ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
Headlight Magazine : community
»
General
»
Discussion Forum
(ผู้ดูแล:
admin
,
J!MMY
,
DR!VE by J!MMY
,
HLM
) »
สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
หน้า: [
1
]
ผู้เขียน
หัวข้อ: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า (อ่าน 3532 ครั้ง)
somrans
Jr. Member
กระทู้: 103
สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
เมื่อ:
มกราคม 27, 2013, 17:21:56 »
4-5ปีข้างหน้ารถกระบะบ้านเราจะมีเครื่อง
เล็ฺกกว่า2.2ไหมครับ
ใจจริงผมอยากเห็นกระบะสักรุ่นเล็กเหมื่อนนิสสันNV
แต่เครื่องดีเซลแล้วก็ราคาไม่เกิน4แสน
คงมีคนสนใจไม่น้อย
บันทึกการเข้า
Fly to dream
Hero Member
กระทู้: 11,654
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #1 เมื่อ:
มกราคม 27, 2013, 17:42:45 »
ดีเซลกระบะคงไม่ไปที่จุดๆนั้นง่ายๆครับมีแค่ VW ที่เอา 2.0 มาลงแต่ใช้งานจริงสู้พวกเครื่องใหญ่ไม่ต้องรีดแรงไม่ได้ พวกดีเซลรถบรรทุกมันต่างกับดีเซลรถนั่งโขเรื่องการใช้งานคนละขั้ว
บันทึกการเข้า
ขยะของโลกออนไลน์ในปัจจุบันคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู หาข้อมูลไม่จริงมาโกหกคำโตๆ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก Avatar ที่ทำเป็นเก่งแต่เก่งน้อยในโลกความจริงซึ่งจะหาได้ง่าย
Headman
Hero Member
กระทู้: 1,148
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #2 เมื่อ:
มกราคม 27, 2013, 18:09:21 »
ตอนนี้มี TATA อะไรซักอย่าง เครื่อง 1.4 Turbo อ่ะครับ ออกมาจายแล้ว เห็นวิ่งเยอะแล้วเหมือนกัน
ช่างแอร์ที่รู้จักก็ใช้ เค้าบอกว่า คันเก่า BT50 ค่าน้ำมันเดือนล่ะ 6000 กว่า เปลี่ยนเป็น 1.4 Turbo เหลือแค่ 3000 ปลายๆ เองครับ
ทุกได้เยอะกว่า....
แต่ก็บอกมาเหมือนกันว่า Feel ความมันส์ในการขับ มันหายไปหมดเลย
บันทึกการเข้า
เรารักจ่าโท
))
6162002
Hero Member
กระทู้: 5,059
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #3 เมื่อ:
มกราคม 27, 2013, 21:51:36 »
4-5ปีข้างหน้า BT50Pro, Ranger, Colorado, D-Max ยังอยู่เลยครับ เพราะงั้นก็เครื่องทุกวันนีแหละ ไม่ปรับแน่นอน
ถ้าจะมองต้องมองไปหลังกระบะ Gen นี้เลยครับ ซัก9ปี
บันทึกการเข้า
bojung
Sr. Member
กระทู้: 372
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #4 เมื่อ:
มกราคม 28, 2013, 11:36:54 »
ผมว่าน่าจะยังไม่มีนะครับสำหรับตลาดรถกระบะ น่าจะมีแต่เพิ่มความแรงเครื่องและพัฒนาให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้นแทน
บันทึกการเข้า
KIM NNC
Full Member
กระทู้: 273
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #5 เมื่อ:
มกราคม 28, 2013, 12:11:37 »
ผมว่าพวกรถกระบะเล็กๆอย่าง Nissan NV หรือ Mazda Familia มันคงไม่หวนกลับคืนมาแล้วครับ
ทุกวันนี้แข่งกันว่าใครจะใหญ่กว่าแรงกว่าได้มากกว่ากัน ส่วนเรื่องประหยัดก็อยู่ที่เท้าขวาคนขับทั้งนั้น
บันทึกการเข้า
Joe NG
Full Member
กระทู้: 308
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #6 เมื่อ:
มกราคม 28, 2013, 12:26:58 »
น่าจะลงมายืนที่ 2.5 เป็นหลัก แล้วค่อยไปเล่นกับอากาศและน้ำมันครับ
ส่วนคันเล็กเครื่องเล็ก สงสัยจะยาก ถ้าจะรอดูจากค่ายญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า
kukonba
บุคคลทั่วไป
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #7 เมื่อ:
มกราคม 28, 2013, 13:46:42 »
ปัจจุบันบริษัทแข่งกันออกตัวรถที่ใหญ่ขึ้น เช่น BT50 - Ranger - ISUZU ALL NEW รูปร่าง เครื่องยนต์ก็ต้องใหญ่แรงม้าสูง อีกหน่อยเผลอๆ จะมีแต่ 3.0 และ 3.2 เรื่องที่จะเล็กลงทั้งเครื่องยนต์และตัวถังคงไม่มีแล้ว
บันทึกการเข้า
Slipknot`
Hero Member
กระทู้: 20,771
*** HLM.COM ***
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #8 เมื่อ:
มกราคม 28, 2013, 18:41:04 »
ทำไมกระบะไม่ทำเครื่องเล็กๆบ้างครับ
บันทึกการเข้า
ghia
Full Member
กระทู้: 346
the power of bear
Re: สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า
«
ตอบกลับ #9 เมื่อ:
มกราคม 29, 2013, 11:20:20 »
ผมว่าต่อไปตลาดรถกระบะบ้านเราจะเกิดการแบ่งแยกอย่างชัดเจน
รถตอนเดียว
รถตอนครึ่ง
รถดับเบิลแค็บ
รถตอนเดียวจะเบียงเบนไปสู่ตัวถังหัวตัด พวก ซูซูกิ แครี่, ทาทา ซูเปอร์เอซ
เน้นใช้ในเมืองเพื่อส่งของ เครื่องยนต์ไม่ต้องใหญ่มาก เน้นกำลังช่วงต้น ตัวถังไม่ใหญ่ แต่พื้นที่บรรทุกมากขึ้นกว่ารถตอนเดียวในปัจจุบัน
ถ้าใช้วิ่งส่งของทางไกลที่เกินกว่า 200 km./วัน ก็ต้องไปหาซ์้อพวก 4ล้อเล็กน่าจะคุ้มกว่า
รถกระบะตอนครึ่ง คาดว่าต่อไปตลาดนี้จะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ เนื่องจากถนนเมืองไทยดีขึ้น และในตลาดมีรถที่มีราคาไกล้เคียงกับกระบะแนวนี้มากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น B-segment แจ็ส ซิตี้ วีออส มาสด้า2 เฟียสต้า หรือพวกที่ราคาถูกกว่าอย่าง อีโค่คาร์ สวิฟท์ มิราจ บริโอ้ มาร์ช
ขนาดในห้องโดยสารแถวหน้าหนีกันไม่เท่าไหร่ แถมมีที่นั่งหลังได้สบายกว่าแค็บ ทำให้คนมีทางเลือกมากยิ่งขึ้น
เพื่อเป็นการเพิ่มยอดขาย รถในกลุ่มนี้ต้องพยายามหาจุดขายใหม่ให้กับตัวเอง ไม่ว่าความประหยัด อรรถประโยชน์ ขนาดตัวถัง
กระบะดับเบิลแค็บ คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มมากขึ้น
เนื่องจากคนยังมีอาการกลัวภาวะน้ำท่วมอยู่ และส่วนหนึ่งราคากับออพชั่นในรถกลุ่มนี้เริ่มทัดเทียมกับรถกลุ่ม C-segment
ในช่วงหลังคนเริ่มมีกิจกรมกลางแจ้งมากขึ้น แทนที่เมื่อก่อน ส.-อา. จะเข้าห้าง เดินเล่น ก็เริ่มเปลี่ยนไปอกกำลังกาย ขี่จักรยาน ไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ
หลังจากนี้ถ้า AEC เปิดอย่างเต็มที่และการเข้าออกระหว่างประเทศในกลุ่มง่ายขึ้น
เราจะเริ่มเห็นคาราวานไปเที่ยว หลวงพระบาง ย่างกุ้ง เสียมเรียบ ฮอยอัน กันอย่างคึกคักมากขึ้น ทำให้รถในกลุ่ม "4ประตูยกสูง" ขายดีขึ้น
ดีไม่ดีอาจจะมีไปถึง แคชเมียร์ หรือ ฮาบิน กันเลยทีเดียว
ส่วนเรื่องขนาดของเครื่องยนต์ก็ต้องเตรียมรับกับภาษีสรรพสารมิตใหม่ ซึ่ีงถ้าสามารถมีกระบอกสูบที่ใหญ่แต่ประหยัดและปล่อยมลพิษได้น้อยลง ก็ไม่ต้องกลัวอะไร
ตัวอย่างง่ายๆ BT-50 pro ตัวปัจจุบัน รถ 4ประตูยกสูงเหมือนกัน เกียร์ออโต้เหมือนกัน ขับเหมือนกัน คันหนึ่ง เครื่อง 2.2ขับเคลือนสองล้อ กับอีกคันหนึ่ง 3.2มีระบบขับสี่หน่วงด้วย
คนใช้งานยังบอกว่ากินพอๆกัน ถ้าขับในเมือง 2.2 จะประหยัดกว่าหน่อย แต่ถ้าวิ่งทางไกล 130 - 140 กม./ชม. 3.2 ประหยัดกว่าหน่อย
แต่อย่างไรเครื่องรถกระบะบ้านเราก็ไม่ใหญาไปกว่า 3250 ซีซี แน่นอนไม่อย่างนั้นจ่ายภาษีกันอานเลย
เมื่อก่อนตอน วีโก้ ออกมาใหม่ 3.0 ลิตร VN - turbo 163 แรงม้า
เร็วๆนี้แถวๆเซ็นทรัลลาดพร้าวกำลังจะมี 2.5 ลิตร 163 แรงม้าเหมือนกัน
เวลาผ่านไป 8 ปี ยังมีเรื่องแบบนี้เลยครับ
โลกมันหมุนทุกวัน ก็ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงทุกวันแหละครับ
บันทึกการเข้า
??
??
?
?
?
??
?
?
??
พิมพ์
หน้า: [
1
]
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
Headlight Magazine : community
»
General
»
Discussion Forum
(ผู้ดูแล:
admin
,
J!MMY
,
DR!VE by J!MMY
,
HLM
) »
สงใสจังครับต่อไป4-5ปีข้างหน้า