รถยนต์ ไม่ใช่คอมพิวเตอร์
เทคนิคการออกแบบช่วงล่าง ทฤษฎีการออกแบบ มันแทบจะถึงทางตันไม่พัฒนาแล้ว
รถปีใหม่กว่า จึงอาจจะไม่ได้ขับดีเท่ารถเก่าเมื่อมันยังสมบูรณ์
ต้องว่าเป็นตัวๆไปคับ ส่วนรถเก่า ก้อต้องมาดูว่าเราบูรณะมันสมบูรณ์ได้ไหม
อะไหล่บางตัวเปลี่ยนได้ บางตัวไม่ได้ อย่างเฟรมรถยนต์ โลหะ มันล้าหมดแล้ว ไม่มีทางขับ
ได้ดีเท่าตอนมันใหม่ๆ ไม่ว่าจะบุรณะดีแค่ไหน (เคยอ่านเจอ เขาว่าไม่ถึง20ปี ใช้หนักไม่ถึง10ปี)
ตอนมันสมบูรณ์ w124 ขับดีกว่า e ปัจจุบันมากๆคับ
D Seg ญี่ปุ่น ถ้ามันทำใหม่แล้วน่าซื้อมาใช้ในสายตาผม คือ cefiro A31 กับ galant
A31 ผมว่าดีกว่า E36/46 ช่วงล่างมันดีพอๆกะ E34/39 ตอนมันสมบูรณ์คับ วิ่งตจว.
Accord g8 g9 วิ่งไม่ได้ขี้เล็บ A31 ต่อให้โหลดด้วย
ACCORD G8 ต้องโหลด ถึงจะทางโค้งสู้ subaru XV ไหว
ปรกติผมไม่ชอบตอบ กระทู้ที่มีแนวโน้มไปทาง มาม่า
แต่อันนี้อ่านแล้ว ต้องตอบครับ
เทคโนโลยีช่วงล่าง "ไม่ตัน"ครับ แต่ด้วยข้อจำกัดของต้นทุนการผลิต การดูแลรักษา การซ่อมบำรุง ทำให้มันเหมือนกับว่าเทคโนโลยีช่วงล่าง "ตัน "
ถึงแม้ Suspension geometry จะตายตัว แต่การออกแบบชิ้นส่วนต่าง ๆด้วยต้นทุนจำกัด พื้นที่จำกัด ขนาดรถจำกัด น้ำหนักจำกัด และองค์ประกอบอีกหลายอย่างที่จำกัด ทำให้รถหลายยี่ห้อยังมี SG ที่ไม่ได้เรื่องอยู่อีกมาก อาศัยว่าต้องใช้อุปกรณ์อิเลคโทรนิกส์ และเบรค มาควบคุมการหมุนล้อ
การแหกกฎ Suspension Geometry ยังทำได้อีกเยอะครับ อย่างใน BMW F30 เอาเฉพาะบาลานส์น้ำหนักที่ลงล้อหน้าหลัง ด้วยการวางเครื่องยนต์ที่ต่าง ๆ กันไป รถญี่ปุ่นยี่ห้อไหนทำบ้างครับ ? ไม่ใช่ญี่ปุ่นทำไม่ได้นะ แต่เขาไม่ทำเพราะมันจะกินพื้นที่ห้องโดยสาร และยังทำให้บำรุงรํกษายาก ประกอบและผลิตยากด้วย นี่แค่เรื่องน้ำหนักหน้าหลังอย่างเดียว ไม่ต้องไปคิดไกลถึง Scrub Radius ที่ไม่เหมือนชาวบ้านของ F30 อีกนะครับ
ส่วนเรื่องใครจะชอบ หรือไม่ชอบการขับขี่แบบไหน อันนี้มันก็เรื่องส่วนตัวแล้วครับ ผมเองพอแก่ตัวก็ชอบรถขับง่าย ๆ ธรรมดา ๆ ไม่ได้สนใจ SG ของรถมากมายนัก ตราบใดที่มันยังทำให้ควบคุมได้ในการขับขี่ทั่ว ๆไป
ถ้าจะตอบกระทู้ว่า D-Segment ญี่่ปุ่นรุ่นไหนมี Suspension Geometry ดีกว่ารถยุโรปรุ่นไหน อันนี้ตอบง่ายครับ VOLVO, VOLKSWAGEN, AUDI ขับหน้าC-segment ปีราว ๆ 2000 มันไม่มีGeometry ดีกว่ารถ Camry, Accord, Teana เลยซักนิด พอๆ กันหมด