ผู้เขียน หัวข้อ: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT  (อ่าน 68575 ครั้ง)

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:38:08 »
สวัสดีครับ พี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ชาว headlightmag ทุกคน
ช่วงนี้ผมค่อนข้างว่าง ก็เลยมีความตั้งใจว่า อยากทำ User’s review  กับเขาบ้าง
ทีแรกเห็นพี่ tfirst01 ทำรีวิว Civic 2003 ไปแล้ว  ก็กลัวคนอ่านจะเบื่อเหมือนกัน แต่ไหนๆ ก็ตั้งใจทำจนเสร็จแล้ว
ประกอบกับรถเราเป็นรุ่นเกียร์ธรรมดา  ซึ่งไม่ค่อยมีใครเอามาทำรีวิวสักเท่าไหร่  ก็เลยเอามาโพสต์ให้อ่านกันครับ 
และในตอนจบของรีวิวนี้ จะมี ”แฉให้ฟังหลังเข้าศูนย์”  ด้วยนะครับ ^^

เริ่มกันเลยดีกว่า....

ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงที่มาของการซื้อรถรุ่นนี้ก่อนนะครับ

ที่บ้านเริ่มใช้ซิวิคคันแรก คือ Civic EG 3 ประตู เกียร์อัตโนมัติ  เครื่องคาร์บูเรเตอร์ 1.5 ลิตรครับ   
คุณน้าซื้อมือสองมาตั้งแต่ผมเรียนอยู่ประมาณ ป.1 (12 ปีที่แล้ว)  เป็นรถฮอนด้าคันแรกของที่บ้านด้วยครับ

คันต่อมา คือ Civic EK (ตาโต) VTiL เกียร์ธรรมดา เครื่อง VTEC (กระจังหน้า และตัวอักษรบนกระโปรงท้ายถูกชุบเป็นสีทอง...เกรียนได้อีก 555)
ซึ่งคุณน้าอีกคนหนึ่งซื้อมือสองมาเช่นกัน  ซื้อในเดือนพฤศจิกายน 2001  ใช้ได้ไม่ถึงปี ก็รู้สึกว่า รถมันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ใช้แล้วไม่ค่อยแฮปปี้นัก
จึงตัดสินใจเอาไปเทิร์นกับศูนย์ที่จะออกรถคันใหม่ (ในระยะเวลาไม่ถึงปี ขาดทุนไป 70,000 บาทเลยทีเดียว)


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:15:56 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:40:40 »
ตอนที่ไปดูรถที่โชว์รูม คุณน้าไม่ได้ไปดูรุ่นอื่นเลยครับ เพราะในตอนนั้น คุณน้าชื่นชอบซิวิคโฉมนี้อยู่แล้ว 
จึงไปสอบถามข้อมูลของแถม ส่วนลด จากศูนย์ต่างๆ  และตัดสินใจจองรุ่น 1.7 VTi MT  สีทองไทเทเนียม 
และในวันที่ไปรับเจ้ารถสีทองคันนี้  (10 ก.ย. 2002) คุณน้าเจ้าของ Civic 3 ประตู (ซึ่งตอนนั้นเริ่มมีรอยสนิมที่ไฟท้ายและประตูด้านคนขับ)
ก็ได้จองรถรุ่นเดียวกัน แต่เป็นสีเทาซิกเน็ท

สรุปแล้ว ที่บ้านก็เลยมี Civic ES รุ่นเดียวกันเป๊ะๆ อยู่ 2 คัน - -*



เอาล่ะ ได้เวลาเข้าเรื่องตัวรถเสียที...

Honda Civic รหัสตัวถัง ES ถือเป็นซิวิคเจเนอเรชั่นที่ 7  เปิดตัวในประเทศไทยช่วงปลายปี 2000 โดยมีชื่อในการโฆษณาว่า  Civic new dimension 
ซึ่งคำว่า dimension ที่แปลว่า ”มิติ/ขนาด” นี้ ได้กลายเป็นชื่อเรียกติดปากของซิวิครุ่นนี้ไปโดยปริยาย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:17:38 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:46:18 »
Civic ES มีการไมเนอร์เชนจ์ 2 ครั้งด้วยกัน โดยทั้ง 2 ครั้งนั้น มีชื่อในการโฆษณาว่า Civic Excite
และในรุ่นสุดท้ายจะถูกเรียกติดปากว่า รุ่นตาเหยี่ยว (จริงๆ คุณพ่อก็ใช้ RX ตาเหยี่ยวอยู่ครับ แต่ไม่ได้เอามาทำรีวิว กลัวมันจะยาวเกินไป)
 
แต่จริงๆ แล้ว Civic ES รุ่นแรกนี้ได้มีการปรับอุปกรณ์ด้วยนะครับ คือในประมาณปลายปี 2001 มีการออกรุ่นพิเศษ
เป็นรุ่น Exclusive ซึ่งจะได้คอนโซลกลางตกแต่งด้วยลายไม้ และปลอกท่อไอเสียสแตนเลส หลังจากการเพิ่มรุ่น Exclusive เข้ามาไม่นาน
ได้มีการเปลี่ยนแปลงของชิ้นส่วนภายในบางชิ้นในทุกรุ่นย่อย ไม่ว่าจะเป็น Exclusive หรือไม่ก็ตาม ได้แก่
1.มือจับบนแผงประตูด้านใน  จากเดิมสีน้ำตาล เปลี่ยนเป็นสีเบจ  
2.พวงมาลัยและคอพวงมาลัย เปลี่ยนจากสีดำ เป็นสีน้ำตาล  และในรุ่น VTi ที่ไม่มี Airbag ได้พวงมาลัยหุ้มหนัง
3.เครื่องเสียง จากเดิมที่ทุกรุ่นจะได้เครื่องเล่นวิทยุ-เทป  มีการเปลี่ยนแปลงในรุ่น VTi AT (ASL) และ VTi AT (AS)
หรือรุ่นท็อป และรองท็อป  จะได้เครื่องเสียงที่เล่นได้ทั้งเทป และ CD 6 แผ่น
4.ในรุ่น EXi (เครื่อง 1.7 SOHC ธรรมดา)  จากเดิมที่ภายในเป็นสีเทา-ดำ จะได้ภายในเป็นสีเบจเหมือนกับรุ่น VTi



รูปลักษณ์ภายนอก ผมมองว่ามันสวยลงตัวนะครับ ระยะยื่นด้านหน้าลดลงเมื่อเทียบกับรุ่นตาโต กระจังหน้าเป็นแบบ 3 ชั้น ในกรอบห้าเหลี่ยม
ไฟหน้ามีการแยกไฟหรี่มาไว้ในวงกลม
ในรุ่นนี้ยังไม่มีไฟตัดหมอกมาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐานนะครับ ถ้าอยากได้ต้องติดเพิ่มเอง

ล้ออัลลอยด์ในรุ่น VTi จะเป็นขนาด 15” แบบ 5 ก้านปัดเงา พร้อมกับยางขนาด 185/65R15  ส่วนในรุ่น EXi เป็นขนาด 14”  5 ก้านเฉียงๆ ไม่ปัดเงา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:20:50 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:48:19 »
ด้านข้าง มีคิ้วกันกระแทกสีเดียวกับตัวรถมาให้  ขอบหน้าต่างประดับด้วยโครเมี่ยม



ไฟท้ายแยกเป็นสองก้อน มีการเคลือบไฟเลี้ยวและไฟถอยให้มีสีกลมกลืนกับโคมสีแดง
ฝากระโปรงท้ายถูกออกแบบให้ลาดลงเล็กน้อย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:22:07 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:49:28 »
กุญแจ มีระบบ immobilizer ยังไม่เป็นแบบ wave key  หน้าตาดูโบราณไปหน่อย และยังไม่มีรีโมทมาให้แม้แต่รุ่นเดียว
ต้องใช้กุญแจไข หรือไม่ก็ต้องติดรีโมทกันขโมยเพิ่มเอาเอง



การเข้าออกด้านหน้า สำหรับผมสูง 165 ไม่มีปัญหาใดๆ นะครับ และคิดว่าคงไม่เป็นปัญหาสำหรับคนตัวใหญ่ๆ เช่นกัน เพียงแต่ตำแหน่งเบาะอยู่เตี้ย
จึงทำให้การก้าวออกจากรถต้องใช้แรงยกตัวเล็กน้อย



การเข้าออกด้านหลังก็ไม่มีปัญหาครับ แต่ถ้าคนตัวสูงๆ อาจต้องระวังหัวชนขอบด้านบนเล็กน้อย

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:26:03 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:53:22 »
สีภายในเป็นสีเบจในลักษณะทูโทน  คอนโซลหน้าส่วนบนเป็นสีน้ำตาล ส่วนล่างเป็นสีเบจ คอนโซลตรงส่วนที่ลาดลงมาจะเป็นโฟมอัดนุ่มๆ




พวงมาลัยในุทุกรุ่นเป็นแบบสี่ก้าน ในรุ่น VTi หุ้มด้วยหนัง (สังเกตดีๆ มันยกมาจากแอคคอร์ดรุ่นไฟท้ายสองก้อนชัดๆ) ปรับสูง-ต่ำได้
ถ้าเป็นรุ่น EXi จะหุ้มด้วยยูรีเทน  การกดแตรต้องกดบริเวณวงกลมที่มีตัว H อยู่เท่านั้นครับ แต่ในรุ่นที่มี Airbag พวงมาลัยจะเป็นอีกแบบหนึ่ง
แผงบังแดดมีกระจกแต่งหน้าพร้อมฝาปิดมาให้ทั้งสองฝั่ง  กระจกมองหลังปรับตัดแสงได้  ข้างบนมีไฟอ่านหนังสือแบบแยก 2 ฝั่งมาให้
เปิด/ปิดการใช้งานโดยการกดลงบนโคม
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:27:47 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:54:28 »
หน้าปัดเป็นสีดำ เข็มสีแดง มี 4 วง ยังไม่มีระบบเรืองแสงมาให้
และปรับความสว่างไม่ได้  ไฟหน้าปัดเป็นสีออกเหลืองๆ ดูสบายตาดี
มาตรวัดรอบมีถึง 8500 รอบ/นาที  เรดไลน์เริ่มที่ 6800 รอบ/นาที
ตรงวงวัดรอบนี้ถ้าเป็นรุ่น AT ตัวเลขจะไม่เรียงมาจนสุดขอบวงขนาดนี้นะคะ
จะถูกร่นไปอยู่ที่ประมาณเลข 6  เพราะจะมีไฟแสดงตำแหน่งเกียร์มาเบียดนั่นเอง



ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:55:29 »
อุปกรณ์ควบคุมบริเวณพวงมาลัยก็เหมือนรถญี่ปุ่นทั่วไปครับ
ด้านซ้ายเป็นก้านควบคุมที่ปัดน้ำฝน ซึ่งในโหมด INT ยังไม่สามารถปรับตั้งเวลาได้
ด้านขวาเป็นก้านควบคุมไฟเลี้ยวและไฟหน้า  ใต้ช่องแอร์เป็นสวิตช์ปรับและพับกระจกมองข้าง
ด้านใต้มีช่องเก็บของเล็กๆ มาให้

กระจกหน้าต่างคนขับมีระบบ Jam protection
ปุ่มล็อก/ปลดล็อกประตูไม่มีมาให้ตามสไตล์ Honda ยุคเก่า ยังต้องเอื้อมมือไปล็อก/ปลดล็อกเอาเองครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:31:21 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:57:06 »
เครื่องเสียงแบบวิทยุ-เทป และสวิตช์ระบบปรับอากาศถูกรวมอยู่ในกรอบสีเงิน ใช้งานได้ค่อนข้างสะดวก
แต่เครื่องเสียงอาจต้องเอื้อมไปเล็กน้อย ใต้เครื่องเสียงมีที่เก็บของซึ่งก็เก็บอะไรไม่ค่อยได้มากนัก เก็บเทปได้แค่ 2 ตลับ
กับตัวเทปที่ไม่ได้ใส่ตลับอีก 2 อัน (ส่วนใหญ่จะชอบใช้เก็บบัตรจอดรถครับ)

สวิตช์ระบบปรับอากาศ เป็นมือบิดแบบดูดีมีระดับ (ดูไม่เหมือนมือบิดเครื่องซักผ้า 555)  ระดับความแรงของพัดลมปรับได้ละเอียดถึง 9 ระดับ
และระดับความเย็นปรับได้ 15 ระดับ



ถัดลงมาด้านล่างเป็นเก๊ะเก็บเหรียญ  และช่องจ่ายไฟพร้อมที่จุดบุหรี่



ที่วางแก้วน้ำ เปิดโดยการกดลงไป  แล้วฝาเปิดจะเด้งขึ้นมา  ที่คั่นสามารถพับเก็บได้ หากต้องการใช้งานก็ทำได้โดยกดปุ่มด้านขวาที่มีตัวอักษร PUSH
ด้านข้างทั้งสองฝั่งมีช่องเสียบบัตรมาให้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:33:08 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 17:58:31 »
ที่เก็บของ บอกตรงๆ เลยว่ามีน้อยเกินไปครับ  หากคนที่มีของจุกจิกเยอะๆ  มีหวังรถรกแน่ๆ   
เก๊ะตรงผู้โดยสารตอนหน้า ก็มีขนาดเล็กเกินไป แค่ใส่คู่มือ ก็แทบไม่มีที่ใส่อย่างอื่นแล้ว เก็บได้อย่างมากก็พวกกระดาษหรือหนังสือบางๆ 
(เป็นลักษณะที่ถูกถ่ายทอดมาจาก EG และ EK ชัดๆ)



คอนโซลกลาง มีช่องเก็บของรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสอยู่ใต้เบรกมือ และสี่เหลี่ยมผืนผ้าอยู่ข้างเบรกมือ
ไม่มีกล่องเก็บของคอนโซลกลาง ซึ่งถือว่าด้อยลงกว่าโฉม EK ครับ เพราะโฉม EK ยังมีมาให้
สงสัยเป็นเพราะการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับที่เท้าแขนด้านคนขับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:37:02 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:00:21 »
เบาะนั่งด้านคนขับสามารถปรับสูงต่ำได้ด้วยระบบกลไกในทุกรุ่น  สำหรับผมถือว่านั่งสบายในระดับหนึ่ง 
แต่ถ้าจะให้สบายยิ่งขึ้นต้องเอนเบาะลงเล็กน้อย ส่วนรองนั่งหากยาวขึ้นอีกนิดนึงน่าจะรู้สึกสบายกว่านึ้
ผ้าที่ใช้หุ้มให้สัมผัสที่นุ่มนวล ไม่สาก แต่ก็ค่อนข้างเก็บฝุ่นอยู่เหมือนกัน

เบาะหลัง มีที่เท้าแขนพร้อมที่วางแก้วน้ำมาให้  อยู่ในตำแหน่งที่วางแขนได้ค่อนข้างสบายครับ พนักพิงศีรษะในรุ่นนี้ยังเป็นแบบ fix 
ไม่มีปัญหาเรื่องการบดบังทัศนวิสัยแต่อย่างใด



เบาะรองนั่งด้านหลังค่อนข้างเตี้ยไปหน่อยครับ เวลานั่งอาจจะต้องชันเข้าเล็กน้อย แต่ถ้านั่งเอาเท้าสอดเข้าไปใต้เบาะนั่งด้านหน้า ก็จะรองรับข้อพับได้พอดี

สิ่งที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของเจ้า ES คือ พื้นห้องโดยสารแบบ Rear flat floor คือจะไม่มีอุโมงค์เพลาโผล่ขึ้นมาให้ผู้โดยสารด้านหลังตรงกลางต้องรำคาญใจ
Leg room  ก็เยอะพอประมาณครับ สำหรับคนร่างเล็ก สามารถนั่งไขว่ห้าง หรือเหยียดขาเข้าไปใต้เบาะหน้าได้สบายๆ เลย 

พื้นที่เหนือศีรษะ สำหรับผมไม่มีปัญหาใดๆ ครับ  แต่ถ้าคนที่สูง 180 ก็อาจจะต้องระวังหัวชนเพดานเวลาเจอถนนขรุขระมากๆ บ้าง
(เพราะช่วงล่างหลังมันดีดเหลือเกิน)

ห้องเก็บของด้านหลังตื้นไปหน่อย อย่างที่เห็นในรูปคือสภาพการใส่ของปกติของคุณน้าเจ้าของรถเลย 
จะเหลือที่ใส่ของจริงๆ ก็เฉพาะตรงพรมสีน้ำตาลครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:41:28 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:02:25 »
ทัศนวิสัยด้านหน้าดูโปร่งดีครับ คอนโซลหน้าไม่ยาวเกินไป ยังสามารถมองเห็นหน้ารถได้อยู่



กระจกมองข้างมีขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป  ปรับหามุมได้ไม่ยากนัก
เสา A อาจบดบังเวลาเลี้ยวขวาเล็กน้อย



ด้านซ้ายก็ไม่มีอะไรบดบังมากนัก  แต่ช่วงฐานกระจกมองข้างดูหนาๆ อยู่บ้าง



เสา C มีขนาดใหญ่พอสมควร  อาจบังมอเตอร์ไซค์ได้เกือบมิด การถอยจอดก็อาจต้องใช้กระจกมองข้างช่วยกะระยะร่วมด้วยครับ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:43:16 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:04:12 »
รายละเอียดทางเทคนิค



เครื่องยนต์รหัส D17A  SOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน VTEC
ความจุกระบอกสูบ 1,668 ซีซี
ความกว้าง x ช่วงชัก   75.0mm x 94.4mm
อัตราส่วนกำลังอัด    9.9:1
กำลังสูงสุด  130 แรงม้า(ps)  ที่ 6,300 rpm
แรงบิดสูงสุด 15.8 kg-m ที่ 4,800 rpm



ระบบส่งกำลังเป็นเกียร์ธรรมดา ซินโครเมทแบบ 5 สปีด
อัตราทดเกียร์
เกียร์1   3.461
เกียร์2   1.869
เกียร์3   1.241
เกียร์4   0.969
เกียร์5   0.805
อัตราทดเฟืองท้าย  4.411
การออกตัวด้วยเกียร์ 1 เรียกว่า แรงมาตามเท้าเต็มๆ เลยครับ จะค่อยๆ ไป หรือจะดึงให้หลังติดเบาะนิดๆ ก็ได้  แล้วแต่น้ำหนักเท้าที่กดลงไป
ส่วนการเปลี่ยนเกียร์ให้ smooth ก็ต้องขึ้นอยู่กับฝีมือของแต่ละคนแล้วครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:44:29 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:08:38 »
อัตราเร่งจาก  0-100  ยังไม่เคยลองซัดเต็มๆ ครับ (ยังแอบสงสารรถอยู่เล็กน้อย)
ฉะนั้นขออนุญาตอ้างอิงจากคลิปที่มีคนเคยทำไว้นะครับ

 

จะพบว่า 0-100 ใช้เวลาเพียง 8 วินาทีกว่าๆ เท่านั้น  และสามารถทำท็อปสปีดได้ถึง 220 km/h เลยทีเดียว

80-120  ทดสอบโดยใช้เกียร์ 3 ได้เฉลี่ย 8.7 วินาที

รอบเครื่องที่ความเร็วต่างๆ ที่เกียร์ 5
80   km/h  = 2450 rpm
90   km/h  = 2800 rpm
100 km/h  = 3100 rpm 
110 km/h  = 3400 rpm
120 km/h  = 3700 rpm

เมื่อเทียบกับ AT ที่ความเร็วเท่ากัน รอบของ MT จะสูงกว่านะครับ

คันเร่งมีน้ำหนักกำลังดีครับ ไม่เบาเกินไป สามารถควบคุมให้ความเร็วคงที่ได้ไม่ยากนัก

ระบบกันสะเทือน
ด้านหน้าเป็นแบบโท คอนโทรล ลิ้งก์ สตรัต อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลง
ด้านหลังแบบรีแอกทิฟลิงค์ ดับเบิ้ลวิชโบน อิสระ พร้อมเหล็กกันโคลงในรุ่นท็อป

ซึ่งด้านหลังนี้เป็นอย่างที่ทราบกันนะครับ คือ ดีดเด้ง มากๆ
เด้งขนาดไหนน่ะเหรอ?? 
หากคุณกำลังขับเพลินๆ ในซอยหรือถนนเล็กๆ ที่ความเร็วประมาณ 30 km/h แล้วเจอ ลูกระนาดที่ชันๆ หน่อย  แบบไม่ได้ตั้งตัว
อาจจะเบรกเล็กน้อย แล้วปล่อยให้รถขึ้นลูกระนาดนั้นไป...คุณอาจได้ยินเสียงของในกระโปรงท้าย กระทบกับพื้นห้องเก็บของได้เลยทีเดียว 
หรือไม่ ก็ลองให้ใครสักคนนั่งเบาะหลัง คาดเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุดดู แล้วทำแบบเดียวกัน เข็มขัดนิรภัยได้ทำงานแหงๆ ครับ

การเข้าโค้ง จากการเข้าโค้งที่ไม่หักมากนัก โดยอยู่ในเลนเดียว ที่ความเร็วประมาณ 100 km/h  ก็ยังสบายๆ ไม่มีอาการดื้อครับ
พวงมาลัยตอบสนองไวพอประมาณ  น้ำหนักในความเร็วต่ำสำหรับผมถือว่าหนืดกำลังดี แต่ในช่วงความเร็วสูง
จะให้ความมั่นใจได้ถึงประมาณ 120 km/h หลังจากนั้นจะเริ่มรู้สึกเบาๆ หวิวๆ ไม่ค่อยหนักแน่น

ระบบเบรก เป็นดิสก์ 4 ล้อ ด้านหน้ามีช่องระบายความร้อน  แต่ถ้าเป็นในรุ่น EXi เบรกหลังจะเป็นแบบดรัม การหน่วงความเร็วทำได้ค่อนข้างดีเลยครับ
เบรกกะทันหันหลายครั้งก็ยังเอาอยู่

สิ่งที่ทำได้แย่อีกอย่างของเจ้า ES  ที่รู้ๆ กัน  คือการเก็บเสียงครับ วิกฤติมาก ทั้งเสียงเครื่อง เสียงจากพื้นถนน เสียงลม
หลังความเร็ว 80 km/h ไปก็จะเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ เลย



อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง
สำหรับการใช้งานปกติในชีวิตประจำวัน  ตามสภาพการจราจรในเชียงใหม่  คือเจอรถติดบ้างเล็กน้อย  หากถนนโล่งก็วิ่งประมาณ 100 km/h ไม่เกิน 120 km/h
ใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ก็จะได้เฉลี่ยประมาณ 13-14 km/l ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:53:24 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:10:10 »
สรุป

Civic ES เกียร์ธรรมดา ถือเป็นรถที่ขับสนุกคันหนึ่ง เกียร์ธรรมดาขับแล้วได้อารมณ์มากกว่าเกียร์อัตโนมัติจริงๆ เครื่องยนต์มีพละกำลังที่เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆไป 
ถ้าวันไหนต้องการเรี่ยวแรง มันก็สามารถแรงได้ในระดับที่ไม่ทำให้คุณผิดหวัง
พวงมาลัยในช่วงความเร็วต่ำ และคันเร่ง มีน้ำหนักกำลังดี แต่สิ่งที่ต้องทำใจยอมรับในรถรุ่นนี้ก็คือ ความดีดเด้งของช่วงล่างหลัง และการเก็บเสียงที่ค่อนข้างแย่ครับ



จากการใช้งานมา 52,000 กว่ากม. (คันสีเทา 62,000 กว่ากม.) ปีนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 8 แล้ว  ก็ยังไม่เคยงอแงนะครับ  นอกจากแบตเตอรี่หมดไปตามอายุของมัน
ซึ่งก็เคยใช้วิธีเข็นสตาร์ทเอา (นี่ล่ะ ข้อดีอีกอย่างของเกียร์ธรรมดา อิอิ)
ปัญหาที่พบในทั้ง 2 คัน ก็จะมีเสียงพลาสติกใต้กระจกบังลมหลังสั่นๆ ในบางช่วง,
สนิมที่กลอนประตูหน้า ซึ่งเจ้านี่ก็ทำให้ผมรู้สึกแย่อยู่เหมือนกัน


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:56:50 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:11:40 »
อีกอย่างที่ดูแล้วขัดใจคือ ตัวล็อกประตูที่มีความสูงไม่เท่ากัน เป็นตั้งแต่ออกรถเลย แล้วก็เป็นเหมือนกันทั้ง 2 คันด้วย
คือตัวล็อกประตูด้านหน้าจะเตี้ยกว่าประตูคู่หลังอย่างชัดเจน โดยเฉพาะฝั่งซ้าย ซึ่งอาจจะเป็นเฉพาะล็อตการผลิตในช่วงนั้นครับ
(รูปนี้ อยู่ในตำแหน่งปลดล็อค)



ในคันสีทองจะพบอาการคลัทช์ดังเอี๊ยดอ๊าดเวลาเลี้ยงคลัทช์  ซึ่งฉีด sonax  ก็แก้ได้บ้าง  แต่สักพักก็กลับมาดังอีก สร้างความรำคาญพอสมควร
ไฟเพดาน บางครั้งก็ไม่ติด ต้องเคาะเบาๆ ถึงจะติด
และวิทยุที่เคยรวน จู่ๆ ก็ scan หาคลื่นเอง หากฟังเทปโดยวิทยุยังเป็นแบบนี้อยู่ จะไม่สามารถกดกรอหรือกลับหน้าเทปได้เลย ต้องฟังไปเรื่อยๆ เท่านั้น
แต่แล้วอยู่ดีๆ อาการนี้ก็หายไปเอง ทุกวันนี้อาการนี้ก็ยังไม่กลับมา

นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรน่ารำคาญใจเท่าไหร่ครับ 

สำหรับคนที่กำลังมองหารถมือสองไว้ใช้สักคัน  ถ้ามีงบอยู่ที่ประมาณ 400,000 บาท Civic ES ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่เบานะครับ ^^


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 15, 2016, 23:57:54 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:13:46 »
แฉให้ฟังหลังเข้าศูนย์!!

สิ่งที่ทุกวันนี้ ผมยังจำฝังใจ คือการเข้าศูนย์ครับ
สำหรับคันสีเทา ยังไม่เคยมีปัญหาจากการเข้าศูนย์
แต่คันสีทองนี้  เจอมาหลายรอบแล้วครับ!

คือ รถทั้งสองคันนี้ ซื้อที่ศูนย์บนถนนเชียงใหม่-ลำปาง
ก็เลยใช้บริการศูนย์นี้ตลอดครับ  และผมจะเป็นประเภทไว้ใจศูนย์บริการฮอนด้ามากที่สุด ไม่ยอมซ่อมอู่นอกเลย
แม้แต่เปลี่ยนยางปัดน้ำฝนก็ยังเอามาเปลี่ยนที่ศูนย์  และมีครั้งหนึ่ง โดนรถบรรทุกเบียดกระจกมองข้างหัก
คุณน้าก็ไม่ยอมให้อู่ในประกันของรถบรรทุกทำสี  เพราะไว้ใจศูนย์มากกว่า  ถึงกับยอมออกค่าทำสีเอง ให้ประกันเขาจ่ายแค่ค่าอะไหล่ 
แต่ปรากฏว่าศูนย์ทำสีเลอะฐานกระจกมองข้างที่เป็นสีดำเล็กน้อย แต่ผมก็ โอเค ช่างมันเถอะ.. 

แต่แล้วก็ต้องมาเจอเหตุการณ์ที่ทำให้บ้านผมเลิกใช้บริการศูนย์นี้ไปเลย
คือตอนนั้นเอารถไปเช็คระยะปกติครับ เห็นว่าคิวยาว ก็เลยทิ้งรถไว้ตอนเช้า แล้วกลับมาเอาตอนบ่ายๆ
ตอนที่กลับมาเอา รถผมจอดอยู่บนทางลาดในลักษณะหันหน้าลง
ซึ่งปกติที่ตรงนี้ใช้เป็นที่จอดรถทดลองขับ
พอพนักงานขึ้นไปขับ จะเอารถลงมาให้คุณน้า สงสัยเขาจะไม่คุ้นเคยกับเกียร์ธรรมดา
พอปลดเบรกมือปุ๊บ ปรากฏว่า มีรถแอคคอร์ดตาเพชรคันหนึ่ง ขับเข้ามาจอดขวางหน้ารถที่กำลังจะไหลลงมา!
พนักงานขับรถคันนั้น คงไม่รู้ว่าจะเบรกอย่างไร อาจจะเหยียบแต่คลัทช์ไว้ (ถ้าเบรกเป็นรับรองว่าเบรกทันแน่นอน)
ผลก็คือ รถเรา ชน เข้ากับประตูหลังฝั่งขวาของแอคคอร์ดคันนั้นอย่างจัง  เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผม และคุณน้าผมอีก 2 คน
หลังจากชนเสร็จแล้ว  เขาก็ขับถอยขึ้นไปบนทางลาด และรอให้แอคคอร์ดย้ายเพื่อเปิดทางให้ พอเอาออกมาได้ พวกผมก็สำรวจว่ารถเสียหายอย่างไรบ้าง...
ณ ตอนนั้นต้องยอมรับว่าดูไม่ละเอียด ประกอบกับสภาพแสงที่ไม่สว่างมากนัก จึงสังเกตเห็นแค่ป้ายทะเบียนถลอกเล็กน้อย.. จึงบอกไปว่า ไม่เป็นอะไร
แต่หลังจากขับออกจากศูนย์ไปจอดที่ห้างใกล้ๆ แล้วจอดกลางแจ้ง จึงลองสำรวจอีกครั้งหนึ่ง ก็พบรอยน็อตกรอบป้ายทะเบียนจิ้มเข้าไปในกันชนหน้า
แบบว่าบุ๋มลงไปเลยครับ
พอเอากลับไปที่ศูนย์ในวันต่อมา เขาก็บ่ายเบี่ยงที่จะซ่อมสีให้  ทำแค่แต้มสีให้เท่านั้น ทุกวันนี้ก็ยังมีรอยนี้ไว้เตือนใจอยู่ครับ



จากนั้นเป็นต้นมาบ้านผมก็เลยเลิกใช้บริการศูนย์นี้ไปเลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2016, 00:04:09 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:17:42 »
ในช่วงนั้นก็มีศูนย์บริการเปิดใหม่พอดี อยู่ที่ อ.แม่ริม เยื้องโรงพยาบาลนครพิงค์ ใกล้ที่ทำงานของคุณน้าเจ้าของคันสีเทา

ที่บ้านจึงหันไปใช้บริการศูนย์นี้แทน  แรกๆ รู้สึกว่าศูนย์นี้เวิร์คนะ ห้องพักลูกค้า โชว์รูม ทำได้ดีเลย  แต่ในการไปใช้บริการครั้งแรก
ก็แอบมีเหตุกวนใจเล็กน้อย คือตอนนั้นนำรถไปเช็ค หลอดไฟเลี้ยวข้างตัวถังด้านขวาขาดพอดี  ก็เลยบอกเขาตอนรับรถว่าให้เปลี่ยนหลอดไฟเลี้ยวด้วย
ปรากฏว่า พอเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเสร็จ เอารถมาส่งให้เราแล้ว พบว่า ยังไม่ได้เปลี่ยนหลอดไฟเลี้ยว
ก็เลยได้เอาเข้าไปเปลี่ยนอีก รอนานพอสมควร เพราะเขาอ้างว่า ต้องรื้อบังโคลนออกมา (จริงๆ ในคู่มือบอกว่าวิธีถอดโคมไฟเลี้ยวนี้คือให้ดันไปข้างหน้า)
แต่ในเคสนี้ก็ยังรู้สึกให้อภัยได้ เพราะเห็นว่าศูนย์เพิ่งเปิดใหม่  อาจจะยังตื่นเต้น หลงๆ ลืมๆ กันบ้าง



จากนั้นรถที่บ้านก็ใช้บริการศูนย์นี้เรื่อยมา
จนกระทั่งเมื่อปลายปี 2008 ก็เกิดเรื่องอีกครับ คือว่าตอนนั้นเอารถไปเช็คระยะอีกนั่นแหละ  แล้วเขามีบริการตรวจเช็คฟรี 20 รายการให้ด้วย 
เสร็จแล้วก็รับรถออกมาตามปกติ แต่เขาไม่ได้ล้างรถให้ ซึ่งผมก็โอเค ไม่เป็นไร เดี๋ยวกลับไปล้างเอง

เย็นวันนั้นผมก็เลยล้างรถที่บ้าน ล้างไปล้างมาก็พบว่า มีรอยบริเวณกันชนหน้า ตรงบริเวณไฟหน้าด้านขวา 
ทีแรกนึกว่าเป็นขี้นก ก็งงว่าทำไมล้างไม่ออก แต่เมื่อสำรวจอย่างละเอียด ก็พบว่าสีพอง!! และมีรอยพองเล็กๆ ลามไปถึงแถวๆ กระจังหน้า
โดยที่โคมไฟหน้าก็มีรอยพองด้วย จึงเปิดฝากระโปรงหน้าขึ้นมา เห็นว่าแบตเตอรี่ตรงพลาสติกของช่อง indicator ก็มีรอยแบบเดียวกัน 
ซึ่งไม่มีทางเกิดจากเราแน่นอน เพราะแบตเตอรี่เป็นแบบ low maintenance  ตั้งแต่เปลี่ยนมาก็เปิดดูน้ำกลั่นแค่ครั้งสองครั้งเอง
จึงสันนิษฐานว่า ตอนที่เขาตรวจเช็คหรือเติมน้ำกลั่น อาจไม่ได้ดับเครื่อง แล้วน้ำกรดในแบตเตอรี่ก็เลยกระฉอกออกมา

วันต่อมาจึงได้ขับรถไปที่ศูนย์ให้เขาดู...
ตอนแรกก็ทำท่าไม่ยอมรับครับ  เพราะเขามาบอกว่า เท่าที่ทราบไม่มีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริเวณนั้นเลย   
ผมก็เลยถามว่า แล้วรายการที่บอกว่าตรวจเช็คระดับน้ำกลั่น ไม่ได้ยุ่งกับแบตเตอรี่เหรอ??  อยู่ดีๆ สีมันจะพองขึ้นมาได้ไง
แล้วรอยพองเล็กๆ ที่ลามไปใกล้ๆ กระจังหน้าอีกล่ะ
ซึ่งพี่เขาบอกว่า อาจเกิดจากหินกระเด็นใส่ก็ได้นะครับ
ผมก็คิดในใจ โห...หินกระเด็นใส่แล้วสีพองมันมีที่ไหนหว่า??
น้าผมก็บอกเลยเขาว่า ป้ารู้นะ ว่าป้าก็มีส่วนผิดที่ไม่ได้ดูรถให้ดีก่อนเอาออกจากศูนย์ไป แต่ป้าว่า คงไม่มีใครที่เขาจะมาเดินสำรวจรอบรถอย่างละเอียดก่อนเอาออกไปหรอก เพราะเราเชื่อใจศูนย์บริการ   
เขาก็อึ้งๆไปนิดหน่อยครับ แล้วก็ลองนำรถเข้าไปขัดสี  แล้วเรียกเราเข้าไปดู  ซึ่งก็ทำให้รอยดูจางลงพอควร แต่ก็ยังเห็นอยู่ดี 
ในระหว่างนั้นเขาก็นำเอาน้ำกลั่นเติมแบตเตอรี่มาอธิบาย  นำมาเทให้ดูว่า เนี่ย น้ำกลั่นมันเป็นน้ำธรรมดา ไม่เป็นกรดนะครับ...
ผมก็แอบปรี๊ดนึดนึง คุณนึกว่าเราไม่รู้ว่าน้ำกลั่นคือน้ำที่ไม่เป็นกรดเลยเหรอ??
ณ ตอนนั้นแทบอยากเขียนปฏิกิริยาการจ่ายไฟอัดไฟในแบตเตอรี่ให้เขาดูเลยว่า กรดมันเกิดจากปฏิกิริยาการอัดไฟในแบตเตอรี่ว้อยยยย...

แต่ในที่สุด เขาก็บอกว่า เพื่อความสบายใจทั้งสองฝ่าย ทางเขาจะขัดชั้นแล็กเกอร์ออกแล้วพ่นแล็กเกอร์ให้ใหม่ 
ซึ่งในความรู้สึกของผมถือว่าเหนือความคาดหมายเล็กน้อยนะครับ เพราะจริงๆ แล้ว ที่กลับมาไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะให้ซ่อมให้หรอก
แค่ต้องการให้เขายอมรับว่า รอยนี้เกิดจากเขา
ก็เลยตกลงให้ซ่อมครับ ทิ้งไว้ตอนสายๆ แล้วไปเอาตอนเย็น  ไม่เนี้ยบเท่าไหร่ มีรอยแล็กเกอร์เป็นหยดนิดๆ  แต่ก็โอเคขึ้น

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2016, 00:15:04 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:19:33 »
สรุปคือ ตอนนี้รู้สึกระแวงศูนย์ฮอนด้าไปเลยครับ  เวลาเอารถไปเช็คแต่ละครั้งก็ต้องลุ้นว่าจะเจอแจ๊คพ็อตอะไรอีกรึเปล่า..
และจากที่เมื่อก่อนชื่นชอบแบรนด์ฮอนด้ามากๆ ตอนนี้กลับรู้สึกว่า ถ้าจะซื้อฮอนด้าคันต่อไปก็อาจจะต้องคิดหนักหน่อยละ
 
จากใจเลย คือ อยากให้ฮอนด้าปรับปรุงการทำงานของพนักงาน  ให้มีความระมัดระวัง ละเอียด รอบคอบ มีความเชี่ยวชาญให้มากๆ 
มีความรับผิดชอบ อย่าคิดว่ารถลูกค้าเป็นของเล่น (ศูนย์แห่งแรก ช่างขับรถกันน่ากลัวมาก  ศูนย์แห่งที่สองนี้ก็มีบ้างเหมือนกัน) 
และที่สำคัญ อย่าคิดจะเอาเปรียบลูกค้าโดยเด็ดขาด 

อย่าได้ทำลายความชื่นชมในดีไซน์รถที่สวยทันสมัย  ด้วยความแย่ของคุณภาพรถ และศูนย์บริการเลยนะครับ

เหตุการณ์เหล่านี้สอนให้ผมคิดได้ว่า อย่าได้ยึดติดกับศูนย์บริการ
ยังมีอู่นอกที่ชำนาญกว่ามากมาย... ศูนย์บริการอาจไม่ใช่คำตอบสำหรับทุกสิ่งเสมอไป



และทั้งหมดนี้ ก็คือรีวิวแรกของผมครับ

ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมทำรีวิวนี้ขึ้นมาจนสำเร็จ
ขอขอบคุณ และ Happy Anniversary เว็ป Headlightmag.com ด้วยนะครับ
 
เชิญแสดงความคิดเห็นกันได้เต็มที่เลยนะครับ ^^
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2016, 00:17:11 โดย kkmelon14 »

ออฟไลน์ J!MMY

  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 15,624
    • www.headlightmag.com
    • อีเมล์
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:47:01 »
ขอบคุณมากครับ

เฮ้อ เจอประสบการณ์เดียวกับผมอีก เรื่อง ทำรถเป็นรอยเนี่ย

ฮอนด้า มีปัญหาแบบนี้บ่อยมาก ทั้งที่ยี่ห้ออื่น เขาไม่ค่อยจะมีเรื่องนี้กันแหะ... แปลกมากมาย

ออฟไลน์ YF-19

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 974
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:53:29 »
เยี่ยมเลยครับ ความรู้แน่นกว่าผมซะอีก   ที่บ้านก็มีเจ้า civic dimension อยู่คันนึงเหมือนกัน เป็นเกียร์แมนวลเครื่อง 1.7 ครับ เป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมสุดท้ายก่อน civic FD การขับขี่ก็เหมือนกันล่ะครับรถแบบเดียวกันนี่นา ส่วน0-100 เนี่ยที่ทำได้ 8 วิกว่าๆนี่ ไม่เคยลองเหมือนกันครับ เลี้ยงคันเร่งรอรอบแล้วออกตัวเนี่ย ไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนั้น ว่างๆจะไปลองดูบ้างว่าเป็นไง
ส่วนตีนปลายไม่ถึงละครับ เท่าที่ทำได้ 190 นี่ก็รอกันเหนื่อยแล้ว สงสัยผมคงไม่ได้เล่นรอบสูงๆขนาดในคลิป เสียดายไม่มีรูปมาแจมด้วย ก็ขอบคุณที่ทำมาให้อ่านกันครับ ;D ;D ;D
รีวิว "VW scirocco" กำลังจะมาครับ ขอเวลาอีกนิด

รีวิว "Hyundai coupe" ของผมเอง ติชมได้ตลอดครับ
http://www.headlightmag.com/webboard/index.php?topic=3731.0

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,041
Re: My first User?s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 18:58:21 »
เขียนได้ดีทีเดียวครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 19:10:10 »
เยี่ยมเลยครับ ความรู้แน่นกว่าผมซะอีก   ที่บ้านก็มีเจ้า civic dimension อยู่คันนึงเหมือนกัน เป็นเกียร์แมนวลเครื่อง 1.7 ครับ เป็นรุ่นเปลี่ยนโฉมสุดท้ายก่อน civic FD การขับขี่ก็เหมือนกันล่ะครับรถแบบเดียวกันนี่นา ส่วน0-100 เนี่ยที่ทำได้ 8 วิกว่าๆนี่ ไม่เคยลองเหมือนกันครับ เลี้ยงคันเร่งรอรอบแล้วออกตัวเนี่ย ไม่คิดว่ามันจะแรงขนาดนั้น ว่างๆจะไปลองดูบ้างว่าเป็นไง
ส่วนตีนปลายไม่ถึงละครับ เท่าที่ทำได้ 190 นี่ก็รอกันเหนื่อยแล้ว สงสัยผมคงไม่ได้เล่นรอบสูงๆขนาดในคลิป เสียดายไม่มีรูปมาแจมด้วย ก็ขอบคุณที่ทำมาให้อ่านกันครับ ;D ;D ;D

ตีนปลายหนูก้อไม่เคยทำค่ะ เคยขับเร็วสุดแค่ 150 นิดๆ   ไม่กล้าเร็วกว่านี้แล้วค่ะ

ออฟไลน์ KKCP118

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 257
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 19:12:51 »
ขอบคุณมากครับ

เฮ้อ เจอประสบการณ์เดียวกับผมอีก เรื่อง ทำรถเป็นรอยเนี่ย

ฮอนด้า มีปัญหาแบบนี้บ่อยมาก ทั้งที่ยี่ห้ออื่น เขาไม่ค่อยจะมีเรื่องนี้กันแหะ... แปลกมากมาย

พี่จิมก้อเคยเจอเหมือนกันเหรอคะ... แย่จัง

methus zaa

  • บุคคลทั่วไป
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 19:20:50 »
รีวิวได้ดีมากครับ อ่านง่ายมาก ขอบคุณมากนะครับพี่

ออฟไลน์ best

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 443
Re: My first User?s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 19:33:01 »

เหมือนจะเป็นรีวิวของผู้หญิงรีวิวแรกหรือเปล่าน้า  :- :)

รูปสวย บ้านสวย รถสถาพดี (มาก) และเล่าเรื่องได้ดีครับ  ;D

แอบเห็นหลายรูปถ่ายใน มช. ผมก็ลูกช้างนะ ถือไอ้ติมด้วย ฮิๆๆ

รีวิวได้ดีเลยครับ ผมชอบเลยแหละ เอาเจ้า city มาทำด้วยนะครับ

ขอบคุณครับ
There is nothing either good or bad but thinking makes it so

ออฟไลน์ nuttapatJazz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,171
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 20:36:56 »
ขอบคุณครับ

รู้สึกอยากได้เกียร์ธรรมดาบ้างแล้วซิ

 ;D ;D
Nissan Juke 1.6V '14
Mitsubishi Triton Plus 2.4Benzene 2Dr MT '12
Honda FIT(HK Spec) '13

ออฟไลน์ tfirst01

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 394
Re: My first User?s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 21:55:55 »
เยี่ยมครับ
รูปสวย รถสวย บ้านสวย เล่าเรื่องดี (ลอกข้างบนมา อิอิ)
สรุปแล้วในบ้านมี civic ES 3 คันเลยดิครับ คุณน้า 2 คุณพ่อ 1
เป็นแฟนพันธุ์แท้ฮอนด้าเลยครับ
ส่วนเรื่องศูนย์บริการนี่ผมก็มีเรื่องไม่ค่อยประทับใจเหมือนกันครับ
แต่อาจจะไม่ถึงขนาดทำรถเป็นรอยเหมือนน้องKook~ku*  กับคุณ jimmy
แค่รู้สึกว่าศูนย์บริการเอาใจใส่ลูกค้า(และรถของลูกค้า)น้อยกว่าที่ควร
อาจจะเป็นเพราเราอยู่ต่างจังหวัด ทั้งจังหวัดมีศูนย์ฮอนด้าแค่ที่เดียว
ลูกค้าเลยแน่นมากทั้งที่เอารถมาตรวจเช็ค และที่เข้ามาดูรถใหม่
คิดในแง่ดีเค้าคงจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง
แต่ถึงยังไงก็ขอบอกว่าไม่ประทับใจในบริการครับ
ตอนนี้เลยนอกใจจากฮอนด้าไปแล้วสองคัน
ในฐานะที่เป็นคนใช้รถฮอนด้า และประทับใจเป็นอย่างมากในตัวรถ ทั้งรุ่นที่ใช้อยู่และรุ่นใหม่ๆหลายรุ่น
อยากบอกว่าตอนนี้การบริการของศูนย์ฮอนด้า(ทั้งส่วนขายรถใหม่และซ่อมบำรุงรถเก่า) ถือว่าแย่ที่สุด(เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นๆในระดับเดียวกัน)
แบรนด์รองๆอย่างนิสสัน มาสด้า บริการได้ดีกว่ามาก ส่วนนึงอาจมาจากลูกค้าน้อยกว่า เลยมีเวลาดูแลมากกว่า
แต่เมื่อเทียบกับโตโยต้า ความหนานแน่นลูกค้าต่อศูนย์บริการน่าจะพอกัน
โตโยต้าทำได้ดีกว่ามาก ถึงจะไม่เท่านิสสันกะมาสด้าก็เหอะ
ส่วนที่บริการดีสุดขอยกให้อีซูสุละกันครับ
ถึงแม้จะดูบ้านๆไปหน่อย แต่ก็จริงใจและเป็นกันเองดีครับ
ไม่น่าแปลกใจที่ยี่ห้อนี้ยังขายดีมากทั้งที่ตัวโปรดักท์ไม่มีอะไรเด่นกว่าคู่แข่งเลย



ออฟไลน์ Pan Paitoonpong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,457
  • Long live M/T
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 22:31:32 »
เขียนได้ดีครับ มีอารมณ์ในการเขียนที่อ่านแล้วคล้อยตามได้ ก็เลยต้องมาติดตามอ่านในฐานะที่บ้านผม
ก็มี Civic ES สองคันเช่นกัน แต่เป็นเกียร์อัตโนมัติทั้งคู่

ประตูหน้า-หลังไม่เท่ากัน..ไม่ใช่เฉพาะล็อตแรกครับ รถแม่ผมออกปี 05 กลางปีก็เป็น รถพี่สาวก็เป็น
สนิมที่กลอนประตูนี่ไม่เคยสังเกต แต่เดี๋ยวคงต้องไปดูเสียหน่อยครับ

ส่วนอัตราเร่งนั้น 80-120 ในเกียร์ 3 ได้เวลา 8.7 วินาที อาจจะดูเหมือนค่อนข้างช้า แต่หากตบลงเกียร์ 2
และสับเกียร์ให้เร็วและแม่น ผมว่ามีเลข 7 ครับ ส่วนอัตราเร่ง 0-100 ผมยังไม่เคยลองทำได้ 8.xx วิ เสียที
น่าจะเพราะหนักคนขับ แต่ถ้า 9.04 ล่ะก็ทำมาแล้วครับ นั่งสองคนด้วย

ความเร็วสูงสุด VTEC เดิมๆตามเข็มมี 220 แน่นอนครับ แต่แช่ยาวหน่อยเพราะหลังจาก 205-210 จะแฮ่กมาก
แต่ถ้า 180-190 ไม่มีปัญหา

- Nissan Tiida บ้านๆ/NX Coupe/AE111/190E1.8

ออฟไลน์ koruru

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 765
    • อีเมล์
Re: My first User’s review : Honda Civic ES 1.7 VTi MT
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 22:35:53 »
เหอะๆ เจ้าของบทความ อายุเท่าผมเลย 19 ปี ใช้รถรุ่นเดียวกันด้วย หุหุ
แต่ของผม 1.7 exi AT วิ่งไปจะ 2แสนโลละ รถปี 2002 เช่นเดียว
ความเร็วสูงสุดที่เคยทำนั่ง2คน 195 คับ น่าจะไปได้ถึง200 ถ้านั่งคนเดียว
(มันน่ากลัวจิงๆ 195กม./ชม.เนี่ยเสาไฟข้างถนน มองเห็นเป็นกำแพง - -* )

ขอบคุนสำหรับรีวิว นะคับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 04, 2010, 22:41:14 โดย koruru »