ผู้เขียน หัวข้อ: อยากถามมนุษย์เงินเดือนว่า ซื้อรถ ผ่อนรถ เป็นหนี้ก้อนโต คิดมากและกังวลบ้างไหมครับ  (อ่าน 13605 ครั้ง)

ออฟไลน์ UpToGu

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 210
ถ้ามีความจำเป็น ก็ซื้อครับ ถ้าไม่ผมว่ารถเมล์ รถตู้ แท็กซี่ไปก่อน
ผมก็มนุษย์เงินเดือนคนนึง เงินประมาณ 25000 ก็ผ่อนรถเดือนละ9000 ตอนมีรถเป็นภาระกลับเก็บเงินได้เดือนละ10000  ตอนไม่มีภาระ ใช้เงินหมดไปกินเที่ยวตามประสาวัยรุ่นครับ
ถามคิดมากไหม ไม่ครับ ผมเก็บเงินก้อนสำรองไว้พอได้ครับ ทุกอย่างอยู่ที่การวางแผนการเงินอนาคตของเราเลยครับ

ออฟไลน์ balliblue

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
อย่าไปคิดให้มากมายครับ ต่อให้คุณคำนวณวางแผนมาดีแค่ไหน จุดเสี่ยงในชีวิตมันก็มาเอง ซื้อมาใช้ผ่อนยาว ผ่อนสั้นก็เหมือนกัน ผ่อนยาวก็เหลือเงินมาใช้จ่ายได้มากขึ้นหน่อย ผ่อนสั้นก็จบเร็วไปสบายตอนหลังแค่นั้นแหละ ผมคิดว่า ทุกคนก็น่าจะคิดได้อยู่แล้วจากเงินในมือ ไหวแค่ไหนก็ซื้อแค่นั้น

ออฟไลน์ YenChar

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,179
ผมถือคติ ออมก่อนจ่าย

สมัยก่อน ผมหักครึ่งนึงก่อนเลย กันไว้ไม่ให้ตัวเองใช้
เอาไอ้ครึ่งนึงนั่นแหละมาบริหาร ตราสารหนี้ ตราสารทุน หุ้น หรืออะไรก็ว่าไป

พอเริ่มจะผ่อนรถ ก็ลดเงินออม เปลี่ยนเป็นเงินผ่อน แบ่งสัดส่วนใหม่
มันทำให้ผมลงทุนต่อเดือนน้อยลง แต่เรายังมีเงินออมได้บ้าง

ไม่แนะนำให้ผ่อนจนไม่มีเงินออมเลยในแต่ละเดือน
อย่าลืมค่าซ่อม ค่ายาง แบต ประกัน และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งสัดส่วนเงินออมของคุณทุกๆเดือนนั่นแหละที่จะช่วยแบ่งเบาภาระคุณ
อย่างน้อยๆ บางเดือนไม่ออมเลยก็ได้ แต่เอามาจ่ายไอ้ที่ๆจำเป็นแทน
เดือนไหนไม่มีภาระ ไม่มีเหตุด่วนก็ออมไป เผื่อๆไว้

และอย่าคิดว่า provident fund หรืออะไรก็ตามถือเป็นเงินออมของมนุษย์เงินเดือน
กว่าจะได้ ต้องลาออกนู้น และมันไม่พอ

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
ซื้อไปรึยังครับ แนะนำว่าอย่าเพิ่งซื้อ ไว้รอให้เงินเดือนอย่างน้อยที่สุดเป็น 3ถึง10เท่าของเงินเดือนค่อยผ่อน เช่น ผ่อนรถเดือนละ8,000 ควรมีเงินเดือนอย่างน้อย24,000-80,000 เงินเดือนเยอะกว่าได้แต่ห้ามน้อยกว่า

เว้นแต่ว่ารถคันนั้นมีส่วนให้หน้าที่การงานมั่นคงขึ้น หรือหารายได้ ได้มากขึ้นเพียงพอกับค่าผ่อนค่าน้ำมัน

-วันนี้คุณอาจอยากได้มากๆเพื่อสนองความต้องการ แต่วันนึงที่คุณรู้สึกเสียดายหรือรู้สึกเหนื่อย คุณจะไม่สามารถย้อนเวลากลับได้ จึงต้องคิดให้มากก่อนตัดสินใจ


ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
มาคิดดูคร่าวๆ นะครับ รายจ่ายที่ต้องมีแน่นอนต่อเดือน

1. ค่าผ่อน   8,000
2. ค่ากิน     2,000
3. ค่าน้ำมัน  2,000
4. ให้พ่อแม่ 3,000
---------------------
รวม          15,000

เกินเงินเดือนของผมไปประมาณ 1,000 - 1,500 คงต้องหารายได้เสริมครับ

ออฟไลน์ BBOnLY

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,235
    • เพจวิศวะท่องโลกการเงิน
ดูความไหวของตัวเองก่อนครับ ถ้าไม่ไหว อย่าเลยครับ วางแผนเรื่องเงินดีๆก่อน

ติดตามเพจ "วิศวะท่องโลกการเงิน" ได้นะครับ

https://www.facebook.com/engineerinsidefinanceworld

ให้ #แอดบอยดูแล ได้ครับ

ออฟไลน์ mamaman

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 6,425
    • อีเมล์
มาคิดดูคร่าวๆ นะครับ รายจ่ายที่ต้องมีแน่นอนต่อเดือน

1. ค่าผ่อน   8,000
2. ค่ากิน     2,000
3. ค่าน้ำมัน  2,000
4. ให้พ่อแม่ 3,000
---------------------
รวม          15,000

เกินเงินเดือนของผมไปประมาณ 1,000 - 1,500 คงต้องหารายได้เสริมครับ

STOP ความคิดจะซื้อ เลยครับ ด้วยความหวังดี
รอฐานะทางการเงินดีกว่านี้
ไม่งั้นลองมือสอง ทนมือทนเท้าหน่อยก็ได้ครับ
ถ้า ประหยัดจริงๆ สามารถ ใช้เวลา อีกหนึ่งปีรวบรวมเงิน เป็นเดือนละ 5000*12 = 60000 ไป หามือสอง ราคา 100000-200000 มาลอง
เล่นก่อนครับ

ออฟไลน์ secrecyguy

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,744
  • 3.2plus
มาคิดดูคร่าวๆ นะครับ รายจ่ายที่ต้องมีแน่นอนต่อเดือน

1. ค่าผ่อน   8,000
2. ค่ากิน     2,000
3. ค่าน้ำมัน  2,000
4. ให้พ่อแม่ 3,000
---------------------
รวม          15,000

เกินเงินเดือนของผมไปประมาณ 1,000 - 1,500 คงต้องหารายได้เสริมครับ

ค่าน้ำมัน2,000บาทต่อเดือน หมายความว่า คุณใช้รถเเค่เดือนละ 800-1,000กม ซื่งสำหรับผมมองว่า คุณซื้อมาจอดมากกว่าใช้

ซื้อรถใช้ไม่คุ้ม จะซื้อทำไม?

เงินเดือนเท่าที่คุณบอก ไม่ควรผ่อนรถเกิน 3,500บาทต่อเดือนครับ

ออฟไลน์ adsajan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
ผมว่าตึงไปครับ อย่างน้อยรายได้คุณควรมีซัก24,000 บาท นอกจากว่าคุณจะเป็นเซลจำเป็นต้องใช้รถ
อย่างน้อยยังมีค่าเสื่อม ค่าน้ำมันเอามาช่วยผ่อนได้

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
ตอนที่ผมออกรถ ณ ตอนนั้น ผมเองก็คิดมากและกังวลครับ ต้องมั่นใจจริงๆถึงจะจ่าย และซื้อทีก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะใช้ยาวมากๆ 10ปีอย่างน้อยเลย ณ ตอนที่ออกรถวันนั้น เพราะกว่าจะหาเงินซื้อรถได้สักคันใช้เวลานานมาก และต้องการเก็บเงินด้วยครับไม่ใช่หาเท่าไรกลายเป็นค่าใช้จ่ายหมดก็ไม่ไหว

สรุปใช้ไม่ถึง 10 ปีครับ เลิกเป็นมนุษย์เงินเดือนซะก่อน คันที่ว่าใช้มาเกือบ 8 ปี และกำลังจะขายเพื่อออกคันใหม่ละครับ

ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำมากๆ ครับ คิดอะไรได้หลายๆ อย่าง
มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประมาณ 15,000 บาท โดยส่วนตัวคิดว่าก็น่าจะมีไม่น้อยนะครับที่ตัดสินใจซื้อรถ
และยอมเป็นหนี้ก้อนโตแลกกับความสะดวกสบาย อยากถามท่านว่า ท่านวางแผนการเงินเป็นอย่างไรบ้างครับ ในระหว่างที่ผ่อนรถอยู่

JONNY

  • บุคคลทั่วไป
เงิน หมื่นห้า ผ่อนรถ แปดพัน ค่ากินค่าน้ำมัน อีก5พัน เป็นอย่างน้อย ใช้เดือนชนเดือน
พอสิ้นปีมา ต้องต่อภาษีและประกันเป็นหมื่น ไหนค่าเปลื่ยนถ่ายน้ำเครื่อง ค่าเปลียนยางเปลี่ยนแบต ไม่มีก็ต้องกู้หนี้ยืมสินมาใช้ เป็นหนี้พอกเข้าไปอีก ไปไม่ไหวก็ต้องปล่อยยึดหรือขายรถ ขายขาดทุนก็เป็นภาระจ่ายส่วนต่าง

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,460
ถ้ายังกังวล อย่าเพิ่งซื้อครับ แสดงว่า จขกท อาจจะยังไม่พร้อมดี

หรือถ้าจำเป็น ควรจะเลือกรถ คงต้องเน้นราคาไม่สูงมากครับ มีรถ เท่ากับมี คชจ.อื่นๆตามมาอีกหลายเรื่องนะครับ

ถ้าเงินตึงเกินไป เครียดแน่นอนครับ

ออฟไลน์ Visual

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 763
จขกท. ทำงานมากี่ปีครับ เงินเดือน 15,000 แต่มีเงินเก็บ 300,000 + 350,000 (เห็นผ่านๆก่อน edit ไป) ผมมองได้สองอย่างนะ

1. คุณเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก มีวินัยดี
2. ถ้ามีรายได้เท่านี้ผมคิดว่าคงใช้เวลาเก็บเงินมาประมาณ 10 ปี บวกลบ แต่ตอนนี้เงินเดือนคุณยัง 15,000 นั่นหมายความว่าหน้าที่การงานคุณมันไม่เติบโตเลยนะครับ

จะทำอะไรพยายามอย่าให้ขาดสภาพคล่องครับ คุณไม่รู้หรอกพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ออฟไลน์ rapee001

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 366
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำมากๆ ครับ คิดอะไรได้หลายๆ อย่าง
มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประมาณ 15,000 บาท โดยส่วนตัวคิดว่าก็น่าจะมีไม่น้อยนะครับที่ตัดสินใจซื้อรถ
และยอมเป็นหนี้ก้อนโตแลกกับความสะดวกสบาย อยากถามท่านว่า ท่านวางแผนการเงินเป็นอย่างไรบ้างครับ ในระหว่างที่ผ่อนรถอยู่

เอาเป็นว่าตอนนั้นผมซื้อรถมือ 2 มาเนื่องจากผมดันมาทำงานที่ต่างจังหวัดแต่ดันนอนอยู่ในกรุงเทพฯ

รถที่ผมซื้อคันละ 2 แสน (ติดแก๊สแล้ว) ผ่อน 3 พันต่อเดือน  ซึ่งค่าผ่อนก็คือค่าเดินทางไปกลับด้วยรถทัวร์ของผมในแต่ละเดือน

เท่ากับว่าผมเหลือเดือนละ 1.2 หมื่น หักใช้กิน 2.5 พัน, ค่าแก๊ส 2.5 พัน, เผื่อค่าซ่อมเดือนละ 3 พัน  ส่วนค่าหอนั้น ผมไม่เสียเนื่องจากผมนอนอยู่บ้าน

ดังนั้น ผมเหลืออยู่ 4 พันที่สามารถใช้เก็บ หรือใช้เที่ยวได้  นับว่าเกินพอสำหรับคนโสดที่ชอบอยู่กับบ้าน

ออฟไลน์ nut25784

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 415
ไว้เงินเย็นๆ ค่อยซื้อนะ  ผมก็กินเงินเดือนสมัยก่อน 9,000 แต่เลือกซื้อคอนโดใกล้ที่ทำงานแบบเดินไปทำงานได้แทนการซื้อรถ เอาค่าเดินทางมาผ่อนคอนโดดีกว่าไปซื้อรถ เคหะผ่อนน้อยกว่ารถอีกนะบางทีเพราะผ่อนยาว

ไหนๆจะเป็นหนี้ ก็เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มในอนาคตดีกว่า ปัจจุบันมันก็ยังช่วย Save cost ค่าเดินทาง และคุณภาพชีวิต ไม่ต้องทนรถติด ตื่น 8 โมง สบายจะตาย

เห็นน้องๆเงินเดือนประมาณคุณก็ออกรถมา  ตอนผมเงินเดือนประมาณนั้นไม่คิดซื้อรถเลย เพราะคิดว่าไม่ไหว ไม่อยากเป็นหนี้ ค่าน้ำมัน ดูแล ประกัน ของแต่ง

ปัจจุบันผมซื้อคอนโดเพิ่มอีก 1 บ้านอีก 1 และมีรถ B seg 1 คัน  ไม่ค่อยได้ใช้งาน เพราะเดินไปทำงาน

ปัจจุบันเงินเฉลี่ยเกือบแสน เหลือใช้หมื่นกว่าๆ ที่เหลือเก็บหมด ก็ไม่ได้คิดอยากซื้อรถ (แต่อยากได้ตลอดนะ)  ก็ยังเดินต๊อกๆ ไปทำงาน

แนะนำให้เปลี่ยนแนวความคิด เพื่ออนาคตที่ดี ไม่ต้องมานั่งเป็นทุกข์ อยากได้ครับ แต่ลองถามว่ามันจำเป็นกับชีวิตคุณมากไหม  ไว้พร้อมๆ ไม่ลำบากจะดีกว่าไหม

ปล.ผมตัดสินใจซื้อรถเพราะได้ลด 100,000 และซื้อสด  ซื้อมาแล้ว ตูซื้อมาทำไมนี่ แอบเสียดาย

ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
จขกท. ทำงานมากี่ปีครับ เงินเดือน 15,000 แต่มีเงินเก็บ 300,000 + 350,000 (เห็นผ่านๆก่อน edit ไป) ผมมองได้สองอย่างนะ

1. คุณเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก มีวินัยดี
2. ถ้ามีรายได้เท่านี้ผมคิดว่าคงใช้เวลาเก็บเงินมาประมาณ 10 ปี บวกลบ แต่ตอนนี้เงินเดือนคุณยัง 15,000 นั่นหมายความว่าหน้าที่การงานคุณมันไม่เติบโตเลยนะครับ

จะทำอะไรพยายามอย่าให้ขาดสภาพคล่องครับ คุณไม่รู้หรอกพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ผมทำงานมา 6 ปีครึ่งครับ 3.5 แสน เงินในบัญชี + 3 แสน สลากออมสินครับ แต่สลากออมสิน ผมตั้งใจว่าจะไม่แตะครับ
ก็เลยเอา 3.5 แสน มาตั้งเป็นธงในการ ซื้อรถและผ่อนรถ ดาวว์ 3 แสน เหลือ 5 หมื่น เอาไว้เผื่อขาดเผื่อเหลือครับ 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 07, 2016, 11:47:21 โดย sengausa »

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,147
  • SNK vs Playmore
เงินเดือนหมดไปกับการผ่อนรถ = อึดอัด ไม่มีความสุข

เงินเดือนหมดไปกับการแต่งรถ = จน แต่สนุก

ออฟไลน์ Volta

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,716
    • อีเมล์
ถ้ามีความจำเป็นต้องซื้อจริงๆ
ลองดูรถที่ราคาไม่แพง เป็นตัวล่างสุด
และดูว่าค่ายไหนมีส่วนลดเงินสดเยอะๆ จะได้เอาส่วนลดมาช่วยเงินดาวน์ ผ่อนต่อเดือนจะได้ถูกลง

สวัสดีทุกๆคนครับ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
Re: อยากถามมนุษย์เงินเดือน
« ตอบกลับ #49 เมื่อ: พฤษภาคม 07, 2016, 12:01:21 »
จขกท. ทำงานมากี่ปีครับ เงินเดือน 15,000 แต่มีเงินเก็บ 300,000 + 350,000 (เห็นผ่านๆก่อน edit ไป) ผมมองได้สองอย่างนะ

1. คุณเป็นคนเก็บเงินเก่งมาก มีวินัยดี
2. ถ้ามีรายได้เท่านี้ผมคิดว่าคงใช้เวลาเก็บเงินมาประมาณ 10 ปี บวกลบ แต่ตอนนี้เงินเดือนคุณยัง 15,000 นั่นหมายความว่าหน้าที่การงานคุณมันไม่เติบโตเลยนะครับ

จะทำอะไรพยายามอย่าให้ขาดสภาพคล่องครับ คุณไม่รู้หรอกพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ผมทำงานมา 6 ปีครึ่งครับ 3.5 แสน เงินในบัญชี + 3 แสน สลากออมสินครับ แต่สลากออมสิน ผมตั้งใจว่าจะไม่แตะครับ
ก็เลยเอา 3.5 แสน มาตั้งเป็นธงในการ ซื้อรถและผ่อนรถ ดาวว์ 3 แสน เหลือ 5 หมื่น เอาไว้เผื่อขาดเผื่อเหลือครับ

ถ้ากังวลเรื่องรายจ่ายว่าจะไม่ไหวผมว่าหามือสองราคาไม่เกินสามแสนมาใช้ก่อนมั๊ยหละครับ แล้วก็เก็บเงินไปเรื่อยๆจนกว่าจะพร้อมแล้วค่อยขายคันเก่ามาเป็นเงินดาวน์ตอนนั้นน่าจะได้สองแสนอยู่นะ
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ adsajan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำแนะนำมากๆ ครับ คิดอะไรได้หลายๆ อย่าง
มนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ประมาณ 15,000 บาท โดยส่วนตัวคิดว่าก็น่าจะมีไม่น้อยนะครับที่ตัดสินใจซื้อรถ
และยอมเป็นหนี้ก้อนโตแลกกับความสะดวกสบาย อยากถามท่านว่า ท่านวางแผนการเงินเป็นอย่างไรบ้างครับ ในระหว่างที่ผ่อนรถอยู่
ก็อย่างที่คุณว่าละครับ ผมเห็นตัวอย่างคนรอบตัว รายได้ยังไม่พร้อมแต่ออกรถมาเพื่อความสะดวกสบาย ไม่ใช่ทุกคนที่จะผ่อนได้ตลอดรอดฝั่ง เห็นโดนยึดไปเกินครึ่ง
อย่างผมรายได้แสนนิดๆ ผ่อนd seg ได้สบาย ผมยังซื้อแค่รถมือสองผ่อนเดือนละเจ็ดพันเอง เพื่อนบางคนรายได้พอๆกับผม ออกบีเอ็มผ่อนเดือนละหลายหมื่น ธุรกิจประสบปัญหา โดนยึดไปละ

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,102
อยู่ที่ MINDSET ของแต่ละคนครับ

ออฟไลน์ muza

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 849
    • อีเมล์
ถ้ายังกังวลอยู่อย่าเพิ่งเลยครับ
แสดงว่าเรายังไม่พร้อม
รอเราพร้อมหน่อยดีกว่า

ออฟไลน์ SLuang

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,816
ซื้อไปแล้ว ในแต่ละเดือนจะไม่ได้มีเฉพาะค่าผ่อนรถนะครับ

1. ค่าผ่อนรถ (ตายตัว)
2. ค่าน้ำมันรถ (แต่ละเดือน ไม่มีทางเท่ากัน บางเดือนหนักกว่าค่ารถก็มี  แบบนี้ นานๆ  เจอที)
2. บางเดือน ต้องจ่ายประกันชีวิต (ส่วนตัว   ทำไว้เพื่อคนข้างหลังมากกว่าเพื่อตัวเอง)
3. บางเดือน ครบรอบจ่ายประกันรถ (สำคัญครับ อย่าคิดว่าไม่สำคัญ ทำชั้น 1 ได้ ยิ่งดี อุบัติเหตุหนักๆ  ทั้งตัวเรา คู่กรณี หรือสิ่งที่เราไปชนให้เขาเสียทรัพย์ ชั้น 1 ช่วยได้ ไม่ต้องเครียดจนเป็นบ้า)
4. ค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น (เตรียมไว้ ปีละ 1 - 2 ครั้ง)
5. ค่ารักษาพยาบาล  ถ้าไม่มีสวัสดิการการรักษาพยาบาล ตรงนี้ก็สำคัญ หลายๆ คนไม่อยากเข้าโรงบาลรัฐ  ไปโรงบาลเอกชนก็เสียเงินเยอะ

เงินเดือนเท่านี้ อย่าเพิ่งรีบร้อนครับ เก็บค่าผ่อน  เข้าบัญชี 3 ปี  เอามาเป็นเงินดาวน์ ใหม่   ปลอดภัยกว่าเยอะมากครับ



ออฟไลน์ kittiphat123

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,017
    • อีเมล์
นกน้อยทำรังแต่พอตัวครับ ซื้อรถตามกำลังที่เราจ่ายได้ อย่าได้ติดสูงก็พอครับ ถึงที่หมายเหมือนกัน

ออฟไลน์ NeoZeLon

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 80
ผ่อนไหวก็ซื้อครับ ดีกว่าไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ถึงจะซื้อมาแล้วขาดทุนครึ่งนึงก็ตาม แต่ถ้าใช้ยาวๆก็ยิ่งคุ้ม รอเก็บเงินไว้ลงทุน เงินสำรอง บลาๆ ตามพี่ๆในนี้ที่ชอบแนะนำกันมันก็ถูกครับ แต่ชีวิตมันต่างกัน ผมอ่านหลายกระทู้ในนี้ชอบบอกกันว่า เงินเดือนแสนนึง จะซื้อแคมรี่ดีไม่ อีกคนก็จะตอบ เขาเงินเดือนสองแทนยังไม่ซื้อเลย (ชักเหมือนกระทู้เว็บต้องห้ามไปทุกที) ถ้าคุณคิดว่ามีเงินดาวส์ มีเงินผ่อน มีเงินกิน และไม่เสียคุณภาพชีวิต ก็จักเลยครับ (ความคิดส่วนตัว)
Honda Jazz GK 2014
Honda Accord G8 2008

ออฟไลน์ sengausa

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 256
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากครับ ไม่นึกเลยว่าจะมีคนที่ให้ความสนใจช่วยชี้แนะกันมากขนาดนี้
สรุปคำตอบของผม คือ ยังคงที่จะตัดสินใจซื้อรถครับ อาจจะไม่ได้ทำตามคำชี้แนะของหลายๆ ท่าน ก็ต้องขออภัยไว้ก่อน
อาจจะจอดมากกว่าขับ อาจจะต้องเหนื่อยเมื่อเทียบกับเงินเดือน อาจจะไม่มีเงินเก็บเลยในช่วงที่ผ่อน และอื่นๆๆๆ
แต่ที่สุดแล้ว ผมคิดว่ามันคือรางวัลของชีวิต ครับ

ออฟไลน์ Olympuspen

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 426
ความจำเป็นของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ คุณอาจจะซื้อมาเป็นรถที่ใช้ทั้งครอบครัว
 1 ใช้เดินทางไปทำงานซึ่งมันอาจจะคุ้มกว่านั่งรถประจำทาง
 2 ใช้ในครอบครัวยามฉุกเฉินเจ็บป่วย ซึ่งเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
 3 รถมันซื้อเวลาและโอกาสได้ ซึ่งเวลาและโอกาสในชีวิตมีไม่บ่อย
 4 รถมันอาจไม่เพิ่มราคาในวันข้างหน้า แต่เพิ่มมูลค่าชีวิตในปัจจุบันได้ อย่างน้อยมันก็ยังคงเหลือให้เป็นทรัพย์สินถ้าเราดูแลดี
 5 สุดท้าย คุณเงินเดือนประมาณ 15000 ซึ่งผมเชื่อว่าวันข้างหน้ารายได้คุณต้องเพิ่มขึ้นถ้างานคุณมั่นคง ก็หารถที่ผ่อนประมาณ 40% ของรายได้ก็น่าจะพอได้
        ลองชั่งน้ำหนักดูครับว่าซื้อแล้วจะมีความสุขหรือทุกษ์ หรือไม่ซื้อแล้วมานั่งกังวล

ออฟไลน์ Nerdys

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 702
อ่านกระทู้แล้วรู้สึดหดหู่อย่างบอกไม่ถูก
ถ้าไม่ได้เกิดมาบนกองเงินกองทอง ก็เหมือนคนเราถูกปักธงไว้แล้วว่าต้องเป็นหนี้ ต้องผ่อนนู่นนี่นั้น ทั้งบ้านทั้งรถ

การผ่อนรถมีสิ่งที่มองไม่เห็นตามมา (นอกจากตัวเงิน) คือ ภาระข้อผูกมัดทางกฎหมายระยะยาว
เรื่องที่ไม่ค่อยมีใครอยากพูดถึงคือ ช่วงที่ผ่อนบ้าน/รถ นี่ห้ามตายเด็ดขาด
ถ้าไม่มีคนค้ำประกันก็ดีไป แต่ถ้ามีคนค้ำประกัน คนค้ำต้องรับผิดชอบแทน
หรือลูกเมียต้องชดใช้แทนเท่าจำนวนมรดกที่ได้รับจากผู้ตาย เว้นแต่จะทำประกันอะไรไว้ก็แล้วแต่

ชีวิตก็เป็นแบบนี้ เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ

ออฟไลน์ adsajan

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
พึ่งเห็นว่าจขกท.มีเงินเก็บต่างหากอีกสามแสน ผมว่าก็พอไหวนะ ผ่อนๆไปเกิดติดขัดยังมีเงินสำรองมาปิดไฟแนนซ์ได้