กำลังจะโพสถามพอดีครับ เพื่อนเพิ่งส่งข่าวนี้มาให้อ่านเหมือนกัน ก็อยากถามว่าจะเข้ามาทำตลาดจริงหรือเปล่า จะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น
เนื้อหาข่าว
เผยโฉม 'Toyota Yaris Hybrid' ขอคืนพื้นที่ผู้นำ!!
เมื่อไม่นานนี้ คนไทยได้ยลโฉมกับรถไฮบริดในระดับบีเซ็กเมนต์ อย่าง Honda Jazz ซึ่งเป็นรถยนต์ไฮบริดรุ่นแรกในรถระดับนี้ของตลาดเมืองไทย แถมราคาเปิดตัว ก็ทำให้รู้สึกแววตาลุกวาวเป็นประกายสำหรับใครที่อยากลองใช้รถไฮบริดดูบ้าง...
ในเมื่อทางค่าย Honda ได้กระทำการอันก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนวงการถึงเพียงนี้ มีหรือค่ายบิ๊กเบิ้มที่ฟันฝ่าแย่งชิงยอดขายกันมาตลอดอย่าง Toyota จะยอมนิ่งดูดาย และแน่นอนมันก็คงถึงเวลาแล้วที่จะต้องเข็นรถยนต์ไฮบริดในระดับบีเซ็กเมนต์ อย่าง Toyota Yaris Hybrid ออกมาท้าชน
เครื่องจิ๋ว ประสิทธิภาพแจ๋ว...
เครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ถูกเลือกใช้เป็นหัวใจในการเชื้อเชิญพละกำลัง 98 แรงม้า มาสิงสถิตย์ใน Toyota Yaris Hybrid โดยมอบหน้าที่ส่งผ่านแรงม้าลงสัมผัสพื้นด้วยเกียร์แบบ CVT ยอดฮิต มาพร้อมโหมดการขับขี่แบบปกติ แบบ Eco และโหมด EV
ซึ่งการขับขี่ในโหมด Eco จะทำให้เครื่องยนต์ลดการสิ้นเปลืองพละกำลังโดยเปล่าประโยชน์ พร้อมทั้งควบคุมระบบปรับอากาศให้ทำงานสัมพันธ์กับการใช้งาน ส่งผลให้การบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงลดลงกว่า 10% จากการขับขี่แบบปกติ
ประหยัดและรักษ์โลก
สำหรับการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีอัตราบริโภคอยู่ที่ราว 3.1 ลิตร/100 กม.เท่านั้น หรือเท่ากับระยะทาง 32.25 กม. จะใช้น้ำมันเพียงแค่ 1 ลิตรเท่านั้น!! ถ้า Yaris Hybrid สามารถทำตัวเลขประหยัดน้ำมันในการใช้งานจริงได้สวยหรูขนาดนี้แล้วล่ะก็ มันเป็นรถในยุคนี้ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
นอกเหนือจากความประหยัดน้ำมันที่โดดเด่นจนออกนอกหน้า เรื่องความสะอาดของการเผาผลาญเป็นอีกหนึ่งจุดที่เด่นไม่แพ้กัน ด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพียง 79 กรัม/กม. และในขณะที่ใช้กำลังจากระบบมอเตอร์ไฟฟ้าแล้วล่ะก็ Yaris Hybrid แทบจะเป็นรถที่สะอาด 100% เพราะไม่มีการปล่อยมลพิษใดๆ ไม่ว่าจะ Nox หรือคาร์บอนไดออกไซด์
ไม่ต้องแรงมาก แต่เร้าใจ
สำหรับผู้ที่มีความเอ็นดูรถประเภทไฮบริดเป็นพิเศษ มักให้ความสำคัญกับความแรงของเครื่องยนต์ไม่มากนัก แต่สำหรับ Yaris Hybrid ให้การตอบสนองที่ไม่ขี้เหร่เลยทีเดียว ไม่ว่าจะด้านความเร็วหากเร่งเต็มฝีเท้ามันสามารถทะยานได้ถึง 165 กม./ชม. และใช้เวลาน้อยนิดเพียง 11.8 วินาทีเท่านั้น สำหรับการกระชากหนีจากจุดหยุดนิ่งสู่ความเร็ว 100 กม./ชม.
ดีไซน์ให้อารมณ์อย่างลงตัว
ด้านการดีไซน์ในส่วนรูปโฉมภายนอก ต้องบอกว่ากลิ่นอายของ Yaris รุ่นมาตรฐานยังเหลืออยู่ไม่น้อย เนื่องจากเป็นการพัฒนาบนพื้นฐานของรุ่นเดิมนั่นเอง เพียงแต่ว่าได้มีการผสานเอกลักษณ์ของรถตระกูลไฮบริดในค่ายเดียวกัน อย่าง Prius เข้าไป เพื่อขับเอกลักษณ์ไฮบริดออกมาให้เห็นเด่นเจนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวโลโก้สีฟ้า ที่จะพบได้ในรถไฮบริดทุกรุ่นของ Toyota นั่นเอง
รูปทรงยังคงสไตล์แฮ็ชแบ็ก 5 ประตู ด้านหน้าถูกแต่งเติมด้วยวัสดุล้ำยุคอย่างไฟหน้าโปรเจกเตอร์ พร้อมไฟเดย์ไลท์สไตล์รถหรูในตัว ไฟท้าย LED ทรงสปอร์ต ทำให้ตัวรถดูโดดเด่นตั้งแต่หน้าจรดท้าย คาดว่าในรุ่นจะมีล้ออัลลอยที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน คือ 15 นิ้ว และ 16 นิ้ว
ภายในล้ำหน้า เกินกว่าจะมองผ่าน
ส่วนการดีไซน์ภายใน ถือได้ว่ามีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับรุ่นก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรือนไมล์ หรือว่าในส่วนของแดชบอร์ดเอง ก็มีการปรับปรุงให้เข้ากับยุคสมัยดูล้ำหน้ามากขึ้นกว่าเดิม และนั่นทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย และสะดวกสบายเยี่ยมยอด
ลู่ลมและสมดุล
โครงสร้างของ Yaris Hybrid ถูกปรับแต่งให้เป็นไปตามหลักอากาศพลศาสตร์และมีจุดศูนย์ถ่วงต่ำเพื่อสร้างสมดุลการยึดเกาะถนนที่ดียิ่งขึ้น ฐานล้อถูกพัฒนาให้มีความยาวมากกว่าเดิม โดยลำตัวของรถนั้นเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว จะพบว่ามันมีตัวถังที่ยาวกว่าเดิมถึง 20 มม.
ครบครันเรื่องปลอดภัย
สำหรับระบบความปลอดภัยที่มีมาให้อย่างครบครัน ทั้งระบบกระจายแรงเบรก (EBD) พร้อมช่วยเบรก ระบบควบคุมการลื่นไถล (TRC) ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC) และยังมาพร้อมกับระบบควบคุมการเบรก (ECB) อีกด้วย
คุณสมบัติแทบทั้งหมดของ Toyota Yaris Hybrid ทำให้รถรุ่นนี้กลายเป็นไฮไลท์ที่น่าจับตามองขึ้นมาทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วเมื่อ Yaris รุ่นมาตรฐานสามารถสร้างความสำเร็จไว้ทั่วโลก แต่หลังจากนี้หน้าที่จะถูกส่งต่อสู่ Yaris Hybrid เพื่อสานต่อความสำเร็จนั้นต่อไป...