กลับมาเรื่องสุดท้ายที่ผมได้ test V40 ก็คือ
Sohol95 vs E20ในวันกลับนั้นได้เปลี่ยนมาเติม Sohol95 ที่ระนอง เพื่อต้องการ test ให้หายคาใจ...เมื่อวิ่งไปได้ประมาณ 500 km. (ถึงแถวสมุดสงคราม) เติมเต็มถังอีกครั้ง ตัวเลขที่คำนวณได้คือ 15.2 km/lit
...และแล้วผมก็ได้ไขปริศนาที่เข้าใจผิดมาตลอดว่า E20 น่าจะซดน้อยกว่า Sohol95 ไม่เกิน 10%... เพราะเอาคิดตามตรรกะง่ายๆ ว่าก็มันมีแอลกอฮอล์ผสมมาอีกแค่ 10% เองนี่นา...แต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น! มาดูตัวเลขสรุปกัน
1. E20 = 13.2 km/lit =
2. Sohol95 = 15.2 km/lit
3. E20 เปลืองมากกว่า = 2/15.2x100 = 13.16%ด้วยความบังเอิญในนิตยสาร
What Car? ฉบับเดือน Jun-14 ที่ผมพกติดตัวไปด้วยใน trip นี้พอดี เค้ามีบทความเรื่องการ test น้ำมัน E0 (น้ำมันเบนซิน 100%) และ E10 ในประเทศอังกฤษกับรถ 4 รุ่นที่มีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันไป
ผลที่ได้ก็คือ E10 สิ้นเปลืองมากกว่า E0 โดยรวมเกิน 10% (คันที่แย่สุดเปลืองขึ้นถึง 15.91%) คล้ายๆ กับที่ผมได้ทดสอบไป... ข้อสรุปก็คือปริมาณแอลกอฮอล์ที่เพิ่มขึ้นมานั้นมันมีผลต่อ performance โดยรวมของเครื่องยนต์ แต่บอกไม่ได้ว่าแต่ละรุ่นจะเปลืองขึ้นเท่าไหร่ต้อง test จากของจริงดู
บ่ายสามโมงกลับถึงบ้านชลบุรีโดยสวัสดิภาพ
Last but not least
เรื่องสุดท้ายที่ไม่ได้ test แต่ต้องอยู่กับมันไปตลอดทางก็คือเบาะของรถ Volvo ที่เค้า design ได้ amazing มากๆ ... ขับมา 5 วันมีอาการปวดหลังน้อยมาก เมื่อเทียบกับรถปาเจโร่สปอร์ต หรืออัสติส ถ้าขับยาวๆ ติดกันขนาดนี้เมื่อกลับถึงบ้านต้องออกอาการระบมตั้งแต่ช่วงหลังไปถึงเอวกันไปอีกหลายวัน
...สมกับราคาคุยที่ Volvo เค้า promote ว่าได้ไปปรึกษาศัลย์แพทย์ด้านกระดูกเพื่อการ design เบาะโดยเฉพาะ... มาถึงจุดนี้ทำเกิดความสงสัยว่าที่ประเทศญี่ปุ่นเค้าไม่มีแพทย์ด้านกระดูกให้ปรึกษากันบ้างหรือไร??? ถึงทำเบาะมาได้ทรมานหลังขนาดนี้>>บทสรุป>>กลับมาที่จุดเริ่มต้นที่ค้างไว้ก็คือเรื่องอัตตาตัวตนของเจ้า V40 คันนี้เป็นอย่างไร
...เรียนตามตรงว่าในตอนแรกรถ Volvo นั้นไม่เคยมีอยู่ในหัวผมเลย เพราะรุ่นก่อนๆ design มันไม่โดนเลยแม้แต่น้อย... แต่พอเจอรุ่น V40 เกิดถูกใจเลยไปถามเพื่อนๆ ที่ใช้ Volvo ดู ซึ่งก็มีอยู่น้อยเต็มที แต่ก็ยังรวบรวมได้คำตอบมาว่าข้อเด่นของรถ Volvo คือช่วงล่างที่นุ่มสบายนั้นเป็นอะไรที่เฉพาะตัว ...ส่วนข้อด้อยก็คือเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างอืดและซดเอาการ
...แต่นั่นก็เป็นเรื่องของยุคก่อนหน้านี้ที่ Volvo เค้ายังไม่ได้ develop เครื่องยนต์รหัส T5 พละกำลัง 213 แรงม้าที่ลงใน V40 ตัวนี้ (และใน S60 และ XC60 ที่กำลังจะมาถึงเมืองไทยในอนาคตอันใกล้) ...ส่วนอัตราการบริโภคก็อย่างที่ได้ show ตัวเลขไป...ในที่สุดความแรงและความประหยัดมันก็หันหน้าเข้าหาหันซะที!และสุดท้ายนี้จากที่ได้ใช้งานมาร่วมกว่า 12,xxx km ในสภาพถนนที่แตกต่างกันทั้งทางใกล้และทางไกล ทั้งทางเขาและทางราบนั้น...ผมพอที่จะให้นิยามถึงอัตตาตัวตนของ Volvo V40 ได้อย่างสั้นๆ ว่า
อาจจะไม่หรูเท่า Benz ไม่แรงเท่า BM ...แต่รถ Volvo นั้น มันช่างเต็มไปด้วยสุนทรีย์ภาพในการขับขี่เสียจริงๆ (เป็นเรื่องของ feeling ล้วนๆ ใครจะชอบไม่ชอบอย่างไรต้องลองไป test กันดูเอาเองนะครับ)
The End***ขอขอบพระคุณทีมงาน Headlight Magazine ทุกท่านอย่างมากมาย ที่ได้สร้างสรรค์ website อันสุดยอด...สำหรับผู้ที่คลั่งไคล้โลกแห่งยานยนต์ทุกท่าน ณ ที่นี้ครับ***