ผู้เขียน หัวข้อ: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก  (อ่าน 19615 ครั้ง)

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
ท้าวความสักนิดครับ ปัจจุบัน ใช้ D Max 3.0 VGS แค๊ป รุ่น ไทเทเนียม เกียร์ธรรมดา ตัวสุดท้ายก่อน All new d max

และที่บ้านมี all new d max 4 ประตู 3.0 VGS ZP เกียร์ Auto ตอนนั้น 3.2 wildtark รอนานเลยไปเอา ตัวนี้แทน แต่ตอนนี้อยากเปลี่ยน ดีแม๊ก ตัวแค๊ป เป็น 4 ประตู อีกคัน

และยังชอบ Wildtrak อยู่  ส่วนตัวใช้รถปีละเกือบ 60,000 กิโล และวันนึงบิดกุญแจสตาทส์ไม่ต่ำกว่า 30 รอบ เท้าค่อนข้างหนักครับ

กังวลเรื่องความทนทานของ ranger ที่จะรับมือกับการใช้งานของผมครับ ทั้งเรื่องเกียร์ อุปกรณ์ต่างๆ มันจะทนทานกับการใช้งานแบบผมหรือป่าว

เจ้า ดีแม๊ก ทั้งสองคน ทนทานดีมากครับ ยังไม่มีจุจิกเลยวิ่ง 220,000 ตัวแค๊ป 110,000 ตัว 4 ประตู เกียร์ ออโต้

แต่เบื่อมากเพราะที่บ้านมีแต่ดีแม๊ก 7 คัน และไม่ถูกชะตากับช่วงล่าง พวงมาลัย และรูปทรงของ โตต้าเลย หมุนมา 2 ครั้งขายทิ้งหมด

Revo ตัวใหม่ผมว่าก็คงคล้ายๆเดิม เครื่องเกียร์ดีแต่ช่วงล่างก็คงสไตโต้ต้า

ช่วงล่าง พวงมาลัย และเกียร์บางจังหวะของดีแม๊ก ตัวใหม่ 4 ประตู ก็ยังไม่ค่อยประทับใจเลยครับ

เลยอยากสอบถามความคิดเห็นความทนทานของเจ้า 3.2 Wildtrak  แล้วเกียร์ธรรมดาใน 2.2 Wildtrak จะทนกว่าไหมครับ สนใจทั้ง 2 รุ่นครับ

ขอบคุณครับ

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 12:02:27 »
ต้องเข้าไปสำรวจในคลับเรนเจอร์ครับ จะได้รู้ว่ามีอะไรบ้าง ปัญหาและความประทับใจ

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 12:16:42 »
เคยทดลองขับเรนเจอร์น่ะ คิดว่าด้วยสภาพรถเดิมๆ มันออกแบบมาให้เหมาะกับพวกตีนหนัก พวกเล่นโค้ง แต่เรื่องทนไม่ทนไม่รู้นะ ต้องใช้เวลาเป็นตัวพิสูจน์
ส่วนรถตลาดพวกโตโยต้า อีซูสุ มันก็กลางๆในทุกด้านอ่ะครับ อยากเด่นด้านไหนก็ไปทำเพิ่มเองนิดหน่อย อะไหล่เกลื่อนอยู่แล้ว(แต่วีโก้ 2 รุ่นแรกมันก็ขับยากจริง โดยเฉพาะช่วงล่าง เข้าโค้งทีแอบเหนื่อย แต่วีโก้แชมป์ผมว่าฟิลลิ่งการขับขี่ดีกว่าออลนิวดีแม็กน่ะ) รอดูรีโว่ก็ไม่เสียหายหรอกครับ มะรืนก็มาแล้ว

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 12:41:34 »
ทนมั้ยไม่รู้

แต่ถ้าชน ถ้าเสีย ถ้าซ่อม ถ้าเคลม ต้องมานั่งลุ้น

ใช้รถเยอะขนาดนี้ Navara มั้ยครับ เกาะ หนึบ แกร่ง ทน แรง
หรือใช้ D-Max นั่นแหละ จัดโช๊คเพิ่มซักชุด เกาะขึ้นเป็นกอง

ออฟไลน์ wa330

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,567
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:01:44 »
ที่เคยก้มดูช่วงล่างในงานโชว์ผมว่าน่าจะทนกว่าโตต้าอีซูชุ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:07:24 »
เท่าที่ใช้ ทนไม่ต่างกับเจ้าตลาดครับ ของแบบนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วยครับ รุ่นนี้ถึงขายดีครับ

ออฟไลน์ SETTHASART

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,306
  • รักชาติ ไม่คลั่งชาติ
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:21:00 »
ทนมั้ยไม่รู้

แต่ถ้าชน ถ้าเสีย ถ้าซ่อม ถ้าเคลม ต้องมานั่งลุ้น

ใช้รถเยอะขนาดนี้ Navara มั้ยครับ เกาะ หนึบ แกร่ง ทน แรง
หรือใช้ D-Max นั่นแหละ จัดโช๊คเพิ่มซักชุด เกาะขึ้นเป็นกอง

นั่นหล่ะครับ ประเด็นมันอยู่ตรงนี้

ออฟไลน์ johnlee

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,603
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:25:31 »
บอกใช้งานหนัก นึกว่าหนักแบบผม อิอิ
2535-2555 Nissan Big-m z16
2555-2561 Nissan Big-m Td27 + Bd25
2555- 2566 -Nissan Almera N17
2561- present -Isuzu D-max spacecab SLX 3.0
2566 - present Honda Jazz ge v a/t

ออฟไลน์ Tedjung84

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 551
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:28:29 »
เท่าที่ใช้มาตัว wildtrak 2.2 at วิ่งมา 50000 โล ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับปกติดี  ;D
ถ้าจะให้ตอบว่ามันจะทนมือทนเท้าของคุณ จขกท มั้ย ตอบยากครับ
เพราะแต่ล่ะคนมีลักษณะการขับรถที่ไม่เหมือนกัน  ซึ่งรถแต่ล่ะคันก็คงรับ
ความเป็นตัวคุณได้มากน้อยไม่เท่ากันเหมือนกัน แต่ถ้าชอบก็จัดเลยครับ ;)
ช่วงล่างเข้าโค้งดีครับไม่มีเสียว ;D

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,463
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:36:41 »
เพิ่งคุยกับพี่แฟนสิบนาทีที่ผ่านมา....เขาใช้2.2 มา  ห้าหมื่นโลพอดี  อยู่  ๆ  เร่งไม่ขึ้น  เข้า 0 แจ้งว่าอินเตอร์แตก.....แต่เคลมได้  ตอนนี้ปกติดี....
ส่วนการใช้งาน  บรรทุกทุกวัน  ประมาณ  ห้าร้อยโล  ไม่หนัก  แต่เขาเป็นคนใช้ความเร็วสูงมาแต่กำเนิด....เวลาผมนั่งรถด้วย  ต้องช่วยเหยียบเบรคตลอด....

ออฟไลน์ okashi

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 660
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 13:56:22 »
ใช้ T6 3.2 มาเกือบ3 ปี ปัญหาเท่าที่เจอ
- หัวฉีดสนิม (เคลมได้) โดยการเปลี่ยนแผงจิ้งหรีด
- ซีลเกียร์รั่ว (อันนี้ก็เคลมได้) ของผมเคลมตอน 30,000โล
- ช่วงถอนคันเร่งดัง หู้ว หู้ว ที่ความเร็วประมาณ80 (ไม่ใช่เสียงเทอร์โบ) เห็นในคลับว่าเกิดจากเกียร์ (ยังไม่หาย)
- ค่าใช้จ่ายเวลาเข้าศูนย์ ที่จะแพงกว่า Isuzu (อันนี้นับเป็นข้อเสียมั้ย?) ประมาณ 3.5-4 k นิดๆ
ตัดน้ำยาสารพัดที่ศูนย์ยัดให้ออกแล้ว 3.2 ใช้น้ำมันเครื่องประมาณ 9.5 ลิตร

ส่วนอื่นๆผมยังไม่เจอปัญหาอะไรร้ายแรง เช่น ท่ออินเตอร์แตก เพลาขับหลุด
Puma PoweR 🐯🐯

ออฟไลน์ jztang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,721
  • Born To Race
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 14:04:48 »
ผมใช้มาเกือบ 50,000โลแล้วครับ ยังไม่เคยมีปัญหา ทุกอย่างปกติดี
แต่ถ้าเป็นการใช้งานหนักจิงๆ เล่นรถญี่ปุ่นดีกว่าครับ ถ้ามีอะไรเสีย อะใหล่ถูกกว่า ซ่อมง่ายกว่า
ถ้าตีนหนักก้อเล่นเกียร์ MT ไปเลยครับ ส่วนเรื่องบรรทุกไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ยังไง isuzu, navara ก้อขึ้นชื่อกว่า

ส่วน REVO รอดูหน่อยก้อดี เค้าคงไม่ทำรถเหมือนเดิมออกมา ต้องมีการพัฒนาและแก้ไขปัญหาอยุ่แล้วครับ

ออฟไลน์ pladaek

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,016
  • FF1.5SMG
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 14:07:07 »
ถ้าจะเอาเรนเจอร์แนะนำ 3.2 ไปเลยครับ
และยิ่งเน้นเรื่องความทนทานด้วย..

ส่วนตัวผม 2.2 ในระยะยาวไม่น่าจะทนเท่าไหร่
เสี่ยแถวบ้านที่ผมรู้จักขับซะจนฝาโก่ง เพราะน้ำแห้ง
เครื่องเล็กบูสต์หนัก ยังไงๆผมว่ามีปัญหาแน่ๆ

ไม่ต้องเทียบกับค่ายอื่น เทียบกับเครื่อง 2.5 เรนเจอร์รุ่นเก่านี่แหล่ะ
2.2 ม้า 150 มาจากบูสต์ 22-23 ปอนด์
แต่ 2.5 ตัวเก่า ม้า 143 บูสต์ 16-17 ปอนด์

ในเรื่องความแรงผมนี่ไม่เกี่ยง แต่ความทนทานผมยังไม่ไว้ใจ
ผมถึงอยากให้เล่น 3.2 ไปเลยครับ
ไม่ได้ขับรถเพื่อทำเวลาที่ดีที่สุด.. แต่ขับรถเพื่อเจอช่วงเวลาที่ดีที่สุด..

ออฟไลน์ sarawut66

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 92
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 15:17:34 »
ใช้งานเยอะๆ ก็ dmax เถอะครับ จะได้ไม่เป็นภาระให้ลูกหลาน

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 15:39:02 »
ทนไม่ทนไม่รู้
แต่ทหารสั่งไปเป็นกองทัพ

ออฟไลน์ ไทบ้าน

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,668
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 16:00:33 »
หลานสาวใช้ Ford Focus ทำให้รู้ซึ้งถึงความ "ไม่มืออาชีพ" ของศูนย์บริการฟอร์ดแบบเหนื่อยหน่าย

ถึงเวลาบอกลาฟอร์ดกันทั้งตระกูล
1990 Yamaha Mate-100
1992 Yamaha Bell-100
2000 Yamaha Tiara-R
2017 Yamaha MT-03

ออฟไลน์ thesun

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 89
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 16:24:30 »
ใช้ดีแม๊กทนดีก็น่าจะใช้ต่อไป
ปรับปรุงจุดด้อยด้วยโช้คหนึบๆซักสี่ต้น เครื่องยนต์ซักเล็กน้อย ก็ทนดีขับสนุกแล้ว
ถ้ากระบะเดิมๆ ต่อให้ wildtrack , revo, np300 ต่างก็มีจุดด้อยจุดเด่นที่ต่างกันอยู่

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 16:26:40 »
3.2 ไปเลยครับ ตัวนี้สเปกนอกปัญหาน้อยกว่ากันเยอะ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ recycleman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,569
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 16:36:33 »
ถ้าใช้แบบตะบี้ตะบันทุกวี่ทุกวัน ใช้เป็นรถหลักในทำมาหากิน ผมจะไม่เลือก ranger ครับ

ผมจะเลือก ranger ก็ต่อเมื่อมันเป็นรถคันที่2เป็นต้นไปของบ้าน



ออฟไลน์ Volta

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,716
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 16:37:27 »
2.2 at xlt hi-rider 4 ประตู ของพี่ชายครบ 3 ปี เลขไมล์ 130,000 โล

ลักษณะใช้งาน วิ่งทุกวัน รูดหลุมบ่อยๆ บรรทุก 500-800 โลเป็นประจำ

- ช่วงล่าง โช้ครั่ว 4 ต้นตอน 90,000 โล นอกนั้นปกติดีครับ
- เครื่องยนต์ ท่ออินเตอร์แตกตอน 60,000 โล , ท่อน้ำมันรั่วตอน 70,000 โล  นอกนั้นปกติดีครับ
- เกียร์ยังปกติดีครับ
- ชิ้นส่วนภายใน มือจับประตูลอก, ที่เปิดประตูที่ชุบสีเงินลอก
  นอกนั้นปกติดีครับ
- อัตราสิ้นเปลือง น้ำมัน 1 ถังวิ่งได้เฉลี่ย 700-800 โล

สวัสดีทุกๆคนครับ

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 18:07:28 »
ขอบคุณสมาชิกทุกท่านครับ สังสัยคงต้องลองครับ

3.2 Wildtrak  ;D ;D ;D

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 21:22:37 »
เอายี่ห้อเดิมที่ใช้อยู่ไปติดกล่องให้แรงขึ้นอีกนิด ผมว่าน่าจะติดใจกว่าไปฟอร์ดเยอะ  :)

ออฟไลน์ remontage

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 369
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 22:01:05 »
ขับรถบ่อยแบบนี้ เหมือนที่บ้านเลย

อันนี้จากประสบการณ์นะครับ
ถ้ารับความเสี่ยงเรื่องเกียร์ออโต้ที่อาจจะเจ๊งช่วง 170000 โล ขึ้นไปได้ ก้อจัดเลยคับ
เพราะ2.2 at ผมพังไปล่ะลูกนึง ( ตอนนี้200000โล ครบ3ปี ครับ )

หาเซียงกงเลยคับ อย่าซ่อมเหมือนผม หมดเกือบแสน ศูนย์ไม่เก่งจริงๆ บอกได้เลย
ถ้าไม่ติดคืนเงินรถคันแรก นี่ เทิร์น ไปตั้งแต่ปีก่อนแล้วครับ

ไม่แน่ใจว่า ตัว 3.2 ใช้ลูกเดียวกันไหม จะทนกว่ากันรึเปล่า
อีกทั้ง ตัวไมเนอร์ เกียร์จะปรับปรุงความทนทาน หรืออัพโปรแกรมใหม่ขึ้นมารึเปล่านี่สิ
(เสียวไปถึงเอเวอร์เรสต์ เลย)

ใช้งานหนัก 200000 โล ผมเดาว่ายังไงก้อต้องออกอาการแหละคับเกียร์
ยิ่งศูนย์ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่18xxxxโล ตามคู่มือ ไม่ไหว
ต่อให้บำรุงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ผมก้อว่าไม่เกิน 300000โล สำหรับฟอร์ดนะ
ไทรทันพลัส ออโต้ ตัวก่อน ของคนรู้จักใช้วิ่งพอๆกันไป 3แสนโล ก่อนอีก ยังไม่มีอาการหนักเรื่องเกียร์เลยครับ

เคยใช้วีโก้ ปีหน้าว่าจะกลับไปเล่นโตต้า เหมือนเดิมล่ะ ทนของเค้า
   
ถ้าเอาไว้วิ่งงาน เอาค่ายญี่ปุ่นดีกว่าครับ เอาค่าซ่อมเกียร์เกือบแสนของผมไปจัดช่วงล่างได้อย่างดีเลยล่ะ 555

แต่  ถ้ายังชอบในความแมนของเรนเจอร์  แถมมีรถหลายคันด้วย จัด 3.2AT ไปเลยครับ สรุป

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 22:23:38 »
ขับรถบ่อยแบบนี้ เหมือนที่บ้านเลย

อันนี้จากประสบการณ์นะครับ
ถ้ารับความเสี่ยงเรื่องเกียร์ออโต้ที่อาจจะเจ๊งช่วง 170000 โล ขึ้นไปได้ ก้อจัดเลยคับ
เพราะ2.2 at ผมพังไปล่ะลูกนึง ( ตอนนี้200000โล ครบ3ปี ครับ )

หาเซียงกงเลยคับ อย่าซ่อมเหมือนผม หมดเกือบแสน ศูนย์ไม่เก่งจริงๆ บอกได้เลย
ถ้าไม่ติดคืนเงินรถคันแรก นี่ เทิร์น ไปตั้งแต่ปีก่อนแล้วครับ

ไม่แน่ใจว่า ตัว 3.2 ใช้ลูกเดียวกันไหม จะทนกว่ากันรึเปล่า
อีกทั้ง ตัวไมเนอร์ เกียร์จะปรับปรุงความทนทาน หรืออัพโปรแกรมใหม่ขึ้นมารึเปล่านี่สิ
(เสียวไปถึงเอเวอร์เรสต์ เลย)

ใช้งานหนัก 200000 โล ผมเดาว่ายังไงก้อต้องออกอาการแหละคับเกียร์
ยิ่งศูนย์ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่18xxxxโล ตามคู่มือ ไม่ไหว
ต่อให้บำรุงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ผมก้อว่าไม่เกิน 300000โล สำหรับฟอร์ดนะ
ไทรทันพลัส ออโต้ ตัวก่อน ของคนรู้จักใช้วิ่งพอๆกันไป 3แสนโล ก่อนอีก ยังไม่มีอาการหนักเรื่องเกียร์เลยครับ

เคยใช้วีโก้ ปีหน้าว่าจะกลับไปเล่นโตต้า เหมือนเดิมล่ะ ทนของเค้า
   
ถ้าเอาไว้วิ่งงาน เอาค่ายญี่ปุ่นดีกว่าครับ เอาค่าซ่อมเกียร์เกือบแสนของผมไปจัดช่วงล่างได้อย่างดีเลยล่ะ 555

แต่  ถ้ายังชอบในความแมนของเรนเจอร์  แถมมีรถหลายคันด้วย จัด 3.2AT ไปเลยครับ สรุป

ใช่ครับผม ผมก็คิดอยู่ V Cross จัดช่วงล่างดีๆ กล่องสักใบก็เหลือๆ แต่อยากจะลอง ranger สักครั้งนี่สิครับ

ออฟไลน์ Mike

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,566
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 22:31:50 »
2.2 AT กรกฎาคม นี่ครับ 3 ปี วิ่งไป 180,000 km ตะบี้ตะบัน วิ่งต่างจังหวัด วิ่งไซต์งาน สระบุรี อยุธยา สิงห์บุรี บลาๆๆ ยังปกติดิ
แต่แผงอินเตอร์ แตกไปตอน 100,000 Km นิดๆ ควักเอง ล่าสุด 160,000 km ท่ออินเตอร์แตก เปลี่ยนไปละ
2.5 MT ตัวก่อน ตอนนี้ 250,000 km แล้วยังปกติดี
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 20, 2015, 13:54:45 โดย Mike »
Next Gen Ford Everest 2.0 Titanium+ 4x4
Honda HRV e:HEV RS 22
SUBARU XV 2.0i-P 16
HONDA City SV 12
FORD Ranger Hi Rider 4DR XLT 2.2 TDCi 12
FORD Ranger Hi Rider OpenCab LIMITED 2.5 TDCi 08
ISUZU Dragon Eye SpaceCab SLX 2.8 00
TOYOTA Hilux Mighty X 94
MITSUBISHI Cyclone 94
TOYOTA Hilux Super Star 88

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 23:00:24 »
ทนไม่ทนไม่รู้ ถ้าใจมา งบถึง

3.2WT โลด

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤษภาคม 19, 2015, 23:01:32 »
ขับรถบ่อยแบบนี้ เหมือนที่บ้านเลย

อันนี้จากประสบการณ์นะครับ
ถ้ารับความเสี่ยงเรื่องเกียร์ออโต้ที่อาจจะเจ๊งช่วง 170000 โล ขึ้นไปได้ ก้อจัดเลยคับ
เพราะ2.2 at ผมพังไปล่ะลูกนึง ( ตอนนี้200000โล ครบ3ปี ครับ )

หาเซียงกงเลยคับ อย่าซ่อมเหมือนผม หมดเกือบแสน ศูนย์ไม่เก่งจริงๆ บอกได้เลย
ถ้าไม่ติดคืนเงินรถคันแรก นี่ เทิร์น ไปตั้งแต่ปีก่อนแล้วครับ

ไม่แน่ใจว่า ตัว 3.2 ใช้ลูกเดียวกันไหม จะทนกว่ากันรึเปล่า
อีกทั้ง ตัวไมเนอร์ เกียร์จะปรับปรุงความทนทาน หรืออัพโปรแกรมใหม่ขึ้นมารึเปล่านี่สิ
(เสียวไปถึงเอเวอร์เรสต์ เลย)

ใช้งานหนัก 200000 โล ผมเดาว่ายังไงก้อต้องออกอาการแหละคับเกียร์
ยิ่งศูนย์ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่18xxxxโล ตามคู่มือ ไม่ไหว
ต่อให้บำรุงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ผมก้อว่าไม่เกิน 300000โล สำหรับฟอร์ดนะ
ไทรทันพลัส ออโต้ ตัวก่อน ของคนรู้จักใช้วิ่งพอๆกันไป 3แสนโล ก่อนอีก ยังไม่มีอาการหนักเรื่องเกียร์เลยครับ

เคยใช้วีโก้ ปีหน้าว่าจะกลับไปเล่นโตต้า เหมือนเดิมล่ะ ทนของเค้า
   
ถ้าเอาไว้วิ่งงาน เอาค่ายญี่ปุ่นดีกว่าครับ เอาค่าซ่อมเกียร์เกือบแสนของผมไปจัดช่วงล่างได้อย่างดีเลยล่ะ 555

แต่  ถ้ายังชอบในความแมนของเรนเจอร์  แถมมีรถหลายคันด้วย จัด 3.2AT ไปเลยครับ สรุป

ใช่ครับผม ผมก็คิดอยู่ V Cross จัดช่วงล่างดีๆ กล่องสักใบก็เหลือๆ แต่อยากจะลอง ranger สักครั้งนี่สิครับ
ใช้รถเยอะจัง 3ปี 2แสนโล ขับรถส่งของเหรอครับ

ออฟไลน์ Volta

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,716
    • อีเมล์
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2015, 04:19:32 »
ขับรถบ่อยแบบนี้ เหมือนที่บ้านเลย

อันนี้จากประสบการณ์นะครับ
ถ้ารับความเสี่ยงเรื่องเกียร์ออโต้ที่อาจจะเจ๊งช่วง 170000 โล ขึ้นไปได้ ก้อจัดเลยคับ
เพราะ2.2 at ผมพังไปล่ะลูกนึง ( ตอนนี้200000โล ครบ3ปี ครับ )

หาเซียงกงเลยคับ อย่าซ่อมเหมือนผม หมดเกือบแสน ศูนย์ไม่เก่งจริงๆ บอกได้เลย
ถ้าไม่ติดคืนเงินรถคันแรก นี่ เทิร์น ไปตั้งแต่ปีก่อนแล้วครับ

ไม่แน่ใจว่า ตัว 3.2 ใช้ลูกเดียวกันไหม จะทนกว่ากันรึเปล่า
อีกทั้ง ตัวไมเนอร์ เกียร์จะปรับปรุงความทนทาน หรืออัพโปรแกรมใหม่ขึ้นมารึเปล่านี่สิ
(เสียวไปถึงเอเวอร์เรสต์ เลย)

ใช้งานหนัก 200000 โล ผมเดาว่ายังไงก้อต้องออกอาการแหละคับเกียร์
ยิ่งศูนย์ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่18xxxxโล ตามคู่มือ ไม่ไหว
ต่อให้บำรุงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ผมก้อว่าไม่เกิน 300000โล สำหรับฟอร์ดนะ
ไทรทันพลัส ออโต้ ตัวก่อน ของคนรู้จักใช้วิ่งพอๆกันไป 3แสนโล ก่อนอีก ยังไม่มีอาการหนักเรื่องเกียร์เลยครับ

เคยใช้วีโก้ ปีหน้าว่าจะกลับไปเล่นโตต้า เหมือนเดิมล่ะ ทนของเค้า
   
ถ้าเอาไว้วิ่งงาน เอาค่ายญี่ปุ่นดีกว่าครับ เอาค่าซ่อมเกียร์เกือบแสนของผมไปจัดช่วงล่างได้อย่างดีเลยล่ะ 555

แต่  ถ้ายังชอบในความแมนของเรนเจอร์  แถมมีรถหลายคันด้วย จัด 3.2AT ไปเลยครับ สรุป

อั๊ยย่ะ..! ถึงกับเกียร์พังเลยเหรอครับ
เดี๋ยวต้องไปบอกไห้พี่ชายเอารถไปเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ้างแล้ว

พูดถึงเคสน้ำมันเกียร์ที่ฟอร์ดเคลมว่าไม่ต้องเปลี่ยนถ่าย
Fiesta คันเก่า ผมลองเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตอน 110,000 โล
พบว่า สภาพของน้ำมันเกียร์ดำมากๆ สีเหมือนโอเลี้ยง
ผมคิดว่าถ้ายังฝืนใช้ ไม่เปลี่ยนถ่าย เกียร์คงพังเร็วแน่ๆ

สภาพอากาศบ้านเรามันร้อนมากๆ ยังไงการหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเกียร์บ่อยๆคงจะดีกว่าครับ
สวัสดีทุกๆคนครับ

ออฟไลน์ ponggu52

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 189
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2015, 08:44:26 »
ผม xlt 2.2 mt hi-rider ซื้อมา 1 ปี 6 เดือน 43,000 กม. ปกติดีทุกอย่าง อัตราเร่งดีในช่วง  100 กม. ขึ้นไป อัตราเร่งดี กดเป็นมา แต่ในช่วงออกตัว จะรู้สึกว่าอืด อาจจะเป็นเพราะพาน้ำหนักตัว  2 ตัน ทยานขึ้นไป ช่วงล่างหนึบ เข้าโค้งเอาอยู่ แต่ออกจะแข็ง ดีดเด้งอยู่ เหมาะสำหรับคนขับรถเร็วครับ ที่ผมไม่ซื้อ d max ตอนนั้นเพราะช่วงล่างนี่แหละครับ

ส่วน
- เป็นสนิมที่หัวฉีดจะเป็นเฉพาะรุ่นแรกๆที่จำหน่าย ตอนผมซื้อปลายปี 2013 แก้ไขเรียบร้อย
- ท่ออินเตอร์แตก เห็นเจอในคลับพอสมควร แต่รถผมยังปกติดี

การซ่อมหนักเบา ผมยังไม่เคย ยังตอบไม่ได้ครับ
สุดท้าย เชียร์ 3.2 at wildtrak ถ้าเงินไม่มีปัญหา

ออฟไลน์ alankarm

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 182
Re: ความทนทานของ Ranger Wildtrak 3.2 AT และ 2.2 MT ต่อการใช้งานหนัก
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤษภาคม 20, 2015, 09:22:31 »
ขับรถบ่อยแบบนี้ เหมือนที่บ้านเลย

อันนี้จากประสบการณ์นะครับ
ถ้ารับความเสี่ยงเรื่องเกียร์ออโต้ที่อาจจะเจ๊งช่วง 170000 โล ขึ้นไปได้ ก้อจัดเลยคับ
เพราะ2.2 at ผมพังไปล่ะลูกนึง ( ตอนนี้200000โล ครบ3ปี ครับ )

หาเซียงกงเลยคับ อย่าซ่อมเหมือนผม หมดเกือบแสน ศูนย์ไม่เก่งจริงๆ บอกได้เลย
ถ้าไม่ติดคืนเงินรถคันแรก นี่ เทิร์น ไปตั้งแต่ปีก่อนแล้วครับ

ไม่แน่ใจว่า ตัว 3.2 ใช้ลูกเดียวกันไหม จะทนกว่ากันรึเปล่า
อีกทั้ง ตัวไมเนอร์ เกียร์จะปรับปรุงความทนทาน หรืออัพโปรแกรมใหม่ขึ้นมารึเปล่านี่สิ
(เสียวไปถึงเอเวอร์เรสต์ เลย)

ใช้งานหนัก 200000 โล ผมเดาว่ายังไงก้อต้องออกอาการแหละคับเกียร์
ยิ่งศูนย์ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ออโต้ ที่18xxxxโล ตามคู่มือ ไม่ไหว
ต่อให้บำรุงเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์บ่อยๆ ผมก้อว่าไม่เกิน 300000โล สำหรับฟอร์ดนะ
ไทรทันพลัส ออโต้ ตัวก่อน ของคนรู้จักใช้วิ่งพอๆกันไป 3แสนโล ก่อนอีก ยังไม่มีอาการหนักเรื่องเกียร์เลยครับ

เคยใช้วีโก้ ปีหน้าว่าจะกลับไปเล่นโตต้า เหมือนเดิมล่ะ ทนของเค้า
   
ถ้าเอาไว้วิ่งงาน เอาค่ายญี่ปุ่นดีกว่าครับ เอาค่าซ่อมเกียร์เกือบแสนของผมไปจัดช่วงล่างได้อย่างดีเลยล่ะ 555

แต่  ถ้ายังชอบในความแมนของเรนเจอร์  แถมมีรถหลายคันด้วย จัด 3.2AT ไปเลยครับ สรุป

ใช่ครับผม ผมก็คิดอยู่ V Cross จัดช่วงล่างดีๆ กล่องสักใบก็เหลือๆ แต่อยากจะลอง ranger สักครั้งนี่สิครับ
ใช้รถเยอะจัง 3ปี 2แสนโล ขับรถส่งของเหรอครับ

ผมมีรถใช้หลักๆส่วนตัว 3 คันครับ คือ กระบะแค๊ป Accord และ X3 ที่พึ่งได้มาครับ ส่วน ดีแม๊ก 4 ประตูรถใช้ด้วยกันในครอบครัวครับ ซึ่งคันนี้ผมขับรวมๆน่าจะ 30,000 กิโล

ส่วนใช้เองจริงๆ ดีแม๊กแค๊ป 4 ปี 210,000 กิโล Accord 6 ปี 170,000 กิโล   X3 1 ใช้ไป 20,000 โล กะให้ครบ 100,000 โล 5 ปีครับ เลยขับไม่เยอะ

ผมทำอยู่ 4 อาชีพครับ ฟาร์มหมู ไร่อ้อยที่กาญจนบุรี บ่อพลอย ทำปั๊มน้ำมัน แล้วก็รับจัดโต๊ะจีนครับ รถจะใช้งานตลอดเลยครับ วันนึงเฉลี่ยเกิน 200 โลต่อวันครับ

ดีแม๊กแค๊ปจะอึดอัดไปหน่อย ทั้งเรื่องลูกนั่ง และข้าวของเอกสารต่าง เลยอยากเปลี่ยนเป็น 4 ประตูครับ