ผู้เขียน หัวข้อ: 1.5 N/A กับ 1.5 turbo วิ่งในเมืองรถติด คันไหนประหยัดน้ำมันกว่ากัน  (อ่าน 7108 ครั้ง)

ออฟไลน์ ww

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 68
    • อีเมล์
เครื่อง 1.5 N/A กับ 1.5 turbo เบนซิลทั้งคู่ วิ่งในเมืองรถติดบ้าง วิ่งความเร็วต่ำไม่เกิน 60 km/hr เครื่องยนต์ไหนประกยัดน้ำมันกว่ากัน ในบอดี้ เกียร์ ขนาดแม็กและอื่นๆเท่ากันต่างกันที่มีturbo กับไม่มี turbo

ออฟไลน์ ภูมิใจไหม?

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,144
  • SNK vs Playmore
เทียบยากนะครับ

เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ

แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ

jaesz

  • บุคคลทั่วไป
ถ้าเอาตามหลักเทอร์โมไดนามิก ก็ต้องตอบว่า1.5เทอร์โบประหยัดกว่า เพราะมีแรงเหลือมาช่วยนำอากาศเข้า ลดPumping loss ครับ

พอเอาเข้าจริงๆ รถแรงเหยียบเพลิน กระทืบๆเอาแบบนี้ เทอร์โบจะกินกว่าครับ

ออฟไลน์ ps000000

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,772
อืม น่าคิด แต่ผมว่า ซีวิค 1.5 Turbo น่าเล่น

ออฟไลน์ DiKiBoyZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 7,226
    • อีเมล์
ถ้าความเร็วไม่เกิน 60km/h

- แบบ ช้า สลับ เร็ว ไปเรื่อยๆ น่าจะพอๆ กัน เพราะเทอร์โบเองจะติดบูสก็ต้องรอบประมาณนึง(แล้วแต่รุ่น แล้วแต่ยี่ห้อ แล้วแต่รูปแบบเทอร์โบ)
- แบบ หยุดนิ่ง บ่อยๆ น่าจะ NA ประหยัดกว่า เพราะอาจจะต้องเร่งเครื่องยนต์ เพื่อให้รถเคลื่อนตัว ใช้รอบประมาณนึง เทอร์โบก็จะทำงานบ่อย

ออฟไลน์ Fong

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,012
  • Make a Choice and Don't Look Back
    • อีเมล์
รอบเดินเบา Turbo ไม่ทำงาน ถ้าตั้งอัตราส่วนน้ำมัน อากาศเท่ากันก็น่าจะไม่ต่างนะครับ

ช่วงเร่งหากมี Turbo จะอัดอากาศได้มากกว่า จึงเติมเชื้อเพลิงได้มากขึ้น ทำให้ได้แรงมากขึ้น
แต่พอลอยแล้วคงความเร็วไว้ น่าจะมีโอกาสเผาไหม้ได้สมบูรณ์กว่า N/A ใช้เชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพกว่า
ถ้าวิ่งยาวๆ Turbo น่าจะประหยัดกว่า N/A (ถ้าน้ำหนักรถเท่ากัน)
แต่ถ้ารถติดคิดว่า N/A น่าจะประหยัดไม่ต่างจาก Turbo นะครับ (ถ้าน้ำหนักรถเท่ากัน)

รอฟังด้วยคนครับ
Isuzu มังกรทอง, Accord G4, Colorado, Hilux Tiger, Lancer MK I, Triton, D-Max Cab4, TiiDA, Mazda2 MK I, Mazda2 MK II, D-Max Space, Fortuner, Sunny B14, Jazz GK, Accord G9, Mazda2 Sky, GLA200, Yaris, Alphard30, Lancer MK II, Lander MK III, Ranger MC, XL7, Forester SK

ออฟไลน์ เต๋า AV

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,393
1.5 แบบไหนละ
Jazz 1.5 เดิม vs Jazz 1.5 เซตโบ
Vios 1.5 เดิม vs Vios 1.5 เซตโบ

ถ้าตามข้างต้น รถติด ปล่อยไหล ไม่กดกระชาก วิ่งความเร็วต่ำไม่เกิน 60

ต่างไม่เยอะ เพราะความเร็วไม่เกิน 60 รอบไม่เกิน2000 บูสติดหรือยังไม่รู้เลย หรือบูสยังไม่มาด้วยซ้ำ
ถ้าเทียบเป็นตัวเลข
1.5 N/A ------- 8-9 โล/ลิตร
1.5 เซตโบ ----- 7.5-8.5 โล/ลิตร

ถ้าซัดกันหนักๆ ต่างแน่นอน รอบ 5000+ กดคันเร่งจม


ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
ผมแฟน โบ...

ไม่ผิดแน่ครับ

    โบเปลืองกว่าในเมือง  ยิ่งรถติดมากยิ่งออกตัวบ่อยยิ่งเปลือง....

    แต่วิ่งนอกเมืองแบบไม่เค้นแรง  วิ่งนุ่ม ๆเนิบ ๆ  110-120  โบ ประหยัดกว่า 

ออฟไลน์ peterW

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 579
มันขึ้นอยู่กับว่า เป็น direct injection หรือเปล่า

ถ้าเทียบ 1.5 หัวฉีดธรรมดา มาเทียบกับ 1.5 Turbo หัวฉีดตรง

เป็นแบบนี้  1.5 Turbo ต้องกินน้อยกว่าอยู่แล้ว

แต่ถ้าเป็น direct injection ทั้งคู่  ซีซีเท่ากัน  1.5 ไม่มีโบ ก็กินน้อยกว่า

ออฟไลน์ JeansZ

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,239
    • อีเมล์
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน
Ford Fiesta 1.0 Ecoboost
Toyota Yaris 1.2

ออฟไลน์ Krongbun

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,408
    • อีเมล์
โบยังไม่ติดบูทแต่มันก็ยังหมุนอยู่ตลอดน้ะครับ
ซึ่งย่อมเสียพลังงานไอเสียไปปั่นใบพัดอยู่ดี และ loss ไปกับท่อทางเดินอากาศอีกเยอะ
เพราะฉะนั้นในเมืองโบกินกว่าแน่นอน  ;D

การถ่ายเทพลังงานไปในเครื่องที่มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวมากกว่า
ย่อมต้องใช้พลังงานมากกว่า ถ้าเทคโนโลยี่ไม่ต่างกันน้ะ


ออฟไลน์ focus2012

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 815
ผมว่าติด Turbo กินกว่าในขณะที่ CC รถเท่ากัน

ออฟไลน์ Ruksadindan

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 12,051
เทียบยากนะครับ

เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ

แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ
Vios ไงครับ แต่ไม่เคยเจอผลทดสอบของรุ่น 1.5T

ออฟไลน์ e:smart Hybrid

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 3,705
เทียบยากนะครับ

เพราะไม่มียี่ห้อไหน ทำบอดี้เดียวกัน 1.5 โบ กับไม่โบ

แต่ผมเดาว่า N/A ประหยัดกว่าครับ
Vios ไงครับ แต่ไม่เคยเจอผลทดสอบของรุ่น 1.5Tต

MG5 ตัว 1.5 กับตัว turbo เลยคับ

ออฟไลน์ earrt

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 740
จขกท คงหมายถึง NA vs Turbo(โรงงาน) ใช่ไหมครับ ไม่ใช่ เอาเครื่อง 1.5มาเซ็ทโบเอง

ผมจิ้มไปที่ 1.5 Turbo โรงงานประหยัดกว่าครับ




ปล. เงื่อนไขคืออยู่ในบอดี้เดียวกัน

ออฟไลน์ palma

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 1,128
    • อีเมล์
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน

ตัว Turbo(โรงงานนะครับ) น่าจะกินกว่าครับ(นิดหน่อย) ในชีวิตจริงๆ  ทั้งนี้ขึ้นกับการขับขี่ ลักษณะการเติมคันเร่งครับ

ตัว 1.6 DIG ถ้าขับและปรับตัวเราได้ให้ วิ่งที่รอบเครื่องไม่เกิน 1500-1700 รอบ คือ ไม่ให้ติดบูสต์บ่อยๆ ซึ่งมันทำได้ ปรับตัวเราให้เข้ากับรถ ก็จะกินไม่มากครับ  ซึ่งทำได้ทั้ง กรณีที่ 1 คือ ไหลๆ และ 2 แบบเคลื่อนตัวสลับหยุด

ถ้าเราไม่ปรับไม่ทำความคุ้นเคยกับเกียร์ กดให้ติดบูสต์บ่อยๆ ก็จะสูบน้ำมันมากมาย

DIG ที่ใช้วิ่งมา 3.15 หมื่น กม. ตจว.90% + ในเมือง กทม.ชั้นใน 10-15% ของระยะทาง สิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมด 14.678 กม./ลิตร ครับ (E10) จดทุกถังตั้งแต่ออกรถ และกินกว่า L33-2.5(วิ่ง 3.5 หมื่น กม.)ซึ่งคันนั้นวิ่งเหมือนกันเปี๊ยบ กิน 14.956 กม/ลิตร และเป็น (E20) เป็นจริงตามความรู้สึก ว่า DIG กินกว่า N/A 2.5 แต่ตัวเลขทดสอบ L33-2.5 กลับกินกว่า DIG มาก ***

คำตอบคือ อยู่ที่เราขับครับ ถ้าขับเรื่อยๆ เลี้ยงรอบไว้ไม่ให้ติดบุสต์บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยกิน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเรากับรถ เกียร์ ปรับเข้ากันได้มากแค่ไหน  CVT ไม่เลวร้ายนะครับ ขับๆแล้วชอบ ปรับการเติมคันเร่งดีนี่ประหยัดสุดยอด บทจะเร็วไปเร็วๆไม่มีรอยต่อไปยาวๆ

รวมๆกินกว่าแน่นิดหน่อย แต่ข้อดีคือ ขับเรื่อยๆก็กินไม่มาก แต่มีแรงสำรองให้ใช้เหลือเฟือยามต้องการ ถ้าไม่ได้ชอบแนวรุนแรง ไปเร็วๆ ก็เลือก N/A ครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤศจิกายน 30, 2016, 08:51:53 โดย palma »
2023 : SK9 FB20 ES4.0 SAWD
2017 : NSP170R-2NR-FE+CVT
2015 : B17-MR16DDT+CVT-M6
2014 : L33-QR25DE+CVT-8
1995 : SXV10-3S-FE (sold)
1994 : AE101-4AFE+MT (sold)

ออฟไลน์ sukhontha

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 4,479
Sylphy 1.6 กับ 1.6 DIG Turbo ตัวเทอร์โบกินกว่าชัดเจน 1.5 กับ 1.5 เทอร์โบ คงเหมือนกัน

ตัว Turbo(โรงงานนะครับ) น่าจะกินกว่าครับ(นิดหน่อย) ในชีวิตจริงๆ  ทั้งนี้ขึ้นกับการขับขี่ ลักษณะการเติมคันเร่งครับ

ตัว 1.6 DIG ถ้าขับและปรับตัวเราได้ให้ วิ่งที่รอบเครื่องไม่เกิน 1500-1700 รอบ คือ ไม่ให้ติดบูสต์บ่อยๆ ซึ่งมันทำได้ ปรับตัวเราให้เข้ากับรถ ก็จะกินไม่มากครับ  ซึ่งทำได้ทั้ง กรณีที่ 1 คือ ไหลๆ และ 2 แบบเคลื่อนตัวสลับหยุด

ถ้าเราไม่ปรับไม่ทำความคุ้นเคยกับเกียร์ กดให้ติดบูสต์บ่อยๆ ก็จะสูบน้ำมันมากมาย

DIG ที่ใช้วิ่งมา 3.15 หมื่น กม. ตจว.90% + ในเมือง กทม.ชั้นใน 10-15% ของระยะทาง สิ้นเปลืองเฉลี่ยทั้งหมด 14.678 กม./ลิตร ครับ จดทุกถังตั้งแต่ออกรถ

คำตอบคือ อยู่ที่เราขับครับ ถ้าขับเรื่อยๆ เลี้ยงรอบไว้ไม่ให้ติดบุสต์บ่อยๆ ก็ไม่ค่อยกิน ทั้งนี้ขึ้นกับว่าเรากับรถ เกียร์ ปรับเข้ากันได้มากแค่ไหน  CVT ไม่เลวร้ายนะครับ ขับๆแล้วชอบ ปรับการเติมคันเร่งดีนี่ประหยัดสุดยอด บทจะเร็วไปเร็วๆไม่มีรอยต่อไปยาวๆ

รวมๆกินกว่าแน่นิดหน่อย แต่ข้อดีคือ ขับเรื่อยๆก็กินไม่มาก แต่มีแรงสำรองให้ใช้เหลือเฟือยามต้องการ ถ้าไม่ได้ชอบแนวรุนแรง ไปเร็วๆ ก็เลือก N/A ครับ

ละเอียดมากครับ  จดตลอด  และขับรถเก่งมาก

  ...ส่วนมากคนที่มีโบ  มักอดไม่ได้  พอมันหงุดหงิดรถติด  พอขยับได้ก็ กด ๆ  แล้วก็เบรค  มันเลยเปลือง  ถ้าวิ่งแบบคุณ  ไม่เปลืองครับ...

ออฟไลน์ ww

  • Jr. Member
  • **
  • กระทู้: 68
    • อีเมล์
ขอบคุณทุกความเห็นครับ ผมหมายถึงเทอร์โบเซ็ตจากโรงงานครับ ขอโทษที่ระบุไม่ละเอียด ถ้ากระทู้หน้าจะระบุให้ละเอียดกว่านี้ครับ