ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ

Tiger3539

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #30 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2015, 20:51:46 »
ช้าไม่ได้ประหยัดกว่าเร็วเสมอไป

50/ ไม่ได่ประหยัดกว่า 80/

มันต้องลองครับ ถึงจะรุ้ว่า ความเร็วที่ประหยัดที่เท่าไหร่
TOYOTA TIGER 4WD D4D
TOYOTA VIGO  DUOBLE CAB 4WD 3.0G
TOYOTA VIOS 1.5S---ขาย
HONDA CIVIC 1.8S FB---ขาย
TOYOTA FORTUNER TRDIII---ขาย
FORD RANGER WILDTRACK 3.2
BMW 520D E60
TOYOTA YARIS 1.2G
TOYOTA ALTIS 1.8V
MAZDA 3 SKYACTIVE S
SUBARU XV
TOYOTA FORTUNER TRD 2016



blade

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #31 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2015, 21:07:45 »
ของผม Camry 2.0   ช่วง 70-90  ประหยัดสุด
รถมันมีบอก กินน้ำมัน เป็น real time วิธีการขับที่ประหยัดที่สุด คือกดคันเร่งเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ 
หรือก็ขับไปให้ถึงความเร็วที่ต้องการแล้วถอนคันเร่งแล้วเต๊ะต่อเบาๆแบบเหมือนให้รถไหล
ถ้ากดคันเร่งเบากว่านี้ ความเร็วก็ลดลง กดมากกว่านี้   การกินน้ำมันก็เพิ่มขึ้น 
มันเลยเลี้ยงความเร็วในช่วง  70-90 ถ้าขับทางไกลก็ได้ ประมาณ +17 km/l
สรุป ลองหาทางโล่งๆไกลๆ แล้วขับถึงประมาณ 120 แล้วปล่อยคันเร่ง แล้วแต๊ะคันเร่งเบาสุด แล้วรถมันจะลดความเร็วจนมันไหลแบบมันคงที่
นั้นละความเร็วที่ประหยัดสุด ง่ายๆคือกดเบาที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าเบากว่ารถจะช้าลง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ธันวาคม 16, 2015, 21:23:06 โดย blade »



นครอัญมณี

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #32 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2015, 22:00:47 »
รถแต่ละรุ่น จะมีช่วงประหยัดไม่เท่ากันครับ

ดูเหมือนแปลก แต่ก็เป็นความจริง

ทั้งๆที่ ตัวเลข ในห้องทดลองในความเร็วคงที่ จะให้ผลว่า... ขับช้ากินน้ำมันน้อยกว่าขับเร็ว

แต่ในทางปฏิบัติ มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น
เพราะต้องมีการ ผ่อนคันเร่ง หรือ เติมคันเร่งอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสภาพการจราจร หรือ สภาพถนน ขึ้นเนิน ลงเนิน


ผมขับรถยนต์มานานกว่า 30 ปี และ สนใจเรื่องยานพาหนะมาโดยตลอด (ตอนเป็นประถม ก็ BMX มัธยม ก็มอ'ไซค์  555 )

ได้ข้อสรุปเป็นการส่วนตัว...ว่า
การขับรถยนต์ ที่ประหยัดทั้งเวลา และเชื้อเพลิง คือ ช่วงที่เครื่องยนต์ มีแรงบิด "เกือบ" สูงสุด

ทำไมเหรอครับ
ในการใช้งานจริง เมื่อถอนคันเร่ง เครื่องยนต์และความเร็วจะลดลง พอจะเร่งอีก เครื่องยนต์ก็ต้องกินน้ำมันมากกว่าเดิมหลายเท่า
ถ้าขณะนั้น เครื่องยนต์และเกียร์อยู่ในรอบที่ต่ำเกินไป ไม่มีกำลัง มันจำเป็นที่ต้องใช้น้ำมันมาก เพื่อกลับสู่ความเร็วเดิม

จึงเป็นที่มาว่า ขับช้าเกินไป คันเร่งไม่นิ่ง หรือในสภาพจราจรหนาแน่น ก็จะกินน้ำมันมากกว่าขับเร็ว ในคันเร่งคงที่

ส่วนเกียร์ CVT ต้องคันเร่งนิ่งๆ เพราะเครื่องยนต์+เกียร์ เขาจะพยายามให้อยู่ในช่วงที่มีแรงบิดสูงสุดอยู่แล้ว

พยายามเปิดคู่มือรถดูเรื่องรายละเอียดเครื่องยนต์นะครับ

ส่วนแรงม้า ไม่ต้องไปดู ไม่มีผลเท่าไร

รถที่มีแรงม้ามาก ก็อาจจะวิ่งได้ไม่เร็ว เท่ารถที่มีแรงม้าน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับเกียร์ที่ออกแบบมา
เช่น รถสิบล้อตัวเปล่า เบาๆ ไม่ได้บรรทุกอะไร แรงม้าหลายร้อยตัว อาจจะวิ่งสู้ Eco Car ม้าไม่กี่สิบตัว ก็ได้
รักรถมาก
รักครอบครัวมากกว่า
รักชาติ-ศาสน์-กษัตริย์มากที่สุด



palma

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #33 เมื่อ: ธันวาคม 16, 2015, 22:07:53 »
เอิ่ม....ทำไม แคมรี่ผม ไม่ว่าจะขับ 60 90 120 เลขมันขึ้นแต่ 8.9 กม/ลิตร ที่จอ mid รถผมมีปัญหารึป่าวเนี่ย เพราะตอนออกจากศูนย์แรกๆมันขึ้น 10.0 พอขับไปเลือยๆ มันลดมาเหลือ 8.9 ล่ะ ง้ง งงงงงงง

ค่านี้คือ ค่าเฉลี่ยทั้งหมดตั้งแต่ขับมาหรือเปล่าครับ  ถ้าไม่เคย set ใหม่ มันจะเป็นค่าเฉลี่ยรวมทั้งหมดครับ

ส่วนค่าที่เป็น real time ต้องถามสมาชิกผู้ใช้ camry ล่ะครับ
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)



Ruksadindan

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #34 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2015, 08:21:40 »
แล้วแต่คันครับ แล้วแต่เครื่อง การเซ็ตเกียร์ ถ้าอีโคคาร์ใช้ CVT อาจจะอยู่ที่ 50-70 แต่ถ้ารถใช้เกียร์หลายสปีดอาจจะสัก 80-100
ลองใช้วิธีเข็นรถดูจะประหยัดน้ำมันที่สุดครับ :P

บางวันเลิกงานดึกๆ ก็เอารถเข้าไปในสนามฟุตบอล ผมเข็นแล้วให้แฟนขับ 0ลิตร/800เมตรครับ



balliblue

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #35 เมื่อ: ธันวาคม 17, 2015, 13:04:28 »
รู้แต่ว่า ขับต่ำกว่า 110 km/h หน้าปัดมันจะเป็นสีเขียวและจอมันก็คำนวณว่า ประหยัดกว่า 120 km/h แต่เรื่องค่าน้ำมันดูแล้วไม่ค่อยกระทบมากกมาย เท่ากับเอารถไปขับในเมืองแล้วติด อันนั้นน้ำมันเติมบ่อยมาก



แมวดราม่า

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #36 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2015, 11:54:11 »
ขับยังไงให้ได้รอบเครื่องแบบนั้นเนี่ย ตัว M/T หรือไร

ถ้า CVT ลองหัดไล่รอบใหม่ครับ พอได้ความเร็วแล้วถอนเท้าเบาๆ กดกลับมานิดๆ

120 (GPS 116 รถผมยาง 185/60 R15) ได้ราวๆ 2,100 รอบ
100 ไม่เกิน 2,000
90 ประมาณ 1,700
80 ประมาณ 1,500

มาร์ชจะประหยัดกว่าพวก 1.5 ต้องขับต่ำกว่า 120 ครับ เกินนั้น เช่น 140+ เปลืองกว่า Jazz GE
พี่สาวผมใช้ ผมเหยียบ 120-140 แจ็สกินประมาณ 12 โล/ลิตร มาร์ชราวๆ 10 โล/ลิตร ได้ E20

แต่ถ้าเหยียบราวๆ 80 มาร์ชจะกินจิบๆ ราวๆ 22 โล/ลิตร (บน E20 นะ E10/95 ประหยัดกว่านี้)
ลองดูครับ หัดใหม่ อาจจะยังไม่ชิน CVT กดต่อเนื่องเอาไว้ใช้ตอนแซงครับ ถ้าขับ Cruise ยาวๆ ก่อน ถอนเท้ารอบลดมาเยอะ

และยางใหญ่ ให้ดูด้วยว่าที่มันเปลืองเพราะอะไร ถ้ายางหน้าแบนกว้างแก้มแคบ เช่น 195/50 กินไม่พอ เหินน้ำด้วย
ถ้าจะใส่ใหญ่ๆ ใส่ 195/60 เลยยังจะดีซะกว่า อย่างน้อยออกตัวอืดหน่อยแต่ลอยแล้วมันไหลกว่าเยอะ
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



แมวดราม่า

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #37 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2015, 12:04:39 »
อีกเรื่องนึงคือ น้ำมันเครื่องใช้อะไร มีผลมากเหมือนกันสำหรับรถแรงน้อยแบบมาร์ช

เบอร์ 20 ดีมากสำหรับในเมือง รถติดๆ ประหยัดกว่า เบอร์ 40 เกือบ 2 กม./ลิตร
คือพูดง่ายๆ มันทำให้ผมขับในกรุงเทพวิภาวดี 15 กม. 1 ชม. 45 นาที กินราวๆ 12 โล/ลิตร ได้
แต่วิ่งเกิน 100+ ไม่มีแรง เร่งแซงหายห่วงครับ กดกันจน 5,000+ รอบโน่น (ทั้งที่แรงบิดมันควรจะมาหมดตั้งแต่ 4,000 ต้นๆ)

เบอร์ 30 ดีปานกลางสำหรับทุกการใช้งาน 5W-30 สังเคราะห์แท้ถือว่าลงตัวสำหรับทุกการใช้งาน
เท้าหนักวิ่งทางไกลใช้ความเร็วสูง หาเบอร์ 40 ดีๆ หรือน้ำมันเกรดสูงๆ เครื่องมันไหลกว่ากันเยอะ

0W-20 ผมสามารถทำให้มาร์ชกิน 11 โล/ลิตร ทางไกลได้ ตอนวิ่งขึ้นน่านแบบทำเวลา
แบบ กทม. ไม่ถึง 2 ชม. ถึงนครสวรรค์ ซิ่งอีก 1 ชม. นิดๆ ถึงพิษณุโลก
อีกครั้งใช้ 0W-40 วิ่งทางไกลยังไง กดนรกยังไง อย่างต่ำๆ ก็ 13 โล/ลิตร

แต่ถ้าวิ่งเฉลี่ยราว 110 ตัวประหยัดสุดคือ 0W-20 1 ถัง กรุงเทพ-ชุมพร ยังไม่หมด เติมกลับ 37 ลิตร/600 โล (16 โล/ลิตรกว่าๆ)
รวมความ สไตล์การขับบางอย่างก็ไม่เหมาะกับรถเล็กเหมือนกัน เพราะผมขับ X-Trail ผมก็เปลืองกว่านี้ไม่เท่าไหร่

เอิ่ม....ทำไม แคมรี่ผม ไม่ว่าจะขับ 60 90 120 เลขมันขึ้นแต่ 8.9 กม/ลิตร ที่จอ mid รถผมมีปัญหารึป่าวเนี่ย เพราะตอนออกจากศูนย์แรกๆมันขึ้น 10.0 พอขับไปเลือยๆ มันลดมาเหลือ 8.9 ล่ะ ง้ง งงงงงงง

รีเซ็ตครับ อันนี้ เป็นค่าเฉลี่ยตั้งแต่เริ่มใช้เลย ไม่ใช่เรียลไทม์
Dare to Drama! | Original Nissan X-Trail Club Thailand: http://www.facebook.com/groups/180634121979355/



TDCI

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #38 เมื่อ: ธันวาคม 18, 2015, 20:18:06 »
รอบต่ำที่สุดของเกียร์สุดท้าย



Tung

Re: ขับความเร็วสูง กับ ต่ำ ใครจะประหยัดกว่ากันครับ
« ตอบกลับ #39 เมื่อ: ธันวาคม 19, 2015, 00:30:00 »
เครื่องบางตัว ถ้าพอจะหากราฟ SFC specific fuel consumption ได้ จะพอตอบคำถามได้คร่าวๆครับ
SFC คือ ความสามารถของเครื่องยนต์ ใน การเปลี่ยน น้ำมัน เป็นพลังงานกล

ที่ผมเคยเห็น บางตัวได้ SFC ดีที่สุดอยู่ราว 2500-3000rpm

ทีนี้ก็เอากราฟ SFC มาเทียบกับ กราฟ Aerodynamics drag
ตัดกันตรงกันไหน ก็ตรงนั้นครับ
ถ้าพบว่า วิ่ง 60 กินเท่า 80 ก็ไม่แปลกนะผมว่า

ถ้าเอาละเอียดอีก ก็ apply basic calculus อีกหน่อย

สำหรับเครื่องบางตัว ที่เวลา โหลดน้อยๆ จะทำงานเป็น Atkinson mode
ตรงนี้ ใช้เทคนิคการขับเข้าช่วย ก็ประหยัดได้อีกครับ
ตอนผมขับ FD 1.8 ของแฟน  ผมเร่งไปที่ความเร็ว ประมาณ 90-110km/h ค่อนข้างเร็วหน่อย
แล้วแช่ความเร็วนั้นไว้เลย   ประหยัดกว่าค่อยๆเร่งไต่ความเร็วขึ้นไปครับ 
เพราะ condition นั้น เครื่องยังคิดว่าเป็น partial load อยู่  เลยยังดึงๆไว้ ไม่ยอมเข้า Atkinson mode
แล้วการเร่งด้วย partial load ค่อนข้างสูง ตรงนั้นจะได้ SFC ในการเร่ง ดีกว่าใช้ partial load น้อยๆ

สำหรับเครื่องปัจจุบัน  เครื่องเก่งมากแล้วครับ 
พยายามขับ รักษาความเร็วที่เหมาะสม ไม่ต้องเร่ง-ลดความเร็วมาก รักษาโหลด  น่าจะประหยัดได้ง่ายๆเลย