อ่านแล้วเป็นความคิดที่ดีและมีประโยชน์มากแม้จะไม่ได้มาตรฐานตามมาตรฐานการทดสอบแต่ก็ยังพอเป็นแนวทางเพื่อดูแนวโน้มได้ แต่อยากจะขอฝากข้อมูลเพิ่มเติมอีกนิดนึงคือ ท่อยางเชื้อเพลิงเมื่อตัดตามขวางแล้วจะประกอบด้วยยางหลายชั้น ซึ่งชั้นในสุด(ชั้นที่สัมผัสเชื้อเพลิง)จะเป็นยางที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำมัน, แอลกอฮอล์ ส่วนชั้นนอกสุดจะมีคุณสมบัติที่ทนต่อ ความร้อน, แสงแดด, สารเคมี การตัดท่อมาเป็นท่อนแล้วแช่ไว้ในน้ำมัน ยังไงเสียยางชั้นอื่นๆที่ไม่ใช่ชั้นในสุดจะเปี๋อยและเสื่อมสภาพไปในที่สุด(ชั้นในเสื่อม แต่จะเกิดช้ากว่าชั้นอื่นมากๆ) เพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตุการเปลี่ยนแปลงผมอยากจะขอแนะนำให้ปลิ้นท่อยางด้านในมาอยู่ด้านนอกก่อนที่จะแช่มันลงไป หรือตัดให้มันเป็นแผ่นๆไปเลย และทางทีดีถ้าหาท่อยางที่รองรับ E85 หรือ E100 ได้ มาทดสอบเปรียบเทียบก็จะเป็นไปตามหลักการทดลองที่ถูกต้องสมบูรณ์ แม้จะไม่ได้มาตรฐานตามมาตรฐานอย่าง ASTM ฯลฯ ก็ตาม สุดท้ายแล้วขอเดาผลการทดลองล่วงหน้าว่ายางทุกชนิดที่นำมาทดสอบจะมีทั้งอาการ บวม แข็ง แตก เปื่อย แต่จะเป็นมากเป็นน้อยก็เป็นเร็วเป็นช้าขึ้นกับ %Valcanized(Crosslink หรือจับโครงสร้างร่างแห) ชนิดของยาง % Filler(สารเพิ่มปริมาณ) Additive (สารเติมแต่งเพื่อให้ได้สมบัติตามต้องการ)