ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อคุณขับ ecocar ทางไกล คุณรู้สึกว่าเหมื่อยกว่ารถแพงๆไหม  (อ่าน 12990 ครั้ง)

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
ผม​ขับ Fiesta ecoboost ผม​ว่าเมื่อย​กว่า March อีก​นะ​ครับ ไม่ได้​ไปไกล ไป​แค่อ​ยุ​ธ​ยา
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ dekdemo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ผมใช้มาร์ช VL อยู่ครับ พอถึงเดือนหน้าก็ครบ 5 ปีแล้ว

เหนื่อยตอนเร่งแซงครับ คือ พอได้จังหวะแซงผมก็แซงไปปกตินะ แต่บางครั้งคันหลังที่แซงตามมา ก็มาแบบดันหลังรถมาก บางคันเปิดไฟสูงบอกให้เรารู้ตัวบ้าง บีบแตรบ้าง จนทุกวันนี้ จะออกตัวแซงผมก็ต้องดูรถที่ขับตามผมมาก่อน ถ้าเขาขับเร็วกว่าก็จะปล่อยให้เขาแซงไปก่อนเสมอ ตรงนี้ล่ะสำคัญเลย ทำให้เราเสียโอกาส คือคันที่ตามหลังเรามา แซงขึ้นไปเป็นคันแรก ก็มีคันที่สอง คันที่สาม เร่งตามต่อๆกันไปเป็นขบวน ผมต้องรอจนหมดขบวนก่อน แล้วจึงจะแซงตามไปได้ ผมเหนื่อยตรงนี้แหละครับ

ขับเรื่อยๆไม่เหนื่อยหรอกครับ ไม่ต้องใช้สมาธิมาก แต่ใช้เวลาเดินทางแทนและพักบ่อยกว่า กว่าจะไปถึงปลายทาง พักบ่อยก็มีค่าใช้จ่ายตามมาแทน จากค่าใช้จ่ายน้ำมันแล้วล่ะครับ

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
รถที่ให้ความมั่นใจมากกว่า นุ่มนวลมากกว่า
วัสดุและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ดีกว่า บรรยากาศดีกว่า
ergonomic design ดีกว่า
ทำให้ขับรถเหนื่อยน้อยลงครับ

ถูกแพงก็มีส่วนด้านข้อจำกัดด้านต้นทุนครับ  :)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2015, 03:14:48 โดย redsun »

ออฟไลน์ แมวดราม่า

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,573
  • แมวบ้า(ขับ)รถ
เหนื่อยกว่า ถ้ารถที่แพงกว่าเป็นเก๋ง D-Seg หรือ C-SUV ขึ้น
เหนื่อยกว่า ถ้าต้องเร่งแซงบ่อยๆ ในถนนสองเลนสวน
เหนื่อยกว่า ถ้าทางขึ้นเขาสลับซับซ้อน โค้งเยอะ คนนั่งเยอะ

นอกจากนั้น ไม่ต่างกันมาก ยกเว้นไกลที่ว่าคือ 500 กม. ขึ้นครับ

อีโคคาร์ CVT ส่วนใหญ่ความเร็วเดินทาง รอบต่ำ เสียงรบกวนไม่ได้ต่างกะ C-Seg
ถ้าทำช่วงล่างให้เฟิร์มนิดหนึ่ง เปลี่ยนยางให้เกาะถนนกว่ายางติดรถ ผมว่า 200-300 กม. ไม่ได้ต่างกัน

แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ เสียงรบกวนจากถนนเยอะ พวงมาลัยที่ความเร็วสูงไวเกินไป และรอบเครื่องสูงเกินไป ขับ 100 กม. ก็เริ่มล้าละครับ (ยิ่งกระบะเก่าๆ นี่ตัวดีเลย)
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/

ออฟไลน์ Slipknot`

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 21,866
  • *** HLM.COM ***
ไกลสุด กทม.ไปสมุทรสงคราม ก็เฉยๆนะครับ
แต่ก็นะ มันไม่เห็นจะไกลเลย

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,703
ปัญหาของ Eco car ผมว่าคือเสียงรบกวนครับ

เข้ารถมาก ดังตลอดทาง

ขับแล้วเหนื่อยครับ

ส่วนช่วงล่าง เครื่อง ถ้าวิ่งไม่เกิน 120 ไม่มีปัญหาครับ

ออฟไลน์ supercat

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 796
ขับ jazz GE ไป สระแก้ว หนนึง  บอกได้เลยว่าเหนื่อยมากครับ

ผมขับค่อนข้างเร็ว แล้วทางมันค่อนข้างโล่ง

รุ้สึกว่ามันต้องเค้นกำลังเครื่องเหลือเกิน ถ้าเครื่องแรงกว่านี้อีกซักหน่อย น่าจะขับทางไกลสบายขึ้น   :) :) :)

ออฟไลน์ rtong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,162
    • อีเมล์
สาเหตุที่คนอเมริกันชอบใช้รถคันใหญ่  เครื่องใหญ่ก็คงเป็นเพราะเหตุผลเดียวกัน
คือมันได้ทั้งความสบาย  ผ่อนคลาย  เหนื่อยล้าน้อยกว่าเวลาเดินทางข้ามรัฐ

ออฟไลน์ gofiro

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
    • อีเมล์
Suzuki Swift ไปได้ดีครับ เว้นแค่ วิ่ง 140+ เสียงลม และ เสียงช่วงล่าง + พื้นถนน(ประเทศไทย) มันดัง และ กระเทือนเข้ามาตามสภาพถนน ครับ

แต่ถ้าทางตรง เรียบ ๆ ดี ๆ อันนี้ ฟิน ครับ มีแค่เสียงลมเท่านั้น

(เปลี่ยนยางเป็น 195/60/15 นะครับ นุ่มพอสมควรในทางเรียบ และ เข้าโค้งดีขึ้นมาก เครื่อง 1.2 ครับ)

ออฟไลน์ adsajan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
รถเล็กขับแล้วเหนื่อยเครียดกว่าเยอะจริงครับ คันเก่าmazda2  พอเปลี่ยนมาเป็นfocus tdci หนังคนล่ะม้วนเลยครับ นิ่ง เงียบ แซงไม่ต้องลุ้น

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
ต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยครับ อย่างที่หลายๆ คนกล่าวไว้ รถเครื่องใหญ่สบาย เหยียบแปปๆ แซงพ้น ไม่ต้องมานั่งลุ้นนั่งเกร็ง เวลาขับเร็วๆ ก็ต้องมากังวลเรื่องเบรคอีก ว่าจะเอาอยู่ไม่อยู่

เคยขับ altis 1.6 cng ผู้โดยสาร 4 คน ไปกลับ น้ำตกป่าละอู ระยะทาง 500 กว่า โล ใช้เวลา 10 กว่าชั่วโมงในรถ บอกเลยเหนื่อยสุดๆ เร่งแซงก็ลุ้น เบรคก็ลุ้น กลับถึงบ้านหลับเป็นตาย
กลับกัน สถานที่เดียวกันแต่ทีนี้เอา c300 ไป ผู้โดยสาร 4 คน ชิวเลย เพราะอยากจะแซงก็แซงได้เลยไม่ต้องมานั่งลุ้นจะพ้นไม่พ้น วันนั้นกลับถึงบ้าน ยังออกไปหาเพื่อนแถวบางนาได้อีก

แก้ไขเพิ่มเติม ที่บ้านมี มาชอีกคัน ไว้วิ่งในเมืองอย่างเดียว ออกชานเมืองหน่อยผมก็เสียวละครับ เช่น เส้น ปิ่นเกล้า พุธมลฑล เจอรถบรรทุกมาใกล้ๆ แซงไม่ออก เครียดจริงๆ เลยไม่เคยเอาออก ต่างจังหวัดไกลๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 14, 2015, 10:47:24 โดย DriveOnly »

ออฟไลน์ adis

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,416
    • อีเมล์
เมื่อยตูด เมื่อยต้นคอ ครับ
พวงมาลัยมันเบา ต้องเกร็งแขนมากกว่ารถใหญ่

ออฟไลน์ Tan Int

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,709
    • อีเมล์

เคยเอา Almera ไปกลับเชียงใหม่พะเยา ไปคนเดียวนะ ผมว่าไม่เมื่อยไปกว่ารถ C-segment เลย แต่อัตราเร่งแซงก็ตามนั้น
พวงมาลัย เบาไปอีก ช่วงล่าง เกิน 120 แล้วก็อย่าไปซ่ามาก รวมๆคุณภาพการขับขี่ดรอปลงจาก Altis CNG เก่าของผมนิดนึงทุกด้าน แต่ไม่แย่เกิน
ถ้าไม่ได้ขับยาวระดับ 400+ กิโลเมตร ผมว่าไม่ต่างกันมาก
1994 Civic EH9 (4dr) VTi (Made in Japan)
1998 Civic EK 1.6VTi-E Special Edition
2011 Corolla Altis E CNG (Come back)

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
เอาเมื่อยหรือเหนื่อยครับ ถ้าเมื่อยรถอะไรไม่น่าเกี่ยวจะแพงจะถูก เพราะขับ huracan ก้เมื่อยครับพวกลัมโบ แต่ถ้าเหนื่อยเพราะอัตราเร่งก้คงมีแต่ถ้าขับบ่อยๆชินๆผมว่าเฉยๆนะ m2 d ไงครับไม่น่าจะลุ้นไรมาก แรงอยุ่

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,363
เหนื่อยกว่าแน่นอนครับ

ออฟไลน์ focus2012

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 815
ความนิ่ง เก็บเสียง ช่วงล่าง พละกำลัง ภายในห้องโดยสาร

ผมว่าถ้าส่วนพวกนี้ดีทำให้เหนื่อยน้อยลงเยอะครับ แต่ Ecocar มันก็จะได้แค่บางส่วน

ออฟไลน์ Odeng

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 56
ความนิ่ง เก็บเสียง ช่วงล่าง พละกำลัง ภายในห้องโดยสาร

ผมว่าถ้าส่วนพวกนี้ดีทำให้เหนื่อยน้อยลงเยอะครับ แต่ Ecocar มันก็จะได้แค่บางส่วน

     เห็นด้วยกับคุณ Focus2012 จากที่คุณถามมา คงต้องการสื่อถึงความสบาย และผ่อนคลายในการขับขี่มากกว่า ซึ่งมันต้องมีหลายๆ อย่างรวมกันอย่างที่คุณ Focus2012 ว่าไว้ ไม่ใช่ว่าภายในกว้างขวางอย่างเดียว แล้วจะขับสบาย มันต้องอยู่ที่กำลังเครื่องยนต์ สมรรถนะช่วงล่าง+พวงมาลัย รวมทั้งการเก็บเสียง (ถ้าเสียงมันดัง มันอู้ตลอดการเดินทาง เป็นใครก็รู้สึกไม่ผ่อนคลายครับ)

     อย่าง Eco Car ที่ถามมา ข้อด้อยที่เห็นชัดก็คือ กำลังเครื่องยนต์  ถ้าคุณเป็นคนใจเย็น และขับรถไม่เร็วอยู่แล้ว ข้อนี้ก็อาจไม่ใช่ปัญหาสำหรับคุณ แต่ก็อาจจะมีข้ออื่นอีก เช่น การเก็บเสียง (ที่ความเร็วเท่าๆ กัน รถที่ Segment สูงกว่า มักจะได้เปรียบ)...ถ้าเป็นผมเอง ต้องซื้อรถสักคัน และรู้ว่าต้องขับทางไกล (จากต้นทางถึงปลายทาง เกิน 300 km) อยู่เรื่อยๆ  ผมคงไม่เลือก Eco Car ตั้งแต่แรกครับ

ออฟไลน์ rega

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 388
ไม่มี ecocar และรถราคาแพง แต่อยากออกความคิดเห็นครับ

ในฐานะเป็นผู้โดยสาร รถนั่งเฉพาะไม่ใช่รถสปอร์ตนะครับ

segment ที่สูงกว่า เมื่อยล้าน้อยกว่าครับ



มีเงาไม่มีตน

ออฟไลน์ Fly to dream

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,640
ผมไม่ค่อยเข้าใจกับเหนื่อยเวลาขับทางไกลแฮะ นี่พึ่งถึงบ้านหยกๆ 3 ทุ่ม พึ่งขับรถมาจากกระบี่ เอาเฟียสต้าขึ้นมา ถนนก็ราดยางใหม่ ทางเบี่ยงวิ่งสวนทางหลายจุดเลย แอบแซงได้บ้างช่วงที่รถสวนไม่มี (มีกรวยล้มลุกเป็นแนว ต้องหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลน) ก็ปกตินะครับ ขับรถไกลๆมันก็เมื่อยปกติอยู่แล้วนี่ครับ กับตื่นเช้ามืดขับรถอีก 10 ชม มันก็ต้องง่วงเป็นธรรมดา  แต่ผมยังมาอ่านบอร์ดซักพัก

รถเล็กรถใหญ่ผมก็ไม่เห็นต่างอะไร แค่ตื่นเช้ามาก ขับเป็น 10 ชม ก็ง่วง ผมก็ค่อยแวะด้วยก็เมื่อยนิ้วกับคอบ้าง ถ้าช่วงรถเยอะหน่อยก็เกร็งน่องไปนิดเพราะต้องสลับเบรก คันเร่งบ่อยๆ
ขยะของโลกออนไลน์​ในปัจจุบั​นคือเชื่อคนโง่ที่มีคำพูดสวยหรู​ หาข้อมูล​ไม่จริงมาโกหกคำโตๆ​ อีกอย่างคือพูดความจริงไม่หมด กับพวก​ Avatar ที่ทำเป็น​เก่ง​แต่เก่งน้อยในโลกความจริง​ซึ่งจะหาได้ง่าย

ออฟไลน์ gofiro

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 133
    • อีเมล์
mazda 2 ดีเซล จัดเป็น ecocar ไหมครับ

ออฟไลน์ momola

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
จากประสบการผม เคยขับทางไกลด้วยรถ 3 คันไปในที่ใกล้ๆกัน จากสมุทรสงคราม ขับประมาณ 100-130 แล้วแต่ช่วงถนน ประมาณ 200 โล พักกินข้าว
1 vogo ไปภูทับเบิก
2 city 2012 ไปภูหินร่องเกล้า
3 อันนี้ประเดนเลย ecocar brio amaze ไปเขาค้อ

รถไปได้สบายๆทุกคัน vogo เหนือยและเมื่อยสุด แบบสุดๆอยากตัดขาและเอวทิ้งเลย
city กับ amaze ในความรู้สึกผมใกล้เคียงกัน เสียงก็ดังเท่าๆกัน อัตตราเร่งไม่ต่างกันมาก คือผมเป็นคนขับรถแบบค่อยๆกดคันเร่ง ขับเร็วแต่ไม่กระชาก
สรุป vogo เหนื่อยและเมื่อยสุด city กับ amaze เมื่อยเหมือนกันแต่พอรับได้
รถใหญ่กว่าไม่เคยขับไกลๆ แต่คิดว่าคงเมื่อยน้อยกว่า

ออฟไลน์ Pasakorndvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,310
นานๆ จะเจอคนแม่กลองด้วยกันครับ
'19 Honda Civic EL

ออฟไลน์ Myx

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 60
ต้องดูว่าปัจจัยที่ทำให้เหนื่อยมีอะไรบ้าง
- อัตราเร่ง ต้องใช้เวลาเร่งแซง ต้องลุ้นไหม แซงไม่ได้ก็ตามๆไปใช้เวลาเดินทางนาน ก็เหนื่อยล้า
- ช่วงล่างดีดๆเด้งๆ หรือย้วยไปมาน่าหวาดเสียว ก็เหนื่อยล้าสะสม
- ลักษณะการนั่ง เบาะรองรับสรีระดีไหม ขาเข่าชั่นหลังโก่ง นั่งงองุ้ม นั่งเบียด เบาะดันหัว เบาะแข็ง ลงรถทีอยากจะพักนานๆ เหนื่อยล้า
- ทัศนวิสัยไม่ดี ก่อนจะเปลี่ยนเลน ก่อนเลี้ยว ก่อนแซง มองไม่เห็น ต้องกะระยะเผื่อยาวๆ เครียด กังวล ทำให้เดินทางช้าลง เหนื่อยล้าสะสม
- เสียงเครื่องยนต์ เสียงยาง เสียงจากภายนอก ดัง หรือต้องเปิดเพลงดังแล้วตะโกนคุยกัน เหนื่อยล้าสะสม

รถที่แพงกว่าจะขับทางไกลเหนื่อยน้อยกว่ารึป่าว ก็ต้องดูว่ามีอะไรที่ทำให้เหนื่อยล้าน้อยกว่าบ้าง

ออฟไลน์ momola

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 83
นานๆ จะเจอคนแม่กลองด้วยกันครับ

ใช่ครับ

ออฟไลน์ Focuszaa

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 672
ไม่เคยขับ ECO car ไกลๆ ครับ แต่ผมเคยขับรถ Mazda 2 1.5 ตัวเก่า ของพี่สาวจาก กทม - เชียงราย(เทิง) โคตรเมื่อย ล้าไปหมด ขับเกิน

110 นี่เสียงลมดังไปหมด ถ้าขับช้าๆ 90-100 เรื่อยๆ ก็พอได้ครับ พื้นที่อึดอัดมากๆเวลาเดินทางไกลๆ ไม่ไหวผมไม่ขอเอามันกลับบ้านอีก
5555

แต่กลับมาขับ M3 2.0 ตัวเก่าก่อน Sky นะครับ เสียงลมนี่ดังเหมือนกันกะ 2 แต่ที่ได้มาคืดความมั่นใจ

ขับไปเถอะครับ 120-160 อัตราเร่งก็สบายใจกว่าไม่ต้องเกรง ห้องโดยสารถึงจะแคบกว่าคู่แข่งแต่มันก็กว้างกว่ามีที่พักแขนเหยีดขาได้สบายใจ

การควบคุมเวลาเบรกกระทันหัน การหักหลบ อารมณ์มันมั่นใจกว่ามาก เบาะหนังอาการเมื่อยล้าสะสมน้อยกว่าขับ

ระยะเวลาก็ลดหลั่นกันไป จากที่เคยขับ M2 ประมาณ 12-13 ชม แต่ถ้า M3 ประมาณ 9-11 ชม เหนื่อยน้อยกว่า มั่นใจกว่า ระยะเวลาเดิน

ทางไกลก็ลดลงด้วย นี่คงเป็นเหตุผลส่วนหนึ่งที่ทำไมต้อง รถ Segment ใหญ่ไว้เดินทางไกล ครับ




ออฟไลน์ kiwiwi

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,839
ผมว่าขับรถแพงๆที่ความจุเยอะๆให้ประหยัดน้ำมันในทางไกลๆ มันเหนื่อยสมองกว่าขับ eco car นะครับ