ตอบยาก ต้องรอเวลาพิสูจน์เท่านั้น แต่ toyota ก็ไม่น่าทำให้คนไทยผิดหวัง
เครื่อง 2.0 L รุ่นใหม่ ใน Camry MC เป็น เครื่อง D4S ที่มีความซับซ้อน ในการฉีดน้ำมัน มากกว่า Direct injection ของ ยี่ห้ออื่นๆ
งง
ว่า ทำไม ไม่เอา แค่ D4 มาก็พอ จะได้ติดแก็สได้ง่ายหน่อย
ตัวนี้ เลยกลาย เป็น โจทย์ปัญหายาก ของ ร้านติดแก็ส ซึ่งกำลังทดลองติดให้สำเร็จอยู่ ร้านแก็ส กำลังรับสมัครหนูทดลอง ให้ราคาติดตั้งพิเศษ
เครื่องตัวนี้ เป็น เครื่อง ที่มีหัวฉีด 8 หัว (อย่าเสีย พร้อมกันนะ ตัวละ 10,000 บาทโดยเฉลี่ย) โดยที่ 4 หัว ฉีดตรง อีก 4 หัว ก็อยู่บน ท่อร่วมไอดี แบบเดิม
หลักการทำงานของระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบ D-4S
-ในสถาวะ เครื่องเย็น หรือ โหลดต่้ำ จะใช้หัวฉีดในท่อร่วมไอดี
-ในขณะ โหลดปานกลาง ทั้ง2 หัวฉีดจะทำงานร่วมกัน
-ในขณะที่ต้องการพลังสูง หรือ เหยียบเรียกแรงม้าทันที ก็จะเป็นหน้าที่ของ หัวฉีดตรง
-ในสภาวะ 3 สภาวะ มีจังหวะการฉีดน้ำมันเข้ากระบอกสูบ ก็ยังแตกต่างกันออกไป และ แตกต่างจากเครื่องหัวฉีดปกติ
ระบบ D4S แบบนี้ จะช่วยให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมัน มีประสิทธิภาพมากขึ้น และ ปล่อยไอเสียน้อยลง
นอกจากนี้ ยังมี ระบบ VVTi-W ระบบวาวล์แปรผันอัจฉริยะ ที่มีการเพิ่มองศาให้วาวล์เปิดได้กว้างขึ้นจากเดิม เพิ่มความยืดหยุ่นในการเปิดปิดวาวล์ เพื่อ เพิ่มประสิทธิ์ภาพของเครื่องยนต์
ตบท้าย ด้วย ระบบ Watercool EGR valve ระบบหมุนเวียนกาซ EGR ระบายความร้อนด้วยน้ำ
จะเห็นว่า เครื่องนี้มีเทคโลยีที่ซับซ้อนอยู่พอสมควร มันก็เป็นไปได้ ที่จะมีปัญหา มากกว่า เครื่องยนต์ระบบเก่า ในอนาคตได้
แต่ด้วยความที่เป็น แบรนด์โตโยต้า ก็เชื่อว่า คงได้ทดลองเครื่องนี้กันมาอย่างหนักหน่วง จนแน่ใจว่า มันจะทำงานเสถียรและทนทานเท่าเครื่องเดิม
ในระยะแรกๆ รถอยู่ในประกัน คงไม่เป็นปัญหาอยู่แล้วครับ ส่วน เกิน 3 ปีขึ้นไป ระยะแรกๆ ก็คงซ่อมข้างนอกลำบากนิดหนึ่ง เพราะ ช่างคงผ่านมือน้อย แต่ต่อๆ ไป ก็ไม่น่าเป็นปัญหาหรอกครับ ดู tiger D4D commonrail ซิ เปิดตัวมา ใหม่ๆ คนก็กลัว ปัจจุบัน ก็ไม่เห็นว่า จะเป็นปัญหาจนดึงยอดขายของ โตโยต้าเลย
เครื่องนี้ รุ่นนี้ น่าจะมีใส่ใน Camry เวอร์ชั่น ไต้หวัน ด้วยหรือเปล่า ?? ผมไม่แน่ใจ