E85 ใช้ในรถแข่ง? เริ่มอ่านเริ่มงงว่ามันเกี่ยวกับรถทั่วไปตรงไหน คืออุปกรณ์ของรถแข่งมันก็ต้องทำมาเฉพาะของมันอยู่แล้ว ไอ้ที่ว่ารถแข่งเติมกันได้ มันไม่มีจุดเชื่อมโยงถึงประเด็นที่ว่ารถยนต์ธรรมดาเติมแล้วมันจะไม่พังเลย สเปคอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับ E85 ของรถแข่งที่ว่า เอามาแบเทียบสเปคกับรถบ้านที่ทั่วไปไม่รองรับ E85 ที่บอกๆกันว่าเติมแล้วไม่พังสิ ถ้าสเปคทุกอย่างเหมือนกันหมดผมจะเชื่อ นี่ก็เป็นอีกข้อที่เป็นการอวดอ้างสรรพคุณของ E85 เกินจริงครับ ยิ่งข้อมูลด้านเดียวแบบนี้มีมากเท่าไหร่ ความระแวง ความสงสัย ความที่คนจะไม่ใช้และเข้าใจผิดเกี่ยวกับ E85 จะยิ่งมีมากขึ้นครับ
-เอางี้รถผมเนี่ย ปั๊มติ๊กBosch 044 ทำออกมาตั้งแต่ยังไม่มี E85 ถ้านักเลงรถจะรู้อยู่แล้ว สำหรับปั๊มตัวนี้ ปั๊มตัวนี้ Usage หลักๆต้องExternal Use ด้วย ผมจับมัน
ยัดลงในถังเป็นInternal Useเลย แทนปั๊มติ๊กเดิมติดรถเลย
-เรกูเรเตอร์ของแสตนดาร์ด
-สายน้ำมันในถัง ติดรถตั้งแต่ปี1995 ตัวนี้บ่งชี้ชัดมากที่สุด ถ้าไอ้นี่ไหวตัวอื่นไม่ต้องคิด เพราะจุ่มอยู่ทั้งปีทั้งชาติ ของผมคงกินมาหลายแขนง
ตั้งแต่เบนซิน98 เบนซิน97 เบนซิน95 เบนซิน91 โซฮอลล์95(E10) E20 E85 จับมันกินมาหมดแล้ว
-สายนอกรถเปลี่ยน ตั้งแต่ใช้E10 เจ๊งกระโบ๊งตามอายุ
-กรองเบนซินติดรถ
-หัวฉีด ของFord Focus RS Cosworth(RS Cosworth คงไม่ทำมาสำหรับE85มั้ง)
ที่บอกว่ารถแข่งหนะ จุดสำคัญที่เขาทำมารองรับคือระบบEngine management เพื่อทำให้รถเรียกกำลังสูงสุด ที่เขาว่ากันว่าจูนรถๆๆๆนั่นแหละครับ
มันก็ตัวเดียวกับที่ใช้กับน้ำมัน95 E10 91 มันจูนอากาศ องศาไฟ น้ำมัน ให้แมชชิ่งกัน สายน้ำมันที่เป็นเลสถักประเด็นคือแรงดันมันสูงพวกนี้
มันใช้ปั๊มติ๊ก2ตัว 3ตัว ต่อparallel ต่อเข้าSurge Tank ถัง a ถัง b แรงดันมันสูง มันจะแตกเอา พวกในใส้ในมันเป็นTeflon PTFE หรือพวกไวตั้น
ที่เหลืออุปกรณ์มันก็เหมือนรถทั่วไปเนี่ยแหละครับ อย่างที่ผมบอกประเด็นคือถ้าคุณยกกราฟในตารางน้ำมันให้มันจ่ายเพิ่มขึ้น30% รถคุณก็วิ่งได้แล้ว
กล่องECUติดรถมันAdaptive ได้ในระดับนึง โดยการคำนวณจากO2 sensor ออกมาเป็นค่าแลมด้า ปกติถ้าใช้E85 ในปริมาณในการสร้างความร้อน
มันจะใช้มากกว่าE10 แลมด้าจะส่งสัญญาณไปบอกECUว่าเฮ้ยน้ำมันบางว่ะ เอ็งช่วยจ่ายเพิ่มอีกหน่อยซิ แต่ECUติดรถมันมีข้อจำกัดตรงที่มันยืดหยุ่น
correctionให้ได้ไม่มากพอ สมมติว่า+-10% สมมติว่ามันcompensate เต็มที่แล้วคือ10% แลมด้ายังบางอยู่ดี แน่นอน รถวิ่งเหนียวอืดๆ (ยิ่ง
สตาร์ทตอนเช้าๆเนี่ย ระบบเครื่องยนต์ O2 sensorก็ยังไม่ร้อน จะออกอาการชัด เพราะระบบเครื่องยนต์จะใช้โหมดopened loop จ่ายน้ำมันหนาเชียว
เพื่อเร่งให้เครื่องร้อนเร็วๆ ถึงอุณหภูมิทำงานเร็วๆพอมันร้อนก็จะตัดเข้าclosed loop ให้o2 sensor แจ้งผลประมวลการจ่ายน้ำมันต่อไป) เพราะ
น้ำมันมันไม่พอ อ้าวพอเพิ่มน้ำมันแล้ว ยังไม่พอ องศาไฟก็Retardลง กำลังหดหาย มันเป็นความชาญฉลาดของสมองรถเพื่อป้องกันไม่ให้
เครื่องยนต์พัง แต่หากคุณให้มันกินพอเมื่อไหร่ เจ้าส่วนที่มันเป็นการcorrection ในระบบสมองรถ มันก็ไม่ต้องActive เหมือนกับมันกินพอ ก็จบ
มันก็วิ่งได้ หากยังสงสัยอยู่ ให้ย้อนขึ้นไปอ่าน ใจความสำคัญทั้งหมดคือถ้าคุณเพิ่มน้ำมันเข้าไปได้อีก30% จะทำยังไงก็ได้ก็ จอบอ จบ
ปล.หนูไม่ใช่ลิ่วล้อ PTT นะ หนูโคตรเกลียดแม่งเลยอุ๊บ!!!! หนูใช้บางจาก ขนาดหุ้นยังไม่ซื้อเลย(จริงๆซื้อไม่ทัน
)