ผมพึ่งได้ XV มาใช้ไม่นาน วิ่งไป 1600 กว่าโลฯ (แถมยังไม่ได้เข้าศูนย์เชค 1000 กิโลฯด้วย ศูนย์ฯคิวแน่น
)
คงยังบอกอะไรไม่ได้มากว่ารถมันเป็นยังไง เอาเป็นว่าผมจะลองเปรียบเทียบกับ Fortuner BMC2.5 กับ Civic FD1.8 และ Prius ที่บ้านเพื่อช่วยให้เห็นภาพมากขึ้นครับ (เห็นว่าจขกท. ก็มี jazz กับกระบะ4ประตู น่าจะพอเทียบได้)
เอาเรื่องกินน้ำมันก่อนละกัน ของผมยังอยู่ช่วง Run-in ล่าสุดวิ่งไป-กลับ ประจวบฯมาช่วงหยุดยาว ขาไปรถติดเส้นพระราม 2 ด้วย เติม E20 วิ่ง110-120 หน้าปัดบอกได้เฉลี่ย 13.5 กม./ลิตร แต่ลองคำนวณจากค่าน้ำมันได้ประมาณ 13.0กม./ลิตร ซึ่งกินพอๆกับ Fortuner 2.5 ดีเซลเลย แต่ถ้าเทียบกับ civic FD1.8 ที่เติม E20 เท่ากันวิ่งทางไกลจะวิ่งได้ 16-17 กม.ลิตร (ขับนิ่งๆที่ความเร็วเท่าๆกัน) อย่างทีบอกว่ารถยังไม่พ้น Run-in แถมยังขับ 4 ตลอดเวลา ถ้าถ่ายน้ำมันเครื่องแล้วน่าจะดีขึ้นหรือถ้าเติม 95 ก็น่าจะได้ระยะทางมากขึ้น
การใช้งานถ้าเทียบกับเก๋ง Civic FD (ซึ่งผมขับประจำก่อนมาใช้ XV) ขนาดพื้นที่ภายในเอาเข้าจริงๆแทบไม่ต่างกัน แต่ XV จะโปร่งกว่าและที่นั่งด้านหลังจะมีพื้นที่วางขาเหลือเยอะกว่า มีที่เก็บของด้านหลังที่สูงกว่า ขนของขึ้นลงได้สะดวก
ที่น่าแปลกอย่าง (ความเห็นส่วนตัวนะ) ผมกลับรู้สึกว่า Feeling กับขับขี่ ทั้งทัศนวิสัย,การบังของเสา A แผง Console ความคุ้นเคยต่างๆมันคล้าย FD มาก ถ้าผมสลับกันขับ FD กับ XV ไปๆมาๆผมแทบไม่ต้องปรับตัวอะไรเลย มันคุ้นมืออย่างประหลาดๆ อธิบายไม่ค่อยถูก (แต่ขอติตรงที่วางขาซ้ายหน่อย แทบจะเบียดกับแป้นเบรคเลย วางแล้วมันขัดๆชอบกล)
ช่วงล่าง XV นุ่มสบายกำลังดี นุ่มกว่า Fortuner นิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่ไม่นุ่มเท่า Prius
การวิ่งทางไกลๆยาวๆ มีโค้งบ้าง รถนิ่งดี นิ่งพอๆกับ FD ที่เปลี่ยนโช๊คมาแล้ว แต่ FD จะออกแนวตึงตังตามสไตล์ Honda
แต่เวลาขับนานๆแล้วไม่ค่อยเมื่อยล้า ไม่ค่อยเพลีย คงเป็นเพราะความนิ่งของรถ+รถหนัก เวลาออกตัวก็ไม่ดึงกระโชกโฮกฮาก เบรคหนักๆก็ไม่หัวทิ่มด้วย (แต่มอไซด์จะมาทิ้มท้ายแทน โดนมาแล้วเพิ่มเคลมประกันไป
)
การออกตัวผมยังไม่เคยลองกดเต็มเท้า แต่เวลาแซงโดยใช้ Paddle shift ช่วยแทนการ Kick down ก็เร่งแซงได้ง่ายและสะดวกขึ้น แต่ไม่เร็วเท่า FD
และเวลาเร่งจะรับรู้ได้ว่าแรงดึงมีมาให้ตั้งแต่รอบต่ำๆ ในขณะที่ FD ต้องกดไป 4000-5000 รอบถึงจะได้แรงดึงเต็มที่
ก่อนซื้อตั้งใจจะหารถที่ยกสูงหน่อย สามารถลุยได้บ้าง(เช่นขับไปถ่ายรูปที่ ป่าบงเปียง) มีที่เก็บของด้านท้ายมากขึ้น ขนาดรถไม่ใหญ่เกินไป และราคาไม่แพงเกินไป option ครบๆ ที่สำคัญต้องให้อารมณ์ในการขับใกล้เคียง FD ซึ่งผมชอบพอสมควร พอได้คันนี้มาโดยรวมแล้วก็รู้สึกพอใจมากเพราะมันตอบปัญหาได้ค่อนข้างหมด ขับไปไหนก็มีแต่คนทักว่ารถดีๆ (เพื่อนที่อยู่ญี่ปุ่นก็ยังชมว่ารถดี) มันก็คงจะดีจริงๆละมั้ง??
สุดท้ายเรื่องบำรุงรักษา เท่าที่ประเมินดูก็ไม่ได้แพงอะไร จะมีส่วนที่เพิ่มเข้ามาหน่อยคงเป็นค่าน้ำมันเฟืองหน้า+เฟืองท้าย และน้ำมันเกียร์ CVT ส่วนน้ำมันเครื่องก็ใช้ประมาณ 5 ลิตร มากกว่ารถเครื่อง 1500-1800 อยู่ประมาณลิตรนึงได้ (ผมกำลังจะงัดกับศูนย์บริการอยู่เพราะบังคับให้ใช้แต่ของศูนย์ฯไม่งั้นประกันหมด แต่น้ำมันศูนย์แพงเกินเหตุซึ่งราคานี้เอาไปซื้อน้ำมันเกรด Premium เติมรถได้หลายลิตรเลย)