ประเทศไทยขายรถราคาแพงกว่าชาวบ้าน แต่เหตุใดอ๊อฟชั่นถึงโดนตัดเพียบ

reyeshenry

ผมไม่เข้าใจระบบโครงสร้างภาษีรถยนต์ของประเทศไทยเท่าไหร่หรอกนะครับ

แต่รู้แต่ว่า ผมลองเข้าไปดูราคารถ ในเวปต่างประเทศ  พร้อมสเปค  ทั้งแคมรี่ แอคคอร์ด  ครูซ  อัลติส และหลายๆรุ่น หลายี่ห้อในบ้านเขา และขายในบ้านเรา และไม่ขายด้วย

ราคาถูกกว่าไทย ค่อนข้างเยอะ  อย่างแคมรี่ ที่อเมริกา เริ่มต้นที่ 7 แสนบาท     เป็นต้น

แต่ที่น่าแปลกใจคือ   บ้านเขา  แม้แต่รถที่เป็นรถรุ่นที่ถูกที่สุด ของบ้านเขาที่ขายอยู่ ราคา 12,000 US    ตีเป็นเงินไทย 3 แสนกว่าๆ

กลับได้อ๊อฟชั่น  ระบบความปลอดภัยครับ ครัน ทั้ง ABS EBD BA       ที่น่าตกใจไปกว่า  คือ  รถที่รุ่น ทุกราคา ทุกยี่ห้อ   อัดอ๊อฟชั่นถุงลมนิรภัยรอบคัน ไม่ต่ำกว่า 8 -10 ใบ มาให้


พอมามองย้อน  บ้านเรา  ซื้อรถ แคมรี่ แอคคอร์ด   หรือรถ ราคาเป็นล้าน    กลับได้ถุงลม  4 ใบ  6 ใบ เท่านั้นเอง     สู้รถราคา 3 แสนกว่าๆ ก็ไม่ได้  เขาให้ 10 ใบ

ประเทศไทยนี้มันยังไง  ซื้อรถราคาแพงมากแล้ว   แต่เหตุใด อ๊อฟชั่น ที่สมควรได้  กลับถูกตัดออก     ไม่เข้าใจจริงๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 28, 2012, 06:07:29 โดย thepowermancity »



Niceguy_C

โครงสร้างภาษี และความจำเป็นในการจัดเก็บแต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ

เมกา รถถูก แต่ค่าประกัน และค่าแรงในการดูแล สูงปรี๊ดมาก (ตามค่ากินอยู่บ้านเขา) เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่รถถูก แต่ก็ไปแพงค่าอย่างอื่น

ไม่งั้น คนก็ออกรถสปอร์ตกันหมดแล้ว

ส่วนเรื่องอ็อปชั่น บางอย่างก็ไม่จำเป็นสำหรับบ้านเรา บางอย่างถ้าติดแล้วทำให้ราคาสูง เขาก็ตัดออกครับ



kan.kom

ภาษีส่วนนึง
อีกส่วนก็เรื่องสิทธิผู้บริโภคเรายังด้อยกว่า
ผมมองพวกอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยอย่าง airbag ควรจะมีมาให้ทุกรุ่นได้แล้ว
การลดต้นทุนโดยตัดสิ่งเหล่านี้ผมว่ามันไม่ควรนะครับ



RUKTOOKKHON

โครงสร้างภาษี และความจำเป็นในการจัดเก็บแต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ

เมกา รถถูก แต่ค่าประกัน และค่าแรงในการดูแล สูงปรี๊ดมาก (ตามค่ากินอยู่บ้านเขา) เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่รถถูก แต่ก็ไปแพงค่าอย่างอื่น

ไม่งั้น คนก็ออกรถสปอร์ตกันหมดแล้ว

ส่วนเรื่องอ็อปชั่น บางอย่างก็ไม่จำเป็นสำหรับบ้านเรา บางอย่างถ้าติดแล้วทำให้ราคาสูง เขาก็ตัดออกครับ
หากเป็นไปตามนี้ก็แสดงว่า ราคาถูกที่สุดที่ขายได้แบบไม่ขาดทุนของรถจริงๆแล้วมันไม่สูง (ต้นทุนตัวรถเพียวๆไม่สูง)
แต่ราคาที่เพิ่มขึ้นสูง-ต่ำ ของแต่ละที่ล้วนมาจากปัจจัยภายนอกตัวรถซะส่วนใหญ่ใช่ไหมครับ

สรุปได้ไหมว่า ราคารถพี่ไทยไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ราคาหน้าโรงงานไม่รวมภาษีควรถูกกว่าที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ (เยอะ)ใช่หรือเปล่า



Newhang

โครงสร้างภาษี และความจำเป็นในการจัดเก็บแต่ละประเทศไม่เหมือนกันครับ

เมกา รถถูก แต่ค่าประกัน และค่าแรงในการดูแล สูงปรี๊ดมาก (ตามค่ากินอยู่บ้านเขา) เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ที่รถถูก แต่ก็ไปแพงค่าอย่างอื่น

ไม่งั้น คนก็ออกรถสปอร์ตกันหมดแล้ว

ส่วนเรื่องอ็อปชั่น บางอย่างก็ไม่จำเป็นสำหรับบ้านเรา บางอย่างถ้าติดแล้วทำให้ราคาสูง เขาก็ตัดออกครับ

ผมไม่คิดแบบนั้นซะทีเดียว เพราะค่ากินค่าใช้มันคือค่าครองชีพซึ่งมาจากผลของรายได้ที่สูงทำให้มันแพง แต่ถ้ามองกลับไปรถจะราคาถูกมาก เสมือนมือถืออ่ะครับ

เค้ามองรถเค้าถูก   เหมือนที่เรามองมือถือถูก
ถูกสองเด้งเพราะรายได้สูง ราคาสินค้าแค่นี้ถือว่าไม่เยอะ   แต่รายได้ขนาดนั้นมันต้องสะท้อนค่ากินค่าใช้แบบนั้น เหมือนคนไทยครับซื้อรถราคาเดียวกันทั่วประเทศ หากไปขับแถวสยาม ย่อมมีค่ากินค่าจอดมากกว่าที่อื่น



Teamkk

แพงแบบนี้รถยังไม่มีที่จะวิ่งเลยครับ   civic ที่สิงค์โปรได้ยินมาว่าคันหล่ะ 2 ล้านกว่า มันต้องแบบนี้..... อยากรู้จริงๆถ้ารายได้จากน้ำมันไม่เยอะเหมือนทุกวันนี้ การขนส่งของประเทศมันจะดีขึ้นแค่ใหน หุหุ



jaesz

เพราะบ้านเรา เขาง้อคนขาย ครับ

รถไม่ทันมีมาจอด แห่กันไปจอง

แบบนี้ ตั้งราคาเท่าไหร่ ก็ขายได้ จะขายถูก ๆ ทำไม ?

รถอเมริกา ถูกกว่า เพราะไม่มีภาษีนำเข้าสำหรับรถทัี่ว ๆ ไปเช่นรถเล็ก รถกลาง  และ "เอากำไรน้อยกว่า" ฟันธงครับ

รถอเมริกาเลยถูกกว่าเรา ในอัตราส่วนเกือบ  ๆ100%

ลองเอาภาษีสรรพสามิต ใส่เพิ่มในราคารถของอเมริกาดูสิครับ บวก VAT เข้าไปอีก เทียบกับราคารถบ้านเรา ยังเหลืออีก 20 - 30% แสดงว่า ราคาที่กำไรแล้ว ยังได้กำไรอีก 20 -30%ที่เมืองไทยเรา

คนไทยใช้ของแพงแน่นอนครับ เพราะค่าครองชีพเรากับอัตราส่วนรายได้มันเล็กมาก มีเท่าไหร่ ใช้หมด

ค่าแรงขั้นต่ำ อเมริกา $7 ต่อชั่วโมงวันนึงก็ราว ๆ1600บาท คนไทย 300 บาท
อาหารจานเดียวอเมริกาถูกสุดก็ $3 อิ่มท้องสบาย ๆ อาหารบ้านเรา 30 บาท อาจจะอิ่ม

คนอเมริกันทำงานกินเงินเดือนรายได้เฉลี่ย $3500 ต่อเดือน สามารถซื้อรถคันละ $10000 -20000 ได้ไม่ต้องกู้ใคร ค่าประกันราว ๆ$800-$2000 ต่อปี ค่าจอดรถก็วันละ $10 หรือที่ทำงานบางทีจอดฟรีเยอะแยะไป

ถ้าเป็นวิศวะกรจบใหม่ ๆ รายได้ $40000 - $50000ก็ถือว่าน้อยแล้วครับ

ปี ๆ นึง เก็บเงินเหลือ ๆ ได้เป็นล้าน คนไทย ถ้าต้องผ่อนรถด้วย มีน้อยคนที่มีเงินเก็บเป็นล้าน

จะเรียกว่าค่าครองชีพอเมริกาแพง คงไม่ได้

ที่แพงคือ ค่าซ่อมรถครับ ทำให้คนเขาเปลี่ยนรถกันบ่อย แต่ถ้าคุณซ่อมเองได้ หรือรู้จัก indyshop ไว้ใจได้ก็ไม่ได้แพงอะไรคิดกับรายได้ที่มี

สรุปคือ ตัวรถอเมริกา ถูกกว่าเราแน่ ๆ (ก่อนบวกภาษีต่าง ๆ) ไม่ต้องคิดเรื่องรายได้ ยิ่งถ้าคิดรายได้เข้าไปอีก ถูกกว่าอีกเยอะ





BestHuafoo


แพงด้วยโครงสร้างภาษีครับ

บริษัทไทยเองก็อยากครับ ยัดอุปกรณ์เทพๆ แต่มันไม่คุ้มทุนกำไร
หากราคารถพุ่งไปสูงเกินจนซื้อไม่ไหว

ส่วนที่ต่างประเทศราคารถถูก แต่ค่าำบำรุงรักษาแพง ภาษีรายปีแพง
ยิ่งบางประเทศไม่มีที่จอดไม่ให้ซื้ออีก หรือถ้าปล่อยไอเสียมากขึ้น จ่ายแพงขึ้น


ส่วนบ้านเราตอนนี้ นอกจากรถแพงแล้ว ค่าเซอร์วิสเริ่มจะไหลตามมาสมทบอีกทางนึง
เมื่อก่อนเช็คระยะหมื่นโลแรก จ่าย 600 ตอนนี้จ่ายไป 1400
พี่ท่านเล่นไม่ขายน้ำมันเครื่องเกรดธรรมดากันเลย



Cleaner

ลองคิดในมุมมองของผู้ผลิต

คุณจะเพิ่มออปชั่นไปตัดกำไรทำไม ถ้าไม่ว่าจะอย่างไร รถของคุณก็ขายได้อย่างแน่นอน

ส่วนพวกค่ายรองก็ต้องจัดเต็มกว่า ไม่งั้นจะเอาอะไรไปสู้เขา

-------------------------------------

เหมือนคนที่ขายสินค้าอยู่เพียงเจ้าเดียวในพื้นที่ ยังไงๆก็ขายได้อยู่แล้ว จะขายถูกๆไปทำไม
ต่างกับใน กทม. ที่มีผู้ขายพรึ่บ ขายแพงกว่าชาวบ้านเขาโดยไม่มีอะไรแตกต่างไปจากพวกเขาเลย ลูกค้าก็ไม่เอา

---------------------------------------

แต่โดยส่วนตัวแล้วก็อยากใช้รถแบบ ตปท มั่งจัง รถอินดี้เยอะแยะ



dht_tubes

โครงสร้างทั้งด้านภาษีของรัฐเป็นประเด็นหลัก

พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นเรื่องรองลงมา แต่สำคัญไม่แพ้กัน เช่น ต่างประเทศ มองรถเกาหลี กับ ญี่ปุ่น เป็นรถเอเชียเหมือนกัน ดังนั้น ออปชั่น คุณภาพเท่ากัน ใครถูกกว่า อันนั้นขายดีกว่า  และที่สำคัญอีกอย่างคือ ราคามือสองเค้าแทบจะไม่มีความหมาย ไม่ต่างกัน

แต่บ้านเราไม่ใช่ เราเห็นได้จากที่ว่า ทำไมเจ้าตลาดถึงทุ่มทุน ทำ 0 ขายรถมือสอง เพราะความจำเป็นในการพยุงราคามือสอง เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันนั่นเอง ถ้าไม่มีตรงนี้ ใครทำรถห่วย ขายแพง มันก็ขายไม่ได้ไปเอง เหมือนที่โต สู้ฮุนไดไม่ได้ในตลาดออสเตรเลีย เป็นต้น ต้นทุนตรงนี้ก็ต้องนำมาคำนวนเข้าไปอีก

อันสุดท้าย ผมว่าบ้านเรา มีค่าใช้จ่ายของบริษัทรถยนต์บางเรื่อง ที่เป็นแบบมองไม่เห็น แฝงอยู่ด้วย

จึงต้องบวกและมาลงกับผู้บริโภค ในท้ายที่สุด
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 28, 2012, 08:57:30 โดย dht_tubes »



-nu-

น่าคิดครับ

รายได้ของบริษัทรถยนต์จบเมื่อขายรถได้ (ดังนั้นพวกค่าดูแล ค่าประกัน ค่าจอด อื่นๆ ไม่ควรเอามาคิด)
ซึ่งต้นทุนในการผลิตบ้านเราถูกว่าหลายๆประเทศแน่นอน หลักฐานคือ เราเป็นผู้ส่งออกรถยนต์
แต่คนไทยเองกลับต้องซื้อรถราคาแพงกว่าที่อื่น (ทั้งในเชิงตัวเงินที่สูงกว่า และออฟชั่นต่างๆที่ด้อยกว่า)

เหตุผลที่ผมนึกออก คือบริษัทรถยนต์มาผลิตในไทยได้กำไรดี (จึงเห็นข่าวหลายๆค่ายแย่งกันขยายกำลังการผลิต)

ก็ในเมื่อคนไืทยแห่ไปจองรถกันขนาดนี้ บริษัทรถไม่ใช่องค์กรการกุศล ใจบุญ เอากำไรแต่พอดีนี่ครับ
เขาก็ตั้งราคาที่ทำให้เขาได้กำไรสูงสุดอยู่แล้ว
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

เวลานักการเมืองทำถนนไปถึงไหนต่อไหน ก็จะได้คะแนนเสียง ประชาชนบอกว่านำความเจริญเข้ามา
แต่ถ้าทำทางรถไฟ ทำทางรถไฟฟ้า เพิ่มสายรถเมล์ ไม่ได้คะแนนเสียง
แถมถ้าบอกว่าปฎิรูป ปรับปรุง รัฐวิสาหกิจเหล่านี้ ยังโดนด่า หาว่าขายชาติ เสียคะแนนเสียง

ประเทศไทยก็เลยพัฒนาได้แต่ถนน

คนไทยก็เลยจำเป็นต้องซื้อรถกัน บริษัทรถก็เลยขายรถได้แพงๆ ด้วยประการชะนี้แล... ;D




อีกนิดก็แรง

แพงแบบนี้รถยังไม่มีที่จะวิ่งเลยครับ   civic ที่สิงค์โปรได้ยินมาว่าคันหล่ะ 2 ล้านกว่า มันต้องแบบนี้..... อยากรู้จริงๆถ้ารายได้จากน้ำมันไม่เยอะเหมือนทุกวันนี้ การขนส่งของประเทศมันจะดีขึ้นแค่ใหน หุหุ

สิงคโปร์รถถูกมากครับ แต่ใบอนุญาติซื้อรถสิครับแพง ต้องประมูลแข่งกัน
ณ ปัจจุบัน ใบอนุญาติซื้อรถ ราคาเกือบ 100,000 SGD แล้ว
Camry คันละ เกือบ 5 ล้านแหนะครับ

แต่ถ้าประเทศนี้ปล่อยขายรถกันเสรี รถคงเต็มเมือง รวยกันเหลือเกินคนสิงคโปร์



KrisTop

โครงสร้างทั้งด้านภาษีของรัฐเป็นประเด็นหลัก

พฤติกรรมผู้บริโภคเป็นเรื่องรองลงมา แต่สำคัญไม่แพ้กัน เช่น ต่างประเทศ มองรถเกาหลี กับ ญี่ปุ่น เป็นรถเอเชียเหมือนกัน ดังนั้น ออปชั่น คุณภาพเท่ากัน ใครถูกกว่า อันนั้นขายดีกว่า  และที่สำคัญอีกอย่างคือ ราคามือสองเค้าแทบจะไม่มีความหมาย ไม่ต่างกัน

แต่บ้านเราไม่ใช่ เราเห็นได้จากที่ว่า ทำไมเจ้าตลาดถึงทุ่มทุน ทำ 0 ขายรถมือสอง เพราะความจำเป็นในการพยุงราคามือสอง เพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขันนั่นเอง ถ้าไม่มีตรงนี้ ใครทำรถห่วย ขายแพง มันก็ขายไม่ได้ไปเอง เหมือนที่โต สู้ฮุนไดไม่ได้ในตลาดออสเตรเลีย เป็นต้น ต้นทุนตรงนี้ก็ต้องนำมาคำนวนเข้าไปอีก

อันสุดท้าย ผมว่าบ้านเรา มีค่าใช้จ่ายของบริษัทรถยนต์บางเรื่อง ที่เป็นแบบมองไม่เห็น แฝงอยู่ด้วย

จึงต้องบวกและมาลงกับผู้บริโภค ในท้ายที่สุด
ค่าใช้จ่ายนี้อาจจะพอๆ กับภาษีสรรพสามิตนะเออ... หึหึ



2k

โครงสร้างภาษีใช่ครับแต่จะใส่ให้มาเพียบพร้อมจริงๆมันก็ทำได้แต่ว่ามันไม่ใส่เพราะจะทำกำไรสูงๆ ยกตัวอย่างเฟียสต้านี่เห็นได้ชัดเลยว่ารถขนาดเล็กจะใส่ESPมีแอร์แบกครบมีม่านนิรภัยในราคาต่ำกว่าล้านก็ให้ได้......มันชวนให้สงสัยว่าแล้วที่ผ่านเราโดนจำกัดภายใต้หลักเกณท์อะไรกัน? ในเมื่อค่ายรถคิดจะแย่งลูกค้าก็ใส่ออพชั่นมาเต็มที่ได้ง่ายๆขอแค่อยากจะทำแค่นั้น  :(

ผมคิดว่านอกจากการเอาเปรียบของค่ายรถทุกค่ายแล้วส่วนหนึ่งมันก็มาจากคนไทยองนี่แหละที่ไม่ชอบของพวกนี้ นิสัยคนไทยคือจะซื้อรถคันโตๆในราคาถูกที่สุดราคาขายต่อดีที่สุด ขอให้โครงใหญ่ไว้ก่อนอปกรณ์อื่นๆไม่สนใจ เกินครึ่งของคนในสังคมยังคิดอยู่เลยว่า ABS แอร์แบกเป็นของไม่จำเป็นไม่ต้องเสียเงินซื้อเอาไว้เพราะมันแพงกว่าคันที่ไม่มี ค่ายรถก็หวานปากสิครับ ในเมื่อลูกค้าไม่สนใจเรื่องความปลอดภัยไม่สนใจสวัสดิภาพของตัวเอง ไม่มีกฏควบคุมอุปกรณ์ภายในรถเหมือนประเทศที่เจริญแล้ว เค้าก็ไม่ต้องใส่มาให้ก็เก็บกำไรอุปกรณ์ในส่วนนี้สบายตัวไป  >:(
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




nirvanapoint

รายได้ต่ำอยู่แล้ว เจอรถราคาสูงอีก
โอกาสหรือความสามารถที่อยากจะได้ขับรถเท่ๆบ้าง
ก็แทบจะไม่มีเหลือเลย ก็เหลือแต่คนรวยจริงๆ ซื้อขับกัน
คนจนไม่มีสิทธิ์อยู่ดี คงต้องรอรวยบ้าง  :'(



Amaranthe

ตามความคิดผมที่ไม่ค่อยรู้อะไรมากมายนะครับ

ที่รถแพงส่วนหนึ่ง เพราะ การใช้กำแพงภาษีมากีดกัน ไม่ให้คนซื้อรถมากนัก
แต่วิธีนี้ใช้มานานจนเป็นความเคยชินกัน ว่ารถ เซ็กเม้นนี้ ราคามันก็ประมาณนี้แหละ

เรื่อง ออพชั่น กับ ราคา
ราคารถนั้น มันต้องรวมค่า R&D ไว้ด้วย และค่าการตลาดอีก
นอกจากนี้ บางค่าย เขาอาจบวกค่าบริการหลังการขายไว้สูงกว่าค่ายอื่น
แต่บางค่ายอาจบวกค่าบริการหลังการขายไว้น้อย 

ทำให้เราในบอร์ดนี้ได้มีการสนทนา เปรียบเทียบ เรื่องศูนย์บริการและคุณภาพรถกัน

ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะครับ



bluefox101

ราคารถที่แพง เป็นเรื่องของโครงสร้างภาษีของบ้านเราเป็นหลัก

ส่วนเรื่อง option โดยเฉพาะ option ด้านความปลอดภัย อย่างพวก Airbag, ABS อะไรพวกนี้
ผมมองเป็น 2 ส่วนคือการบังคับของภาครัฐ และของผู้ผลิต

ในต่างประเทศ โดยเฉพราะประเทศที่เจริญแล้ว เค้าจะมีกฏหมายมาบังคับควบคุมผู้ผลิต
ว่ารถที่จะขายได้นั้น จะต้องมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้าง เช่นรถต้องมี Airbag, ABS
ถ้าไม่มีตามที่กำหนด ก็ขายไม่ได้ ตรงนี้ทำให้ผู้ผลิตต้องใส่มาให้เป็นมาตรฐาน
อย่าง Daytime Running Light นี่ก็เป็นอีกหนึ่งกฎหมายความปลอดภัยที่รถใหม่ทุกคันต้องมี

เมื่อบ้านเราไม่มีกฎหมายอะไรมาบังคับ ผู้ผลิตจึงมีอิสระที่จะใส่หรือไม่ใส่มาให้ก็ได้
ผู้ผลิตหลาย ๆ ราย ก็จะเลือกที่จะไม่ใส่ในรุ่นล่าง ๆ เพื่อลดต้นทุน และทำให้ราคาขายถูกลง

ส่วนผู้ผลิตรถบางราย โดยเฉพาะกับพวกรถยุโรป ที่ออกแบบรถและติดตั้งอุปกรณ์ความปลอดภัย
พวกนี้เป็นมาตรฐานอยู่แล้ว ก็จะมีติดตั้งมาให้ แม้กฎหมายไทยจะไม่ได้บังคับ เพื่อให้รถของ
ตัวเองมีมาตรฐานเท่า ๆ กันในทุก ๆ ตลาด (แต่ราคารถก็สูงกว่า)

คห. ส่วนตัวนะครับ จริง ๆ รัฐ ควรลดภาษีส่วนหนึ่งลง แล้วออกกฏหมายควบคุมพวกมาตรฐาน
ความปลอดภัยของรถให้เข้มขึ้น เพื่อบริษัทรถจะได้ติดตั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นมาให้ได้ โดยไม่
ทำให้ราคารถสูงกว่าเดิม คนไทยก็จะได้ใช้รถที่ดีขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น



J!MMY

ก่อนที่จะบ่นว่ารถบ้านเราแพง แต่ออพชันโดนตัดเพียบ

กรุณา เดินไปดู โชว์รูมรถ ในลาว และสิงค์โปร์ ดูก่อน ครับ

แล้วจะซึ้งว่า คนประเทศเขา จ่ายหนักบ้าบอกว่าเราเยอะแยะ!



HahahaPlus

ต้องเรียกว่ารัฐบาล ขายรถให้ประชาชนใช้ครับ

แล้วปีนี้ รัฐบาลจัดโปโมชั่น ลดราคา เพื่อทำยอด จัดเก็บภาษี

การตลาดเค้าดีจริง :o



holahola66

ผมเองก้อเคยมีความคิดเรื่องนี้นะ อิจฉาประเทศเจริญในยุโรป หรือ อเมกา ที่เค้าใช้รถถูกๆออฟชั่นเยอะๆ
แต่คิดไปคิดมา เค้านะรถถูก แต่
-เข้าอู่ค่าแรงโหด
-ภาษี ประกัน น่าจะแพง
-ค่าที่จอด เท่าที่รู้ ญี่ปุ่น สิงคโปร ฮ่องกง มหาโหด ลืมจอดทิ้งนานๆค่าที่จอดเล่นเอาจนได้เลย
-ค่าบ้านแพง
-อาหารแพง
-service ต่างๆ แพง เอาง่ายๆ ผมว่าสมชิกเกินครึ่งใน HLM มีคนรับใช้ที่บ้าน ส่วนพวกประเทศที่รถถูกๆนั้น มีไม่เท่าไหร่หรอก ที่รวยพอจะจ้างคนทำงานบ้าน

ของไทยเราหนะหรอ
-อาหารถูก มากกก
-บ้านก้อไม่แพงเลย ใน กทม. เทียบกะจีน เอาแค่เมืองอุตสาหกรรมบ้านนอกๆหน่อย เรายังถูกกว่าเล้ย ไม่ต้องไปนับ Shanghai Beijing พวกนั้นแพงบรรลัยไปแล้ว

ของเราที่แพงหนะ มันก้อแค่พวกของฟุ่มเฟือยทั้งหลาย   นานๆซื้อทีครับ ไม่ซีเรียส แต่ข้าวหนะ กินทุกวันนะ

 :P  ผมรักเมืองไทยหวะ
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt



Tyde

ภาษีมั้งครับ  หรือบริษัทผลิตรถอาจมองว่า ชีวิตคนไทยมันราคาถูกก็ได้มั้ง  อย่างเมกาพี่โตคันเร่งค้างคุ้มครองผู้บริโภคเขาลงมาเล่นอย่างจริงจังเลย เอาจนร้องห่มร้องไห้กันเลยทีเดียว  แต่ในไทยใครมีปัญหาต้องไปฟ้องกันเอาเอง  แถมฟ้องไปโดนแบล๊คลีสอีก



HIGHSEA

อ๊อฟชั่นอย่างอื่นไม่เท่าใหร่ แต่ในส่วนของความปลอดภัยไม่สมควรตัดเป็นอย่างยิ่ง ผู้ผลิตและรัฐควรคุ้มครองชีวิตของผู้บริโภคให้มากกว่านี้ ผมมั่นใจว่าถ้าจะทำจริงๆทำไมจะทำไม่ได้



Kittisak

เพราะบ้านเรา เขาง้อคนขาย ครับ

รถไม่ทันมีมาจอด แห่กันไปจอง

แบบนี้ ตั้งราคาเท่าไหร่ ก็ขายได้ จะขายถูก ๆ ทำไม ?

รถอเมริกา ถูกกว่า เพราะไม่มีภาษีนำเข้าสำหรับรถทัี่ว ๆ ไปเช่นรถเล็ก รถกลาง  และ "เอากำไรน้อยกว่า" ฟันธงครับ

รถอเมริกาเลยถูกกว่าเรา ในอัตราส่วนเกือบ  ๆ100%

ลองเอาภาษีสรรพสามิต ใส่เพิ่มในราคารถของอเมริกาดูสิครับ บวก VAT เข้าไปอีก เทียบกับราคารถบ้านเรา ยังเหลืออีก 20 - 30% แสดงว่า ราคาที่กำไรแล้ว ยังได้กำไรอีก 20 -30%ที่เมืองไทยเรา

คนไทยใช้ของแพงแน่นอนครับ เพราะค่าครองชีพเรากับอัตราส่วนรายได้มันเล็กมาก มีเท่าไหร่ ใช้หมด

ค่าแรงขั้นต่ำ อเมริกา $7 ต่อชั่วโมงวันนึงก็ราว ๆ1600บาท คนไทย 300 บาท
อาหารจานเดียวอเมริกาถูกสุดก็ $3 อิ่มท้องสบาย ๆ อาหารบ้านเรา 30 บาท อาจจะอิ่ม

คนอเมริกันทำงานกินเงินเดือนรายได้เฉลี่ย $3500 ต่อเดือน สามารถซื้อรถคันละ $10000 -20000 ได้ไม่ต้องกู้ใคร ค่าประกันราว ๆ$800-$2000 ต่อปี ค่าจอดรถก็วันละ $10 หรือที่ทำงานบางทีจอดฟรีเยอะแยะไป

ถ้าเป็นวิศวะกรจบใหม่ ๆ รายได้ $40000 - $50000ก็ถือว่าน้อยแล้วครับ

ปี ๆ นึง เก็บเงินเหลือ ๆ ได้เป็นล้าน คนไทย ถ้าต้องผ่อนรถด้วย มีน้อยคนที่มีเงินเก็บเป็นล้าน

จะเรียกว่าค่าครองชีพอเมริกาแพง คงไม่ได้

ที่แพงคือ ค่าซ่อมรถครับ ทำให้คนเขาเปลี่ยนรถกันบ่อย แต่ถ้าคุณซ่อมเองได้ หรือรู้จัก indyshop ไว้ใจได้ก็ไม่ได้แพงอะไรคิดกับรายได้ที่มี

สรุปคือ ตัวรถอเมริกา ถูกกว่าเราแน่ ๆ (ก่อนบวกภาษีต่าง ๆ) ไม่ต้องคิดเรื่องรายได้ ยิ่งถ้าคิดรายได้เข้าไปอีก ถูกกว่าอีกเยอะ




เห็นด้วยครับ GDP สัมพัทธ์ ขอก็อปไปสอนเด็กๆนะครับ  ;D
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 28, 2012, 12:48:50 โดย Kittisak »



baddream11

ประเทศไหนก็เป็นอย่างประเทศนั้น อย่าบ่นเลย
รถแพงเพราะภาษี แล้วภาษีไม่ได้เอามาพัฒนาบ้านเมืองรึ?
ออพชั่นความปลอดภัยถูกตัด ก็เพราะเราไม่สนใจมันเอง
ถ้าเราเลือกซื้อแต่รถที่เน้นความปลอดภัยใครจะกล้าตัด
แต่ทุกวันนี้เป็นอย่างนั้นรึ? เอาแค่เข็มขัดนิรภัย ถ้าตำรวจไม่จับ
มีซักกี่คนจะคาด? ???



mathician

ค่าครองชีพเราถูก รถเราเลยต้องแพงหรอครับ?
กลัวพวกเราจะรวยเกินหรอ 555+
กลัวพวกเราจะขับ Ferrari กันทุกคน ?
ภาษีสูงๆเพื่อให้มีรถน้อย ?

โอเคครับ ภาษีพัฒนาเรา ประเทศเราจะได้น่าอยู่



edward

ให้แพงกว่านี้ยิ่งดีครับ หันมาใช้จักรยานดีกว่า ;D



jokerone

เพราะรัฐบาลไม่สามารถทำใจตัดรายได้ส่วนนี้ครับ



simcity

เพราะประเทศเราไม่ใช่ประเทศที่ร่ำรวยครับ

รายได้จากรัฐบาล ก็มาจากการจัดเก็บภาษี

ซึ่งภาษีเงินได้ในแต่ละปีก็เก็บได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

คนรวย เจ้าของห้างร้าน เจ้าของกิจการ ก็หลีกเลี่ยงภาษีกันเป็นเรื่องปกติ

แจ้งยอดขาย แจ้งรายได้กันต่ำๆ เพื่อจะได้จ่ายภาษีน้อยๆ

ส่วนคนชั้นกลาง คนจน ซึ่งถือเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ 80-90%

ส่วนมากรายได้ไม่เยอะ ก็จ่ายภาษีกันนิดเดียว หลายคนมีรายได้เดือนละหมื่น หรือ ไม่ถึงหมื่น ก็ไม่เสียภาษี

ดังนั้น รัฐจึงต้องหารายได้จากการเก็บภาษีในรูปแบบอื่นๆ

และรถยนต์ ก็ถือเป็นของฟุ่มเฟือย เป็นสิ่งที่เมื่อก่อนคนมีตังค์ ถึงจะซื้อได้ เลยมาเก็บภาษีตรงนี้หนักๆ

โดยเฉพาะรถเก๋ง จะโดนหนักกว่ารถกะบะ ทั้งๆ ที่ต้นทุนการผลิต เผลอๆ รถกะบะอาจจะสูงกว่า

ยิ่งรถยุโรป รถนำเข้า ก็จะยิ่งโดนหนัก เพราะถือว่า คนซื้อรถพวกนี้ได้ เค้ารวย ก็เก็บกันหนักๆ




superden

ผมว่าสองแรงบวกที่ทำให้เราซื้อรถแพง
1. ภาษี ซึ่งแพงกว่าหลายๆประเทศ  ภาษีสรรพสามิต ก็แพง เข้าใจว่าอยากมีรายได้เข้ารัฐเยอะ เลยเก็บแพง ดังนั้นบริษัทธิ์ผลิตรถก็ต้องขายแพงตามภาษีที่เจอ
2. รายได้คนไทยต่ำ  จบป.ตรี ที่ว่า15,000 นั้นไม่จริง หลายที่ยังได้แค่10,000 เดียวเอง(เช่นที่ผมทำงาน) ดังนั้น จะซื้อรถแต่ละคันไม่ใช่ง่ายๆ  ถ้าเิงินเดือนขั้นต่ำ ป.ตรี 30000  ราคารถ 400000  อันนี้ความฝันใกล้เข้ามาอีก

สรุปคือ คนไทยจะ เราเป็นประเทศหนักไปทางยากจนแต่ดันมีรสนิยมสูง แถมภาษีที่ได้ก็เอาเข้ารัฐ(เหรอ)ทำให้ชาวบ้านตาดำๆต้องมีเงินน้อยจะถอยรถแต่ละทีคิดหนักเลย  รถไม่เชิงแพง แต่มันตั้งราคาสูงกว่ารายได้ที่ควรได้ ครับ



Nookkiez

Test ..