ผู้เขียน หัวข้อ: == อนาคต Audi ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร+ พาเยี่ยมศูนย์ Audi Center Bangkok ==  (อ่าน 10677 ครั้ง)

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว HLM เมื่อวานได้มีโอกาสผ่านไปทำธุระแถวศูนย์วัฒนธรรม เลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อต้นปี Audi Thailand เพิ่งเปิดตัว Showroom ใหม่แถวนี้ เลยแวะเข้าไปครับ หาข้อมูลใน Internet แล้วลอง Line ไปหาเซลล์ว่าเปิดไหม นัดแนะเสร็จก็เข้าไปเลยครับ

Audi เป็นรถยนต์ที่ผมมีประสบการณ์ด้วยน้อยมาก เคยใช้รถในเครืออย่าง VK Passat เมื่อสิบปีที่แล้วที่ขายโดยผู้จำหน่ายรายเดียวกันแถววิภาวดี แล้วก็ไม่เคยไปเยี่ยมเยียนศุนย์บริการอีกเลย หลังขายรถไป ส่วนใหญ่จะไปศูนย์ของ BMW เพราะใช้รถยี่ห้อนี้อยู่ วันนี้เลยถือโอกาสรีวิวศูนย์ และupdate ข้อมูลรถ Audi ที่ขายในไทยคร่าวๆ เอาที่พอจำได้จากข้อมูลเซลล์นะครับ

รูปนี้เอามาจากใน net เพราะไม่ได้ถ่ายรูปภายนอกไว้ครับ



ศูนย์บริการออกแบบอย่างดี ได้มาตราฐานเยอรมัน กว้างขวาง สะอาด ทันสมัย จอดรถด้านหลังครับ ที่นี่จะมีช่องซ่อมด่วน 3 Bays



ไปถึงเซลล์ก็เข้ามาต้อนรับอย่างดีครับ แล้วก็พาไปดูรถ ผมเลือกที่จะดู Q3 ก่อนเพราะสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี เป็นตัว Minor change แต่ไม่แน่ใจว่า  change มากี่รอบแล้ว ผมถาม spec ต่างๆ พบว่ามีอยู่สองรุ่นคือ 2.0 Petrol และ 2.0 Diesel เป็น Quattro ทั้งคู่ ราคาดีเซลแพงกว่า 200,000 บาท เนื่องจากไม่เคยซื้อรถยี่ห้อนี้ เลยลองสอบถามส่วนลด ปรากฎว่า ไม่มีส่วนลดใดๆเลยครับ มีแถมประกัน ผ้ายาง ฟิล์ม จดทะเบียน ถามย้ำเค้าก็บอกว่าไม่มีส่วนลดเลย เนื่องจาก บริษัทแม่AG คุมเข้มเรื่องราคามาก ไม่ให้ dealer ลดราคาครับ อันนี้ไม่รู้ว่าท่านอื่นๆได้ส่วนลดกันบ้างไหม รุ่นเบนซิล 2.54 mb กับรุ่นดีเซล 2.74mb ราคาถือว่าสูงกว่า BMW X1 นิดๆ และ MB GLA รุ่น Q5 เริ่ม 3.19mb แต่ model changeมาปีหน้า ไม่รู้เดือนไหนครับ และ Q3 เองก็เหลือลดไม่มากแล้ว และสั่งจองก็ไม่รับจอง มีในstock สีน้ำเงิน กับสีดำมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด





ดู Q3 เสร็จก็ถามเซลล์ว่า รถรุ่นไหนเปิดตัวใหม่สุดในไทย Audi A4 คือใหม่สุดครับ มีสองรุ่นคือ Standard กับ Sport Line 2.49mb กับ 2.69mb 190 แรงม้า ขับล้อหน้า ภายในมีสีเทาอ่อน และสีดำ ตามแต่สีภายนอกครับ รุ่นนี้ภายในจะเป็น Layout ใหม่แล้ว เกียร์ไฟฟ้า หน้าปัทม์ยังไม่มี Virtual Cockpit ซึ่งในไทยมีแค่ร่น TTS และ Q7 เท่านั้นที่มี option นี้ครับ ด้านหลังค่อนข้างแคบ แม้ว่าขับหน้าแต่ก็มีซุ้มเพลาขับด้านหลังค่อนข้างใหญ่ เพราะทำมาเพื่อรองรับ Quattro ครับ เสียดายพื้นที่ตรงนี้ เบาะนั่งรับช่วงตัวได้ดี นั่งสบายเต็มก้นครับ แต่พื้นที่ Leg room น้อยไปนิด F30 นั่งสบายกว่า แต่ดีกว่า C-Class ครับ

ความเห็นส่วนตัวคือ Interior ดูทันสมัยกว่า F30 วัสดุดูดีกว่า แต่ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่กว่า C-Class ดูหรูหรากว่าชัดเจนครับ









มาต่อกันที่ A3 ครับมีทั้ง Sedan และ Sportback หรือ 5 ประตู Hacthback รุ่น Sedan เครื่อง 1.4 TFSI 125 แรงม้าแรงบิดกว้างตั้งแต่ 1,400-4,000NM กับรุ่น 2.0 Diesel  150แรงม้า แรงบิน 340NM ราคต่างกัน 2แสน เอา Sportback ดูดีกว่า เบาะหลังนั่งสบายกว่า เพราะมี headroomมากกว่า sedan ครับ ล้อ18นิ้วหล่อๆเลยครับ









มาต่อที่รุ่นใหญ่ A6 ครับ Model นี้ค่อนข้างเก่าปรับมาหลายรอบแล้ว เข้าใจว่าโฉมนี้น่าจะปรับครั้งสุดท้าย เพราะ ทั้งภายในและภายนอก ดูไม่ทันคู่แข่งแล้วครับ ทั้ง BMW G30 และ MB W213 ภายในให้ความรู้สึกรถยุคก่อน จอเล็กมาก พวกมาลัยดูใหญ่ไป  Layout console ดูไม่ทันสมัยแล้ว A6 ที่จำหน่ายมี 3 รุ่นคือ 1.8 TFSI Petrol 190แรงม้า, 2.0 TDI ดีเซล 190 แรงม้า และรุ่น Top Hybrid 245 แรงม้า ราคา 3.4, 3.6 และ 3.9mb ตามลำดับ ราคาแรงเกินไปทำให้หมดความน่าสนใจไปเลยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ถ่ายไว้รูปเดียวครับ



หลังจากนั้นก็ไปชม TT และ TTS ครับ เป็นเครื่องเบนซิล 2.0 TFSI ทั้งคู่ แต่จูนเครื่องต่างกัน โดย TTS ติดตั้ง Intercooler และระบบไอเสียใหม่ ชุดแต่ง และภายในตกแต่งต่างกัน โดย TTS ให้กำลังสูงสุดที่ 286 แรงม้า ในขณะที่ TT ปกติให้กำลัง 230 แรงม้า ราคาต่างกันราว 1.5 ล้านครับ 3.99 และ 5.45 ล้านบาท แพงกว่า Porche Cayman 718 300 แรงม้าเสียอีก (ซื้อ Grey)











พวงมาลัย TT


อันนี้ TTS


จบด้วยบบรรยากาศรวมๆครับ







ความรู้สึกคือ รถมันดีนะครับ แต่ทางเลือกในการซื้อค่อนข้างจำกัด รุ่นย่อยน้อย และหลายๆโมเดลก็ไม่รับจองแล้ว ราคาค่อนข้างสูง และไม่มีส่วนลดใดๆเลย ซึ่งทำให้ค่อนข้างผิดหวังเพราะคู่แข่งมีส่วนลดให้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ แม้ว่าบางรุ่นจะอายุตลาดนานแล้วก็ไม่มี financial offer ใดๆที่กระตุ้นให้อยากซื้อเท่าไหร่ การรับประกันเซลล์แจ้งว่าปกติดให้ที่ 2 ปี แต่แถมให้เป็น 5 ปี warranty แต่ไม่มี Maintenance เหมือน BSI

ในฐานะคนใช้ชอบรถคนหนึ่ง ผมคิดว่า ถ้า Audi จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทย อย่างน้อยๆก็เป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ได้อยากขับ MB หรือ BMW และก็ไม่ชอบดีไซด์แบบ Volvo และรู้สึกว่า Lexus ก็คือ premium Toyota ที่แพงเกินไป ผมคิดว่า Audi Thailand ควรพิจารณาดังต่อไปนี้

1.) Service Inclusive warranty 5 years unlimited mileage

2.) ตั้งราคาให้น่าสนใจกว่านี้ option ที่คนไทยชอบควรใส่มาเป็น Standard เช่น Virtual Cockpit, inofotainment ควรจัดชุดใหญ่มา Bose, B&O เป็นต้น Quattro ไม่จำเป็นนัก เครื่องยนต์ควรเอารุ่น High Power มา เพราะจ่ายค่าตัวแพง ควรได้รุ่นที่เครื่องยนต์ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง บางรุ่นในปัจจุบันทำให้นึกถึงสมัย Golf/Vento/Passat ทำตลาด รุ่นล่างที่แรงม้าน้อยมากๆ อายรถญี่ปุ่นเลย

3.) การบริการหลังการขาย ขอให้ราคาอะไหล่สมเหตุสมผล จริงใจในการ claim และ Stock อะไหล่ที่จำเป็น รวมถึงอะไหล่ตัวถังที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เพื่อไม่ให้ลูกค้าเดือดร้อน เวลาประสบอุบัติเหตุ

4.) อยากให้หันมาสนใจราคารถมือสอง Audi ราคามือสองในบ้านเรามันน่าใจหาย A5 ปีใหม่ๆขายกันล้านกลางๆเองครับ การทำ Certified used car น่าจะดี อย่างน้อยๆ ราคามือสองจะได้มี reference

เพื่อนๆคิดว่าไงครับสำหรับอนาคต Audi ในบ้านเรา รถดี แต่คนไม่กล้าซื้อ ผมคนนึงล่ะเสียดายแทนครับ   :)

ปล.ผมอยู่ในศูนย์เกือบหนึ่งชั่วโมง ไม่ได้ดื่มน้ำสักแก้วเลยครับ ตรงนี้สู้ BMW หรือ MB ไม่ได้จริงๆ และไม่มีรถทดลองขับแม้แต่รุ่นเดียว ถามเซลล์บอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่เคยใช้Audi อยู่แล้ว แล้วลูกค้าใหม่จะทำอย่างไรครับ   :P



« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2016, 09:51:48 โดย AMARONE »
Don't play hard to get, play hard to forget.

wildstocks

  • บุคคลทั่วไป
ขอบริการหลังการขายดีๆนะ จะได้มีการกระตุ้นการแข่งขัันของรถหรูบ้าง

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
หวังว่าสักวันจะได้เห็นประกอบในประเทศ พร้อมกับ Lexus และ Jaguar

ออฟไลน์ WinniE

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 893
  • TO THE WORLD BEST...K5
คงต้องรอดูช่วงปลายปีนี้ - ปีหน้า ว่าตัวแทนจำหน่าย Audi ในไทยรายใหม่ ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด (ตระกูลล่ำซำ) จะทำตลาดยังไงต่อจาก เยอรมันมอเตอร์เวอร์ค (ยนตรกิจ) ที่หมดสัญญาครับ

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53802.0
2003 Honda Accord 2.4 E
2007 Nissan Frontier Navara King Cab 2.5 SE

ออฟไลน์ Anvers30

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,372
    • อีเมล์
ถ้าบ.แม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง พวกเราๆ ก็คงต้องพึ่งเกรย์สถานเดียว เหตุก็เพราะ... และสถานการณ์เอาดี้ก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คือมีไว้ให้รู้ว่าประเทศนี้ยังมีรถชื่อเอาดี้ จำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบขำๆ ชิลล์ๆ (ลูกค้าที่ซื้อไป ทั้งไม่ขำและไม่ชิลล์)

ส่วนตัวแทนจำหน่ายใหม่จากตระกูลล่ำซำ ต้องรอดูฝีมือล่ะครับ ว่าจะพลิกวิกฤติจากที่เป็นอยู่ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ดี เรามีสิทธิ์เห็นบ.แม่ เปิดซิงตลาดเมืองไทย ;)

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
รูปทรงภายนอกภายในมันยังไม่โดนใจผมนะครับ

ออฟไลน์ TheZero

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 594
    • อีเมล์
Re: == อนาคต Audi ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไร
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 08:46:20 »
ภายนอกไม่ผ่าน ราคานี้ คนไปถอย BMW กันหมด สวย ดู sport

ออฟไลน์ Amateur

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 119
    • อีเมล์
Audi รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในต่างประเทศ ผมว่าดูดีน่าใช้หลายรุ่นเลยนะครับ  โดยเฉพาะ Q2 และ A5 sportback
หวังว่าตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ จะจริงจังกับตลาดบ้านเรามากขึ้นนะครับ

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
ขอบริการหลังการขายดีๆนะ จะได้มีการกระตุ้นการแข่งขัันของรถหรูบ้าง

เห็นด้วยครับ รถนอกกระแสต้องจัดการเรื่อง After Sales ให้ดีมากๆ อย่าน้อยก็ไม่สร้าง negative sentiment ออกมาภายนอก
หวังว่าสักวันจะได้เห็นประกอบในประเทศ พร้อมกับ Lexus และ Jaguar
ราคาจะได้แข่งขันได้มากขึ้น แต่ลงทุนสูง ถ้า volume ไม่มีก็ทำไม่ได้

คงต้องรอดูช่วงปลายปีนี้ - ปีหน้า ว่าตัวแทนจำหน่าย Audi ในไทยรายใหม่ ไมซ์สเตอร์ เทคนิค จำกัด (ตระกูลล่ำซำ) จะทำตลาดยังไงต่อจาก เยอรมันมอเตอร์เวอร์ค (ยนตรกิจ) ที่หมดสัญญาครับ

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=53802.0

รอดูครับว่าจะประกาศนโยบายทำตลาดอย่างไร ผมคิดว่าการสามารถ picth เอาชนะเจ้าเดิมได้ต้องมี commitment กับ AG เรื่องเป้าการขายพอสมควร แนวโน้มน่าจะดีครับ



Don't play hard to get, play hard to forget.

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
ถ้าบ.แม่ไม่ลงมาทำตลาดเอง พวกเราๆ ก็คงต้องพึ่งเกรย์สถานเดียว เหตุก็เพราะ... และสถานการณ์เอาดี้ก็จะเป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ คือมีไว้ให้รู้ว่าประเทศนี้ยังมีรถชื่อเอาดี้ จำหน่ายอย่างเป็นทางการแบบขำๆ ชิลล์ๆ (ลูกค้าที่ซื้อไป ทั้งไม่ขำและไม่ชิลล์)

ส่วนตัวแทนจำหน่ายใหม่จากตระกูลล่ำซำ ต้องรอดูฝีมือล่ะครับ ว่าจะพลิกวิกฤติจากที่เป็นอยู่ได้หรือไม่ ถ้าทำได้ดี เรามีสิทธิ์เห็นบ.แม่ เปิดซิงตลาดเมืองไทย ;)
โจทย์ของตัวแทนใหม่ท้าทายมาก ตั้งแต่การสร้าง awareness ให้เข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ไปจนการกระตุ้นการขายเพราะน่าจะรับเป้ามาพอสมควร รถยนต์เป็น High involvement product ความชอบอย่างเดียวคงไม่ได้ foundation ที่ดีของ premium car ต้องจัดการอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กลุ่มผู้บริโภคที่มองหารถระดับนี้ครับ

รูปทรงภายนอกภายในมันยังไม่โดนใจผมนะครับ
ภายนอกไม่ผ่าน ราคานี้ คนไปถอย BMW กันหมด สวย ดู sport

ดีไซด์ Audi มีเส้นสายที่ค่อนข้างแข็ง และ traditional แต่พวกรุ่นใหม่ๆอย่าง Q2 ก็มีความ vibrant ขึ้นนะครับ อย่างไรก็ดีอายุตลาดของ Audi ค่อนข้างยาวคือ ประมาณ 8 ปี การปรับโฉมระหว่างทางไม่ชัดเจน ทำให้ความน่าสนใจช่วงครึ่งหลังของอายุ product ลดลง

Audi รุ่นใหม่ๆ ที่เปิดตัวในต่างประเทศ ผมว่าดูดีน่าใช้หลายรุ่นเลยนะครับ  โดยเฉพาะ Q2 และ A5 sportback
หวังว่าตัวแทนจำหน่ายรายใหม่ จะจริงจังกับตลาดบ้านเรามากขึ้นนะครับ

Q2 A5 A5 Sportback A6 Avant A7 Sportback กลุ่มรถพวกนี้หน้าตาดีครับ ไม่นับพวก R8 TT ซึ่งคนส่วนใหญ่มองว่าสวยอยู่แล้ว  8)
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2016, 09:37:06 โดย AMARONE »
Don't play hard to get, play hard to forget.

ออฟไลน์ BaSkInElItEgUyS

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,607
  • BaSkInElItEgUy PeRsEuS PrInCe of ZuEs
    • อีเมล์
ให้ผ่านแค่ TT ราคากับรูปร่างโดนใจ ที่เหลือเฉยๆ ไม่ค่อยน่าดึงดูด ราคาก็แอบแรงไป

ออฟไลน์ tu

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 149
    • อีเมล์
ผมเป็นคนที่อยากใช้ Audi VW มาก เพราะชอบDesign และการขับขี่ สมัยก่อนที่ยนตรกิจทำตลาดแบบจริงจังยุค 90's ที่บ้านก็ใช้ทั้ง A3, A4, A6, A8 ซึ่งถือว่าเป็นรถที่ดีมาก แต่พอถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถใหม่ ไม่คิดจะซื้ออีกเพราะเรื่องบริการหลังการขายและรออะไหล่ ราคาเข้าศูนย์จริงๆก็ไม่โหดมากถ้าเทียบกับรถยุโรปแบบเดียวกัน แต่คนที่เคยๆใช้หนีไปเพราะศูนย์บริการล้วนๆ

ผมว่า AD เจ้าใหม่ถ้าเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ มีลูกค้าเก่าๆกลับมาแน่ๆ เพราะดูจากราคาตอนนี้ผมว่าน่าสนใจกว่าเจ้าตลาดในSegment นี้แต่ที่ทุกคนห่วงคือ Service เห็นราคา A3 TDI ยังอยากใช้เลย

ออฟไลน์ พ่อลูก2

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 126
ติดตรงที่ พ่อผม(คนออกเงิน) เค้าบูชา ดาวสามแฉกน่ะสิครับ 5555 เถียงไม่ได้

ออฟไลน์ MUK

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 2,999
เป็น ยี่ห้อรถ ที่ผมอยากได้รถในค่ายมาครอบครองสักคัน
ประกอบในไทยนะครับ จะได้ราคาพอซื้อได้
เห็นเขาขับและถ่ายในภาพยนตร์ และเคยเล่นเกมแข่งรถ
เป็นยี่ห้อที่ขับแล้วช่วงล่างดีมากๆ
แต่ไม่เคยขับนะครับ

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
ให้ผ่านแค่ TT ราคากับรูปร่างโดนใจ ที่เหลือเฉยๆ ไม่ค่อยน่าดึงดูด ราคาก็แอบแรงไป
ตัวใหม่ภายในดีตรงที่อย่างน้อยก็นั่งสบายกว่า SLK และ Z4 เพราะมีที่นั่งอยู่ด้านหลังวางของได้

ผมเป็นคนที่อยากใช้ Audi VW มาก เพราะชอบDesign และการขับขี่ สมัยก่อนที่ยนตรกิจทำตลาดแบบจริงจังยุค 90's ที่บ้านก็ใช้ทั้ง A3, A4, A6, A8 ซึ่งถือว่าเป็นรถที่ดีมาก แต่พอถึงเวลาต้องเปลี่ยนรถใหม่ ไม่คิดจะซื้ออีกเพราะเรื่องบริการหลังการขายและรออะไหล่ ราคาเข้าศูนย์จริงๆก็ไม่โหดมากถ้าเทียบกับรถยุโรปแบบเดียวกัน แต่คนที่เคยๆใช้หนีไปเพราะศูนย์บริการล้วนๆ

ผมว่า AD เจ้าใหม่ถ้าเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้ มีลูกค้าเก่าๆกลับมาแน่ๆ เพราะดูจากราคาตอนนี้ผมว่าน่าสนใจกว่าเจ้าตลาดในSegment นี้แต่ที่ทุกคนห่วงคือ Service เห็นราคา A3 TDI ยังอยากใช้เลย


ถ้าให้จิ้มเลือกเมื่อวาน ผมเอา A3 Sportback นะครับ สวยดี แต่คงยังไม่ซื้อเพราะความไม่มั่นใจในการบริการหลังการขาย Quatrro น่าจะขับดีจริงเพราะสร้างชื่อให้ Audi มานาน

ติดตรงที่ พ่อผม(คนออกเงิน) เค้าบูชา ดาวสามแฉกน่ะสิครับ 5555 เถียงไม่ได้
เบนซ์ยังไงก็เเบนซ์ครับ ยิ่งรุ่นใหม่ๆ หน้าตาดูดีเชียว

เป็น ยี่ห้อรถ ที่ผมอยากได้รถในค่ายมาครอบครองสักคัน
ประกอบในไทยนะครับ จะได้ราคาพอซื้อได้
เห็นเขาขับและถ่ายในภาพยนตร์ และเคยเล่นเกมแข่งรถ
เป็นยี่ห้อที่ขับแล้วช่วงล่างดีมากๆ
แต่ไม่เคยขับนะครับ
Audi A8L ใน Transporter 3  :-*

Don't play hard to get, play hard to forget.

ออฟไลน์ SM.

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 27,435
ศูนย์นี้เจ้าของเดียวกับ Kia ตั้งติดกัน ผมเคยไปดู Kia คุยชั่วโมงกว่า น้ำไม่มีให้กินเหมือนกัน ถือว่าเค้ารักษามาตรฐานไว้ได้มั๊ยครับ

เรื่องอนาคต audi คงต้องรอเจ้าใหม่ครับ ส่วนศูนย์นี้ ก็คงได้เปรียบคนอื่น ตรงที่มาก่อน มีความพร้อมมากกว่า ถือว่าเป็นดีลเลอร์ใหญ่แทนการเป็นผู้นำเข้า แต่อนาคตก็ไม่แน่นะครับ ถ้ายังไม่พัฒนา คงโดนแซงไปหมด

onnonn

  • บุคคลทั่วไป
TTS ไม่ใช่ 310 แรงม้าหรอกหรอครับ ตามเสป็ค
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2016, 22:10:05 โดย RE_012 »

ออฟไลน์ DriveOnly

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,450
    • อีเมล์
ใช่ครับ volume น้อยเกินกว่าจะมาตั้งโรงงาน ได้แต่ฝันต่อไป

ออฟไลน์ tamjai

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 113
    • อีเมล์
สวัสดีครับเพื่อนๆชาว HLM เมื่อวานได้มีโอกาสผ่านไปทำธุระแถวศูนย์วัฒนธรรม เลยนึกขึ้นได้ว่าเมื่อต้นปี Audi Thailand เพิ่งเปิดตัว Showroom ใหม่แถวนี้ เลยแวะเข้าไปครับ หาข้อมูลใน Internet แล้วลอง Line ไปหาเซลล์ว่าเปิดไหม นัดแนะเสร็จก็เข้าไปเลยครับ

Audi เป็นรถยนต์ที่ผมมีประสบการณ์ด้วยน้อยมาก เคยใช้รถในเครืออย่าง VK Passat เมื่อสิบปีที่แล้วที่ขายโดยผู้จำหน่ายรายเดียวกันแถววิภาวดี แล้วก็ไม่เคยไปเยี่ยมเยียนศุนย์บริการอีกเลย หลังขายรถไป ส่วนใหญ่จะไปศูนย์ของ BMW เพราะใช้รถยี่ห้อนี้อยู่ วันนี้เลยถือโอกาสรีวิวศูนย์ และupdate ข้อมูลรถ Audi ที่ขายในไทยคร่าวๆ เอาที่พอจำได้จากข้อมูลเซลล์นะครับ

รูปนี้เอามาจากใน net เพราะไม่ได้ถ่ายรูปภายนอกไว้ครับ



ศูนย์บริการออกแบบอย่างดี ได้มาตราฐานเยอรมัน กว้างขวาง สะอาด ทันสมัย จอดรถด้านหลังครับ ที่นี่จะมีช่องซ่อมด่วน 3 Bays



ไปถึงเซลล์ก็เข้ามาต้อนรับอย่างดีครับ แล้วก็พาไปดูรถ ผมเลือกที่จะดู Q3 ก่อนเพราะสนใจรุ่นนี้อยู่พอดี เป็นตัว Minor change แต่ไม่แน่ใจว่า  change มากี่รอบแล้ว ผมถาม spec ต่างๆ พบว่ามีอยู่สองรุ่นคือ 2.0 Petrol และ 2.0 Diesel เป็น Quattro ทั้งคู่ ราคาดีเซลแพงกว่า 200,000 บาท เนื่องจากไม่เคยซื้อรถยี่ห้อนี้ เลยลองสอบถามส่วนลด ปรากฎว่า ไม่มีส่วนลดใดๆเลยครับ มีแถมประกัน ผ้ายาง ฟิล์ม จดทะเบียน ถามย้ำเค้าก็บอกว่าไม่มีส่วนลดเลย เนื่องจาก บริษัทแม่AG คุมเข้มเรื่องราคามาก ไม่ให้ dealer ลดราคาครับ อันนี้ไม่รู้ว่าท่านอื่นๆได้ส่วนลดกันบ้างไหม รุ่นเบนซิล 2.54 mb กับรุ่นดีเซล 2.74mb ราคาถือว่าสูงกว่า BMW X1 นิดๆ และ MB GLA รุ่น Q5 เริ่ม 3.19mb แต่ model changeมาปีหน้า ไม่รู้เดือนไหนครับ และ Q3 เองก็เหลือลดไม่มากแล้ว และสั่งจองก็ไม่รับจอง มีในstock สีน้ำเงิน กับสีดำมั้งครับ ถ้าจำไม่ผิด





ดู Q3 เสร็จก็ถามเซลล์ว่า รถรุ่นไหนเปิดตัวใหม่สุดในไทย Audi A4 คือใหม่สุดครับ มีสองรุ่นคือ Standard กับ Sport Line 2.49mb กับ 2.69mb 190 แรงม้า ขับล้อหน้า ภายในมีสีเทาอ่อน และสีดำ ตามแต่สีภายนอกครับ รุ่นนี้ภายในจะเป็น Layout ใหม่แล้ว เกียร์ไฟฟ้า หน้าปัทม์ยังไม่มี Virtual Cockpit ซึ่งในไทยมีแค่ร่น TTS และ Q7 เท่านั้นที่มี option นี้ครับ ด้านหลังค่อนข้างแคบ แม้ว่าขับหน้าแต่ก็มีซุ้มเพลาขับด้านหลังค่อนข้างใหญ่ เพราะทำมาเพื่อรองรับ Quattro ครับ เสียดายพื้นที่ตรงนี้ เบาะนั่งรับช่วงตัวได้ดี นั่งสบายเต็มก้นครับ แต่พื้นที่ Leg room น้อยไปนิด F30 นั่งสบายกว่า แต่ดีกว่า C-Class ครับ

ความเห็นส่วนตัวคือ Interior ดูทันสมัยกว่า F30 วัสดุดูดีกว่า แต่ให้ความรู้สึกเป็นผู้ใหญ่กว่า C-Class ดูหรูหรากว่าชัดเจนครับ









มาต่อกันที่ A3 ครับมีทั้ง Sedan และ Sportback หรือ 5 ประตู Hacthback รุ่น Sedan เครื่อง 1.4 TFSI 125 แรงม้าแรงบิดกว้างตั้งแต่ 1,400-4,000NM กับรุ่น 2.0 Diesel  150แรงม้า แรงบิน 340NM ราคต่างกัน 2แสน เอา Sportback ดูดีกว่า เบาะหลังนั่งสบายกว่า เพราะมี headroomมากกว่า sedan ครับ ล้อ18นิ้วหล่อๆเลยครับ









มาต่อที่รุ่นใหญ่ A6 ครับ Model นี้ค่อนข้างเก่าปรับมาหลายรอบแล้ว เข้าใจว่าโฉมนี้น่าจะปรับครั้งสุดท้าย เพราะ ทั้งภายในและภายนอก ดูไม่ทันคู่แข่งแล้วครับ ทั้ง BMW G30 และ MB W213 ภายในให้ความรู้สึกรถยุคก่อน จอเล็กมาก พวกมาลัยดูใหญ่ไป  Layout console ดูไม่ทันสมัยแล้ว A6 ที่จำหน่ายมี 3 รุ่นคือ 1.8 TFSI Petrol 190แรงม้า, 2.0 TDI ดีเซล 190 แรงม้า และรุ่น Top Hybrid 245 แรงม้า ราคา 3.4, 3.6 และ 3.9mb ตามลำดับ ราคาแรงเกินไปทำให้หมดความน่าสนใจไปเลยเมื่อเทียบกับคู่แข่ง ถ่ายไว้รูปเดียวครับ



หลังจากนั้นก็ไปชม TT และ TTS ครับ เป็นเครื่องเบนซิล 2.0 TFSI ทั้งคู่ แต่จูนเครื่องต่างกัน โดย TTS ติดตั้ง Intercooler และระบบไอเสียใหม่ ชุดแต่ง และภายในตกแต่งต่างกัน โดย TTS ให้กำลังสูงสุดที่ 286 แรงม้า ในขณะที่ TT ปกติให้กำลัง 230 แรงม้า ราคาต่างกันราว 1.5 ล้านครับ 3.99 และ 5.45 ล้านบาท แพงกว่า Porche Cayman 718 300 แรงม้าเสียอีก (ซื้อ Grey)











พวงมาลัย TT


อันนี้ TTS


จบด้วยบบรรยากาศรวมๆครับ







ความรู้สึกคือ รถมันดีนะครับ แต่ทางเลือกในการซื้อค่อนข้างจำกัด รุ่นย่อยน้อย และหลายๆโมเดลก็ไม่รับจองแล้ว ราคาค่อนข้างสูง และไม่มีส่วนลดใดๆเลย ซึ่งทำให้ค่อนข้างผิดหวังเพราะคู่แข่งมีส่วนลดให้ลูกค้าค่อนข้างเยอะ แม้ว่าบางรุ่นจะอายุตลาดนานแล้วก็ไม่มี financial offer ใดๆที่กระตุ้นให้อยากซื้อเท่าไหร่ การรับประกันเซลล์แจ้งว่าปกติดให้ที่ 2 ปี แต่แถมให้เป็น 5 ปี warranty แต่ไม่มี Maintenance เหมือน BSI

ในฐานะคนใช้ชอบรถคนหนึ่ง ผมคิดว่า ถ้า Audi จะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนไทย อย่างน้อยๆก็เป็นทางเลือกให้คนที่ไม่ได้อยากขับ MB หรือ BMW และก็ไม่ชอบดีไซด์แบบ Volvo และรู้สึกว่า Lexus ก็คือ premium Toyota ที่แพงเกินไป ผมคิดว่า Audi Thailand ควรพิจารณาดังต่อไปนี้

1.) Service Inclusive warranty 5 years unlimited mileage

2.) ตั้งราคาให้น่าสนใจกว่านี้ option ที่คนไทยชอบควรใส่มาเป็น Standard เช่น Virtual Cockpit, inofotainment ควรจัดชุดใหญ่มา Bose, B&O เป็นต้น Quattro ไม่จำเป็นนัก เครื่องยนต์ควรเอารุ่น High Power มา เพราะจ่ายค่าตัวแพง ควรได้รุ่นที่เครื่องยนต์ไม่น้อยหน้าคู่แข่ง บางรุ่นในปัจจุบันทำให้นึกถึงสมัย Golf/Vento/Passat ทำตลาด รุ่นล่างที่แรงม้าน้อยมากๆ อายรถญี่ปุ่นเลย

3.) การบริการหลังการขาย ขอให้ราคาอะไหล่สมเหตุสมผล จริงใจในการ claim และ Stock อะไหล่ที่จำเป็น รวมถึงอะไหล่ตัวถังที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย เพื่อไม่ให้ลูกค้าเดือดร้อน เวลาประสบอุบัติเหตุ

4.) อยากให้หันมาสนใจราคารถมือสอง Audi ราคามือสองในบ้านเรามันน่าใจหาย A5 ปีใหม่ๆขายกันล้านกลางๆเองครับ การทำ Certified used car น่าจะดี อย่างน้อยๆ ราคามือสองจะได้มี reference

เพื่อนๆคิดว่าไงครับสำหรับอนาคต Audi ในบ้านเรา รถดี แต่คนไม่กล้าซื้อ ผมคนนึงล่ะเสียดายแทนครับ   :)

ปล.ผมอยู่ในศูนย์เกือบหนึ่งชั่วโมง ไม่ได้ดื่มน้ำสักแก้วเลยครับ ตรงนี้สู้ BMW หรือ MB ไม่ได้จริงๆ และไม่มีรถทดลองขับแม้แต่รุ่นเดียว ถามเซลล์บอกว่าลูกค้าส่วนใหญ่เคยใช้Audi อยู่แล้ว แล้วลูกค้าใหม่จะทำอย่างไรครับ   :P
เห็นด้วยกับ comment 4ข้อ ทุกอย่างครับ Audi รถดีแต่หลายอย่างยังไม่สมเหตุผล คนทั่วไป ไปbenz BMW ง่ายกว่า

ออฟไลน์ -POOM-

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 142
ส่วนลดไม่มีอาจเป็นเพราะราคาไม่ได้ตั้งมาสูงอยู่แล้วรึป่าวครับ //คหสต

ปล. ผมชอบ A6 มากกกกก ถึงแม้มันจะเปลี่ยนโฉมใหม่ก้ยังรู้สึกว่ามันยังสวยกว่าคู่แข่งในบางที 55555

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 739
ขอบคุณครับที่ถ่ายรูปและรีวิวให้ดู

เมื่อประมาณสิบปีก่อนเคยไปสถานที่ตรงนี้หลายครั้ง สมัยนั้นเป็น barcelna motors พอทาง barcelona หมดสัญญาเช่าที่ตรงนี้แล้วย้ายไปที่วิภาวดี ผมก็ไม่ได้ไปอีก ไม่แน่ใจว่าช่วงจากที่ barcelona ย้ายออกไป ก่อนจะมาเป็น audi ระหว่างนั้นเป็นอะไร

audi ยอดขายทั่วโลก พอๆกับ benz บางปีมากกว่า benz ด้วยซ้ำ (แต่มากกว่าไม่มาก ถือว่าพอๆกันอยู่) , ส่วน bmw ก็ไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ ปีหลังๆมา ยอดขาย bmw มากที่สุด  ( ยอดของ bmw ไม่นับรวม mini และไม่นับรวม rolls royce ด้วย )  อันนี้คือยอดขายทั่วโลกนะครับ ซึ่งไปกันคนละแนวกับยอดขายในไทย

ที่คุณ AMARONE ถามว่า เพื่อนๆคิดว่าไงครับสำหรับอนาคต Audi ในบ้านเรา
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคน
ผมเห็นอย่างนี้ครับ ยาวหน่อย ถือว่าคุยกันตามประสาคนชอบรถเหมือนกัน

ทั้งๆที่ผมรู้ว่ายอดขาย audi ทั่วโลก พอๆกับ bmw และ benz
แต่ด้วยบริบทหลายๆอย่างในไทย ผมว่า audi คงขายให้พอๆกับ bmw และ benz ยาก ( หากปัจจัยเหล่านั้นยังคงเดิม )
ไม่ใช่ปัจจัยเรื่องใดโดยเฉพาะอันใด แต่ปัจจัยเป็นหลายอย่างรวมกันที่จะทำให้ audi ต้องเหนื่อยในการจะแข่งขันในตลาดไทย ปัจจัยเหล่านั้น เช่น

1) แนวทางการออกแบบของ audi รุ่นหลักๆ เช่น a4 a6 a8 เป็นไปในทางเรียบง่าย ไม่เน้นหวือหวาโฉบเฉี่ยว ( มีบางรุ่นที่เน้นสวย แต่ก็เป็นรถที่ขายในปริมาณน้อยลงมา เช่น r8 tt a7 )

2) ภาษีรถยนต์ในไทยที่มากทำให้รถยนต์ในไทยราคาแพง ถ้าใน segment นี้ คือ benz bmw audi ราคารถในไทยมากกว่าราคาในอังกฤษคร่าวๆ 2-3 เท่า ( ถ้าเป็นไฮบริดก็ไม่ถึง 3 เท่า ) ( อังกฤษขับพวงมาลัยขวาเหมือนไทย เป็นปัจจัยเวลาจะ import )

3) ในขณะที่ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของประชากรไทยก็น้อยกว่าอังกฤษเกิน 3 เท่า เรียกว่าโดนไปกลับกันทั้งภาษี ทั้งรายได้
ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของคนไทยประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท รถยนต์รุ่นเริ่มต้นของ benz bmw audi ถ้าประมาณ 2 ล้าน ก็เท่ากับ ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของคนไทยทำงานประมาณ 5-6 ปี

4) เมื่อในไทยรถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพงเมื่อเทียบกับรายได้ เราจึงมีค่านิยมในการใช้รถยนต์เป็นเครื่องแสดงฐานะมากกว่าที่อื่นๆโดยเฉลี่ยเช่นกัน เมื่อมีค่านิยมแบบนี้ จึงให้น้ำหนักด้านความสวย เส้นสายของตัวรถ ความโดดเด่น
ในไทยถ้าคนที่เริ่มจะมีเงินถึงระดับ 2 ล้านบาท จะซื้อรถซักคันที่เป็นระดับ entry level ของ bmw benz audi ส่วนใหญ่จึงให้น้ำหนักในเรื่องความสวยของตัวรถมากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งก็ต้องกลับไปดูข้อ 1) ซึ่งจะเห็นได้ว่าดีไซน์ของ audi ไม่ตรงกับค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่ที่มีเงินระดับนี้หรือมากขึ้นไป ( ผมใช้คำว่าส่วนใหญ่ เนื่องจากทราบว่ามีบางคนก็ไม่ได้คำนึงเรื่องนี้ )

ถ้าประเทศแถบยุโรป อาจจะให้น้ำหนักในด้านความสวยไม่เท่ากับคนไทย แต่ให้น้ำหนักในด้านอื่นๆมากกว่า เช่น ด้านการใช้งาน ด้านระบบขับเคลื่อน รถที่ดีไซน์เรียบๆอย่าง audi จึงขายได้ดีพอๆกับ benz ( รถระดับ a4 3series c-class สำหรับในยุโรป ไม่ใช่รถที่แพงมากมายอะไรเมื่อเทียบกับรายได้ ก็ถือเป็นรถใช้งานปกติ )

ในเรื่องความสวยนี้ แม้กระทั่งรถญี่ปุ่นก็โดนเช่นกัน มียี่ห้อหนึ่งขายทั่วโลกได้ดี แต่ในไทยกลับขายไม่ดี เวลามีกระทู้เกี่ยวกับยี่ห้อญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ว่าทำไมขายไม่ค่อยออก(ในไทย) นอกจากศูนย์บริการไม่ดีแล้ว ก็มีหลายๆคนให้ความเห็นในทำนองว่าไม่สวย ให้กลับไปดีไซน์กระจังหน้ามาใหม่ (แต่รถที่ใช้กระจังหน้าเดียวกันนี้กลับขายดีในหลายประเทศ)

นี่ยังไม่ได้พูดถึงยอดขายของ audi ที่น้อย ตั้งโรงงานประกอบไม่คุ้ม ต้องสั่งนำเข้า จึงทำราคาให้ถูกกว่า bmw benz ckd ไม่ได้มาก ก็ไม่มีข้อได้เปรียบคู่แข่งในด้านราคา

ส่วนในเรื่องค่านิยมใน brand นั้น ในไทยดูได้จากยอดขาย benz bmw audi ปรากฎว่า เฉพาะยอดจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ benz ก็ขายได้มากที่สุด และมากกว่า bmw มาทุกปี
ทั้งๆที่ในตลาดโลก bmw ขายได้มากกว่า benz (มากกว่าไม่มาก) และในไทย bmw ให้ bsi มาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ, ซึ่งการที่ศูนย์ bmw ให้ bsi ทำให้อัตราการออกรถจากเกรย์ของ bmw น้อยกว่า benz, ดังนั้นหากนำยอดจากเกร์ยมารวมด้วย benz ก็ยิ่งขายได้มากกว่า bmw

แสดงว่าใน 3 brand นี้ คนไทยส่วนใหญ่ให้ภาพลักษณ์ของ benz ว่าดูดีที่สุด ทั้งนี้ก็เนื่องจาก benz ได้มีภาพลักษณ์ในไทยมานานในการเป็นรถของเศรษฐี, เมื่อสมัย 30 ปีก่อน คนรวยก็มีค่านิยมในการใช้ w124 w140 หรือก่อนนั้น w123 w126 ก็เป็นรถที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในสมัยนั้น (bmw ก็นาน แต่ตัวแทนจำหน่ายเมื่อสมัยก่อนก็ทำให้หลายคนเข็ดกัน)

image ของ audi ในไทย ต้องยอมรับกันตามตรงว่าสู้ benz ไม่ได้
ขนาด bmw ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ได้แพ้ benz ในตลาดโลก ในไทยก็ยังแพ้ benz ทุกปี

สรุป ก็คือ แม้รถจะดี แต่ด้วยบริบทต่างๆในไทยและด้วยค่านิยมของลูกค้าเป้าหมาย ส่วนใหญ่ก็คงไป benz และ bmw (benz นี่ฝังรากในเรื่อง image มานาน รอดูอยู่ว่าเมื่อไหร่ bmw จะแซงได้เหมือนในตลาดโลก ) ลูกค้ากลุ่มนี้ในไทยที่ยอมจ่ายเงินแพงๆเพื่อซื้อรถในระดับนี้ ต้องการสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากการใช้งานซะด้วย

นี่คือส่วนใหญ่นะครับ แต่ส่วนน้อยก็มี อย่างเพื่อนผมที่บ้านเค้ามี benz มี bmw มาแล้ว มีมาตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้วสมัย w124 ตอนนี้ก็มาซื้อ audi เคยขับมาให้ผมดูที่บ้าน ขับพาไปลองรถ รับรู้ได้เลยว่าหนึบมาก เกาะถนนด้วยระบบขับ4 แรงด้วย turbo เวลาเหยียบคันเร่งลึกๆ พอเปลี่ยนเกียร์มีเสียงดัง ปึ๊บๆๆ สร้างความเร้าใจ หน้าปัทม์ก็ไม่มีเข็มอนาล็อค แต่เป็นจอแทน ดูทันสมัยมาก

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
ศูนย์นี้เจ้าของเดียวกับ Kia ตั้งติดกัน ผมเคยไปดู Kia คุยชั่วโมงกว่า น้ำไม่มีให้กินเหมือนกัน ถือว่าเค้ารักษามาตรฐานไว้ได้มั๊ยครับ

เรื่องอนาคต audi คงต้องรอเจ้าใหม่ครับ ส่วนศูนย์นี้ ก็คงได้เปรียบคนอื่น ตรงที่มาก่อน มีความพร้อมมากกว่า ถือว่าเป็นดีลเลอร์ใหญ่แทนการเป็นผู้นำเข้า แต่อนาคตก็ไม่แน่นะครับ ถ้ายังไม่พัฒนา คงโดนแซงไปหมด

เรื่องบริการถือว่ามาตราฐานเค้าสม่ำเสมอนะครับ  ;D
TTS ไม่ใช่ 310 แรงม้าหรอกหรอครับ ตามเสป็ค
ผมอ้างอิงจากเอกสารที่ sales ให้มาครับ ถ้าผิดพลาดขออภัย

ใช่ครับ volume น้อยเกินกว่าจะมาตั้งโรงงาน ได้แต่ฝันต่อไป
คงต้องรอดูครับว่าจะจริงจังแค่ไหน สมัยยนตรกิจ ก็มีบางรุ่นที่ทำราคาดีๆ ก็ขายได้เยอะอยู่นะครับ จำได้สมัยเรียน  A3  3/5 ประตู มีเพื่อนใช้เหมือนกัน

Don't play hard to get, play hard to forget.

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์
เห็นด้วยกับ comment 4ข้อ ทุกอย่างครับ Audi รถดีแต่หลายอย่างยังไม่สมเหตุผล คนทั่วไป ไปbenz BMW ง่ายกว่า

รถ premium ยังไงปัจจัยพื้นฐานต้องแข็งแรงก่อน เรื่อง product มันดีอยู่แล้ว ทำให้คนซื้อมั่นใจให้ได้ครับ ยอดขายมันจะมาเอง การตลาดแบบ buzz ใช้สร้างกระแสของรถรุ่นใหม่ๆได้ แต่ challenge ของ brand ตอนนี้ไม่ใช่เรื่อง awareness แต่เป็น reliability ถ้า fill the gap ตรงนี้ได้ ยอดขายจะมาแบบยั่งยืน

ขอบคุณครับที่ถ่ายรูปและรีวิวให้ดู

เมื่อประมาณสิบปีก่อนเคยไปสถานที่ตรงนี้หลายครั้ง สมัยนั้นเป็น barcelna motors พอทาง barcelona หมดสัญญาเช่าที่ตรงนี้แล้วย้ายไปที่วิภาวดี ผมก็ไม่ได้ไปอีก ไม่แน่ใจว่าช่วงจากที่ barcelona ย้ายออกไป ก่อนจะมาเป็น audi ระหว่างนั้นเป็นอะไร

audi ยอดขายทั่วโลก พอๆกับ benz บางปีมากกว่า benz ด้วยซ้ำ (แต่มากกว่าไม่มาก ถือว่าพอๆกันอยู่) , ส่วน bmw ก็ไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ ปีหลังๆมา ยอดขาย bmw มากที่สุด  ( ยอดของ bmw ไม่นับรวม mini และไม่นับรวม rolls royce ด้วย )  อันนี้คือยอดขายทั่วโลกนะครับ ซึ่งไปกันคนละแนวกับยอดขายในไทย

ที่คุณ AMARONE ถามว่า เพื่อนๆคิดว่าไงครับสำหรับอนาคต Audi ในบ้านเรา
ขอแสดงความคิดเห็นด้วยคน
ผมเห็นอย่างนี้ครับ ยาวหน่อย ถือว่าคุยกันตามประสาคนชอบรถเหมือนกัน

ทั้งๆที่ผมรู้ว่ายอดขาย audi ทั่วโลก พอๆกับ bmw และ benz
แต่ด้วยบริบทหลายๆอย่างในไทย ผมว่า audi คงขายให้พอๆกับ bmw และ benz ยาก ( หากปัจจัยเหล่านั้นยังคงเดิม )
ไม่ใช่ปัจจัยเรื่องใดโดยเฉพาะอันใด แต่ปัจจัยเป็นหลายอย่างรวมกันที่จะทำให้ audi ต้องเหนื่อยในการจะแข่งขันในตลาดไทย ปัจจัยเหล่านั้น เช่น

1) แนวทางการออกแบบของ audi รุ่นหลักๆ เช่น a4 a6 a8 เป็นไปในทางเรียบง่าย ไม่เน้นหวือหวาโฉบเฉี่ยว ( มีบางรุ่นที่เน้นสวย แต่ก็เป็นรถที่ขายในปริมาณน้อยลงมา เช่น r8 tt a7 )

2) ภาษีรถยนต์ในไทยที่มากทำให้รถยนต์ในไทยราคาแพง ถ้าใน segment นี้ คือ benz bmw audi ราคารถในไทยมากกว่าราคาในอังกฤษคร่าวๆ 2-3 เท่า ( ถ้าเป็นไฮบริดก็ไม่ถึง 3 เท่า ) ( อังกฤษขับพวงมาลัยขวาเหมือนไทย เป็นปัจจัยเวลาจะ import )

3) ในขณะที่ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของประชากรไทยก็น้อยกว่าอังกฤษเกิน 3 เท่า เรียกว่าโดนไปกลับกันทั้งภาษี ทั้งรายได้
ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของคนไทยประมาณ 3 หมื่นกว่าบาท รถยนต์รุ่นเริ่มต้นของ benz bmw audi ถ้าประมาณ 2 ล้าน ก็เท่ากับ ค่าเฉลี่ยรายได้ต่อหัวของคนไทยทำงานประมาณ 5-6 ปี

4) เมื่อในไทยรถยนต์เป็นทรัพย์สินที่มีราคาแพงเมื่อเทียบกับรายได้ เราจึงมีค่านิยมในการใช้รถยนต์เป็นเครื่องแสดงฐานะมากกว่าที่อื่นๆโดยเฉลี่ยเช่นกัน เมื่อมีค่านิยมแบบนี้ จึงให้น้ำหนักด้านความสวย เส้นสายของตัวรถ ความโดดเด่น
ในไทยถ้าคนที่เริ่มจะมีเงินถึงระดับ 2 ล้านบาท จะซื้อรถซักคันที่เป็นระดับ entry level ของ bmw benz audi ส่วนใหญ่จึงให้น้ำหนักในเรื่องความสวยของตัวรถมากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งก็ต้องกลับไปดูข้อ 1) ซึ่งจะเห็นได้ว่าดีไซน์ของ audi ไม่ตรงกับค่านิยมของคนไทยส่วนใหญ่ที่มีเงินระดับนี้หรือมากขึ้นไป ( ผมใช้คำว่าส่วนใหญ่ เนื่องจากทราบว่ามีบางคนก็ไม่ได้คำนึงเรื่องนี้ )

ถ้าประเทศแถบยุโรป อาจจะให้น้ำหนักในด้านความสวยไม่เท่ากับคนไทย แต่ให้น้ำหนักในด้านอื่นๆมากกว่า เช่น ด้านการใช้งาน ด้านระบบขับเคลื่อน รถที่ดีไซน์เรียบๆอย่าง audi จึงขายได้ดีพอๆกับ benz ( รถระดับ a4 3series c-class สำหรับในยุโรป ไม่ใช่รถที่แพงมากมายอะไรเมื่อเทียบกับรายได้ ก็ถือเป็นรถใช้งานปกติ )

ในเรื่องความสวยนี้ แม้กระทั่งรถญี่ปุ่นก็โดนเช่นกัน มียี่ห้อหนึ่งขายทั่วโลกได้ดี แต่ในไทยกลับขายไม่ดี เวลามีกระทู้เกี่ยวกับยี่ห้อญี่ปุ่นยี่ห้อนี้ว่าทำไมขายไม่ค่อยออก(ในไทย) นอกจากศูนย์บริการไม่ดีแล้ว ก็มีหลายๆคนให้ความเห็นในทำนองว่าไม่สวย ให้กลับไปดีไซน์กระจังหน้ามาใหม่ (แต่รถที่ใช้กระจังหน้าเดียวกันนี้กลับขายดีในหลายประเทศ)

นี่ยังไม่ได้พูดถึงยอดขายของ audi ที่น้อย ตั้งโรงงานประกอบไม่คุ้ม ต้องสั่งนำเข้า จึงทำราคาให้ถูกกว่า bmw benz ckd ไม่ได้มาก ก็ไม่มีข้อได้เปรียบคู่แข่งในด้านราคา

ส่วนในเรื่องค่านิยมใน brand นั้น ในไทยดูได้จากยอดขาย benz bmw audi ปรากฎว่า เฉพาะยอดจากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ benz ก็ขายได้มากที่สุด และมากกว่า bmw มาทุกปี
ทั้งๆที่ในตลาดโลก bmw ขายได้มากกว่า benz (มากกว่าไม่มาก) และในไทย bmw ให้ bsi มาหลายปีแล้วด้วยซ้ำ, ซึ่งการที่ศูนย์ bmw ให้ bsi ทำให้อัตราการออกรถจากเกรย์ของ bmw น้อยกว่า benz, ดังนั้นหากนำยอดจากเกร์ยมารวมด้วย benz ก็ยิ่งขายได้มากกว่า bmw

แสดงว่าใน 3 brand นี้ คนไทยส่วนใหญ่ให้ภาพลักษณ์ของ benz ว่าดูดีที่สุด ทั้งนี้ก็เนื่องจาก benz ได้มีภาพลักษณ์ในไทยมานานในการเป็นรถของเศรษฐี, เมื่อสมัย 30 ปีก่อน คนรวยก็มีค่านิยมในการใช้ w124 w140 หรือก่อนนั้น w123 w126 ก็เป็นรถที่มีภาพลักษณ์ที่ดีในสมัยนั้น (bmw ก็นาน แต่ตัวแทนจำหน่ายเมื่อสมัยก่อนก็ทำให้หลายคนเข็ดกัน)

image ของ audi ในไทย ต้องยอมรับกันตามตรงว่าสู้ benz ไม่ได้
ขนาด bmw ซึ่งโดยรวมแล้วไม่ได้แพ้ benz ในตลาดโลก ในไทยก็ยังแพ้ benz ทุกปี

สรุป ก็คือ แม้รถจะดี แต่ด้วยบริบทต่างๆในไทยและด้วยค่านิยมของลูกค้าเป้าหมาย ส่วนใหญ่ก็คงไป benz และ bmw (benz นี่ฝังรากในเรื่อง image มานาน รอดูอยู่ว่าเมื่อไหร่ bmw จะแซงได้เหมือนในตลาดโลก ) ลูกค้ากลุ่มนี้ในไทยที่ยอมจ่ายเงินแพงๆเพื่อซื้อรถในระดับนี้ ต้องการสิ่งอื่นๆที่นอกเหนือจากการใช้งานซะด้วย

นี่คือส่วนใหญ่นะครับ แต่ส่วนน้อยก็มี อย่างเพื่อนผมที่บ้านเค้ามี benz มี bmw มาแล้ว มีมาตั้งแต่ 30 กว่าปีที่แล้วสมัย w124 ตอนนี้ก็มาซื้อ audi เคยขับมาให้ผมดูที่บ้าน ขับพาไปลองรถ รับรู้ได้เลยว่าหนึบมาก เกาะถนนด้วยระบบขับ4 แรงด้วย turbo เวลาเหยียบคันเร่งลึกๆ พอเปลี่ยนเกียร์มีเสียงดัง ปึ๊บๆๆ สร้างความเร้าใจ หน้าปัทม์ก็ไม่มีเข็มอนาล็อค แต่เป็นจอแทน ดูทันสมัยมาก


ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ เห็นด้วยเรื่องภาพลักษณ์ของรถหรูของ Mercedes ที่ยึดครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน

ดีไซน์เป็นเรื่องค่อนข้าง Subjective แต่โดยรวมแล้ว Audi มีเส้นสายที่ conventional กว่า MB และ Mercedes ประกอบกับอายุตลาดของ Audi ในแต่ละรุ่นค่อนข้างยาว การปรับโฉมระหว่างทางไม่หวือหวา ประมาณว่าของดีอยู่แล้ว ปรับนิดๆหน่อยก็พอ จนพวก car review ชอบแขวะว่าเปลี่ยนแล้วนะ ดูดีๆ

ในไทยรถกลุ่ม SUV ดูมี potentail กว่าทั้ง Q2, Q3 และ Q7 รุ่นปรับโฉม ส่วน TT ถ้าทำราคามาไล่บี้ SLK ได้มากกว่านี้น่าจะได้ส่วนแบ่งไปเพราะ SLK Facelift ดูไม่ masculine เลย อีกตระกูลที่น่าสนใจคือ พวก Sportback ที่ Audi มีดีไซน์ที่สวยงาม เช่น A5 Sportback หรือ A7 Sportback เป็นต้น

รถยนต์หรูยังไงก็ต้องยืนอยู่บนความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้ได้หากมองถึง Long term growth  ผู้บริหารใหม่คงต้องจริงจังกับบริการหลังการขาย และค่อยๆทำให้ผู้บริโภครู้จักกับ Audi ยุคใหม่ ทั้งดีไซด์, technology และแบรนด์ ที่ผมเชื่อว่า คนที่รู้จัก Audi แต่ไม่ได้ตามข้อมูลข่าวสาว

ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดแนวรบครบทุก segment เพราะจะไม่ focus เอา SUV และ Coupe (ตอนนี้ยอดขาย TT 60%) ให้เกิดก่อน เป็น brand shaper ให้คนเห็นรถ Audi บนถนน และบนสื่อเยอะขึ้น แล้วตัวที่ชนตรงๆ อย่าง A4 A6 A8 ค่อยทำตลาดตามมา เพื่อขยายฐานเข้าสู่รถคันหลักของกลุ่มเป้าหมายต่อไป

ลองดูตัวใหม่ๆ อย่าง Audi A5/S5 Sportback หล่อมาก



Don't play hard to get, play hard to forget.

ออฟไลน์ prapan2017

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 11
    • อีเมล์
ยนตรกิจ เขาบริหารงานแบบเนี่ยแหละ ไม่เคยเปลี่ยนแปลง  ส่วนใหญ่ที่ขายได้ เพราะเป็นลูกค้าเก่าทั้งนั้น บอกต่อต่อกันมา
รถมันขายตัวมันเองอยู่แล้ว ไม่รู้จะ ดิ้นรนไปทำไม  ::)
KIA CARNIVAL              2001

KIA GRAND CARNIVAL  2009

KIA GRAND CARNIVAL  2016

ออฟไลน์ ttcl

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 739

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ เห็นด้วยเรื่องภาพลักษณ์ของรถหรูของ Mercedes ที่ยึดครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน

ดีไซน์เป็นเรื่องค่อนข้าง Subjective แต่โดยรวมแล้ว Audi มีเส้นสายที่ conventional กว่า MB และ Mercedes ประกอบกับอายุตลาดของ Audi ในแต่ละรุ่นค่อนข้างยาว การปรับโฉมระหว่างทางไม่หวือหวา ประมาณว่าของดีอยู่แล้ว ปรับนิดๆหน่อยก็พอ จนพวก car review ชอบแขวะว่าเปลี่ยนแล้วนะ ดูดีๆ

ในไทยรถกลุ่ม SUV ดูมี potentail กว่าทั้ง Q2, Q3 และ Q7 รุ่นปรับโฉม ส่วน TT ถ้าทำราคามาไล่บี้ SLK ได้มากกว่านี้น่าจะได้ส่วนแบ่งไปเพราะ SLK Facelift ดูไม่ masculine เลย อีกตระกูลที่น่าสนใจคือ พวก Sportback ที่ Audi มีดีไซน์ที่สวยงาม เช่น A5 Sportback หรือ A7 Sportback เป็นต้น

รถยนต์หรูยังไงก็ต้องยืนอยู่บนความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้ได้หากมองถึง Long term growth  ผู้บริหารใหม่คงต้องจริงจังกับบริการหลังการขาย และค่อยๆทำให้ผู้บริโภครู้จักกับ Audi ยุคใหม่ ทั้งดีไซด์, technology และแบรนด์ ที่ผมเชื่อว่า คนที่รู้จัก Audi แต่ไม่ได้ตามข้อมูลข่าวสาว

ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดแนวรบครบทุก segment เพราะจะไม่ focus เอา SUV และ Coupe (ตอนนี้ยอดขาย TT 60%) ให้เกิดก่อน เป็น brand shaper ให้คนเห็นรถ Audi บนถนน และบนสื่อเยอะขึ้น แล้วตัวที่ชนตรงๆ อย่าง A4 A6 A8 ค่อยทำตลาดตามมา เพื่อขยายฐานเข้าสู่รถคันหลักของกลุ่มเป้าหมายต่อไป

ลองดูตัวใหม่ๆ อย่าง Audi A5/S5 Sportback หล่อมาก





สวยเลยครับ

% ยอดขาย audi tt 60% เยอะใช้ได้
รถเพื่อนที่ขับพาผมไปลองก็ audi tt ตัวล่าสุดซื้อที่ศูนย์นี้เช่นกัน หน้าจอหลังพวงมาลัยก็เป็นจอภาพ ไม่มีเข็มวัด แต่จะไม่มีแผนที่

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ออดี้ขายได้มากขึ้น จะได้มีผู้เล่นในตลาดนี้เยอะขึ้น ยิ่งมีการแข่งขันกัน ประโยชน์ก็ตกกับผู้บริโภค อย่างที่รถญี่ปุ่นแข่งขันกัน ตอนนี้ก็แข่งกันให้ option ต่างๆในรถเพิ่มขึ้นมาก
อย่างระบบเบรคอัตโนมัติ ที่ต่างประเทศมีมาหลายปีแล้ว ผมก็ลุ้นให้ทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ benz กับ bmw ใส่มาให้กับลูกค้าบ้าง (ตอนนี้ก็เริ่มๆใส่มาแล้ว)

ปล. รถ f30 กับ w207 ในรูปของคุณ AMARONE แต่งได้สวยดูดีมากๆครับ ชอบรถที่แต่งออกมาแล้วดูดีแนวนี้

ออฟไลน์ AMARONE

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 112
    • อีเมล์

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ เห็นด้วยเรื่องภาพลักษณ์ของรถหรูของ Mercedes ที่ยึดครองใจคนไทยมาอย่างยาวนาน

ดีไซน์เป็นเรื่องค่อนข้าง Subjective แต่โดยรวมแล้ว Audi มีเส้นสายที่ conventional กว่า MB และ Mercedes ประกอบกับอายุตลาดของ Audi ในแต่ละรุ่นค่อนข้างยาว การปรับโฉมระหว่างทางไม่หวือหวา ประมาณว่าของดีอยู่แล้ว ปรับนิดๆหน่อยก็พอ จนพวก car review ชอบแขวะว่าเปลี่ยนแล้วนะ ดูดีๆ

ในไทยรถกลุ่ม SUV ดูมี potentail กว่าทั้ง Q2, Q3 และ Q7 รุ่นปรับโฉม ส่วน TT ถ้าทำราคามาไล่บี้ SLK ได้มากกว่านี้น่าจะได้ส่วนแบ่งไปเพราะ SLK Facelift ดูไม่ masculine เลย อีกตระกูลที่น่าสนใจคือ พวก Sportback ที่ Audi มีดีไซน์ที่สวยงาม เช่น A5 Sportback หรือ A7 Sportback เป็นต้น

รถยนต์หรูยังไงก็ต้องยืนอยู่บนความเชื่อมั่นในแบรนด์ให้ได้หากมองถึง Long term growth  ผู้บริหารใหม่คงต้องจริงจังกับบริการหลังการขาย และค่อยๆทำให้ผู้บริโภครู้จักกับ Audi ยุคใหม่ ทั้งดีไซด์, technology และแบรนด์ ที่ผมเชื่อว่า คนที่รู้จัก Audi แต่ไม่ได้ตามข้อมูลข่าวสาว

ไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดแนวรบครบทุก segment เพราะจะไม่ focus เอา SUV และ Coupe (ตอนนี้ยอดขาย TT 60%) ให้เกิดก่อน เป็น brand shaper ให้คนเห็นรถ Audi บนถนน และบนสื่อเยอะขึ้น แล้วตัวที่ชนตรงๆ อย่าง A4 A6 A8 ค่อยทำตลาดตามมา เพื่อขยายฐานเข้าสู่รถคันหลักของกลุ่มเป้าหมายต่อไป

ลองดูตัวใหม่ๆ อย่าง Audi A5/S5 Sportback หล่อมาก





สวยเลยครับ

% ยอดขาย audi tt 60% เยอะใช้ได้
รถเพื่อนที่ขับพาผมไปลองก็ audi tt ตัวล่าสุดซื้อที่ศูนย์นี้เช่นกัน หน้าจอหลังพวงมาลัยก็เป็นจอภาพ ไม่มีเข็มวัด แต่จะไม่มีแผนที่

ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ออดี้ขายได้มากขึ้น จะได้มีผู้เล่นในตลาดนี้เยอะขึ้น ยิ่งมีการแข่งขันกัน ประโยชน์ก็ตกกับผู้บริโภค อย่างที่รถญี่ปุ่นแข่งขันกัน ตอนนี้ก็แข่งกันให้ option ต่างๆในรถเพิ่มขึ้นมาก
อย่างระบบเบรคอัตโนมัติ ที่ต่างประเทศมีมาหลายปีแล้ว ผมก็ลุ้นให้ทางตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ benz กับ bmw ใส่มาให้กับลูกค้าบ้าง (ตอนนี้ก็เริ่มๆใส่มาแล้ว)

ปล. รถ f30 กับ w207 ในรูปของคุณ AMARONE แต่งได้สวยดูดีมากๆครับ ชอบรถที่แต่งออกมาแล้วดูดีแนวนี้
Option แต่ละอย่างแพงๆทั้งนั้นครับ โดยเฉพาะ Virtual Cockpit มี 300k แต่มันก็สวยจริงๆครับ
ขอบคุณสำหรับคำชมครับ F30 กับ W207 แต่งแบบพอดีๆ เสียดาย w207 ไม่ได้ใส่ 20"

http://community.headlightmag.com/index.php?topic=47674.0
Don't play hard to get, play hard to forget.