ผู้เขียน หัวข้อ: อนาคตของรถ Toyota camry มือสองจะลดความนิยมลงไปเรื่อยๆมั้ยครับ ?  (อ่าน 6147 ครั้ง)

ออฟไลน์ sakano

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357

คิอ ปัจจุบันถ้าดูที่ Toyota camry รุ่น 2.0 ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ได้รับความนิยมที่สุดแล้ว
พบว่า เครื่อง 6AR-FSE ก็มีใช้ในต่างประเทศแค่ที่ จีน และ รัสเซีย เท่านั้น
ในญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่เรานิยมนำรถใช้แล้วมาขายเป็นอะไหล่ก็จะขายแต่เฉพาะรุ่น Hybrid เท่านั้น
แล้วก็ไม่ได้ใช้ตัวถังรุ่นที่ minor change แบบเดียวกันกับที่บ้านของเราอีก

ยอดขาย D-segment ในบ้านเราก็ลดลง ไม่ได้ขายได้มากมายเหมือนในอดีต ซึ่งก็อาจจะมีผลกับราคาอะไหล่
ที่ในเมื่อผลิตออกมาจำนวนไม่มาก ราคาต้นทุนต่อหน่วยก็จะไม่ถูกแน่ๆ

และในเมื่อเครื่องรุ่นนี้ ไม่ใช่เครื่องสหกรณ์ของโตโยต้า (เท่าที่รู้ ตอนนี้มีใช้แต่ใน camry ในแค่ 3 ประเทศ)
ช่างซ่อมรถตามอู่นอกศูนย์ในบ้านเราก็จะมีรถให้ผ่านมือมาซ่อมไม่มากนัก

จุดขายเด่นๆของโตโยต้า เรื่อง ช่างฯที่ไหนก็ซ่อมได้, อะไหล่ไม่แพง  หรือมีอะไหล่มือสองเป็นทางเลือกมากมาย ก็จะน้อยลงเรื่อยๆ

พี่ๆคิดว่าอนาคตของรถ Toyota camry มือสองจะลดความนิยมลงมั้ยครับ ?

ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 579
ตอบยาก  ต้องรอเวลาพิสูจน์เท่านั้น  แต่ toyota ก็ไม่น่าทำให้คนไทยผิดหวัง

เครื่อง 2.0 L รุ่นใหม่ ใน Camry MC  เป็น เครื่อง D4S ที่มีความซับซ้อน ในการฉีดน้ำมัน มากกว่า Direct injection ของ ยี่ห้ออื่นๆ

งง ???  ว่า ทำไม ไม่เอา แค่  D4 มาก็พอ  จะได้ติดแก็สได้ง่ายหน่อย

ตัวนี้  เลยกลาย เป็น โจทย์ปัญหายาก ของ ร้านติดแก็ส ซึ่งกำลังทดลองติดให้สำเร็จอยู่  ร้านแก็ส กำลังรับสมัครหนูทดลอง ให้ราคาติดตั้งพิเศษ

เครื่องตัวนี้ เป็น เครื่อง ที่มีหัวฉีด 8 หัว (อย่าเสีย พร้อมกันนะ ตัวละ 10,000 บาทโดยเฉลี่ย)   โดยที่ 4 หัว ฉีดตรง   อีก 4 หัว ก็อยู่บน ท่อร่วมไอดี แบบเดิม

หลักการทำงานของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ D-4S
-ในสถาวะ เครื่องเย็น หรือ โหลดต่้ำ จะใช้หัวฉีดในท่อร่วมไอดี
-ในขณะ โหลดปานกลาง ทั้ง2 หัวฉีดจะทำงานร่วมกัน
-ในขณะที่ต้องการพลังสูง หรือ เหยียบเรียกแรงม้าทันที ก็จะเป็นหน้าที่ของ หัวฉีดตรง
-ในสภาวะ 3 สภาวะ มีจังหวะการฉีดน้ำมันเข้ากระบอกสูบ ก็ยังแตกต่างกันออกไป และ แตกต่างจากเครื่องหัวฉีดปกติ
ระบบ D4S แบบนี้ จะช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ปล่อยไอเสียน้อยลง

นอกจากนี้ ยังมี ระบบ  VVTi-W   ระบบวาวล์แปรผันอัจฉริยะ  ที่มีการเพิ่มองศาให้วาวล์เปิดได้กว้างขึ้นจากเดิม เพิ่มความยืดหยุ่นในการเปิดปิดวาวล์ เพื่อ เพิ่มประสิทธิ์ภาพของเครื่องยนต์

ตบท้าย ด้วย ระบบ  Watercool EGR valve   ระบบหมุนเวียนกาซ EGR ระบายความร้อนด้วยน้ำ



จะเห็นว่า เครื่องนี้มีเทคโลยีที่ซับซ้อนอยู่พอสมควร  มันก็เป็นไปได้ ที่จะมีปัญหา มากกว่า เครื่องยนต์ระบบเก่า ในอนาคตได้
แต่ด้วยความที่เป็น แบรนด์โตโยต้า ก็เชื่อว่า คงได้ทดลองเครื่องนี้กันมาอย่างหนักหน่วง จนแน่ใจว่า มันจะทำงานเสถียรและทนทานเท่าเครื่องเดิม

ในระยะแรกๆ รถอยู่ในประกัน คงไม่เป็นปัญหาอยู่แล้วครับ  ส่วน เกิน 3 ปีขึ้นไป ระยะแรกๆ ก็คงซ่อมข้างนอกลำบากนิดหนึ่ง เพราะ ช่างคงผ่านมือน้อย แต่ต่อๆ ไป ก็ไม่น่าเป็นปัญหาหรอกครับ    ดู  tiger D4D commonrail ซิ   เปิดตัวมา ใหม่ๆ คนก็กลัว  ปัจจุบัน ก็ไม่เห็นว่า จะเป็นปัญหาจนดึงยอดขายของ โตโยต้าเลย

เครื่องนี้ รุ่นนี้ น่าจะมีใส่ใน Camry เวอร์ชั่น ไต้หวัน ด้วยหรือเปล่า ??  ผมไม่แน่ใจ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มิถุนายน 01, 2015, 17:30:30 โดย peterW »

ออฟไลน์ sakano

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357

ผมก็คิดเหมือนกันกับพี่แหละครับ
ว่าเทคโนโลยีซับซ้อนขึ้น ก็มีโอกาสเสียมากขึ้น

แต่กระบะขายปีละเกือบสองแสนคันนะครับ
แถมวิ่งกันทั่วประเทศ
ช่างฯแทบจะเจอทุกเดือน
คงเอามาเปรียบเทียบกับCamry ขายปีละหมื่นคันไม่ได้

ออฟไลน์ Terng

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,762
ผมคิดว่าขนาดตลาดของ D-Segment ก็คงไม่หดไปจากนี้มากนักหรอกครับ มันยังจำเป็นต้องมีอยู่เพราะหลายคนก็ซื้อมันเพื่อเป็นรถบ่งบอกสถานะ เป็นที่ทราบกันดีว่า พวก D-Segment สมัยนี้มันก็ล้านกว่าๆกันทั้งนั้นจะทะลุสองล้านกันอยู่แล้ว สาเหตุนึงที่ทำให้มันยอดขายไม่ดีก็เพราะราคาด้วยครับ แต่เชื่อว่าถ้ายังประคองให้ราคาไม่ทะลุไปมากกว่านี้ได้ ตลาดก็จะมีขนาดอยู่ในระดับที่เห็นไปเรื่อยๆ

เรื่องความนิยมผมคิดว่า ก็คงไม่ต่างไปจากเดิมมากนักครับ ถ้าหากจะซื้อรถแล้วกลัวก็ลองคำนวณดูว่า กะจะใช้ไปนานแค่ไหน ถ้าแค่ 5-6 ปีผมว่ายังน่าจะไม่ทันเปลี่ยนแปลงจนน่าตกใจหรอกครับ คิดเสียว่า ยังไงทุกวันนี้ราคา D-Segment ก็ตกพอสมควรอยู่แล้ว ถ้าจะซื้อต้องทำใจอยู่แล้วครับ ไม่งั้นก็เล่นมือสองไปจะสบายใจกว่าครับ  ;)
=====================
รถที่ใช้เป็นประจำ
2013 Toyota Camry Extremo 2.0
2015 Ford Ranger T6 XLT Open Cab 2.2 MT
2018 Toyota CHR HV Mid
=====================

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,431
D-Segment อาจจะเหนื่อยหน่อยช่วงนี้ ทั้งเศรษฐกิจแบบนี้ ไหนจะรถ segment อื่น ที่คนหันไปสนใจ แต่ยังไง D-Segment ก็ยังไปต่อได้เรื่อยๆครับ คนชอบรถเก๋งยังมีอยู่มากครับ ฉะนั้น รถมือสองในกลุ่มนี้ ก็คงเช่นเดียวกัน

ออฟไลน์ sakano

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
D-segment รุ่น top อีกไม่กี่ปี อาจจะเกิน 2ล้านบาทอ่ะครับ
ส่วนรุ่นล่างสุด คง1.5ล้าน  (>.<)

ออฟไลน์ Staples

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,668
D Segment เป็นรถที่การตั้งราคา มีปัญหาที่สุดแล้ว ตัว Top รันไปเกือบ 2 ล้าน ถามลูกค้าส่วนมาก ยินดีเพิ่มเงินอีกไม่กี่แสน ไปเอา BMW MB ดีกว่า

ตราบใดที่ยังเพิ่มราคาไปแตะ 2 ล้านเรื่อยๆ ก็ช่วยไม่ได้ที่ลูกค้าจะไม่สน

ออฟไลน์ Puitam

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 527
    • อีเมล์
D Segment เป็นรถที่การตั้งราคา มีปัญหาที่สุดแล้ว ตัว Top รันไปเกือบ 2 ล้าน ถามลูกค้าส่วนมาก ยินดีเพิ่มเงินอีกไม่กี่แสน ไปเอา BMW MB ดีกว่า

ตราบใดที่ยังเพิ่มราคาไปแตะ 2 ล้านเรื่อยๆ ก็ช่วยไม่ได้ที่ลูกค้าจะไม่สน

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ  ถ้าส่วนต่างไม่เกินสาม สี่แสน  แล้วไปเอารถ MB  BMW  แทน คนไทยจ่ายง่ายแน่นอน

และผมว่ามีโอกาสมากเลยล่ะ

ออฟไลน์ Focuszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
ถ้าดันราคา ตัว Top ไปแตะ 2 ล้าน เผลอๆ วันข้างหน้า 2 อัพ เป็นผมก็คงไป Mb bm ดีกว่าครับ

ส่วนเรื่องปัญหา ผมว่าไม่น่าห่วงเท่าไหร่ครับ ช่างไทยได้ลองสักพักก็ทำได้

และมือสองผมว่ามันก็เป็นไปตามตลาดเรื่อยๆ ครับ พี่โต ชื่อเค้าน่าเชื่อถือ ความนิยมคงไม่ส่งผลไปทาง ด้านลบ เท่าไหร่ครับ

ใครอยากจัด D-Seg ผมว่าถ้าไม่ซีเรียส อะไร จัดมือสองดีกว่า ถูกกว่าเยอะเลยย 

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ราคามันตกขนาดนี้ผมว่ามีแต่จะเพิ่มด้วยซ้ำครับ

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
ส่วนตัวคิดว่า Camry ยังไงก็ยังเป็นรถผู้บริการของบริษัทต่างๆ ได้ไปอีกนานเท่านานครับ

แต่การซื้อใช้ส่วนตัวอาจน้อยลงเพราะราคาที่สูงขึ้น

เป็นผมคงเลือก D-Segment มาใช้ในโอกาสต่างๆ และใช้ยาวๆ
ถ้าใช้งานในชีวิตประจำวันหรือวิ่งงานจะใช้ Eco Car หรือ B-Segment ใช้ 5-6 ปีก็เปลี่ยน

Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ h22a

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 705
    • อีเมล์
D Segment เป็นรถที่การตั้งราคา มีปัญหาที่สุดแล้ว ตัว Top รันไปเกือบ 2 ล้าน ถามลูกค้าส่วนมาก ยินดีเพิ่มเงินอีกไม่กี่แสน ไปเอา BMW MB ดีกว่า

ตราบใดที่ยังเพิ่มราคาไปแตะ 2 ล้านเรื่อยๆ ก็ช่วยไม่ได้ที่ลูกค้าจะไม่สน

ผมก็คิดแบบนั้น และไปออก 320i Base เป็นที่เรียบร้อย  ;D

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
D Segment เป็นรถที่การตั้งราคา มีปัญหาที่สุดแล้ว ตัว Top รันไปเกือบ 2 ล้าน ถามลูกค้าส่วนมาก ยินดีเพิ่มเงินอีกไม่กี่แสน ไปเอา BMW MB ดีกว่า

ตราบใดที่ยังเพิ่มราคาไปแตะ 2 ล้านเรื่อยๆ ก็ช่วยไม่ได้ที่ลูกค้าจะไม่สน

ผมก็คิดแบบนั้น และไปออก 320i Base เป็นที่เรียบร้อย  ;D

ราคาขายเท่าไหร่อะครับ รุ่นนี้ แล้วอัตราการบริโภคน้ำมันเป็นอย่างไรบ้างครับ

เข้าใจว่าเล็กกว่า Camry แต่สาวเหลียวมากกว่าแน่นอน  ;D ;D
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ sakano

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
ราคามันตกขนาดนี้ผมว่ามีแต่จะเพิ่มด้วยซ้ำครับ

คือผมคิดว่า ราคาตกก็จริง แต่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ รวมทั้งอะไหล่ จะแพงขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านๆมาในอดีตนะซิครับ

รวมทั้งหาช่างฯที่ชำนาญและชิ้นส่วนมือสองยากขึ้น จะเป็นปัจจัยที่ทำให้ความนิยมลดลงอ่ะครับ ^^