พอดีเคสเดียวกันกับท่านเจ้าของกระทู้ เป็นรถที่สนใจอยู่ครับ ผมได้ลองขับหลายครั้งทั้งของเพื่อน (Toyota86) และ BRZ M/T A/T รวมทั้ง WRX M/T A/T demo ของ Motor Image รวมทั้ง MX-5 NB และ ND A/T (Mazda Thailand) รถคันเก่าก็ใช้ WRX GD อยู่หลายปี
ถึงแม้ว่า BRZ จะช้ากว่าและดึงน้อยกว่า WRX แต่ผมชอบ BRZ มากกว่าในเรื่องของความสนุกในการขับขี่ครับ ผมคิดว่าคนที่จะชอบ BRZ จะต้องรู้จักใช้รอบเครื่องและชอบเล่นเกียร์เพื่อรีดกำลังที่มีให้ในช่วงแคบๆของเครื่องครับ 4500-7000 รอบ มันมีอยู่แค่นั้น นอกช่วงนี้มันจะเหี่ยวๆหน่อย ถึงต้องรู้จักเล่นกับเกียร์ พวก Rev Matching, Heel and Toe เพื่อให้เครื่องมันอยู่ใน power band ต้องใช้ถึงจะสนุกกับมัน นอกช่วงกำลังมันก็ไม่ได้อืดอาดอะไรนะครับ เพียงแต่มันเร็วพอๆกับรถบ้านๆเครื่อง 1.8-2.0 ประมาณนั้น อัตราเร่ง 0-100 ทาง HLM เทสท์ไว้ที่ 7.87(M/T) 8.84(A/T) เทียบกับซีดานฝีเท้าจัดอย่าง 328i 7.59 (A/T) หรือ 320i 8.58 (A/T) ก็ไม่ได้เลวร้าย แต่ต้องเล่นรอบ ต้องบีบเค้นถึงจะได้
ส่วนเรื่องการเลี้ยว ควบคุม การทรงตัว road feelingของพวงมาลัย ตำแหน่งและท่านั่ง ผมว่าทั้งหมดทำให้มันขับสนุกกว่า WRX มาก เพราะรถมันคุยกับเราอย่างชัดเจน ในขณะที่ WRX จะออกเนิบๆชาๆ และพูดจาไม่ชัดเจนเท่า BRZ และที่สำคัญที่สุด WRX & STI = Understeer ขณะที่ BRZ = Oversteer จุดนี้แหละครับที่มันเฉือนรถทั่วๆไป แม้กระทั่งรถขับหลังแบบบ้านๆจากยุโรป(Series 3 , C-Class etc...) ซึ่งถึงขับหลังแต่ก็ไม่ได้เซ็ทมา ให้ oversteer แบบนั้น ส่วนตัวผมเวลาขับจะรู้สึก BRZ มันเป็นเหมือนครูฝึก ที่ช่วยสอนให้ผมเป็นนักขับที่ดีขึ้น สอนให้รู้จักการเลือกเกียร์ การเลือกความเร็วที่จะเริ่มเข้าโค้ง การเลือกไลน์ การบาลานซ์นำ้หนักขณะเข้าโค้ง การเดินคันเร่งในโค้ง การแก้อาการ Under และ Oversteer น้อยคันสำหรับรถสมัยนี้ที่มีแต่ตัวช่วย (ASC, TRC, VSD, VDIM, PASM ฯลฯ) คั่นกลางระหว่างรถกับเรา
ส่วนเจ้า MX-5 ND ก็ขับสนุกครับ แต่Mazda Thailand ดันเอาเกียร์ออโต้มาขาย ไปลองมาแล้วเซ็งมากๆ เกียร์มันดีแต่ไม่ใช่สำหรับรถประเภทนี้ และเสียงรบกวนในห้องโดยสารดังมากๆๆ มากจนรับไม่ได้ อากาศเมืองไทยก็ร้อน สกปรกและอันตรายเกินกว่าจะเปิดประทุนได้บ่อยๆ หรือนานๆ ส่วนราคาวิ่งไป 2.7 ล้าน โอ้แม่
สรุป รถดีที่โดนใจคนกลุ่มแคบๆ เพราะคนส่วนใหญ่มักจะชอบรถดึงๆ อัตราเร่งๆดีๆโดยที่คนขับไม่ต้องคาดคั้นอะไรมาก (ประมาณกดคันเร่งอย่างเดียวรถพุ่งพรวด ไม่ต้องชงเชนจ์เกียร์อะไรให้วุ่นวาย) และน้อยคนที่จะชอบความสนุกในโค้งมากกว่าอัตราเร่งที่หวือหวาในทางตรง และก็ยิ่งน้อยคนที่จะชอบความสนุกท้าทายในแก้อาการของรถที่ออกแนว oversteer
สรุป ของ สรุป ไปลองขับครับ สิบตาเห็น ไม่เท่ามือคลำ จะได้รู้ว่าคาแรคเตอร์ของรถมันตรงใจเราหรือไม่
+1 เลยครับ เป็นชนกลุ่มน้อยจริงๆเลยผมเนี่ย
สอบถามนิดนึง ว่า MX5 NB ตอนนี้ยังน่าเล่นไหมครับ สำหรับคนที่ชอบรถขับหลัง น้ำหนักเบาๆ เอามาฝึกสไลด์ฝึก Oversteer เล่น (รถคันที่สอง เพราะมีคันหลักเป็น Altis แล้ว) หรือ RX8 นี่น่าเล่นไหมครับ เห็นว่าแฮนลิ่งน่าจะดีกว่า รอบจัดกว่า (กินน้ำมันคงไม่ใช่ปัญหา เพราะคงไม่ได้เอาไปวิ่งทุกวัน ใช้แค่วันสนุกๆ หาเวลาไปลงสนาม ฝึก Oversteer)
S2000 ผมชอบหน้าตาน่ะ แต่เท่าที่ศึกษามา มันเป็นรถที่ไม่ค่อยจะชอบ Oversteer นัก คือเร็ว เกาะจริง แต่ถ้าหลุดก็ไปเลย (เท่าที่ดูมาหลายๆรีวิว)
=======
คนใช้รถก็มีหลายแบบน่ะ
1.คนธรรมดา
2.ชอบขับรถ
2.1 ชอบ GRIP ชอบรถเกาะๆหนึบๆไปกับโค้ง
รถพวกนี้ก็ AWD GTR , WRX STI , EVO
2.2 ชอบ Drift ชอบ Oversteer สนุกกับการไถลไปกับโค้ง หรือทำ Scandinavian Flick
พวกนี้ GT86 BRZ ,M5 , M4 , M2 ,พวกบรรดา AMG ,LFA ,R8 (ขับสี่แต่ชอบไถล) , MX5
2.3 ชอบรถอัตราเร่งแรง กดเป็นมา กดแล้วพุ่งทุกรอบความเร็ว ดวลทางตรงแล้วไม่แพ้ เจอท้าตามไฟแดง ทางด่วนเป็นต้องลุย (สายโบ)
มักเป็นรถกลุ่มเดียวกับพวก 2.1
2.4 ชอบรถกดแล้วควบคุมได้ แรงได้แต่ต้องไม่มากไป ต้องยังคุมได้สบายๆ กดสุดก็ไม่น่ากลัวมาก (สาย NA ลากรอบ)
มักจะคู่กับ 2.2
ส่วนตัวผม เป็นกลุ่ม 2.2 + 2.4 ครับ หลังๆรถที่ออกมา ติดหอย ติดขับสี่ ระบบ Diff ซับซ้อนวุ่นวาย โอเค มันทำเวลาไวแหละ แต่บางทีมันก็ขาดความสนุก ยังดีที่หลังๆ ค่ายรถพอเข้าใจ เริ่มทำรถแนวนี้มาให้ชนกลุ่มน้อยบ้าง (M2 GT86 BRZ)