไร แล้วจะชี้ให้ว่าควรจะไปทางใหน หลังจากที่ผมรายงานตัวกับคุณยามเรียบร้อยผมก็ไปจอดรถในที่รับรถ
และก็มีเจ้าหน้าที่มาต้อนรับตามปรกติ และก็บอกว่าต้องรออะไหล่นะครับและจะนัดวันอีกที และที่สำคัญต้องมัดจำค่าอะไหล่ใว้ด้วยเพราะหลายพันอยู่
จากนั้นผมก็ถามช่างที่รับรถดังนี้
Q รถผมสายไฟขาด ช่วยให้ช่างต่อให้ชั่วคราวได้ใหมครับ ตอนนั้นเวลา เก้าโมง
A ไม่ได้ครับ ช่างกำลังยุ่งอยู่ คิวเต็ม
Q งั้นผมขอคีมตัดสายไฟกับเทปพันสายไฟมาทำเองได้ใหมครับ ไม่น่าเกิน 15 นาที เพราะมุดเข้าใต้ท้องรถด้านหลังได้เพราะรถสูง
A เงียบและบอกว่า ถึงต่อสายไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะว่าต่อแล้วไฟก็ยังจะติดอยู่
ผมก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วก็ขับรถออกมาพร้อมกับระบบที่ไม่ทำงานหลายอย่าง ผมเชื่อช่างเพราะว่าอุปกรณืบางอย่างต่อแล้ว ก็ไม่หายต้องรีเซ็ทระบบใหม่
พอถึงที่ทำงานด้วยความสงสัย เพราะคิดว่าระบบของรถญี่ปุ่นไม่น่าจะซับซ้อนเหมือนรถยุโรบ ผมจึงมุดใต้ท้องรถและต่อสายไฟเข้าด้วยกัน ปรากฎว่า
ไม่มีไฟโชว์อีกเลยและคิดว่าระบบทำงานได้ปรกติ แล้วที่ช่างบอกมานั่นคืออะไร ???????????
ผมคิดว่าทำไมช่างถึงได้มั่วขนาดนี้ ความรู้ความชำนาญไปใหนหมด บอกตรงๆว่าผมเสียความรู้สึกมาก แค่เรื่องเล็กๆน้อยแค่นี้ยังจัดการไม่ได้เลยแถมยังให้คำแนะนำอย่าผิดๆอีก
นี่เป็นศูนย์ที่สองแล้วที่ทำผมเสียความรู้สึก ศูนย์แรกก็เหมือนกันสายออกซิเจนเซ็นเซอร์ขาดเห็นทองแดง ซึ่งต้องรออะไหล่ผมก็ไม่มีปัญหา แต่แทนที่จะเอาเทปพันสายไฟพันใว้ชั่วคราวก่อนเพื่อไม่ให้น้ำเข้า แต่กลับปล่อยรถออกมาทั้งอย่างนั้น เขาไม่รู้หรอกว่าแค่เทปพันสายไฟไม่กี่เซ็นก็ซื้อใจผมได้แล้ว ถึงศูนย์จะไกลผมก็จะเอามาเข้า แต่เสียความรู้สึกครับ ไม่รู้ว่าเห็นลูกค้ามีความคิดบ้างรึเปล่า
แต่ด้านการบริการอย่างอื่นเช่นการนัดหมาย ส่งงาน การต้อนรับอยู่ในขั้นดีครับ

ออฟไลน์ Ji.Cl.

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 675
    • อีเมล์
ที่คุณ HIGHSEA เจอมานี่ก็น่าคิดนะครับ ถ้าไม่ทำให้ก็ลองใช้มุกโหดๆ เข้าไปหน่อยสิครับ ประมาณว่า "ผมก็ลูกค้าเหมือนกันนะ" เพราะถ้าเป็นแบบนั้นถือว่าสปิริตของช่างยังไม่ดี

ผมเคยไปที่ศูนย์ฮอนด้า บางพลี เพราะ Civic EF ประตูไม่ล็อก (คิดว่าน่าจะล็อกเสีย) เข้าศูนย์ไป

ปรากฎว่าพอเอารถไปซักพักไม่ถึงชั่วโมงช่างบอกเสร็จแล้ว ล็อกไม่เสียครับ แค่มีกลไกตัวนึงหลุดออกมา ไม่หัก ช่างเลยจัดมันเข้าไปใหม่

ไม่เบิกอะไหล่ มีแต่ค่าแรง 200 กว่าบาท O_O'' แทบจะโดดกอดช่างเลยครับ

ถ้าช่างทุกศูนย์สปิริตดีแบบศูนย์ฮอนบางพลีนี่ก็ดีนะครับ แต่กรณีคุณ ถึงแม้ผมจะเข้าใจไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่แต่ผมคิดว่า

ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นอย่างที่ช่างพูดก็ได้ ต่อสายไฟอาจช่วยให้หายแต่ไม่หมดจด อาจเหลืออะไรทิ้งอยู่ก็ได้ (มั้ง?)

แต่ถ้าศูนย์เช็คไปแล้วช่างกลับไม่ทราบวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมนี่ผมถือว่าแย่ ดีที่ผมไม่ได้เจอแบบนั้นตอนผมเข้าไป ว่าแต่ที่มัดจำไปมีอะไรบ้างครับผม?

ออฟไลน์ TnP_PKt

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,429
ผมเพิ่งเอา Toyota Granvia ซึ่งเป็นรถนำเข้าที่ทาง TMT ไม่ได้นำเข้ามาขายไปเข้าศูนย์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาครับ
ศูนย์ที่ผมเข้าเป็นศูนย์ Toyota Pearl ภูเก็ต สาขา รัษฎา ซึ่งเป็นสาขาแรกจากทั้งหมด 3 สาขาในจังหวัดภูเก็ต
ผมจึงขอรีวิวอ้างอิงตามคะแนนของ จขกท. เลยนะครับ ไม่มีภาพ เพราะไม่ได้ถ่ายมาและไม่ได้ตั้งใจจะทำในตอนแรก
แต่เห็นว่ามีประโยชน์และรถของผมก็มีไม่มากในจังหวัดครับ(ไม่น่าเกิน 15 คัน) ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้เข้าศูนย์แล้วมั้งครับ

1.ความสะดวกในการนำรถเข้าบริการ
     สำหรับผมโอเคมากๆครับ มีที่จอดรถประมาณ 4 คันได้ครับ แคบไปหน่อยแต่ไม่ลำบากเพราะเป็นช่องจอดเฉียง
มีป้ายบอกโอเคดี แล้วก็มียามบอกเรียบร้อยยตั้งแต่ขับรถเข้ามา ขนาดผมไปตอน 11.35 น.นะครับ กำลังจะพักเที่ยง!!!!!!!

ผมให้ 2/2.5 ครับ ทางมันแคบไปครับ

2.การต้อนรับ
    ด่านแรกก็ยามครับ ทำความเคารพและถามคำถามครับ ต่อมาผมได้เลี้ยวรถเข้าไปจอด มีพนักงานรับรถมารอตั้งแต่ผมยังไม่ลงจากรถดีมากครับ
พอลงมาปุ๊บ ก็ได้ถามผมว่า"มาทำรายการอะไรครับ" ผมก็ตอบว่า"มาเช็กช่วงล่างครับ ช่วงล่างไม่ซับแรงสะเทือน แข็งผิดปกติ ไม่ได้จองคิวไว้ครับ"
ในใจผมคิดว่าไม่ได้คงไม่เป็นไรเพราะผมไม่ได้นัดเอาไว้แต่คนรับรถบอกว่าได้ครับ แต่ว่าต้องคอยนานหน่อยนะตอนนั้นประมาณเกือบๆ 11.40 ครับ
มีช่างมาแล้วพาผมไปลองรถในทันทีเลยครับ เค้าบอกว่าเป็นหัวหน้าช่าง พอเอารถไปลองเสร็จช่างได้สันนิฐาว่าน่าจะเป็นที่ ช็อคอับ ทั้ง 4 ต้น
แต่จะเช็กให้อย่างละเอียดอีกครั้ง กลับมาที่ศูนย์มีพนักงานมาเช็กความเรียบร้อยของรถครับ มีรอยอะไรตรงไหน บันทึกไว้ค่อนข้างละเอียดครับ
พนักงานหน้าตายิ้มแย้ม ไม่ได้มีท่าทางไม่พอใจเลย ขนาดเกือบๆเที่ยงแล้วนะ

ส่วนนี้ผมให้ 4/5

3.การเชิญไปนั่ง แจ้งรายละเอียด ประเมินราคา
     คนรับรถได้เชิญผมไปนั่งเพื่อรอรายละเอียดครับ ไม่นานนักก็มีเสียงเรียก "........ภูเก็ต เชิญเคาเตอร์นี้ ค่ะ "ไม่มีงงครับ เบื้องต้นเช็กช่วงล่างอย่างเดียว
แต่แนะนำให้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไปด้วยเลยมั้ยเพราะประวัติมันเข้ามาก็นานแล้ววว(ก็แหงหละตั้งแต่ผมซื้อรถมาเกือบปี ผมเข้าอู่นอกตลอดนิครับ555)
แจ้งรายละเอียดเบื้องต้นราคาประเมิณ 1,470 บาทเป็นค่าแรงอย่างเดียววว ไม่เป็นไรครับเข้าศูนย์เตรียมใจไว้แล้วหละครับ T_T

ส่วนนี้ให้ไป " 7/10 เด๋วค่อยบอกตอนท้ายนะครับว่าเพราะอะไร "

4.สิ่งอำนวยความสะดวก
     เนื่องจากผมมีเวลาน้อยและไม่ได้นั่งรอที่ศูนย์จนกระทั่งรถเสร็จจึงบอกอะไรไม่ได้มาก คร่าวๆก็มีขนม น้ำให้ปกติครับ ไม่ได้มีเก้าอี้นวดแต่อย่างใด
มีที่นั่งรอไม่มากครับ แอร์เย็นใช้ได้ หนังสือพิมพ์อัพเดตดีครับ มีคอมพร้อมอินเทอร์เน็ต 2 เครื่อง ที่นั่งคอยติดกับโชว์รูมรถแม้จะเล็กแต่เดินสะดวกครับ
ต่อเนื่องกันดีครับแล้วก็ห้องนั่งรอกั้นด้วยกระจกใสมองเห็นรถได้สะดวกดีครับ

ส่วนนี้ให้ไป 4/5 "รู้สึกคับแคบไปหน่อยนะครับ"

5.การซ่อมบำรุง หรือทำตามความต้องการที่ลูกค้าแจ้งไว้
    การซ่อมบำรุงเนื่องจากรถผมได้ซ่อมบำรุงที่อู่นอกซึ่งซ่อมรถระดับหรูในจังหวัดครับ เป็นอู่ชื่อดังในภูเก็ตใครๆก็รู้จักครับ ราคาไม่ได้ถูกกว่าศูนย์
ออกจะแพงกว่าด้วยซ้ำครับ แต่คราวที่แล้วบอกเช็กช่วงล่างแต่ดันบอกว่าไม่มีอะไรเสีย ทาจารบีให้นิดหน่อย"กรูขับรถกรูรู้นะว่ารถกรูไม่ปกติ น่าจะโดนชุดใหญ่นะ"
เค้าบอกไม่มีไรเสีย ผมเลยเข้าศูนย์เลยครับทีนี้  เช็กช่วงล่างออกมาเจอชุดใหญ่ครับ 5555 เสียไปเยอะอยู่เหมือนกันครับ แต่ผมคิดว่าศูนย์ไม่น่าจะมั่ว
เพราะผมขับรถก็พอจะรู้อยู่ อีกอย่างรายละเอียดการเช็กนอกเหนือจากที่ให้เช็กดีมากกกกกกกก ผมกล้าพูดเพราะรถผมผมรู้ว่ายางเบ้าหัวเทียน และประเก็นฝาครอบวาล์ว
ไม่ดีทำให้น้ำมันเครื่องซึม ซึ่งผมได้เคยให้ช่างที่อู่นอกดังกล่าวเช็กไปแล้ว เค้าบอกว่าต้องแกะและได้คิดค่าแรงผมไปเล็กน้อย แต่ผมยังไม่ได้เปลี่ยนเพราะเค้าบอกว่า
ต้องสั่งอะไหล่ ผมจึงยังไม่ซ่อมก่อน ที่โตโยต้าบอกผมมาด้วยยยว่าซึมและเป็นที่อะไร ตรงกันเป๊ะ แม้ไม่ได้บอกอะไรไป ได้ใจผมไปเต็มๆ ส่วนเรื่องการซ่อมบำรุง
คราวนี้เป็นแค่การเช็กช่วงล่างเฉยๆไม่ได้มีการซ่อมทีครับ แต่จากการประเมิณดูเช็กละเอียดมากกครับ

"ส่วนนี้ผมให้ไป 36/40 ครับ พอใจสุดๆแต่ขอเก็บคะแนนไว้ก่อนรอพิสูจน์อะไรบางอย่าง5555"

6.ระยะเวลาในการรอรับบริการ  
    ระยะเวลาที่ให้บริการนัดผมไว้ประมาณ 15.30 น.แต่โทรมาหาตอน 15.00 ว่ารถเสร็จแล้วครับ แต่ยังไม่ได้ทำใบประเมิณราคาให้ทีราคาอะไหล่ อาจจะต้องแฟกซ์ตามไป
เนื่องจากเป็นรถนำเข้า อาจจะต้องใช้เวลานิดหน่อย โอเคๆ

ส่วนนี้ให้ไป 2.5/2.5 ครับเป๊ะแถมเร็วอีกด้วย

7.การจัดเตรียมรถหลังรับบริการเสร็จสิ้น
     ได้ล้างรถให้ผม ภายนอกสะอาดดีเป็นที่น่าพอใจครับ ภายในผมก็ไม่ทราบว่าดูดหรือไม่เพราะรถผมไม่เคยสกปรกอยู่แล้ว(ฮา)เลยไม่ทราบ แต่ภายนอกโอเคสะอาดดี
จอดไว้พร้อมออกครับ(ผมไปรับรถ 17.00 เวลาศูนย์เกือบปิด เข้าไปตอนพักเที่ยง รับรถตอนเลิกงาน(ฮา))แต่พนักงานยังยิ้มแย้มดีมากครับ ไม่ได้ทำหน้าไม่พอใจแตอย่างใด

ส่วนนี้ผมให้ไป 4/5 ครับ

8.การแจ้งรายการชำระเงิน และการจัดการด้านการเงิน
     การจัดการเมื่อผมเดินเข้าไปตั้งแต่หน้าศูนย์บริการก็มีพนักงานรับรถ(คนเดิม)จำผมได้ด้วยบอกว่า "เจ้าของรถ Granvia เชิญครับ" หรือว่าเหลือรถผมอยู่คันเดียวหว่าาาา
รายละเอียดการเช็กรถ ก็มีรายการประเมิณราคาการเปลี่ยนและค่าแรงตามภาพด้านล่างครับ เดี่ยวผมจะแนบให้ดู พร้อมทั้งราคาอะไหล่ทุกตัว แจ้งผมละเอียดมากกกก
ว่าตัวนี้เช็กดูแล้วเป้นอย่างไร เสียจรงไหน บางชิ้นเสียเฉพาะจุดแต่ต้องเปลี่ยนทั้งชิ้นก็แจ้งมาละเอียดดีครับ แล้วก็แจ้งมีการตรวจพอรายละเอียดรายการที่เสียเพิ่มเติม
ซึ่งผมรู้อยู่แล้ว นับว่ามีการเอาใจใส่ดีมากครับ ราคาตรวจเช็กทั้งหมด 315 บาทรวม VAT แล้ว ฟังไม่ผิดครับเป็นรถนำเข้าแต่
ราคายังปกติครับ แถมล้างรถให้ด้วยยยย คิดซะว่าเป็นค่าล้างรถยังถูกเลยยครับ แต่รายการถ้าจะซ่อมต้องสั่งอะไหล่จาก TMT ต้องใช้เวลา 1-2 วันถ้าบางชิ้นไม่มีต้องสั่งจาก
JAPAN ต้องรอ 1-2 อาทิตย์ แต่ราคาสำหรับผมไม่แพงเลยยครับ สมกับเป็น โตโยต้าจริงๆ






ราคาช็อคอับหน้า ตัวละ 950 บาทถูกมากก ช็อคอับหลัง 1080 บาทถูกมากกกกก สำหรับรถนำเข้า
นี่ครับราคาประเมิณเบ็ดเสร็จ 73,448 บาทรวมค่าแรง รายละเอียดตามภาพเลยครับบบ

นี่ครับแหละครับที่ผมหักคะแนนไป 3 คะแนนคือประเมิณ 1470 แต่จริงๆ 315 บาทถูกกว่าอูกนอกที่ผมเข้าปกติอยู่เท่านึงเลย 555555

ส่วนนี้ให้ไป 12.5/12.5 เลยครับ

การส่งมอบรถคืนให้ลูกค้า
ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ หันหน้าพร้อมออกเรียบร้อยครับ ทำความสะอาดให้สะอาดพอสมควรครับ มีคนมาส่งรถพร้อมกับทำความเคารพเรียบร้อยครับ

ส่วนนี้ให้ 7/7.5 เลยครับ

มารยาทในภาพรวม
  แม้ผมจะเข้ามาในช่วงเที่ยงเกือบๆพักทานข้าวพนักงานก็ยังพูดจาดี ไม่มีทีท่าไม่พอใจ แม้ขนาดตอนรับรถก็เช่นกันเพราะมารับรถตอน 17.00 ครับ

ส่วนนี้ไม่งกให้เต็มครับ 10/10

รวมครับ 2+4+7+4+36+2.5+4+12.5+7

ได้ไป 89.5 คะแนนครับ 4 ดาวครับบบบบบบ

นี่ครับเจ้าตัวการ งานนี้


โดยส่วนตัวผมยังคงขอบคุณ TMT มากๆที่ไม่ทิ้งรถนำเข้าอย่างผมและยังให้บริการที่มีมาตรฐานเหมือนกัน ขอบคุณมากๆครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 29, 2012, 17:53:44 โดย TnP_PKt »

ออฟไลน์ wic3350

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 111
ขอบคุณครับ เป็นรีวิวที่อ่านแล้วเก็บรายละเอียดได้ดีมากครั้ง
ชอบการวิจารณ์หลายเรื่องเลยครับ ;D

ออฟไลน์ นายพรานจ๋าหมีมาแล้ว

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,787
  • เส้นขอบฟ้า
เป็นรีวิวความรู้ที่ดีมากครับ ขอบคุณนะครับสำหรับรีวิวดีๆ

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
ที่คอลัมน์นี้หายไป

ก็เพราะว่า ไม่มีคุณผู้อ่านท่านใด อยากจะช่วยผม อัพเดทเลยหนะสิครับ!
1 ปี เศษๆ ที่คอลัมน์นี้ นิ่งสนิท และยอดคนอ่านก็ไม่ขึ้น
ผมก็นึกว่า ไม่มีใครสนใจจะแยแสมันแล้ว เราเลยตัดสินใจ
ยกออกทั้งยวง แต่ตัวบทความยังไม่ลบทิ้งนะครับ มันยังคง
อยู่ในระบบหลังบ้านของเว็บนั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้
ผมยังไม่รู้วิธีที่จะเอามันกลับขึ้นมาใหม่อย่างไร ต้องรอให้
ผุ้ชำนาญการ เอากลับมาอีกครั้ง

แต่อยากจะถามกันตรงนี้แหละว่า

ยังอยากให้มีคอลัมน์นี้กันอยู่อีกไหม?

แต่ถ้าคราวนี้เอากลับมา คุณๆ ก็ต้องช่วยผมอัพบทความกันนะครับ
เพราะพื้นที่นี้ เปิดโอกาสให้คุณผู้อ่านทุกคน มาระบายความรู้สึก กับศูนย์บริการที่ไปเจอมา
โดยมีแพทเทิร์นการให้คะแนน ไว้เป็นรุปแบบ เพื่อให้ไม่เกิดการระบาย หรือก่นด่า โดยเปล่าๆ

อย่างน้อยๆ ต้องมีบทความจากคุรผ้อ่าน เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้คอลัมน์นี้ ยังรันต่อไปได้

ไม่เช่นนั้น  ถ้าเรียกร้องให้เอากลับมา แล้วไม่มาช่วยกันเลย ผมก็ปิดทิ้งอีกครั้งนะครับ

โอเคไหม?

ple_sticker_phuket

  • บุคคลทั่วไป
  สาเหตุเพราะว่า ระบบฉีดกระจกของรถปกติจะใช้วิธีดึงก้านที่ควบคุมใบปัดน้ำฝนเข้าหาตัว



          แต่ Corona ของผม! จะใช้วิธีกดปุ่มที่ปลายก้าน



          พอนายช่างดึงคันชักหาตัว น้ำมันก็ไม่ขึ้น เพราะมันไม่ใช่สวิตช์ แล้วคุณท่านก็มาบอกเราว่าน้ำฉีดกระจกไม่ยอมพุ่ง เฮ้อ...



toyota  Raf 4  ก็ใช่ปุ่ม กด ฉีด น้ำฝนเหมือนกันครับ   ตอนได้มาใหม่ๆ ผมยังหา ที่ฉีดน้ำไม่เจออยู่เกือบเดือน



เคยเอาเข้าศูนย์โตโยต้า  เด็กรับรถ บอก  พี่ๆ  ท่นี่ศูนย์ โตโยต้าครับ   ไม่รับซ่อม CRV  ???

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 11,966
ยอดเยี่ยมครับ ละเอียดดีจริงๆ มีประโยชน์สำหรับคนย่านนั้นแน่


          ดูจากลายเบาะกำมะหยี่ ผมเดาว่ารุ่นที่เอามาโฆษณาเป็นรุ่นท็อป 2.0GLi แต่ถ้าดูๆ ไป คุณจะพบฉากหนึ่งนะครับ



          แต่ว่า จะเป็นอะไรไหมถ้าผมบอกว่าในรถจริงๆ น่ะ



          ไม่เชื่อคุณลองดูตามเว็บขายรถมือสองครับ ไฟฉุกเฉินอยู่ข้างบนจริงๆ แต่ในโฆษณาฉลองของโตโยต้า ที่ทำมาจากสนญ. โตโยต้าวางสวิตช์ผิด!!!
อย่าว่าเลยนะครับ สเปซวาก้อน สามคัน ปุ่มไฟตัดหมอก/เซ็นเซอร์ ยังวางไม่เหมือนกันเลยครับ คงไม่ใช่เรื่องใหญ่ (หากใช้ความชินกับคันเดียว)

อ้าวว พูดแบบนี้หรอ ผมกับพ่อเลยแจก นิ้วกลางไป กลับจากศูนย์นั้น
อย่าลืมตามด้วยแบบนี้ครับ

pearpim

  • บุคคลทั่วไป
มาแฉอีกคนคะ

เซ็งกับโตโยต้ามากคะ ไม่ใช่รถไม่ดีนะคะ

แต่โตโยต้าไม่ดูแลลูกค้าเก่าเรย!!!!

รถแฟนดิฉัน Altis 08 โดนกะบะวีโก้ ((หลับใน)) ชนท้ายด้านคนขับ แผลใหญ่
โดนชนตั้งแต่ ธันวาคม 2554 จนทุกวันนี้ เน้นเรยนะคะ ทุกวันนี้!! ยังไม่มีอะไหล่ซ่อม

จนแผลที่ชนเริ่มขึ้นสนิม

ถ้าไปถามโตโยต้า ก็จะได้คำตอบกลับมาว่า โรงงานน้ำท่วม ไม่มีอะไหล่

แต่!!!

ดิฉันคนนะคะ กินข้าว ไม่ได้กินหญ้า
เพื่อนดิฉันทำงานอยู่ที่ โรงงานโตโยต้าที่บางนา
เค้าบอกว่า ไม่ใช่มันไม่มีอะไหล่ แต่เค้าไม่ยอมผลิตตั้งหาก!!
โตโยต้าจะเน้นขึ้นไลน์ผลิตตัวใหม่อย่างเดียว ณ จุดจุดนี้
จะสังเกตุได้ว่า มีหลายคนที่ไม่มีกันชนท้ายแล้วก็ยังต้องขับ

แล้วศูนย์ที่ดิฉันเข้าเคลม เค้าก็บอกว่า ถ้ารีบใช้รถมาก จะเอาของปลอมที่ใส่ในแท๊กซี่มาใส่ให้

เผื่อ!!! รถมีประกันชั้นหนึ่ง แต่ต้องใส่ของปลอม -*-

ณ จุดจุดนี้ กำลังจะออกรถใหม่อีก1คัน แต่มันคงไม่ใช่โตโยต้าแล้วล่ะคะ

ปล...ก่อนหน้านี้ก็เอารถAlits คันนี้ไปเคลม((นานแล้วล่ะ)) ศูนย์โตโยต้า ทำบัตรเคลือบกันสนิมของรถหาย แล้วบอกให้ลูกค้าซื้อใหม่
และทำคิ้วโครเมื่ยม + ป้ายท่อสแตนเลสของรถหาย แล้วไม่รับผิดชอบ เซ็งจิต ((จิงๆมียอะกว่านี้นะเนี้ย เด่วยาวเกิ๊น -*-))

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,615
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
คุณ peerpim ครับ

อันนี้เข้าข่ายระบายนะครับ
เว็บเรามีกฎในการรับเรื่องร้องเรียนนะครับ
ว่าไม่รับการประจานโดยขาดหลักฐาน

ดังนั้น กรุณาระบุชื่อศูนย์ พร้อมแนบรูปหลักฐานใบรับรถต่างๆนาๆด้วยครับ


ออฟไลน์ BlackSpeed

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 659
แฉได้โหด มัน ฮา มากเลยครับ เป็นกระทู้นึงที่ผมใช้เวลาในการอ่านนานมาก  ;D
ประสบการณ์ (Experience) คือ การเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง
ความรู้ (Knowledge) คือ การเรียนรู้จากความผิดพลาดของคนอื่น
แต่ถ้าได้ความรู้ผิดๆ ประสบการณ์แบบผิดๆ กรุณาอยู่เฉยๆดีกว่า
My Review "HYUNDAI SONATA SPORT" http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,21395.0.html

ออฟไลน์ BestHuafoo

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,095
  • เอี๊ยดแอ๊ด
อยากได้ขนมนมเนย แนะนำศูนย์ฮอนด้าตรงข้ามฟิวเจอร์ปาร์คครับ ถ้าอยู่ถึง 11 โมง มีแม่บ้านเอาข้าวกล่องมาลง

รสชาติก็พอให้อิ่มท้องได้ และพวก ผัดกระเพรา ผัดพริกเผา พริกแกงทั้งหลาย ไม่เผ็ดจนเกินเหตุ



เรื่องคอมพิวเตอร์เหมือน จนท. ล้อคเครื่องให้ใช้ได้แค่บราวเซอร์ครับ ยิ่งเคมอเตอร์สะพานใหม่ขานั้นเล่น ลินุกส์ กันเลย

ส่วนที่แปลกๆในชีวิตก็มีศูนย์ เคมอเตอร์ แถวพระราม 3 มีพริ้ตตี้ศูนย์ด้วย เดินสวยๆ นุ่งสั้นๆ แล้วก็เสิร์ฟกาแฟ  ::)

ออฟไลน์ pite

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 340
ที่คอลัมน์นี้หายไป

ก็เพราะว่า ไม่มีคุณผู้อ่านท่านใด อยากจะช่วยผม อัพเดทเลยหนะสิครับ!
1 ปี เศษๆ ที่คอลัมน์นี้ นิ่งสนิท และยอดคนอ่านก็ไม่ขึ้น
ผมก็นึกว่า ไม่มีใครสนใจจะแยแสมันแล้ว เราเลยตัดสินใจ
ยกออกทั้งยวง แต่ตัวบทความยังไม่ลบทิ้งนะครับ มันยังคง
อยู่ในระบบหลังบ้านของเว็บนั่นแหละ เพียงแต่ตอนนี้
ผมยังไม่รู้วิธีที่จะเอามันกลับขึ้นมาใหม่อย่างไร ต้องรอให้
ผุ้ชำนาญการ เอากลับมาอีกครั้ง

แต่อยากจะถามกันตรงนี้แหละว่า

ยังอยากให้มีคอลัมน์นี้กันอยู่อีกไหม?

แต่ถ้าคราวนี้เอากลับมา คุณๆ ก็ต้องช่วยผมอัพบทความกันนะครับ
เพราะพื้นที่นี้ เปิดโอกาสให้คุณผู้อ่านทุกคน มาระบายความรู้สึก กับศูนย์บริการที่ไปเจอมา
โดยมีแพทเทิร์นการให้คะแนน ไว้เป็นรุปแบบ เพื่อให้ไม่เกิดการระบาย หรือก่นด่า โดยเปล่าๆ

อย่างน้อยๆ ต้องมีบทความจากคุรผ้อ่าน เดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้คอลัมน์นี้ ยังรันต่อไปได้

ไม่เช่นนั้น  ถ้าเรียกร้องให้เอากลับมา แล้วไม่มาช่วยกันเลย ผมก็ปิดทิ้งอีกครั้งนะครับ

โอเคไหม?

จัดมาเลยคุณ Jimmy ไว้จะรีวิวศูนย์ Citroen ให้ฟัง (บริการดีนะแต่ทำรถนานไปหน่อย)
แค่คนบ้ารถฝรั่งเศสคนนึง ^^ ช่วงนี้มันสวยจริงนี่นา!
Review ขำๆครับ
Citroen DS3
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,19461.0.html
Peugeot RCZ
http://www.headlightmag.com/webboard2011/index.php/topic,19785.0.html

HIGHSEA

  • บุคคลทั่วไป
ที่คุณ HIGHSEA เจอมานี่ก็น่าคิดนะครับ ถ้าไม่ทำให้ก็ลองใช้มุกโหดๆ เข้าไปหน่อยสิครับ ประมาณว่า "ผมก็ลูกค้าเหมือนกันนะ" เพราะถ้าเป็นแบบนั้นถือว่าสปิริตของช่างยังไม่ดี
ถ้าช่างทุกศูนย์สปิริตดีแบบศูนย์ฮอนบางพลีนี่ก็ดีนะครับ แต่กรณีคุณ ถึงแม้ผมจะเข้าใจไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่แต่ผมคิดว่า
ไม่แน่ว่ามันอาจเป็นอย่างที่ช่างพูดก็ได้ ต่อสายไฟอาจช่วยให้หายแต่ไม่หมดจด อาจเหลืออะไรทิ้งอยู่ก็ได้ (มั้ง?)
แต่ถ้าศูนย์เช็คไปแล้วช่างกลับไม่ทราบวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสมนี่ผมถือว่าแย่ ดีที่ผมไม่ได้เจอแบบนั้นตอนผมเข้าไป ว่าแต่ที่มัดจำไปมีอะไรบ้างครับผม?
ก็ผมต่อสายไฟเสร็จแล้วทุกอย่างก็ปรกติเลยครับ ไม่มีไฟโชว์อีกเลยจนถึงวันที่ต้องเข้าไปเปลี่ยน ซึ่งถ้าไฟยังโชว์อยู่ก็มีผลให้ ABS ไม่ทำงาน
ค่าอะไหล่ประมาณ 5,000 ครับ ผมมันจำไปก่อนสองพัน ทางศูนย์เรียกเก็บเองเลย แต่ผมเข้าใจครับว่าทำไมต้องเก็บเงินมัดจำ อันนี้ผมรับได้
เกือบลืม....ขอบคุณ จขกท นะครับที่ได้เขียนมาให้อ่านกัน เพลินๆดีครับสนุกมาก ;D