ตัวเลือกเพียบเลยครับ สำคัญหารถที่ดูแลถึงๆไม่ว่าจะยี่ห้ออะไรก็ตามที่กล่าวมาครับ หาตามเว็บของแต่ละยี่ห้อครับเชื่อผมมีรถที่เจ้าของดูแล
มาแล้วปล่อยในราคาเต๊นท์เยอะแยะ ผมลิสต์รายการรถที่น่าเล่นๆให้ สนุกๆแล้วกันนะครับ
1.volvo 854(sedan),855(van),S70/V70 5สูบ เล่นได้ อะไหล่เยอะ คนมีความรู้เยอะ จุดอ่อน จุดด้อย เอาอยู่กันหมดแล้วครับ ผมรวบยอดให้ทีเดียว
เพราะมันเหมือนๆกัน แต่ความจริงๆ 850 กัยS70 มีอะไหล่แตกต่างกันประมาณ1,250ชิ้น ถ้าผมจำตัวเลขไม่ผิดนะครับ
2.VW Passat B5 1.8 เครื่องเดียวกับA4 B5 1.8 ช่วงล่างเหมือนA4(B5),A6(C5),A8(D2) อะไหล่มีให้ใช้พอสมควรราคาไม่แรง,1.8T(หายากหนอยรถแท้ๆ มีมูนรูฟมา ให้),2.3 V5,1.9 Tdi(ตัวนี้อะไหล่เครื่องแพงหน่อยครับ มีอุปกรณ์เครื่องบางชิ้นไม่ทน พวกระบบดีเซล แล้วก็เทอร์โบ พอหาของได้)
3.Audi A4 B5 1.8 เหมือน passat 1.8 เกือบทั้งหมด ,2.4 12V V6 รหัสเครื่องAFM มีจุดอ่อนเครื่องบางอย่าง โดยมากเจ้าของเก่าโดนกันมาแล้ว มันจะมีน๊อตตัวนึง
ตรงลิ้นเร่งชอบร่วงลงไปในกระบอกสูบ โดยมากแก้ไขกันมาหมดแล้ว,1.8T ตัวนี้จี้ดจ้าดครับ แต่เซนเซอร์เยอะ อาจจะปวดหัวได้ แต่ต่อยอดได้ยาว เกียร์
เป็นทิปทรอนิคแล้ว แต่ตัวที่น่าเล่นที่สุดคือตัวปี99 เครื่องV6 2.4 30V หารถยากน้อย เป็นตัวไมเนอร์เชนจ์ ไฟหน้า ไฟท้าย มือจับประตู ภายใน เป็นแบบรุ่นใหม่
อะไหล่เครื่องมีกองเท่าภูเขา เพราะเหมือนกับAudi A6 (C5) 170ม้า ถ้าจำไม่ผิด วิ่งสบาย แรงพอตัวเลยครับ
4.Audi A6(C4) แนะนำให้เล่นตัว2.4 12V V6 เท่านั้นครับ ตัวถังกว้าง อะไหล่ตัวถังเริ่มหายาก อะไหล่เครื่อง เกียร์ อุปกรณ์สิ้นเปลืองพอมี ไม่จุกจิก แต่อืดหน่อย
5.Audi A6(C5) 2.4 30V มีทั้งตัวทิปทรอนิค ก่อนไมเนอร์ กับ ไมเนอร์แล้ว เกียร์เป็นCVT multitronic ภายในก็แบบไมเนอร์จะดูใหม่กว่า แต่ปัญหาคือ
multitronic หาคนซ่อมเก่งๆน้อย และแพงครับ ช่วงล่าง เหมือนกับA4 อย่างที่บอกไว้ด้านบนครับ
6.BMW E36,E34,E46,E39 โดยรวมE39น่าใช้กว่าเพราะตัวถังใหญ่กว่า ฐานล้อกว้างกว่า นุ่ม หนึบ เกาะ แต่บางคนว่ามันดูโบราณแล้ว(ส่วนตัวผมว่ามันยังดูดีอยู่)
E46 ถ้าเล่นตัวแรกเครื่องยังเป็นบล๊อคโบราณ ม้าน้อย แต่ทน ตัว318 บล๊อคN42 มีจุดอ่อนบางจุดครับ ถ้าจะเล่นให้ไปเล่นบล๊อคM5x พวก6สูบพวกนี้
ปัญหาน้อย อะไหล่เยอะมากครับ ช่วงล่าง ทนทาน ขับขี่ ดีกว่าทุกคันที่ผมยกมาครับ
7.Saab 9000Aero แรง อะไหล่ หาได้ ช่างชำนาญมี ราคาอะไหล่ไม่สูงมาก ติดตรงแบรนด์ซึ่งมันNiche ในกลุ่มของคนที่ชื่นชอบ สมรรถนะ บางคนบอก
รถหม้อหุงข้าว ลองไปเจอบนทางด่วน พวกนี้sleeper ดีๆนี่เอง รถ พศ. นี้D segment ลองไปเจอดู มีหนาว ศูนย์ซ่อม เซอร์วิสต์ยังมี ค่าซ่อมไม่ได้สูงกว่า
อู่นอกมากนัก อะไหล่เบิกศูนย์ก็ยังมี มือสองหัวตัด ก็ยังหาได้ ไม่ยากลำบากนัก
8.Benz W124,W202 แบรนด์นี้ขอข้าม เหมือนจะซื้อนาฬิกานึกอะไรไม่ออก ซื้อRolex ไปที่ไหนคนก็รู้จัก ซ่อมไม่ยาก อะไหล่มีสูงกว่าภูเขา เสี่ยงน้อยสุด
เปลี่ยนมือง่ายสุด ราคาร่วงน้อยสุด(เพราะมันอยู่ตัวแล้ว) ของเล่นมีเยอะมาก เครื่อง มีให้เลือกตั้งแต่4สูบ M111,2.8 M104 ไม่นับพวกวางเครื่อง
ขับขี่ดี ทนทาน อะไหล่ถูก(อุตว่าห์บอกว่าจะข้ามแล้ว)
9.Peugeot 406 ตามพี่แพนบอกมา หาEA9 หรือตัวL5(ตัวหลังสุด จะมีโลโก้L5 ตรงบังโคลน) ให้ข้ามตัวD8ไปครับ ช่วงล่างนุ่มนวลดี เกียร์ออโต้
แบบgate type แต่...ผมไม่ชอบอัตราทดเกียร์ เพราะเกียร์สุดท้ายโอเวอร์ไดรฟ์ กำลังหายหมดเลย ถ้าจำไม่ผิด ท๊อปสปีดจะอยู่เกียร์ก่อนสุดท้าย
ด้วยซ้ำ ช่วงล่างนุ่มนวล ออกยวบยาบไปนิด สู้405 ไม่ได้ครับ แต่ทรงรถยังสวย รถออกมาช่วงเดียวกับPassat B5 Highline(CKD)ราคาเบียดๆกัน
ในช่วงปี2000-2001
ผมว่าหมดแล้วนะแบรนด์ที่ใช้งานไม่เหนื่อยนักจริงๆ รถยุคนี้ยังมีCitroen(XM 3.0 V6),มีAlfa 164 3.0 Super,มีOpel Omega 3.0 พวกSkoda Octavia
พวกนี้ก็อนุกรมเดียวกับAudi A4 ,Passat เพียงแต่อะไหล่ตัวถังมันหายากสำหรับรถจากCzech Republic ยี่ห้อนี้ ส่วนตัวผมชอบรถยุคนี้มากที่สุดครับ
เพราะ มันเป็นรถทีเซอร์วิสต์ง่าย ความไฮเทคของมัน ไม่ใช่ว่าโบราณไปซะทีเดียว เพราะรถพวกนี้เป็นหัวฉีดไฟฟ้า ที่เป็นซิงเกิ้ล และมัลติพ้อยส์กันหมด
แล้ว ระบบจุดระเบิดโดยมากจากรถด้านบนเป็นไดเร็คคอยล์ ไม่ใช่หัวนกกระจอก จานจ่าย แบบบิดองศาไฟแก่ อ่อนหมุนๆ แล้วครับ ใช้งานได้ ซ่อมง่าย
ต่อให้รถมีปัญหา ก็ยังพอขับได้ แตกต่างจากรถรุ่นใหม่ แค่ดึงสายไฟHybrid ออกปุ้บ ระบบตัดเข้าSafe mode หรือเปลี่ยนแบตเตอร์รี่ก็ต้องจั๊มพ์
ไฟเลี้ยงเอาไว้ เครื่องดีเซลก็ทน ไม่ต้องเติมยูเรียลงไปผสมเหมือนรถดีเซลรุ่นใหม่ๆเพื่อลดมลพิษ ลดควัน ไม่มีระบบแคนบัส แบบไฮโซ แบบลิฟท์
ไฟสูงยังต้องลิ้งค์สัญญาณ ผ่านแคนบัส ไม่มีครับ ระบบตรงไปตรงมา สวิทช์ผ่านรีเลย์ ไวตามมือ ทนตามตีนครับ ขอให้ได้รถที่ถูกใจครับ จริงๆ
ในขณะที่ผมพิมพืยังมีอีกหลายรุ่นแล่นเข้ามาในหัวแต่พอแล้วครับ ขี้เกียจพิมพ์แล้ว555 เดี๋ยวเลือกไม่ถูก