ของผมมีเครืื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็ฉีดล้างเบื้องต้นที่ล้อก่อน แล้วปรับหัวแรงดันให้อ่อนสุดแล้วล้างสีตัวถัง จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำผสมแชมพูล้างรถ ขัดคราบโคลนที่ติดฝังแน่นออก แต่หากรถยังสะอาดดีก็จะข้ามขั้นตอนนี้
จากนั้นก็ใช้ผ้าดิบชุบน้ำล้างทำความสะอาดล้างคราบแชมพูอีกที ได้ที่เสร็จสรรพ ก็เตรียมแปรงซักผ้านี่ล่ะ เข้าไปขัดตรงซุ้มล้อ, บังโคลน, ยาง, ล้อแม็ก ตามลำดับ
ต่อมาก็ขั้นตอนเช็ดรถล่ะ (อยากได้รูปบรรยายเหลือเกิน)
ผมจะใช้ผ้าหนังชาร์มัวเช็ดออก เทคนิคก็ทำการเช็ดหยาบ 1 ครั้ง แล้วเช็ดละเอียดอีก 1 ครั้ง เพราะคุณสมบัติผ้าชาร์มัวนี่ดูดซับน้ำได้ดียิ่งกว่าฟองน้ำซะอีก สาเหตุที่ลูบหยาบก่อน ก็เพราะว่าจะได้ไล่น้ำออกปริมาณมากออกไปก่อน ทำให้ประหยัดเวลากว่าเช็ดทีละจุดให้แห้ง แล้วค่อยมาเก็บละเอียดอีกที
พอเช็ดตัวถังเสร็จ ก็จะมาเช็ดตรงธรณีประตู ซึ่งคนส่วนใหญ่เวลาล้างรถ(โดยเฉพาะแฟนผม) มักจะลืม แล้วก็ต้องเช็ดตรงกรอบในประตูด้วยนะครับไม่งั้นปิดประตูไปน้ำก็จะย้อยออกตามมา
ขั้นตอนต่อไป ผมก็เอาหัวเป่าลมออกมาเป่า เป่าตรงซอกที่ผ้าเช็ดเข้าไปไม่ถึงครับ
ต่อมาก็เช็ดล้อแม็ก ใช้ผ้าธรรมดาก็พอ แล้วก็ใส่น้ำยาทายางดำ เป็นอันเสร็จพิธี ใช้เวลารวมทั้งสิ้น ประมาณ 3 ชั่วโมง
หากต้องลงเงา ใช้น้ำยาแอมเวย์ลงเงาทั่วคัน โดยหลีกเลี่ยงพลาสติกที่ไม่ใช่สีพ่น ไม่งั้น...(ไม่อยากจะนึก) แล้วใช้ผ้าแห้งเช็ดออก ใช้เวลาอีกร่วม 2 ชม.(รวมเวลาชื่นชมรถด้วย) โดยรวมก็ล้างทั้งวันล่ะครับ ก็เลยล้างได้แต่วันอาทิตย์วันเดียว วันอื่นไม่ว่าง