// Nissan NP300 Navara เครื่องเบนซินมาแล้ว 2.5L 169แรงม้า ใส่มาทั้ง 3 ตัวถัง //

MoO Cnoe

เครื่องยนต์เบนซิน
QR25DE 4 สูบ แถวเรียง DOHC 16 วาล์ว
กำลังสูงสุด 169 แรงม้า ที่ 6,000 rpm
แรงบิดสูงสุด 241 นิวตันเมตร ที่ 4,000 rpm

ปริมาตรกระบอกสูบ 2,488 cc.
หัวฉีดแบบมัลติพอยท์
อัตราส่วนกำลังอัด 10 : 1
ความกว้างกระบอกสูบ x ระยะชัก : 89.0 x 100.0
จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 สปีด



-------------------------------------------------------------------------------------------------

รุ่น Single Cab (ตอนเดียว ตัวเตี้ย)
Single Cab 4x2 S 6M/T ( Gasoline )
456,000

- วิทยุ CD / MP3 1 แผ่น พร้อมจอแสดงผล 5 นิ้ว
- กล้องมองภาพขณะถอยจอด



-------------------------------------------------------------------------------------------------

รุ่น King Cab (ตัวเตี้ย)
King Cab 4x2 E 6M/T ( Gasoline )
579,000 บาท

- สปอยเลอร์หลัง
- ช่องแอร์ด้านหลัง
- กระจกมองข้างปรับด้วยไฟฟ้า
- วิทยุ CD / MP3 1 แผ่น
- ตกแต่งด้วยโครเมียมรอบคัน
- ล้ออัลลอย 16 นิ้ว



-------------------------------------------------------------------------------------------------

รุ่น Double Cab 4 ประตู Calibre (ขับ 2 ยกสูง)
Double Cab Calibre E 6M/T ( Gasoline )
749,000 บาท

- ไฟหน้าโปรเจคเตอร์แบบ LED พร้อม Daytime Running Light
- สปอยเลอร์หลัง
- กล้องมองหลัง
- ช่องแอร์ด้านหลัง
- วิทยุ CD / MP3 1 แผ่น พร้อมจอแสดงผล 5 นิ้ว
- ล้ออัลลอย 16 นิ้ว
- จอแสดงข้อมูลแบบสี 3 มิติ 2 ภาษา (ไทย/อังกฤษ)
- ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button
- ระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย Bluetooth
- ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control
- ระบบเบรก ABS / EBD / BA
- ถุงลมนิรภัยคู่หน้า
- ไฟตัดหมอกคู่หน้า
- พวงมาลัย Multifunction
- กุญแจอัจฉริยะพร้อมระบบ Immobilizer และสัญญาณกันขโมย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 21:39:57 โดย MoO Cnoe »



Pattarachai

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง



MoO Cnoe

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง

ต้องขอบอกว่าคงจะเป็น เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุดครับ
นอกนั้น ABS/EBD, BA หรือ ถุงลมนิรภัย.........ไม่มีครับ



JONNY

ราคาดีมาก
4ประตูถูกกว่า triton
สเปกเครื่องก็ดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 21, 2015, 21:55:26 โดย Mark Wahlberg »



GreenG

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง

ต้องขอบอกว่าคงจะเป็น เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุดครับ
นอกนั้น ABS/EBD, BA หรือ ถุงลมนิรภัย.........ไม่มีครับ

ขนาดเจ้าตลาด ยังมีถุงลมเลยครับ เห้อ >:(



wildstocks

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง

ต้องขอบอกว่าคงจะเป็น เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุดครับ
นอกนั้น ABS/EBD, BA หรือ ถุงลมนิรภัย.........ไม่มีครับ

ขอฝากต่อว่าไปยัง Nissan ไทยแลนด์หน่อยเหอะ ไอ้ถุงลมนี่จะงกทำไม ขนาดเจ้าแห่งการลดต้นทุนอย่าง Toyota Vigo tandard cab ก็ยังให้มาคู่หน้า Isuzu spark ก็มีถุงลมคู่หน้า Nissan คิดว่ากล้องมองหลังกับบันไดข้างนี่น่าดึงดูดยอดขายขนาดนั้นเลยหรือไง จัดอ๊อฟชั่นผิดพลาดมากๆ VDC ก็มีแต่ตัว 4x4 แทนที่ KC ขับสองยกสูงจะมีให้ในตัว VL ดันไม่ใส่มาทั้งที่ตัวขับสองยกสุงนี่น่าจะเป็นตัวทำยอดขายมากที่สุด



MaiSki

เห็นราคารถกระบะ4ประตูยกสูงได้เครื่องเบนซิน2.5ในราคา750000มีทอน ถ้ามีเกียร์ออโต้นี่ไม่ต้องซื้อแล้วรถเก๋ง



Koong

ชอบตรงได้เกียร์ 6 สปีดนี่แหละ เหมาะสมกับกระบะตอนเดียวที่เน้นบรรทุกหนัก
รุ่นที่แล้วรุ่นตอนเดียวให้มาแค่เกียร์ 5 สปีด



แมวดราม่า

เรื่องงกถุงลม เห็นด้วยครับ เอาจริงๆ Single Cab ตอนเป็น Navara มันก็ให้มานิ ... อย่างตอนเดียวตัวเตี้ยมันก็ใส่ถุงลมคู่แค่ไม่มี ABS ไม่ใช่เหรอ ทำไมตัวนี้งก... และอีกอย่าง ทำไมไม่ทำตัว CNG มาพร้อมกันเลย ยกจากนาวาร่ามาก็จบ มันบล็อกเดียวกัน

และอีกเรื่อง สงสัยว่าทำไมไม่มีใส่ออโต้มา ใช้ออโต้ตัวเดิมของ X-Trail T30 หรือเอาไอ้ที่เคยใส่นาวาร่า 5R05 หรืออะไรสักอย่างไปปรับปรุงเพิ่มก็ยังได้นะผมว่า ตัวดับเบิลแค็บอาจจะมีคนสนใจก็ได้ ทางไกล 11 กม./ลิตร แต่วิ่งเงียบ เร่งดี คนใช้ที่ไม่บรรทุกบ่อยอาจจะชอบอยู่เพราะพื้นฐานตัวรถมันดีกว่าวีโก้+อีสุ

ปล. นิสสันเขียนป้ายโฆษณายังกะเครื่องบล็อกนี้พัฒนาใหม่  :)
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



Newhang

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง

ต้องขอบอกว่าคงจะเป็น เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุดครับ
นอกนั้น ABS/EBD, BA หรือ ถุงลมนิรภัย.........ไม่มีครับ

ขอฝากต่อว่าไปยัง Nissan ไทยแลนด์หน่อยเหอะ ไอ้ถุงลมนี่จะงกทำไม ขนาดเจ้าแห่งการลดต้นทุนอย่าง Toyota Vigo tandard cab ก็ยังให้มาคู่หน้า Isuzu spark ก็มีถุงลมคู่หน้า Nissan คิดว่ากล้องมองหลังกับบันไดข้างนี่น่าดึงดูดยอดขายขนาดนั้นเลยหรือไง จัดอ๊อฟชั่นผิดพลาดมากๆ VDC ก็มีแต่ตัว 4x4 แทนที่ KC ขับสองยกสูงจะมีให้ในตัว VL ดันไม่ใส่มาทั้งที่ตัวขับสองยกสุงนี่น่าจะเป็นตัวทำยอดขายมากที่สุด

คิดแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อก่อนมิสซูก็ขี้เหนียวถุงลม บางรุ่นให้ข้างเดียว  พอเจอโตโยต้าใส่ถุงลมคู่หน้าให้ใน single cab ทุกรุ่น   คราวนี้มิสซูเลยจัดให้ด้วย  ผมก็ยังถือว่ายังดีนะครับแม้ไม่ได้เป็นผู้นำก็ตาม

งงกับแนวคิดนิสสันหลังๆ



Terng

นิสสันขายที่ราคาต่ำกว่า Vigo ไม่ให้ถุงลมก็เข้าใจได้นะครับ เพราะรถพวกนี้มักซื้อมาทำรถส่งของดัดแปลงใส่ตู้ ไม่ให้ถุงลมมาก็ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนลงไปได้ แถมยังขู่คนขับไม่ให้ขับเร็วมากได้อีกทาง  ;D 555
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================



Vitz

ไม่ทราบว่าในรุ่น Single cab มีอุปกรณ์ความปลอดภัยอะไรบ้างครับ ที่นอกจากกล้องมองหลัง

ต้องขอบอกว่าคงจะเป็น เข็มขัดนิรภัยแบบ ELR 3 จุดครับ
นอกนั้น ABS/EBD, BA หรือ ถุงลมนิรภัย.........ไม่มีครับ

ขอฝากต่อว่าไปยัง Nissan ไทยแลนด์หน่อยเหอะ ไอ้ถุงลมนี่จะงกทำไม ขนาดเจ้าแห่งการลดต้นทุนอย่าง Toyota Vigo tandard cab ก็ยังให้มาคู่หน้า Isuzu spark ก็มีถุงลมคู่หน้า Nissan คิดว่ากล้องมองหลังกับบันไดข้างนี่น่าดึงดูดยอดขายขนาดนั้นเลยหรือไง จัดอ๊อฟชั่นผิดพลาดมากๆ VDC ก็มีแต่ตัว 4x4 แทนที่ KC ขับสองยกสูงจะมีให้ในตัว VL ดันไม่ใส่มาทั้งที่ตัวขับสองยกสุงนี่น่าจะเป็นตัวทำยอดขายมากที่สุด

คิดแบบนั้นเหมือนกัน เมื่อก่อนมิสซูก็ขี้เหนียวถุงลม บางรุ่นให้ข้างเดียว  พอเจอโตโยต้าใส่ถุงลมคู่หน้าให้ใน single cab ทุกรุ่น   คราวนี้มิสซูเลยจัดให้ด้วย  ผมก็ยังถือว่ายังดีนะครับแม้ไม่ได้เป็นผู้นำก็ตาม

งงกับแนวคิดนิสสันหลังๆ
เห็นด้วยครับ งงกะการจัดออฟชั่นของนิสสันมากๆ ไม่เข้าใจว่าจะใส่มาทำไมกล้องถอยหลัง ใส่แอร์แบคมายังมีประโยชน์กว่า  :-\
呵呵呵



recycleman

4ประตูราคาน่าเล่นมากครับ ออฟชั่นครบกว่าคู่แข่งพอดู แถมเครื่องสเปคแจ่มสุดในบรรดาปิคอัพเบนซินในไทยตอนนี้แล้ว ยิ่งถ้าได้เกียร์ออโต้ทำราคาต่ำกว่า8ได้ผมว่าจะดึงคนทีเล็งพวก b-seg รุ่นบน กับ c-seg รุ่นล่างได้อีกต่างหาก



ส่วนไอ้2รุ่นที่เหลือ มันจะไม่น่าสนใจเพราะงกเรื่องออฟชั่นความปลอดภัยนี่แหละ >:(



H.

ผมว่าคนในนิสสันคงมองว่า รถพวกนี้คงเตรียมเอาไปทำรถบรรทุกหนักต่อหลังคาด้านหลัง กล้องมองหลังช่วยมองในมุมที่ทัศวิสัยแย่ที่สุดมันสำคัญกว่าถุงลม

หรือว่าง่ายๆ
คนขับตายหงตายห่านที่ไหนก็เรื่องของคุณ อยากซิ่งก็รับผิดชอบชีวิตเอาเอง ถ้าพลาดก็เอาแบบทีเดียวตายไม่ต้องเลี้ยงนาน
แต่อย่าถอยไปทับใครตายก็แล้วกัน เดี๋ยวเสี่ยเจ้าของรถจะโดนฟ้อง โอเคนะ
H.



Nikle_pk

king cab ถูกดีจังเลย
My Review !!! New Vellfire 2.5ZG Edition !!!
http://community.headlightmag.com/index.php?topic=44242.0



liveshow

king cab กลายเป็นกระบะเบนซิลที่ถูกที่สุดในตลาดเรียบร้อย อารมณ์เดียวกะรุ่นseตัวก่อนเลย

แต่4d นี่ คุ้มเลย
ก็แค่คนธรรมดา ไม่ลองก็ไม่รู้



Weetting

เฮ้ย  น่าเอาไปติดเทอร์โบนะเนี่ย

เครื่อง 2.5 + TD 06  นี่เรียกม้า 200 ได้ไม่ยากเลย 

 :o :o
THE Manual Gearbox Preservation Society
Drive diesel until last day



J!MMY

ในฐานะ เจ้าของกิจการเล็กๆ
ที่ไม่ไดีมีเงินเยอะนัก แต่เคยซื้อรถกระบะ หัวเดี่ยวมาแล้ว 3 คัน ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ถ้าคันไหน ที่ราคาถูก มีอุปกรณ์ พอประมาณ แค่มีแอร์ให้ มีวิทยุให้ เล่น CD ได้สักแผ่น
ขอของแถมให้เป็น ฟิล์มกรองแสง รอบคัน และโครงเหล็กหลังคา กับบันไดหลัง
นั่นคือตัวเลือกที่เราจะเลือกครับ ไม่ใช่ถุงลมนิรภัย!

ผมไม่เลือกรถที่มีถุงลมนิรภัย ให้กับคนขับรถส่งของ
เพราะคนพวกนี้ จำนวนไม่น้อยเลยที่ ชุ่ย ตลอด หลายปีที่ผ่านมา
มีอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนอยู่เรื่อยๆ ตลอด ปีละ หลายครั้ง

ทีนี้ ถ้าเอารถที่มีถุงลมมา เวลาชนที แม้เฉี่ยวชนไม่หนัก
แต่ถ้าความเร็ว แตะ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงปุ๊บ ถุงลมกางออก
ค่าเปลี่ยนหนะ เบิกศูนย์ฯ อย่างขี้หมูขี้หมา ก็ลูกละ 30,000 บาท

คุณคิดว่า ในฐานะคนทำกิจการขนส่ง มันคุ้มไหมครับ?
ถ้าแลกกับการที่ คุณอาจจะต้องจ่ายค่าถุงลมปีละ 150,000 บาท
กับค่าเฉลี่ย ที่พนักงานขับรถส่งของ ออฟฟิศคุณพ่อผม
ขับรถเฉี่ยวชน สมมติปีละประมาณ 5 ครั้ง ในรถ 2-3 คัน ที่เรามีอยู่?

หักเงินเดือนจากเหตุคราวก่อนครบ วันรุ่งขึ้น มันก็ไปก่อเหตุเฉี่ยวชนมาใหม่อีกอยู่ดี!

คนที่เรียกร้องให้มีรุ่นถุงลมนิรภัยในตัว หัวเก่งเดี่ยว ผมเข้าใจ
ว่าคุณมองทุกชีวิต ว่ามีค่า  

แต่ข้อเท็จจริงที่ผมเจอมาคือ
คนขับรถส่งของ เขาไม่คิดและไม่สนใจว่าชีวิตตัวเองจะมีค่ามากขนาดนั้น
คนขับรถ 10 กว่าคน ในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ออฟฟิศพ่อผม เปิดกิจการมา คือคำตอบ
จากประสบการณ์ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า!!

เลิกงานก็แดกเหล้า เมาหยำเป เช้าวันรุ่งขึ้น มาทำงานไม่ไหว ขอลา บางวัน
เกิดขยัน ขนาดอาบน้ำแล้ว และสร่างเมาแล้ว กลิ่นละมุดนี่ก็ยังหึ่งสัส!
ขับรถก็ไล่ตะบี้ตะบัน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าวันไหน ผมว่างพอจะไปนั่งเป็นเด็กติดรถส่งของเอง
ถึงจะขับเรียบร้อย นกนั้นเหรอครับ แซงได้ แซง มุดได้ มุด จี้ได้จี้ บางที หมั่นไส้ใคร
พวกแม่งไล่ชนเขาเลย!!!! ใช่! รถกระบะของเราเนี่ยแหละ!!!!!


ถ้าจะให้ดี พบกันครึ่งทาง คือ มีรุ่น แปะมาให้ เป็นตัวท็อปของ Single Cab ไปเลยดีไหม?
ใครอยากได้ จ่ายตัวแพง ซื้อรุ่นท็อปไปเลย
แต่ราคาจะโดดไปอยู่ที่เกิน 500,000 - 540,000 บาท ซึ่งมันแพงเกินไป สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ
ที่คิดจะซื้อรถหัวเดี่ยว แบบผ่อนส่งค่างวด มาบรรทุกพืชผัก ผลไม้ เข้าตลาดไทย

เขาคิดนะครับ ว่า ถ้าผ่อนจบแล้ว ดอกเบี้ย ที่คิดกันปัจจุบัน 3% มันจะปาไปเป็นคัละ 8 แสนกว่าบาท
นี่ยังไม่รวม โครงเหล็ก และการเสรมแหนบ และปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังอีกนะ

คนทำการตลาดรถกระบะ แต่ละยี่ห้อ ไม่โง่หรอกครับ
แต่เขาเลือกดูตาม "ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ที่ไม่ได้มานั่งโ้เถียงกันอยู่ในเว็บบอร์ดของเรานี่ไงครับ!"

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2015, 02:35:26 โดย J!MMY »



Yangyang

นิสสันขายที่ราคาต่ำกว่า Vigo ไม่ให้ถุงลมก็เข้าใจได้นะครับ เพราะรถพวกนี้มักซื้อมาทำรถส่งของดัดแปลงใส่ตู้ ไม่ให้ถุงลมมาก็ช่วยผู้ประกอบการลดต้นทุนลงไปได้ แถมยังขู่คนขับไม่ให้ขับเร็วมากได้อีกทาง  ;D 555

แสดงว่ากลุ่มเป้าหมายของรุ่นล่างคือเจ้าของกิจการซื้อไปให้ลูกน้องขับส่งของใช่มั้ยครับ ถึงไม่มีถุงลมก็ไม่เดือดร้อนเพราะคนซื้อไม่ได้ขับเอง เองราคาถูกไว้ก่อน ติดแก๊สได้อีกต่างหาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 22, 2015, 08:40:09 โดย Yangyang »



Yangyang

ในฐานะ เจ้าของกิจการเล็กๆ
ที่ไม่ไดีมีเงินเยอะนัก แต่เคยซื้อรถกระบะ หัวเดี่ยวมาแล้ว 3 คัน ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ถ้าคันไหน ที่ราคาถูก มีอุปกรณ์ พอประมาณ แค่มีแอร์ให้ มีวิทยุให้ เล่น CD ได้สักแผ่น
ขอของแถมให้เป็น ฟิล์มกรองแสง รอบคัน และโครงเหล็กหลังคา กับบันไดหลัง
นั่นคือตัวเลือกที่เราจะเลือกครับ ไม่ใช่ถุงลมนิรภัย!

ผมไม่เลือกรถที่มีถุงลมนิรภัย ให้กับคนขับรถส่งของ
เพราะคนพวกนี้ จำนวนไม่น้อยเลยที่ ชุ่ย ตลอด หลายปีที่ผ่านมา
มีอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนอยู่เรื่อยๆ ตลอด ปีละ หลายครั้ง

ทีนี้ ถ้าเอารถที่มีถุงลมมา เวลาชนที แม้เฉี่ยวชนไม่หนัก
แต่ถ้าความเร็ว แตะ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงปุ๊บ ถุงลมกางออก
ค่าเปลี่ยนหนะ เบิกศูนย์ฯ อย่างขี้หมูขี้หมา ก็ลูกละ 30,000 บาท

คุณคิดว่า ในฐานะคนทำกิจการขนส่ง มันคุ้มไหมครับ?
ถ้าแลกกับการที่ คุณอาจจะต้องจ่ายค่าถุงลมปีละ 150,000 บาท
กับค่าเฉลี่ย ที่พนักงานขับรถส่งของ ออฟฟิศคุณพ่อผม
ขับรถเฉี่ยวชน สมมติปีละประมาณ 5 ครั้ง ในรถ 2-3 คัน ที่เรามีอยู่?

หักเงินเดือนจากเหตุคราวก่อนครบ วันรุ่งขึ้น มันก็ไปก่อเหตุเฉี่ยวชนมาใหม่อีกอยู่ดี!

คนที่เรียกร้องให้มีรุ่นถุงลมนิรภัยในตัว หัวเก่งเดี่ยว ผมเข้าใจ
ว่าคุณมองทุกชีวิต ว่ามีค่า  

แต่ข้อเท็จจริงที่ผมเจอมาคือ
คนขับรถส่งของ เขาไม่คิดและไม่สนใจว่าชีวิตตัวเองจะมีค่ามากขนาดนั้น
คนขับรถ 10 กว่าคน ในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ออฟฟิศพ่อผม เปิดกิจการมา คือคำตอบ
จากประสบการณ์ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า!!

เลิกงานก็แดกเหล้า เมาหยำเป เช้าวันรุ่งขึ้น มาทำงานไม่ไหว ขอลา บางวัน
เกิดขยัน ขนาดอาบน้ำแล้ว และสร่างเมาแล้ว กลิ่นละมุดนี่ก็ยังหึ่งสัส!
ขับรถก็ไล่ตะบี้ตะบัน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าวันไหน ผมว่างพอจะไปนั่งเป็นเด็กติดรถส่งของเอง
ถึงจะขับเรียบร้อย นกนั้นเหรอครับ แซงได้ แซง มุดได้ มุด จี้ได้จี้ บางที หมั่นไส้ใคร
พวกแม่งไล่ชนเขาเลย!!!! ใช่! รถกระบะของเราเนี่ยแหละ!!!!!


ถ้าจะให้ดี พบกันครึ่งทาง คือ มีรุ่น แปะมาให้ เป็นตัวท็อปของ Single Cab ไปเลยดีไหม?
ใครอยากได้ จ่ายตัวแพง ซื้อรุ่นท็อปไปเลย
แต่ราคาจะโดดไปอยู่ที่เกิน 500,000 - 540,000 บาท ซึ่งมันแพงเกินไป สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ
ที่คิดจะซื้อรถหัวเดี่ยว แบบผ่อนส่งค่างวด มาบรรทุกพืชผัก ผลไม้ เข้าตลาดไทย

เขาคิดนะครับ ว่า ถ้าผ่อนจบแล้ว ดอกเบี้ย ที่คิดกันปัจจุบัน 3% มันจะปาไปเป็นคัละ 8 แสนกว่าบาท
นี่ยังไม่รวม โครงเหล็ก และการเสรมแหนบ และปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังอีกนะ

คนทำการตลาดรถกระบะ แต่ละยี่ห้อ ไม่โง่หรอกครับ
แต่เขาเลือกดูตาม "ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ที่ไม่ได้มานั่งโ้เถียงกันอยู่ในเว็บบอร์ดของเรานี่ไงครับ!"



เห็นภาพเลยครับคุณจิมมี่
ปกติผมจะขับรถ กทม.-ระยอง กทม.-ชลบุรี ไปทำงาน เจอพวกกระบะส่งของ แต่ละคันขับได้....... มาก



johnlee

คันแรกของบ้านผม บิ๊กเอ็ม Z16 1.6ลิตร 84 แรงม้า ยังไปได้ทั่วไทยเลย

นี่ 2500 169 ม้า 6 เกียร์ แถมไม่โดนตรวจควันดำด้วย

น่าสนๆๆๆ
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t



JONNY

จริงครับรถส่งคาร์โก้
มีลูกน้องขับ เชี่ยวชนกันประจำ
ถ้ามีถุงลมคงขยันแตกกัน ชนนิดเดียวแตก ขับไม่ถนัดจอดซ่อมอีก ไม่คุ้มเลย



MrChildren NamonakiUtta

ถ้าผมซื้อกระบะคงมองอยู่รุ่นเดียวที่มีฮีธเตอร์ครับ คือนาวาร่า
เผื่อเดินทางดึกๆ มีฝนตกหนัก หรือไปเที่ยวเขา



jumpon77

ในฐานะ เจ้าของกิจการเล็กๆ
ที่ไม่ไดีมีเงินเยอะนัก แต่เคยซื้อรถกระบะ หัวเดี่ยวมาแล้ว 3 คัน ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ถ้าคันไหน ที่ราคาถูก มีอุปกรณ์ พอประมาณ แค่มีแอร์ให้ มีวิทยุให้ เล่น CD ได้สักแผ่น
ขอของแถมให้เป็น ฟิล์มกรองแสง รอบคัน และโครงเหล็กหลังคา กับบันไดหลัง
นั่นคือตัวเลือกที่เราจะเลือกครับ ไม่ใช่ถุงลมนิรภัย!

ผมไม่เลือกรถที่มีถุงลมนิรภัย ให้กับคนขับรถส่งของ
เพราะคนพวกนี้ จำนวนไม่น้อยเลยที่ ชุ่ย ตลอด หลายปีที่ผ่านมา
มีอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนอยู่เรื่อยๆ ตลอด ปีละ หลายครั้ง

ทีนี้ ถ้าเอารถที่มีถุงลมมา เวลาชนที แม้เฉี่ยวชนไม่หนัก
แต่ถ้าความเร็ว แตะ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงปุ๊บ ถุงลมกางออก
ค่าเปลี่ยนหนะ เบิกศูนย์ฯ อย่างขี้หมูขี้หมา ก็ลูกละ 30,000 บาท

คุณคิดว่า ในฐานะคนทำกิจการขนส่ง มันคุ้มไหมครับ?
ถ้าแลกกับการที่ คุณอาจจะต้องจ่ายค่าถุงลมปีละ 150,000 บาท
กับค่าเฉลี่ย ที่พนักงานขับรถส่งของ ออฟฟิศคุณพ่อผม
ขับรถเฉี่ยวชน สมมติปีละประมาณ 5 ครั้ง ในรถ 2-3 คัน ที่เรามีอยู่?

หักเงินเดือนจากเหตุคราวก่อนครบ วันรุ่งขึ้น มันก็ไปก่อเหตุเฉี่ยวชนมาใหม่อีกอยู่ดี!

คนที่เรียกร้องให้มีรุ่นถุงลมนิรภัยในตัว หัวเก่งเดี่ยว ผมเข้าใจ
ว่าคุณมองทุกชีวิต ว่ามีค่า  

แต่ข้อเท็จจริงที่ผมเจอมาคือ
คนขับรถส่งของ เขาไม่คิดและไม่สนใจว่าชีวิตตัวเองจะมีค่ามากขนาดนั้น
คนขับรถ 10 กว่าคน ในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ออฟฟิศพ่อผม เปิดกิจการมา คือคำตอบ
จากประสบการณ์ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า!!

เลิกงานก็แดกเหล้า เมาหยำเป เช้าวันรุ่งขึ้น มาทำงานไม่ไหว ขอลา บางวัน
เกิดขยัน ขนาดอาบน้ำแล้ว และสร่างเมาแล้ว กลิ่นละมุดนี่ก็ยังหึ่งสัส!
ขับรถก็ไล่ตะบี้ตะบัน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าวันไหน ผมว่างพอจะไปนั่งเป็นเด็กติดรถส่งของเอง
ถึงจะขับเรียบร้อย นกนั้นเหรอครับ แซงได้ แซง มุดได้ มุด จี้ได้จี้ บางที หมั่นไส้ใคร
พวกแม่งไล่ชนเขาเลย!!!! ใช่! รถกระบะของเราเนี่ยแหละ!!!!!


ถ้าจะให้ดี พบกันครึ่งทาง คือ มีรุ่น แปะมาให้ เป็นตัวท็อปของ Single Cab ไปเลยดีไหม?
ใครอยากได้ จ่ายตัวแพง ซื้อรุ่นท็อปไปเลย
แต่ราคาจะโดดไปอยู่ที่เกิน 500,000 - 540,000 บาท ซึ่งมันแพงเกินไป สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ
ที่คิดจะซื้อรถหัวเดี่ยว แบบผ่อนส่งค่างวด มาบรรทุกพืชผัก ผลไม้ เข้าตลาดไทย

เขาคิดนะครับ ว่า ถ้าผ่อนจบแล้ว ดอกเบี้ย ที่คิดกันปัจจุบัน 3% มันจะปาไปเป็นคัละ 8 แสนกว่าบาท
นี่ยังไม่รวม โครงเหล็ก และการเสรมแหนบ และปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังอีกนะ

คนทำการตลาดรถกระบะ แต่ละยี่ห้อ ไม่โง่หรอกครับ
แต่เขาเลือกดูตาม "ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ที่ไม่ได้มานั่งโ้เถียงกันอยู่ในเว็บบอร์ดของเรานี่ไงครับ!"


ใช่ครับอย่างพีจิมว่าส่วนใหญ่เปนอย่างนันจริงๆๆครับผมเองก็เปนคนหนึ่งที่ทำงานเกียวกับขนส่งครับบอกได้ส่วนใหญ่เปนแบบนันจริงๆๆครับ
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008(Sold out) Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003 Toyota Corolla Altis 1.6E CNG  Toyota hiace  2.5 2j-GE  2000



wa330

« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 22, 2015, 12:24:52 »
คนขับรถส่งของ เข็มขัดนิรภัยมันยังไม่คาดเลยครับ
เอารุ่นไม่มีถุงลมเหลืองบไว้ซื้อถุงยางดีกว่า



IncarRus

น่าจะเป็น,,, กระบะเบนซิน ที่ option เยอะที่สุดในตอนนี้หรือป่าวคับ



legion

สะใจครับ คุณจิมมี่ตอบได้ชัดเจน ตรงประเด็น จากประสพการณ์จริงๆ



recycleman

เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ครับตรงที่ว่าไม่ต้องใส่มาทุกรุ่นแต่ควรจะมีให้เลือกเป็นออฟชั่น ปิคอัพตอนเดียวขนของนี่เถ้าแก่ขับเองก็มีครับ ผมนี่แหละคนนึงบางทีก็ต้องขับเอง (ส่วนใหญ่ถ้าเป็นปิคอัพผมจะขับเอง)


ถ้ามีให้เลือกก็น่าจะได้ใจกลุ่มผู้ใช้แบบซื้อเองขับเองแบบผมนี่แหละ แต่รุ่นถูกแบบไม่มีถุงลมผมว่าก็ดีในแง่ผู้ซือแบบซื้อให้คนอื่นขับหรือกิจการใหญ่ๆที่ซื้อแบบฟลีทนั้นแหละครับ



TaR

ในฐานะ เจ้าของกิจการเล็กๆ
ที่ไม่ไดีมีเงินเยอะนัก แต่เคยซื้อรถกระบะ หัวเดี่ยวมาแล้ว 3 คัน ในรอบหลายปีที่ผ่านมา

ถ้าคันไหน ที่ราคาถูก มีอุปกรณ์ พอประมาณ แค่มีแอร์ให้ มีวิทยุให้ เล่น CD ได้สักแผ่น
ขอของแถมให้เป็น ฟิล์มกรองแสง รอบคัน และโครงเหล็กหลังคา กับบันไดหลัง
นั่นคือตัวเลือกที่เราจะเลือกครับ ไม่ใช่ถุงลมนิรภัย!

ผมไม่เลือกรถที่มีถุงลมนิรภัย ให้กับคนขับรถส่งของ
เพราะคนพวกนี้ จำนวนไม่น้อยเลยที่ ชุ่ย ตลอด หลายปีที่ผ่านมา
มีอุบัติเหตุ เฉี่ยวชนอยู่เรื่อยๆ ตลอด ปีละ หลายครั้ง

ทีนี้ ถ้าเอารถที่มีถุงลมมา เวลาชนที แม้เฉี่ยวชนไม่หนัก
แต่ถ้าความเร็ว แตะ 30 กิโลเมตร/ชั่วโมงปุ๊บ ถุงลมกางออก
ค่าเปลี่ยนหนะ เบิกศูนย์ฯ อย่างขี้หมูขี้หมา ก็ลูกละ 30,000 บาท

คุณคิดว่า ในฐานะคนทำกิจการขนส่ง มันคุ้มไหมครับ?
ถ้าแลกกับการที่ คุณอาจจะต้องจ่ายค่าถุงลมปีละ 150,000 บาท
กับค่าเฉลี่ย ที่พนักงานขับรถส่งของ ออฟฟิศคุณพ่อผม
ขับรถเฉี่ยวชน สมมติปีละประมาณ 5 ครั้ง ในรถ 2-3 คัน ที่เรามีอยู่?

หักเงินเดือนจากเหตุคราวก่อนครบ วันรุ่งขึ้น มันก็ไปก่อเหตุเฉี่ยวชนมาใหม่อีกอยู่ดี!

คนที่เรียกร้องให้มีรุ่นถุงลมนิรภัยในตัว หัวเก่งเดี่ยว ผมเข้าใจ
ว่าคุณมองทุกชีวิต ว่ามีค่า  

แต่ข้อเท็จจริงที่ผมเจอมาคือ
คนขับรถส่งของ เขาไม่คิดและไม่สนใจว่าชีวิตตัวเองจะมีค่ามากขนาดนั้น
คนขับรถ 10 กว่าคน ในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ออฟฟิศพ่อผม เปิดกิจการมา คือคำตอบ
จากประสบการณ์ที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้า!!

เลิกงานก็แดกเหล้า เมาหยำเป เช้าวันรุ่งขึ้น มาทำงานไม่ไหว ขอลา บางวัน
เกิดขยัน ขนาดอาบน้ำแล้ว และสร่างเมาแล้ว กลิ่นละมุดนี่ก็ยังหึ่งสัส!
ขับรถก็ไล่ตะบี้ตะบัน ไม่ดูตาม้าตาเรือ ถ้าวันไหน ผมว่างพอจะไปนั่งเป็นเด็กติดรถส่งของเอง
ถึงจะขับเรียบร้อย นกนั้นเหรอครับ แซงได้ แซง มุดได้ มุด จี้ได้จี้ บางที หมั่นไส้ใคร
พวกแม่งไล่ชนเขาเลย!!!! ใช่! รถกระบะของเราเนี่ยแหละ!!!!!


ถ้าจะให้ดี พบกันครึ่งทาง คือ มีรุ่น แปะมาให้ เป็นตัวท็อปของ Single Cab ไปเลยดีไหม?
ใครอยากได้ จ่ายตัวแพง ซื้อรุ่นท็อปไปเลย
แต่ราคาจะโดดไปอยู่ที่เกิน 500,000 - 540,000 บาท ซึ่งมันแพงเกินไป สำหรับคนหาเช้ากินค่ำ
ที่คิดจะซื้อรถหัวเดี่ยว แบบผ่อนส่งค่างวด มาบรรทุกพืชผัก ผลไม้ เข้าตลาดไทย

เขาคิดนะครับ ว่า ถ้าผ่อนจบแล้ว ดอกเบี้ย ที่คิดกันปัจจุบัน 3% มันจะปาไปเป็นคัละ 8 แสนกว่าบาท
นี่ยังไม่รวม โครงเหล็ก และการเสรมแหนบ และปรับปรุงช่วงล่างด้านหลังอีกนะ

คนทำการตลาดรถกระบะ แต่ละยี่ห้อ ไม่โง่หรอกครับ
แต่เขาเลือกดูตาม "ความต้องการของผู้บริโภคที่แท้จริง ที่ไม่ได้มานั่งโ้เถียงกันอยู่ในเว็บบอร์ดของเรานี่ไงครับ!"


ชัดเจนครับ
"ชีวิตคือการเดินทาง..."
.
.
.



thchalerms

4 ประตู ยกสูง เครื่อง เบนซิน...รุ่นนี้แหละที่รอ.
ได้เวลา แวะไปโชวรูม นิสสัน แล้ว
ได้รถมา วิ่งน้ำมันสัก พันกว่าโล หลังจากนั้น เจอกันที่ร้านแก๊ส LPG