อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู

nimnim_thailand

ทุกคนคงได้เห็น จากข่าวดังในโซเชียลแล้วว่า รถยังไง มันก็เป็นแค่รถ เป็นแค่สิ่งอำนวยความสะดวก มันไม่ได้สำคัญไปกว่านั้น
ไม่มีความจำเป็นต้องเอาใจไปผูกพันธ์ ให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นตัวกูของกู ของรักของหวง
รักมากก็ทุกข์มาก

พึงสังวรณ์ ไว้ สำหรับพวกที่ หมาเยี่ยวใส่ล้อ แล้วโกรธหมา จะฆ่าหมา เพราะคุณจะไม่ต่างกันกับคลิปคนดัง

หรือนกขี้ใส่ แล้วจะวางยาเบื่อนก  สังเกตุตัวเองให้ดี ว่ารถเวลามันเปรอะมันเลอะมันเป็นรอย เด็กมาขูด หมามาข่วน คุณโมโหเป็นฟืนเป็นไฟหรือป่าว  ถ้ายังเป็นอยู่ ก็รีบฝึกฝนจิตให้ สลัดความเป็นตัวกูของกูออกเสียให้หมด ไม่อย่างนั้น ตัวกูของกู มันก็จะกัดกินคุณตลอดเวลา เกิดความทุกข์ไปทั้งชาติ จนสิ้นใจ 



tnp_super

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 13:48:18 »
รับทราบครับ



nuntapon.s

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 13:49:33 »
ผมไม่ได้จะนิพพานนะ



kris-lack

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 13:57:31 »
เราว่าเหตุการณ์นี้แบ่งเป็น 2 ส่วนนะ
1. รถโดนชน มอไซขับหนี (ถึงแม้ว่าจะบอกว่าขับกลับมาเพื่อมาดู) อารมณ์ตอนนั้นมันคงประมาณอยากขับไปเหยียบให้มันตายด้วยซ้ำ เพราะทุกคนไม่รู้ว่าเหตุการณ์ก่อนนี้เกิดไรขึ้น สมมุติว่า มอไซคันนี้ขับกวนมากเฟี้ยวไปเฟี้ยวมา แล้วก็มาชนแล้วหนี...อารมณ์คงขึ้นสุดๆอ่ะ
2. การทำร้ายร่างกาย ก็ว่่ากันไปตามหลักฐาน



warez

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:05:57 »
ผมไม่ได้จะนิพพานนะ

ถ้านับถือพุทธนะ ตามหลักแล้วถึงที่สุดคุณก็ต้องไปนิพพาน
ถึงไม่ได้จะนิพพาน ก็เป็นการฝึกอารมณ์ ผมว่าดีออก ใครจะอยากอยู่ใกล้ๆพวกขี้โมโห



TNN

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:06:21 »
รักรถเกินไปครับ
ยึดติดมากไป

เป็นผม ถ้าชนแล้วหนี ก็จดทะเบียน ถ่ายรูป แจ้งประกัน
ไฟท้ายแตกนี่มีประกันอยู่แล้ว เคลมได้สบายมาก คนผิดก็เป็นหน้าที่ตำรวจสืบสวนสืบจับไป ไม่ใช่หน้าที่ของเรา
จับได้ก็ดี จับไม่ได้ก้ฟาดเคราะห์ไป

เราไม่มีสิทธิ์ไปทำร้ายร่างกายเขา ไม่ว่ากรณีใดๆ
ยิ่งบังคับกราบ ยิ่งไม่ควร

ชายคนนี้ ยึดติดไปครับ
นี่แค่รถนะ
ถ้าเป็นคนที่เขารัก จะขนาดไหน?
Accord H22 2.2 VTi-S
Benz C220 Elegance W202
Cefiro A33 3.0 V6
Vios sporty 2006 1.5s
Jazz GE 2008 1.5 SV VTEC
Mazda 2 sedan 2009 Maxx Sport 1.5
Pajerosport 3.2 GT 2010
HRV 1.8 EL
Pajerosport Elite 2021



Harem

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:17:39 »
ผมรักรถนะ ล้างเคลือบสีเองตลอด แต่นกขี้ใส่ หมาฉี่ใส่ ผมก็ไม่ได้คิดทำร้ายพวกมันนะ แยกแยะได้ว่าเป็นธรรมชาติของพวกมัน ผมว่าอยู่ที่วุฒิภาวะของแต่ละคนครับ



2k

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:19:54 »
เวลาหมาฉี่ใส่ล้อผมจะแก้คืนด้วยการฉี่ใส่คืนทับที่ครับ วัดใจกันไปเลยว่ามันจะกล้าหือมาฉี่ทับรอยจ่าฝูงไหมฮ่าๆๆๆ  ;D
หมาเฝ้าบ้านแจกฟรีจ้า www.dogfindhome.com




nuntapon.s

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:27:55 »
ผมไม่ได้จะนิพพานนะ

ถ้านับถือพุทธนะ ตามหลักแล้วถึงที่สุดคุณก็ต้องไปนิพพาน
ถึงไม่ได้จะนิพพาน ก็เป็นการฝึกอารมณ์ ผมว่าดีออก ใครจะอยากอยู่ใกล้ๆพวกขี้โมโห

นั่นแหละครับ  ประเภทเด็กมาขูดรถหรือหมามาแทะรถผมคงโกรธแหละครับ  แต่ผมมีสติมีความละอายต่อบาปผมคงไม่ไปกระชากคอใครมาต่อยแน่นอนแต่พ่อแม่หรือเจ้าของหมามันต้องมารับรู้รับผิดชอบบ้าง   ถึงกะจะให้ปล่อยวางไม่รู้สึกรู้สายิ้มรับทุกอย่างผมทำไม่ได้หรอกครับ



Sagittarius Toshi

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:35:23 »
สุนัขฉี่ใส่ล้อ ผมก็เฉยๆ ถ้าเห็นรอยหรือคราบ ผมก็ล้างซะ สุนัขที่บ้านผม นานๆกลับบ้านที บางครั้งกลับบ้านก็ไม่ได้บอกใคร แต่สุนัขมันจะจำเสียงได้ มันก็วิ่งมารับ กระโดดกระโจนใส่ตรงประตูรถ เพราะรู้ว่าเรามา มันก็ดีใจส่ายหางจนแทบจะหลุด ฉี่ราดบ้างก็มี ตอนเวลาเดินลงรถไปก็เห็นรอยเล็บที่มันกระโดดใส่รถเรา ผมไม่ได้โมโหมันนะ ดีใจที่เจอมันด้วยซ้ำ รถก็ทำสีใหม่ ลงแว็กใหม่ เคลมได้ แต่ถ้าทุบตีหมาหรือใช้วิธีเลวร้ายกว่านั้น หมาก็จะเหลือแต่ชื่อ เรียกมันกลับคืนมาไม่ได้

ส่วนน้องแมว ขึ้นๆลงๆเป็นว่าเล่นแทบจะทุกวัน รถผมจอดใกล้ไฟนีออน บางทีจิ้งจกก็ตกลงมาใส่หลังรถบ้าง น้องแมวเห็นก็วิ่งขึ้นไปจับ จนทุกวันนี้นอนหลังรถให้เห็นเป็นประจำ ผมก็เฉยๆ อุ้มมันเล่นซะเลย ฮ่าๆ

แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไปโทษสุนัขซะทีเดียว เพราะบางเหตุการณ์ สุนัขคนอื่น ของบ้านอื่นเขาปล่อยละมันออกมาขี้มาเยี่ยวใส่หน้าบ้านเรา หรือมาเยี่ยวใส่รถเรา อันนี้ควรจะต้องบอกเจ้าของสุนัขไว้ให้เขาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม บางที่เป็นเหตุฟ้องร้องกันเลยก็มี

เชื่อว่าทุกอย่างแก้ไขได้ครับ



toffyearn

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:36:44 »
ผมว่าคนเราจะคิดยังไงมันห้ามไม่ได้หรอกคับ รักรถมากน้อย และวิธีการรักษารถก็แตกต่างกัน

การได้รถมาแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน บางคนไม่ได้ลำบากมากมายที่ได้มา แต่บางคนอาจได้มาอย่างยากลำบาก
แล้วชนิดของรถ และการใช้งานก็ไม่เหมือนกัน บางคนมีใว้ใช้ บางคนมีไว้โชว์ บางคนมีไว้เก็บ

สุดท้ายแค่มีแล้วไม่สร้างความเดือดร้อนหรือปัญหาให้คนอื่นก็พอน่ะคับ



Barracuda

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 14:47:55 »
ผมคงจัดการวิธีอื่น แต่ก็นะไม่เป็นเขาเราคงไม่รู้ นะตอนนั้น สติกับตัวกูของกูคงมาเต็ม



Activehybrid

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 15:05:22 »
หมดอารมร์อยากได้รถเพราะต้องมาระแวดระวัง ต้องมาคอยปกป้อง ขับคันเก่าสบายใจ(ปลอบใจตัวเองไม่อยากเสียตังอิอิ)



TorTy

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 15:15:17 »
ผมไม่ได้จะนิพพานนะ

ถ้านับถือพุทธนะ ตามหลักแล้วถึงที่สุดคุณก็ต้องไปนิพพาน
ถึงไม่ได้จะนิพพาน ก็เป็นการฝึกอารมณ์ ผมว่าดีออก ใครจะอยากอยู่ใกล้ๆพวกขี้โมโห

จริงครับผมเห็นด้วยเมื่อก่อนเป็นรอยนิดรอยหน่อยคิดเซ็งอยู่นั้นสุดท้ายแก้ได้ก็แก้ไขไม้ได้ก็ปล่อยเอาไรมากขนาดร่างกายเรายังเสื่อมไปทุกๆวันเสียอารมณ์เสียเวลาเปล่าครับ



NINENOI

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 15:35:14 »
เอาเฉพาะกรณีนี้นะครับ จริงๆถ้าโมโหแล้วไปต่อยเค้าเรื่องคงไม่บานปลายมาก ที่ไปไกลก็เพราะเรื่องบังคับให้กราบนี่แหละถึงกับพังเลย บวกกับหลังเหตุการณ์ถ้าเค้ารีบออกมาขอโทษพร้อมรับผิดทุกอย่างและขอโอกาสแก้ตัวผมว่าเค้ายังไปต่อได้นะ แต่นี่กลับไปฟ้องคู่กรณีซะงั้นทนายว่าที่พ่อตาก็ออกมาพูดเหมือนราดน้ำมันเข้ากองไฟเผาว่าที่ลูกเขยไปซะอีก

ของบางอย่างมันป้องกันความผิดพลาดได้ ผิดพลาดแล้วยังพอแก้ไขไม่ให้เสียหายมากได้หรือบางทีพลิกวิกฤติเป็นโอกาสก็ยังมี ซึ่งทุกอย่างต้องใช้สติและปัญญาทั้งนั้น ถ้าแก้ปัญหาไม่ดีก็มีแต่พังกับพัง
ถ้าเราซื้อของที่ไม่จำเป็น สุดท้ายเราต้องขายของที่จำเป็น



neutrino

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #15 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 16:00:10 »
ผมไม่ได้จะนิพพานนะ

ถ้านับถือพุทธนะ ตามหลักแล้วถึงที่สุดคุณก็ต้องไปนิพพาน
ถึงไม่ได้จะนิพพาน ก็เป็นการฝึกอารมณ์ ผมว่าดีออก ใครจะอยากอยู่ใกล้ๆพวกขี้โมโห
+1
ถ้าเป็นคนพุทธ ถึงคุณจะไม่อยากนิพพาน คุณก็ควรจะรู้เรื่อง อริยสัตย์4 ที่คุณพูดมาแบบนี้ แสดงว่าคุณไม่รู้แม้กระทั่งความได้โอกาสในการเกิดเป็นมนุษย์นั้นสุดประเสริฐแล้ว(มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวที่เรียนรู้ธรรมมะได้) เพราะละจากภพมนุษย์นี้ หากยังไม่รู้อริยสัตย์4(ถ้าคุณเป็นคนพุทธ) คุณจะต้องเวียนว่ายในภูมิข้างล่างแน่นอน และเป็นกัปป์ด้วย



punn

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #16 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 16:10:44 »
ประเด็นที่มันจุดติดขนาดนี้ เพราะเบื้องลึกความรู้สึกร่วมคนเสพคือ
ชนชั้นกลาง+สูง รังแกชนชั้นรากหญ้า แฝงเข้ามาด้วย =="

ที่สำคัญเกิดวลีฮิต #กราบ.. เข้าไปอีก

การตลาดสายดาร์คนี่ต้องยกเป็นกรณีศึกษากันเลยทีเดียวนะผมว่า ฮา  8)
เป็นคนโลกปกติธรรมดา :)
ไม่โลกสวย และไม่โลกมืด อยู่กับความเป็นจริงและพลังงานบวก ..

ปราชญ์สอนสิ่งไหน คนก็จะจำสิ่งนั้น
ประสบการณ์เจอแบบไหน คนก็จะคิดทางนั้น
ต่างคนต่างประสบการณ์เรียนรู้สิ่งเดียวกัน ก็จะออกมาแตกต่างกันไปครับ



XyteBlaster

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #17 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 17:04:28 »
ประเด็นที่มันจุดติดขนาดนี้ เพราะเบื้องลึกความรู้สึกร่วมคนเสพคือ
ชนชั้นกลาง+สูง รังแกชนชั้นรากหญ้า แฝงเข้ามาด้วย =="

ที่สำคัญเกิดวลีฮิต #กราบ.. เข้าไปอีก

การตลาดสายดาร์คนี่ต้องยกเป็นกรณีศึกษากันเลยทีเดียวนะผมว่า ฮา  8)

จริงครับ .. ถ้าเป็น กระบะเก่า ๆ ลงมาตื๊บ คงไม่เป็นข่าว .. พอดีเป็น คนมีตัง ไม่รู้ว่าเป็นดาราด้วยรึเปล่า เลยดังครับ



sukhontha

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #18 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 17:50:48 »
.....ผมเข้าใจเจ้าของรถ ....ถ้าคนรักรถ  เสียดายรถมาก เป็นเรื่องปกติ  แต่การควบคุมอารมณ์ไม่ดีพอ.....

   เป็นอุทาหรทั้งสองฝ่าย   เป็นผม  ก็อาจจะฟิวส์ขาดได้เหมือนกัน  แต่คงไม่ถึงกับใช้กำลัง...



The Mechanics of Emotions

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #19 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 18:15:53 »
หมดเลยอนาคต
2010 BMW 325i M Sport
2016 Mazda CX-5 2.0S



JONNY

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #20 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 18:21:32 »
รถเป็นของเสื่อม
ซื้อมาล้านหนึ้ง มันก็เสื่อมราคาลงเรื่อยๆ ไม่ใช่ของทรงคุณค่าอะไรเลย เมื่อเที่ยบกับจิตใจมนุษย์ ความรัก สังคมที่อยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจ อย่างผลที่ออกมา มันคุ้มไหม
ขอให้ขับได้ ใช้การได้ ใช้ประโยชน์ได้
สักวันหนึงอยากขาย ก็ไม่เหลือราคาอะไรมาก อยากได้คันใหม่ก็ซื้อคันใหม่ก็นั้น ยิ่งรถทุกวันนี้มันเปลี่ยนง่าย

มนุษย์นี่แปลกนะ บ้านแพงกว่ารถอีก มนุษย์ยังรักรถมากกว่าบ้านอีกแนะ อารมณ์จะไม่เป็นแบบนี้นี้แน่ๆ ถ้าบ้านอะไรพังสักอย่างแล้วต้องซ่อมแซม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 07, 2016, 18:31:12 โดย Mark Wahlberg »



ps000000

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #21 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 18:59:04 »
โดน แกรมมี่ กับ TPBS ปลดหมดทุกอย่าง

อีกเคสนึง ลุงยาม โดนบนด่านประชาชื่น ไม่รู้ เคลียร์หรือยัง




Auto

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #22 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 19:25:04 »
บอกตามตรงเบื่อมอไซด์แบบนี้มาก  เชื่อว่าไม่ไ่ด้เป็นกันทุกคน     แต่มอไซด์ส่วนใหญ่เป็นแบบนี้คือชนแล้วหนี
จำได้ว่ากรณีรถลัมโบกินี่ของแม่สาย  ประภาสวัสดิ์ ก็เคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเจอมอไซด์ชนแล้วหนี   แต่เขาไม่ไ่ด้ลงไปต่อยเหมือนกับดาราคนนี้เท่านั้นเอง                รถใครใครก็รักเพียงจะคุมอารมณ์ได้ไหม



MUK

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #23 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 21:11:13 »
คือเรื่องความโกรธ
รถจะราคาเท่าไหร่ เก่าใหม่ ทุกคน ผมว่าคงมีอารมณ์โกรธหมด  อย่างน้อยผมว่า ก็ไม่ใช่ดีใจแน่ๆ
ความรักรถ ก็ไม่ผิดนะครับ

แต่ที่สำคัญคือ ควบคุมอารมณ์ได้หรือเปล่า  หรือ ควบคุมได้ระดับไหน 

ผมว่าบางคนไม่ใช่โกรธอย่างเดียวหรอก + กร่าง เข้าไปด้วย

"โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า" ใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นยุคใดๆ






SM.

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #24 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 22:36:07 »
เสี้ยววินาทีที่อารมณ์ชั่ววูบมา อนาคตอีกยาวไกล ดับไปหมดเลย



Slipknot`

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #25 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 22:46:06 »
ยุคนี้มีกล้องไงทำอะไรก็ระวังๆกันหน่อยเดี๋ยวจะดังเอา อนาคตอับ



starlight

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #26 เมื่อ: พฤศจิกายน 07, 2016, 23:41:24 »
หากพูดถึงเคส กราบรถ   น่าเสียดายงานการ และคงมีผลกระทบตามมาอีกละลอก  ยุคอินเตอเน็ท สังคมลงโทษเร็วกว่า กม.

หากพูดถึง ความรักรถ เชื่อว่า เจ้าของรถส่วนใหญ่ก็แยกแยะได้ ระหว่างอารมณ์รักรถกับเหตุผล

อาจจะมีบางส่วน ที่ยึดติดมากไป  จนลืมไปว่า มันเป็นเพียงแค่ของใช้เพื่ออำนวยความสะดวกชิ้นนึงเท่านั้น  (เหมือนชองใช้หลายๆอย่างที่เรามี)

ไปใส่อารมณ์กับมันมาก ผลเสียมันจะตามมา



Buffy

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #27 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2016, 00:05:20 »
พี่ครับ พี่ไม่รู้เลยหรือว่ะ ปัจจุบัน ทุกคนมีมือถือ คนส่วนใหญ่มีกล้องหน้ารถ

จะทำอะไรกลางสาธารณะนั้น ถูกจับได้ตลอดเวลา

เพราะฉะนั้น หากจะทำอะไร อย่าทำที่แจ้งครับพี่

คนที่จะได้เปรียบคือคนที่ทำให้ social network สงสารกว่ากันครับ



tvm

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #28 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2016, 08:08:21 »
ชั่ววูงไง กว่าจะวนมอรร์เตอร์ไซค์กลับมามีเวลาแล้ว เขากลับมาก็คือไม่ได้หนี แค่นี้ ดูไม่ยาก เรื่องรักรถผมว่าไม่ใช่เรื่องหลัก อยู่ที่จิตใจคนมากกว่า นี่ถ้าเดินชนหรือเหยียบเท้าอาจจะหนักกว่านี้อีกนะ



Neokv

Re: อุทาหรณ์ คนรักรถ เหยื่อของความเป็นตัวกู ของกู
« ตอบกลับ #29 เมื่อ: พฤศจิกายน 08, 2016, 08:57:56 »
ต่อให้เราอยู่ในที่ๆไม่มีกล้อง ก็ควรมีสติ
ปล่อยวางบ้าง นึกถึงคนข้างหลัง เวลาจะทำอะไร
แค่นี้ก็อยู่ในสังคมแบบมีความสุขแล้ว จิตเป็นกุศล พ่อแม่ก็มีแต่คนชื่นชม