ผู้เขียน หัวข้อ: เมื่อไหร่คนถึงจะเลิกคิดว่ารถเครื่องเล็กซีซีน้อย ไม่แรง  (อ่าน 9929 ครั้ง)

ออฟไลน์ Highway Star

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
พศ นี้แล้ว หลายคนทำไมถึงคิดว่ารถเครื่องเล็กไม่แรงครับ  ผมนี่เจอมาหลายคนมากเลย

ดูนิวปาเจโรอยู่มอเตอร์โชว์ก็ได้ยิน คนคุยกับเซลล์ว่าเครื่อง2.4วิ่งไหวหรือหรือทั้งๆที่ม้าก็มากกว่ายี่ห้ออื่นที่เครื่องใหญ่อีก
คุยกับเพื่อน  เพื่อนก็ถามว่าซีวิคใหม่พันห้าเทอร์โบวิ่งไหวหรือทั้งๆที่ม้ามากกว่า สองพันตัวเก่าอีก
คุยกับคนรู้จัก เค้าก็บอกว่าดีแมค1.9จะบรรทุกไหวหรือทั้งที่จริงๆมันแรงกว่าสองพันห้าตัวเก่า
อีโคคาร์ รุ่น...ไปเขา ดอย...ไหวมั้ย ทั้งๆที่รถสมัยก่อน มิรา แรงน้อยกว่านี้ ก็ไปได้ทั่วไทย


แล้วเพื่อนๆพี่ๆว่าบริษัทรถควรจะสื่อสารยังไงดีว่า รถแรงไม่ได้อยุ่ที่ซีซีเยอะ มันอยู่ที่เทคโนโลยีอย่างอื่นด้วย

ออฟไลน์ No Trespassing

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,616
    • อีเมล์
ก่อนมาร์ชออกมาใหม่ๆ เกือบทุกคนจะบอกว่าเครื่อง 1.2 สามสูบ จะไปมีแรงอะไร เดี๋ยวก็พัง เครื่องร้อน วิ่งทางไกลไม่ได้ รอบจัดบลาๆๆๆๆๆๆ

โดยไม่คิดว่าโลหะวิทยามันก้าวไกลมาก จนคนไม่รู้ เพราะยึดติดกับเครื่องใหญ่ 1.5 - 1.6 ลิตร

แล้วทุกวันนี้เป็นไงละ มาร์ช / มิราจ วิ่งทั่วไทย ไม่เห็นมีใครบอกเครื่องพังระหว่างทางเลย (ถ้าคุณท่านไม่ซัดชนิดจมเรดไลน์นะ) วิ่งขึ้นเขาสบายๆ

ถ้าจะให้เลิกคิดได้ ต้องพัฒนาจิตใจของคนก่อนครับ

ออฟไลน์ Abzolute

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,934
  • สวัสดีคนรักรถยนต์
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

ออฟไลน์ HHHsung

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,385
คนเราอ่านหนังสือน้อยลงทุกวันๆ แปลกอะไรที่ยังใช้ประสบการณ์อันน้อยนิดมาวิจารณ์

เทคโนโลยีมันก็ก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ หล่ะครับ คนที่อยู่กับที่ไม่ใช่ว่าอยู่กับที่ เพราะโลกมันเดินหนีไปแล้ว

ปล. มันก็เหมือนเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่ clock สูงกว่าใช่ว่าประสิทธิภาพจะดีกว่า

มันต้องดูที่เทคโนโลยี หรือ สถาปัตยกรรมการออกแบบ ที่ใช้มากกว่าครับ

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 31, 2016, 13:35:54 โดย HHHsung »

ออฟไลน์ O_o"

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,376
พาไปลองขับเลยครับ จะได้รู้แจ้งสักที  :D :D :D จะได้ออกมานอกกะลา เจอโลกภายนอกกันบ้าง

ออฟไลน์ Alcatraz

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,608
    • อีเมล์
เพิ่มให้ BMW I8 1500cc 3สูบ หรือจะ Tesla เลย 0cc

ออฟไลน์ ktonja

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 321
ผมก็ไม่ค่อยได้ศึกษา รถเก๋ง 1.5 เทอร์โบ ก็น่าจะแรงอยู่ โบทำงานตั้งแต่รอบต่ำ 2,000 รอบ

ถ้าผมจะซื้อ dmax 1.9 บรรทุกของประมาณ 1-2 ตัน ขึ้นทางชัน ขึ้นเขา บรรทุกไหวใช้มั้ยครับ อยากรู้จากผู้ที่ใช้จริงๆ ผมก็ยังรู้สึกกังวลแกมไม่แน่ใจอยู่เหมือนกัน ^ ^"

ปล.กะว่าต้นปีหน้าจะเปลี่ยนรถส่งของใหม่

ออฟไลน์ Chalongs

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 120
    • อีเมล์
รถคันเเรกของผมที่เก็บเงินซื้อเองเป็น Nissan Sentra 4 ประตู เครื่อง 1500 cc คาร์บูเรเตอร์ แรงม้ามีไม่ถึงร้อย
สมัยนั้นก้อวิ่ง กรุงเทพ-ภูเก็ต อยู่ปีละสองครั้ง
วิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นอีสาน ปีนเขาปีนดอย ก้อไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ใช้ประจำในกรุงเทพ วิ่งทางด่วน ซัด 180 ก้อไม่เห็นจะพัง
มาดูรถสมัยนี้ เครื่องเล็กๆอย่างพวกcity car เครื่องพันสอง วิ่งกระฉูดกว่ารถคันที่ผมว่าอีก ทำไมจะวิ่งทั่วไทยไม่ได้

ออฟไลน์ Naeky

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 160
    • อีเมล์
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์

ออฟไลน์ yoyomadz

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 110
บางคนแค่เหน็บแนม
บางคนแค่กังวล
จะเปลี่ยนความคิดเค้าได้ คงต้องให้ไปลองด้วยตัวเองครับ

ออฟไลน์ kris-lack

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,763
แล้วที่เขาพยายามเปรียบเทียบว่าให้ซื้อเครื่องใหญ่ดีกว่าเครื่องเล็กเพราะเวลาวิ่งทางใกลขับสบายกว่า อันนี้จริงมั้ย??
เช่น คนแถวบ้านมักจะบอกว่าเอาวีโก้ 3.0 ดีกว่า 2.5 ขับทางใกล-ขึ้นเขลงห้วย สบายกว่า

ออฟไลน์ MxJeeP

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 73
    • อีเมล์
ทุกคนไม่ได้รู้เหมือนกันหมดนะครับ
ถ้าเรารู้ก็แนะนำกันไป เพราะชอบใช้ cc วัดกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
เหมือนผมซื้อมือถือ ผมก็ซื้อ iphone ตามกระแส ให้ผมไปเทียบกับยี่ห้ออื่นคง งง เหมือนกัน 55+
No pain No gain !!

ออฟไลน์ Smith686

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,952
    • อีเมล์
รถคันเเรกของผมที่เก็บเงินซื้อเองเป็น Nissan Sentra 4 ประตู เครื่อง 1500 cc คาร์บูเรเตอร์ แรงม้ามีไม่ถึงร้อย
สมัยนั้นก้อวิ่ง กรุงเทพ-ภูเก็ต อยู่ปีละสองครั้ง
วิ่งขึ้นเหนือ ขึ้นอีสาน ปีนเขาปีนดอย ก้อไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ใช้ประจำในกรุงเทพ วิ่งทางด่วน ซัด 180 ก้อไม่เห็นจะพัง
มาดูรถสมัยนี้ เครื่องเล็กๆอย่างพวกcity car เครื่องพันสอง วิ่งกระฉูดกว่ารถคันที่ผมว่าอีก ทำไมจะวิ่งทั่วไทยไม่ได้
    แรงม้าต่ำกว่าร้อยขึ้นเขาลำบาเหมือนกันนะ  เวลาเจอเขาสูงๆ ทางไม่ชันเท่าไร  ผมเคยกดได้สุดๆแค่ 70-80 ก็มี

ออฟไลน์ CLASS!C

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 26
XC90 T8 Plug in Hybrid เบนซิน 2.0 (4สูบ) โทษน่ะครับ 400 กว่าตัว เหอะๆ

ออฟไลน์ MugenRR

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 25
    • อีเมล์
มันขึ้นอยู่กับ segment และค่ายรถด้วยป่าวครับ <<อันนี้ผมเดานะ แต่รถสมัยนี้ชอบลงท้ายด้วยคำว่า turbo เลยบอกไม่ถูก

เพราะถ้าจะให้เทียบ รถที่ผมเอามาแต่ง civic fd 1.8 ปี2010 พอเหยียบเกิน 180 มันก็เริ่มแกว่งๆกับสั่นแล้วละครับ แถมกว่านางจะขึ้นถึงเอาเรื่องอยู่

แต่ถ้าขับ Cls250 เหยียบแล้วอาการสั่นไม่ค่อยมีครับเมื่อใช้ความเร็วสูง ขับนิ่งดี แถมไม่ต้องเข้นเครื่องเหมือน FDเลย

ส่วนมากถ้าจะเอาแรงจัดๆก็ต้องแต่งจูนเพิ่มเอาป่าวครับ แต่เครื่อวมันก็ยิ่งเสื่อมสภาพเหมือน FDที่ผมเอามาแต่ง

ออฟไลน์ dekdemo

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 537
แนะนำให้ไปลองขับครับ แล้วทุกอย่างจะจบ

ออฟไลน์ tnp_super

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,927
    • อีเมล์
ก็สมัยก่อนวิทยาการทางความคิดยังไม่บรรเจิดเหมือนสมัยนี้ ดังเช่นรถกระบะสมัยก่อนมีแต่จะเพิ่มซีซีขึ้น เช่น 2500 -2800- 3000- 3200  เกทับกันว่าเครื่องใหญ่กว่าแรงกว่า ผู้บริโภคเลยติดว่าเครื่องซีซีมากจะแรงกว่าและภาครัฐยังไม่มีการเข้มงวดด้านมลพิษมากนัก พอมาปัจจุบันใครจะทำเครื่องเล็กมาแข่งต้องโฆษณาให้หนักเพื่อล้างความเชื่อเดิมๆที่ค่ายรถฝังหัวให้ผู้บริโภค เพราะโดนภาษีและค่ามลพิษบังคับให้ต้องทำเครื่องเล็กลง ทีรถอีแต๋นเครื่องหกร้อยซีซีสิบกว่าแรงงม้ายังแบกน้ำหนักสองสามตันสบายเนอะ

ออฟไลน์ NINENOI

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 5,732
  • Nine & Knight
ถ้าคนรู้กันหมดก็ไม่เรียกว่าเทคโนโลยีใหม่ยังไงละครับ อย่างทรัม์ไดฟผมไม่รู้หรอกว่ายี่ห้อไหนดีต้องดูยังไงผมเอาที่ความจุเยอะๆราคาถูกๆแค่นั้นเอง แล้วก็น่าจะเป็นหน้าที่หลักของผู้ผลิตที่ต้องมาทำความเข้าใจกับลูกค้านะแต่ตัวแทนที่เข้าถึงโดยตรงกับลูกค้าอย่างเซลล์หลายๆคนก็ยังไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับของที่จะขายซักเท่าไหร่เลยจะคาดหวังให้คนทั่วๆไปเข้าใจกันเองคงจะเป็นเฉพาะกลุ่ม
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น

ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,081
ถ้าว่ากันที่พื้นฐานของเครื่อง จริงครับ ซีซีน้อยกว่า ก็แรงสู้ซีซีมากกว่าไม่ได้อยู่แล้ว อันนี้พูดถึงภายใต้พื้นฐานเดียวกันนะครับ

เครื่อง 2.4 ของมิตซู ถ้าอยู่ในรถนั่ง แน่นอนมันวิ่งดี เพราะเทอร์โบบูสต์มาเต็ม แต่กว่าจะได้มาก็ต้องรอรอบกันพอสมควร

ดีแมก 1.9 บรรทุกหนักๆ ขึ้นเขา ยังไงก็สู้ 2.5เดิมไม่ได้ครับ แต่ถ้าวิ่งตัวเปล่า 1.9ก็ไม่ต่างกับ2.5ครับ

แต่ในชีวิตจริง อัตราเร่ง มันไม่ได้อยู่ที่เครื่องอย่างเดียว มันต้องดูอัตราทดเกียร์ การจูนเครื่อง อะไรอีกหลายๆอย่างครับ

ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,081
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์

ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า

ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว   2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport  ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ  ไม่รวมไมล์โม้นะครับ

แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย

ออฟไลน์ Naeky

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 160
    • อีเมล์
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์

ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า

ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว   2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport  ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ  ไม่รวมไมล์โม้นะครับ

แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย

ผมลืมเรื่องไปเพี้ยนไปซะสนิท ^^ แต่ก็อย่างที่พี่บอกเลยครับ 1.8+CVT ตัวนี้ไม่ธรรมดาเหมือนกันห่างกันราวๆ 200 CC ถือว่าเยอะเหมือนกันยิ่งถ้ากางสเปค M3 210Nm 165hp กับ Altis 177Nm 141hp ได้อัตราเร่งออกมากลับสูสีใกล้เคียงกันเลยทีเดียว

ออฟไลน์ Pegasus7700

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,815
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์

ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า

ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว   2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport  ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ  ไม่รวมไมล์โม้นะครับ

แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
มาสด้า3 เดิมๆ ระยะ2-3กิโล  ตามอัลติสไม่ทันหรอกครับ

วัดกันปลายเอา และอาจจะไม่ทันนะ 

รอผู้ที่เคยลองมาแชร์อีกเสียง
...ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป...

MERCEDES BENZ W212 '12
FORD FOCUS 2.0 Gdi '13
HONDA Civic RS '20
VOLVO XC60 Hybrid Inscription '19
FORD EVEREST 2.0 Bi Turbo '22

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,478
มันก็ถูกครับ...แรง  สำหรับมัน

    ดังนั้นเขาจึงเปรียบเทียบความแรง/น้ำหนักรถด้วย  สมมติม้า แค่ร้อยเดียว รถหนักพันโล  ก็ 1 ม้า/10 โล   แค่ลดน้ำหนักไปให้เหลือ  1 ม้า/9 โล  มันก็ขับได้แรงกว่าอยู่แล้วครับ

       

ออฟไลน์ toffyearn

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 628
ซีซีน้อย ไม่แรงจะไหวเหรอ
ผมมองว่า ซีซีน้อย ให้แรงดี ต้องเค้นเยอะ ความร้อนก็สูงตาม แต่อย่างว่าสมัยนี้เทคโนโลยีช่วยได้มาก ระยะยาวจะเป็นยังไง บ้านเรายิ่งเมืองร้อน
ญี่ปุ่นใช้รถ 5x.xxx โลก็ว่าเยอะแล้ว พี่ไทยใช้เฉลี่ย 4 เท่า ต้องรอดูคับ

ออฟไลน์ -Brian

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,081
มันก็ถูกหนิครับ ว่าเครื่องเล็กไม่แรง 2.4 กับ 2.8 แน่นอนว่า 2.8 ทำให้แรงได้มากกว่าอยู่แล้ว

แต่มันอยู่ที่การจูนมากกว่าเปล่าครับ


1.6 ออติสก็ไม่ได้แรงเท่า 2.0 มาสด้า มันแล้วแต่คันครับ มันก็ไม่แปลกที่คนจะไม่รู้ ถ้าไม่ได้ดูไม่ได้ศึกษา ความจุในกระบอกสูบก็บ่งบอกได้แบบมีนัยยะสำคัญ คนทั่วไปคิดแบบนั้นผมมองว่าไม่แปลกครับ เรารู้เราก็แนะนำแค่นั้นแหละครับ

แต่ altis 1.8 ดันแรงแซง 2.0 ของ Mazda 3 อ่ะสิครับ 9.57 vs 10.24 ถึงดูไม่เยอะแต่ก็ห่างกันอย่างมีนัยสำคัญทั้งเกียร์และเครื่องยนต์

ทีแรกผมก็คิดว่าaltis แรงกว่า แต่พอได้ขับจริง ยังไง2.0 ก็กินขาดครับ ยิ่งปลายยิ่งไหลกว่า

ที่altis 1.8 มันดูเร็วเพราะ 1.ล้อ 16 นิ้ว   2.ไมล์โม้ 7%
ลองไปดู 1.8 Esport  ได้ 10.05 วิ (ล้อ 17นิ้ว) ช้ากว่าตัวล้อ 16 เกือบ 0.5วินาที
สมมติให้มันได้ล้อ18นิ้ว คงมีประมาณ 10.5-10.6 วินาทีครับ  ไม่รวมไมล์โม้นะครับ

แต่ถึงยังไง ผมก็ทึ่งกับ 1.8บล็อคนี้ กับเกียร์ CVT ของ Aisin ลูกนี้อยู่ดีครับ ขับดีๆไล่ 2.0 ได้สบาย
มาสด้า3 เดิมๆ ระยะ2-3กิโล  ตามอัลติสไม่ทันหรอกครับ

วัดกันปลายเอา และอาจจะไม่ทันนะ 

รอผู้ที่เคยลองมาแชร์อีกเสียง

ครับผม ผมก็แชร์ในมุมที่ผมเคยลองขับ และดูในคลิปคุณจิมมี่ครับ
ท่านอื่นๆอาจมีประสบการณ์ต่างกัน ก็ลองแชร์กันดูครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าเราต้องไปสนใจความคิดคนอื่นทำไม
เราไม่ได้มีหน้าที่อะไร ต้องไปเปลี่ยนแปลงความคิดคนอื่น

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ผมก็ว่ามันไม่แรงนะ แต่พอใช้งานตามสภาพรถ

เอามาร์ชไปขึ้นเขา เหนื่อยเหมือนกัน คิดว่าครั้งเดียวพอ แต่พอต้องไปด้วยมาร์ชอีก เรีบนรู้จักหวะ ทำใจกับมัน เออ ไม่แรง แต่ไปได้นะเริ่มชินก็ไม่เหนื่อย

แต่พอโดดกลับมาขับคันอื่นที่เครื่องโตกว่า เออ มาร์ชอืดเนอะ ... 

ออฟไลน์ Akara

  • Full Member
  • ***
  • กระทู้: 286
    • อีเมล์
เอาแค่ccน้อยอย่างเดียวไม่แรง ถูกต้องแล้วครับ แรงกว่าซิประหลาด

ถ้าบวกตัวแปรอื่น อันนี้อีกเรื่อง


ออฟไลน์ Carrera

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,340
ถ้าอิงตามหลักพื้นฐาน ... ซีซีน้อยไม่แรงเท่าซีซีใหญ่ ที่เทคโนโลยีเท่ากันครับ

แต่เทคโนโลยีมันพัฒนาขึ้น จน CC เล็ก  แรงเท่า CC ใหญ่(สมัยก่อน)   ส่วน CC ใหญ่ๆ (3000 Turbo นี่แรงม้าป้วนเปี้ยน 400) กลายเป็นโครตแรงไป

========

แต่เท่าที่คนไทยเข้าใจผิด ๆ คือคิดว่า ซีซีน้อย เทคโนโลยีใหม่ๆ มันแรงไม่เท่า CC เยอะสมัยก่อนนั่นละที่ผมว่าคิดผิดๆน่ะ

แต่สงสัยว่ารถเทอร์โบนี่  ถ้าวิ่งขึ้นเขาจริงๆ โอเค แรงมันอาจจะพอ แต่ถ้าขับขึ้นยาวๆต่อเนื่องนานๆจะมีปัญหาเรื่องความร้อนที่สูงกว่ารถเครื่อง NA หรือเปล่า อันนี้ผมไม่แน่ใจ (พวกรถกระบะ ไม่นับ เพราะพวกนี้มันดีเซล ความร้อนเครื่องยนต์ กำลังอัดมันต่ำกว่าพวกเบนซินที่เค้นกันหนักๆ)  ขนาด NA ยังร้อนพอสมควรเลย  รวมถึงระยะยาว ที่อุณหภูมิในห้องเครื่องสูงกว่า  วัสดุต่างๆ จะทนทานเหมือน NA หรือไม่
(แน่นอนว่าออกแบบให้ดี ให้ทนทานได้  แต่ค่ายรถมันทำหรือเปล่า หรือแอบลดต้นทุนส่วนนี้)

Nonlamer

  • บุคคลทั่วไป
อยู่ที่เวลาครับ เด๋วก็เปลี่ยนเองแหละ ค่ายรถแต่ละค่ายก็จะค่อยๆดันเทคโนโลยี downsizing เข้ามา แต่ละค่ายก็ต้องอธิบายให้ลูกค้ารู้ว่าเพราะอะไรจนคนทั่วไปเข้าใจแพร่หลายเองนั่นแหละ ไม่เห็นต้องไปคิดแทนเลยครับ เรารู้เราก็บอกเขา
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 31, 2016, 16:13:42 โดย Nonlamer »