กำ เพิ่งเห็นว่ามันเป็นรถปี 95 อิอิ ลงภาพอีกก่อน สภาพปุปะ ไม่มีโป๊วสีอะไรทั้งนั้น สีสเปรย์พ่นฟืดๆเอาเวลามีรอยอะไร ของแถมมาจากบักสตีฟที่ขายรถมาให้
เวลาซื้อรถที่นั่นผมให้สตีฟนี่แหละจัดการให้เรื่องเอกสารกับนายหน้าเวลาตรวจสภาพ เพราะถ้าตรวจจริงแล้วไม่ผ่านจะโดดนอะไรเยอะมาก พี่ผมซื้อซิวิคfd มาสองแสนกว่าบาท แล้วไปเช็คสภาพจดทะเบียนเอง โดนไปอีกเกือบแสน อะไหล่รถที่นี่แพงมาก ส่วนใหญ่ใช้แล้วทิ้งทั้งนั้น
ประกันก็แพงกว่ารถอีกครับ แต่ผ่นอจ่ายได้ และรถทุกคันที่นี่มีประกันทุกคันครับเค้าบังคับ
พูดถึงค่าใช้จ่ายเวลามีรถที่นี่จะเยอะกว่าที่ไทยพอควร โดยเฉพาะการจอด ลำบากมาก คนเลยไม่ค่อยใช้รถ แต่จริงๆรถก็เยอะอยู่นะ
เหลืออะไรให้รีวิวอีกหว่า อ่อ เอานอกเรื่องอีกนิด รถคันนี้ตามวัตถุประสงค์คือเอาไว้ส่งอาหาร น้องที่หารเงินซื้อใช้สองวันคือเสาร์อาทิตย์ที่ไปส่งของให้ร้านอาหารไทย ส่วนผมส่งให้ร้านพิซซ่าชื่อร้านpapa john จันทร์ถึงศุกร์
ค่าแรงปกติที่ลานจอดผมได้8เหรียญนิดๆ โอทีก็คูณสองไป วันนึงทำแปดชั่วโมง แต่ส่วนใหญ่ผมขอโอทีเอา เพราะงานไม่มีไร นั่งรอรถเข้า ขับจอดแล้วก็นั่ง ไม่ได้เป็นรปภ.อะไรหรอก เฝ้ารถกะกุญแจอย่างเดียว ได้เยอะเงินเหมือนกันกินใช้สบาย แต่ไม่พอจะเก็บเงินให้ได้สองแสนกลับบ้านในสามเดือน เลยซื้อรถนี่แหละ
ร้านพิซซ่าที่เป็นจ็อบสองนี่ได้ชั่วโมงละ 10 เหรียญ งานก็นั่งเฉยๆ เบื่อๆก็ไปช่วยเค้าแพ็คพิซซ่า มีคนโทรมาก็วิ่งออกไปส่งตามที่อยู่ที่ให้มา ทุกครั้งที่ออกได้อีก 2 เหรียญ ไปถึงก็มีทิปอีกแล้วแต่คนให้ บางทีไปสายโดนด่าก็มี ให้ที่อยู่ผิดก็มี ท้าทายดีเพราะต้องทำเวลา งั้นกลับมาก็ต้องรอคิวนาน เพราะเด็กส่งอาหารมีหลายคน คนที่กลับมาไวจะได้คิวเยอะกว่า
บางคนอาจสงสัยทำไมไปส่งของไม่ใช้มอไซค์ มันไม่ไหวครับ ผมไปสั้นๆ ช่วงกำลังหนาว เดินยังไม่ไหว ขี่มอไซค์ลืมไปเลย แถมมอไซค์มือสองนี่แพงเอาเรื่อง ไม่มีเวฟหรือสกู๊ตเตอร์เลย มีแต่บิ๊กไบค์
เด็กเดลิเวอรี่ในร้านส่วนใหญ่ขับแต่มินิเพราะมันจอดง่าย นิสสันผมนี่กากสุดในร้านแล้ว และก็มีรถสำรองที่ร้านคือรถไครสเลอร์เก่าๆคันนึง ตอนหลังผมต้องไปขับคันนั้นแหละ เพราะอะไรเหรอ
เพราะน้องเขียวมันพังครับ คาตรีนเลย