เหตุผลของผมมาจาก ความยากจน และ ความขี้ขลาด ครับ
เริ่มต้นจากความยากจนที่สอนให้รู้จักประหยัด เลือกสิ่งที่คิดว่าคุ้มค่ากับที่จ่ายมากที่สุด
แต่ไม่ใช่ความขี้เหนียวเลือกแต่ของถูกที่สุด(คุณภาพอาจจะไม่ได้เรื่องเลย)
อยู่ตจว. พอเจียดตังค์ซื้อรถคันแรกไว้ใช้งาน ก็เป็นปิ๊กอัพตามนิยมของคนทั่วไปตจว.สมัยนั้น
ที่จะเลือกปิ๊กอัพก่อนเก๋ง
แต่พอมามีประสบการณ์อุบัติเหตุเคยแคล้วคลาดรอดชีวิต บาดเจ็บแค่มีแผลเย็บที่หน้าผากกับรถ BMW316 (รถของคนอื่นเขา)
เลยมีความเชื่อฝังใจว่า ถ้ารอดตายไม่พิกลพิการ
เงินทองนั้นยังพอหาได้อยู่ ถ้าจะเลือกซื้อรถต่อไป ถ้าพอมีตังค์ขอเป็นรถยุโรป
สมัยนั้นคนทั่วไปจะมีความเชื่อกันว่ารถยุโรปปลอดภัยกว่ารถญี่ปุ่น
แม้ปัจจุบันรถญี่ปุ่นก็ทำได้ปลอดภัยเท่ากับรถยุโรปแล้ว
(เน้นนะครับ เป็นความเชื่อฝังใจส่วนตัว)
แล้วตอนนั้นตัวรถตลาดๆทั่วไปมักจะอ็อปชั่นโล้นแตกต่างจากสมัยนี้มากๆ
รถยุโรปฺBMW Benzก็แพงมาก ความแตกต่างของราคา แพงเกินไปเมื่อเทียบกับสมัยปัจจุบัน
พอจะซื้อรถเก๋งคันแรก เป็น D segment ในปี พศ.2539(1996)
ตอนนั้นขับรถค่อนข้างเร็วอยากได้รถขับขี่ดีๆปลอดภัยสักหน่อย
ต้องอ่านพิจารณาตัวเลือกต่างๆจากหนังสือรถมากมายหลายเล่มมาก ยังไม่ง่ายๆแบบอ่านเน็ตเหมือนสมัยนี้
ตัดรถpremiumยุโรปไปก่อนเลย ราคาเกินสุดเอื้อม ไม่อยากก่อหนี้นานไป ชีวิตมีเรื่องอื่นต้องใช้อีกเยอะ
ก็เลยได้มาคันหนึ่ง แปดแสนกว่าบาท Ford Mondeo รถประกอบบนอก ขับขี่ดี, มี ABS, Air bag คนขับ,Pretensioner
,Immobilizer,ไล่ฝ้ากระจกข้างมองหลัง มีมาให้ตั้งแต่สมัยนั้นในราคาเท่านี้
ในขณะที่เจ้าตลาด รถระนาบเดียวกัน ตัวTop เจ็ดแสนกว่าบาท รถผลิตบ้านเราแต่เทียบแล้วราคาไม่ถูกเลย วัสดุภายในไม่ดีเท่า
ไม่ได้ให้อะไรเท่าข้างบน ให้เฉพาะABS? จำไม่ได้แม่นว่ามีให้ไหม
ขณะที่อีกเจ้าตลาด มีABS ,Air bag แต่ต้องเป็นตัวประกอบนอก ราคาล้านกว่าบาท
แต่ใช่ว่าจะใช้รถคันนี้อย่างไร้อุปสรรค ตอนนั้นอยู่กับยนตรกิจก่อนที่ Ford Thailandจะเข้ามา ศูนย์น้อย/คุณภาพแย่กว่าปัจจุบันมากมาย
แล้วตัวรถยังค่อนข้างไฮเทคในสมัยนั้น ช่างก็ไม่ค่อยรู้เรื่องนัก ช่างใน/นอกศูนย์มั่วเยอะพอกัน รถช้ำรถพังกันไป
ภายหลังโชคดีได้เรียนรู้กันไปด้วยกับช่างที่ศูนย์คนหนึ่ง จนช่างศูนย์นั้นถือว่าเก่งสุดในประเทศเรื่องMondeoเลย
รถคันนี้เหมือนครูที่ทำให้ผมมาศึกษาการทำงานของรถยนต์จนเข้าใจระบบต่างๆของรถยนต์ดีขึ้น
เลยใช้คันนี้มา หกแสนกว่าโล 17-18ปี จึงเลิกเพราะความชราของรถและอะไหล่ไม่ค่อยมี
ก็ได้บทสรุปในใจอย่างหนึ่งว่ารถแต่ละรุ่นมีปัญหาของมัน แต่ถ้าช่างรอบรู้เก่งมีประสบการณ์นานๆ(แบบรถยี่ห้อท็อบเจ้าตลาด)
ปัญหาก็สามารถแก้ไขบรรเทาได้ทุกเรื่อง ไม่มองกลายเป็นรถเจ้าปัญหาไป
(เหมือนFordที่น่าจะมีปัญหาด้านคุณภาพบุคคลากร-ช่าง ระบบบริการของจนท.ฝ่ายอื่นๆ ซึ่งคิดว่าต้องใช้เวลาในการปรับปรุง แต่แก้ไขคนนั้นไม่ง่ายนัก
กว่าจะเก่งสุดยอดแบบเจ้าตลาด ต้องสะสมใช้เวลาพัฒนากันยาวนาน )
เมื่อจุดนี้ไม่ใช่ปัญหาหลักของผมแล้ว ด้วยความรู้สึกว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกัน(+สารพัดอ็อบชั่น) ระบบความปลอดภัยที่ให้มากกว่า
การขับขี่ที่ดีกว่าก็ถือว่ายิ่งเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น จึงเลือกใช้ยี่ห้อรองนี้ต่อมาอีกสองคันจนปัจจุบัน
ถ้าเจ้าตลาดทำให้ผมรู้สึกคุ้มค่ากับที่จ่ายและให้ความปลอดภัย/คุณภาพการขับขี่เยี่ยมๆ คงได้หันเหไปเลือกเจ้าตลาดบ้าง
ชื่นชมศูนย์บริการเขาเหมือนกัน