5.09 ล้านบาท สำหรับ SUV/Crossover ร่างยาว 4.8 เมตรที่อยู่ในระดับเดียวกับ
GLE และ X5 ดูเหมือนจะเป็นรถที่แพง โดยเฉพาะเมื่อคุณได้เครื่อง 2.0 ลิตร 4 สูบ
ที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่อันที่จริงมันมี และจะน่าเสียดายมากถ้าคุณมองข้ามราคา
ไปโดยไม่เปิดโอกาสให้ตัวเองซะก่อน
ภายใน มันก็ดูโอเค แต่ผมยังขัดตากับการออกแบบแดชบอร์ดช่วงกลางๆซึ่งจะคลาสสิคก็ไม่ใช่
ทันสมัยก็ไม่ใช่ แต่ยอมรับว่าวัสดุบุนุ่มและสัมผัสของปุ่มต่างๆทำมาได้ดีมาก เบาะนั่งพนักพิงศีรษะ
ดันหัวนิดๆ อิงเบาๆนุ่มมาก อิงหนักๆดันแข็ง ส่วนรองหลังรองตูดปรับได้ครบ พวงมาลัยปรับไฟฟ้า
เชื่อมกับระบบความจำ ปรับนู่นนี่ได้สารพัด ที่วางแก้วน่าจะมีฝาปิดสักหน่อย แต่พอรู้ว่าที่วางแก้ว
ช่องหน้าสามารถกดพื้นลงเพื่อวางขวดสูงๆได้..โอเคชั้นให้อภัยแก เบาะหลังที่วางขาเหลือเฟือ
เบาะนั่งสบาย เอนได้ (Luxury เอนด้วยมือ F-Sport ใช้ไฟฟ้า)
เหลือแค่สอดเท้าเข้าใต้เบาะไม่ได้ ไม่งั้นจะสบายกว่านี้อีก
เรื่องพื้นที่กับความสบาย ได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 9/10 แน่นอน ลูกเล่นตัว F-Sport นั้นเยอะ
จนเหมือนกับพ่อมันเป็นเครื่องบิน ฟังก์ชั่นหลายอย่างปรับการทำงานได้หลายระบบตามใจเจ้าของ
มีระบุไว้ในคู่มือเล่มหนาเกือบทั้งหมด F-Sport มีกล้องส่องรอบคันทั้งในมุมแพนกล้อง
และมุม 3 มิติ ถือว่าใช้กล้องรอบคันได้คุ้มค่าปัญญาประดิษฐ์
หน้าปัดหลากหลายมาก เปิดโชว์วัดบูสท์ได้ วัดแรงจีได้ รุ่นอื่นนอกจาก F-Sport ไม่มีแบบนี้ให้
การขับขี่คือจุดที่แปลกใจที่สุด เพราะมีทั้งดีและไม่ดี
ช่วงล่าง..Five Stars for Suspension Engineer Team! Excellent! ถึงมันจะมีอาการ
สะเทือนบางจังหวะเวลาถนนปูดใหญ่ๆแต่เห้ย! RX ไม่เคยมีรุ่นไหนที่สาดโค้งแล้วสบายใจ
จนกระทั่งรุ่นนี้ คุณขับ X5 ตัวที่แล้วยังไงคุณเล่นกับมันแบบนั้นได้เลย หักแรงๆนอกจากจะไม่เสียการทรงตัว
แล้วยังบาลานซ์ทิศทางของรถได้ตรงโดยที่ VSC ยังไม่ทำงานด้วยซ้ำ พวงมาลัยที่ความเร็วสูงหนืด
ไม่คิดมาก่อนว่า Lexus จะปรุง RX จนกลายเป็นรถที่หักเลี้ยวไปมาและหลบซ้ายขวาได้อย่าง
คล่องตัวและมั่นใจแบบนี้
เครื่องยนต์ 8AR-FTS 237 แรงม้า 350Nm ถีบตัวรถ 1.89-1.99 ตันจนพุ่งราวกับ
Camry 2.5G กับ Teana 2.5XV บูสท์ Spike ได้ 1.2 บาร์เวลาแซง กดครึ่งคันเร่งก็ได้
เต็มคันเร่งยิ่งดี ขับเลียๆก็มีแรง เสียงเครื่องอาจธรรมดาแต่ก็ไม่โวยวายให้เป็นที่อุบาทว์หู
ระยะทาง 1.5 กม. ทำความเร็วได้ 190 กว่าๆ แต่ต้องยกก่อนเพราะมีกั้นกรวยทำทาง
ถ้ายัดเต็มได้ ก็น่าจะเร็วเท่า Teana 2.5..โคตรพอแล้วสำหรับรถ Crossover โตๆแบบนี้
แต่...
ผิดหวังกับการทำงานของคันเร่งและการคิกดาวน์ เวลาเหยียบคิกดาวน์ ต้องรอจังหวะเข็มวัดรอบ
ไต่ขึ้นมาค่อนข้างนานก่อนที่เกียร์จะลงต่ำและเริ่มทำการส่งพลัง โหมด Sport ก็ช่วยได้แค่เล็กน้อย
ด้วยการเลี้ยงรอบไว้แถวๆช่วงที่มีบูสท์ดีเท่านั้น ครั้นพอจะเล่นเกียร์เอง เลือกเกียร์ปุ๊บ
แล้วตอกคันเร่งลงไป ก็ต้องรอนานกว่าลิ้นจะเปิดและเทอร์โบสร้างบูสท์ เสียอารมณ์
ผมเข้าใจว่า 1. พยายามเซฟเกียร์ 2. ลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้บ้าพลัง จะตอบสนองไวไปทำไม....
ผมเห็นด้วยถ้าเข้าเกียร์ D เฉยๆแล้วเซ็ตให้รถตอบสนองแบบนี้ แต่เมื่อกด Sport, Sport+
หรือเล่นเกียร์เอง คุณควรจะรู้ว่าคนขับอยากให้รถนั้น "Give him all it has!"
ส่วนเบรก..ผมว่ามันแค่พอใช้ได้ เวลาใช้งานในเมืองแล้วต้องการบาลานซ์แรงเบรกให้นุ่ม
ไม่หัวทิ่มหัวตำ มันทำได้ง่ายมาก ผู้ใหญ่ชอบครับ แต่เวลาขับเร็วมากๆแล้วต้องการจะ
ลดความเร็วลงไวๆ รู้สึกว่ารถมันจะไหลกว่าที่คิดจนต้องกดเบรกให้ลึกลงไปอีกจึงจะอยู่หมัด
ถ้าเต็มสิบ เรื่องเบรกนี่คงให้ 7-7.5
ผมหาจุดติจริงๆได้แค่เรื่องนี้จริงๆ นอกนั้น มันเป็น Lexus ที่ Lovely, Sexy, Ultimate Drive,
and Unlike No Others. เป็น Lexus คันแรกที่รู้สึกหัวใจและสมองสั่งตรงกันว่าถ้าถูกหวยสิบล้าน..
ผมอาจจะไม่ซื้อ แต่ถ้ามี 20 ล้านเมื่อไหร่ พี่จัดแน่นอน
สำหรับคนที่รู้สึกว่า 5 ล้านแพงไป และสามารถใช้ชีวิตอยู่โดยไม่ต้องมีของเล่นไฟฟ้ามากมาย
และไม่มีระบบนำทาง เลือกรุ่น Luxury ขับหน้าแล้วคุณจะได้ 85% ของตัวรถที่เหมือนกัน
ประหยัดน้ำมันกว่า เร่งเร็วกว่า ช่วงล่างนุ่มกว่าที่ความเร็ว<120 และจ่ายเงิน 3.99 ล้าน
หรือถ้าคุณอยากได้อุปกรณ์มากขึ้น รุ่น Premium ราคาสี่ล้านกลางๆก็น่าสน ถ้านี่เป็นเงินผม
ผมคงจบกับตัว Luxury กับ Premium พอ และไม่ต้องไปถึงขั้นตัวขับสี่ F-Sport
Extra clip