เริ่มต้นพื้นเพผมขับมาสด้ามาทั้งชีวิตของผมครับ มีขับMu-X 3.0บ้าง และกะบะเก่าๆเข้าสวน
ก่อนจะซื้อผมอ่านรีวิวพอสมควรครับ และผมจะข้ามเหตุผลที่ผมเลือกHondaทำไมไม่เลือกToyotaไปนะครับ
1.ภายนอก
คงไม่มีใครที่จะบอกว่าAccord Hybrid G9 ตัวนี้ ดูไม่สวยแน่ๆครับ เพราะเพียงแค่เข้าไปที่ศูนย์เห็นภายนอกยืนดู ทำไมมันช่างดูมีเสนห์ขนาดนี้ ไฟด้านหน้าแบบ Full LED สวยและลงตัวกับกระจังหน้ามาก รวมถึงไฟตัดหมอกด้านล่างแบบ LED ช่างเข้ากันเหลือเกิน ลายเส้นด้านข้าง ก็คมชัดลากไปยังไฟท้ายตัวใหม่ที่ทำให้นึกถึง BMW F10 เหลือเกิน คือซื้อไปแทบไม่ต้องทำอะไรก็สวยมากๆครับ ด้านบนเสาอากาศแบบShark Fin แบบBMW แล้วภายนอก Accord G9 MC ตัวนี้แบบไร้ที่ติเลยครับ คะแนน 10/10
2.ภายใน
ต้องยอมรับนะครับว่าผมขับรถมาสด้ามาตลอดตั้งแต่มาสด้า3 BL และ CX-5 มาก่อน Accord Hybrid TECH ตัวนี้ทำให้ผม ว๊าววว มากครับ ทั้งเรื่องมาตรวัด ที่ดูไฮเทค และเบาะหนังสีน้ำตาล(รถผมสีดำครับ) มันข่างดูสวยงามอลังการสุดๆครับ ตรงคอลโซลกลาง มีจอสองจอ ตัวแรกเป็นเครื่องเสียง7"อยู่ตรงกลาง ซึ่งทัชสกรีนตอบสนองได้ดีมากครับไม่หน่วงจนน่ารำคาญ ด้านบนจอแสดงข้อมูล การขับขี่และเครืีองเสียง ระบบโทรศัพ BlueTooth ต่างๆ ช่างทำมาได้สวยงามครับ
พวงมาลัยแบบ4ก้านหุ้มหนัง และลายไม้ด้านบน จับถนัดมือครับ ความรู้สึกจะแข็งๆหน่อยไม่เหมือนมาสด้าที่นิ่มกว่า พวงมาลัยสามารถปรับได้4ทิศแบบรถทั่วไปและปรับมือ ของแคมรี่เป็นปรับไฟฟ้าและดึงกลับอัตโนมัติเมื่อดับเครื่อง เบาะหน้าสองด้านเป็นปรับไฟฟ้าพร้อมMemได้สองตำแหน่งที่ด้านคนขับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าผมเป็นคนตัวใหญ่ครับ สูง190 หนัก118 สำหรับผมรู้สึกเบาะของมาสด้า3นั่งสบายกว่า ไม่เมื่อยคอเท่าAccord แต่สิ่งที่ Accord เหนือกว่าคือความกว้างของเบาะ และความนิ่ม แต่พอปรับเบาะแล้วก็นั่งสบายครับเพราะผมอาจยังไม่ชินกับรถใหม่ก็ได้ เบาะหลังมีความนั่งสบายพอๆกับแคมรี่ แต่ความสบายคงสู้แคมรี่ที่ปรับเอนหลังไม่ได้ แต่โดยรวมก็นั่งสบายครับที่พักแขนตรงกลางรู้สึกว่ามันต่ำไปเล็กน้อยเทียบกับแคมรี่ นอกนั้นถือว่ารับได้ครับ วัสดุภายในถือว่าตามสไตล์ฮอนด้านะครับ คือมองผ่านๆสวยครับแต่เคาะเมื่อไหร่ดังทันทีเพราะหุ้มมาบางส่วนเท่านั้นนอกนั้นเป็นพลาสติกฉีดลายหนังมาแทน บริเวณคันเกียร์เป็นสีดำPiano Blackตัดกับสายไม้ ทำให้ดูแล้วไม่แก่จนเกินไปครับ ส่วนเบาะสีน้ำตาลตัวนี้มองแล้วทำให้รถภายในดูดีขึ้นเป็นกองติตรงที่พักแขนตรงกลางน่าจะหุ้มสีเดียวกันให้หมดครับโดยรวมให้คะแนน 8/10
3.การขับขี่
ขอบอกว่าผมอ่านรีวิวมาเยอะมากแต่ส่วนใหญ่จะเป็นตัวก่อน MC ครับ ผมเห็นข้อเสียที่บอกมากันหลักๆคือ
1.เสียงล้อหรือยางบดถนนดัง ข้อนี้ในตัวMCตัดไปได้เลยครับ มันเงียบมากจากยาง Yokohama Advan DB ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความเงียบอยู่แล้วแต่แลกกับการเกาะที่ลดลงหน่อย
2.เครื่องสั่นพวงมาลัยสั่น ไม่มีให้เห็นเลยครับเรื่องนี้ผ่านไปเลย
3.เสียงมอเตอร์และเสียงเบรคที่ดังวี้ๆ ผมพยายามฟังครับ ได้ยินนิดเดียวเท่านั้น แค่เปิดเพลงฟังก็ไม่ได้ยินมันแล้วครับ
4.พวงมาลัยเบาที่ความเร็วสูง ผมว่ายังไม่น่าเกลียดมากครับ ยังพอคุมได้อยู่แค่ต้องมีสมาธิหน่อยในความเร็วสูงโดยรวมผมว่ายังไม่เบาขนาดรับไม่ได้นะ
5.ช่วงล่างที่นิ่มแต่ตึงตัง อันนี้ผมยอมรับครับว่าจริงมากๆ ช่วงล่างของ Accord Hybrid MCตัวนี้ แย่กว่ามาสด้า CX-5ทุกประการครับ ที่ดีกว่าคือความนุ่มในช่วงความเร็วต่ำ แต่ความเร็วสูงมีการเด้งของท้ายให้เห็นบ่อยๆครับ จั๊มคอสะพานผมต้องเบาครับกลัวท้ายจะปัดเอา เพราะความนิ่มมันดูน่ากังวลมากครับ
เรื่องความเร็วและฟีลในการขับผมขอบอกครับ อัตราเร่งดีที่สุดในกลุ่มนี้ครับโดยไม่ต้องสงสัยครับ 0-100น่าจะ7วิกว่าๆได้ครับ 80-120 นี่ไม่ได้จับครับแต่ขึ้นไวมาก ที่แปลกๆคือตัวเกียร์ไม่มีรอบให้เห็นทำให้ความรู้สึกแปลกๆครับ อารมณ์การขับเหมือนขับรถไฟฟ้าที่เร็วๆเครื่องทำงานเงียบมากๆๆครับ แทบจะไม่รู้สึกเลย
เรื่องความแรงใครที่ชอบความแรงแบบในเมืองออกตัวไฟแดงนำหน้าโด่ง ตัวนี้ตอบโจทย์มากๆครับ แต่ปลายจะตันที่190 น้อยกว่า ตัว2.4อยู่นิดหน่อย เอาจริงๆความเร็วขนาดนั้นคงไม่ค่อยได้ใช้กันบ่อยๆ การตัดเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าแทบไม่รู้สึกอะไรครับ ต่างแค่เสียงของเครื่องยนต์จะดังกว่าแบบรู้สึกได้ครับ
การเข้าโค้งกรุณาเบาครับ ท้ายปัดเอาง่ายๆ อารมณ์เหมือนขับรถเล็กที่เครื่องแรงๆ ส่วนตัวผมขับรถช้าครับเลยไม่ค่อยมีปัญหา เทียบกับมาสด้าที่ผมเคยใช้ไม่ผ่านครับ เบรคดีครับ มีหน่วงหน่อยๆอาจเป็นฟีลของHondaที่เบรคบ่อยๆทำเอาผมเมารถได้ครับ อาจเป็นเพราะความนิ่มของรถ โดยภาพรวม การขับขี่ เหมาะกับในเมืองความเร็วที่เหมาะสม0-140กำลังดีครับ เกินกว่านั้นต้องมีสมาธิมากพอสมควรครับ โดยรวมถือว่าใช้งานทั่วไปดีครับ แต่ขาซิ่งควรเปลี่ยนโช๊คครับ
คะแนน 7/10
4.Option
ระบบที่ให้มาโดยรวมถือว่าใช้ได้จริงทุกอย่างครับ โดยเฉพาะระบบHonda Sensing ทั้งหลายได้ใช้งานจริงครับ
1.ACC(Adaptive Cruise Control) คือระบบCruise Control ที่ฉลาดกว่าปกตินั่นเอง คือการทำงานเมื่อเราเซ็ทความเร็วไว้ถ้ามีรถแล้วมาตัดหน้าเราหรือเราไปจ่อท้ายรถคันหน้าระบบจะลดความเร็วให้เราอัตโนมัติ แชะจะเพิ่มความเร็วให้เราเองเมื่อรถคันหน้าทิ้งระยะห่างไปตามที่เรากำหนด ผมทดลองใช้มาแล้ว คือดีอ่ะ สบายมากเลย สามารถเลือกระยะห่างระหว่างรถคันหน้าได้5ระดับ ถือว่าเป็นระบบที่คนขับทางไกลได้ใช้บ่อยๆครับ
2.LKAS(Lane Keeping Assit System) ระบบช่วยเหลือเมื่อรถออกนอกเลนกลาง หรือเส้นประกลางถนนครับ ระบบสามารถเปิดปิดได้จากพวงมาลัยครับ ถ้าใช้ในเมืองผมแนะนำให้ปิดครับ เนื่องจากในเมืองแอร์อัดจะมีมอเตอร์ไซต์มาเลนซ้ายบ่อยๆ ระบบนี้จะบังคับเราให้หักเข้าเลนมาทำให้อาจไปเฉี่ยวชนด้านซ้ายเอาง่ายๆ แนะนำให้ใช้เวลาถนนโล่งๆ โดยเฉพาะทางไกล คือว่าแก้ง่วงได้ดีครับ ระบบจะเตือนโดยการสั่นพวงมาลัยก่อน ก่อนจะหักพวงมาลัยเข้ามาเอง ยกเว้นเราจะเปิดไฟเลี้ยวก่อนจะข้ามเลน ระบบไม่ไม่เตือนครับ ถือเป็นระบบที่ดัดสันดานคนขับได้ดีระดับหนึ่ง
3.RDM With LDW(Road Departure Mitigation with Lane Departure Warning) ระบบกันรถออกนอกถนน หรือเส้นข้างถนน ระบบนี้ทำงานร่วมกันกับ LKAS แต่จะกับที่เส้นทึบแทน โดยการทำงานจะคล้ายๆกับLKAS แต่ระบบจะลดความเร็วและเบรคให้เมื่ออันตราย แทนการหักพวงมาลัยเข้ามาครับ เป็นระบบที่ช่วยกันการหลับในได้ดีครับ แต่ไม่อยากใช้เท่าไหร่ครับ แต่โดยรวมถือว่าดีครับ เพราะอุบัติเหตุถนนใหญ่ส่วนมากจะมาจากหลับในนี่ล่ะครับ
4.CMBS(Collision Mitigation Braking System) ระบบเตือนการชนด้านหน้าและตรวจจับคนเดินถนนด้วยเรดาร์พร้อมช่วยเบรค อันนี้ผมไม่กล้าลองครับแต่เคยเจอเตือนขึ้นมาสองสามครั้ง โดยลักษณะการเตือนจะมีไฟส้มกระพริบขึ้นมาบริเวณหน้าหน้ากระจกคนขับ และพวงมาลัยจะสั่นหนักมาก ทำให้ต้องเบรคครับ แต่ถือว่าดีกว่าไม่มีครับ เห็นระบบจะเบรคให้อัตโนมัติถ้ารู้สึกว่าอันตรายครับ แต่คงใช้ในความเร็วต่ำๆแบบในเมืองมากกว่าครับ
4.Honda LaneWatch ระบบแสดงภาพด้านซ้ายขนะทำการเลี้ยวซ้าย ระบบนี้ถือว่าเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้เลยครับ โดยตัวกล้องจะฝังอยู่ในกระจกมองข้างด้านซ้าย และทำงานร่วมกับคันไฟเลี้ยวเมื่อเรากดไฟเลีัยวไปที่เลี้ยวซ้าย กล้องจะตัดมาเปิดที่จอกลาง ทันที แล้วจะปิดเองอัตโนมัติเมื่อแล้วเสร็จ แต่เราสามารถเปิดไว้ตลอดเวลาได้ครับ โดยกดสวิตซ์ที่บริเวณหัวก้านไฟเลี้ยวโดยรวมถือว่าใช้บ่อยที่สุดแล้วครับ
5.พื้นที่สัมภาระด้านหลัง ถือว่าน้อยมากครับ แถมเบาะหลังพับไม่ได้ด้วยครับ ถ้าคนที่บรรทุกหนักขอให้คิดหนักๆครับว่าจะแลกกับความสวยและไฮเทคคุ้มไหม สำหรับผมถือว่าบรรทุกไม่บ่อยและคนนั่งไม่เกิน3คนครับไม่มีปัญหา
6.การประหยัดน้ำมัน ถือว่าทำได้ดีมากๆครับระบบมอเตอร์สามารถใช้ได้ถึงความเร็ว120กันเลยทีเดียว ถือว่านำคู่แข่งมาเกินครึ่งทีเดียว รถผมวิ่งในเมืองทำได้19km/lครับ ทางไกลน่าจะประหยัดกว่านี้อีกเพราะวิ่งคงที่กว่า
สรุปภาพรวมของ Accord Hybrid Tech ตัวนี้ถือว่าเป็นรถที่ภายนอกสวยสุดๆครับ ลงตัวทั้งด้านหน้า ด้ายข้าง ด้านท้าย การขับขี่ถือว่าเหมาะกับในเมืองเป็นหลักครับ ช่วงล่างนิ่มแต่ท้ายเด้ง และความเร็วสูงรู้สึกไม่มั่นคงเท่าที่ควร พวงมาลัยไม่ได้เบาจนน่าเกลียดครับ แต่ความเร็วสูงต้องระมัดระวังนิดนึงครับOptions ที่ให้มาโดยรวมถือว่าทำได้ดีทีเดียวครับ ในตัวTech ให้มาครบขาดแต่เบาะหลังปรับไฟฟ้าไม่ได้แค่นั้นเองนอกนั้นเล็กๆน้อยๆถือว่าสูสีกับคู่แข่งครับ เทียบกับราคารถ1,849,000บาทเท่ากัน สำหรับผมถือว่าคุ้มครับแม้ราคามือสองจะตกแต่รถมีประกัน5ปีของระบบHybridซึ่งมากกว่าของToyotaครับ คะแนนรวมผมให้ 8/10