ผมมีคำพูดบางประโยคอาจไม่สมควรพูดแต่ยืนยันว่าเกิดขึ้นจริง เพราะลูกน้องผมพูดตอนผมเข้ามาทำงานใหม่ ๆ QC ตรวจงานแล้วมาตรฐานห่วยแค่นี้ก็ปล่อยไปผมถามว่าทำไมปล่อยไป เขาบอกว่าลูกค้าโง่จะตาย แค่นี้ลูกค้าไม่รู้หรอก เมื่อลูกค้าไม่รู้คือไม่ใช่ปัญหา อีกประโยคนึงหัวหน้างานผมพูดว่ารถเราทำไปขายน่ะโว้ยไม่ใช่ทำไปทิ้ง ความต้องการของลูกค้าคือต้องการได้รถ ถ้าเขาไม่สนใจคุณภาพหรือปัญหาตรงนี้ให้ปล่อยรถขายออกไปเลย
555555 คนที่บอกว่ารถตัวเองไม่มีปัญหา
ไม่เห็นต้องเคลมอะไร ผมแอบหัวเราะทุกคนนั่นแหละ เพราะรถผลิตออกมาทุกคันมี Defect หมดในกระบวนการผลิตรถยนต์ เนื่องจากเขายอมให้เกิดของเสียได้บ้างแต่ต้องแก้ไขได้ หรือไม่มีผลกับความปลอดภัยหรือผลทางข้อบังคับกฎหมาย คนที่ใช้รถตลาดแล้วบอกว่ารถตัวเองดี อืม....ก็นั่นแหละลูกค้าพอใจคุณภาพ คงไม่มีพนักงนคนไหนไปเบรคท่านหรือไปชี้โพรงให้กระรอกแห่กันเอารถมาเคลมที่บริษัทหรอก
ผมและภรรยาอยู่ในวงการ automotive มาซักระยะ แต่เนื่องจากทำงานอยู่ที่ญี่ปุ่นมานาน(ร่วม10ปี)จึงเพิ่งจะกลับไทยมาซักพัก
เห็น attitude ของ คนไทยหลายๆคนข้างในชั้นปฏิบัติการ ดังท่านข้างบนกล่าวมากับตา (โดยเฉพาะ blue collar) ยืนยันว่าเป้นความจริง
เท่าที่สัมผัสมา คนญี่ปุ่นเองก็ปวดหัวกับ attitude เช่นนี้มาก คนดีๆก็เยอะ แต่หลายๆคนอวดเก่งและอีโก้สูงมาก
คนญี่ปุุ่นจาก HQ มาเทรนงาน และการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ให้ก็ไม่สนใจเรียรู้, process safety อะไรก็มองข้าม ไม่ยอมทำตามถือว่าข้าแน่
หนักกว่านั้นคือ ไปนินทา Trainer เค้าเสียๆหายๆลับหลัง คิดว่าตัวเองเก่งแล้ว (ส่วนมากคนญี่ปุ่นอายุ 4X-5X เด็กๆที่เข้าเทรน 2X - 3X)
แต่แน่นอน ไม่ใช่ทุกคน คนดีๆเก่งๆก็ยังมีอีกเยอะ เด็กเก่งๆ นอบน้อมตนผมก็ผ่านมาเยอะ
มันคงเป็นที่มาที่ว่าทำไม QC รถบ้านเรามันถึงไม่ค่อยได้คุณภาพเหมือนต่างชาติ (ที่พัฒนาแล้ว)
มีโอกาสได้ทานอาหารกับคนญี่ปุ่นบ่อยๆ เค้าเองก็บอกว่า เป็นไปได้ไม่อยากซื้อรถที่ผลิตในไทย (ผมงี้หน้าชาเลย...)
แต่แน่นอนว่าใน mass production การจะเกิด defect มันเป้นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ตราบใดที่ error rate นั้น
ยังอยู่ใน threshold ที่ยอมรับได้ แต่สิ่งสำคัญคือการออกมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ และรวดเร็ว โดยที่ลูกค้าลำบากน้อยที่สุด
ซึ่งจุดนี้ส่วนตัวผมว่า Toyota, Honda และ Isuzu ทำได้ดีมาก เลยทำให้ครองความเป็นเจ้าตลาดจนทุกวันนี้
เล่าเพิ่ม วันก่อน Battery Hybrid ของ Camry ผมเสีย และ ไฟเอนจิ้นโชว์ (รถอายุ4ปี)
ผมนำรถเข้าศูนย์ และได้รับการเปลี่ยนแบตลูกใหญ่ทั้งลูก โดยไม่มีค่าใช้จ่าย (ปกติเกือบๆแสน)
นับตั้งแต่เอารถเข้า ใช้เวลาเพียง สองวันหนึ่งคืน ก็ได้รถกลับมาแล้ว
ถ้าเป็นค่ายอื่นนี่....ตอบตรงๆผมไม่มั่นใจว่าเมื่อไหร่ผมจะได้รถคืน... หรือแม้กระทั่งว่าจะเสียเงินเท่าไร
อ้อ เดี๋ยวจะหาว่าผมเป็นแฟนโตโยต้า อยู่ญี่ปุ่นผมเป็นแฟนนิสสันมายาวนาน ใช้มาแต่นิสสัน ตั้งแต่ March (K12) ยัน Skyline (V35, V36)
แต่มาไทย พอเจอการบริการหลังการขายของโตโยต้า ... ผมบอกตรงๆว่า ผมลังเลที่จะซื้อยี่ห้ออื่นเล็กน้อย
(แต่ถ้ายี่ห้ออื่นคุ้มกว่าจริงๆ ผมก็ไม่ลังเลที่จะเปลี่ยนนะ
)