ซึ่งจริงๆจะตั้งชื่อขัวข้อว่า
DIY ระบบเสียงเดิมๆ ในรถยนต์ ให้เกือบเป็น BOSE sound system เสียงดีกว่าเดิมจริง แต่จะถูกใจคนไทย หัวใจชาว Rock เหรอ... แต่พื้นที่ไม่พอให้ตั้งครับ
หลายๆท่านเคยสงสัยมั้ยครับว่า เครื่องเสียงติดรถยนต์เดิมที่มาจากโรงงาน ของรถยนต์ที่เราขับใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้นั้น เสียงที่ได้ยิน ได้ฟัง มันแตกต่างกันอย่างไรบ้าง แน่นอน สำหรับคนที่ไม่ใช่เป็นคนชอบฟังเพลงหรือไม่ได้เล่นเครื่องเสียง อาจจะเฉยๆ โดยเฉพาะ สาวๆ ส่วนใหญ่ ขอให้ฟังเป็นเพลงก็พอ ไม่ว่าเพลงๆนั้นจะมีต้นเสียงมาจาก iPhone iPad วิทยุทรานซิสเตอร์ หรือแม้แต่เครื่องเสียงราคาแพง ชีก็จะบอกว่า ไม่เห็นต่างเลย มันก็ไพเราะเหมือนกันแหละ แค่เพลงๆนั้นถูกใจชีก็เป็นพอแระ ซะงั้น -_- แล้วสำหรับคนที่เล่นเครื่องเสียงล่ะ เหล่าทวยเทพ หูทองทั้งหลายล่ะ เค้าคิดยังไงกัน เมื่อเค้าเหล่านี้ ได้ยิน ได้ฟังเพลง ฟังเสียง จากเครื่องเสียงที่มากับรถยนต์ในแต่ล่ะยี่ห้อ เพลง เพลงเดียวกัน ฟัง กับรถคนล่ะคัน คนล่ะยี่ห้อ ทำไมเสียงมันช่างต่างกันเหลือเกิน แล้วมันเป็นเพราะอะไรล่ะ
เดี๋ยวผมจ่ะค่อยๆ อธิบายคร่าวก็แล้วกันนะครับ โดยเครื่องเสียงรถยนต์สมัยนี้ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลักๆ
- เครื่องเสียงรถยนต์ที่ประกอบมาจากโรงงาน OEM (Original Equipment Manufacture)
- เครื่องเสียงรถยนต์ ที่ประกอบทีหลัง หลังจากที่ออกมาจากโรงงานแล้ว หรือหลังจากที่ส่งมอบให้ลูกค้าแล้ว หรือที่ทั่วโลกเค้าเรียกกันว่า After Market คนไทยเรียกอะไรหว่า..
001
เครื่องเสียงรถยนต์ที่ประกอบมาจากโรงงาน OEM (Original Equipment Manufacture) หรือเครื่องเสียงที่มาในรูปแบบ Build in นั่นแหละ ผมขออธิบายคร่าวๆนะครับ โดยปกติแล้ว โรงงานรถยนต์ไม่ได้ทำชิ้นส่วนหลายๆ อย่างด้วยตัวเองหรอกครับ แต่จะไปว่าจ้างบริษัทต่างๆ ที่เชี่ยวชาญในการผลิตอะไหล่แต่ล่ะประเภท เป็นผู้ผลิตให้อีกที โดยจะมียี่ห้อของโรงงานที่ผลิต หรือโลโก้ ของบริษัทที่รับจ้างผลิตติดมาด้วย เพื่อบอกถึงที่มาของสินค้าชิ้นนั้นๆ เช่น วิทยุหรือเครื่องเล่น DVD ของโตโยต้า จะถูกผลิตโดยพาสเนอร์ 3 เจ้าหลักๆ คือ Pioneer , Panasonic และ Fujisu Ten หรือ มาสด้าที่ผมใช้อยู่เท่าที่ทราบ ก็จะมี Sanyo และ Pioneer ซึ่งจะรู้ได้โดยการแกะตัววิทยุเดิมๆ ออกมาจะเห็นสติกเกอร์ติดอยู่บน Case วิทยุ ว่าเป็นของบริษัทอะไร ผลิตที่ไหน ซึ่งรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่ จะไม่พ้น 3 4 ยี่ห้อ ที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นนี้หรอกครับ
ส่วนรถจากทางฝรั่งยุโรป อเมริกา ที่ประกอบและจำหน่ายในบ้านเรานั้น เช่น Chevrolet กับ Ford เท่าที่ทราบ วิทยุ OEM จะเป็น Clarion และ Sony ที่ไปโผล่ที่ Ford Focus ครับ คุณภาพเสียงของเครื่องเสียง OEM เหล่านี้จะอยูในโทนกลางๆ เสียงอาจจะไม่ใสกิ้งกั๊ง หรือทุ้มแบบนุ่มลึก เหมื่อนพวกเครื่องเสียงประเภท After market ทั้งหลาย
002
เครื่องเสียงรถยนต์ ที่ประกอบทีหลัง หลังจากที่ออกมาจากโรงงานแล้ว หรือหลังจากที่ส่งมอบให้ลูกค้าแล้ว หรือที่ทั่วโลกเค้าเรียกกันว่า After Market สินค้าประเภท After Market หรือจะเรียกว่าสินค้า Universal ก็ได้ ซึ่งหมายถึง สามารถมารถนำไปใช้ติดตั้งได้กับรถยนต์ทุุกรุ่น สินค้าประเภทนี้มีหลากหลายยี่ห้อครับ เช่น Alpine , Kenwood , JVC, Sony , Nakamichi , Macintosh และอีกมากมาย สินค้ากลุ่มนี้ เป็น International Brand ครับ โดยมีบริษัทแม่อยู่ต่างประเทศ และขายสินค้าเหล่านี้ไปยังทั่วโลก โดยสินค้าเหล่านี้จะไม่ใช่สินค้าตรงรุ่นของรถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง แต่สามารถใส่ได้กับรถทุกรุ่น ตั้งแต่ เบนซ์ บีเอ็ม โตโยต้า ไปจนถึง โปรตอน หรือค่ายรถจากจีน กันเลยทีเดียวครับ สินค้ากลุ่มนี้จะมียี่ห้อเป็นของตัวเอง มีใบ Certificate ชัดเจน โดยจะไม่มียี่ห้อรถค่ายใด ค่ายหนึ่ง แปะชื่อบนตัวสินค้าครับ คุณภาพ ของเครื่องเสียงเหล่านี้ จัดได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ ค่อนข้างดี ไปจนถึงดีมาก ตามราคาครับ
สิ่งที่ผมได้กล่าวไปจาก 2 หัวข้อใหญ่ๆข้างต้น เป็นการพูดถึง เครื่องเล่น หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ฟรอนท์ครับ รวมไปถึงลำโพงที่ตั้งมากับรถด้วย คือมี ฟรอนท์มีลำโพงจบ โดยฟรอนท์เหล่านี้จะมีลำโพงขยายอยู่แล้ว โดยลำโพงที่มากับรถก็เช่นกัน มีหลายยี่ห้อ ไปจนถึงไม่มียี่ห้อ มีทั้ง Made in Thailand ไปจนถึง Made in China ครับ คุณภาพเสียงก็ตามอัตรภาพครับ แต่หัวข้อหลักๆ ที่ผมจะนำเสนอในบทความนี้คือ การติดตั้ง Bose sound system ในรถ Mazda3 ที่ผมใช้อยู่ครับ
ทำไมต้อง Bose sound system ล่ะ เนื่องจากว่าในต่างประเทศ รถยนต์หลายๆรุ่น จะมี ออฟชั่นให้เลือกมากมายครับ รวมไปถึงออฟชั่นที่เกี่ยวกับเครื่องเสียง ซึ่งจะมีบริษัทเครื่องเสียงในกลุ่ม Hi-end ชั้นนำ เข้ามาเสนอเป็น ออฟชั่น ให้กับรถยนต์ในค่ายต่างๆด้วย บริษัทเหล่านี้ จะมีชื่อเสียงที่โดดเด่นมาก ในเรื่องของการทำลำโพง การทำเพาเวอร์แอมป์ การจัดวางวางระบบ ตำแหน่งการติดตั้งทั้งหมดให้ออกแบบมาได้ดีที่สุด ปกติแล้ว เครื่องเสียงประเภทนี้ จะเป็นเครื่ืองเสียงเพื่อความบันเทิงตามที่พักอาศัยที่มีคุณภาพเสียงที่ดีมาก แต่บริษัทเครื่องเสียงในกลุ่ม Hi-end ได้เห็นช่องทาง ในการทำตลาด เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ชอบฟังเพลง จากเครื่องเสียงที่มีคุณภาพดีอยู่ตามที่พักอาศัย ให้เข้ามาสู่ภายในรถยนต์ด้วย ซึ่งผมขอยกตัวอย่าง ที่ผมหาข้อมูลมาได้ นะครับ ซึ่งได้แก่
003
HARMAN/KARDON ตามภาพเลยครับ ว่าเค้าเสนอตัวเองเป็น ออฟชั่นให้กับยี่ห้อไหนบ้าง
004
Mark Levinson สำหรับ Lexus,Toyota เท่านั้น
005
Bose เจ้านี้จะมีหลายยี่ห้อครับ ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็เป็นยี้ห้อของรถที่ผมใช้อยู่ด้วย ซึ่งมันก็คือที่มาของบทความ User Voice ฉบับนี้นั่นเอง
ซึ่งเลยกลายเป็นคำถามที่ว่าทำไมต้อง Bose ล่ะ ยี่ห้ออื่นมีเยอะแยะ แถมถูกกว่าด้วย และเสียงอาจจะได้อย่างที่ถูกใจกว่า แต่สำหรับผมแล้วนั้น มันคืออารมณ์ล้วนๆครับ เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะความอยากรู้ และอยากลองนั่นเอง เห็นฝรั่งหรือญี่ปุ่น หรือแม้แต่ประเภทเพื่อนบ้าน เค้ามีออฟชั่นนี้ให้เลือก แต่ทำไมคนไทยไม่ได้ฟะ! ก็อยากได้บ้างอ่ะ รวมไปถึงว่าผมได้เคยฟังเสียงจาก ลำโพงยี่ห้อนี้มาแล้วด้วย เมื่อสมัยที่ยังเรียนเทคนิค ซึ่งค่อนข้างนานมาแล้ว เป็นลำโพง Bose 802 series II ดังรูปด้านล่างครับ
006
ซึ่งเสียงของมันที่ได้ยิน เป็นเสียงในโทน Mid-length เสียงที่ได้ ค่อนข้างลงตัวมาก โดยเฉพาะเสียงพูด หรือเสียงร้อง ที่ฟังแล้วสึกไพเราะ เสนาะหูมากครับ เมื่อเปรียบเทียบกับลำโพงทั่วไปนะครับ รวมไปถึงขนาดที่เล็กกว่า เบากว่า แต่เสียงดีกว่าดังกว่า และก็แพงกว่า เป็นเรื่องธรรมดา นี่คือที่มาว่า ทำไมถึงต้องเป็น BOSE เพราะว่าผมเองอยากฟังมันอีกครั้ง แต่่ครั้งนี้ อยากได้มันมาครอบครองด้วย โดยที่เงื่อนไขมีอยู่ว่า จะต้องดัดแปลงรถให้น้อยที่สุด เท่าที่เป็นไปได้ครับ
007
008
จากที่เห็นดังภาพด้านบน เป็นรูปที่ผมหามาจาก Google ครับ ความหมายของภาพก็คือ BOSE Sound System เป็นออฟชั่นที่สามารถสั่งเพิ่มได้ ส่วนราคาส่วนต่างเท่าไหร่นั้น ผมก็ไม่ทราบครับผม ส่วนมาสด้า3 ที่จำหน่ายในบ้านเรา หมดสิทธิ์ครับ แล้วอย่างนี้ ผมอยากจะได้อุปกรณ์พวกนี้มาใส่ในรถของผม จะต้องทำยังไงบ้างล่ะ ในเมื่อ เราไม่สามารถเบิกออฟชั่นเสริมพวกนี้จากตัวแทนจำหน่ายในประเทศได้แน่ๆ ทางออกสุดท้าย ก็คือ ebay จ้า
009
ทีแรกผมไม่ได้สนใจเครื่องเสียงเลยครับ แต่ที่เข้ามาใน ebay ก็เพื่อที่จะหาอะไหล่ถูกๆ และ Free shipping เพื่อที่เอามาไว้ spare เมื่อมีอะไรเสีย เราจะได้เปลี่ยนเองได้เลย ซึ่งเมื่อผมเปิดหาไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดกับสิ่งที่ปรากฏดังถาพด้านบนะครับ
010
สังเกตุราคามั้ยครับ ว่าเท่าไหร่ 169 ปอนด์ ตีเป็นเงินไทยได้ 7 พันกว่าบาท OK ราคาผมรับได้นะ ถึงจะเป็นของใช้แล้วก็เถอะ แต่เจอค่า Shipping เข้าไปถึงกับหงายหลังเหมือนกัน 135 ปอนด์ ณ ช่วงเวลานั้นก็เป็นเงินไทยประมาณ 5 พันนิดๆ เอาวะ กัดฟัน กดสั่งซื้อผ่าน Paypal เรียบร้อย สบายใจ หมื่นสี่จัดไป
011
ใช้เวลารอสินค้าประมาณ 2 สัปดาห์ ในที่สุดของก็มาถึง พร้อมกับเซอไพร์หลายอย่าง ซึ่งอย่างแรกก็คือ ภาษีศุลกากรครับ หรือภาษีนำเข้านั่นเอง ประมาณ 3,500 บาท
อะไรกันเนี่ยผมเข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอว่า ถ้านำเข้าอะไล่รถจะได้รับการยกเว้นภาษี เพราะว่าก่อนหน้านี้สั่งคอยล์จุดระเบิดมา 4 ตัว ไม่เห็นโดนภาษีเลย แต่ทำไม
เจ้านี่ถึงโดนล่ะ อ๋อ...มันคือ Bose วึ่งมันคือลำโพง เจ้าหน้าที่ศุลกากรเค้าจะจัดหมดให้มันเป็นสินค้าฟุ่มเฟย ซึ่งนั่นหมายความว่าผมโดนภาษี 45% เลยเหรอฟะ ของก็ไม่ใช่ของใหม่
สุดท้ายก็ได้คำตอบพนักงานส่งของว่า บ้านเรา (ประเทศไทย) ไม่มีระบบการจัดเก็บภาษีที่ชัดเจนเท่าที่ควร ของบางอย่างอาจจะขึ้นอยู่กับดุลยพินิจเจ้าหน้าที่ศุลกากรว่า
สินค้าประเภทนี้ควรอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ซึ่งก็จริงแหละ เพราะพี่ที่รู้จักกัน ก็โดนแบบเดียวกับผมมาหลายคนเหมือนกัน บางคนต้องยอมทิ้งของที่สั่งมาเลย เพราะว่าโดนภาษีแพงมาก
เอาล่ะ ช่างมัน ตรงนี้ยอมจ่ายอีก 3,500 จ่ายแล้วก็จบๆไป แต่จะจำไว้ หึหึ
012
เซอไพร์อย่างที่สอง ดูสภาพของลังใส่ของสิครับ นั่งเครื่องมานะ แต่.... สงสัยเครื่องบินหลังคาจะรั่วเนอะ มาซะยุ่ยเชียว
013
เซอไพร์อย่างที่สามคือ ไม่มี Cable harness (คอนเนคเตอร์) แบบตรงรุ่นมาให้ครับ กำ... แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ถ้ามองย้อนกลับไปยังรูปที่เค้าประกาศขายใน ebay เค้าก็ไม่มีให้นะ
ซึ่งก็ต้องตามหาของกันต่อไป
014
015
ซึ่งในที่สุดผมก็ได้มันมาครับ เป็นฝั่ง ด้าน 24 Pin ครับ ส่วนทางด้านฝั่งที่เป็น 8 Pin ใช้วิธีการแปลงโดยการใช้หางปลาครับ แปลงยังไง เดี๋ยวมีรูปให้ดูครับ
ราคาของไม่แพงเท่าไหร่ แต่ค่าส่งแพงไปป่าว อย่างว่าแหละครับ ของส่งมาจากอเมริกา ค่าส่ง 20 ดอลลาห์ ประมาณ 600 บาท ดีว่าเสียเวลาขับรถไปบ้านหม้อ
เสียทั้งค่าน้ำมัน ค่าทางด่วน โน่น นั่น นี่ อีก ซึ่งตัวผมเองอยู่ที่ระยอง เปิดคอม แล้วกดสั่งซื้อซึ่งมันน่าจะดีกว่า
ปัญหาที่ตามมาอีเรื่องก็คือ แล้วสัญญาณที่ออกจากฟรอนท์เดิมมันไม่มี Line out ที่เป็น Signal ให้นี่นา มีแต่สัญญาณที่ถูกขยายจากฟรอนท์เดิมเพื่อไปต่อกับลำโพงแล้วเท่านั้น
ซึ่งเท่ากับว่าผมจะเสียเงินเพื่อหาอุปกรณ์บางอย่างอีกแล้วเพื่อให้ได้สัญญาณเอาท์พุต ไปต่อกับภาคขยายของ BOSE โดยมีผมมีอยู่ 3 ทางเลือก คือ
1. จั้มสัญญาณก่อนที่จะเข้า IC ภาคขยายภายในฟรอนท์ออกมา
2. ซื้อตัวแปลงสัญญาณ Hi to Lo Converter มาต่อซึ่งมันคือ ตัวแปลงสัญญาณที่ถูกขยายแล้วเพื่อไปจ่ายให้กับลำโพง ให้กลายมาเป็นสัญญาณอ่อนๆ เพื่อใช้ต่อกับภาคขยายอีกครับ
ซึ่งวิธีนี้นิยมใชกันกับกลุ่มที่อยาก ปรับปรุง เสียงของเครื่องเสียงรถ ให้ดีขึ้น และดังขึ้น แต่ไม่อยากเปลี่ยนฟรอนท์
3. เปลี่ยนฟรอนท์ที่มี line out ซะ เอาให้ดีเปลี่ยนเป็น 2 Din และ (ซึ่งผมเอาไว้้เป็นโครงการในอนาคตครับ)
เท่ากับว่าจะเหลืออยู่ 2 วิธี โดยผมเลือกวิธีแรกก่อนล่ะกัน โดยการอ้างอิงจาก
http://www.hinsin.com/showthread.php?776-D-I-Y-Line-Out-%26%233651%3B%26%233627%3B%26%233657%3B-Front-%26%233609%3B%26%233657%3B%26%233629%3B%26%233591%3B-3ทำไมถึงเลือกวิธีแรกล่ะ ก็เพราะว่ามันประหยัดงบไงล่ะครับ คือแค่จั๊มสายออกมา โดยอ้างอิงข้อมูลต่างๆที่พอเชื่อถือได้ก็จัดแล้ว
016
ดูได้จากไดอะแกรมที่ผมเขียนไว้ครับ โดยสายสีน้ำเงินคือสายที่ต้องจั๊มออกมา เพื่อไปยังภาคขยาย BOSE Amplifier แล้วก็เดินสายลำโพงย้อนกลับไป โดยตัดสายลำโพงเดิมออก แล้วเอาเส้นใหม่ไปต่อแทน หลักการดูง่ายครับ
017
เริ่มต้นเลยก็ถอดฟรอนท์ออกมา ซึ่งถอดง่ายครับ น๊อตยึดแค่ 4 ตัวเอง
018
เตรียมอุปรณ์และเครื่องมือดังภาพครับ
019
ซึ่งสิ่งที่ต้องซื้อเพิ่มก็คือ สายสัญญาณ ที่มี Shield อย่างดี ถ้าเป็นไปได้ และก็หัวแจ็ค RCA อย่างดีด้วยครับ อีกอย่างนึงก็คือสายไฟอ่อน
020
แล้วก็บัดกรีตรงจุดที่เราจะจั๊ม ที่ปลายขา IC ครับ โดยขั้นตอนโดยละเอียด อ่านได้จ้าง link ที่ผมนำมาใช้อ้างอิงครับ
http://www.hinsin.com/showthread.php?776-D-I-Y-Line-Out-%26%233651%3B%26%233627%3B%26%233657%3B-Front-%26%233609%3B%26%233657%3B%26%233629%3B%26%233591%3B-3 เพราะจะมีการบอกถึงขั้นตอนต่างๆ จนถึงการ จนถึงการดูโครงสร้างของเบอร์ไอซี ที่ใช้ เพื่อรู้หลักการทำงานของมัน ทุกอย่างอยู่ใน link นี้หมดครับ
021
เมื่อจั๊มออกมาแล้ว อย่าลืม Mark สายสัญญาณด้วยนะครับว่า สายใหนคือ หน้า ซ้าย (LF) หรือ หลัง ขวา (RR)
022
023
เมื่อประกอบกลับเข้าไปก็จะเป็นดังรูปครับ แล้วก็มาถึงขั้นตอนสำคัญ คือการเอาไปเทส ง่ายๆเลยคือ เอาลงไปเทสที่รถครับ
แล้วเอาลำโพงคอมไปต่อ แล้วก็ดูว่า มีสัญญาณเสียงออกมามั้ย งานนี้ไม่มี Multi-Meter วัดนะครับ แบบว่าทำกันแบบลูกทุ่ง
สรุปคือ เงียบครับ ............................. มัน ไม่ Work ซึ่งวิธีนี้ ก็ต้องตัดทิ้งไปอย่าน่าเสียดาย แต่ต่อให้ Work ปุ่ม Mute ก็จะใช้ไม่ได้ครับเพราะ ว่าฟังชั่นก์ Mute ถูกคอนโทรลที่ไอซีภาคขยาย แต่สัญญาณที่ดึงออกมาใช้ ตำแหน่งอยู่ก่อนเข้าไอซีครับ สาเหตุที่มันไม่มีเสียง เป็นเพราะอะไร ผมก็ไม่แน่ใจครับ แบบว่าขี้เกียจหาย . ก็เลยต้องกลายมาเป็น ทางเลือกที่ 2 คือ
024
025
ตัวแปลงสัญญาณ Hi to Lo Converter แบบ 4 แชนแนลมาครับ สั่งซื้อทาง ebay เหมือนเดิม ราคา ค่าของ รวมค่าส่ง 875 บาท ซึ่งจริงๆซื้อในไทย ราคา 900 บาท ไม่รวม EMS โดยส่วนตัวผมไม่ค่อยอยากไปร้านเครื่องเสียงครับ เพราะกลัวโดนฟันหัวแบะ เนื่องจากพื้นที่ที่ผมอยู่ ขายของกันค่อนข้างแพงครับ เพื่อความสบายใจ ก็ ebay เหมือนเดิม
027
อุปกรณ์หลักๆ ที่ื ราคาค่าดำเนินการนำส่ง จาก อังกฤษ กว่าจะมาถึงมือผมที่แสนแพง
028
029
เริ่มจาก Power Amp ก่อนเลย เชื่อมั้ยว่า ณ ปัจจุบัน ผมยังไม่รู้กำลังวัตต์ของมันนะว่าเท่าไหร่ แต่ถ้าให้เดา น่าจะประมาณ 65Wx4ch
โดย Amp ตัวนี้ หรืออาจจะทุกตัว ผลิตที่อเมริกาครับ
030
031
โดยดีไซด์ของ BOSE เท่าที่สังเกตุ คือไม่เหมือนกับ Power Amp ติดรถยนต์ทั่วไป ที่ขายในท้องตลาดครับ การออกแบบซิงค์ระบายความร้อนที่ค่อนข้างหนา และยึดกับ Support แบบกลับด้าน เพื่อป้องกัน ผู้โดยสารที่นั่งอยู่บนเบาะ แถวหลังเหยียบเล่น รวมไปถึง การต่อสายไฟที่ไม่ได้ใช้ น็อตนึด แต่ใช้เป็น Socket เสียบแทน และไม่มีไฟ LED เพื่อบอกสถานะว่า On หรื Off ด้วย
032
033
อย่างต่อมา คือลำโพงซัพวูฟเฟอร์ วัสดูน่าจะเป็นไฟเบอร์ครับ ถูกออกแบบให้ติดตั้งไว้ใต้เบาะเช่นเดียวกับ Power Amp. โดยซัพวูฟเฟอร์ตัวนี้ ถูกประกอบที่ประเทศแม๊กซิโกครับ โดยมีวันที่ผลิต
บอกไว้ที่สติ๊กเกอร์อย่างชัดเจน
034
035
ต่อมาก็จะเป็นลำโพง แบบมาตรฐานครับ โดยติตตั้งบริเวณประตูรถด้านหน้า ด้านหลัง ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ซึ่งสามารถแทนที่ลำโพงของเดิมได้พอดี และขั้วต่อลำโพงที่เหมือนกันด้วย
ลำโพงแผงประตูชุดนี้ถูกประกอบที่ประเทศแม๊กซิโกเช่นกันครับ
036
037
ต่อมา มาดูที่ลำโพงแบบสุดท้ายครับ ลำโพงทวิสเตอร์ หรือลำโมงเสียงแหลมนั่นเอง เป็นแบบตรงรุ่นครับ ผลิตที่ประเทศจีน แลดูรูปร่างหน้าตา ไม่ค่อยน่าเชื่อถือใช่มั้ยล่ะครับ
ผมเองก็ไม่ค่อยเชื่อเหมือนกัน
038
ซึ่งเมื่อแกะออกมา ก็เลยได้เห็นถึงความแตกต่างครับ คราวนี้ ดูน่าเชื่อถือขึ้นแระ
039
สามารถใส่แทนของเดิมได้เลยครับ โดยไม่ต้องดัดแปลง