ผู้เขียน หัวข้อ: ช่วยแชร์ประสบการณ์การซื้อรถยุโรปคันแรกของคุณให้ฟังหน่อยครับ?  (อ่าน 12162 ครั้ง)

ออฟไลน์ shinken

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
พอดีผมใช้รถญี่ปุ่นมาได้ซักระยะนึงแล้ว อยากจะลองเปลี่ยนไปใช้รถยุโรปดูบ้าง อยากถามคนที่เคยใช้ว่าเป็นอย่างไรบ้าง เช่น ค่าซ่อมแพงไหม ดูแลรักษายากหรือเปล่า และรถยุโรปคนแรกของคุณยี่ห้ออะไร ซื้อจากที่ไหนกันบ้างคับ

ออฟไลน์ NONT4477

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 9,851
  • Let the SKYFALL
อยากเป็นคนที่สามารถมาตอบกระทู้นี้จัง  ;D
แต่ผมว่าพี่ Insideout น่าจะให้ข้อมูลที่ดีได้ครับ ลอง Search หากระทู้ของพี่เค้าดูครับ
Top Gear's Biggest FAN!!! (IN MY House)
I'm NAC1701  ^ ^

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,405
ถ้าที่ใช้เองก้ 525d ซื้อ millennium คับแต่รถยังอยู่ใน BSI เลยยังไม่รู้สึกอะไรคับแต่เท่าที่ๆบ้านใช้มาแน่นอนคับอะไหล่ค่าบำรุงรักษาแพงกว่าญี่ปุ่นแน่นอนแพงกว่าอย่างน้อยๆก้ 30%. ต่อครั้งย้ำว่าอย่างน้อยนะคับ ถ้าถามว่าคุ้มมั้ยถ้าคิดจิงๆไม่คุ้มคับแต่ถ้าชอบหน้าตาและสมรรถนะและความดูดี แน่นอนสำหรับหลายๆคนคิดว่าคุ้มค่าคับ แต่สำหรับผมต่อไปคงซื้อรถยุโรปเฉพาะพวก Coupe หรือพวก 2dr ทั้งหลายถ้าเป็นรถ 4 ประตูผมว่าขับแค่ญี่ปุ่นก้พอละคับเปลี่ยนได้บ่อยกว่าด้วย

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806
ถ้าหมายถึงซื้อเอง ของผมก็ F30 นี่แหละครับ แล้วก็ต่อด้วย x1

BMW เป็นรถที่ผมไฝ่ฝันแต่เด็ก ตอนจบมหาลัย ก็ตะล่อมให้แม่ซื้อ E34 เป็นยุโรปคันแรกของบ้าน ก็ประทับใจมากๆ ใช้มาถึงเดี๋ยวนี้ 18 ปีแล้ว

พอทำงาน ก้าวหน้ามาขึ้น ซื้อรถญี่ปุ่นมาเกิน 10 คันในช่วงที่ทำงานมา 18 ปี (รวมของแฟน) ก็คิดว่าถึงเวลาแล้ว ตัดสินใจ กัดฟัน ก็จัดเลย แน่นอน เอาที่ชอบก็คือ BMW และ F30 ก็สวยถูกใจมาก ใช้มาจะ 2 ปีแล้ว ยังไม่มีงอแง เข้า 0 check ระยะปกติ ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ที่ซื้อ BM ก็เพราะ BSI ด้วยนี่แหละครับ  แต่จากที่ซ่อม E34 อะไหล่ แพงกว่าญี่ปุ่นเฉลี่ย เท่านึง ก็พอรับได้กับราคารถ และการขับขี่ที่ดีกว่า และนั่งแล้วรู้สึกปลอดภัยกว่า

ตอนนี้ก็มั่นใจ ว่าคันต่อไปก็คงยุโรป  บางคนบอกไม่เห็นจำเป็น แต่ผมเป็นคนขับรถเร็ว พอเกิน 120 บอกเลย ยุโรปกับญี่ปุ่นมันต่างกันมากๆ ครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ More

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 39
    • อีเมล์
ผมใช้ x3 ครบ 1ปี ยังมี bsi อยู่เลยไม่เท่าไหร่ แต่ล่าสุดผ้าเบรคหลังหมด เขาเปลี่ยนจานเบรคด้วยเลย
ถ้าจ่ายเองก็คงสะดุ้ง แต่ก็คิดไม่ถึงเพราะใช้ฟอร์จูนเน่อร์ ผ้าเบรคหมดก็เปลี่ยนเฉพาะผ้าเบรค
เพิ่งใช้รถยุโรปเป็นครั้งแรกครับ

ออฟไลน์ Hawkdriver_Nock

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
ที่บ้านมี W124 อยู่คันนึงครับ รถไม่จุกจิกเท่าไร แต่ซ่อมทีนึงก็แพงกว่ารถญี่ปุ่นราว 50% ได้ ถ้ารถเก่าแนะนำว่าให้หาอู่นอกใกล้บ้านฝีมือดีไว้สักอู่ครับ

เพิ่งออก F30 อีกคัน ตอนนี้มี BSI คลุมอยู่ รอดูอีกทีตอนครบ 5 ปีครับ ระหว่างนี้ผมก็ศึกษาหาอู่นอกแถวบ้านไปก่อน เผื่อได้คบหาในอนาคต
1969 Volkswagen Type I
1991 Mercedes-Benz 230E
2014 BMW 320i

ออฟไลน์ trumpetx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 681
    • อีเมล์
ใช้มานานแล้ว แต่ที่ได้เป็นของตัวเองก็ f20

e36 ซ่อมไม่รู้จะซ่อมยังไงล่ะ เลยได้ใหม่ซักที

ขับมา 10เดือน จะ 30,000 โลแล้วขับสนุกมาก ชอบบริการและ bsi แต่แอบเซงตอนสลับล้อนิดหนึ่ง ไม่นึกว่าจะคิดตังด้วย

ตอน e36 เข้าแต่อู่ข้างบ้าน ซ่อมทุกอาทิตย์ แต่ก็ชอบน่ะครับ (เครื่องเก่าน็อคไปเรียบร้อย ลง1JZ แล้ว+ติดแก็สโลด)

ผมซื้อ mil paragon ครับ เกิดจากความบังเอิญ คุณแม่เดินผ่านแล้วก็บอกว่า สวยดีนะ เข้าไปดูไหม (ในใจคิดแล้ว เอาแล้วๆ ได้แน่ๆ) ไม่ถึง 10 นาที จองเลย

ก่อนหน้านี้ดู e60 ไว้ด้วย มือสอง วางเงินจองไปแล้ว แต่ไม่เอา ก็เสียเงินตรงนั้นไป เนื่องจาก รถปี 2004 10 ปีแล้ว ราคา 1.2ล้าน ซื้อมา ซ่อมบาน เลยออกป้ายแดงไปเลย

ออฟไลน์ ChiLun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,382
  • F10 525d M sport

รถผมไม่มี bsi เลยจ่ายค่าบำรุงรักษาเองมาตลอดซึ่งสรุปได้ว่าแพงกว่าญี่ปุ่นเกือบ100%ครับ แต่จุดที่ต่างคือเราเลือกเกรดน้ำมันเครื่องเองได้ครับ

Fox999

  • บุคคลทั่วไป
ถ้ารถยุโรปที่ซื้อเองคันแรกขอกผมก็จะเป็น325i e36คันที่ใช้ปัจจุบันจะเป็น328i f30กับevoque coupe
รถยุโรปส่วนใหญ่ผมใช้แต่bmwยี่ห้ออื่นเลยไม่ค่อยรู้ที่ผมใช้อยู่
ถ้าหมดbsiผมก็จะขายหรือไม่ก็เอาไปเทรินค่าซ่อมผมว่ามันก็พอไหวแต่ซ่อมไปซ่อมมามันไม่จบ

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
MG  นี่เป็นรถยุโรปรึป่าว

แล้วอย่าง Ford focus ที่พัฒนาขึ้นในยุโรป ถือเป็นรถอะไร

Lexus นี่ถือเป็นแบรนด์เทียบเท่า Benz BMW แต่ยังเป็นรถญี่ปุ่น



อย่ายึดติดกับคำว่ายุโรปมากเกินไปเลย รถหลายรุ่นอย่าง Peugot หรือ Citroen ก็วิ่งสู้รถญี่ปุ่นในราคาเท่ากันไม่ได้
ผมเข้าใจคำถามนะ แต่เปลี่ยนเป็น รถPremium จะตรงประเด็นกว่า

ออฟไลน์ eirene

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 69
รถยุโรปคันแรกของผม Volvo S80 ครับ

มันไม่รักดีเอามากๆ เหมือนมันมีชีวิต และมันค่อนข้างเกลียดผมพอสมควร ผมเองก็ไม่รู้สาเหตุว่าทำไมรถถึงเกลียดผม

ความกวนของเจ้ารถคันนี้มันเป็นอย่างนี้ครับ คือคนอื่นในบ้านผม ไม่ว่าจะพ่อผม หรือแฟนผมใช้ มันจะไม่เคยมีปัญหาอะไรเลย ไม่เคยเลยแม้แต่ครั้งเดียว

แต่เมื่อผมจับมันปุ๊ป คำนวณได้เลยว่า ใน 3 ครั้งที่ผมขับมัน จะมี 1 ครั้งแน่นอนที่มันมีปัญหากับผม

ปัญหาที่เคยเกิดกับผมทั้งหมดที่มันเล่นงานผมมีดังนี้ครับ

1.หลอดไฟหน้าข้างซ้ายขาดไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่เพิ่งใช้งานไม่กี่พัน ชม.
2.ซีลยางไฟหน้าอยู่ดีๆก็มีน้ำซึม
3.มันปลดล๊อคอัตโนมัติ 3 ครั้ง ช่วงที่ผมขับรถ 120+ กิโลเมตร/ชม.
4.หม้อน้ำแตกตอนผมอยู่บนถนนในต่างจังหวัด ขับรถต่อไม่ได้ ต้องยกกลับ
5.พัดลมระบายความร้อนเครื่องยนต์ดับ เครื่องร้อนจัด
6.ไฟเตือนแดงๆ ขึ้นๆ ดับๆ
7.ลำโพงหน้าด้านขวาช๊อตจนต้องเปลี่ยนใหม่
8.น้ำหม้อน้ำอยู่ดีๆก็เหือดแห้งไม่ทราบสาเหตุกลางถนนต่างจังหวัด
9.ขับอยู่เลนกลางตามปกติ มีมอเตอร์ไซค์มาชนท้ายเต็มแรง
10.เครื่องดับกลางอากาศ กำลังวิ่งอยู่ที่ความเร็ว 80 ตั้งสติได้สตาร์ทใหม่แล้วเบรค เกือบชนรถคันข้างหน้า

อาการที่ผมว่ามาทั้งหมด มันไม่เคยเกิดขึ้นกับคนอื่นที่ขับรถคันนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว โกรธสุดขีดหมดความอดทนกับมัน ผมเลยตัดสินใจตั้งขายในเว็ป ตอนที่ตกลงซื้อขายจบแล้วเจ้าของใหม่มารับรถ ก่อนส่งมอบรถถึงเจ้าของรถคนใหม่ มันสะอึกน้ำมันโดยไม่มีสาเหตุ ขับไปกระตุกไปตลอดทาง แต่พอไปถึงมือเจ้าของคนใหม่ ผมโทรไปสอบถามเจ้าของรถคันใหม่หลังจากนั้น 2 วัน เจ้าของใหม่บอกรถขับดีมาก ไม่มีปัญหาอะไรเลย เออ... เอากะมันสิไอ้รถคันนี้

ออฟไลน์ Insideout

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 566
555 ขอบคุณน้อง NONT4477 ที่ช่วยแนะนำให้

ผมเป็นคนที่เพิ่งเปลี่ยนมาใช้รถยุโรปคันแรกได้ 1 ปีพอดี
ไม่ได้มีฐานะหรือมีเงินมีทองอะไรมาก
เป็นคนทำงานหาเช้ากินค่ำทั่วๆไปที่ไม่มีภาระครอบครัว
อยู่โสดก็เลย กล้าลงเงินซื้อครับ ไปลอง test drive แล้วชอบช่วงล่าง และ ฟิลลิ่งหลังพวงมาลัยที่ห่อหุ้มคนขับของ F10 มาก
ผมซื้อ F10 520i จาก BMW TH มี BSI 5 ปี
ก่อนหน้านี้ใช้ Mazda 3 2.0 ปี 2010

ค่าใช้จ่ายเป็น 0 เลย เพราะมี BSI ศูนย์บริการก็ดีมาก
เรื่องการขับขี่ ต้องบอกว่าทิ้งรถเดิมขาดกระจุย ทั้งๆที่ Mazda 3 ก็โอมากแล้ว
มีความสุขทุกครั้งที่ได้ขับรถไปทำงานตอนเช้า หรือ ขับกลับบ้าน
เสียงเครื่อง กับช่วงล่าง การเก็บเสียง ฟินนาเล่มาก
ยิ่งวันหยุดขึ้นทางหลวง พาพ่อกับแม่ไปกินข้าวชานเมือง ความเร็วสูงนิ่งหนึบ

ตั้งใจว่าหมด BSI จะเทิร์นเปลี่ยนเป็น 5 Series โมเดลใหม่ ตัว top เลยครับ
ไม่ต้องลังเล หรือเสียดายเงินแล้ว (ตอนนั้นลังเลจะเอา 528i แต่สุดท้ายเอาส่วนต่างไปซื้อ LTF แทน)

รถยุโรปอื่น ไม่แน่ใจนะครับ รอความเห็นท่านอื่น

ออฟไลน์ mrpich

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,197
  • เฮ้อ...อยากจะเหมาทั้งวง
คันแรก  bmw e36 compact ซื้อเพราะเป็นรถเพื่อนสภาพดีมากเลยเอามา ซ่อมจุกจิกตามประสา ขับดีมาก ราคาค่าซ่อมพอๆกะรถญี่ปุ่นเข้าศูนย์ แต่ความถี่บ่อยกว่า
คันที่ 2  benz190e รถคนรู้จักวิ่งน้อยมาอีกเหมือนกัน จุกจิกไม่ต่างจาก e36 แต่รู้สึกช่วงล่างดีกว่า e36 หน่อย นุ่ม หนึบ แต่เครื่องe36 กินขาด
คันที่3 e46 แฟนอยากได้ รถวิ่งมาน้อยมากเหมือนกัน จุกจิกตามประสามเหมือน e36 แต่ขับดีกว่าเยอะ
สรุป คันต่อไป ผมไม่เอาอีกแล้ว อยากหารถนิ่งๆ สักคัน คงมองไปที่ subaru มากกว่าแล้วตอนนี้ รู้สึกใช้รถญี่ปุ่นแล้วนิ่งดีไม่ค่อยมีไรเสียจุกจิก เพียงแต่มันขับสู้ไม่ได้เลย เลยมองหารถญี่ปุ่น สมรรถณะสูงๆ หน่อย คิดว่าคันต่อไปคงมาจบที่เจ้า xv นี่ละ

แต่ก็ไม่แน่ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ทุกวันนี้ยังมองๆ e39 มือ 2 เอามาทำเป็น 540  อยู่เลย อยากลองสัมผัสเครื่องv8 ยุโรป ในราคาประหยัด อยู่เหมือนกัน อิอิ
ถูกใจฮโยยอน-ปลื้มซูยอง-ชื่นชมเจสสิก้า-คิดถึงยูริ-แอบปิ๊งยูนอา-ชอบซอฮยอน-ใฝ่ฝันซันนี่-หลงไหลแทยอน-สุดรักทิฟฟานี่

ออฟไลน์ Mr.Siri

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 148
ก่อนนี้ก็ใช้พี่โต กับพี่ฮอน
มาตัดสินใจใช้ BMW ตอนที่ได้ลองใช้ E34 series5 เนี่ยแหละครับ เมื่อสัก4ปีก่อน รถมือสามแล้ว
รถเก่าเป็นสิบปีแล้ว แต่ขับดีมาก นิ่ง เก็บเสียงได้ดี เสียแต่กินน้ำมันมาก
เลยคิดว่าคันต่อไปต้องเป็น BMW อีก มองรถใหม่ไว้ตั้งแต่ E90 series3 แล้วก็มาลงเอยที่ F30 320D
ได้มาใช้ปีกว่าแล้ว พอใจในการขับขี่นะครับ ทั้งสมรรถนะ การทรงตัว และประหยัดน้ำมัน
แต่ถ้าเทียบกับ E34 แล้ว การเก็บเสียงของE34 ดีกว่าเยอะครับ คันใหม่นี่ติดไฟแดงยังได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์คุยกันอยู่เลย
อีกประสบการณ์นึงคือ เวลาถูกชน ช้ำใจ เจ็บใจ กังวลมากกว่าตอนที่พี่โต หรือพี่ฮอนถูกชนเยอะ
ส่วยศูนย์บริการ บาร์เซโชน่า ดูแลดีครับ

ออฟไลน์ popdemonic

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 190
  • I'm Back!
ที่บ้านผมใช้รถยุโรปมาตลอดตั้งแต่จำความได้รถของตัวเองจริงๆคันแรกคือ
vw passsat เมื่อเกือบ20ปีก่อนยังนุ่งกางเกงนักเรียนขับไปเรียนเลยตอนม.4
ก็เสียตามอัตภาพครับ แต่ผมทำรถเองรื้อรถเองมาตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้วก็เลย
เฉยๆไม่มีไรตื่นเต้นเกี่ยวกับรถยุโรป

ออฟไลน์ mxmx

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 401
รู้สึกดีคับ ชื้อ benz คันแรกได้ด้วยตัวเอง แต่ค่าบำรุงรักษาก็แพงตามตัวรถแหละคับถ้าจะให้ดีมีรถญี่ปุ่นไว้สลับใช้งานจะดีมากคับ ช่วงหน้าฝน น้ำท่วม ขับญี่ปุ่นลุยสบายใจกว่าคับ

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,632
  ผมไม่มีประสบการณ์การใช้แต่ขอแชร์เรื่องประสบการณ์การซ่อมแล้วกันน่ะครับ

1. รถยุโรปคันแรกที่ปลุกปล้ำกับมันคือ Renault R19   เป็นยุโรปคันแรกที่ลงมือซ่อมและเป็นคันสุดท้ายของ เรโนลต์ที่คิดรับเอามาซ่อม เพราะผมไม่มีฝีมือเพียงพอจะเอามันจบได้    ไปถามวงการซ่อมรถเดียวกันเขาบอกว่าอย่าแม้แต่จะคิดเอามาเปลี่ยนเครื่องคือให้ปล่อยไปเลย    เอามาซ่อมและวิ่งเทสต์อยู่หลายครั้งก็ปล่อยคืนเจ้าของไปยอมแพ้ที่จะซ่อมกับมันต่อ  รถไม่ได้มีฟิลลิ่งดีอะไรมากมายและรถไม่ใช่ว่าจะดีมากมาย   แต่ฟิลลิ่งน่ะดีกว่ารถญี่ปุ่นแน่อันนี้นะใช่      แต่วงการช่างคงไม่มีใครอยากเอารถแบบนี้มาเป็นภาระกับอู่หรอก  

 2. รถยุโรปคันต่อมาคือ Volvo ซีดานรุ่นนึงปี2002  เข้าเช็คระยะทีนึงไม่ต่ำกว่าหลักหมื่น   ถึงแม้ไม่จุกจิกในระยะ 0- 8 หมื่นโล  แต่เกินกว่านั้นชักออกอาการไม่ดี    โปรแกรมไม่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ แต่พอ1 แสนโลขึ้นไป เกียร์ Volvo มักจะพังรวมถึงไอ่โน่นไอ่นี่มักจะพัง โช๊คอัพบางรุ่นของ Volvo ราคาตัวนึงเป็นหมื่นจากศุนย์        ลูกค้าทั่วไปมักเข้ดขยาดกับ Volvo  ช่างเองก็ยังเข็ดขยาดที่จะเอารถแบบนี้มาใช้    เรื่องซื้อไม่ต้องพุดถึง แค่เอามาใช้ยังไม่เอาเลย แต่มักจะตอบลูกค้าว่าเป็นรถที่ดี      คิดดูเอาเองก็แล้วกัน

 3. BMW  520 รุ่นบิ๊กโนส  อยู่กับเจ้าของอู่ซ่อมรถเองกับมือเป็นอุ่คนรู้จักกัน  ปรากฎว่า ช่างอู่เก่งเกินไปหน่อยคิดว่าซื้อรถรุ่นนี้มายังไงก็ซ่อมได้ทุกจุด   แต่สุดท้ายซ่อมไม่ไหวเปลี่ยนเครื่อง JZ  เลยดีกว่าเพราะมันจุกจิกเหลือเกิน     หลังจากนั้นก็ไม่ไหวอีกรถใช้งานวิ่งอะไหล่ทุกวัน  สุดท้ายพบคำตอบรถญี่ปุ่นดีกว่า  ขายทิ้งตามสภาพเลยให้มันหมดภาระ   ขนาดเจ้าของอู่ซ่อมรถยังถอดใจขายทิ้ง   เหอ เหอ  

4. อันนี้เป็นของลูกน้องที่ทำงานเองหลงใหลใน Land rover ชอบและรักเข้าขั้นบ้าทีเดียวใช้เวลาอยู่กับการซ่อมรถและปลุกปั้นทำให้สมบูรณ์สุดท้ายมันดึงเวลาครอบครัวไปหมด  จึงหันไปพึ่งพาอู่วัฒนะยนต์ที่เขารับซ่อม Land rover โดยเฉพาะ  เข้าออกอู่ซ่อมจนคุ้นเคยกับลูกน้องช่างซ่อมในอู่นั้นแหละ      ถึงขนาดเด็กในอู่ออกปากว่าพี่ใช้รถญี่ปุ่นเหอะ สบายใจวกว่าและตัวช่างซ่อมในอู่เองก็ขับไมตี้เอ้ก และรถญีปุ่นกันหมดไม่มีใครซื้อ Land rover ใช้เลยยกเว้นเจ้าของอู่     ลูกน้องผมก็เลยตัดใจขายมันออกไป

 รถยุโรปส่วนใหญ่จุกจิกซ่อมแพงกว่ารถญี่ปุ่น  ถึงแม้รถที่เขาบอกว่าดีก็เหอะ หรือบอกว่าอะไหล่ถูกก็ตาม  ถูกของเขาแต่ไม่อาจถูกของเราเพราะฐานะคนเราต่างกันแต่มาเล่นรถเหมือนกันค่าซ่อมก็เหมือนกัน  ต้องจ่ายเหมือนกัน       ขนาด เบนซ์W124  ที่บางคนบอกซ่อมถูกผมยังไม่เคยเห็นว่ามันจะซ่อมถูกกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นตลาดชาวบ้านใช้เลย       จากปสก. ที่เคยสัมผัสมาไม่อยากให้รถดึงเวลาของเราออกไป    ส่วนตัวผมรถยุโรปไม่ว่ารุ่นใดจะไม่ซื้อและไม่มีความคิดที่จะซื้อในหัวของผมเลยถึงแม้จะมีเงินซื้อก็ตามคิดว่าจ่ายมากเกินไปสำหรับฐานะอย่างผม  ยกเว้นให้เอามาใช้ฟรี  ๆ เป็นรถประจำตำแหน่ง แต่ต้องเป็นรถใหม่ไม่เกิน 5 ปีถึงจะเอา

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
ผม เป็นคนหนึ่งที่ไม่สนใจซื้อรถยุโรปเลย  แพงเกินไป  เทียบกับรถญี่ปุ่น..เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาแต่เสียดายเงิน....แต่ในวันหนึ่งผมได้ยินคนคุยกันดูรถคันหนึ่งว่าสภาพจะดีหรือไม่  ราคาแสนห้า..

ผมได้ยิน  ถามว่าแล้วจะซ่อมที่ไหนได้  เขาบอกอู่ออกมา  อ๋อตรงนี้นี่เอง  ลองซิ  วิ่งไปดูอู่  เออเข้าท่าแฮะ ทำยี่ห้อเดียว วิ่งไปดูรถ  เออหน้าตาน่ารักเล็ก ๆ  saab 900s   2.3  สีดำ  เอาตกลงซื้อวิ่งไปที่อู่

ช่างเห็นรถ  จะซื้อทำไม่ไม่ถามก่อน  ....
ผม  .อ้าว... 
ช่าง  สภาพมันไม่ค่อยดีช่วงล่างแย่ โซ่หน้าเครื่องดัง  เกียร์สภาพไม่สมบูรณ์....ซ่อมหมดเยอะนะ
ผม   งั้นแบ่งเป็นช่วง ๆ พอได้ไหม(ซื้อมาแล้วนี่) 
ช่าง  พอได้  งั้นชุดแรกทำช่วงล่าง  เปลี่ยนระบบแก๊สจากดูดเป็นฉีดก่อน...จากนั้นค่อยเปลี่ยนโซ่หน้าเครื่องและเกียร์

   ทำช่วงล่าง +แก๊ส หมดไปสี่หมื่น....วิ่งมาสองหมื่นโล   เกียร์เตือนว่าหมดสภาพ  ให้เข้าซ่อม...  ทำชุดหลังอีก  เจ็ดหมื่น.....เล็ก ๆน้อย ๆ นิดหน่อย เปลี่ยนแม็ก ยางฯลฯ   รวม  ซื้อแสนห้า  +ซ่อมแสนห้า  วิ่งอีกสองปี  ไม่มีปัญหาอะไร  จนขายออกไปที่แสนหนี่ง

****ส่วนคันที่สองสามสี่ และห้า  ดูพอเป็นแล้ว  ช่างสอนให้ดูหมด (เฉพาะ saab แต่ละรุ่น)  แทบไม่ต้องซ่อม  ****

ออฟไลน์ mothsan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,559
เมื่อก่อนใช้แต่ Honda มาตลอด ก่อนหน้านั้นตอนเด็กพ่อเคยซื้อ S class W126  มือสองมาใช้ ซ่อมกระจาย โดนฟันหัวเลอะเลย หลังจากนี้ก็เปลี่ยนกลับมาใช้ Hon กะ พี่โตเหมือนเดิม ล่าสุด ได้ออก 116i ด้วยเงินตัวเอง มันก็ปลื้มใจดีครับ เอาแค่ตัวนี้พอ เพราะขับดีมาก พอใจแล้ว จ่ายมากกว่านี้เริ่มเสียดายเงิน ที่ต้องลงทุนไปกับรถล่ะ
ใช้มา 1 ปีนิดๆ ขับดี ประหยัดน้ำมัน แรงพอตัว แต่บางที่ก็ขับไม่ค่อยสบายใจ ไม่กล้าจอดที่ที่ไม่ปลอดภัย  กลัวคนอื่นมาชนแล้วต้องรออะไหล่นาน  เทียบกับขับรถญี่ปุ่นอีกคันแล้วสบายใจกว่าเยอะครับ ประมาณว่า

รถยุโรป : ขับมััน ขับฟินมั่นใจ แต่ไม่สบายใจ ต้องค่อยดูแล ล้าง ขัด มากกว่าปกติเยอะ
รถญี่ปุ่น : ขับสบายใจ ไม่ค่อยกลัวพัง ไว้ใจได้มากว่าทุกครั้งที่จะใช้ ก็แค่สตาร์ตมันก็ติด ใช้สบายๆ ไปอย่างต่ำก็ 5 ปี เปลี่ยนรถราคาก็ไม่ร่วงมากนัก แต่ไม่มัน ไม่ฟิน เท่ารถยุโรป
ต้องเลือกเอาครับ ว่า จะฟิน หรือ จะสบายใจ คุณให้ความสำคัญแบบไหนมากกว่ากัน

อนาคต
อายุเริ่มเยอะละ และได้มีโอกาสซื้อรถยุโรปป้ายแดงด้วยตัวเองล่ะ  คงไปซื้อรถ ญี่ปุ่น SUV ป้ายแดง ขับแทนล่ะ สบายใจกว่า ขับอย่างเดียว ลุยไปทั่ว ไม่ต้องห่วง เผลออาจจะไปจบที่ปิคอัพก็ได้
ถ้าอยากมัน อยากฟิน พอมีเวลา อาจจะหา Im หน้าแมวเก่าๆ  มือสองราคาสัก 5-6 แสนมาขับสักคัน  (ณ อนาคตก็เก่าแล้ว) เสียก็จอดค่อยๆซ่อมไป แต่คงไม่เอาพวก ลากรอบสูงๆ มาขับล่ะ เบื่อ อยากได้แบบเร่งปุ๊บมาเลย รถเยอะ ไม่มีที่ให้ลากรอบแล้ว หรือไม่ก็รถ C segment ญี่ปุ่นมือสอง มาเซ็ตโบเบาๆ เน้นแรงบิดรอบต่ำมาขับสักคัน
 งบรวมๆ อาจจะถูกกว่าซื้อรถยุโรปดีๆ คันนึงครับ แต่มันตอบโจทย์ผมได้มากกว่านะ
และก็ซื้อ MPV ไซด์กลางๆ ให้แฟนไว้รับ ส่ง ลูกอีกคันก็พอล่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 07, 2014, 16:45:46 โดย mothsan »

ออฟไลน์ localgame

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,592
ส่วนใหญ่ใช้รถยุโรปสลับกับรถญี่ปุ่นมาตลอด มีทั้งญี่ปุ่นและยุโรปmassไปจนถึงpremium

โดยรวมคุณภาพรถยุโรปจะดีกว่า (เทียบในรถระดับเดียวกัน เช่น benz bmw audi เทียบกับ lexus acura infiniti

หรือ  renault citroen seat volk skoda กับ toyota honda nissan)

แต่ด้วยความที่ไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย เลยทำให้รถยุโรปหาช่องซ่อมยากกว่าหน่อย

พอเวลารถเสีย คนใช้รถยุโรปก็เอาให้ช่างทั่วไปซ่อมบ้าง พอซ่อมไม่จบก็หาว่ารถไม่ดี จุกจิก ปัญหาเยอะๆ ทั้งๆที่ถ้าถึงมือผู้ที่ชำนาญ

แล้วอาจจะเป็นแค่เส้นผมบังภูเขา ถ้าเจออู่ดีๆ ไม่หลอกลวง ยังไงราคาก็ไม่ต่างกันในเรื่องของค่าแรง

บางคนก็บอกว่าอะไหล่ราคาแพง ก็อาจจะเกิดจากหลายสาเหตุ อาจจะเป็นเพราะไม่รู้แหล่งที่ซื้อ ก็เลยให้ช่างหาให้ ช่างก็ฟันกำไรค่า

อะไหล่เพิ่ม จากประสบการณ์ตรง ส่วนใหญ่ผมหาอะไหล่เอง ราคาแทบไม่ห่างกัน บางอย่างถูกกว่า บางอย่างแพงกว่า แต่ต้องเทียบ

ตามระดับ ยี่ห้อที่เท่าๆกัน

มาถึงเรื่องการซ่อม รถญี่ปุ่น toyota crown ms133 เครื่อง 5M ใครๆก็บอกว่าอะไหล่หาได้ ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้ พอถึงคราวเครื่องเสีย

ต้องโอเวอฮอล เบิกอะไหล่ศูนย์ ศูนย์บอกว่าไม่มีอะไหล่ พอจะไปหาเครื่อง5Mมือสองมาเปลี่ยนให้เหมือนเดิมก็หาไม่มี สุดท้ายช่าง

แนะนำบอกให้เปลี่ยนเครื่อง J ก็เลยไม่สนใจพยายามหาอะไหล่มาจนครบ ปัจจุบันก็ยังซ่อมให้สมบูรณ์เหมือนเดิมไม่ได้

แต่พอด้านรถยุโรป บางรุ่นก็หาอะไหล่ได้ บางรุ่นก็ไม่มีขึ้นอยู่กับความนิยมของยี่ห้อนั้นๆ แต่ส่วนใหญ่ benz bmw ก็มีอะไหล่หมดนะ

ออฟไลน์ swan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 901
ใช้ BMW E90 เป็นคันแรก ตอนนี้สามปีกว่าแล้ว ก็แฮปปี้ดีทุกอย่าง มีให้ต้องปรับแก้บ้างเล็กๆน้อยๆ แก้แล้วจบ ไม่เสียตังค์ เพราะมีประกันศูนย์ ถ้าเทียบกับ CIVIC FD อีกคันที่ออกป้ายแดงมา อันนั้นปัญหาเพียบ จนทุกวันนี้ 6 ปีก็ยังแก้ไม่หาย แต่ก็ทนๆใช้มันไป ส่วนคันอื่นๆบางคันก็ดีบางคันก็รวนคละเล้ากันไปแต่ไม่มีคันไหนเท่า FD
รถยุโรปดีในเรื่องของสมรรถนะการขับขี่  แต่ไม่ดีเรื่องที่ราคาแพงไปหน่อย อะไหล่หาง่ายไม่ต่างจากรถยี่ปุ่นเท่าไหร่ แต่แพงกว่าค่อนข้างมาก รถญี่ปุ่นก็ใช่ว่าจะไม่จุกจิง เจอคันที่รวนก็รวนใจหายเหมือนกัน ถ้ามีคันต่อไปจะมองที่รถยุโรปก่อนรถญี่ปุ่นแน่นอน

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาดูครับ :)

ออฟไลน์ tonph079

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
ถ้าชอบซื้อได้ซื้อเลยครับ
ผมว่า. ซื้อรถได้ ค่าบำรุ่งรักษา ไม่น่ามีปัญหา มั่งครับ
Bmw Volvo. ฟรีค่าบำรุงรักษา 5 ปี ครับ. ใช่ยาวครับ
Benz. 10,000 โลแรก ของผม ประมาณ 7,000 บาท ครับ (CLS)

ส่วนซื้อที่ไหน ผมเชียรรถศูนย์ครับ
ซื้อที่มีศูนย์ใกล้ก็ดีนะครับ ดูแลง่ายดี

ออฟไลน์ kibrain

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 104
E30 2door ซื้อมา 130k วางJZ เครื่องพัง ขาย
E30 4door ซื้อมา50k วาง Sr bo โมกระจาย ขาย
E34 525 ia ปี95 ซื้อมา290k bignose โครตมัน เครื่องทนโครต ติดแก๊สวิ่งฉิวๆ ใช้2ปี จุกจิ๊กนิดหน่อยไม่มาก
E36 323 i ปี96 ซื้อมา 320k ติดแก๊ส ประหยัดๆ ขับมัน ซ่อมถูก อะไหล่บาน ใช้1นึงขาย
E39 523 sport ซื้อมา 5แสนปลาย โครตนิ่ม ขับสบาย ช่วงล่างทำเยอะหน่อย เป็นรถที่ชอบที่สุดแต่ก็ขายไป
ปัจจุบัน E46 323 ปี00  เจอศึกหนัก จุกจิกมากมาย ล่าสุด ออยแตกโดนค่าซ่อมไป2หมื่น ว่าจะขายหารถ japanใช้ แต่ก็ยังทำใจไม่ได้จริง

สาเหตุที่ผมยังชอบใน bmw คือ ช่วงล่าง เครื่องยนต์ และเทคโนโลยี ที่ให้มาคุ้มค่ามากเทียบกับรถยุคนั้นๆ

ผมก็ใช้รถญี่ปุ่นบ้าง แต่สุดท้าย ก็ตายที่bm ตลอด

ออฟไลน์ dazetos

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 406
ของผมใช้ 3 ข้อง่ายๆครับ ;D

1. "ชอบ" ง่ายๆ ครับ ทั้งผม และภรรยาชอบ

2. "พร้อม" แน่นอนครับ เงินต้องพร้อม ไม่จำเป็นต้องซื้อสด แต่ไม่กระทบกับธุรกิจ และพร้อมสำหรับการดูแลรักษา

3. "ซื้อ" ซื้อมาใช้งาน และมีความสุขไปกับมันครับ

 ;)

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
ซื้อ MG6  ดูซิครับ สายพันธ์อังกิตนะตัวเทอว์

ออฟไลน์ holahola66

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,797
    • อีเมล์

รถหลายรุ่นอย่าง Peugot หรือ Citroen ก็วิ่งสู้รถญี่ปุ่นในราคาเท่ากันไม่ได้

[/quote]

พูดเปนเล่นครับ Peugeot406 ราคาสองแสนตอนนี้ ป้ายแดงล้านต้นๆ ผมว่ามันวิ่งดีกว่า new camry ล้านปลายๆที่ขายตอนนี้ซะอีก (ไม่นับอัตราเร่ง)
ส่วน Citroen เคยนั้งC5 ที่น่าตาประหลาดๆ แต่มันนิ่ม นุ่ม เนียนกว่า Benz  w211 ผมซะอีก
Mercedes C-Class W205 CDI
BMW 116i f20
Honda Civic EG 3door D16a turbo MT
Nissan March 1.2 cvt

ออฟไลน์ PunTam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 423
    • อีเมล์
ความที่บ้านผมเป็น Corolla Mania ก็ว่าได้ (ใช้มาตั้งแต่ KE10) พอคุณลุงผมขยับตำแหน่งเป็นหัวหน้าแผนก ก็เลยตัดสินใจซื้อ Peugeot 405 ป้ายแดง และยก AE80 ให้พี่ชายผมใช้ไปเรียน (ปัจจุบัน 405 ยังใช้อยู่) เป็นรถที่ดีมากๆคันนึงครับ ช่วงล่างนุ่ม แต่เกาะ เรื่องอัตราเร่ง ยังวิ่งสู้รถรุ่นใหม่ๆได้สบายๆ ขับบนความเร็วสูงมั่นใจกว่า Altis โฉมที่แล้ว (พอดีเคยมีโอกาสขับทั้งคู่) เสียอย่างเดียว เป็นรถที่กินน้ำมันมาก ค่าซ่อมแพงและหาช่างที่เข้าใจเขาค่อนข้างยาก ไม่เหมือน BMW และ BENZ ครับ ถ้าท่านเจ้าของกระทู฿้อยากได้ และใช้งานระยะยาว รวมทั้งสามารถดูแลเขาได้ในเรื่องค่าซ่อมบำรุงที่สูง แนะนำให้ซื้อครับ รถบางยี่ห้อ บางครั้งต้องมีโอกาสขับจริงๆ แล้วจะเข้าใจ ทำไมมันแพงครับ(เฉพาะบางคันนะครับ)  ;D ;D ;D ;D ;D

ออฟไลน์ simon5500

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 6
ในรอบ 20 ปี ใช้รถมาหลายคัน เพราะเปลี่ยนรถบ่อย ล่าสุดใช้ F10 528i บอกเลยว่าประทับใจสุดในบรรดารถซีดานที่เคยผ่านมือ ผ่านเท้ามา โดยเฉพาะ Performance

ออฟไลน์ Pinky_Wink

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 1
"ของเรารถ Benz E200 Coupe ค่ะ อยากได้รถออพชั่นเยอะอะค่ะ ตอนแรกก็ลังเลว่าจะซื้อศูนย์หรือเกรย์ดี พอดีมีเพื่อนแนะนำโชว์รูมแถวลาดพร้าวซื่อ Rabbit Auto  เค้ามีรถออพชั่นเต็มพอดี  การดูแลรักษาก็เข้าเช็คตามกำหนดระยะเวลานะคะ มีศูนย์บริการก็อุ่นใจดีค่ะ"