ผู้เขียน หัวข้อ: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น  (อ่าน 13997 ครั้ง)

ออฟไลน์ aod

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 412
    • อีเมล์
รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 12:59:05 »
รถจากแดน ปลาดิบ ต่างก็มีชื่อเสียงระดับโลก อายุการก่อตั้งก็หลายสิบปีเกือบร้อยปีก็ว่าได้ แต่ทำไม ความจุกจิก ความนิ่งของเครื่องยนต์ ปัญหาด้านเครื่องยนต์ พี่โตถึงได้นำหน้า คู่แข่ง ร่วมสัญชาติครับ เกิดจาก อะไรครับ  ;D

ออฟไลน์ Mortred

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 793
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 13:08:49 »
มีระบบไฮบริทที่โตโยต้านำชาวบ้านเค้าไปไกลมาก

แต่อื่นผมว่าก็พอๆกันนะ

ออฟไลน์ carpenter

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 296
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 13:34:40 »
ทุ่มทุนกับ R&D มากกว่าค่ายอื่นมั้งครับ

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 13:35:11 »
กระบะคอมมอนเรล โตโยต้าเป็นเจ้าแรกมั้ย หรือยังไงครับ

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 13:54:59 »
รถจากแดน ปลาดิบ ต่างก็มีชื่อเสียงระดับโลก อายุการก่อตั้งก็หลายสิบปีเกือบร้อยปีก็ว่าได้ แต่ทำไม ความจุกจิก ความนิ่งของเครื่องยนต์ ปัญหาด้านเครื่องยนต์ พี่โตถึงได้นำหน้า คู่แข่ง ร่วมสัญชาติครับ เกิดจาก อะไรครับ  ;D
แต่ก่อนเรากะคิดแบบนี้แล่ะ แต่ตอนนี้ใช้รถนิสสันอยู่ เราว่าไม่ต่างกัน
ที่มัน (เหมือน) จะต่างกัน เพราะน่าจะรถโตโยต้า คนใช้เยอะ ช่างคุ้นเคย อะไหล่เยอะ
เลยเหมือนซ่อมง่าย

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 14:39:18 »
เดี๋ยว ๆๆ ๆ ๆ ๆ

ใครบอกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ทนกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่น ๆ?

ถ้าคุณจะเทียบแค่สัญชาติ โดยไม่ดูลักษณะ โอเค ต้องบอกว่าพี่โตหลายรุ่น ทนกว่ารุ่นอื่น ๆ ของยี่ห้ออื่นหลายรุ่น

แต่คุณเคยได้ลองเทียบไอ้ที่มันมีเทคโนโลยีเท่า ๆ กันรึยังครับ ?  เคยไปนั่งดูรถโตโยต้าเคลมตอนเข้าศูนย์รึเปล่า ?

วันนึงมีเรื่องให้เคลมเป็นสิบ ๆ เรื่อง แต่ส่วนใหญ่ เคลมแล้วมันจบในศูนย์ ลูกค้าไม่ต้องมาโวยนอกศูนย์ครับ

แคมรี่ คอนโซลเหนียว คอยล์จุดระเบิดเสีย น้ำมันเครื่องซึม น้ำมันเกียร์ซึม เกียร์วืด ระบบคุมการทรางตัวมีปัญหา กระจกไฟฟ้าไม่ขึ้น1-5% ไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น เขาก็เคลมกันจบครับ ไม่ต้องให้ลูกค้าไปโวยเอาที่นอกศูนย์

แต่พอเป็น NISSAN MITSUBISHI สาเหตเหมือน ๆ กัน ปัญหาดันไม่จบ

คิดเอาง่าย ๆ เดินไปในท้องตลาดร้านขายอะไหล่ทั่วประเทศ อะไหล่ยี่ห้อไหนมากที่สุด ? โตโยต้า อีซูซุ ครับ ร้านอะไหล่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ประดับร้านนะครับ เขาซื้อมาตั้งขาย ขายเพราะมันมีรถเสียเยอะไม่แพ้ยี่ห้ออื่นนั่นแหละ

อาการของยี่ห้ออื่นที่มันแปลก ๆ นาน ๆ เจอที รถขายน้อยคัน อะไหล่มันก็เลยไม่มีคนเก็บ เวลาเคลมศูนย์ ศูนย์ยังส่ายหัว ร้านมันจะเก็บไว้รอใครมาซื้อล่ะ ?

แต่แน่นอนครับ โตโยต้ายังมี 1.5  เทคโนโลยี 20 ปีก่อนมาขายอยู่ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก กระจกไฟฟ้า ระบบกลอนไฟฟ้า ก็แสนจะธรรมดาไม่ซับซ้อน ถ้าทำอุปกรณ์พื้น ๆ เหล่านี้ทนไม่ได้ก็ปิดโรงงานไปได้แล้ว

ดูรถสมัยใหม่ที่ปัญหาเยอะ ๆ นี่ เกียร์ CVT แบบคุมด้วยไฟฟ้าบ้างล่ะ ระบบเบรคไฟฟ้าบ้างละ กล่องควบคุมเกียร์แบบdual clutch บ้างล่ะ ท่อพลาสติกแบบย่อยสลายบ้างล่ะ โอย เยอะ จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้มันจะใส่มาทำไมฟระ ทำมาแบบธรรมดาไม่เป็นรึยังงัย เอาไว้ใช้นะเว้ยเฮ้ย ไม่ได้แข่งกันทำเทคโนโลยีเหรียญทองโอลิมปิก



เอา ALTIS 1.6 แค่มี Remote Central lock เอามาเทียบกับรถ กดรีโมททีแทบจะทำให้รถแปลงร่างได้ มันก็ดูจะทนกว่าสิครับ

บอกว่าโตโยต้าทน ร้านอะไหล่มันคงเจ๊งกันหมดทั่วประเทศไปแล้วครับ เพราะทุกวันนี้อะไหล่ที่ขายอันดับหนึ่งคิดตามเปอร์เซนต์รถก็ยังเป็นโตโยต้าอยู่ดี



ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 579
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 14:41:02 »
ผมเคย ทำอะไหล่ใหม่รถญี่ปุ่น หลายๆยี่ห้อ
รวมทั้ง เคยอยู่และนำเข้าอะไหล่ญี่ปุ่นเก่า
จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
คหสต ชิ้นส่วนของโตโยต้า มีคุณภาพอายุยืนยาวกว่า รถญี่ปุ่นแบรนด์อื่น

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 14:55:33 »
เดี๋ยว ๆๆ ๆ ๆ ๆ

ใครบอกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ทนกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่น ๆ?

ถ้าคุณจะเทียบแค่สัญชาติ โดยไม่ดูลักษณะ โอเค ต้องบอกว่าพี่โตหลายรุ่น ทนกว่ารุ่นอื่น ๆ ของยี่ห้ออื่นหลายรุ่น

แต่คุณเคยได้ลองเทียบไอ้ที่มันมีเทคโนโลยีเท่า ๆ กันรึยังครับ ?  เคยไปนั่งดูรถโตโยต้าเคลมตอนเข้าศูนย์รึเปล่า ?

วันนึงมีเรื่องให้เคลมเป็นสิบ ๆ เรื่อง แต่ส่วนใหญ่ เคลมแล้วมันจบในศูนย์ ลูกค้าไม่ต้องมาโวยนอกศูนย์ครับ

แคมรี่ คอนโซลเหนียว คอยล์จุดระเบิดเสีย น้ำมันเครื่องซึม น้ำมันเกียร์ซึม เกียร์วืด ระบบคุมการทรางตัวมีปัญหา กระจกไฟฟ้าไม่ขึ้น1-5% ไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น เขาก็เคลมกันจบครับ ไม่ต้องให้ลูกค้าไปโวยเอาที่นอกศูนย์

แต่พอเป็น NISSAN MITSUBISHI สาเหตเหมือน ๆ กัน ปัญหาดันไม่จบ

คิดเอาง่าย ๆ เดินไปในท้องตลาดร้านขายอะไหล่ทั่วประเทศ อะไหล่ยี่ห้อไหนมากที่สุด ? โตโยต้า อีซูซุ ครับ ร้านอะไหล่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ประดับร้านนะครับ เขาซื้อมาตั้งขาย ขายเพราะมันมีรถเสียเยอะไม่แพ้ยี่ห้ออื่นนั่นแหละ

อาการของยี่ห้ออื่นที่มันแปลก ๆ นาน ๆ เจอที รถขายน้อยคัน อะไหล่มันก็เลยไม่มีคนเก็บ เวลาเคลมศูนย์ ศูนย์ยังส่ายหัว ร้านมันจะเก็บไว้รอใครมาซื้อล่ะ ?

แต่แน่นอนครับ โตโยต้ายังมี 1.5  เทคโนโลยี 20 ปีก่อนมาขายอยู่ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก กระจกไฟฟ้า ระบบกลอนไฟฟ้า ก็แสนจะธรรมดาไม่ซับซ้อน ถ้าทำอุปกรณ์พื้น ๆ เหล่านี้ทนไม่ได้ก็ปิดโรงงานไปได้แล้ว

ดูรถสมัยใหม่ที่ปัญหาเยอะ ๆ นี่ เกียร์ CVT แบบคุมด้วยไฟฟ้าบ้างล่ะ ระบบเบรคไฟฟ้าบ้างละ กล่องควบคุมเกียร์แบบdual clutch บ้างล่ะ ท่อพลาสติกแบบย่อยสลายบ้างล่ะ โอย เยอะ จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้มันจะใส่มาทำไมฟระ ทำมาแบบธรรมดาไม่เป็นรึยังงัย เอาไว้ใช้นะเว้ยเฮ้ย ไม่ได้แข่งกันทำเทคโนโลยีเหรียญทองโอลิมปิก



เอา ALTIS 1.6 แค่มี Remote Central lock เอามาเทียบกับรถ กดรีโมททีแทบจะทำให้รถแปลงร่างได้ มันก็ดูจะทนกว่าสิครับ

บอกว่าโตโยต้าทน ร้านอะไหล่มันคงเจ๊งกันหมดทั่วประเทศไปแล้วครับ เพราะทุกวันนี้อะไหล่ที่ขายอันดับหนึ่งคิดตามเปอร์เซนต์รถก็ยังเป็นโตโยต้าอยู่ดี




พูดรวมๆแบบนั้นผมว่าไม่จริงครับ
คนส่วนใหญ่ใช้รถโตโยต้าแทบไม่ต้องเข้าไปเคลมครับ แต่ถ้าเคลมก็คือเร็ว อะไหล่เยอะก็เป็นอีกเรื่อง
ถ้ารถโตโยต้าต้องเคลมเยอะขึ้นมา เรื่องจะใหญ่มากครับ เพราะทุกวันนี้แค่รับเช็คระยะทั่วไปก็ต้องจองคิวยาวยืดแล้ว
Part ส่วนใหญ่ QC จบมาตั้งแต่ชั้น supplier ถ้าพอรู้จักใครใน sup ก็เช็คได้เลยครับว่่า part โตโยต้า ตรวจสอบเข้มสุด แล้วมันเป็นแบบนี้มาตลอด
ด้านการออกแบบ ช่างที่ไหนเห็นก็มองออก ตั้งแต่สายไฟ ยันชิ้นส่วนต่างๆ ออกแบบมาให้ประกอบง่ายและทน มันอาจจะดูไม่สวยเพรามันขึ้น
Tooling ครั้งเดียวแล้วใช้ยาวมากกก ยกตัวอย่างเช่น ก้านครูสคอนโทรลไง และ มันก็ต้องทนจริงๆเพราะ part
จะถูกพยายามให้ใช้ร่วมกันเยอะๆ ถ้ามันเปราะ มันจะพังกันทั้งตระกูล มันมีเหตุแล้วก็มีผลตามนี้ครับ
ไม่ใช่ความเชื่อลอยๆที่บอกต่อๆกันมา part ไหนถ้ามีหลุดรอดก็เห็นตามข่าวนั่นล่ะครับ แต่มันถือว่าน้อยมาก
และไม่จุกจิกอะไรมากมาย


ออฟไลน์ csamabat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 636
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 15:15:18 »
ความเห็นส่วนตัว  เท่าที่บ้านผมใช้รถมา โตโยต้าจะค่อยข้างทนที่สุดในระยะทางที่เทียบกับรถญี่ห้ออื่นๆครับ    ซึ่งใจผมก็รักโตต้า แต่แว่ปไปยี่ห้ออื่นบ้าง เพราะออฟชั่นและระบบความปลอดภัยโตต้าให้น้อยชะมัด   ผมเลยมักซื้อโตโยต้าตอนมือสองแทนครับ อิอิ  ปัจจุบันใช้ มิตซู แอททราจ ยังเซงเลย  ทั้งคลัชหอน สนิมขึ้นคานหน้า ช่วงล่างดัง น้ำเข้าท้ายรถ ยังไม่จบซักเคส นอกจากพ่นสีให้ใหม่ที่เป็นสนิม    หรืออัลเมร่า ของอา ลูกปืนล้อแตก พัดลมไฟฟ้าเสีย รถยังไม่ห้าหมื่นโลเลย  แต่แปลก รถนิวยาริสของป้า ไม่มีอะไรแบบที่ eco ของทั้งผมและอา เป็นเลย  :o(ผมว่ามันเป็นปัญหาของผู้ผลิตชิ้นส่วนนั้นๆของยี่ห้ออื่นทำไม่ดีเท่าชิ้นสว่นของที่โตโยต้านำมาทำรถ)

เทียบกับวีออส หรือ อัลติส วิ่งเป็นแสนสองแสน สามแสน ยังไม่จุกจิกเท่านี้เลยครับ   ที่บ้านผมก็เคยใช้ทั้ง อินโนว่า และอแวนซ่า ก็ไม่จุกจิกเลย  แต่กลับกัน new crv2012 ของเพื่อนผมแร๊คพวงมาลัย ดังและเคลมไปแล้ว ครับ  
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 15:22:53 โดย csamabat »
1990 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 bmw e36 318iA 4 door
1992 bmw e30 318i At  4door
1993 bmw e36 318i 4 door
1985 bmw e30 325iS cope
1991 bmw e30 318i Mt 4 door
1992 toyota corolla ae92  1.6 se limited
1993 toyota corolla ae101 1.6 Lx limited
1991 Nissan nv van SLX 1.6 At
2006 toyota avanza 1.3 E Mt

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 15:38:42 »
โตโยต้า
ไม่ได้ทนกว่าใครหลอกครับ
แต่การซ่อมมันได้เปรียบ ตรงที่ช่างเข้าใจซ่อมง่าย อะไหล่เยอะ  อะไหล่ ก๊อปปี้ก็แยะ ถ้ามันทนคงไม่มีอะไหล่เทียมพวกนี้หลอก

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 15:54:32 โดย Mark Wahlberg »

ออฟไลน์ Ex_machina

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 721
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 15:41:38 »
บ้านเราไม่เคยเก็บข้อมูลเป็นสถิติ
จะเอาความรู้สึกส่วนตัวที่เคยใช้ มาเป็นตัวตั้งไม่ได้

เมืองนอกหลายๆ สถาบันมีการเก็บสถิติในเชิงลึกอยู่หลายค่าย เช่น Consumer Report
และผลออกมาหลายๆปีนั้น Toyota,Lexus ก็อยู่อันดับต้นๆ เสมอครับ ลองไปหาดูได้
ค่ายญี่ปุ่นที่มีความใกล้เคียง ตามสถิติที่เก็บมาคือ Honda ครับ มีความ reliability ตาม toyota มาติดๆ
แล้วที่น่าจับตามองคือ Hyundai ครับ ความทนทานขึ้นมาใกล้เคียงรถญี่ปุ่นมาก หายใจรดต้นคอเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:02:10 »
ตอบเฉพาะส่วนเครื่องยนต์ก่อน  เอาเฉพาะเครื่องเบนซินน่ะครับ  ของโตโยต้าจะให้บริษัทร่วมทุนที่ผมทำงานอยู่เป็นผู้ออกแบบให้ อยู่ภายใต้แนวคิดเดียวกัน  เครื่องยนต์เบนซินส่วนใหญ่ที่ออกแบบมาให้กับโตโยต้าค่อนข้างทนทานและเสถียรมาก     ถึงแม้ว่ามันจะดูเหมือนล้าสมัย มาจากหลักพื้นฐานง่าย ๆ  การปรับเปลี่ยน Drawing แต่ละครั้งไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก    แต่เป็นโนฮาวชั้นดีที่ใครก็ยากจะเลียนแบบ       เพราะถ้าผู้อื่นเลียนแบบได้จริงคงมีคู่แข่งในเรื่องนี้เยอะแล้ว   
เครื่องยนต์เอนกประสงค์ เครื่องยนต์ทางเรือ ทางน้ำ ยานยนต์ขับเคลื่อนบนหิมะ เครื่องยนต์เฮลิคคอปเตอร์ เป็นที่ยอมรับของลูกค้าไปทั่วโลก แม้แต่สนามแข่งที่โตโยต้าลงสนามที่ใช้เครื่องเบนซินอยู่ก็เป็นเทคโนโลยีเดียวกันกับที่บริษัทร่วมทุนของโตโยต้าบริษัทนี้ออกแบบให้     มันอาจจะไม่ใช่เครื่องยนต์ที่เร็วที่สุดประหยัดน้ำมันที่สุด    แต่เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าว่ามีความทนทานและเสถียรมากไม่ค่อยจุกจิกแต่อย่างใด       
ปิคอัพเบนซินอันดับ 1 ในเมืองไทยหรือแม้กระทั่งปิคอัพใหญ่ ๆ ในอเมริกาที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน  ผมยอมรับค่ายโตโยต้ามาอันดับ 1 ครับ 

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:03:51 »
มันเป็นความรู้สึกของผู้บริโภคครับ เป็นการบอกต่อที่ไม่มีสถิติการเก็บข้อมูลกัยจริงๆ ผมยอมรับคับว่า QC ของ Toyota Honda แน่นกว่าเจ้าอื่นอยู่แต่บอกเลยครับว่า AAT ที่ประกอบ Ranger และ Mazda รุ่นต่างๆ Fiesta(พึ่งย้ายไป

ประกอบเอง) QC ไม่แพ้ 2 ค่ายใหญ่จากญี่ปุ่นเลยครับแต่ตัวรถก้ยังมีปัญหามากกว่า มี Ranger ที่ Outstanding กว่าเพื่อนและก้ได้การตอบแทนละไงครับยอดขายขึ้นมาเป็นแนวหน้าของรถกระบะในไทยแล้ว ส่วนหนึ่งอาจจะได้

จากหน้าตาแต่อีกส่วนคนบอกต่อกันเยอะว่ารถไม่มี defect  คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ไม่ได้ซื้อรถจากการหาข้อมูลด้วยตนเองเยอะคับ ส่วนใหญ่ฟังเค้ามา+ซื้อตามกัน อย่างเราคนไทยซื้อรถปั้บคิดละ Vios ละกันอยากดูทันสมัยกว่า

หน่อยก้ City พอมีเงินเยอะหน่อยก้ MB แค่นั้นล่ะครับ จบ วิวัฒนาการของเทคโนโลยีแต่ล่ะค่ายไม่สามารถวัดได้จากการออกเทคโนโลยีใหม่ๆ รุ่นใหม่ๆอย่างเดียว ในขณะเดียวกันการที่ทำแต่รุ่นเดิมๆ เครื่องเดิมๆแต่โคดทนทาน ก้ไม่

ได้ทำให้แสดงว่าแบรนด์จะเหนือกว่าคนอื่นคับแต่ค่ายที่ได้รับการยอมรับมากๆที่มีอยู่ไม่กี่ค่ายเค้าสามารถทำทุกอย่างให้ Balance กันลงตัว ราคาขนาดนี้ เทคโนโลยีขนาดนี้ ทนทานประมาณนี้ การออกแบบประมาณนี้ นั่นล่ะคือสิ่งที่

Toyota สามารถทำได้ดีกว่าใครๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะอยู่ในสภาพนี้ตลอดไป เอาจริงๆที่ Toyota มียอดสูงมากๆชนะรถยี่ห้ออื่นขาดลอยก้มีอยู่ไม่กี่ประเทศนะครับ ดูอย่างชาติพวกเค้าเอง Toyota Honda Nissan ยังสลับกันได้ยอดสูงสุดกันเป็นประจำ

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:09:35 »
ความเห็นส่วนตัว  เท่าที่บ้านผมใช้รถมา โตโยต้าจะค่อยข้างทนที่สุดในระยะทางที่เทียบกับรถญี่ห้ออื่นๆครับ    ซึ่งใจผมก็รักโตต้า แต่แว่ปไปยี่ห้ออื่นบ้าง เพราะออฟชั่นและระบบความปลอดภัยโตต้าให้น้อยชะมัด   ผมเลยมักซื้อโตโยต้าตอนมือสองแทนครับ อิอิ  ปัจจุบันใช้ มิตซู แอททราจ ยังเซงเลย  ทั้งคลัชหอน สนิมขึ้นคานหน้า ช่วงล่างดัง น้ำเข้าท้ายรถ ยังไม่จบซักเคส นอกจากพ่นสีให้ใหม่ที่เป็นสนิม    หรืออัลเมร่า ของอา ลูกปืนล้อแตก พัดลมไฟฟ้าเสีย รถยังไม่ห้าหมื่นโลเลย  แต่แปลก รถนิวยาริสของป้า ไม่มีอะไรแบบที่ eco ของทั้งผมและอา เป็นเลย  :o(ผมว่ามันเป็นปัญหาของผู้ผลิตชิ้นส่วนนั้นๆของยี่ห้ออื่นทำไม่ดีเท่าชิ้นสว่นของที่โตโยต้านำมาทำรถ)

เทียบกับวีออส หรือ อัลติส วิ่งเป็นแสนสองแสน สามแสน ยังไม่จุกจิกเท่านี้เลยครับ   ที่บ้านผมก็เคยใช้ทั้ง อินโนว่า และอแวนซ่า ก็ไม่จุกจิกเลย  แต่กลับกัน new crv2012 ของเพื่อนผมแร๊คพวงมาลัย ดังและเคลมไปแล้ว ครับ  

ผม่อนข้างเห็นด้วยกับความเห็นของคุณครับ

ผมว่า นิสสัน จุกจิกกว่า โตโยต้า อย่างมีนัยยะสำคัญ

เช่น ลูกปืนล้อ พัดลมแอร์ ผมตั้งคำถามว่า ทำไม Toyota ถึงทำให้สามารถใช้ได้ยาวๆ เป็นแสนโลและหลายปีได้ แต่นิสสันทำไมทำไม่ได้

ผมว่าสิ่งสำคัญของรถ คือ งานวิศวกรรม ที่ทนทานและเสถียร

คันต่อไป ผมไม่เอาแล้วนิสสัน พอกันที >:(

ออฟไลน์ Auto

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,620
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:20:42 »
    ส่วนจะตอบว่าลูกค้าเห็นว่า TOYOTA  Defect น้อย  อาจจะจริงแค่ส่วนนึง       แต่บอกเลยว่าไม่ค่อยจริงเท่าไหร่ เพราะคนใช้งานรถบางคนหรือหลายคนใช้งานรถแค่จากจุดนึงไปจุดนึง  ต้องการรถแค่ครอบครัวนั่งสบาย  ดูสวยหน้าตาพออวดใครได้     ไม่ได้รับรู้เรื่องอื่นมากนัก  
ไม่ได้วัดจากงานเคลมนะครับ  Defect นี้ถ้าวัดจากงานเคลมโตโยต้าก็มีแต่ไม่เยอะเพราะลูกค้าส่วนใหญ่พอใจคุณภาพ     การที่ลูกค้าส่วนใหญ่พอใจคุณภาพไม่ได้แปลว่ารถคันนั้นคุณภาพดีนะครับ          แต่ลูกค้าเขาพอใจไม่เคลมต่างหากหรือลูกค้าคนนั้นไม่ใส่ใจหรือมองปัญหาไม่ออก แต่ก็เห็นด้วยนะถ้าเกิดปัหาขึ้นส่วนใหญ่โตโยต้าเอาลูกค้าอยู่มือ คือเคลมจบได้เป็นส่วนใหญ่  ในขณะที่ยี่ห้ออื่นต้องเอาเรื่องไปลงตามเวปตามคลับและปํญหาไม่จบด้วย 
มีคนนึงโทรมาปรึกษาผมเพิ่งขับรถโคโรล่าป้ายแดง ลงข้างทางเนื่องจากรถมีปัญหาระบบบังคับเลี้ยว     ลูกค้าพอทราบอาการบ้างแต่ไม่คิดว่าเป็นปัญหาจึงใช้รถไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดไรผลคือรถพังทั้งคัน ไม่มีคนรับผิดชอบ  ผมบอกเลยศูนย์เขาก็ไม่รับผิดชอบคุณหรอกถ้าเป็นแบบนี้


ผมซื้อรถโตโยต้าฟอร์จูเนอร์ป้ายแดง  ตลอดเวลา 3 ปีผมเข้าศูนย์ใหญ่เคลมไปเกือบ 20 ครั้ง    คนอื่นในคลับไม่เข้าใจคิดว่ารถเอ็งเป็นอะไรมีปัญหาเยอะหรือไง    ผมหัวเราะเลยเพราะคิดว่ารถตัวเขาเองไม่มีปัญหารถใช้งานได้ปกติจึงไม่นำเข้าไปเคลม แต่ที่จริงไม่ใช่ครับ            เพราะผมทำงานในส่วนประกอบรถประกันคุณภาพรถ     เรื่องต่าง ๆ สำหรับการผลิตรถผมทราบเกือบหมดอยู่แล้วผมจึงรู้ว่าผมต้องเคลมตรงไหนและผมต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไร  ผมต้องเก็บข้อมูลอะไรก่อนไปเคลมเวลาไปเจอพนักงานรับรถรายละเอียดชัดเจนพอไม่ต้องคุยหลายรอบสามารถเคลมหรือแก้ไขได้เลย       แต่ก็มีบ้างที่หลุดไปไม่ได้เคลมเพราะเรามองปัญหาไม่ออก  เจอเพื่อนที่ทำงานใน supplier ของโตโยต้าบอกว่าตัวนีมีปัญหางาน OUT STD. นะแต่เราไม่ได้เคลมไปเพราะคิดว่าเป็นเหมือนกันทุกคัน   อีกทั้งทาง tOYOTA  คิดว่าลูกค้าไม่เคลมจึงไม่แก้ไข
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:24:28 โดย Auto »

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:33:29 »
โตโยต้า
ไม่ได้ทนกว่าใครหลอกครับ
แต่การซ่อมมันได้เปรียบ ตรงที่ช่างเข้าใจซ่อมง่าย อะไหล่เยอะ  อะไหล่ ก๊อปปี้ก็แยะ ถ้ามันทนคงไม่มีอะไหล่เทียมพวกนี้หลอก



อะไหล่เทียมมีไว้ให้รถอายุเยอะๆครับ แต่โตโยต้าจุดเด่นคือไม่ต้องซ่อมครับ ใช้ยาวๆ
ดังนั้นอะไหล่ดั้งเดิมจากโรงงานมันต้องทน ชิ้นไหนไม่ทนก็ว่ากันไปครับ เคสบายเคส

ออฟไลน์ Mr Children Namonaki Uta

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 328
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:46:27 »
    ส่วนจะตอบว่าลูกค้าเห็นว่า TOYOTA  Defect น้อย  อาจจะจริงแค่ส่วนนึง       แต่บอกเลยว่าไม่ค่อยจริงเท่าไหร่ เพราะคนใช้งานรถบางคนหรือหลายคนใช้งานรถแค่จากจุดนึงไปจุดนึง  ต้องการรถแค่ครอบครัวนั่งสบาย  ดูสวยหน้าตาพออวดใครได้     ไม่ได้รับรู้เรื่องอื่นมากนัก  
ไม่ได้วัดจากงานเคลมนะครับ  Defect นี้ถ้าวัดจากงานเคลมโตโยต้าก็มีแต่ไม่เยอะเพราะลูกค้าส่วนใหญ่พอใจคุณภาพ     การที่ลูกค้าส่วนใหญ่พอใจคุณภาพไม่ได้แปลว่ารถคันนั้นคุณภาพดีนะครับ          แต่ลูกค้าเขาพอใจไม่เคลมต่างหากหรือลูกค้าคนนั้นไม่ใส่ใจหรือมองปัญหาไม่ออก แต่ก็เห็นด้วยนะถ้าเกิดปัหาขึ้นส่วนใหญ่โตโยต้าเอาลูกค้าอยู่มือ คือเคลมจบได้เป็นส่วนใหญ่  ในขณะที่ยี่ห้ออื่นต้องเอาเรื่องไปลงตามเวปตามคลับและปํญหาไม่จบด้วย 
มีคนนึงโทรมาปรึกษาผมเพิ่งขับรถโคโรล่าป้ายแดง ลงข้างทางเนื่องจากรถมีปัญหาระบบบังคับเลี้ยว     ลูกค้าพอทราบอาการบ้างแต่ไม่คิดว่าเป็นปัญหาจึงใช้รถไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดไรผลคือรถพังทั้งคัน ไม่มีคนรับผิดชอบ  ผมบอกเลยศูนย์เขาก็ไม่รับผิดชอบคุณหรอกถ้าเป็นแบบนี้


ผมซื้อรถโตโยต้าฟอร์จูเนอร์ป้ายแดง  ตลอดเวลา 3 ปีผมเข้าศูนย์ใหญ่เคลมไปเกือบ 20 ครั้ง    คนอื่นในคลับไม่เข้าใจคิดว่ารถเอ็งเป็นอะไรมีปัญหาเยอะหรือไง    ผมหัวเราะเลยเพราะคิดว่ารถตัวเขาเองไม่มีปัญหารถใช้งานได้ปกติจึงไม่นำเข้าไปเคลม แต่ที่จริงไม่ใช่ครับ            เพราะผมทำงานในส่วนประกอบรถประกันคุณภาพรถ     เรื่องต่าง ๆ สำหรับการผลิตรถผมทราบเกือบหมดอยู่แล้วผมจึงรู้ว่าผมต้องเคลมตรงไหนและผมต้องดำเนินการตามขั้นตอนอย่างไร  ผมต้องเก็บข้อมูลอะไรก่อนไปเคลมเวลาไปเจอพนักงานรับรถรายละเอียดชัดเจนพอไม่ต้องคุยหลายรอบสามารถเคลมหรือแก้ไขได้เลย       แต่ก็มีบ้างที่หลุดไปไม่ได้เคลมเพราะเรามองปัญหาไม่ออก  เจอเพื่อนที่ทำงานใน supplier ของโตโยต้าบอกว่าตัวนีมีปัญหางาน OUT STD. นะแต่เราไม่ได้เคลมไปเพราะคิดว่าเป็นเหมือนกันทุกคัน   อีกทั้งทาง tOYOTA  คิดว่าลูกค้าไม่เคลมจึงไม่แก้ไข


แบบนี้ผมพอนึกออกครับ ที่เคยเจอเอง กับที่เห็นคนคุมโปรเจ็ค(คุมใหญ่สุดเลยนะ)
บางทีมันมีส่วนบอดี้ที่แก๊ปมันไม่ได้ และใครๆในโรงงานก็เห็นว่ามันไม่ได้ แต่ไม่แก้ครับ. มีหลายรุ่นอยู่
แล้วมันก็เป็นเหมือนๆ กันแบบนั้นออกมาทั้ง lot ถ้าเป็นปัญหาตัวอย่างแบบนี้ แล้วเป็นในหลายๆ part คุณซึ่งดูเป็น
ต้องขอเคลมแน่ ซึ่งส่วนใหญ่คนจะมองข้ามมันไป แต่ถามว่าใช้งานทน เสถียรมั้ย มันใช่ มันตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ได้
แต่ด้านอื่นๆ มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% ซึ่งก็หงุดหงิดรำคาญกันไป แต่ถ้าจะนึกถึงโจทย์เอาอะไรที่ทนๆ ไม่จุกจิก รถรุ่น
นั้นๆ ของ Toyota ควรจะเป็นแบบนั้นได้ แต่ถ้าจะเอาให้สมบูรณ์แบบทุกด้าน เค้าจะไปทุ่มให้กับ Lexus

GreenG

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:50:37 »
โตโยต้า
ไม่ได้ทนกว่าใครหลอกครับ
แต่การซ่อมมันได้เปรียบ ตรงที่ช่างเข้าใจซ่อมง่าย อะไหล่เยอะ  อะไหล่ ก๊อปปี้ก็แยะ ถ้ามันทนคงไม่มีอะไหล่เทียมพวกนี้หลอก



อะไหล่เทียมมีไว้ให้รถอายุเยอะๆครับ แต่โตโยต้าจุดเด่นคือไม่ต้องซ่อมครับ ใช้ยาวๆ
ดังนั้นอะไหล่ดั้งเดิมจากโรงงานมันต้องทน ชิ้นไหนไม่ทนก็ว่ากันไปครับ เคสบายเคส

ผมชอบเรื่องอะไหล่เทียบของพี่โตนี่แหละครับ

ไปร้านไหนก็มี :D

ออฟไลน์ MoO Cnoe

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,487
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 16:53:10 »
เอาเทียบจากรถที่บ้านแล้วกันครับ
คนขับคนเดียวกัน วิ่งเส้นทางเดียวกัน
ระหว่าง โตโยต้า Camry SVX20 - นิสสัน Cefiro A32

ยอมรับว่า โตโยต้า จุกจิกน้อยกว่า ทนกว่า แบบมีนัยยะสำคัญครับ

แต่...นิสสันขับดีกว่า นั่งแล้วสุนทรีย์กว่า วัสดุในห้องโดยสารดีกว่า
แบบมีนัยยะสำคัญเช่นกันครับ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 17:05:44 »
ไม่ยากครับเคล็ดไม่ลับ

ใครอยากทำได้เหมือนพี่โต  กล้าใช้เครื่องเดิม 3เจน แบบVios

หรือจะลากยาว Vigo / Fortuner 10ปี+

เห็นไหมง่ายๆพี่โตบอกมา




keanetona

  • บุคคลทั่วไป
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 17:33:06 »
ข้อดีของโตโยต้าคือ อะไหล่นอกศูนย์มีครับ อะไหล่เทียบหาง่าย และอะไหล่ส่วนใหญ่ทนทาน (ยกเว้นบางชิ้นที่เปราะและปัญหาเยอะ เช่น โช้ค ACV30 หรือ แร็คพวงมาลัยของ alphard/velfire ตัวที่เพิ่งตกรุ่นไป) เขาออกแบบรถให้เรียบง่าย ซ่อมง่าย ถึงแม้ว่าการขับหลายต่อหลายรุ่นจะไม่ค่อยเอาอ่าวก็ตาม ก็ต้องรอดูว่า CEO คนปัจจุบันที่ต้องการจะเปลี่ยนภาพจากคนซื้อโตโยต้าเพราะทนทานแต่ไม่ได้สนใจสมรรถนะให้เป็นรถที่ขับสนุกจะเป็นอย่างไร แต่ที่แน่ๆคือผมพบว่า โคโรลล่าตัวใหม่นั่งสบายกว่ารุ่นก่อนๆหน้านี้อยู่พอสมควรนะครับ

กระบะคอมมอนเรล โตโยต้าเป็นเจ้าแรกมั้ย หรือยังไงครับ

จริงๆแล้วกระบะคอมมอนเรลยี่ห้อแรกของบ้านเราคือ VMC กระบะแบรนด์ไทยครับ ซื้อเครื่องจาก vm motori เสียดายที่กิจการไปไม่รอด

ออฟไลน์ neutrino

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 750
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 17:38:25 »
เดี๋ยว ๆๆ ๆ ๆ ๆ

ใครบอกว่ารถญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ทนกว่ารถญี่ปุ่นรุ่นอื่น ๆ?

ถ้าคุณจะเทียบแค่สัญชาติ โดยไม่ดูลักษณะ โอเค ต้องบอกว่าพี่โตหลายรุ่น ทนกว่ารุ่นอื่น ๆ ของยี่ห้ออื่นหลายรุ่น

แต่คุณเคยได้ลองเทียบไอ้ที่มันมีเทคโนโลยีเท่า ๆ กันรึยังครับ ?  เคยไปนั่งดูรถโตโยต้าเคลมตอนเข้าศูนย์รึเปล่า ?

วันนึงมีเรื่องให้เคลมเป็นสิบ ๆ เรื่อง แต่ส่วนใหญ่ เคลมแล้วมันจบในศูนย์ ลูกค้าไม่ต้องมาโวยนอกศูนย์ครับ

แคมรี่ คอนโซลเหนียว คอยล์จุดระเบิดเสีย น้ำมันเครื่องซึม น้ำมันเกียร์ซึม เกียร์วืด ระบบคุมการทรางตัวมีปัญหา กระจกไฟฟ้าไม่ขึ้น1-5% ไม่ต่างจากยี่ห้ออื่น เขาก็เคลมกันจบครับ ไม่ต้องให้ลูกค้าไปโวยเอาที่นอกศูนย์

แต่พอเป็น NISSAN MITSUBISHI สาเหตเหมือน ๆ กัน ปัญหาดันไม่จบ

คิดเอาง่าย ๆ เดินไปในท้องตลาดร้านขายอะไหล่ทั่วประเทศ อะไหล่ยี่ห้อไหนมากที่สุด ? โตโยต้า อีซูซุ ครับ ร้านอะไหล่ไม่ได้ซื้อเก็บไว้ประดับร้านนะครับ เขาซื้อมาตั้งขาย ขายเพราะมันมีรถเสียเยอะไม่แพ้ยี่ห้ออื่นนั่นแหละ

อาการของยี่ห้ออื่นที่มันแปลก ๆ นาน ๆ เจอที รถขายน้อยคัน อะไหล่มันก็เลยไม่มีคนเก็บ เวลาเคลมศูนย์ ศูนย์ยังส่ายหัว ร้านมันจะเก็บไว้รอใครมาซื้อล่ะ ?

แต่แน่นอนครับ โตโยต้ายังมี 1.5  เทคโนโลยี 20 ปีก่อนมาขายอยู่ ทำซ้ำแล้วซ้ำอีก กระจกไฟฟ้า ระบบกลอนไฟฟ้า ก็แสนจะธรรมดาไม่ซับซ้อน ถ้าทำอุปกรณ์พื้น ๆ เหล่านี้ทนไม่ได้ก็ปิดโรงงานไปได้แล้ว

ดูรถสมัยใหม่ที่ปัญหาเยอะ ๆ นี่ เกียร์ CVT แบบคุมด้วยไฟฟ้าบ้างล่ะ ระบบเบรคไฟฟ้าบ้างละ กล่องควบคุมเกียร์แบบdual clutch บ้างล่ะ ท่อพลาสติกแบบย่อยสลายบ้างล่ะ โอย เยอะ จนบางครั้งก็อดคิดไม่ได้มันจะใส่มาทำไมฟระ ทำมาแบบธรรมดาไม่เป็นรึยังงัย เอาไว้ใช้นะเว้ยเฮ้ย ไม่ได้แข่งกันทำเทคโนโลยีเหรียญทองโอลิมปิก



เอา ALTIS 1.6 แค่มี Remote Central lock เอามาเทียบกับรถ กดรีโมททีแทบจะทำให้รถแปลงร่างได้ มันก็ดูจะทนกว่าสิครับ

บอกว่าโตโยต้าทน ร้านอะไหล่มันคงเจ๊งกันหมดทั่วประเทศไปแล้วครับ เพราะทุกวันนี้อะไหล่ที่ขายอันดับหนึ่งคิดตามเปอร์เซนต์รถก็ยังเป็นโตโยต้าอยู่ดี




+1
ผมเคยอยู่วงการผลิตอะไหล่ อะไหล่หลายๆชิ้น พี่โตและยี่ห้อญี่ปุ่นอื่นๆผลิตด้วยวัสดุเดียวกันและโรงงานเดียวกันเหมือนกันครับ ต่างกันที่รูปร่างนิดๆหน่อยๆเฉพาะรุ่นเท่านั้น จขกท.คงใช้แต่พี่โตยี่ห้อเดียวหรือเปล่า? 

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 17:53:43 »
คุณภาพอะไหล่พอๆกัน
แต่ประสบการณ์ ความชำนาญด้านงานบริการ มันต่างกัน

ในแง่ของการสต๊อคอะไหล่
ถ้าโตโยต้าเก็บอะไหล่ได้ 100 ชิ้น นิสสัน มาสด้าจะเก็บได้แค่ 20-30 ชิ้น
ยังไม่นับประสิทธิภาพการ Sourcing และ Supplier management ที่เหนือกว่า

รถบางรุ่น ชนที รออะไหล่เป็นเดือน ขนาดรถใหม่ๆนะ
รถบ้านผม อายุ 10 ปี เคลม 2-3 อาทิตย์เสร็จแล้ว
อะไหล่ช่วงล่าง อะไหล่เครื่อง แอร์ ความชำนาญของช่าง ได้หมด
นี่คือเหตุผลว่าทำไมโตโยต้าถึง"ดู"ทนกว่า

จริงๆแล้วมันทนพอๆกันแหละ แต่มันเคลมไว หาของง่าย เลยทำให้ภาพรวมมันดูน่าพอใจกว่า

ออฟไลน์ 0%

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,581
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 18:16:06 »
QC ดีกว่า
เก็บอะไหล่เยอะกว่า-ส่งผลให้ซ่อมถูกกว่า อะไหล่ third brand มีมากกว่า
จำนวนรถเยอะกว่า ช่างคุ้นมือกว่า ซ่อมได้จบกว่า

รถมีปัญหาเคสหนักๆ ก็มีทีมงานคอยติดตามอยุ่หลังบ้าน เท่าที่ทราบจ้างวิศวกร วิ่งจากศูนย์ แล้วไปประชุมแก้ปัญหาในหลายๆเคสให้เลย

ไม่ได้มโนไปเองหรอกครับ แต่มันพิสูจน์มาทั่วโลกแล้ว

แม้แต่แบรนด์ที่ใกล้เคียงอย่าง VW ในตลาดเมกัน ก็ยอมรับว่า toyota ถึกทน และ ซ่อมถูกกว่าจริงๆ

แต่ถ้าเป็นกระบะเมืองไทย อีซูซุ ผมว่าทำได้ดีกว่า หรือ ใกล้เคียงเลยนะ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 18:27:36 »
เรื่องทนไม่ทนผมไม่แน่ใจนะ

แต่เรื่องไม่จุกจิก ปัญหาแก้จบ ต้องให้เค้าเลย

ออฟไลน์ aod

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 412
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 19:05:57 »
ผมชอบเว็บนี้ ก็เพราะได้ความรู้จากหลายๆท่านครับ แลกเปลี่ยนความรู้กัน  เจ้าของกระทู้เอง ไม่เคยใช้โตโยต้าครับ มีแค่มังกรทองเก่าๆของพ่อครับ  แต่ได้ยินหลายๆคนทั้งในนี้และข้างนอก ว่าพี่โตทน ไม่จุกจิกครับ   ;D ;)

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 20:10:01 »
กระบะคอมมอนเรล โตโยต้าเป็นเจ้าแรกมั้ย หรือยังไงครับ

จริงๆแล้วกระบะคอมมอนเรลยี่ห้อแรกของบ้านเราคือ VMC กระบะแบรนด์ไทยครับ ซื้อเครื่องจาก vm motori เสียดายที่กิจการไปไม่รอด
ขอบคุณมากครับ ;)

ผมชอบเว็บนี้ ก็เพราะได้ความรู้จากหลายๆท่านครับ แลกเปลี่ยนความรู้กัน  เจ้าของกระทู้เอง ไม่เคยใช้โตโยต้าครับ มีแค่มังกรทองเก่าๆของพ่อครับ  แต่ได้ยินหลายๆคนทั้งในนี้และข้างนอก ว่าพี่โตทน ไม่จุกจิกครับ   ;D ;)
มังกรทองนั่นมันตำนานเลยครับ ถ้าผมมีผมไม่ขายแน่ๆ

ออฟไลน์ beerrl

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,672
    • อีเมล์
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 02, 2015, 21:14:54 »
โดยส่วนตัวผมว่าToyota เขาเน้นเรื่องความทนทาน กับ ความง่ายในการซ่อมตั่งแต่ออกแบบมา บางทีสังเกตุว่า ทำ/มในเครื่องขนาดเดียวกับยี้ห้ออื่นๆToyota เองจะมีแรงม้าน้อยกว่าเขา แรงบิดน้อยกว่าเขา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่จุดหลักของเขาที่จะต้องเค้นกำลังมากที่สุดมากก่อนความเสถียรของเครืองยนต์
สำหรับคนที่ใช้รถยาวๆ Toyota ก็ยังเป็นตัวเลือกแรกๆเสมอ
Volvo 850GLT
Honda odyssey
Toyota Camry hybrid
Suzuki swift eco
Hyundai tucson crdi
Nissan Xtrail 2.0V 4wd
Honda Civic FC 1.8EL

ออฟไลน์ YAmodels

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,025
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 09:24:02 »
ผมใช้อีโค่คาร์นิสสันนะ การเคลมชิ้นส่วนที่มีดีเฟค ทุกคนที่ใช้คงผ่านกันมาแล้ว
เจอกันทุกคันจนรู้สึกเฉยๆแต่ของผมดูจะโชคดีกว่าคันอื่นๆที่เสียช้ากว่าเขาเยอะเลย
อยู่ในกลุ่มที่ใช้รุ่นเดียวกันก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่พอได้เล่าให้คนอื่นๆที่ใช้รถยี่ห้ออื่นฟัง(เจ้าตลาด)
ว่าเราไปเคลมโน่นนี่นั่นมา ถึงกับอุทานว่านี่รถใหม่ป้ายแดงจริงๆเหรอ
เราคนในกลุ่มก็ไม่รู้สึกอะไรเท่าไหร่ แต่พอคนภายนอกมองเข้ามานี่เขาบอกว่าปัญหาเราเยอะจริงๆ
พอมานึกย้อนดู เออ มันก็จริงแฮะ ลูกปืนล้อ พัดลม เบรค เกียร์ ปะเก็นท่อไอเสีย ฯลฯ

ออฟไลน์ Napat14

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 351
Re: รถญี่ปุ่น VS รถญี่ปุ่น
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 03, 2015, 09:48:17 »
เท่าที่อ่านดู ไม่เห็นมีใคร พูดถึงเรื่อง คุณภาพ ของ ชิ้นส่วนและวัสดุในการทำรถ เลย ครับ
ผมอยากถามว่า รถ ยาริส หนัก 1000กิโล กับ camry หนัก 1400 กิโล ต้นทุนเพิ่มขึ่นไหมครับ เฉพราะค่าเหล็ก มากว่ากว่าแน่นอน

คุณภาพ = ราคา
ราคาแพง = คุณภาพดี แต่ถ้าออกมาห่วย = คนซื้อโง่
ราคาถูก = คุณภาพดี ก็เท่ากับว่า ได้ของดีราคาถูก
ราคาสมเหตุสมผล = คุณภาพทั้วไป  ก็เท่ากับว่า ได้ของไม่ดีไม่เลว พอใช้งานได้

เฉพราะนั้น เวลาญี่ปุ่นเขาขายของชอบพูดถึงคุณภาพ ครับว่า ดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ (หมายถึง คนญี่ปุ่นขายคนญี่ปุ่นเอง)
แต่เวลาคนญี่ปุ่นขายของให้คนไทยก็ มันสวยนะครับ มันดีได้รถเร็วนะครับ แต่คุณภาพ ไม่เคยเปิดเพิยและก็พูดถึง

ส่วนใหญ่ คนเราชอบของดีราคาถูก แต่กับไม่รู้เลยว่า อะไรดี แล้วมันดียังไง เหล็กก็รู้แค่ เหล็กทั่วไป ถ้าศึกษา จะรู้เลยครับว่า ไม่มีใครหลอกคุณได้
Bmw E30 coupe 1989
Volvo 940 estate 1997
Nissan Navara 2007
Toyota CHR 2019
Benz w212 2012
volvo v90 2018