ผู้เขียน หัวข้อ: ขอความร่วมมือตอบแบบสอบถาม แลกกับบทความเรื่องรถยนต์เป็นสิ่งตอบแทนครับ  (อ่าน 9082 ครั้ง)

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ผมมาอาศัยอ่านในบอร์ดนี่มาหลายปีแล้ววันนี่จะมาขอความร่วมมือให้ท่านๆช่วยตอบแบบสอบถาม ปัจจัยในการตัดสินใจซื้อรถยนต์กับความรู้ทางด้านความปลอดภัยด้วยครับ

แบบสอบถามอันนี่ แบ่งได้4ตอน ใช้เวลาประมาณ 3-5นาที จะมีส่วน2 จะถามคำถามเกี่ยวกับความปลอดภัยในรถยนต์ ผมขอให้ท่าน ตอบแบบอาศัยความรู้ที่ท่านเข้าใจณ.ปัจจุบันนะครับ

อันนี่เป็น link ของแบบสอบถามครับ

http://goo.gl/forms/HCSZn8XhgT

ในการที่ผมมาขออะไรสักอย่าง ก็ต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ผมขอแลกด้วย บทความเกี่ยวกับความปลอดภัยแล้วกันนะครับ (เพิ่งเคยเขียนยาวๆ ในบอร์ดสาธารณะครั้งแรกครับ ยังไง ถ้ามีอะไรท้วงติง ก็เชิญได้เลยครับ)



อย่างที่เรารู้กันดีว่าอัตราการเสียชีวิตบนท้องถนนของคนไทยเนี่ย สูงเป็นอันดับต้นๆของโลก(ผมเอามาจากรายงานของ WHO Global status report on road safety 2013 เขาเก็บตัวเลขของเมืองไทยณ ปี2010ไว้ ดังภาพข้างล่างครับ)

แต่ความจริงแล้วอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนในโลกนี่เนี่ย ก็ติดอันดับท๊อปเท็นของสาเหตุการตาย ดังนั้นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุเนี่ย จึงได้รับความสนใจมานานๆ มากๆแล้วครับ แต่เพิ่งจะมาเป็นกระแสจริงๆได้แค่20กว่าปีที่ผ่านมา

มีนักวิจัยทางยุโรป บอกว่า ถ้ารถยนต์ทุกวันนี่ถอดอุปกรณ์ความปลอดภัยออกไปให้หมดนั้น อัตราการเกิดอุบัติเหตุ จะสูงขึ้นถึง50%เลยทันที และอัตราการเสียชีวิตก็จะพุ่งตามมามากกว่าปรกติถึง20%

เราต้องย้อนกลับไป ว่าพวกองค์กรต่างๆที่เกี่ยวกับความปลอดภัยเนี่ย มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง โดยในที่นี่ ผมขอยกตัวอย่างทางยุโรปแล้วกันนะครับ เนี่องจากฝั่งยุโรปเนี่ยขึ้นชื่อเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักอยู่แล้ว
ทางฝั่งยุโรปเนี่ยกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยเริ่มต้นเมื่อปี1958ครับ


ขอย้อนความนิดหน่อย เมื่อครั้งที่ญี่ปุ่นพ้นสงครามโลกครั้งที่สองเนี่ย(1940-1950) ณี่ปุ่นไม่เหลืออะไรเลย การพัฒนาประเทศของเขา คล้ายๆกับประเทศจีนทุกวันนี้ก็คือใช้หลักการ C&D copy and development  สินค้าที่ได้ก็เหมือนจีนทุกวันนี่ครับ ในเมื่อไม่มี R&D สินค้าก็ได้แต่ลอกทางฝั่งตะวันตกมา คุณภาพต่ำ ดังนั้น สินค้าแบบนี่ก็เข้าหลักพื้นฐานของกลยุทร์ของ Michael E.Porter ที่บอกว่า “ การสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันมี 3 เรื่องหลัก  ผู้นำด้านต้นทุน (Cost Leader)   สร้างความแตกต่าง (Differentiation)  มุ่งเฉพาะกลุ่มป้าหมาย (Focus)”
นั้นก็คือ cost leadership แต่ณี่ปุ่น วันนั้นจะเอาอะไรไปสู้ครับ resourceทุกอย่างเอาไปทิ้งกับสงครามหมดแล้ว สินค้าของเขาวันนั้น มันไม่มีความได้เปรียบทางการแข่งขัน(competitive advantage)ทางด้าน cost leadership
แต่คนณี่ปุ่นมุ่งมั่นครับ เขาเปลี่ยนสไตล์การทำงาน เป็นการให้ความสำคัณกับคุณภาพสินค้า พวกแนวคิด TQM, JIT, KANBAN ก็เริ่มมาจากยุคนั้นครับ โดยหลักแนวคิดกว่างๆ มาจากท่านที่ชื่อว่า W. Edward Deming (นักสถิติ) กับ Joseph Juran (managing for quality) ทั้ง2ท่านนี้ ผมเชื่อว่าพี่ๆห้องนี่รู้จักเป็นอย่างดี หรือไม่ก็เคยนำแนวคิดของเขามาใช้งานบ้าง ท่านเคยได้ยิน PDCA รึเปล่าครับ plan do check action หรือที่นักIE เรียกว่า เดมมิ่งไซเคิล (Deming cycle) การพัฒนาที่ไม่มีวันสิ้นสุด วางแผน-ลงมือทำ-ตรวจสอบประเมินผล-แก้ไขพัฒนา แล้วก็วนรอบไปเรื่อยๆ
ญี่ปุ่นรู้ตัวดี ครับเวลานั้นว่าเขาทำรถใหญ่ไปสู้พวกอเมริกาไม่ได้  เขาเลยเลือกทางเลี่ยงคือทำรถเล็ก ประหยัดน้ำมัน(และเหมาะกับภูมิประเทศของญี่ปุ่นด้วย) เมื่อเทียบกับรถอเมริกันที่ยุคนั้นมันใหญ่ขึ้นๆ เรื่อยๆ
และแล้ว พระเจ้าก็ประทานพรด้วยวิกฤษน้ำมัน โดยทุกครั้งที่มีวิกฤษน้ำมันเนี่ย รถณี่ปุ่นก็ขายดีขึ้น พวก รถอเมริกันก็แย่ลงๆ  (โดยในยุคนั้นเนี่ย รถณี่ปุ่นในอเมริกัน ขึ้นชื่อว่าเป็น inferior goods คือมันจะขายดี เมื่อมีวิกฤษ ว่างั้นเถอะ (ดูรูปยอดขายข้างล่างของพวก big threeนะครับ ว่ามันแปรผกผันกับราคาน้ำมันเลย)

ดังนั้น ในช่วง1950-1980 ถือว่าเป็นนาทีทองของรถฝั่งณี่ปุ่น  ดีขนาดไหนก็ท่านลองเทียบว่าเมื่อปี1985เนี่ย รถยุโรปที่จดทะเบียนในญี่ปุ่น มีแค่48,356คัน กลับกัน รถญี่ปุ่นที่จดทะเบียนในยุโรปเนี่ย มีถึง 1.31ล้านคัน

กลับมาต่อที่ยุโรปนะครับ เมื่อปี 1958 พวกรถนำเข้าจากต่างแดนก็เยอะ ไอ้พวกยุโรปมันจะเอาอะไรไปสู้ครับ เนื่องจากแนวคิดการใช้รถทั้ง3ทวีปหลักมันแตกต่างกัน
อเมริกันก็ปั๊มเอาๆ ตั้งแต่ยุคFordism(แนวคิดของ Frederick W Taylor, Work Study) อเมริกันมันขาย ford model T เป็นสิบล้านคัน (ขายดีขนาดที่ว่าขายแต่สีดำ เนื่องจากสีดำแห้งเร็วที่สุด จึงสามารถผลิตได้มากที่สุด)
ณี่ปุ่นก็ไปเอารถเล็ก ราคาถูก ประหยัดน้ำมัน
ฝั่งยุโรป กลับมองว่ารถเป็นของมีค่า ไปทำแต่รถ handmade ราคาแพง ที่เหลือก็เป็นสินค้าที่ไม่ได้มีจุดเด่น
ดังนั้น ยุโรปเนี่ย จึงตั้งกำแพงขึ้นมา แรกๆก็บอกญี่ปุ่นว่า
“ถ้าเราจะขายรถเนี่ย เราก็น่าจะทำให้รถยนต์มีคุณภาพ ความปลอดภัยไกล้เคียงกันนะ ถ้ารถมีคุณภาพเหมือนกัน เราก็สามารถลดกำแพงที่กีดขวางทางการค้า”
ในครั้งนั้นเนี่ย ก็เป็นกฏหลักมาว่า รถยนต์ทุกคันที่ขายในยุโรปหรืออเมริกาเนี่ย จะต้องผ่านมาตรฐาน UN ECE (ประเทศไทยเป็นสมาชิกกับ world forum for harmonization of vehicle regulations (WP.29) เมื่อปี 2006ครับ โดยที่ฉลายรถยนต์ที่จะประกาศใช้ปีหน้าเนี่ย ก็จะมีมาตรฐานตัวนี่ คอยเขียนกำกับอยู่ องค์กรนี่ ทำงานร่วมกับ หรือเรียกว่าลอกกับ UNECEเลยก็ว่าได้)
แต่ความจริงแล้ว เขาไม่อยากให้รถญี่ปุ่น ไปตีตลาดรถบ้านเขามากนักครับ เขาไม่ได้หวังเรื่องทำลายกำแพงทางการค้าเท่าไรหรอก การวางมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อสร้างกำแพงทางการค้าเนี่ย ยุโปรก็ได้ทำแบบไม่หยุดหย่อย ทั้งมาตรฐานมลพิษที่สูงจนโตโยต้าไม่ได้แจ้งเกิด
จนกระทั่งปี 1970 ที่มาตรฐาน UNECE เนี่ย ได้ไปรวมกับหน่วยงานที่มีชื่อว่า Community Whole Vehicle Type Approval (ECWVTA) ทั้ง2คอยกำกับ และให้มาตรการควบคุมเกี่ยวกับรถยนต์ครับ อย่างเช่นการออกประกาศว่า รถยนต์ที่ขายในยุโรปทุกคันภายหลังปี 2007 ต้องติดตั้งระบบเบรค ABS ฟรือ หลังปี2014 ที่ทุกคันต้องติดตั้งระบบควบคุมการทรงตัว ก็มาจาก2หน่วยงานนี้

แต่เราเคยรู้รึปล่าวว่า ESC เนี่ย มันส่งผลขนาดไหนต่อความปลอดภัย ถึงขนาดยุโรปที่ไม่บังคับให้รถยนต์ที่ขายติดตั้ง AIRBAG แต่กลับบังคับให้ติด ESC

David Ward ผู้ที่เป็นเลขาของGlobal NCAP บอกว่า “ESC is the most significant advance in vehicle safety since the
introduction of the seatbelt. The anti-skid technology has helped prevent hundreds of
thousands of loss of control crashes, saving tens of thousands of lives. Like seatbelts,
legislators and automakers should now ensure that all new cars everywhere have ESC”

สั้นๆก็คือ ESC เนี่ย มันมีความสำคัญมากๆ ต่อความปลอดภัย มันช่วยไม่ให้เกิดอุบัติเหตุนับแสนๆครั้ง ช่วยชีวิตเป็นพันๆชีวิต จนต้องถือว่ามันเป็นอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยแห่งยุค ที่ยิ่งใหญ่เทียบเท่าสมัยที่รถยนต์ได้ติดตั้งเข็มขัดนิรภัย ดังนั้น รถยนต์ทุกคันที่ขายในปัจจุบันสมควรที่จะติดตั้งมันได้แล้ว

เมื่อปี 2011 NHTSA องค์กรด้านความปลอดภัยของสหรัฐได้ทำรายงานว่า ESC สามารถลดการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากรถยนต์คันเดียวได้ถึง 50% ลดอัตราการประทะด้านท้างได้ถึง 71% และการประทะสิ่งของที่อยู่กับที่ได้ถึง 58%

ดังนั้น เราจะเห็นว่าESCเนี่ย มีความสำคัญมากๆ และรถยนต์ที่ขายใน อเมริกา และยุโรป ก็มีมันหมดแล้ว ดังนั้น เลือกรถครั้งต่อไป อย่าลืมเลือกรถที่มีระบบควบคุมการทรงตัวนะครับ



จบครับ

แถมนิดๆ เกี่ยวกับสิ่งที่ผมกำลังทำรายงาน
ในยุโรปเนี่ย การผลักดันมาตรฐานความปลอดภัยมาจาก 3 ปัจจัยหลัก 1. คือกฎหมายที่คอยควบคุม 2. การประชาสัมพัน ให้ผู้คนได้รับทราบ(พวกEuro NCAP อยู่ในกลุ่มนี่ ได้รับงบบางส่วนมาจากรัฐบาล)  3. บริษัทผลิตรถยนต์
ในการพัฒนาระบบความปลอดภัยเนี่ย มันใช้เวลา และเงินสูงมาก ทั้ง3ปัจจัย คอยเกื้อ หนุน กันและกัน กฎหมายก็คอยควบคุมให้รถยนต์ที่ขายที่นั้นๆ มีความปลอดภัย การประชาสัมพัน ก็เป็นการให้รางวัลกับรถยนต์ที่ทำมารตฐานด้านความปลอดภัยผ่านเกญ หรือได้รับการประกาศเป็นรางวัลเนื่องจากรถยนต์มีความปลอดภัยมากกว่ารถยนต์อื่นๆ  ค่ายรถยนต์ ก็คอยพัฒนารถยนต์ ให้ผ่านมมาตรฐานความปลอดภัย

ดังนั้น การพัฒนาความปลอดภัยในรถยนต์  ใช้งบประมาญสูงมาก ในการผลักดัน ทั้งนี่ การประชาสัมพัน ก็ยังไม่ได้มีหลักฐานว่ามันเชื่อมโยงถึงปัจจัยในการเลือกซื้อรถ อย่างที่รัฐบาลคาดหวังหรือไม่
การที่รัฐบาล คอยประกาศ อุดหนุนงบประมาญให้หน่วยงานส่วนกลาง หรือการให้ความรู้กับประชาชนเนี่ย มันคุ้มหรือผลักดันให้คน เลือกรถยนต์ที่มีความปลอดภัยรึเปล่า(เราอาจสงสัยว่า ทำไม่รัฐบาลถึงกังวล เกี่ยวกับความปลอดภัยทางถนน คำตอบคือการสูญเสียทางถนน เนี่ย ส่งผลโดยตรงกับการพัฒนาของชาติ อย่างเช่นประเทศไทยเนี่ย ทุกๆปี GDP เราหายไป3%เนี่ยจากการสูญเสีย ที่ตรงนี่)
ผมเลยมองว่า คนที่มีความรู้เรื่องเกี่ยวกับความปลอกภัยเนี่ย การตัดสินใจซื้อรถยนต์ต่างกับคนไม่รู้หรือเปล่า





ปล. ถ้าผมตกหล่น ผิดพลาดยังไง หรือข้อมูลผิดตรงไหน รบกวนชี้แนะด้วยครับ
ปล.2 ผมชอบนิสสันครับ ถ้าว่างๆ จะมาเล่าเกี่ยวกับนิสสัม สมันไปตีอเมริกา กับยุโรป จนเจ๋ง ปีกหักไปซบเรย์โนลต์ให้ฟัง

ออฟไลน์ TCh

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 220
ทำแบบสอบถามแล้วนะครับ

ส่วนตัวมองว่า แบบสอบถามจะ เป็นแนว เทคนิค จนเกินไปนะครับ

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ทำแบบสอบถามแล้วนะครับ

ส่วนตัวมองว่า แบบสอบถามจะ เป็นแนว เทคนิค จนเกินไปนะครับ

ขอบคุณครับ คุณTCh

ความจริงแล้วคำถามพวกนั้นผมเลือกจากความรู้ทั่วไป,เรื่องความปลอดภัยเบื้องต้น,คำแนะนำการเลือกรถและสิ่งที่คู่มือรถยนต์บอกไว้นะครับ
โดยปรกติแล้วคนจะไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก แต่เท่าทีผมทดสอบมา คนที่สนใจเรื่องนี่บ้างจะสามารถตอบได้มากกว่า5ข้อขึ้นไปเลยนะครับ
ขอบคุณมากนะครับ สำครับแบบสอบถาม


ออฟไลน์ moo

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 141
หากเอาไปใช้ต่อ (เช่น วิทยานิพนธ์) เช็ค 2 ส่วนสุดท้ายที่มีเนื้อหา ตรงนั้นมีคำผิดอยู่ครับ


ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
ตอบแล้วครับผม
ถ้าข้อมูลไปถึงบริษัทรถ และผู้ที่เกี่ยวข้อง
และเกิดความจริงใจ ความใส่ใจจากทุกภาคส่วนน่าจะดีครับ  ขอเป็นแบบจริงๆใจนะ
ไม่ใช่เพิ่มระบบความปลอดภัยมาเพื่อเป็น Option ขายในราคาแพงประมาณนั้นครับผม
เพราะอย่าลืมว่าระบบความปลอดภัย ที่เหมือนกัน อาจจะให้ประสิทธิภาพไม่เท่ากันในรถแต่ละรุ่นก็เป็นได้ครับ
เช่น(ตัวอย่าแบบสุดๆแล้วกัน) เอา ระบบป้องกันการล็อคล้อใส่ในเกวียน จะมีประโยชน์อะไร
นั่นหมายถึง ส่วนอื่นๆ ของรถ ก็ต้องตอบรับหรือ พร้อมสำหรับระบบนั้นๆด้วย
แต่ผมว่าในปัจจุบัน (ผมคิดเอง) บางรุ่นใส่มาเพื่อเพิ่มราคาและดู Option มากๆ เข้าไว้ จะได้ขายในราคาแพงแล้วดูสมน้ำสมเนื้อ
แต่ว่าสุดท้าย ถามว่าผู้บริโภคเลือกได้ไหม เหมือนจะเลือกได้นะ แต่เลือกไม่ได้ เพราะว่า ยังไงก็ต้องซื้อรถจากผู้ผลิตอยู่ดีหละครับผม
 :)

ขับขี่ปลอดภัยกันครับ  รถจะแรงหรือไม่แรง จะมีระบบอะไรหรือไม่มี ถนนนี้ไม่ใช่ของท่านเพียงคนเดียว ได้โปรดดูคนรอบข้างและมีน้ำใจ มีวินัยในการขับขี่ด้วยเถิด
----- ถ้ารถแรง แล้วต้องปาดหน้าปาดหลัง และต้องขับแช่ขวา เอารถนั้นไปเป็น เอาไปลากไถเถอะครับ เพื่อนร่วมถนนจะได้ไม่เดือนร้อนครับ ----

ออฟไลน์ rapee001

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
    • อีเมล์
ผมว่าส่วนแรกมันเหมือนคำถามเงินล้านมากกว่าแบบสอบถามครับ

ส่วนที่เหลือดู ok มาก

ส่วนเรื่องราคาความปลอดภัยนั้นผมว่ามันดูราคาถูกมากๆเมื่อเทียบกับตัวรถทั้งคัน

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
หากเอาไปใช้ต่อ (เช่น วิทยานิพนธ์) เช็ค 2 ส่วนสุดท้ายที่มีเนื้อหา ตรงนั้นมีคำผิดอยู่ครับ

ขอบคุณมากครับ คุณ moo
เดี๋ยวผมไปเช็คแล้วเปลี่ยนตามที่แนะนำเลยครับ

ผมเอาไปใช้ในวิทยานิพนธ์จริงๆครับ  :) :)

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ตอบแล้วครับผม
ถ้าข้อมูลไปถึงบริษัทรถ และผู้ที่เกี่ยวข้อง
และเกิดความจริงใจ ความใส่ใจจากทุกภาคส่วนน่าจะดีครับ  ขอเป็นแบบจริงๆใจนะ
ไม่ใช่เพิ่มระบบความปลอดภัยมาเพื่อเป็น Option ขายในราคาแพงประมาณนั้นครับผม
เพราะอย่าลืมว่าระบบความปลอดภัย ที่เหมือนกัน อาจจะให้ประสิทธิภาพไม่เท่ากันในรถแต่ละรุ่นก็เป็นได้ครับ
เช่น(ตัวอย่าแบบสุดๆแล้วกัน) เอา ระบบป้องกันการล็อคล้อใส่ในเกวียน จะมีประโยชน์อะไร
นั่นหมายถึง ส่วนอื่นๆ ของรถ ก็ต้องตอบรับหรือ พร้อมสำหรับระบบนั้นๆด้วย
แต่ผมว่าในปัจจุบัน (ผมคิดเอง) บางรุ่นใส่มาเพื่อเพิ่มราคาและดู Option มากๆ เข้าไว้ จะได้ขายในราคาแพงแล้วดูสมน้ำสมเนื้อ
แต่ว่าสุดท้าย ถามว่าผู้บริโภคเลือกได้ไหม เหมือนจะเลือกได้นะ แต่เลือกไม่ได้ เพราะว่า ยังไงก็ต้องซื้อรถจากผู้ผลิตอยู่ดีหละครับผม
 :)

ขับขี่ปลอดภัยกันครับ  รถจะแรงหรือไม่แรง จะมีระบบอะไรหรือไม่มี ถนนนี้ไม่ใช่ของท่านเพียงคนเดียว ได้โปรดดูคนรอบข้างและมีน้ำใจ มีวินัยในการขับขี่ด้วยเถิด
----- ถ้ารถแรง แล้วต้องปาดหน้าปาดหลัง และต้องขับแช่ขวา เอารถนั้นไปเป็น เอาไปลากไถเถอะครับ เพื่อนร่วมถนนจะได้ไม่เดือนร้อนครับ ----

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ คุณMUK
ความปลอดภัย สมควรเป็นอุปกรณ์พื้นฐาน มากกว่าสิ่งของเพิ่มราคาจนคนมองว่าเป็นสิ่งของจำเป็นแต่แพงเกินไป ครับ

การผลักดันจากหลายๆหน่วยงาน ดังที่กล่างใว้ในส่วนสุดท้ายของบทความ อาจจะช่วยผลักดันตรงนี่ได้ครับ
ทั้งนี่ รวมถึงเราๆด้วยครับบางทีเราละเลย ไปเลือกรถที่ส่วนลดของแถมเป็นปัจจัยหลัก ก็อาจทำให้ผู้ผลิตเอาจุดนี่มาเอาเปรียบเราได้  >:( >:(

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ผมว่าส่วนแรกมันเหมือนคำถามเงินล้านมากกว่าแบบสอบถามครับ

ส่วนที่เหลือดู ok มาก

ส่วนเรื่องราคาความปลอดภัยนั้นผมว่ามันดูราคาถูกมากๆเมื่อเทียบกับตัวรถทั้งคัน

ขอบคุณครับ คุณ rapee001

อย่างที่คุณTChว่าไว้นะครับ มันอาจจะออกแนว technic เล็กน้อย แต่มันจะช่วยผมกรองกลุ่มคนที่วนใจ กับไม่สนใจนะครับ(ผมคาดว่าคนห้องนี่ต้องตอบกันได้ถูกเยอะมากๆแน่ๆ)
ส่วนเรื่องความเต็มใจที่จะจ่าย จริงๆแล้วมันต้องใช้วิธีการอื่นนะครับ  แต่ด้วยงบประมาณ และความสามารถของผมที่จำกัด มันก็เลยยออกมาเป็นแนวทางนี่นะครับ

ขอบคุณมากครับ

ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่ทราบ -.-"
แต่งง คำถามข้อ 6 นิดหน่อยครับ(abs)
-ถามเรื่องระยะ
แต่คำตอบดันเป็นประสิทธิภาพ

ออฟไลน์ PRAIWAN6624

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 102
    • อีเมล์
ตอบไปแล้วนะครับ
ที่ตอบก็ตอบเท่าที่จำได้จากบทความต่างๆที่เคยอ่าน หากเจ้าของกระทู้เป็นฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริษัทรถยนต์ ก็จะแนะนำว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหลายที่ท่านใส่มานั้น  น้ำหนักมันคงไม่เยอะจนอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้นนัก
ระบบที่ใส่มาเพิ่มนั้น บางคนติงมาว่ามีแล้วไม่ได้ใช้ เอาแค่นี้ก็พอ  แต่ผมยอมจ่ายครับ คันไหนไม่มี ABS,AIRBAGนี่ผมตัดออกเป็นอย่างแรกเลย เพราะคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอุบัติเหตุ เค้าคิดไม่ได้หรอก หลายๆคนไม่มีโอกาสที่จะได้คิดอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ (เสียชีวิตก่อน)

ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ส่วนใหญ่จะตอบว่าไม่ทราบ -.-"
แต่งง คำถามข้อ 6 นิดหน่อยครับ(abs)
-ถามเรื่องระยะ
แต่คำตอบดันเป็นประสิทธิภาพ

ขอบคุณครับคุณ kiwiwi

ขอโทษสำครับคำถามที่ค่อนข้างกำกวมด้วยนะครับ แล้วก็ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ เกี่ยวกับการวาาางคำถามด้วยครับ

ตอบไปแล้วนะครับ
ที่ตอบก็ตอบเท่าที่จำได้จากบทความต่างๆที่เคยอ่าน หากเจ้าของกระทู้เป็นฝ่ายวิจัยและพัฒนาบริษัทรถยนต์ ก็จะแนะนำว่าอุปกรณ์ความปลอดภัยทั้งหลายที่ท่านใส่มานั้น  น้ำหนักมันคงไม่เยอะจนอัตราสิ้นเปลืองเพิ่มมากขึ้นนัก
ระบบที่ใส่มาเพิ่มนั้น บางคนติงมาว่ามีแล้วไม่ได้ใช้ เอาแค่นี้ก็พอ  แต่ผมยอมจ่ายครับ คันไหนไม่มี ABS,AIRBAGนี่ผมตัดออกเป็นอย่างแรกเลย เพราะคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอุบัติเหตุ เค้าคิดไม่ได้หรอก หลายๆคนไม่มีโอกาสที่จะได้คิดอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ (เสียชีวิตก่อน)

ขอบคุณสำหรับแบบสอบถามนะครับ คุณ kiwiwi

ส่วนตัวผมเอง ผมค่อนข้างใส่ใจกับความปลอดภัยนะครับ แล้วผมก็เห็นด้วยว่ารถยนต์ในเมืองไทยบางคัน ให้ระบบความปลอดภัยมาน้อยเกินไปจริงๆ
คันล่าสุดที่ผมเลือกคือ camry 2.5 โดยที่ผมมีตัวปัจจัยในการเลือกรถคือ 1 เป็นD seg 2 ต้องเป็นเครื่องยนต์ปรกติ ไม่ฉีดตรง 3 ไม่ใช่ฮอนด้า(ขอโทษเพื่อนๆฮอนด้าด้วยครับ แต่ผมมีประสปการที่ไม่ค่อยดีกับฮอนด้า) สุดท้าย เหลือ 2 ตัวเลือกคือ camry 2.5 ล้านห้า optionโล้น กับteana 2.5
สุดท้าย ผมก็ไปที่ camry2.5 ที่ไม่มีอะไรเลย ไม่น่าเชื่อว่ารถคันละเกือบล้านห้า front cd แย่กว่าcityคันละ8แสน ภาพแตก ไม่ชัด ใส่กล้องถอยหลังโตโยต้า ยังมองไม่เห็น  555+ ผมบ่นไปซะงั้น

ออฟไลน์ tierak

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 903
ตอบคำถามให้แล้วนะครับ

ผมเห็นด้วยเรื่อง ESC จุดใหญ่ที่ทำให้รถยนต์เกิดอุบัติเหตุคือการเสียการทรงตัวนี่แหละ ฉะนั้นเวลาเลือกรถผมจะให้ความสำคัญที่ช่วงล่างเป็นหลักใหญ่

ถ้าผมจำไม่ผิดเฉพาะค่ารักษาผู้ป่วยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเมืองไทยประมาณ 1% ของ GDP ถือว่าสูงมาก ยังไม่รวมความเสียหายอย่างอื่นอื่น

ปล.การผลักเันเรื่องแบบนี้ในบ้านเราไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน เพราะรัฐบาลไทยทุกยุคก็ ง้อ และ หงอ บริษัทผู้ผลิตเหลือเกิน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กรกฎาคม 23, 2015, 13:22:15 โดย tierak »

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
ตอบแล้วครับ แต่ขอคอมเม้นนิดว่าประโยคยาวไปหน่อย กลัวจะหลงประเด็นเวลาอ่าน

แบบสอบถามเชิงลึก น่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องน้อย ผมข้ามไปหลายข้อเลย บางที

เพื่อคัดกรองข้อมุล ถ้าเค้าไม่สนใจแต่แรก ควรให้ข้ามไปตอนสรุป เพราะจะได้คัดกรองข้อมูลได้


ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
เท่าที่แอบไปดูแบบสอบถามมา

คนในนี่ตอบคำถามถูกเป็นส่วนใหญ่ (มีคนถูก 10/10 อยู่หลายคนครับ ไม่น่าเชื่อเลย ให้ผมทำเองก่อนที่ที่จะมาหาข้อมูลนี่ยังไม่ได้ 10/10เลยครับ)

กลับกัน ผมส่อต่อให้เพื่อนๆ ใน SNSs ส่วนใหญ่จะมีความสนใจทางด้านนี่น้อยมาก
ยังไง เดี่ยวสัก2 วัน ผมจะมาเฉลยคำถามทั้ง10ข้อนะครับ จะได้เป็นข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับความปลอดภัย ให้พี่ๆน้องๆ ในชุมชนนี่ ได้มีความรู้รอบตัวเพิ่มๆขึ้นไปอีก


ตอบคำถามให้แล้วนะครับ

ผมเห็นด้วยเรื่อง ESC จุดใหญ่ที่ทำให้รถยนต์เกิดอุบัติเหตุคือการเสียการทรงตัวนี่แหละ ฉะนั้นเวลาเลือกรถผมจะให้ความสำคัญที่ช่วงล่างเป็นหลักใหญ่

ถ้าผมจำไม่ผิดเฉพาะค่ารักษาผู้ป่วยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ของเมืองไทยประมาณ 1% ของ GDP ถือว่าสูงมาก ยังไม่รวมความเสียหายอย่างอื่นอื่น


ขอบคุณครับ คุณtierak

ผมขอเล่าเรื่อง ESC สักนิดครับ
ผมเคยเชื่อมั่นกับระบบนี่มาก เนื่องจากปรกติ ผมก็ชอบทางด้านรถยนต์อยู่แล้ว แล้วยังได้เรียนใน shop ช่างยนต์เป็นเวลาสั้น
ผมสนใจมาก แล้วก็คิดว่าระบบนี่มันดีจริงๆ (ซึ่งมันดีจริง)
คันแรงของบ้านผมที่มีระบบนี่คือ camry ac30 2.4 vsc, ระบบนี่ไม่เคยถูกใช้งานเลย จนกระทั้งขายรถไป หลังจากนั้น ผมก็ไม่ค่อยได้สนใจแล้วครับ
จนมีโอกาศได้เช่ารถขับที่อังกฤษ เป็นรถเล็ก แต่ครบพร้อมด้วยระบบรักษาความปลอดภัย
วันนี่ผมไป ผมขับไปScotland เส้นทางเดียวกับJames bond skyfall นั้นละครับ หิมะตกไปคืนก่อนหน้า ถนนลื่นมาก อากาศเย็นจนน้ำฉีดกระจกที่เติมน้ำยาลดอุณหภูมิยังแข็ง  ผมขับช้ากว่า speed limit พอสมควร หลังจากนั้น ผมจะเบรคเข้าจุดจอด รถลื่นครับ เบรคไม่ได้ ควบคุุมรถไม่ได้ ไฟESPกระพริบโชว์ที่หน้าปัดบอกว่ารถเสียการทรงตัว ข้อดีคือรถไม่หมุน แต่มันก็ยังคุมไม่ได้ครับ  เป็นประสปการที่ดีครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ


ตอบแล้วครับ แต่ขอคอมเม้นนิดว่าประโยคยาวไปหน่อย กลัวจะหลงประเด็นเวลาอ่าน

แบบสอบถามเชิงลึก น่าจะได้ข้อมูลที่ถูกต้องน้อย ผมข้ามไปหลายข้อเลย บางที

เพื่อคัดกรองข้อมุล ถ้าเค้าไม่สนใจแต่แรก ควรให้ข้ามไปตอนสรุป เพราะจะได้คัดกรองข้อมูลได้



ขอบคุณครับคุณ HHHsung

พอดีเป็นครั้งแรกที่ผมทำรีเสรีช นะครับก็ บางทีก็มีผิดพลาดแบบที่ผมคิดว่า ปิ๊งเลย
ยังไงเดี๋ยวผมจะเอาไปปรับแก้ในคำถามเลยนะครับ

ออฟไลน์ sugeng

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 42
    • อีเมล์
ทำให้แล้วนะครับ ตอนสอบจบอย่าเถียง(แถ 555) และอย่าอ้างทฤษฎีนู่นนี่มากไปนะครับ ^^
ปล.อังกฤษคงไม่เหมือนไทยมั้ง ไว้มาเล่าบรรยากาศตอนสอบจบที่อังกฤษให้ฟังบ้างนะครับ ^^
โชคดีครับ

promt

  • บุคคลทั่วไป
ทำแบบสอบถามให้แล้วครับ

ESC, TRC จำเป็นมากครับ

ไม่มี TRC รถควบคุมไม่ได้ หากถนนลื่น
ไม่มี ESC รถควบคุมยากจนถึงเสียการทรงตัว หากวิ่งเร็ว เบรค แล้วหักพวงมาลัย

CIVIC FD คว่ำมาแล้ว เพราะไม่มีไอ้ 2 ระบบเนี่ย

ปัจจุบัน ถึงรถยนต์จะราคาถูก สวยงามแค่ไหน
หากไม่มี TRC, ESC ขอบะบายครับ ไม่ซื้อ ไม่มอง ไม่พิจารณา ไม่ลองขับ ไม่หยิบโบรชัวร์ ไม่อะไรทั้งนั้น

morphling14

  • บุคคลทั่วไป
เรียบร้อยละครับ ^^

ออฟไลน์ jumpon77

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,372
    • อีเมล์
http://facebook.com/jumpon.hiranyanon
https://twitter.com/jumpon77     คุยได้นะครับ.
 Corolla Altis 1.8 E MT MY2008 Corolla Altis 1.6 J AT my2011 Isuzu D-MAX Spark my2003

ออฟไลน์ Peach B.

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 27
    • อีเมล์
ทำให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมว่าอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งหลายถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆเลยครับ โดยเฉพาะ ABS กับ ถุงลมนิรภัย ผมเคยไปอบรม Safety Driving ของสื่อสากลมา รู้สึกว่ารถที่มีระบบช่วยเหลือพวก ESC TCS มันช่วยได้เยอะจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งแรงๆนี่แหละ มันหลุดยากมากๆ
ปล.รถที่ใช้อบรมภาคปฏิบัติเป็น Benz กับ Subaru

ออฟไลน์ benley

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 405
ตอบให้แล้วนะครับ

ออฟไลน์ 6162002

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,089
ทำให้แล้วนะครับ

แบบสอบถามมันแปลกๆตามที่หลายๆท่านช่วยคอมเม้นให้น่ะครับ

ผมขอเสริมเรื่องเนื้อหาให้แล้วกันครับ
PDCA ที่หมายถึง วางแผน-ลงมือทำ-ตรวจสอบประเมินผล-แก้ไขพัฒนา มันมาจาก Plan-Do-Check-Adjust นะครับ ไม่ใช่ Action (หรือถ้าจะใช้ Action ก็ต้องเปลี่ยนภาษาไทยครับ)
แต่ก็มีทั้งการใช้ทั้งแบบ Action และ Adjust ครับ  อันนี้ผมแนะนำให้มัน Align กับภาษาไทยน่ะครับ

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
จัดให้แล้วครับ พาร์ทที่2 ผมตอบไม่ทราบค่อนข้างเยอะ

ผมไม่อยากมั่วนะ พวกนี้ลึกเกินไปสำหรับผม


ออฟไลน์ -NOT-

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 46
ทำให้แล้วนะครับ ตอนสอบจบอย่าเถียง(แถ 555) และอย่าอ้างทฤษฎีนู่นนี่มากไปนะครับ ^^
ปล.อังกฤษคงไม่เหมือนไทยมั้ง ไว้มาเล่าบรรยากาศตอนสอบจบที่อังกฤษให้ฟังบ้างนะครับ ^^
โชคดีครับ

ขอบคุณครับ คุณ sugeng

นี่ก็ครั้งแรกของผมเหมือนกัน ยังไม่รู้ว่ายังไงเลยครับ

ทำแบบสอบถามให้แล้วครับ

ESC, TRC จำเป็นมากครับ

ไม่มี TRC รถควบคุมไม่ได้ หากถนนลื่น
ไม่มี ESC รถควบคุมยากจนถึงเสียการทรงตัว หากวิ่งเร็ว เบรค แล้วหักพวงมาลัย

CIVIC FD คว่ำมาแล้ว เพราะไม่มีไอ้ 2 ระบบเนี่ย

ปัจจุบัน ถึงรถยนต์จะราคาถูก สวยงามแค่ไหน
หากไม่มี TRC, ESC ขอบะบายครับ ไม่ซื้อ ไม่มอง ไม่พิจารณา ไม่ลองขับ ไม่หยิบโบรชัวร์ ไม่อะไรทั้งนั้น

ขอบคุณครับ คุณ promt

บางทีเราก็มีทางเลือกน้อยนะครับ ผมก็มองเรื่องนี่พอสมควรนะ แต่บางที่รถยนต์ที่ขายในประเทศไทย ติดตั้งมาในเฉพาะรุ่นสูงๆ ซึ่งเพิ่มเงินเป็นแสน ก็ไม่ค่อยไหวเหมือนกัน


ทำให้เรียบร้อยแล้วนะครับ ผมว่าอุปกรณ์เซฟตี้ทั้งหลายถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆเลยครับ โดยเฉพาะ ABS กับ ถุงลมนิรภัย ผมเคยไปอบรม Safety Driving ของสื่อสากลมา รู้สึกว่ารถที่มีระบบช่วยเหลือพวก ESC TCS มันช่วยได้เยอะจริงๆ โดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งแรงๆนี่แหละ มันหลุดยากมากๆ
ปล.รถที่ใช้อบรมภาคปฏิบัติเป็น Benz กับ Subaru

ขอบคุณครับคุณ Peach B.

ถ้าไปงานนั้นมา แสดงว่าเราเป็นศิษย์สถาบันเดียวกันแน่ๆ ผม FO-M11,IE16 ครับ

ทำให้แล้วนะครับ

แบบสอบถามมันแปลกๆตามที่หลายๆท่านช่วยคอมเม้นให้น่ะครับ

ผมขอเสริมเรื่องเนื้อหาให้แล้วกันครับ
PDCA ที่หมายถึง วางแผน-ลงมือทำ-ตรวจสอบประเมินผล-แก้ไขพัฒนา มันมาจาก Plan-Do-Check-Adjust นะครับ ไม่ใช่ Action (หรือถ้าจะใช้ Action ก็ต้องเปลี่ยนภาษาไทยครับ)
แต่ก็มีทั้งการใช้ทั้งแบบ Action และ Adjust ครับ  อันนี้ผมแนะนำให้มัน Align กับภาษาไทยน่ะครับ

ขอบคุณ คุณ 6162002 ด้วยครับสำหรับคำถาม และความรู้ที่อัพเดทผมเรื่อง PDCAครับ ผมก็เพิ่งจะเข้าใจเหมือนกัน ถึงว่า ถ้าแปล action มันจะแปลกๆ แต่ถ้าเป็นadjustนี่ ชัดเจนเลย


ขอบคุณ คุณ Tae_Mhee, คุณ jumpon77 คุณ benley คุณ JM` ด้วยครับ

ตอนนี่ ผมได้คำตอบมาเยอะมาก มากกว่าที่คิดเยอะเลยครับ ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Volta

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,716
    • อีเมล์
ตอบไห้แล้วนะครับ

จริงอยากไห้มีอ็อพชั่นความปลอดภัยเลือกติดตั้งได้เอง
คือไม่อยากไห้ของเหล่านี้มันไปกองอยู่ในรุ่นท็อป

แบบ cx3 ในออสเตเรีย มีแพ็คเกจไห้เลือกระบบเตือนจุดบอดเพิ่มเติมได้ ไม่จำเป็นต้องซื้อรุ่นท็อป

ภาครัฐเองก็ควรรณรงค์เรื่องระบบความปลอดภัยกันบ้าง ไม่งั้นคนทั่วไปก็ไม่ทราบหรอกครับว่า ระบบควบคุมการทรงตัวมันดีอย่างไร ถุงลม 6 ใบดีกว่า 2 ใบอย่างไร

อาจจะใช้วิธีส่งเสริมเรื่องลดภาษีเหมือนกรณีรถที่ใช้ e85 ได้  ค่ายไหนใส่จัดเต็มระบบความปลอดภัยมาไห้ก็ได้ลดภาษีกันไป

เมื่อคนเริ่มตื่นตัว และเริ่มมีข้อเรียกร้องต่อค่ายรถยนต์ อนาคตเราคงได้เห็นระบบความปลอดภัยครบครันตั้งแต่รุ่นล่างสุดเหมือนในต่างประเทศสักที

สวัสดีทุกๆคนครับ