ส่วนหนึ่ง,,, ผมว่า เราอยู่กับอุปทานปลอมมาหลายปี, ตอนนี้เลยดูซบเซา
....ไม่ว่าจะรัฐบาลขั้วไหน,,, ก็แข่งกันปั้นตัวเลขทางเศรษฐกิจ, พยายามให้มีตัวเลขหมุนในระบบมากๆ
....อุ้มข้าวอุ้มยาง,,, อุ้มน้ำมันอุ้มแก๊ส คืนภาษีรถคืนภาษีบ้าน, ไม่ได้สนใจเจะเตรียมตัวเข้า AEC กันเลย
จะเรียกว่าอุปทานปลอมก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะภาวะมันเป็น Supply ส่วนเกินมาหลายปีแล้ว ราคาสินค้าสูงขึ้น ทำให้คนซื้อลดลง
ถ้าไม่กระตุ้นการใช้จ่ายก็ไม่เข้าจุดดุลยภาพ
ระบบเศรษฐกิจมันจะอยู่ต่อไปได้ เงินต้องหมุนเวียนครับ เงินที่เรียกว่าอัตราการแลกเปลี่ยนหน้าที่ของมันคือห้ามหยุดนิ่ง (ส่วนเงินที่แปลงเป็นสินทรัพย์จะหยุดได้)
ดังนั้นการสร้างความเชื่อมั่นให้คนใช้จ่าย การกระตุ้นการใช้จ่าย การดึงดูดให้คนใช้จ่ายเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องทำอย่างต่อเนื่อง
ระบบเศรษฐกิจหลังปี 50 มานี้กำลังแย่ถึงแย่มาก ถ้าเปรียบเหมือนคนก็เหมือนคนโคมา ที่ผ่านมาอยู่ได้ด้วยมอฟีนกับเสตียรอยด์ (ไม่ใช่ฉีดให้บ้าพาวกว่าเดิม แต่ฉีกเพื่อพยุงชีพจร) มันดีมั้ย ไม่ดีหรอก แต่ถ้าไม่ใช้ยาพวกนี้ละ ก็ตาย
มีใครอยากให้ระบบเศรษกิจตายบ้างครับ ข้าวของแพงขึ้นอย่างมาก คนไม่ใช้จ่าย เงินไม่หมุนเวียน ไม่มีการจ้างงาน ไม่มีการลงทุนภายใน กิจการปิดตัว สภาบันการเงินล้มละลาย ดอกเบี้ยเป็น0 รัฐบาลไม่มีทุนสำรอง
จะดีหรือ ?
แล้วถ้าระบบเศรษฐกิจมันตายลงแบบไม่มีใครเข้ามาเยียวยา ผลคือไม่ใช่แค่เราที่ตาย รอบข้างก็จะตายลงไปด้วย เพราะระบบเศรษฐกิจในปัจจุบันมันเกี่ยวพันกัน ทั้งการลงทุน และนโยบายต่างประเทศ ความมั่นคงของภูมิภาค
แล้วลองนึกภาพ Economic Scale ขนาด 2-3 ประเทศในภูมิภาคเคียงกันมีสภาพย่ำแย่ๆ คิดว่าจะใช้เวลาอีกกี่ 10 ปีกว่าจะฟื้นฟูกลับมาได้