ผู้เขียน หัวข้อ: ซื้อ D-seg ญี่ปุ่น 5ปีแล้วเปลี่ยน vs ซื้อcompact ยุโรป ใช้10ปี  (อ่าน 8808 ครั้ง)

เพื่อนๆมีความเห็นอย่างไรกันบ้างครับ
ประเด็นนี้ผมเชื่อว่าหลายๆคนต้องเคยนำมาขบคิด

1.ซื้อ d-segment ญี่ปุ่น ใช้ 5-6 ปีแล้วเปลี่ยน

ทางเลือกนี้ เราจะได้ขับรถรุ่นใหม่ตลอด พอรุ่นเก่าตกรุ่นเราก็ขายแล้วซื้อใหม่ modelใหม่
อีกทั้งรถญี่ปุ่น 5ปีแรก ผมว่ามันยังไม่จุกจิก เผลอๆเราแทบไม่ต้องซ่อมอะไรเลย
ค่าใช้จ่ายต่างๆ ทั้งค่าเช็คระยะซ่อมบำรุงก็ถูกกว่ารถยุโรป แต่ภาพลักษณ์ก็เทียบรถยุโรปไม่ได้

2.ซื้อ พรีเมี่ยมคอมแพค ยุโรป ใช้ 10 ปี

ทางเลือกนี้ เราได้ขับรถยุโรป ซึ่งการขับขี่ดีกว่า(ทุกวันนี้อาจจะดีกว่ารถญี่ปุ่นไม่มาก แต่ยังไงก็ดีกว่า)
ได้ภาพลักษณ์ที่เหนือกว่า  แต่หลังจาก5ปีแรก อะไรหลายๆอย่างก็ต้องเริ่มซ่อมบำรุง ค่าใช้จ่ายต่างๆก็แพงกว่า


อยากทราบความเห็นเพื่อนๆครับว่ามีมุมมองกันอย่างไรบ้าง

ยังมีอีกประเด็นคือเรื่องความตื่นเต้นเวลาเราออกรถใหม่
ที่ผมรู้สึกว่าทางเลือกแรกมันขี่ๆทางเลือกที่2อยู่หน่อยๆ
ตรงที่พอครบ5ปี เราก็จะได้ตื่นเต้นอีกครั้งที่ได้ซื้อรถคันใหม่
ในขณะที่ซื้อรถยุโรป 1-2ปีแรก เราอาจยังตื่นเต้นกับมัน แต่พอหลังจากนั้นเราก็ต้องใช้มันไปอีก8ปี กว่าเราจะได้ซื้อคันใหม่อีกรอบ


ออฟไลน์ golferjk

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 255
ผมจิ้มไป D-Segment ญี่ปุ่นเลยครับถ้ามาแนวนี้
พรีเมี่ยมคอมแพ็คเดี๋ยวนี้ผมก็เริ่มเฉยๆกับมันยังไงไม่รู้รู้สึกเจอบ่อยมากจนรู้สึกเฉยๆ
กลับกัน D-Segment เริ่มไม่ค่อยจะมีให้เห็น
ความรู้สึกตอนเปลี่ยนรถใหม่มันว้าวได้เจออะไรใหม่ๆ แต่บางทีก็รู้สึกเสียดายคันเก่าเหมือนกัน
อยู่ด้วยกันมา 5 ปีหนิผูกพันรู้สึกขายไม่ลง

ออฟไลน์ bubball

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,838
ถ้าให้เลือกจริงๆคงเลือก  "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีครับ  ไม่อยากมาจิตตกหลังครบ 5 ปีจากค่ายยุโรป"

แต่ถ้าเอาที่คิดไว้จริงๆคือ "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีตังพอที่จะซื้อ ยุโรป 5 ปีแล้วเปลี่ยน" 

ออฟไลน์ Tedjung84

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 551
ถ้าให้เลือกจริงๆคงเลือก  "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีครับ  ไม่อยากมาจิตตกหลังครบ 5 ปีจากค่ายยุโรป"

แต่ถ้าเอาที่คิดไว้จริงๆคือ "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีตังพอที่จะซื้อ ยุโรป 5 ปีแล้วเปลี่ยน"
ผมเห็นด้วยตามนี้เลยครับ ไม่ว่าจะรถ ญี่ปุ่นหรือยุโรป ส่วนตัวและที่บ้านจะใช้ไม่เกิน 5ปีครับ
อันนี้ก็แล้วแต่สะดวกนะครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
กลัวซ่อมแล้วไมไม่ซื้อ คอมแพคยุโรป 5ปีขายล่ะครับ?

ยกตัวอย่างนะครับ

1.7ล้าน Camry Accordรุ่นท็อปเลย มีทอนนิดนึง ห้าปีผ่านไปขาย7แสน
1.7ล้าน316 f30 อีกห้าปีก็ขายราคา8แสน

1.99ล้าน C180 อีกห้าปี 9แสนก็ขายได้นะ

คิดเรื่องความสูญเสียต่อเม็ดเงิน คงไม่ต่างเท่าไหร่กับคนมีปัญญาซื้อรถระดับนี้ครับ ที่เหลือก็ความชอบส่วนบุคคล

กลัวซ่อมแล้วไมไม่ซื้อ คอมแพคยุโรป 5ปีขายล่ะครับ?

ยกตัวอย่างนะครับ

1.7ล้าน Camry Accordรุ่นท็อปเลย มีทอนนิดนึง ห้าปีผ่านไปขาย7แสน
1.7ล้าน316 f30 อีกห้าปีก็ขายราคา8แสน

1.99ล้าน C180 อีกห้าปี 9แสนก็ขายได้นะ

คิดเรื่องความสูญเสียต่อเม็ดเงิน คงไม่ต่างเท่าไหร่กับคนมีปัญญาซื้อรถระดับนี้ครับ ที่เหลือก็ความชอบส่วนบุคคล

ผมไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะคิดว่าคนส่วนมากเข้าใจประเด็นของผม
แต่ถ้าท่าน ไม่เข้าใจ ผมจะอธิบายแบบนี้ครับ

ผมเปรียบเทียบบนแนวคิด ซื้อรถญี่ปุ่นคันละ 1.5 ล้าน 2 คัน กับ ซื้อรถยุโรป คันละ 2.9ล้าน ก็เลยตีว่า3ล้านแล้วกัน

ออฟไลน์ kan.kom

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 787
ใช้รถยุโรป 10 ปี ผมนี่หลอนค่าดูแลรักษาจริงๆ
ผมเลือกรถญี่ปุ่นดีกว่า คือ มองว่า ถ้าต้องฝืนตัวเองซื้อรถที่เรามองว่า มันแพง
ประเมินแล้ว เกินกำลังตัวเอง ก็อย่าไปซื้อเลย
5 ปี 10 ปี ความเสี่ยงแค่ไหน รถพังจากเสื่อมสภาพตามเวลา รถพังจากการใช้งาน จากอุบัติเหตุ
มองแล้วคงเครียดน่าดู
เพราะงั้นซื้อที่ตัวเองสบายใจเถอะ เอื้อมไม่ถึง ก็อย่าพยายามในสิ่งที่ไม่จำเป็นครับ

ออฟไลน์ AkE

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,404
ถ้าแบบนี้ผมเอา d seg ครับเปลี่ยนบ่อยๆ คันใหญ่กว่า นั่งสบายกว่า ถ้าใช้5ปีผมว่าพวกไฮบริดเข้ามาในตัวเลือกได้เลยอัตราเร่งความแรงแพ้

premium compact ไม่เยอะ เวลาเข้าศูนย์ราคาถูกกว่ากันเยอะไม่ใช่ราคานั่งเทียนเขียนกันเองมั่วๆ ได้ขับรถใหม่แทบตลอด แพ้เฉพาะเรื่อง

image ซึ่งหลายๆคนไม่แคร์ คนที่แคร์ก้ต้องยอมจ่ายไปครับสมรรถนะช่วงล่างเป็นรองแต่ถ้าอยากให้ชัดๆต้องเอาไปขับในสนามแข่งแล้วสะบัดแรงๆ

ครับวิ่งบนถนนยิ่งถ้าขับไม่เกิน 180 ไม่ให้ความรู้สึกที่เห็นถึงความคุ้มค่าขนาดนั้น แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น coupe ยุโรปใช้ 10 ปีผมคงไป coupe

ผมว่ามันจำเป็นต้องซื้อราคานั้นเพราะหาถูกๆไม่ได้และมีเอกลักษณ์มากกว่าครับ

ออฟไลน์ Turin

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,043
กลัวยุโรปซ่อมแพงกว่า แล้วทำไมถึงจะใช้นานกว่าล่ะครับ?

เป็นผมคงใช้ d ญี่ปุ่น 10 ปี หรือ c ยุโรป 5 ปี มากกว่า ... นานกว่านั้นกลัวใจเทคโนโลยีรถยุโรปใหม่ๆจริงๆ

ออฟไลน์ muza

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 848
    • อีเมล์
ถ้าไม่เน้นการขับขี่มากๆ

ผมขอใหม่ทุก 5 ปีอีกเสียงนะครับ

 ;D ;D ;D

ออฟไลน์ bahamu

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 687
ทำไมไม่ซื้อลูกศรไปล่ะ ทนกว่ายุโรป แข็งแรงกว่าฝรั่งบางยี่ห้อ
รถกระป๋องยุ่น ถ้าโดนจะถึงตัวไม่ยาก ถึงตัวไม่เป็นไร แต่รถยับทิ้งได้เลย

ถ้ามองแต่ขาดทุน ซ่อมแพง รถยุ่นรุ่นใหม่ก็ไม่ถูกถ้าซ่อมใหญ่ ต้องเคลียร์โค้ดด้วย
มักเห็นแต่เจ้าของลากขับ ขายมือสองแบบหยิ่งๆ ซื้อไปยกเครื่อง ช่วงล่างประจำ
น้ำมันเกียร์ไม่เคยถ่าย น้ำมันเบรค บางคนยังถามว่าเปลี่ยนด้วยรึ

แค่แลนด์ vx100 ไฮโดลิกยังซ่อม ขอไปทีไม่น้อย ติดแก๊สชุ่ยๆ
พอจะซื้อดีเซลบอกแพง แก๊สถูกกว่า เวลาขายมือสองมาโวยวาย
ไม่งั้นก็ขับสี่ห้าแสนโล มากลับไมล์แสนเดียว แต่สภาพรถโทรมจนดูออก
เพราะพวกซ่อมแบบผักชีโรยหน้าเยอะมาก ซ่อมจบใช้เองก็ไม่ขาย

อัลพาร์ด แกรนเวีย หาสวยๆยาก ขาดทุนยับ คนรับต่อก็น้อย กินน้ำมัน อืด
ซ่อมไปขับไป ราคามือสองหมดประกัน ซื้อยุโรปสวยๆแถมค่าซ่อมด้วย
ค่าซ่อมแอร์ทั้งระบบแพงกว่า เก๋งยุโรป ยิ่งไฮบริดถ้าเสียทุกระบบ ซื้อรถใหม่ดีกว่า

รถยุโรปที่เจ้าของรักรถ จะดูแลเรื่องของเหลวได้ดีกว่า เพราะนั่งดูช่างทำเอง ไม่เป็นเสี่ยในห้องแอร์
เพราะถ้ารถออกอาการเมื่อไหร่ ขายไม่ออกทันที แต่ทีคิดว่ายำรถจนเป็นรถวิเศษก็มี
ลงขายข้ามปียังไม่ไป ใครทักก็ยิ่ง สุดท้ายต้องไปเทริน์ที่เต็นท์ แต่บางเต้นท์ไม่รับเพราะไฟแนนท์ไม่ปล่อย
คนมาซื้อต่อถ้าไฟแนนท์ไม่รับก็ยากที่จะซื้อ เก็บไว้ปลูกสาระแนง่ายกว่า ขายถูกให้คนไปทำต่อไม่ได้เสียดาย

ออฟไลน์ chaithawat

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,538
ถ้าโจทย์นี้ผมขอญี่ปุ่นไว้ก่อนสบายใจ ดีเซกเมนต์ป้ายแดงก็ดูดีมากนะผมว่า ขนาดเจ้าของหมู่บ้านโครงการใหญ่ เสี่ยโรงงาน ยังขับแคมรี่แอคคอร์ดกันเยอะแยะ สิบปีเปลี่ยนป้ายแดงได้สองหน รถยังไม่ทันตกรุ่นรึดูล้าหลังด้วยซ้ำ ได้สดใหม่ กว้างนั่งสบายกาย สบายใจ สบายกระเป๋า
ส่วนอีกโจทย์นึง ยุโรปสิบปี เฉลี่ยค่าซ่อมคงได้อีโค่คาร์อีกคันแล้วหละครับ เคยรวมๆบิลมาปีที่ห้าถึงเก้าปาไปเกือบห้าแสน เข้า0อย่างเดียวนะ ถ้าเข้าอู่ก็ประหยัดไปซะ 40 % ได้ เคยเจอหนักสุดบิลค่าทำแอร์เข้าไปถึงกะหน้ามืดเลยเพราะแอร์บ้านสามตันยังถูกกว่าเป็นครึ่งเลย โจทย์นี้ไม่เลือกเพราะใช้นานไปไม่คุ้มเมนทีแนนซ์และยังตกรุ่นคงไม่ได้ดูดีไปกว่า ดีเซกเมนต์ญี่ปุ่นป้ายแดงหรอกครับ  ลุยไหนเที่ยวไหนไกลๆมีกังวลอยู่เหมือนกัน
 ถ้าลดเป็นเหลือห้าปีขาย เลือกยุโรปแบบไม่ลังเลแน่ๆ
 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 26, 2016, 14:38:05 โดย chaithawat »

ออฟไลน์ dht_tubes

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,636
    • อีเมล์


ผมเปรียบเทียบบนแนวคิด ซื้อรถญี่ปุ่นคันละ 1.5 ล้าน 2 คัน กับ ซื้อรถยุโรป คันละ 2.9ล้าน ก็เลยตีว่า3ล้านแล้วกัน

ถ้ามองแนวว่า เงิน 3 ล้านกับสิบปีของอายุใช้งานรถ ก็คือมองในแง่ค่าใช้จ่าย และค่าเสื่อมเป็นหลักผมจะใช้หลักนี้ประกอบครับ

1. สนใจเรื่องภาพลักษณ์แค่ไหน
2. รถ D segment คันนั้นกับ พรีเมี่ยมคอมแพ็คคันนั้น อุปกรณ์รักษาความปลอดภัยเท่าๆกัน หรือใกล้กันแค่ไหน
3. ขนาดความกว้างและนั่งสบาย คันไหนตอบโจทย์ที่สุด

ถ้าตอบข้อแรกเป็นยุโรป อย่างอื่นก็ไม่ต้องคิดครับ
ถ้าไม่สนมาคิดข้อสอง และสาม

ส่วนเรื่องแบกค่าใช้จ่ายไหว ไม่ไหว ก็อยู่ที่ข้อแรกเลยครับ

ออฟไลน์ Impulse

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 938
ผมเลือก Dseg ถ้ามีคันที่ชอบ เสียแต่ว่า Dseg ที่ถูกใจและมีขายมันไม่มีขายในไทยเวานี้

ออฟไลน์ Monn

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,806

ผมเปรียบเทียบบนแนวคิด ซื้อรถญี่ปุ่นคันละ 1.5 ล้าน 2 คัน กับ ซื้อรถยุโรป คันละ 2.9ล้าน ก็เลยตีว่า3ล้านแล้วกัน

งั้นน่าจะระบุงบมาก่อนดีกว่า เพราะรุ่นท๊อป d seg ญี่ปุ่น ตอนนี้ก็ 1.8m ไปละ ส่วน compact c seg ของยุโรป หาได้ 2 ต้นๆ หรือถ้าลงไป พวก A class หรือ series 1 ก็ 2 ถ้วน ต่างกับ d seg ไม่มาก

ช่วง 3-5 ปี หรือ แสนโลแรก ยุโรป ก็ใช้ service ฟรี อย่าง BSI ของ BM อันนี้ ควรคำนึงด้วยไหมครับ รถญี่ปุ่น เดี๋ยวนี้ หากซ่อมจริง ก็ไม่ถูกมาก แต่อย่างว่า หากพอไหว สำหรับผม การขับขี่มาก่อน รถยุโรป ยังไงก็ได้เปรียบตรงนี้ ผมยอมจ่ายเพิ่ม ไม่เยอะมาก เพื่อไปยุโรป แต่หากงบต่างกัน เท่าตัวแบบ จขกท บอก ก็จะจิ้มไปญี่ปุ่นแทนครับ
S3 - F30
X1 - E84

ออฟไลน์ Teera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,379
    • อีเมล์
มองอะไรเป็นหลักล่ะครับ
คุ้ม ประหยัด ใช้เงินเป็น
เรื่องแบนี้ ของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน
ไม่งั้น Star Bug คงขายไม่ออก
ส่วนตัว เอาที่เหมาะสมกับรายได้ ไม่เป็นภาระต่อตัวเอง และครอบครัวมากเกินไป ผ่อนไหว

ขับ C klass กะ Accord ยังไง Feeling มันไม่เหมือนกันแน่ๆ และ เอาเงิน แปดแสน ไปทำให้ Accord เป็น C klass ไม่ได้หรอก
รถ 10 ปี ซ่อมทั้งนั้นครับ

ออฟไลน์ yourturle

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,080
    • อีเมล์
ขอตอบแบบง่ายๆ

เบื่อเร็ว ชอบของใหม่ d seg

รักแล้วรักเลย ประทับใจในความเป็นยุโรป ได้เติมเต็ม ภาคภูมิ ที่ได้ครอบครอง BM & MB อย่างเดียว GO

(ตัวเงิน คือ EFFECT)
One Day.

ออฟไลน์ redsun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,101
บางท่านพอใจกับ D-SEGMENT ญี่ปุ่น
แถมเสียเงินน้อยกว่าด้วย ก็จบไม่ต้องมองยุโรป

คหสต.
ถ้าเล่นยุโรป สามารถซื้่อรถราคาแพงได้
ก็ควรที่จะต้องบำรุงรักษาด้วยราคา PREMIUM ได้เช่นกัน
และควรรับได้กับราคารถมือสองที่ลดอย่างมากได้ด้วยครับ

ปล.
การตัดสินใจไม่มีผิดถูก และไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน
หรือแม้กระทั้งซื้อเหมือนๆกันผลลัพท์ ก็ตอบสนองแต่ละคนไม่เท่ากัน
ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร รับเงื่อนไขต่างๆได้ก็เลือกทางนั้นครับ

ออฟไลน์ nudragon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,871
  • MT Mania!!
ถ้า 5ปีเปลี่ยนเลือก ญี่ปุ่นครับ

ออฟไลน์ tvm

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,479
ถ้าให้เลือกจริงๆคงเลือก  "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีครับ  ไม่อยากมาจิตตกหลังครบ 5 ปีจากค่ายยุโรป"

แต่ถ้าเอาที่คิดไว้จริงๆคือ "ใช้ D-Seg ญี่ปุ่น 5 ปีไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีตังพอที่จะซื้อ ยุโรป 5 ปีแล้วเปลี่ยน"
ขอตามนี้ด้วยคนครับ

เอาจริงๆ คุณจะใช้รถยุโรปได้เกิน 5 ปีไหมอ่ะครับ

ออฟไลน์ keamgladnan

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 357
10 ปี ยุโรป บอกตรงๆว่าสยองกับค่าซ่อมบำรุงมากครับ

ออฟไลน์ bmw fin

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 77
    • อีเมล์
ถ้าใช้รถต่อปีไม่เยอะ ไม่เกิน15,000 กม.ต่อปี ก็น่าใช้รถยุโรปครับ ถ้าดูแลถนอมรักษาเค้าดีๆก็ไม่ค่อยมีอะไรเสียหรอกครับ 10ปี ก็ถือว่าใช้คุ้มแล้วครับ  ผมอยุ๋พวกซื้อแล้วใช้นาน ขายต่อก็ไม่ต้องคิดถึงเรื่องราคาแล้วครับ  เพิ่งขาย Volvo s60 ปี2002ไปเมื่อต้นเดือน ใช้มา14ปี รถก็ไม่ได้จุกจิกอะไรครับ ซื้อs80 d4มาแทน  ส่วน bmw520dก็ใช้มา6ปีแล้วก็ยังมีความสุขในการใช้อยู่คับ.

ออฟไลน์ h0661036

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 927
อย่าลืมเอาค่าใช้จ่ายอื่น ๆมาดูด้วย เช่นค่าประกันชั้น 1  (เคยเห็นโพสในนี้ ปีละ 70000 )  และค่าบำรุงรักษาเวลาเข้าศูนย์ 

     ผมเคยคิดจะซื้อ E class มือ 2  แต่พ่อสะกิดให้คิดค่าใช้จ่ายพวกนี้ด้วย


    ถ้าไม่เป็นประเภทต้องทำตามความฝัน (รุ่นพี่ผมเป็นประเภทนี้) หรือต้องใช้ภาพลักษณ์ของรถยุโรปหากิน  หรือเงินเหลือ ๆ ก็หลีกครับ

 

      แต่ถ้าเป็นรถยุโรปรุ่นซัก 10 ปีที่แล้ว  หรือเก่ากว่า ค่าใช้จ่ายก็ไม่เยอะนะ (อย่างที่บ้านเคยใช้ก็เข้าอู่ข้างนอกตลอด)

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
กลัวซ่อมแล้วไมไม่ซื้อ คอมแพคยุโรป 5ปีขายล่ะครับ?

ยกตัวอย่างนะครับ

1.7ล้าน Camry Accordรุ่นท็อปเลย มีทอนนิดนึง ห้าปีผ่านไปขาย7แสน
1.7ล้าน316 f30 อีกห้าปีก็ขายราคา8แสน

1.99ล้าน C180 อีกห้าปี 9แสนก็ขายได้นะ

คิดเรื่องความสูญเสียต่อเม็ดเงิน คงไม่ต่างเท่าไหร่กับคนมีปัญญาซื้อรถระดับนี้ครับ ที่เหลือก็ความชอบส่วนบุคคล

ผมไม่ได้ลงรายละเอียดเพราะคิดว่าคนส่วนมากเข้าใจประเด็นของผม
แต่ถ้าท่าน ไม่เข้าใจ ผมจะอธิบายแบบนี้ครับ

ผมเปรียบเทียบบนแนวคิด ซื้อรถญี่ปุ่นคันละ 1.5 ล้าน 2 คัน กับ ซื้อรถยุโรป คันละ 2.9ล้าน ก็เลยตีว่า3ล้านแล้วกัน


ขออภัยที่เข้าใจคนละอย่างครับ ผมซื้อ E200 CDI w211ตอนนั้นมัน 2.9ล้าน ไม่ใช่คอมแพคคาร์ งบเท่านี้คนซื้อรถยุโรปบ่อยๆ คงรู้ว่ามันจะไม่ได้แค่คอมแพค ยิ่งพอรู้จักเซลสนิทกับศูนย์ หรือต่อราคาหน่อย พอมีส่วนลด ก็จะแจ้งมาให้เรารู้

คนถ้าคิดจุกจิกจะซื้อรถcompactคันละ2.9ล้านเทียบกับD-segญี่ปุ่น1.5ล้าน ก็น่าจะคิดถึงราคาต่อรองส่วนลดด้วยน่ะครับ คงไม่มองแต่ 2.9ล้านอย่างเดียว เพราะงบนี้ไป 5ซีรีย์ หรืิ Eclass ไม่ยากละครับ

ขออภัยที่ตอบไม่โดนใจ

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
ผมว่าถ้าคนไม่มีปัญหาทางการเงิน แบบพอที่จะซื้อสบายๆ ไม่น่าจะกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษาของรถยุโรป

ถ้าคุณเป็นเช่นกันก็จัดเลยครับ น้าผมก็หมดไปหลายแสนแล้วนะ C class ตัวหลายปีและ ขนาดขับแบบถนอมๆ


ออฟไลน์ boneshiro

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 460
  • M Power Addicted
    • อีเมล์
เอาที่สบายใจคับ อยากได้อะไรก็ซื้อคันนั้นแหละ เสียก็ซ่อม
ผมเชื่อว่ายุคโซเชี่ยลทุกวันนี้ มีช่องทางร้อยแปด เพื่อที่คุณจะไม่ต้อง
Service โหดๆแบบที่คนทั่วๆไปเชื่อกัน รถ ferrari ถ่าย นมก 2-3 พันบาทยังมีอู่ทำ อยู่ที่ความสามารถคุณแหละครับ ถ้าไม่อยากดิ้นรน ขับญี่ปุ่นไปเถอะครับ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
M power Thailand
M5 e60 V10

ออฟไลน์ Activehybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,554
อยู่ที่2อย่าง

1.ใจ  - ชอบคันไหนระหว่าง รถใหม่สองครั้ง ทนทาน ค่าดูแลน้อย ผ่อนเสร็จขายแล้วดาวน์คันใหม่ยังมีเงินก้อนเหลือหลายแสนไว้หมุน กับ รถหรูดูดีมีชาติตระกูล

2.เงิน - ยุโรป3ล้าน  10ปีผ่านไปเหลือ800-900K(ขาดทุน2ล้านUPรับได้ไหม)/ต้องซ่อม/มั่นใจแล้วหรือว่าจะรักเดียวใจเดียว10ปี(รุ่นใหม่จะมากระชากใจอีก)


 แบบแรกนั้นยืดหยุ่นกว่าเยอะ กับ แบบที่สองนั้นเน้นภาษลักษณ์กว่ามาก แบบไหนที่เหมาะกับคุณ


 ยกตัวอย่าง  ถ้าเป็นผมมีรายได้เดือนละ300,000บาท ตอนนี้
              เทียบCamry กับ Series 5 ผมอาจจะเลือก Series 5  ;D

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
โจทย์กว้างๆแบบนี้ ขอตอบแบบนี้นะครับ

ผมเลือกชื้อยุโรปครับ.  คุณภาพโดยรวมดีกว่าค่อนข้างมาก

ผมใช้e220 หลายปี แล้วยังหนึบแน่นเนียบกว่าaccord ที่ไหม่กว่าชะอีก

สรุปโจทย์นี้

 มียุโรปสักคันใช้10ปีสบาย.
ระหว่างนี้ก้อชื้อ Focus ecoboots มาขับเล่นชิครับ

...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ NarinrachMaisok

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,622
  • Das Auto
ซื้อ eco car เก็บเงินที่เหลือไว้ลงทุนฮะ  ;D :( ;D ;D ;D ล้อเล่นน่ะ
ความชอบ ความพอใจ ความกล้า ความคุ้มค่า ความต้องการ และ ความสัมผัสได้ของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ ไม่มีใครตอบแทนคุณได้หรอก ชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้นแหละครับ คิดไปก็เครียดเปล่า คำว่าแพงหรือไม่แพง มันไม่ได้อยู่ที่ราคารถหรือราคาอะไหล่นะครับ แต่มันอยู่ที่เงินในกระเป๋าเราต่างหาก  ถ้างั้น ซุปเปอร์คาร์ รงไม่ต้องขายกันพอดี ถ้ามองในแง่ความคุ้มค่าของเงินที่จ่ายไป

ออฟไลน์ dekdemo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
ผมรบกวนตั้งคำถามแทรกหน่อยครับ (ลบได้นะครับ)


ผมสงสัย ขอถามเพื่อนๆสมาชิก ที่เคยใช้รถ benz หรือ bmw มือหนึ่งครับว่า รถสองยี่ห้อนี้ หลังจาก 5ปี แล้วใช้ไปจนถึง 10ปี มีค่าใช้จ่ายเมนทะแน้นเซอร์วิส รวมทั้งค่าใช้จ่ายอะไหล่ที่จำเป็นชัวร์ๆว่าต้องเปลี่ยนตามอายุขัย รวมแล้วสรุปเท่าไหร่ กี่บาท? หลังจาก 5 ปีจนถึง 10 ปี ผมอยากทราบครับว่า คุ้มไหมที่จะเก็บรถยุโรปใช้จนถึง 10 ปี หรือ ใช้รถญี่ปุ่น 5ปีเปลี่ยน อยากทราบค่าใช้จ่ายที่เพื่อนๆสมาชิกนึกออก หรือคร่าวๆก็ได้ครับว่ากี่บาท มาแชร์กันครับ