ค่ายรถดาหน้าเปิดตลาด"ไฮบริด" มิตซูฯ-มาสด้า-นิสสันโดดร่วมวง (ความจริงหัวข้อข่าวผิดความจริงจากเนื้อหาไปนิด)
กลุ่มยานยนต์ชี้รถยนต์พลังงานทางเลือกมาแรง ตลาดรถยนต์รักษ์โลกคึกคัก ฮอนด้าส่ง "แจ๊ซ ไฮบริด" ลุยตลาด ค่ายโตโยต้าประกาศแชมป์ตัวจริง ตั้งเป้าขาย "พริอุส-คัมรี่ ไฮบริด" 2 หมื่นคัน เตรียมนำเข้ารุ่นใหม่ขยายตลาด "มิตซูบิชิ-มาสด้า-นิสสัน" ลั่นพร้อมกระโดดร่วมวง
นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้การใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ความนิยมใช้รถยนต์พลังงานทางเลือกของผู้บริโภคชาวไทยก็เริ่มมีการใช้รถประเภทนี้มากขึ้น อาทิ รถที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ ทั้งแอลพีจี, เอ็นจีวี, ไบโอดีเซล หรือพลังงานไฮบริด และอนาคตรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าก็จะเริ่มมีบทบาทมากขึ้น
นายศุภรัตน์ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันการให้สิทธิประโยชน์รถยนต์พลังงานทางเลือกมี 2 แนวคิด คือการพิจารณาจากค่าการปล่อยไอเสีย หรือ CO2 โดยการกำหนดค่าอัตราเฉลี่ยค่าไอเสีย (ใช้ในยุโรป) และการกำหนดอัตราการสิ้นเปลืองการใช้น้ำมันว่าใช้น้ำมันกี่กิโลเมตรต่อลิตร (ใช้ในญี่ปุ่น) และกำหนดค่าให้เป็น "ดาว" เพื่อกำหนดการให้สิทธิประโยชน์
สำหรับประเทศไทยขณะนี้มี 2 แนวทางข้างต้น เพื่อให้รัฐบาลพิจารณาถึงความเหมาะสมว่าแนวทางไหนจะเหมาะสมกับการนำมากำหนดใช้ เพื่อที่ค่ายรถยนต์ ผู้บริโภค รวมทั้งผู้เกี่ยวข้องจะได้เตรียมความพร้อมในการรองรับตรงนี้
"ส่วนตัวมองว่าแนวทางการยึดการวัดค่า CO2 ถือเป็นแนวทางที่โลกต้องเดินไป แต่ผู้บริโภคอาจไม่เข้าใจ และหากเราใช้มาตรฐานการวัดแบบญี่ปุ่นที่มองเรื่องอัตราสิ้นเปลืองการใช้น้ำมัน และมีการให้คะแนนเป็นดาวเป็นค่ามาตรฐานน่าจะเข้าใจได้ง่าย เพราะทั้ง 2 แนวทางรัฐบาลจะต้องพิจารณาผลที่ออกมาแล้วให้สิทธิประโยชน์เช่นเดียวกัน" นายศุภรัตน์กล่าว
ล่าสุดมีการเปิดรถยนต์ไฮบริดในเมืองไทยอีก 1 รุ่น หลังจากก่อนหน้านี้โตโยต้าส่งคัมรี่ ไฮบริด และพริอุส ไฮบริด ออกสู่ตลาด และได้รับการตอบรับค่อนข้างมาก ขณะนี้ฮอนด้าได้ส่งฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด อีกหนึ่งรุ่น และเชื่อว่าการตอบรับของผู้บริโภคชาวไทยต่อรถประเภทนี้จะเปิดกว้างมากขึ้น
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร กรรมการบริหาร บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด และรองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เพื่อให้เป็นไปตามวิสัยทัศน์ขององค์กรปี พ.ศ. 2563 (วิชั่น 2020) ซึ่งฮอนด้าจะเป็นบริษัทที่คิดค้นนวัตกรรมและดำเนินกิจกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จึงได้แนะนำรถยนต์ซับคอมแพ็กต์ ฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด สู่ตลาดในไทยเป็นคันแรก
โดยฮอนด้า แจ๊ซ ไฮบริด เป็นรถที่ปล่อยคาร์บอนไดอออไซด์เพียง 110 กรัมต่อ กม. และมีอัตราประหยัดน้ำมันมากกว่ารุ่นเครื่องยนต์ปกติกว่า 30% หรืออัตราการบริโภคน้ำมัน 21.3 กม.ต่อลิตร ตั้งเป้ายอดขายไว้ 5,000 คัน ภายในปีนี้ และ 10,000 คัน ภายในระยะเวลา 12 เดือนนับจากนี้ หรือมีส่วนแบ่งคิดเป็น 30% ของยอดขายฮอนด้า แจ๊ซ ทั้งหมด โดยโรงงานในประเทศไทยจะผลิตรถรุ่นนี้ เพื่อรองรับตลาดในประเทศและตลาดส่งออก
ส่วนราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 7.68 แสนบาท สาเหตุที่ทำราคาออกมาได้ค่อนข้างดีนั้น เนื่องจากเป็นรถที่มีการผลิตในประเทศ และรัฐบาลสนับสนุนรถยนต์ใช้พลังงานทดแทน จึงให้สิทธิประโยชน์เสียภาษีสรรพสามิตเพียง 10% ซึ่งต่ำกว่ารถยนต์นั่งทั่วไป
"การส่งแจ๊ซ ไฮบริด ออกสู่ตลาดครั้งนี้ ฮอนด้ามองว่ายังไม่มีคู่แข่งในตลาด และในอนาคตหากค่ายรถต่าง ๆ จะส่งรถประเภทนี้ออกสู่ตลาด ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี และอนาคตฮอนด้าจะมีการแนะนำรถยนต์ไฮบริดรุ่นอื่น ๆ ออกสู่ตลาดเพิ่ม หากตลาดมีความต้องการ"
ด้านนายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การมีผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากที่ผ่านมาโตโยต้าเป็นผู้นำของตลาดนี้ โดยมีทั้งพริอุส, คัมรี่ รวมถึงเลกซัส รุ่นแอลเอ็กซ์, ซีที 200 เอช และอาร์เอ็กซ์ 450 เอช โดยบริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี Hybrid Synergy Drive เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ถึงวันนี้มียอดขายรวมกว่า 30,000 คัน ส่วนปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวม 20,000 คัน เป็นพริอุส ไฮบริด 10,000 คัน และคัมรี่ ไฮบริด 10,000 คัน และเตรียมแนะนำรถยนต์เทคโนโลยีไฮบริดเพิ่มเติมอีก 2 รุ่น ได้แก่ "พริอุส ซี" และ "อัลฟาร์ด ไฮบริด" ซึ่งเป็นรถนำเข้า