สวัสดีครับ เพื่อนๆสมาชิกHeadlight Mag ทุกท่าน ผมเป็นคนหนึ่งที่ติดตาม ผลงานreview รถยนต์ ของพี่ J!MMY กับ พี่ Commander Cheng มานานแล้ว ชอบติดตามเนื่องจากมี
ผลการทดสอบที่ทดสอบอย่างละเอียดมีตัวเลขยืนยันและภาษาที่เข้าใจได้ง่ายดี สมัยเด็กๆอยากเป็นนักทดสอบรถยนต์ พอโตมามีโอกาสได้ใช้รถดีๆเลยอยากรีวิวเพื่อเป็นความรู้แก่ทุกๆท่านครับ
โดยรถที่ทำการทดสอบครั้งนี้เป็น S 500 e hybrid AMG premium ซึ่งเป็นรถของพ่อผม ออกรถมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน เมื่อพ้นระยะ run in 10,000 กิโลเมตรแรก จึงเริ่มทำการรีวิวและทดสอบครับ
การทดสอบครั้งนี้ จะขอเน้นในแง่ performance ความแรงความประหยัด ความคุ้มค่า เพราะในส่วนของความหรูหราความสะดวกสบายนั้น บรรยายไปเป็น 10 หน้าก็ไม่หมดครับมันมีเยอะมาก ถ้าอยากอ่านอย่างละเอียด ให้ไปอ่านตาม link นี้ที่พี่ JiMMYเคยทำreview ไว้ตั้งแต่ปี2013 (
http://www.headlightmag.com/exclusive-first6133/)
โดยในส่วนของสมรรถนะนั้น ขอเปรียบเทียบกับรถที่ใช้อยู่ประจำคือ Toyota GT 86, Mercedes W211 E 240, mazda 3 โฉมปัจุบัน กับรถที่เคยใช้มาคือ BMW 528i e 39 โดยมุมมองของผมจะเป็นมุมมองของคนที่ชอบขับรถ เร็วที่เน้นสมรรถนะเป็นหลักครับ
ก่อนจะทำการรีวิว ผมได้ตั้งคำถามกับตัวเองก่อนดังนี้
1.สมรรถนะจะดีสมกับตัวเลข s500 มาจากโรงงานรึเปล่า อัตราเร่ง ฟิลลิ่งช่วงล่าง ฟิลลิ่งพวงมาลัย เบรก การเกาะถนน
2.ความประหยัดเวลาใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ ข้อมูลจากแคตตาลอกบอกไว้ว่า อัตราการสิ้นเปลือง 100.9 MPG หรือ 42.5 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งนั่นอาจทำได้หากเสียบปลั๊กชาร์จก่อน แต่ในการทดสอบนี้จะทำในข้อจำกัดคือไม่เสียบปลั๊กไฟชาร์จเลยเพื่อดูอัตราสิ้นเปลืองเป็นอย่างไร สำหรับคนที่คิดจะซื้อรุ่นนี้แต่ไม่มีที่ให้ชาร์จไฟ ส่วนในกรณีที่ชาร์จไฟนั้นถ้ามีโอกาสจะมาทำทดสอบใหม่ครับ
3.ความสะดวกสบายในการใช้งานทั่วไป ข้อดี ข้อเสียต่างๆ
4.การใช้งานในระยะยาว
โดยการทดสอบทั้งหมดจะพยายามทำให้ใกล้เคียงกับมาตรฐานของ HLM ภายใต้เวลาที่จำกัดประมาณ 10 วันและข้อจำกัดที่ว่ายืมรถพ่อมาครับ อาจจะอัดหนักๆ ไม่ได้
ขอเริ่มที่การทดสอบในส่วนของการขับขี่ก่อนนะครับ
ตำแหน่งการขับ เริ่มจากการปรับมาตรฐานของรถทั่วๆไป คือ เท้าพอดีเบรก ศีรษะห่างหลังคาประมาณ 1 ฝ่ามือ เหยียดมือไปแล้วข้อมือประมาณพวงมาลัย การที่เบาะของคันนี้ปรับได้เยอะ ก็มีส่วนช่วยให้การเซทตำแหน่งการขับทำได้ง่ายมาก คือ ไม่ว่าจะมีสรีระแบบไหน ก็สามารถปรับให้เข้าได้เกือบทั้งหมด สามารถปรับความยาวของช่วงรองน่องได้ด้วย เบาะนั่งตัวค่อนข้างใหญ่ อาจไม่กระชับเท่าไหร่สำหรับคนที่รูปร่างผอม(รถคันนี้สร้างมาสำหรับเสี่ยจริงๆ) ส่วนของฐานรองนั่งไม่ได้มีปีกเบาะที่สูงทำให้ขึ้นลงสะดวก เวลาลงจากรถสามารถลุกยืนได้ไม่ยากเพราะตำแหน่งเบาะค่อนข้างสูง ส่วนปีกข้างสำหรับsupport ที่หลังมีมาให้พอสมควร แต่อยู่ค่อนข้างห่าง เวลาเข้าโค้งแรงๆ นี่รู้สึกเคว้งคว้างเหมือนกัน นอกจากนี้ยังสามารถปรับ lumbar support ได้ แต่ต้องเข้าไปปรับใน command center ใครมีปัญหาเรื่องหลังนี่ปรับได้ ตามใจชอบเลยทั้งเรื่องขนาดการดันและตำแหน่งสูงต่ำ
ในส่วนของพนักพิงศีรษะสามารถปรับได้ว่าจะให้ชิดหรือห่างจากศีรษะ หมดปัญหาเรื่องพนักพิงดันหัวแน่นอน เนื่องจากรถมีขนาดใหญ่ ตำแหน่งศอกจะห่างจากที่วางแขนทั้งสองฝั่งมาก ทำให้วางศอกได้ไม่สะดวก ขับนานๆอาจจะเมื่อยไหล่ได้เหมือนกัน โดยรวมแล้วตำแหน่งการขับดีมากติดแต่ว่าควรให้ปีกsupportหลังด้านข้างปรับได้มาให้ที่เบาะหน้าเนื่องจากออพชั่น นี้มีมาให้ที่เบาะด้านหลังแต่กลับไม่มีที่เบาะหน้า คนที่ตัวไม่ใหญ่มากนั่งขับไม่กระชับโดยเฉพาะเวลาเข้าโค้งแรงๆ