ผู้เขียน หัวข้อ: #### golf gti (sirooco ด้วย) กับ f30 มือสองใครดูแลยากง่าย และแพงกว่ากัน #####  (อ่าน 4864 ครั้ง)

ออฟไลน์ Tig

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 88
ด้วยความที่เป็นรถที่น่าใช้ทั้งคู่ หากหามือสองแบนด์ vw กับ bmw อยากให้เพื่อนๆแนะนำหน่อยครับ มีคนข้างเคียงใช้ vw vento ก็บ่นเรื่องค่าซ่อมบำรุง แต่บอกขับดีมาก ดีกว่า accord ใหม่ของเขาซะอีก สนตัวชอบมอง vw กับ bmw จึงอยากทราบว่า golf gti (sirooco ด้วย) กับ f30 มือสองใครดูแลยากง่าย และแพงกว่ากัน ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
โดยรวมดูแลรักษา (คิดว่า) ไม่หนีกันเท่าไหร่ ออกแนว VW จะถูกกว่า กรณีดูแลรักษาทั่วไปนะครับ
ถ้ามีรถใช้ประจำอยู่แล้วอยากซื้อเพิ่มเล่น VW เลยครับ
แต่ถ้าใช้เป็นรถหลักโดยปกติเจ้าตลาดอย่าง BMW คงภาษีดีกว่า แต่ทั้งหมดก็อยู่ที่ความชอบนะครับ

ออฟไลน์ kez

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,591

 ทั้งอไหล่และ การบำรุงรักษา bmw น่าจะง่ายกว่า

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
งบซื้อรถกี่บาทครับสำหรับ VW GTI  ;D ;D จะได้แนะนำถูก

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเอา F30 ตัวถูกสุด ดูแลง่ายกว่าแน่ ๆ เอาแค่เรื่องโช๊ค โช๊คธรรมดายังงัยก็ดูแลง่ายกว่าพวกโช๊คไฟฟ้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 13:40:20 โดย Jae »

ออฟไลน์ Bond007

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 788
งบซื้อรถกี่บาทครับสำหรับ VW GTI  ;D ;D จะได้แนะนำถูก


หึหึ

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
งบซื้อรถกี่บาทครับสำหรับ VW GTI  ;D ;D จะได้แนะนำถูก


หึหึ

หึหึ

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ถ้าเอา F30 ตัวถูกสุด ดูแลง่ายกว่าแน่ ๆ เอาแค่เรื่องโช๊ค โช๊คธรรมดายังงัยก็ดูแลง่ายกว่าพวกโช๊คไฟฟ้า
รบกวนถามคุณ Jae ครับว่าเครื่อง+เกียร์ ของ BMW 320i ชุดนี้มีอะไรน่ากังวลในระยะยาวหรือไม่ครับถ้าจะใช้สัก 7-8 ปี แล้วก็ถ้าเทียบกับ Golf MK7 ตัวที่ไม่ใช่ GTi จะเป็นอย่างไรบ้างครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 24, 2015, 20:16:18 โดย Impulse »

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเอา F30 ตัวถูกสุด ดูแลง่ายกว่าแน่ ๆ เอาแค่เรื่องโช๊ค โช๊คธรรมดายังงัยก็ดูแลง่ายกว่าพวกโช๊คไฟฟ้า
รบกวนถามคุณ Jae ครับว่าเครื่อง+เกียร์ ของ BMW 320i ชุดนี้มีอะไรน่ากังวลในระยะยาวหรือไม่ครับถ้าจะใช้สัก 7-8 ปี แล้วก็ถ้าเทียบกับ Golf MK7 ตัวที่ไม่ใช่ GTi จะเป็นอย่างไรบ้างครับ

เกียร์ ZF 8HP45 ที่อยู่ใน BMW ตั้งแต่เปิดตัวราว ๆ 3 ปีมานี่ ผมยังไม่เคยเจอว่ามีใครพัง แต่เกียร์รุ่นเดียวกันนี่ใน AUDI A6 พังเคยเห้นมาแล้ว เพราะเจ้าของตรีนหนัก ใช้แต่โหมดแมนนวล แกะไส้ออกมาเจอคลัทช์ไหม้

ผมอ่านคู่มือเกียรรุ่นนี้ มันมีแต่ระบบอุ่นน้ำมันเกียร์ กับรักษาความร้อนเพื่อวิ่งอากาศหนาว เขาคุยว่าสามารถสตาร์ทออกตัวได้ทันทีแม้อุณหภูมิติดลบ32 องศาเซลเซียส ไม่รู้ว่าระยะยาวกับอากาศเมืองไทยจะเป็นอย่างไรเหมือนกันเพราะระบบอุ่นน้ำมันเกียร์นี่แหละที่ผมห่วง

เครื่อง N20B20 ที่เคยได้ผ่านมือกับอะไหล่มีแค่อย่างเดียวคือปั๊มลม เป็นธรรมดากับรถทีใช้Valvetronic มันจะไม่สร้างสุญญากาศได้มากพอสำหรับหม้อลมเบรคก็เลยต้องพึ่งปั๊มลมแปะติดกับเครื่องไว้ รถที่อุณหภูมิสุง ๆ แบบ BMW วิ่งรถติด ๆนานปั๊มลมก็เลยสิ้นอายุไขเร็วกว่าเพื่อน

นอกนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 7-8 ปีครับ เท่าที่ดูถึงตอนนี้ก็ยังดูดีกันอยู่ อาจเพราะอายุรถยังน้อย ผมก็ไม่มีประสพการณ์อะไรจะมาเล่าให้ฟังได้มาก คู่มือหนา 3xx หน้าผมก็ยังแทบไม่ได้เปิดดูเลยครับ

Valvetronic ที่ใส่ใน N20 ก็เป้น Generation ที่สามแล้วของ BMW น่าจะแก้ปัญหาโง่ๆ ของรุ่นแรก ๆ อย่าง N42 ได้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นกล่องควบคุม ชุดโซ่ แรงดันน้ำมันเครื่อง และยังมีข่าวดีว่า BMW เปลี่ยนยี่ห้อน้ำมันเครื่องแล้วด้วย น่าจะตัดปัญหาไปได้หลายเลย

รวม ๆ แล้ว ถ้าเทียบกับเครื่องฉีดตรงของ Scirocco ผมมองว่า BMW น่าจะทนกว่า ถ้าจะแพ้ ก็คงแพ้ตรงเทอร์โบนี่ล่ะ ที่น่าจะอายุไม่ยืน เพราะมันต้องทำBalance load พลาดนิดเดียว แรงดันไมสมดุลเครื่องก็รวนมากมายแล้ว


ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ถ้าเอา F30 ตัวถูกสุด ดูแลง่ายกว่าแน่ ๆ เอาแค่เรื่องโช๊ค โช๊คธรรมดายังงัยก็ดูแลง่ายกว่าพวกโช๊คไฟฟ้า
รบกวนถามคุณ Jae ครับว่าเครื่อง+เกียร์ ของ BMW 320i ชุดนี้มีอะไรน่ากังวลในระยะยาวหรือไม่ครับถ้าจะใช้สัก 7-8 ปี แล้วก็ถ้าเทียบกับ Golf MK7 ตัวที่ไม่ใช่ GTi จะเป็นอย่างไรบ้างครับ

เกียร์ ZF 8HP45 ที่อยู่ใน BMW ตั้งแต่เปิดตัวราว ๆ 3 ปีมานี่ ผมยังไม่เคยเจอว่ามีใครพัง แต่เกียร์รุ่นเดียวกันนี่ใน AUDI A6 พังเคยเห้นมาแล้ว เพราะเจ้าของตรีนหนัก ใช้แต่โหมดแมนนวล แกะไส้ออกมาเจอคลัทช์ไหม้

ผมอ่านคู่มือเกียรรุ่นนี้ มันมีแต่ระบบอุ่นน้ำมันเกียร์ กับรักษาความร้อนเพื่อวิ่งอากาศหนาว เขาคุยว่าสามารถสตาร์ทออกตัวได้ทันทีแม้อุณหภูมิติดลบ32 องศาเซลเซียส ไม่รู้ว่าระยะยาวกับอากาศเมืองไทยจะเป็นอย่างไรเหมือนกันเพราะระบบอุ่นน้ำมันเกียร์นี่แหละที่ผมห่วง

เครื่อง N20B20 ที่เคยได้ผ่านมือกับอะไหล่มีแค่อย่างเดียวคือปั๊มลม เป็นธรรมดากับรถทีใช้Valvetronic มันจะไม่สร้างสุญญากาศได้มากพอสำหรับหม้อลมเบรคก็เลยต้องพึ่งปั๊มลมแปะติดกับเครื่องไว้ รถที่อุณหภูมิสุง ๆ แบบ BMW วิ่งรถติด ๆนานปั๊มลมก็เลยสิ้นอายุไขเร็วกว่าเพื่อน

นอกนั้นผมก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 7-8 ปีครับ เท่าที่ดูถึงตอนนี้ก็ยังดูดีกันอยู่ อาจเพราะอายุรถยังน้อย ผมก็ไม่มีประสพการณ์อะไรจะมาเล่าให้ฟังได้มาก คู่มือหนา 3xx หน้าผมก็ยังแทบไม่ได้เปิดดูเลยครับ

Valvetronic ที่ใส่ใน N20 ก็เป้น Generation ที่สามแล้วของ BMW น่าจะแก้ปัญหาโง่ๆ ของรุ่นแรก ๆ อย่าง N42 ได้เกือบหมด ไม่ว่าจะเป็นกล่องควบคุม ชุดโซ่ แรงดันน้ำมันเครื่อง และยังมีข่าวดีว่า BMW เปลี่ยนยี่ห้อน้ำมันเครื่องแล้วด้วย น่าจะตัดปัญหาไปได้หลายเลย

รวม ๆ แล้ว ถ้าเทียบกับเครื่องฉีดตรงของ Scirocco ผมมองว่า BMW น่าจะทนกว่า ถ้าจะแพ้ ก็คงแพ้ตรงเทอร์โบนี่ล่ะ ที่น่าจะอายุไม่ยืน เพราะมันต้องทำBalance load พลาดนิดเดียว แรงดันไมสมดุลเครื่องก็รวนมากมายแล้ว


ขอบคุณมากๆเลยครับ